SlideShare a Scribd company logo
1 of 4
Download to read offline
รู้จักบล็อก (blog)
Blog คืออะไร
Blog เป็นคารวมมาจากศัพท์คาว่า เว็บล็อก (WeBlog) สามารถอ่านได้ว่า We Blog หรือ Web Log ไม่
ว่าจะอ่านได้อย่างไรทั้งสองคานี้ก็บ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่าคือบล็อก (Blog)
คาว่า "บล็อก" สามารถใช้เป็นคากริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็น
อาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
ความเป็นมาของบล็อก
“Weblog” ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1997 เริ่มแรกคนที่
เขียนบล็อกนั้นยังทากันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเพจขึ้นเองทีละหน้า เขียนเป็นงานอดิเรกของกลุ่มสื่ออิสระ
ต่างๆ หลายๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสาคัญให้กับหนังสือพิมพ์หรือสานักข่าวชั้นนา แต่ในปัจจุบันนี้ผู้คนหลาย
ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียนบล็อกกันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา อาจารย์ นักเขียน
ตลอดจนผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ อีกทั้งยังมีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียนบล็อกได้มากมาย
เช่น Drupal, WordPress, Movable Type เป็นต้น ต่อมามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter
Merholz จับมาเรียกย่อเหลือแต่ “Blog” แทนในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1999 และคาคานี้เริ่มใช้เป็นครั้งแรกๆ
ผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร จนมาถึงวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2003 ทาง Oxford English
Dictionary จึงได้บรรจุคาว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ บล็อก
(Blog) ขึ้นแท่นศัพท์ยอดฮิต อันดับหนึ่ง ซึ่งถูกเสาะแสวงหา ความหมาย ทางพจนานุกรมออนไลน์ มากที่สุด
ประจาปี 2004 และคนเขียนบล็อกก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสานักข่าวต่างๆ ถึงความรวดเร็วในการให้
ข้อมูลตั้งแต่เรื่องการเมืองไปจนกระทั่งเรื่องราวของการประชุมระดับชาติ และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า
บล็อกเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ, สิ่งพิมพ์, โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่าบล็อก
ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ที่สาคัญอย่างแท้จริง
สานักข่าวเอพีรายงานว่า “เว็บไซต์ ดิกชั่นนารีหรือ พจนานุกรมออนไลน์ “เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์” ได้
ประกาศรายชื่อ คาศัพท์ซึ่งถูกคลิก เข้าไปค้นหา ความหมายผ่าน ระบบออนไลน์มากที่สุด 10 อันดับแรกประจาปี
นี้ ซึ่งอันดับหนึ่งตกเป็นของคาว่า “บล็อก” (blog) ซึ่งเป็นคาย่อของ “เว็บ บล็อก” (web log) โดยนายอาเธอร์
บิคเนล โฆษกสานักพิมพ์พจนานุกรมฉบับ เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่าวว่า สานักพิมพ์ได้เตรียมที่จะนาคาว่า
“บล็อก” บรรจุลงในพจนานุกรมฉบับล่าสุดทั้งที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้ว แต่จากความต้องการของผู้ใช้ที่
หลั่งไหลเข้ามา ทาให้เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ตัดสินใจบรรจุคาว่า “บล็อก” ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบางแห่งไป
ก่อน โดยให้คาจากัดความไว้ว่า “เว็บไซต์ที่บรรจุ เรื่องราวเกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจาวัน ซึ่งสะท้อนถึง
มุมมอง ความคิดเห็นของบุคคล โดยอาจรวมลิงค์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตามความประสงค์ของเจ้าของเว็บ
บล็อกเองด้วย” โดยทั่วไปคาศัพท์ที่ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมนั้นจะต้องผ่านการใช้งาน อย่างแพร่หลาย มาไม่
น้อยกว่า 20 ปี ซึ่งหมายความว่าคาคานั้นจะต้องถูกนามาใช้โดยทั่วไปในระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน
คาศัพท์ ทางเทคโนโลยีรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆ อย่างเช่น โรคเอดส์ โรคไข้หวัดซาร์ส ถูกบรรจุลงใน
พจนานุกรมภายในระยะเวลาอันสั้น
บล็อกมีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบันในวงการสื่อมวลชนในหลายประเทศ เนื่องจากระบบแก้ไขที่เรียบง่าย
และสามารถตีพิมพ์เรื่องราวได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ในการเขียนเว็บไซต์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่
ข้อมูล หรือแนวความคิด โดยการเขียนบล็อกสามารถเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชาชนได้รวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายน้อย
กว่าสื่อในด้านอื่นจากความนิยมที่มากขึ้น ทาให้หลายเว็บไซต์เปิดให้มีส่วนการใช้งานบล็อกเพิ่มขึ้นมาในเว็บ
ของตนเอง เพื่อเรียกให้มีการเข้าสู่เว็บไซต์มากขึ้นทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน
ความหมายของคาว่า Blog
บล็อก คือรูปแบบหนึ่งของเว็บไซต์ เป็นการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบน
เว็บไซต์ โดยเนื้อหาของบล็อกนั้นสามารถครอบคลุมได้ทุกเรื่อง มีเนื้อหาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว
ส่วนตัวที่สามารถเรียกได้ว่า ไดอารีออนไลน์ หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่างๆ สามารถใช้เป็นเครื่องมือ
สื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้าน เช่น สิ่งแวดล้อม
การเมือง เทคโนโลยี กีฬา ธุรกิจการค้า เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถแตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่างๆ อีก
มากมาย ตามความถนัด ความสนใจของเจ้าของบล็อก เพราะสิ่งสาคัญที่ทาให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียน
บล็อกนั่นเอง
บล็อกถูกเขียนขึ้นในลาดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้ที่ลาดับแรกสุด
โดยปกติบล็อกจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงค์ และสื่อชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพลง วิดีโอ หรือสื่ออื่นๆ ที่
สามารถแสดงผลผ่านเว็บไซต์ได้
จุดเด่น และจุดแตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สามารถสื่อถึง
ความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผ่านทางระบบการแสดงความคิดเห็น
(Comment) ของตนเองใส่ลงไปในบทความนั้นๆ ซึ่งทาให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที บล็อกบาง
แห่งจะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกัน
ในกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัว
ส่วนประกอบของ Blog
บล็อกประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ
1. หัวข้อ (Title)
2. เนื้อหา (Post หรือ Content)
3. วันเวลาที่เขียน (Date/Time)
การใช้งานบล็อก
ผู้ใช้งานบล็อกจะแก้ไขและบริหารบล็อกผ่านทางเว็บบราวเซอร์เหมือนการใช้งานและอ่านเว็บไซต์ทั่วไป
โดยจะมีรูปแบบบริหารบล็อกที่แตกต่างกัน เช่นบางระบบที่มีบรรณาธิการของบล็อก ผู้เขียนหลายคนจะส่งเรื่อง
เข้าทางบล็อก และจะต้องรอให้บรรณาธิการอนุมัติให้บล็อกเผยแพร่ก่อน บล็อกถึงจะแสดงผลในเว็บไซต์นั้นได้
ซึ่งจะแตกต่างจากบล็อกส่วนตัวที่จะให้แสดงผลได้ทันที
ผู้เขียนบล็อกในปัจจุบันจะใช้งานบล็อกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งไม่ว่า ติดตั้งซอฟต์แวร์ของตัวเอง หรือ
ใช้งานบล็อกผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการบล็อก ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้
ในด้าน HTML หรือการทาเว็บไซต์แต่อย่างใด ทาให้ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ในการบริหาร
จัดการ เพิ่มเติม ข้อมูลและสารสนเทศแทนได้ นอกจากนี้ระบบการจัดการบล็อกจะสนับสนุน ระบบ
WYSIWYG ซึ่งทาให้ง่ายต่อการเขียน และอาจเพิ่มเติมการมีเทมเพลตในหลายแบบให้เลือกใช้
สาหรับผู้อ่านบล็อกจะใช้งานได้ในลักษณะเหมือนอ่านเว็บไซต์ทั่วไป และสามารถแสดงความเห็นได้ใน
ส่วนท้ายของแต่ละบล็อกโดยอาจจะต้องผ่านการลงทะเบียนในบางบล็อก นอกจากนี้ผู้อ่านบล็อกสามารถอ่าน
บล็อกได้ผ่านระบบฟีด (Feed) ซึ่งมีให้บริการในบล็อกทั่วไป ทาให้ผู้ใช้สามารถอ่านบล็อกได้โดยตรงผ่าน
โปรแกรมตัวอื่นโดยไม่จาเป็นต้องเข้ามาสู่หน้าบล็อกนั้น
Cr..ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล (http://www.thaigoodview.com/node/81542)
ประโยชน์ของ web blog
Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหาของเจ้าของ blog ถึงแม้ว่า blog จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกัน แต่
blog แต่ละแห่งจะมีบุคลิกเฉพาะตัว แตกต่างกันไปเหมือนบุคลิก บาง blog แค่เล่าเรื่องชีวิตประจาวัน บาง
blog เกาะติดข่าว บาง blog คุยเรื่องการเมืองหรือปรัชญา จงนั้นอาจแบ่งประโยชน์ได้หลายแบบด้วยกัน ซึ่ง
อาจจะแจกแจงได้ดังนี้
1.เปิดตัวเองให้โลกรู้เรื่องของ blog มักเป็นเรื่องราวของเจ้าของ blog เป็นการเล่าประสบการณ์หรือ
ความคิดของเจ้าของ เป็นการถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของเจ้าของ blog เป็นการระบายความเคลียดอีกทาง
หนึ่ง
2.ทันข่าวทันเหตุการณ์ประสบการณ์บางคนก็เป็นข่าวเห็นอีกหลายคนได้ ข่าวจาก blog หลายแห่ง
เป็นข่าววงใน บางคนเล่าเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมา หลาย blog พูดถึงแนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลง
ใหม่ ๆ
3. กลั่นกรองข้อมูล blog บาง blog จะมีการกลั่นกรองข้อมูลก่อนนาลง blog ทาให้ผู้อ่าน blog ไม่
ต้องเสียเวลาในการกลั่นกรองข้อมูล เพราะมีการนาเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในการท่องเว็บ
4. รายงานการท่องเว็บเป็นวัตถุประสงค์หลักที่เป็นต้นกาเนิดของการทา blog หลาย blog มีการ
ลิงก์ไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน blog ซึ่งเป็นการแนะนาว่าเว็บไหนดีก็ไปที่เว็บนั้น
5. การแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นความในใจของเรื่องต่างๆ ความคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือการบ่น
ที่ทุกคนมีอยู่ในใจ การทา blog เป็นช่องทางถ่ายทอดความคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้
6. ถ่ายทอดประสบการณ์หรือไดอะรี่ออนไลน์ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจาวัน หรือเป็น
การเล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เช่น www.terrystrek.com
7. โน้มน้าวใจผู้อ่านลักษณะนี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นการขายความคิด อย่าง
blog สาหรับคอการเมืองอาจจะมีฝ่ายซ้าย - ฝ่ายขวา,สายเหยี่ยว - สายพิราบ จะพบว่าเนื้อหาจะเป็นการโพสต์
โจมตีฝ่ายตรงข้าม แล้วก็สนับสนุนแนวความคิดของตนเอง
Cr.พรรณี ตั้งสัตยาชีพ (http://www.oknation.net/blog/pannee/2013/02/24/entry-1)

More Related Content

More from Sasinun Ui-ai (20)

เฉลยภาษาไทย รหัสวิขา 01
เฉลยภาษาไทย รหัสวิขา 01เฉลยภาษาไทย รหัสวิขา 01
เฉลยภาษาไทย รหัสวิขา 01
 
คณิต 49
คณิต 49คณิต 49
คณิต 49
 
อังกฤษ 49
อังกฤษ 49อังกฤษ 49
อังกฤษ 49
 
สังคม 49
สังคม 49สังคม 49
สังคม 49
 
วิทย์49
วิทย์49วิทย์49
วิทย์49
 
ไทย 49
ไทย 49ไทย 49
ไทย 49
 
Thai2557
Thai2557Thai2557
Thai2557
 
Social2557
Social2557Social2557
Social2557
 
Phy2557
Phy2557Phy2557
Phy2557
 
Math25572
Math25572Math25572
Math25572
 
Eng2557
Eng2557Eng2557
Eng2557
 
Chem2557
Chem2557Chem2557
Chem2557
 
Bio2557
Bio2557Bio2557
Bio2557
 
Social2556
Social2556Social2556
Social2556
 
Chem2556
Chem2556Chem2556
Chem2556
 
Phy2556
Phy2556Phy2556
Phy2556
 
Social2556
Social2556Social2556
Social2556
 
Eng2556
Eng2556Eng2556
Eng2556
 
Math2556
Math2556Math2556
Math2556
 
Bio2556
Bio2556Bio2556
Bio2556
 

ความรู้เรื่องBlogger

  • 1. รู้จักบล็อก (blog) Blog คืออะไร Blog เป็นคารวมมาจากศัพท์คาว่า เว็บล็อก (WeBlog) สามารถอ่านได้ว่า We Blog หรือ Web Log ไม่ ว่าจะอ่านได้อย่างไรทั้งสองคานี้ก็บ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่าคือบล็อก (Blog) คาว่า "บล็อก" สามารถใช้เป็นคากริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็น อาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์" ความเป็นมาของบล็อก “Weblog” ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1997 เริ่มแรกคนที่ เขียนบล็อกนั้นยังทากันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเพจขึ้นเองทีละหน้า เขียนเป็นงานอดิเรกของกลุ่มสื่ออิสระ ต่างๆ หลายๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสาคัญให้กับหนังสือพิมพ์หรือสานักข่าวชั้นนา แต่ในปัจจุบันนี้ผู้คนหลาย ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียนบล็อกกันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ อีกทั้งยังมีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียนบล็อกได้มากมาย เช่น Drupal, WordPress, Movable Type เป็นต้น ต่อมามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมาเรียกย่อเหลือแต่ “Blog” แทนในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1999 และคาคานี้เริ่มใช้เป็นครั้งแรกๆ ผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร จนมาถึงวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2003 ทาง Oxford English Dictionary จึงได้บรรจุคาว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ บล็อก (Blog) ขึ้นแท่นศัพท์ยอดฮิต อันดับหนึ่ง ซึ่งถูกเสาะแสวงหา ความหมาย ทางพจนานุกรมออนไลน์ มากที่สุด ประจาปี 2004 และคนเขียนบล็อกก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสานักข่าวต่างๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ ข้อมูลตั้งแต่เรื่องการเมืองไปจนกระทั่งเรื่องราวของการประชุมระดับชาติ และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า บล็อกเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ, สิ่งพิมพ์, โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่าบล็อก ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ที่สาคัญอย่างแท้จริง สานักข่าวเอพีรายงานว่า “เว็บไซต์ ดิกชั่นนารีหรือ พจนานุกรมออนไลน์ “เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์” ได้ ประกาศรายชื่อ คาศัพท์ซึ่งถูกคลิก เข้าไปค้นหา ความหมายผ่าน ระบบออนไลน์มากที่สุด 10 อันดับแรกประจาปี นี้ ซึ่งอันดับหนึ่งตกเป็นของคาว่า “บล็อก” (blog) ซึ่งเป็นคาย่อของ “เว็บ บล็อก” (web log) โดยนายอาเธอร์ บิคเนล โฆษกสานักพิมพ์พจนานุกรมฉบับ เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่าวว่า สานักพิมพ์ได้เตรียมที่จะนาคาว่า “บล็อก” บรรจุลงในพจนานุกรมฉบับล่าสุดทั้งที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้ว แต่จากความต้องการของผู้ใช้ที่
  • 2. หลั่งไหลเข้ามา ทาให้เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ตัดสินใจบรรจุคาว่า “บล็อก” ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบางแห่งไป ก่อน โดยให้คาจากัดความไว้ว่า “เว็บไซต์ที่บรรจุ เรื่องราวเกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจาวัน ซึ่งสะท้อนถึง มุมมอง ความคิดเห็นของบุคคล โดยอาจรวมลิงค์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตามความประสงค์ของเจ้าของเว็บ บล็อกเองด้วย” โดยทั่วไปคาศัพท์ที่ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมนั้นจะต้องผ่านการใช้งาน อย่างแพร่หลาย มาไม่ น้อยกว่า 20 ปี ซึ่งหมายความว่าคาคานั้นจะต้องถูกนามาใช้โดยทั่วไปในระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน คาศัพท์ ทางเทคโนโลยีรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆ อย่างเช่น โรคเอดส์ โรคไข้หวัดซาร์ส ถูกบรรจุลงใน พจนานุกรมภายในระยะเวลาอันสั้น บล็อกมีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบันในวงการสื่อมวลชนในหลายประเทศ เนื่องจากระบบแก้ไขที่เรียบง่าย และสามารถตีพิมพ์เรื่องราวได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ในการเขียนเว็บไซต์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ ข้อมูล หรือแนวความคิด โดยการเขียนบล็อกสามารถเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชาชนได้รวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายน้อย กว่าสื่อในด้านอื่นจากความนิยมที่มากขึ้น ทาให้หลายเว็บไซต์เปิดให้มีส่วนการใช้งานบล็อกเพิ่มขึ้นมาในเว็บ ของตนเอง เพื่อเรียกให้มีการเข้าสู่เว็บไซต์มากขึ้นทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน ความหมายของคาว่า Blog บล็อก คือรูปแบบหนึ่งของเว็บไซต์ เป็นการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบน เว็บไซต์ โดยเนื้อหาของบล็อกนั้นสามารถครอบคลุมได้ทุกเรื่อง มีเนื้อหาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว ส่วนตัวที่สามารถเรียกได้ว่า ไดอารีออนไลน์ หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่างๆ สามารถใช้เป็นเครื่องมือ สื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้าน เช่น สิ่งแวดล้อม การเมือง เทคโนโลยี กีฬา ธุรกิจการค้า เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถแตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่างๆ อีก มากมาย ตามความถนัด ความสนใจของเจ้าของบล็อก เพราะสิ่งสาคัญที่ทาให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียน บล็อกนั่นเอง บล็อกถูกเขียนขึ้นในลาดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้ที่ลาดับแรกสุด โดยปกติบล็อกจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงค์ และสื่อชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพลง วิดีโอ หรือสื่ออื่นๆ ที่ สามารถแสดงผลผ่านเว็บไซต์ได้ จุดเด่น และจุดแตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สามารถสื่อถึง ความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผ่านทางระบบการแสดงความคิดเห็น (Comment) ของตนเองใส่ลงไปในบทความนั้นๆ ซึ่งทาให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที บล็อกบาง แห่งจะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกัน ในกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัว
  • 3. ส่วนประกอบของ Blog บล็อกประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ 1. หัวข้อ (Title) 2. เนื้อหา (Post หรือ Content) 3. วันเวลาที่เขียน (Date/Time) การใช้งานบล็อก ผู้ใช้งานบล็อกจะแก้ไขและบริหารบล็อกผ่านทางเว็บบราวเซอร์เหมือนการใช้งานและอ่านเว็บไซต์ทั่วไป โดยจะมีรูปแบบบริหารบล็อกที่แตกต่างกัน เช่นบางระบบที่มีบรรณาธิการของบล็อก ผู้เขียนหลายคนจะส่งเรื่อง เข้าทางบล็อก และจะต้องรอให้บรรณาธิการอนุมัติให้บล็อกเผยแพร่ก่อน บล็อกถึงจะแสดงผลในเว็บไซต์นั้นได้ ซึ่งจะแตกต่างจากบล็อกส่วนตัวที่จะให้แสดงผลได้ทันที ผู้เขียนบล็อกในปัจจุบันจะใช้งานบล็อกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งไม่ว่า ติดตั้งซอฟต์แวร์ของตัวเอง หรือ ใช้งานบล็อกผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการบล็อก ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้ ในด้าน HTML หรือการทาเว็บไซต์แต่อย่างใด ทาให้ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ในการบริหาร จัดการ เพิ่มเติม ข้อมูลและสารสนเทศแทนได้ นอกจากนี้ระบบการจัดการบล็อกจะสนับสนุน ระบบ WYSIWYG ซึ่งทาให้ง่ายต่อการเขียน และอาจเพิ่มเติมการมีเทมเพลตในหลายแบบให้เลือกใช้ สาหรับผู้อ่านบล็อกจะใช้งานได้ในลักษณะเหมือนอ่านเว็บไซต์ทั่วไป และสามารถแสดงความเห็นได้ใน ส่วนท้ายของแต่ละบล็อกโดยอาจจะต้องผ่านการลงทะเบียนในบางบล็อก นอกจากนี้ผู้อ่านบล็อกสามารถอ่าน บล็อกได้ผ่านระบบฟีด (Feed) ซึ่งมีให้บริการในบล็อกทั่วไป ทาให้ผู้ใช้สามารถอ่านบล็อกได้โดยตรงผ่าน โปรแกรมตัวอื่นโดยไม่จาเป็นต้องเข้ามาสู่หน้าบล็อกนั้น Cr..ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล (http://www.thaigoodview.com/node/81542)
  • 4. ประโยชน์ของ web blog Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหาของเจ้าของ blog ถึงแม้ว่า blog จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกัน แต่ blog แต่ละแห่งจะมีบุคลิกเฉพาะตัว แตกต่างกันไปเหมือนบุคลิก บาง blog แค่เล่าเรื่องชีวิตประจาวัน บาง blog เกาะติดข่าว บาง blog คุยเรื่องการเมืองหรือปรัชญา จงนั้นอาจแบ่งประโยชน์ได้หลายแบบด้วยกัน ซึ่ง อาจจะแจกแจงได้ดังนี้ 1.เปิดตัวเองให้โลกรู้เรื่องของ blog มักเป็นเรื่องราวของเจ้าของ blog เป็นการเล่าประสบการณ์หรือ ความคิดของเจ้าของ เป็นการถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของเจ้าของ blog เป็นการระบายความเคลียดอีกทาง หนึ่ง 2.ทันข่าวทันเหตุการณ์ประสบการณ์บางคนก็เป็นข่าวเห็นอีกหลายคนได้ ข่าวจาก blog หลายแห่ง เป็นข่าววงใน บางคนเล่าเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมา หลาย blog พูดถึงแนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลง ใหม่ ๆ 3. กลั่นกรองข้อมูล blog บาง blog จะมีการกลั่นกรองข้อมูลก่อนนาลง blog ทาให้ผู้อ่าน blog ไม่ ต้องเสียเวลาในการกลั่นกรองข้อมูล เพราะมีการนาเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในการท่องเว็บ 4. รายงานการท่องเว็บเป็นวัตถุประสงค์หลักที่เป็นต้นกาเนิดของการทา blog หลาย blog มีการ ลิงก์ไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน blog ซึ่งเป็นการแนะนาว่าเว็บไหนดีก็ไปที่เว็บนั้น 5. การแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นความในใจของเรื่องต่างๆ ความคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือการบ่น ที่ทุกคนมีอยู่ในใจ การทา blog เป็นช่องทางถ่ายทอดความคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้ 6. ถ่ายทอดประสบการณ์หรือไดอะรี่ออนไลน์ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจาวัน หรือเป็น การเล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เช่น www.terrystrek.com 7. โน้มน้าวใจผู้อ่านลักษณะนี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นการขายความคิด อย่าง blog สาหรับคอการเมืองอาจจะมีฝ่ายซ้าย - ฝ่ายขวา,สายเหยี่ยว - สายพิราบ จะพบว่าเนื้อหาจะเป็นการโพสต์ โจมตีฝ่ายตรงข้าม แล้วก็สนับสนุนแนวความคิดของตนเอง Cr.พรรณี ตั้งสัตยาชีพ (http://www.oknation.net/blog/pannee/2013/02/24/entry-1)