More Related Content
Similar to ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก (20)
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
- 1. หน่วยที่ 1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
แนวคิด
คอมพิวเตอร์กราฟิก คือ การใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพและจัดการเกี่ยวกับรูปภาพ เพื่อใช้สื่อความหมายของ
ข้อมูลต่าง ๆ ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น การใช้กราฟนาเสนอข้อมูลยอดขายสินค้าในแต่ละปี การใช้ภาพกราฟิกประกอบการ
โฆษณาสินค้าต่าง ๆ เป็นต้น ภาพกราฟิกแบบ 2 มิติ มี 2 แบบ คือแบบ Raster และแบบ Vector ซึ่งหลักการทางานจะมี
ความแตกต่างกัน โดยกราฟิกแบบ Rasterจะเกิดภาพจากจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลาย ๆ จุด มารวมกัน ส่วนแบบ Vector เกิด
จากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือการคานวณ ซึ่งภาพกราฟิกแต่ละนามสกุลจะมีแฟ้มรูปภาพและลักษณะที่
แตกต่างกัน
บทนำ
ปัจจุบันภาพกราฟิกมีบทบาทกับงานด้านต่าง ๆ เป็นอย่างมาก เช่น งานนาเสนอข้อมูลในรูปแบบของ เส้นกราฟ
กราฟแท่ง แผนภูมิ การใช้ภาพกราฟิกประกอบการโฆษณาสินค้าต่าง ๆ การสร้างเว็บเพจ การสร้างสื่อการสอน (CAI) การ
สร้างการ์ตูน การสร้างโลโก และงานออกแบบต่าง ๆ เป็นต้น โดยภาพกราฟิกจะทาให้งานมีความสวยงามและน่าสนใจยิ่งขึ้น
ควำมหมำยของกรำฟิก
กราฟิก (Graphic) มักเขียนผิดเป็น กราฟิกส์ กราฟฟิกส์ กราฟฟิก คาว่า “กราฟิก” มาจากภาษากรีก ซึ่ง
หมายถึง การวาดเขียน (Graphikos) และการเขียน (Graphein) ต่อมามีผู้ให้ความหมายของคาว่า “กราฟิก” ไว้หลาย
ประการซึ่งสรุปได้ดังนี้
กราฟิก หมายถึง ศิลปะแขนงหนึ่งซึ่งใช้สื่อความหมายด้วยเส้น สัญลักษณ์ รูปวาด ภาพถ่าย กราฟ แผนภูมิ
การ์ตูน ฯลฯ เพื่อให้สามารถสื่อความหมายข้อมูลได้ถูกต้องตรงตามที่ผู้สื่อสารต้องการ
ควำมหมำยของคอมพิวเตอร์กรำฟิก
คอมพิวเตอร์กราฟิก หมายถึง การสร้าง การตกแต่งแก้ไข หรือการจัดการเกี่ยวกับรูปภาพ โดยใช้เครื่อง
คอมพิวเตอร์ในการจัดการ ยกตัวอย่างเช่น การทา Image Retouching ภาพคนแก่ให้มีวัยที่เด็กขึ้น การสร้างภาพตาม
จินตนาการและการใช้ภาพกราฟิกในการนาเสนอข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสื่อความหมายได้ตรงตามที่ผู้สื่อสารต้องการและ
น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยกราฟ แผนภูมิ แผนภาพ เป็นต้น
ภาพกราฟิก แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ภาพกราฟิกแบบ 2 มิติ และแบบ 3 มิติ
ภาพกราฟิกแบบ 2 มิติ เป็นภาพที่พบเห็นโดยทั่วไป เช่น ภาพถ่าย รูปวาด ภาพ
ลายเส้น สัญลักษณ์ กราฟ รวมถึงการ์ตูนต่าง ๆ ในโทรทัศน์ ยกตัวอย่างเช่น การ์ตูนเรื่องพิภพยมราช ชินจัง และโดเร
มอน เป็นต้น ซึ่งการ์ตูนจะเป็นภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Animation) โดยจะมีกระบวนการสร้างที่ซับซ้อนกว่าภาพวาดปกติ
ภาพกราฟิกแบบ 3 มิติ เป็นภาพกราฟิกที่ใช้โปรแกรมสร้างภาพ 3 มิติโดยเฉพาะ เช่น โปรแกรม 3 Ds
max โปรแกรม Maya เป็นต้น ซึ่งจะทาให้ได้ภาพมีสีและแสงเงาเหมือนจริง เหมาะกับงานด้านสถาปัตย์และการออกแบบ
ต่าง ๆ รวมถึงการสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนหรือโฆษณาสินค้าต่าง ๆ เช่น การ์ตูน เรื่อง Nemo The Bug และปังปอนด์
แอนิเมชัน เป็นต้น
หลักกำรทำงำนและกำรแสดงผลของภำพคอมพิวเตอร์กรำฟิก
ภาพที่เกิดบนจอคอมพิวเตอร์ เกิดจากการทางานของโหมดสี RGB ซึ่งประกอบด้วยสีแดง (Red) สี
เขียว (Green) และสีน้าเงิน (Blue) โดยใช้หลักการยิงประจุไฟฟ้าให้เกิดการเปล่งแสงของสีทั้ง 3 สีมาผสมกันทาให้เกิดเป็น
- 2. จุดสีสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เรียกว่า พิกเซล (Pixel) ซึ่งมาจากคาว่า Picture กับ Element โดยพิกเซลจะมีหลากหลายสี เมื่อ
นามาวางต่อกันจะเกิดเป็นรูปภาพ ซึ่งภาพที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มี 2 ประเภท คือ แบบ Raster และแบบ Vector
หลักกำรของกรำฟิกแบบ Raster
หลักการของภาพกราฟิกแบบ Raster หรือแบบ Bitmap เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียงตัวกันของจุด
สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลากหลายสี ซึ่งเรียกจุดสีเหลี่ยมเล็ก ๆ นี้ว่าพิกเซล (Pixel) ในการสร้างภาพกราฟิกแบบ Raster จะต้อง
กาหนดจานวนของพิกเซลให้กับภาพที่ต้องการสร้าง ถ้ากาหนดจานวนพิกเซลน้อย เมื่อขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจะทาให้
แฟ้มภาพมีขนาดใหญ่ ดังนั้นการกาหนดพิกเซลจึงควรกาหนดให้เหมาะกับงานที่สร้างคือ ถ้าต้องการใช้งานทั่ว ๆ ไปจะกาหนด
จานวนพิกเซลประมาณ 100-150 ppi (Pixel/inch) “จานวนพิกเซลต่อ 1 ตารางนิ้ว” ถ้าเป็นงานที่ต้องการความละเอียด
น้อยและแฟ้มภาพมีขนาดเล็ก เช่น ภาพสาหรับใช้กับเว็บไซต์จะกาหนดจานวนพิกเซลประมาณ 72 ppi และถ้าเป็นแบบงาน
พิมพ์ เช่น นิตยสาร โปสเตอร์ขนาดใหญ่ จะกาหนดจานวนพิกเซลประมาณ 300-350 เป็นต้น ข้อดีของภาพกราฟิก
แบบ Raster คือ สามารถแก้ไขปรับแต่งสี ตกแต่งภาพได้ง่ายและสวยงาม ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพกราฟิกแบบ
Raster คือ Adobe PhotoShop, Adobe PhotoShopCS, Paint เป็นต้น
รูปที่ 1.1 ภาพกราฟิกแบบ Raster ที่ขยายใหญ่ขึ้น
หลักกำรของกรำฟิกแบบ Vector
หลักการของกราฟิกแบบ Vector เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือการ
คานวณ ซึ่งภาพจะมีความเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง รูปทรง เมื่อมีการขยาย
ภาพความละเอียดของภาพไม่ลดลง แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ Raster ภาพกราฟิกแบบ Vector นิยมใช้เพื่องานสถาปัยต์
ตกแต่งภายในและการออกแบบต่าง ๆ เช่น การออกแบบอาคาร การออกแบบรถยนต์ การสร้างโลโก การสร้างการ์ตูน เป็น
ต้น ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพแบบ Vector คือ โปรแกรม Illustrator, CoreDraw, AutoCAD, 3Ds max เป็นต้น แต่
อุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลภาพ เช่น จอคอมพิวเตอร์จะเป็นการแสดงผลภาพเป็นแบบ Raster
รูปที่ 1.2 ภาพกราฟิกแบบ Vector ที่ขยายใหญ่ขึ้น
ควำมแตกต่ำงของกรำฟิกแบบ 2 มิติ
ภาพกราฟิก 2 มิติแบบ Raster และ แบบ Vector มีความแตกต่างกันดังนี้
- 3. ภาพกราฟิกแบบ Raster ภาพกราฟิกแบบ Vector
1. ภาพกราฟิกเกิดจากจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลากหลายสี
(Pixels) มาเรียงต่อกันจนกลายเป็นรูปภาพ
1. ภาพเกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์หรือ
การคานวณ โดยองค์ประกอบของภาพมีอิสระต่อกัน
2. การขยายภาพกราฟิกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะทาให้ความ
ละเอียดของภาพลดลง ทาให้มองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็ก
ๆ
2. การขยายภาพกราฟิกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ภาพยังคงความ
ละเอียดคมชัดเหมือนเดิม
3. การตกแต่งและแก้ไขภาพ สามารถทาได้ง่ายและสวยงาม
เช่น การ Retouching ภาพคนแก่ให้หนุ่มขึ้น การปรับสีผิว
กายให้ขาวเนียนขึ้น เป็นต้น
3. เหมาะกับงานออกแบบต่าง ๆ เช่น งานสถาปัตย์
ออกแบบโลโก เป็นต้น
4. การประมวลผลภาพสามารถทาได้รวดเร็ว 4. การประมวลผลภาพจะใช้เวลานาน เนื่องจากใช้คาสั่งใน
การทางานมาก
หลักกำรใช้สีและแสงในคอมพิวเตอร์
สีที่ใช้งานด้านกราฟิกทั่วไปมี 4 ระบบ คือ
1. RGB
2. CMYK
3. HSB
4. LAB
RGB
เป็นระบบสีที่ประกอบด้วยแม่สี 3 สีคือ แดง (Red), เขียว (Green) และสีน้าเงิน (Blue) เมื่อนามาผสมกันทา
ให้เกิดสีต่าง ๆ บนจอคอมพิวเตอร์มากถึง 16.7 ล้านสี ซึ่งใกล้เคียงกับสีที่ตาเรามองเห็นปกติ สีที่ได้จากการผสมสีขึ้นอยู่กับ
ความเข้มของสี โดยถ้าสีมีความเข้มมาก เมื่อนามาผสมกันจะทาให้เกิดเป็นสีขาว จึงเรียกระบบสีนี้ว่าแบบ Additive หรือการ
ผสมสีแบบบวก
- 4. CMYK
เป็นระบบสีที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ที่พิมพ์ออกทางกระดาษหรือวัสดุผิวเรียบอื่น ๆ ซึ่งประกอบด้วยสีหลัก 4 สีคือ สี
ฟ้า (Cyan), สีม่วงแดง (Magenta), สีเหลือง (Yellow) และสีดา (Black) เมื่อนามาผสมกันจะกเกิดสีเป็นสีดาแต่จะไม่ดาสนิท
เนื่องจากหมึกพิมพ์มีความไม่บริสุทธิ์ จึงเป็นการผสมสีแบบลบ (Subtractive) หลักการเกิดสีของระบบนี้คือ หมึกสีหนึ่งจะ
ดูดกลืนแสงจากสีหนึ่งแล้วสะท้อนกลับออกมาเป็นสีต่าง ๆ เช่น สีฟ้าดูดกลืนแสงของสีม่วงแล้วสะท้อนออกมาเป็นสีน้าเงิน ซึ่ง
จะสังเกตได้ว่าสีที่สะท้อนออกมาจะเป็นสีหลักของระบบ RGB การเกิดสีในระบบนี้จึงตรงข้ามกับการเกิดสีในระบบ RGB ดัง
ภาพ
HSB
เป็นระบบสีแบบการมองเห็นของสายตามมนุษย์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
Hue คือสีต่าง ๆ ที่สะท้อนออกมาจากวัตถุแล้วเข้าสู่สายตาของเรา ซึ่งมักเรียกสีตามชื่อสี เช่น สีเขียว สี
เหลือง สีแดง เป็นต้น
Saturation คือความสดของสี โดยค่าความสดของสีจะเริ่มที่ 0 ถึง 100 ถ้ากาหนดSaturation ที่ 0 สีจะมี
ความสดน้อย แต่ถ้ากาหนดที่ 100 สีจะมีความสดมาก
Brightness คือระดับความสว่างของสี โดยค่าความสว่างของสีจะเริ่มที่ 0 ถึง 100 ถ้ากาหนดที่ 0 ความสว่างจะ
น้อยซึ่งจะเป็นสีดา แต่ถ้ากาหนดที่ 100 สีจะมีความสว่างมากที่สุด
LAB
เป็นระบบสีที่ไม่ขึ้นกับอุปกรณ์ใด ๆ (Device Independent) โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
- 5. “L” หรือ Luminance เป็นการกาหนดความสว่างซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 ถ้ากาหนดที่ 0 จะกลายเป็นสี
ดา แต่ถ้ากาหนดที่ 100 จะเป็นสีขาว
“A” เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีเขียวไปสีแดง
“B” เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีน้าเงินไปเหลือง
แฟ้มภำพกรำฟิกแบบ Raster และคุณลักษณะของแฟ้มภำพกรำฟิก
นามสกุลที่ใช้เก็บแฟ้มภาพกราฟิกแบบ Raster มีหลายนามสกุล เช่น .BMP, .DIB, .JPG, .JPEG, .JPE, .GIF,
.TIFF, .TIF, .PCX, .MSP, .PCD, .FPX, .IMG, .MAC, .MSP และ .TGA เป็นต้น ซึ่งลักษณะของแฟ้มภาพจะแตกต่างกันไป
ยกตัวอย่างเช่น
นามสกุลที่ใช้เก็บ ลักษณะงาน
ตัวอย่างซอฟต์แวร์
ที่ใช้สร้าง
.JPG, .JPEG, .JPE
ใช้สาหรับรูปภาพทั่วไปงานเว็บเพจ และงานที่มี
ความจากัดด้านพื้นที่
หน่วยความจา
โปรแกรม PhotoShop,
PaintShopPro, Illstratior
.GIF
.TIFF, .TIF
เหมาะสาหรับงานด้านนิตยสาร เพราะมีความ
ละเอียดของภาพสูง
.BMP, .DIB ไฟล์มาตรฐานของระบบปฏิบัติการวินโดว์ โปรแกรม PaintShopPro, Paint
.PCX
เป็นไฟล์ดั้งเดิมของโปรแกรมแก้ไขภาพแบบ
บิตแมป ไม่มีโมเดลเกรย์สเกล ใช้กับภาพทั่วไป
โปรแกรม CorelDraw, Illustrator,
Paintbrush
แฟ้มภำพกรำฟิกแบบ Vector และคุณลักษณะของแฟ้มภำพกรำฟิก
นามสกุลที่ใช้เก็บแฟ้มภาพกราฟิกแบบ Vector มีหลายนามสกุลเช่น .EPS, .WMF, .CDR, .AI, .CGM, .DRW,
.PLT, .DXF, .PIC และ .PGL เป็นต้น ซึ่งลักษณะของแฟ้มภาพจะแตกต่างกันไป เช่น
- 6. นามสกุลที่ใช้เก็บ ลักษณะงาน
ตัวอย่างซอฟต์แวร์
ที่ใช้สร้าง
.AI
ใช้สาหรับงานที่ต้องการความละเอียดของภาพ
มาก เช่น การสร้างการ์ตูน การสร้างโล
โก เป็นต้น
โปรแกรม Illustrator
.EPS
.WMF ไฟล์มาตรฐานของโปรแกรม Microsoft Office โปรแกรม CorelDraw
คอมพิวเตอร์กรำฟิกกับกำรประยุกต์ใช้ในงำนด้ำนต่ำง ๆ
ในยุคปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง ทาให้การสื่อสารมีสีสันและชีวิตชีวามากขึ้น โดย
การใช้ภาพกราฟิกมาประยุกต์ร่วมกับงานด้านต่าง ๆ เพื่อให้งานดูสวยงามและดึงดูดใจให้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งแบ่งงานด้าน
ภาพกราฟิกออกได้ดังนี้
1.คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานด้านการออกแบบ คอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทกับงานด้านการออกแบบใน
สาขาต่าง ๆ เป็นจานวนมาก เช่น งานด้านสถาปัตย์ออกแบบภายในบ้าน การออกแบบรถยนต์ การออกแบบ
เครื่องจักรกล รวมถึงการออกแบบวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งโปรแกรมที่ใช้จะเป็นโปรแกรม 3 มิติ เพราะสามารถ
กาหนดสีและแสงเงาได้เหมือนจริงที่สุด อีกทั้งสามารถดูมุมมองด้านต่าง ๆ ได้ทุกมุมมอง
2.คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานด้านโฆษณา ปัจจุบันการโฆษณาสินค้าทางโทรทัศน์ได้นาภาพกราฟิกเข้ามาช่วยใน
การโฆษณาสินค้าเพื่อเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น เช่น การทาหิมะตกที่กรุงเทพฯ การนาการ์ตูนมาประกอบการโฆษณาขนม
เด็ก เป็นต้น และการโฆษณาสินค้าด้วยภาพกราฟิกยังมีอยู่ทุกที่รอบตัวเราไม่ว่าจะเป็นตามป้ายรถเมล์ ข้างรถโดยสาร หน้า
ร้านค้าตามแหล่งชุมชนต่าง ๆ เป็นต้น
3. คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานด้านการนาเสนอ การนาเสนอข้อมูลต่าง ๆ เป็นการสื่อความหมายให้ผู้รับสาร
เข้าใจในสิ่งที่ผู้สื่อต้องการ และการสื่อสารที่ดีจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ภาพเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กับผู้รับสาร เช่น
การสรุปยอดขายสินค้าในแต่ละปีด้วยกราฟ หรือการอธิบายระบบการทางานของบริษัทด้วยแผนภูมิ เป็นต้น
4. คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานด้านเว็บเพจ ธุรกิจรับสร้างเว็บเพจให้กับบริษัทหรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้นา
คอมพิวเตอร์กราฟิกเข้ามาช่วยในการสร้างเว็บเพจเพื่อให้เว็บเพจที่สร้างมีความสวยงามน่าใช้งานยิ่งขึ้น
5. คอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานด้าน Image Retouching ปัจจุบันธุรกิจคอมพิวเตอร์กราฟิกที่ใช้ใน
การ Retouching ภาพ ได้เปิดตัวขึ้นเป็นจานวนมาก เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของคนในการทาภาพตาม
จินตนาการได้เป็นอย่างดี เช่น การทาภาพผิวกายให้ขาวเนียนเหมือนดารา การทาภาพเก่าให้เป็นภาพใหม่ การทาภาพขาว
ดาเป็นภาพสี และการทาภาพคนแก่ให้ดูหนุ่มหรือสาวขึ้น เป็นต้น