More Related Content
Similar to ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๖ ปรัชญาตะวันออก (20)
More from Padvee Academy (20)
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๖ ปรัชญาตะวันออก
- 3. บทที่ ๖ปรัชญาตะวันออก
ขอบข่ายเนื้อหา
ลักษณะทั่วไปของปรัชญาตะวันออก
ลักษณะและพัฒนาการของปรัชญาอินเดีย
ลักษณะและพัฒนาการของปรัชญาจีน
ลักษณะและพัฒนาการของปรัชญาญี่ปุ่น
ลักษณะและพัฒนาการของปรัชญาไทย
- 6. ๑.ยุคพระเวท
เริ่มตั้งแต่ประมาณ ๑,๐๐๐ ถึง ๑๐๐ ปีก่อน พ.ศ. โดยมีคัมภีร์ไตรเภท
เป็นหลัก คือ
๑) ฤคเวท สาหรับสวดสดุดีสรรเสริญพระเจ้าต่างๆ
๒) ยชุรเวท ว่าด้วยกฎเกณฑ์การบูชาเทพ
๓) สามเวท สาหรับคาสวดในพิธีถวายน้าโสมแด่พระอินทร์
๔) อถรรพเวท ว่าด้วยเรื่องไสยศาสตร์
- 7. ๒.ยุคอุปนิสัย
เริ่มตั้งแต่ ๑๐๐ ปี ก่อนพุทธกาล จนถึง พ.ศ. ๗๐๐
เริ่มตั้งแต่การเกิดขึ้นของมหากาพย์ ๒ เรื่อง คือ
รามยณะและมหาภารตะ
เป็นสมัยสาคัญแห่งประวัติศาสตร์ของศาสนาทั้งสาม คือ ศาสนา
ฮินดู พระพุทธศาสนา ศาสนาเชน
- 9. ที่มาของปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาอินเดียโดยสรุป มี ๒ สาย คือ
๑. ปรัชญากลุ่มอาสติกะ(Orthodox) เป็นกลุ่มที่มีระบบปรัชญา
คัญๆหกระบบซึ่งได้รับอิทธิพลจากคัมภีร์พระเวทโดยตรง ได้แก่
นยายะ ไวเศษิกะ สางขยา โคยะ มีมามสา เวทานตะ ทั้งหกระบบ
นี้มิใช่เพียงเพราะมีความเชื่อถือในความีอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า
สูงสุดเท่านั้น แต่ยังยอมรับนับถือความขลัง ความถูกต้อง
สมบูรณ์และความศักดิ์สิทธิ์ของพระเวทอีกด้วย
- 11. ปรัชญาไทย
ปรัชญาไทย หมายถึงโลกทัศน์ แนวคิด
หลักปฏิบัติหรือหลักการดาเนิ นชีวิต
ค่านิยม ความเชื่อ คติ การประพฤติการ
ปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องด้วยศาสนาอันเป็น
พื้นฐานชีวิตของคนไทย มาตั้งแต่สมัย
ลพบุรี เรื่อยมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
เป็ นการรวมเอาความเชื่อ ทัศนคติ
ตลอดจนค่านิยมต่างๆ ของบุคคลหรือ
ของสังคมเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีเป้ าหมาย
เพื่อให้ชีวิตเข้าถึงความสงบสุข
- 12. พัฒนาการแนวคิดด้านปรัชญาไทย
๑) ยุควิญญาณธรรมชาติ (Natural Soul) พร้อมกับการก่อตัวของการ
บูชาวิญญาณบรรพบุรุษ ชนชาติไทยคิดแต่เรื่องนอกตัว จึงก่อให้เกิด
แนวคิดเรื่องวิญญาณต่างๆ ขึ้น และทาให้เกิดประเพณีเลี้ยงผี เช่น ผี
ฟ้ า ผีแถน การเรียกขวัญ และความเชื่อโชคลางต่างๆ โดยเชื่อว่าสิ่ง
เหล่านี้จะสามารถอานวยความสุขให้ได้
- 20. สานักปรัชญาต่างๆของจีน
๑. สานักปรัชญาเต๋า สานักนี้มีเล่าจื้อเป็นหัวหน้า ปรัชญาใน
สานักนี้มีเต๋าเป็นจุดหมายสูงสุด เต๋าเป็นนามธรรม แต่ก็เป็นบ่อเกิด
ของสรรพสิ่ง คอยหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง และเป็นจุดหมายสูงสุดของ
สรรพสิ่ง สานักนี้เชื่อว่าคนเคยมีความสุขสบายในบุรพกาลมา
แล้วแต่เพราะความที่ขาดปัญญา จึงเห็นผิดเป็นชอบ ตอบสนองกิเลส
ตัณหาโดยหันหลังให้กับธรรมชาติดั้งเดิม แล้วมุ่งสร้างวัฒนธรรม
และอารยธรรมขึ้นมา ผลก็คือแต่ละคนมีความทุกข์ สังคมวุ่นวาย มี
ปัญหาน้อยใหญ่ให้แก้อย่างมิรู้จบสิ้น สานักนี้มีความเห็นต่อไปว่า วิธี
ที่จะแก้ความยุ่งยากนั้นได้ก็โดยการหยุดสร้างวัฒนธรรมและอารย
ธรรมเสีย แล้วกลับเข้าหาธรรมชาติดั้งเดิมของตน
- 21. ๒.สำนักปรัชญำขงจื้อ มีขงจื้อเป็นหัวหน้ำ ปรัชญำสำนักนี้มุ่งสอนให้คนกลับสู่
อดีตเช่นกัน จะต่ำงกันก็คือแทนที่จะเน้นธรรมชำติกลับเน้นจำรีตประเพณี ดนตรี
และคุณธรรมที่ดีงำมในอดีต สำนักนี้เชื่อว่ำคนในสมัยอดีตเคยสุขสบำย สังคมมี
ระเบียบ เรำะทุกคนปฏิบัติตำมจำรีตประเพณีและคุณธรรมมำแล้ว เพรำะฉะนั้น
สำนักขงจื้อจึงรณรงค์ให้ฟื้ นฟูจำรีตประเพณี ดนตรี และคุณธรรมที่เคยดีงำม
มำแล้วในอดีตมำให้ผู้คนปฏิบัติกันอีก วิธีนี้เท่ำนั้นที่จะทำให้คนมีควำมสุข สังคมมี
ระเบียบวินัย
- 22. ๓.สานักปรัชญาม่อจื้อ มีม่อจื้อเป็นหัวหน้า ม่อจื้อเชื่อว่าอดีต
เป็นความผันผ่านไปแล้วก็ไม่อาจหวนกลับมาอีก กาลเวลาผ่านไป
ทุกอย่างก็ผ่านไปเช่นกัน สิ่งที่เหมาะสมกับสมัยหนึ่งไม่จาเป็นต้อง
เหมาะสมกับอีกสมัยหนึ่ง
เพราะฉะนั้น คนมีปัญญาควรสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ขึ้นมาให้
สอดคล้องตรงกับความจริงในปัจจุบัน อย่างเช่น ทุกคนต้องการ
ความสุข เกลียดความทุกข์ด้วยกัน ต้องการมีเกียรติมีศักดิ์ศรี
เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคนเราจึงควรเห็นอกเห็นใจกัน แผ่ความรัก
ความเมตตาให้กัน ช่วยเหลือกัน ไม่แบ่งแยกชนชั้นให้ต่างกัน
- 23. ๔.สานักปรัชญานิตินิยม โดยมีฮั่นเฟยจื้อเป็นตัวแทน ปรัชญา
สานักนี้ชี้ให้เห็นว่าอานาจและกฎหมายมีความจาเป็น และสาคัญ
ที่สุดในการนาความสงบสุขมาสู่บุคคลและสังคม ฮั่นเฟ่ยจื้อเชื่อว่า
วิธีการใช้อานาจและกฎหมายมาใช้เป็นการสอดคล้องกับธรรมชาติ
ของมนุษย์ เพราะมนุษย์ต้องการได้อิฏฐารมณ์ คืออารมณ์ที่น่า
ปรารถนา มีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และไม่ต้องการอนิฏฐารมณ์
เพราะฉะนั้นการใช้อานาจและกฎหมายจึงทาให้คนอยากทาดี เพื่อจะ
ได้รับรางวัลตอบแทนและไม่กล้าทาความชั่ว เพราะกลัวถูกลงโทษ
ทัณฑ์ หากเป็นได้ดังกล่าวก็เท่ากับทาให้สังคมสงบสุขโดยอัตโนมัติ
- 25. หลักจริยศาสตร์จีน
ในทัศนะของเล่าจื้อ ถือว่า “สภาวะดั้งเดิมของมนุษย์นั้นคือความสุข
แต่มนุษย์ต้องมีทุกข์เพราะสภาพของสังคมเปลี่ยนแปลง ดังนั้นวิถีทาง
ที่จะมีความสุขได้นั้น ก็คือการขจัดวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียม
ประเพณีต่างๆ ที่สังคมสร้างขึ้น”
ส่วนในทัศนะของขงจื้อ กล่าวว่า “สังคมที่ดีที่สุดสาหรับมนุษย์ก็คือ
สังคมที่มีความชอบธรรม โดยเริ่มจัดระบบครอบครัวให้มั่นคง มี
ความสุขและชอบธรรมได้แล้ว สังคมโดยร่วมก็จะเป็นปึกแผ่นมั่นคงมี
ความสุขและชอบธรรมไปด้วย”
- 30. ลักษณะปรัชญาญี่ปุ่น
ปรัชญาของญี่ปุ่นจาแนกเป็นฐานหลักได้ ๓ ฐาน คือ
๑. ฐานชินโต ฐานนี้ ญี่ปุ่นรับมาในสมัยมีการนับถือธรรมชาติ
(พระเจ้า) มีคัมภีร์โคยิกิและนิเป็น ตาราศาสนาประจาชาติ เริ่มเป็น
ระบบสั่งสอนและปฏิบัติจากราชสานักไปถึงราษฎร์สามัญและเพื่อให้
มีระเบียบมั่นคงเป็นศาสนามีแบบมีแผนเท่าเทียมกับศาสนาอื่นที่เข้า
มาใหม่ จึงให้ตั้งชื่อศาสนาประจาชาติในโลกธาตุ หรือระบบหยาง-
หยินของจีน
- 31. ๒. ฐานมิกาโต คือ ฐานเกี่ยวกับระบบการนับถือจักรพรรดิ ระบบ
ภายในครอบครัวและระบบทางสังคมที่ยังเป็นระบบที่มีชีวิต มีการ
ปฏิบัติ ทะนุถนอมรักษากันไว้ เป็นเอกลักษณ์ไม่มีเสื่อมคลาย
ยากที่จะหาได้ในสังคมของชาติอื่น อันประกอบด้วย
ความภักดีต่อบรรพบุรุษ
ความภักดีต่อครอบครัว
ความภักดีต่อสังคมในชาติ
ลักษณะปรัชญาญี่ปุ่น
- 32. ๓. ปุตสุโต พระพุทธศาสนา
ความภัคดีต่อพระพุทธศาสนา เพราะว่า พระพุทธศาสนา มี
อิทธิพลยิ่งใหญ่ ควบคู่ไปกับศาสนาชินโต กล่อมจิตใจขั้นพื้นฐาน
ของชาวญี่ปุ่นรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวมาแต่ต้น นาความเจริญด้าน
จิตใจ ด้านศิลปะวิทยาการ และวัฒนธรรมความเป็นอยู่มาให้แก่
ญี่ปุ่นทุกระดับ
ลักษณะปรัชญาญี่ปุ่น