1. ใจความสาคัญ
( Main Idea / Topic Sentence)
การจับหัวเรื่องและใจความสาคัญได้เป็นหลักการสาคัญ ที่จะทาให้เข้าใจข้อความที่อ่านประโยคที่
เป็นใจความสาคัญ เป็นข้อความที่ใช้กันมากที่สุด ที่ผู้แต่งเขียนขึ้นมาเกี่ยวข้องกับหัวข้อเรื่อง หรือเรื่องของ
บทความนั้นๆ ใจความสาคัญจะเป็นตัวอธิบาย หรือ “ครอบคลุม” รายละเอียดของเนื้อความทั้ง paragraph
Main Idea คือ ใจความหลักของ paragraph ซึ่งอาจจะแสดงโดย topic sentence (main themeหรือ
main point) ใน paragraph นั้น กล่าวคือใน paragraph หนึ่งๆจะมีประโยคที่สาคัญแสดงให้เห็นถึงความคิด
ของผู้เขียน ประโยคแบบนี้เราเรียกว่า topic sentence (ประโยคใจความสาคัญ) คือประโยคที่เป็นประเด็น
รวมของใจความในย่อหน้าทั้งหมด ส่วนประโยคอื่นๆก็จะต้องเป็นรายละเอียดที่สนับสนุนประโยคหลักเรา
เรียกว่า supporting details กล่าวคือ major supporting details (ประโยครายละเอียดใหญ่) ขยาย main idea
และ minor supporting details (ประโยครายละเอียดย่อย) ขยาย major supporting details อีกครั้งหนึ่ง
ในบาง paragraph อาจจะไม่มี topic sentence แสดงก็ได้ซึ่งในกรณีนี้ผู้อ่านจะต้องพยายามสรุปอ้าง
(infer) จากบทอ่านให้ได้คือ ผู้อ่านจะต้องอ่านรายละเอียดทั้งหมดแล้วรวบรวมความคิด หรือสรุปความ
คิดเห็นให้ได้ว่า main idea ของ paragraph คืออะไร
ฉะนั้นในการหาmain idea นั้น ก่อนอื่นผู้อ่านต้องพยายามหา topic sentence ให้ได้เสียก่อน ทั้งนี้
เพราะ main idea อาจจะปรากฏในประโยคแรกของ paragraph ประโยคสุดท้ายของ paragraph ตรง
ส่วนกลางของ paragraph หรือไม่ปรากฏใน paragraphเลยก็ได้
ดังนั้นตาแหน่งประโยคใจความสาคัญ ในย่อหน้าเดียวที่ผู้เขียนจะมีการวางตาแหน่งประโยคได้4
ตาแหน่ง กล่าวคือ

2. การหาใจความสาคัญ
เป็นทักษะที่สาคัญ
ที่จะนาไปสู่ความเข้าใจเนื้อเรื่อง
และเพิ่มความเร็วในการอ่านด้วย
รูปแบบของ paragraphที่แสดงไปนั้นเป็นตาแหน่งของ main idea ดังนี้
1. There are only four poisonous snakes native to the United States.
Three of these are pit vipers-the rattlesnake, the copperhead,
and the cottonmouth moccasin. The fourth is the brightly
banded coral snake.
ใน paragraph นี้ main idea จะปรากฏในประโยคแรกคือ There are only poisonous snakes native
to the United States. ประโยคที่เหลือจะขยายความของประโยคแรกโดยบอกชื่องูพิษทั้ง 4 ชนิด
Diagram จะเป็นรูปสามเหลี่ยม ฐานอยู่ด้านบน
2. A fiddler crab waves his brightly colored claws and dances
for his lady. The penguin hunts a fine, smooth stone and
takes it as a gift to his lady. Gestures of courtship like these
are common throughout the animal kingdom.
ใน paragraph ที่ 2 นี้จะตรงกันข้ามกับ paragraph แรก ทั้งนี้เพราะแทนที่จะแสดง main idea ก่อน
และจบลงด้วย details ผู้เขียนกลับให้ตัวอย่างก่อน แล้วจึงสรุปใจความสาคัญในตอนจบ คือ main idea
จะปรากฏในประโยคสุดท้ายของ paragraph คือ Gestures of courtship like these are common
throughout the animal kingdom.
diagram จะปรากฏเป็นรูปสามเหลี่ยม ฐานอยู่ด้านล่าง
THE POSITION OF MAIN IDEA
ตาแหน่งประโยคใจความสาคัญ
THE FIRSTSENTENCE
ประโยคแรกของย่อหน้า
THE LAST SENTENCEประโยค
สุดท้ายของย่อหน้า
WITHIN PARAGRAPH
ภายในย่อหน้า
THE FIRSTAND LAST
ประโยคแรกและสุดท้าย
THE POSITION OF MAIN IDEA
ตาแหน่งประโยคใจความสาคัญ
THE FIRSTSENTENCE
ประโยคแรกของย่อหน้า
THE LAST SENTENCEประโยค
สุดท้ายของย่อหน้า
WITHIN PARAGRAPH
ภายในย่อหน้า
THE FIRSTAND LAST
ประโยคแรกและสุดท้าย

3. 3. Keep your tree outdoors until the day before Christmas. Never
use lighted candles. There are other suggestions, also, for
avoiding the Christmas tree fire. Turn off the tree lights before
you leave the house, and get rid of the tree by New Year’s Day.
ใน paragraph ที่ 3 ผู้เขียนเริ่มต้นและจบลงด้วยคาแนะ สาหรับการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดไฟไม้
ในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ main idea จะปรากฏในประโยคที่อยู่กลาง paragraph คือ there are other
suggestions, also, for avoiding the Christmas tree fire.
diagram เป็นสี่เหลี่ยมรูปเพชร
a. To some people, the flood is an enemy. It comes like a river
to hit the city and destroy their homes. But to the farmer
the water is a friend, even in cloudburst amounts.
สาหรับ paragraph ที่ 4 ผู้เขียนจะแยก main idea ออกจากกัน โดยเริ่มต้นด้วยประโยคที่แสดงอันตราย
ของน้าท่วม และคาว่า but แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนความคิด และให้ประโยคสุดท้ายแสดงให้เห็นถึง
คุณประโยชน์ของน้าท่วมที่มีต่อชาวนา คือ ประโยคแรก To some people, the flood is an enemy. และ
ประโยคสุดท้าย But to the farmer the water is a friend, even in cloudburst amounts.
diagram จะเป็นรูปสามเหลี่ยมต่อกัน โดยมีฐานอยู่ทั้งด้านบนและด้านล่าง
b. Ten thousand people huddle inside a wall which encircles
low, flatroofed houses built of baked mud. Dust, inches
thick, is stirred up by the camels and donkeys as they move
through the town. For six months in the year it never rains:
120 degrees in the shade is not uncommon.
ใน paragraph นี้ ไม่มีประโยคที่แสดง main idea ต้องอ่านประโยคทุกประโยครวมกันจึงจะได้
ภาพของเมืองที่เป็นทะเลทราย main idea ของ paragraph จึงไม่ได้แสดงที่ประโยคใดประโยคหนึ่ง
ผู้อ่านจะต้องอ่านทั้งหมดแล้วสรุปให้ได้ว่า main idea ของผู้เขียนต้องการแสดงว่าอะไร ผู้อ่านจะต้อง
สรุปความคิดเห็นเอง
diagram ของ paragraph ชนิดนี้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยม

4. ใจความหลัก อาจจะแบ่งออกเป็น
1. Stated main idea
2. Implied main idea
supporting detail
supporting detail supporting detail
supporting detail supporting detail
supporting detail supporting detail
supporting detail
supporting detail
supporting detail
MAIN IDEA
MAIN IDEA
MAIN IDEA
1. Stated main idea
คาว่า Stated main idea คือ หลักใหญ่ใจความที่สาคัญที่สุดของเรื่อง ซึ่งผู้เขียนบอกมาตรงๆ
สามารถครอบคลุมเนื้อหาของเรื่องได้ทั้งหมด ผู้เขียนที่ดีจะต้องตั้ง main idea ไว้ในการเขียน และ
บรรยายหรืออธิบายโดยยึด main idea เป็นหลัก ส่วนที่ขยายหรือบรรยายให้รายละเอียดต่อจาก main idea
คือ supporting idea โดยปกติในเนื้อหาหนึ่งๆเรามักจะพบ Stated main idea ได้ในตอนต้น ตอนกลาง
หรือตอนท้ายของย่อหน้าหรือ paragraphดังนี้
ชนิดของใจความหลัก

5. อธิบาย
1. จากเนื้อเรื่องในข้อนี้ ผู้เขียนได้หยิบยกใจความหลัก (ที่ขีดเส้นใต้) ขึ้นมาก่อนใจความหลัก
นั้นแปลว่า “ระบบการเปลี่ยนแปลงพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรงนั้นได้รับความสนใจ
น้อย” หลังจากนั้น ผู้เขียนก็บอกเหตุผลว่าทาไมจึงเป็นเช่นนั้น สาเหตุก็เพราะค่าติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์นั้น
มีราคาแพง และประสิทธิภาพที่ได้ก็น้อยนิด คือราว 10% หรือน้อยกว่านั้น โดยได้ยกตัวอย่างราคาค่าติดตั้ง
ต่อตารางเมตรว่ามากกว่า 100 ปอนด์(หรือ 9 ปอนด์ต่อตารางฟุต)
2. จากเนื้อเรื่องในข้อนี้ ผู้เขียนนาเอาใจความหลัก (ที่ขีดเส้นใต้) มากล่าวไว้ตอนกลางของเนื้อ
เรื่อง ใจความหลักนั้นแปลว่า “มีข้อแนะนาหลายข้อในการหลีกเลี่ยงการเกิดไฟไหม้ในวันคริสต์มาส” เริ่ม
เรื่องประโยค 1 , 2 ผู้เขียนก็ให้คาแนะนาบางประการในการหลีกเลี่ยงไฟไหม้นั้นคือให้จัดต้นไม้สาหรับ
เทศกาลคริสต์มาสไว้นอกบ้านหากยังไม่ถึงวันดังกล่าวก็อย่าเพิ่งจุดเทียนไข พอมาตอนท้ายเรื่องผู้เขียนก็ให้
คาแนะนาอีกว่าให้ดับไฟก่อนออกไปนอกบ้าน และเอาต้นไม้ออกไปทิ้งเมื่อถึงวันปีใหม่
3. จากเนื้อเรื่องในข้อนี้ ผู้เขียนนาเอาใจความหลัก (ที่ขีดเส้นใต้) มากล่าวไว้ตอนท้ายของเนื้อ
เรื่อง ใจความหลักนั้นแปลว่า “อากัปกิริยาของการเกี้ยวพาราสีในลักษณะดังกล่าวเหล่านี้มีปรากฏให้เห็น
ทั่วไปในอาณาจักรสัตว์” ผู้เขียนเริ่มเรื่องด้วยการบรรยายอากัปกิริยาเกี้ยวพาราสีของปูที่ร่ายราอวดสีสัน
สวยงามของตนเองให้ปูสาวสนใจ ส่วนนกเพนกวินตัวผู้ก็แสดงอากัปกิริยาการเกี้ยวพาราสีตัวเมียด้วยการ
ไปหาหินสวยๆงามๆมาฝาก
1. Systemsfor convertingsolar energydirectlyinto electricityare less attractive. The solar cells
used by spacecraft are expensive and typically have conversion efficiencies of only ten percent or
less. In principle electricity could be generated by covering rooftops with solar cells but this would
depend on producing cheap cells of the order of only a few pounds per square metre.
At present, they cost more than £ 100 per square matre ( £ 9 per square foot ).
2. Keep your tree outdoors until the day before Christmas. Never use lighted candles. There are
othersuggestions,also, for avoiding theChristmas tree fire. Turn off the tree lights before you
leave the house, and get rid of the tree by New Year’s Day.
3. A fiddler crab waves his brightly colored claws and dances for his lady. The penquin hunts a fine,
smooth stone and takes it as a gift to his lady. Gestures of courtship like these are common
throughout the animal kingdom.

6. ( IMPLIED MAIN IDEA)
Supporting idea
Supporting idea
Supporting idea
2. Implied main idea
คาว่า Implied main idea หมายถึง การกล่าวถึง main idea ในลักษณะที่ผู้เขียนไม่ได้เอ่ยออกมา
ตรงๆทันที เพียงแต่แสดงนัยให้เห็นเท่านั้น ผู้อ่านจะต้องวินิจฉัยเอาเองเพื่อให้เห็นได้ชัดขอให้ดูจาก
ไดอะแกรม พิจารณาเส้นจุดๆหรือเส้นไข่ปลา (dotted lines) ที่ช่วยบ่งถึงความสัมพันธ์ที่ไม่เด่นชัดคือไม่
บอก main idea มาตรงๆจะต้องวินิจฉัยเอง (inference)
ตัวอย่าง
Seventeen-year-old Dan Westesen, who lives in the mountain town of Ilathe, Colorado, is an
accomplished hunter. He has nothing in common, though, with the hunter who cause the extinction of
some animals by killing with no intention of eating what they kill. Dan is an accomplished
photographer who won a $ 1000 scholarship from Eastman Kodak Company in the 4th
photographer
project.

7. วิธีการหาMain Idea ในลักษณะนี้
อธิบาย
จากเนื้อเรื่องข้างต้น ผู้เขียนพูดถึง Dan Westesen นักถ่ายภาพอายุ 17 ปี ผู้ซึ่งใช้ชีวิตแบบนักล่า แต่
ไม่เหมือนนักล่าโดยทั่ว ๆ ไป ที่ทาให้สัตว์สูญพันธ์โดยการฆ่า แต่ Dan ล่าเพื่อถ่ายภาพสัตว์ใหญ่เป็นสาคัญ
จึงพอจะสรุปใจความหลักของเรื่องได้ว่า “Unlike the other hunters, Dan Westesen hunts animals to take
pictures of them with a camera.”
การเขียนเรื่องราวต่าง ๆ นั้นผู้เขียนจะมีวิธีการเขียนประโยคใจความสาคัญ (Main Idea) ได้หลาย
ลักษณะ ในที่นี้จะขอวิเคราะห์และวิธีการตรวจสอบหา Main Idea ที่ผู้เขียนกล่าวไว้ในย่อหน้าดังต่อไปนี้
1. วิธีการเขียนจะใช้วิธีการเขียนแบบเชิงอนุมาน (deductive) โดยจะเขียนประโยคใจความสาคัญ
ก่อนและจบลงด้วยรายละเอียดที่มาสนับสนุน
: มีดังต่อไปนี้
1. พึงระลึกอยู่เสมอว่า Main Idea มักจะอยู่ที่ประโยคแรกของย่อหน้า
2. อ่านประโยคแรกของย่อหน้าเพื่อให้เข้าใจว่ามีความหมายอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้ตรวจสอบดูว่ามี
ประโยคใดมาสนับสนุน Main Idea และประโยคที่มาสนับสนุนนั้น มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกัน
อย่างไร เช่น อาจจะเป็นประโยคที่มาขยาย โดยมีการใช้คานามหรือสรรพนามที่คล้ายคลึงหรือ
เหมือนกับประโยคใจความสาคัญประโยคเช่นนี้เราเรียกว่าMajor Supporting Details ส่วนประโยคที่มา
สนับสนุนเพิ่มเติมโดยให้รายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิมมาขยาย Major Supporting Details นั้นเราเรียกว่า
Minor Supporting Details
3. กระโดดข้ามไป 2-3 ประโยคสุดท้ายในย่อหน้า
4. อ่านประโยคสุดท้ายอย่างรวดเร็วถ้าผู้เขียนกล่าวถึงสิ่งที่เหมือนกับประโยคแรกก็ให้เชื่อว่า Main Idea
นั้นอยู่ที่ประโยคแรก แต่ถ้าผู้เขียนแสดงความคิดที่ต่างกันออกไปก็ให้สงสัยว่า Main Idea ไม่ได้อยู่ที่
ประโยคแรก
5. หากเกิดความสงสัย ให้ดูคานามที่เด่นจากประโยคแรกถึงประโยคสุดท้าย โดยดูคาสรรพนามหรือคา
เหมือนของคานามที่เด่น เพราะอาจจะนาไปสู่ประโยคใจความสาคัญได้
ตาแหน่ง Main Ideaที่อยู่ในประโยคแรกของย่อหน้า
ตาแหน่งและวิธีการหา Main Idea ในย่อหน้า

8. 6.
ตัวอย่างวิเคราะห์ Main Idea ที่อยู่ประโยคแรกของย่อหน้า
All plants go through a cycle of growing, dying and decomposing. 1
First
of all, a seed planted and, after it has received enough water it begins to grow.2
The
roots begin to develop first, then the stem and the leaves follow.3
Later in the plant’s
life, flowers appear and seeds from deep inside the flowers.4
Afterwards these
flowers swell and become fruit.5
Eventually the plant dies and its fruit grows into a
new plant.6
Finally, after death the plant decomposes and goes back into the soil it
came from.

9. วิธีการวิเคราะห์
1.ใส่หมายเลขกากับไว้ทุกประโยค จากย่อหน้านี้จะพบว่ามีอยู่ด้วยกัน 7 ประโยค ใน 7 ประโยค
นี้จะต้องมีประโยคหนึ่งที่เป็น Main Idea
2. อ่านประโยคแรกตั้งแต่ All plants go through a cycle of growing, dying and decomposing.
อย่างรวดเร็วเพื่อพิจารณาความหมาย ความหมายของประโยคแรกหมายความว่า “พืชทุกชนิด
อยู่ในวัฏจักรแห่งการเติบโต การตาย และการย่อยสลาย
3. ดูประโยคที่ 2 มีความหมายว่า ประการแรก เมล็ดถูกปลูกและหลังจากนั้นเมื่อได้รับน้าพอ มัน
ก็จะเติบโตประโยคที่ 2 นั้นมาขยายMain Idea โดยมีคาว่า grow เป็นตัวชี้แนะ ดังนั้นประโยค
2 จึงเป็น Major Supporting Detail
4.ดูประโยคที่ 3 หมายความว่า รากต่าง ๆ จะเกิดขึ้นและลาต้นและใบตามมา ประโยคนี้ไม่มีคา
เหมือนกับประโยคแรกดังนั้นจึงรู้ว่า ประโยคที่ 3 มาสนับสนุนประโยคที่ 2 จึงเป็นประโยค
Minor Supporting Detail
5.ดูประโยคที่ 4 มีความหมายว่า ต่อมาในชีวิตของพืช ดอกไม้เกิดขึ้นและมีผลตามมา ประโยคนี้
เป็น Minor Supporting Detail
6.ดูประโยคที่ 5 มีความหมายว่า หลังจากนั้นก็กลายเป็นผลไม้เป็น Minor Supporting Detail
7.ดูประโยคที่ 6 มีความหมายว่า ในที่สุดต้นไม้ตายและผลของมันเริ่มเป็นต้นใหม่ ประโยคนี้
เป็น Major Supporting Detail เพราะมีค่าว่า plant , die, grow เป็นตัวแนะ
8.ดูประโยคที่ 7 มีความหมายว่า ในที่สุด หลังจากตายก็จะย่อยสลายและลงไปในดินที่มันเกิด
ขึ้นมา ประโยคนี้เป็น Major Supporting Detail
9.ในประโยคที่ 5 , 6 , 7 เป็นประโยคที่มาสนับสนุนและมีความเกี่ยวข้องกับประโยคแรก ดังนั้น
Main Idea จึงอยู่ที่ประโยคแรกของย่อหน้า

10. 1
2. วิธีการเขียนย่อหน้านี้ ผู้เขียนใช้วิธีการเขียนแบบ Inductive (การเขียนเชิงอุปมาน) กล่าวคือ
ผู้เขียนเริ่มรายละเอียดต่าง ๆ ก่อนและไปจบลงด้วยประโยคใจความสาคัญ
: มีดังต่อไปนี้
1. ดูว่าประโยคใดเป็นประโยคที่สรุปใจความเรื่องทั้งหมด
2. ดูประโยคสุดท้ายหากเป็นข้อความที่กล่าวถึงความคิดสาคัญไว้อย่างชัดเจนให้ถือว่าประโยค
สุดท้ายเป็น Main Idea
3. เพื่อให้เกิดความแน่ใจอีกครั้ง ใช้วิธีการสารวจส่วนที่เหลือ เพื่อดูว่า คานาม วลี หรือประโยคใด
มาสนับสนุน Main Idea ในประโยคสุดท้าย
วิธีการหา Main Ideaในลักษณะนี้
ตัวอย่างการวิเคราะห์ Main Idea ที่อยู่ประโยคสุดท้ายของย่อหน้า
Ocean , lakes , and rivers all over the world are becoming polluted with
garbage and dangerous chemicals.1
Factories contribute to the problem because they
rely on the rivers for the disposing of wastes.2
Oil and other chemicals can kill fish
and make water bad drinking.3
Since people are dependent on water , they should be
involved in finding a solution to this problem.4
Everyone agree that water
pollution is serious problem today.5

11. วิธีการวิเคราะห์
3. วิธีการเขียนแบบนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึงรายละเอียด และตามด้วยประโยคใจความสาคัญและจบลง
ด้วยรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จะมีโครงสร้างดังนี้
ตาแหน่งของ Main Ideaที่อยู่ภายในย่อหน้า
Supporting Statement Main Idea Supporting Statement
1. ใส่หมายเลขกากับไว้ทุกประโยค ย่อหน้านี้มี 5 ประโยค
2. พิจารณาประโยคอย่างรวดเร็วโดยดูว่า ประโยคใดมีใจความครอบคลุมเรื่องทั้งหมด จะพบว่า
ประโยคที่ 5 เป็นประโยคที่สรุปใจความสาคัญของเรื่องได้ดีที่สุด มีความหมายว่า ทุกคนเห็นพ้อง
ต้องกันว่ามลพิษทางน้าเป็นปัญหาร้ายแรงทุกวันนี้
3. ประโยคที่ 1 เป็น Major Supporting Detail เพราะมีคาว่า Ocean , lakes , rivers, pollute เป็นตัวชี้แนะ
ซึ่งมีความหมายว่า มหาสมุทร ทะเลสาบ และแม่น้าตลอดทั่วโลกนั้นกาลังเน่าเสียไปด้วยขยะและ
สารเคมีที่เป็นอันตราย
4. ประโยคที่ 2 เป็น Minor Supporting Detail มาขยายMajor Supporting Detail ในประโยคที่ 1 ว่า
โรงงานอุตสาหกรรมเป็นตัวการที่ทาให้เกิดปัญหาเพราะว่าโรงงานเหล่านั้นต้องอาศัยแม่น้าในการ
กาจัดของเสีย
5. ประโยคที่ 3 เป็น Minor Supporting Detail มาอธิบายเพิ่มเติมจากประโยคที่ 2 ว่า น้ามันและสารเคมี
ชนิดอื่น ๆ ทาอันตรายต่อปลาและทาให้น้าดื่มสกปรก
6. ประโยคที่ 4 เป็น Major Supporting Detail เพราะมาขยาย Main Idea ในประโยคสุดท้ายเนื่องจากมี
คา water , problemเป็นตัวแนะโดยมีความหมายว่า เนื่องจากคนเราต้องอาศัยน้า ดังนั้นควรหา
วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้
7. ประโยคที่ 5 เราแน่ใจว่าต้องเป็น Main Idea อย่างแน่นอนเพราะคลุมเรื่องทั้งหมดในย่อหน้านี้

12. :
ดูว่าประโยคใดเป็นประโยคหลักของเรื่อง ที่อธิบายความหมายคลุมเรื่อง
4. วิธีการเขียนแบบนี้เริ่มต้นด้วย Main Idea และตามด้วยประโยคที่ให้รายละเอียดข้อมูลปลีกย่อย
เพิ่มเติมและปิดท้ายย่อหน้าด้วย Main Idea อีกประโยคหนึ่ง มีโครงสร้างดังนี้
วิธีการหา Main Ideaในลักษณะนี้
ตัวอย่างการวิเคราะห์ Main Ideaที่อยู่ภายในย่อหน้า
Keep your tree outdoors until the day before Christmas.1
Never use lighted
Candles. 2
There are other suggestions , also , for avoiding the Christmas tree
fire. 3
Turn off the tree lights before you leave the house.4
วิธีการวิเคราะห์
ตาแหน่ง Main Idea ที่อยู่ในประโยคแรกและประโยคสุดท้ายของย่อหน้า
Main Idea Supporting Statement Main Idea
1.ใส่หมายเลขกากับ ย่อหน้านี้มี 4 ประโยค
2.จะเห็นได้ว่าประโยคที่ 3 เป็น Main Idea โดยพูดถึงข้อแนะนาในการหลีกเลี่ยงไฟของต้น
คริสมาสต์ประโยคที่ 1 เป็น Major Supporting Detail มาขยาย Main Idea ว่า วิธีการ
หลีกเลี่ยงนั้นให้เอาต้นคริสมาสต์ไว้กลางแจ้งจนกว่าจะถึงวันคริสมาสต์ประโยคที่ 2 เป็น
Minor Supporting Detail มาขยาย Major Supportingในประโยคที่ 1 ว่า อย่าจุดเทียนไข
ประโยคที่ 4 เป็น Major Supporting Detail มาขยาย Main Idea ในประโยคที่ 3 ว่าวิธี
หลีกเลี่ยงอย่างหนึ่งคือ ปิดไฟบนต้นคริสมาสต์ก่อนที่จะออกจากบ้านไป

13. : มีดังต่อไปนี้
1. ดูประโยคแรกและประโยคสุดท้ายในย่อหน้าว่ามีความหมายอย่างไร
2. ดูประโยครองสุดท้ายว่าประโยคนั้นบอกความขัดแย้งกันหรือบอกความต่อเนื่องกันอย่างไร
3. ดูประโยคสุดท้ายว่ากล่าวซ้าหรือย้ากับประโยคแรกหรือไม่ การกล่าวซ้ามักจะเขียนประโยคที่
คล้ายคลึงกันหรือมีคาศัพท์ที่เหมือนกันอยู่ทั้ง 2 ประโยคก็ได้
วิธีการหา Main Ideaในลักษณะนี้
ตัวอย่างการวิเคราะห์ Main Idea ที่อยู่ในประโยคแรกและประโยคสุดท้ายของย่อหน้า
The moment of extinction for almost every type of whale is coming closer
and closer. 1
The leopard , once slaughtered for its beautiful coat is another
vanishing species. 2
For many years , alligators were killed in large numbers to
provide hides for the manufacture of belts , shoes , and handbags.3
Now these
reptiles are being raised on a alligator “farms” to keep them disappearing. 4
In
other and more tragic cases , entire species of wildlife have already been wiped
out.5
วิธีการวิเคราะห์
1. ใส่หมายเลขกากับ ย่อหน้านี้มี 5 ประโยค
2. ดูความหมายของประโยคแรก หมายความว่า ขณะนี้การสูญพันธุ์ของปลาวาฬเกือบทุก
ชนิดกาลังมาถึง และดูความหมายของประโยคสุดท้าย มีใจความว่า มีมากมายที่เป็น
เรื่องเศร้า ชนิดต่าง ๆ ของสัตว์ป่าได้ถูกทาลายให้สูญพันธุ์ไป ดังนั้นหากเราสามารถ
สรุปประโยคใจความสาคัญจะได้ว่า สัตว์เกือบทุกชนิดกาลังจะสูญพันธุ์ไป
3. ประโยคที่ 2 พูดถึง เสือดาวกาลังจะสูญพันธุ์ไปเนื่องจากนาเอาหนังมาทาเป็นเสื้อโค้ต
(coat) เป็น Major Supporting Detail
4. ประโยคที่ 3 พูดถึง จระเข้ถูกฆ่าตายจานวนมากเพื่อนามาทาเป็นเข็มขัด รองเท้าและ
กระเป๋ าถือ เป็น Major Supporting Detail
5. ประโยคที่ 4 พูดถึง ปัจจุบันนี้จระเข้เหล่านี้ถูกเลี้ยงไว้เพื่อป้ องกันไม่ให้มันสูญพันธุ์ไป
เป็น Manor Supporting Detail

14. 5.วิธีการเขียนย่อหน้านี้มักจะเป็นแบบเชิงพรรณนา (Description) และแบบเล่าเรื่องหรือบรรยาย
เรื่อง (narration) เพราะทุกประโยคในย่อหน้าสัมพันธ์กันและเท่าเทียมกันหมดเพราะเป็นการกล่าวถึงสิ่ง
เดียวกันในลักษณะที่มิได้เป็นการเสริมหรือมาสนับสนุนประโยคใดประโยคหนึ่งโดยเฉพาะ โดยมากจะเป็น
เรื่องเกี่ยวกับการกล่าวถึงบุคคลหรือสถานที่
ภัตตาคารมีที่นั่งขนาดใหญ่ . น. ให้คนทางานในเมืองที่ออกจากบ้าน
ก่อนรับประทานอาหารเช้า อาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้เป็นอาหารธรรมดาและยังมีอาหารว่าง ส่วนอาหาร
กลางวันจะเป็นข้าวราดแกงและสลัดต่างๆ
ไม่มีMain Ideaในย่อหน้า
ตัวอย่าง ไม่มี Main Ideaในย่อหน้า
A huge 120-seat restaurant opens at 7.30 a.m. for city workers who left home
before breakfast. 1
The food is simple but acceptable fare like egg and beans ,
mushrooms on toast , and scrambled eggs.2
There are also Indian snacks like samosas
filled with curried vegetables , and the lunchtime menu includes substantial portions of
curry and rice savoury , soya country pie , and salads.3
วิธีการวิเคราะห์
1. ใส่หมายเลขกากับไว้ย่อหน้านี้มี 3 ะโย
2. เมื่อพิจารณาดูทั้ง ะโย ะ ะโย ่่นชัด
เพราะทั้ง ะโย มีสาระสาคัญเท่ากันหมด

15. เทคนิคการจับใจความหลัก
เวลาอ่าน paragraph เพื่อจับใจความหลักนั้น จะต้องพยายามแยกใจความหลักออกจากใจความรอง
หรือข้อความสนับสนุน โดยจะต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนลงไปว่า paragraph นั้น ๆ มีประโยคที่แสดง
ใจความสาคัญที่สุด หรือใจความหลักหรือเปล่า เพราะใจความหลักมักจะมาในรูปแบบของประโยค บางที
อาจมาในรูปของกลุ่มคาหรือวลีก็ได้เพื่อความรวดเร็วและเข้าใจง่าย ควรตั้งคาถามตนเองว่า
1.สิ่งสาคัญที่เฉพาะเจาะจงนั้นได้แก่อะไรบ้าง สถานที่ สภาพการณ์ บุคคล หรือทั้งหมดที่กล่าวมา
2.สิ่งต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ทาอะไรบ้าง มีสภาพการณ์อย่างไร และมีความสาคัญมากน้อยเพียงไหน จึงทา
ให้ผู้เขียนต้องนามากล่าวถึงไว้ในบทอ่านนั้น ๆ
การอ่านเพื่อจับใจความหลักหรือสาระสาคัญ
การอ่าน paragraph อย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดสัมฤทธิผลนั้น สิ่งที่จาเป็นและจะต้องทา
ก่อน คือ อ่านข้อความใน paragraph ให้เข้าใจและพร้อมกันนั้นจะต้องจับประเด็นที่สาคัญที่สุดหรือ
ใจความหลักให้ได้เพื่อช่วยให้การอ่านบทอ่านเข้าใจถูกต้องและเร็วขึ้น จะต้องเข้าใจว่าในแต่ละบทอ่าน
จะประกอบด้วยส่วนที่สาคัญ คือ องค์ประกอบของ paragraph
องค์ประกอบของ paragraph คือ
1. หัวเรื่อง (topic) หรือ (title)
2. ใจความสาคัญ หรือใจความหลัก (Main Idea)เกี่ยวกับทั้งเรื่องนั้น
3. ใจความเสริม หรือบทความ หรือรายละเอียดต่าง ๆ ที่อธิบายใจความสาคัญ (Supporting
Details) ซึ่งจะเป็นเหตุผล หรือความคิดย่อยที่จะสนับสนุน หรือเอาใจความหลัก เพื่อให้
มีความสมบูรณ์ถูกต้องและรัดกุมที่สุด
หลักในการทา Main Idea ที่เป็นตัวเลือก
1. ให้ขีด 2 ประโยคแรก และ 2 ประโยคท้าย และกลับไปดูตัวเลือก
2. ถ้าไม่พบคาตอบจากตัวเลือกให้ขีด 2 ประโยคสุดท้ายในย่อหน้าสุดท้าย
3. ถ้าไม่พบคาตอบให้ขีด 2 ประโยคแรกของย่อหน้าที่เหลือก็จะเจอคาตอบ

16. หลักการหาใจความสาคัญมี 2 วิธี ดังนี้
1. การหาใจความสาคัญโดยอาศัยคาถาม เราอาจจะอาศัยการตอบคาถามว่าผู้เขียนต้องการบอก
อะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเขียน มีข้อความใดในประโยคอื่น ๆ ในย่อหน้านั้นมาอธิบาย หรือสนับสนุน หรือ
ผู้เขียนต้องการสื่อสารอะไรในย่อหน้านั้น
2. การหาใจความสาคัญโดยอาศัยคาหรือกลุ่มคาชี้แนะ โดยทั่วไปใจความสาคัญของย่อหน้าจะอยู่
ที่ประโยคแรกของย่อหน้า แต่ก็อาจจะหาใจความสาคัญอีกวิธีหนึ่งคือมองหาคาชี้แนะ เช่น therefore ,thus ,
hence ,consequently , for this reason , and so , that’s why,
in other words, most important ข้อความที่มีคาหรือกลุ่มคาเหล่านี้มักจะเป็นใจความสาคัญของย่อหน้าและ
มักจะอยู่ในประโยคสุดท้ายของย่อหน้า
1. ทาความเข้าใจกับหัวเรื่อง (Topic)
2. เมื่อหาหัวเรื่องได้แล้วก็จะนาไปสู่ประโยคใจความสาคัญของเรื่องได้ (Main Idea หรือ Topic
Sentence)
3. หากในเนื้อเรื่องมีหลายย่อหน้า (paragraphs) ต้องพยายามหา Main Idea ของเรื่องทั้งหมดให้ได้
เพราะว่าในย่อหน้าหนึ่งๆนั้นจะต้องมีประโยคใจความสาคัญของย่อหน้านั้นๆอยู่โดยมากผู้เขียนจะ
เขียนอยู่ที่ประโยคแรกของย่อหน้า (แต่ก็ไม่เสมอไป)
4. ในแต่ละย่อหน้านอกจากมีประโยคใจความสาคัญแล้ว ยังมีประโยคที่มาสนับสนุน ซึ่งอาจจะเป็น
ประโยคที่ให้การบรรยาย การเล่าเรื่อง ให้เหตุผล ให้คานิยาม หรือเปรียบเทียบความเหมือนหรือ
ความแตกต่างกัน โดยจาแนกประโยคที่มาสนับสนุนใจความสาคัญออกเป็น 2 ชนิดได้แก่
1. Major Supporting Details คือประโยคที่มาสนับสนุน Main Idea หรือ Topic Sentence
2. Major Supporting Details คือประโยคที่มาสนับสนุน Major Supporting Detail อีกที
หนึ่ง
เมื่อได้เรียนรู้ถึงโครงสร้างขององค์ระกอบในย่อหน้าว่าประกอบด้วยอะไรแล้ว ลองมาทา
แบบฝึกหัดในการหา Main Idea จาก Topic ที่เราได้จากการอ่านเนื้อ
เรื่องในย่อหน้า
วิธีการอ่านเพื่อให้เข้าใจประโยคใจความสาคัญ

17. หลังจากที่ได้อ่านเนื้อเรื่องของย่อหน้านี้จะพบว่าTopic (หัวเรื่อง) ของเรื่องนี้ได้แก่คาว่า Bicycles
เมื่อเรารู้ว่าคือจักรยานแล้ว ลองนาเอาคาว่า Bicyclesมาเติมลงในช่องว่างจากข้อความที่กาหนดมาให้
โดยดูว่าเมื่อนาเอา Topic ของคาว่า “Bicycles” มาเติมลงไปในประโยคใดจะมีใจความคลุมเรื่องทั้งหมด
(a) ………………………….do not cause pollution.
(b) …………………………..are better than cars.
(c) …………………………...are popular todayfor manyreasons.
จะพบว่าข้อc เป็นประโยคใจความสาคัญ ๆ ของเรื่องที่ผู้เขียนต้องการบอกว่าจักรยานเป็นที่นิยมกันด้วย
เหตุผลมากมาย ข้อ a) นั้นไม่ถูกต้องเพราะเจาะจงเกินไปและเป็นส่วนหนึ่งในเรื่อง ข้อ b) นั้นไม่ถูกต้อง
เพราะในเรื่องไม่ได้บอกไว้ในเรื่องเพียงบอกไว้ว่าคนชอบจักรยานมากกว่ารถยนต์
ตัวอย่าง
Bicycles are very popular today in many countries. Many people use
bicycles for exercise. But exercise is only one of the reasons why bicycles are
popular. Another reason is money. Bicycles are not expensive to buy. They do
not need gas to make them go. They also are easy and cheap to fix. In cities,
many people like bicycles better than cars. With a bicycle ,they never have to
wait in traffic. They also do not have to find a place to park. And finally ,
bicycles do not cause any pollution !
ดังนั้นการหาMain Idea จากตัวเลือกนั้นต้องอาศัยหลักในการวิเคราะห์ข้างต้นมาใช้โดย
พิจารณาดูว่า
1. ตัวเลือกใดมีใจความครอบคลุมเรื่องทั้งหมด
2. หากตัวเลือกใดเป็นเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งภายในเนื้อเรื่องหรือเป็นประโยคที่มีใจความ
กว้างเกินไปหรือเป็นประโยคไม่ได้บอกไว้ในเรื่องก็ให้เชื่อว่าประโยคเหล่านั้นไม่เป็น
ประโยคใจความสาคัญ(Main Idea)

18. ลักษณะคาถามที่นิยมใช้ในการหา Main Idea
1. What is the author’s main point ?
2. The main thought of this passage is that…………………
3. The main theme of the passage is……………………..
4. The best statement of this passage’s main thought is that……………………
5. What is the main idea of the passage ?
6. What is the main idea expressed in the passage ?
7. The best statement of the main idea of this passage is that……………………
8. The passage’s main thought is that…………………..
9. An expression describing the theme of the above passage is……………………..
10. The main idea of this passage is……………………..
11. The main point of the passage is……………………….
12. The main theme of the passage is…………………….
13. The passage is mainly about……………………
14. The passage focuses on……………………..
15. Which of the following is the main idea of the passage ?
16. Which of the following is the main point of the passage ?
17. What is the main theme of this paragraph?
18. What is the author’s main purpose in this passage ?
19. Which sentence in this paragraph states the main idea ?