2. ประ-วัด-ติ-ศาสตร์
-ประวัติศาสตร์คืออะไร ?
-ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงใช่หรือไม่ ?
-หลักฐานทางประวัติศาสตร์เชื่อถือได้แค่ไหน ?
-ประวัติศาสตร์มีประโยชน์อย่างไร ?
.....................................................................................................................
ที่มา....... คาว่า “ประวัติศาสตร์”
“ประวัติศาสตร์”“History” “Historia”

3. ประวัติศาสตร์ หมายถึง............
“ การศึกษาเรื่องราวในอดีตของสังคมมนุษย์ โดยอาศัยการวิเคราะห์การ ตีความจากหลักฐาน”
องค์ประกอบของคาว่า“ประวัติศาสตร์”
๑. พฤติกรรมของสังคมมนุษย์.............
๒. อดีตหรือเวลาที่ผ่านไปแล้ว................
๓. ผลกระทบต่อสังคม...............
๔.หลักฐานทางประวัติศาสตร์..............

4. ความสาคัญของประวัติศาสตร์
โดยธรรมชาติ มนุษย์มีความสนใจใคร่รู้ในทุกเรื่องประวัติศาสตร์สามารถ
ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ได้
ประโยชน์ของประวัติศาสตร์
๑. “ประวัติศาสตร์ช่วยให้รู้เขา รู้เรา”
๒. “ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียน”
๓. “ประวัติศาสตร์สอนให้รู้จักคิด”

5. ก่อนกาเนิดอารยธรรม............
๑. สมัยก่อนประวัติศาสตร์
-ยุคหินเก่า
-ยุคหินใหม่
-ยุคโลหะ
๒. สมัยประวัติศาสตร์
-ยุคโบราณ (โรมัน......)
-ยุคกลาง (โคลัมบัส........)
-ยุคใหม่ (จบสงคราม........)
-ยุคร่วมสมัย

6. สมัยประวัติศาสตร์ (ยุคโบราณ)
ตอนกาเนิด “อารยธรรม”.......
๑. อารยธรรมลุ่มแม่น้าไนล์
๒. อารยธรรมลุ่มแม่น้าไทกริส-ยูเฟรติส
๓. อารยธรรมลุ่มแม่น้าฮวงโห
๔. อารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ
“อารยธรรม”.... ต้องมีคุณลักษณะอย่างน้อยที่สุด
-มีความก้าวหน้าทางทักษะ และเทคนิค
-มีรูปแบบการอยู่ร่วมกัน
-มีความสาเร็จทางปัญญา

7. อารยธรรมลุ่มแม่น้าไนล์

8. ตอน“โลกของคนผิวขาว”.....
อารยธรรมลุ่มแม่น้าไนล์
“ดินแดนของขวัญแห่งลุ่มแม่น้าไนล์” ..............เฮโรโดตัส
อียิปต์....ไอกึปตอส.....ไอยคุปต์....ยิบเซ็นอ่าน
........................................................................
สภาพที่ตั้ง
-ร้อนมาก แห้งแล้งมาก
-ล้อมรอบด้วยทะเลทราย (ข้อดี)
-“บริเวณเดลต้า”....ส่วนที่เย็นที่สุด

9. การเกษตรและการค้า
-ทานาได้ ๓ ครั้งต่อปี....(กลางทะเลทราย)
-ทานบกั้นน้า , คูน้า.......(สู้กับธรรมชาติ)
-กระดาษปาปิรัส (เยื่อต้นอ้อตากแห้ง) (ก้านเอาไว้เขียน)
สภาพสังคม (ชนชั้น)
๑. กษัตริย์และราชวงศ์
๒. พระและขุนนาง
๓. ชนชั้นกลาง (พ่อค้า , ช่างฝีมือ)
๔. ชนชั้นต่า (ชาวนา)
๕. ทาส (พวกแพ้สงคราม)
#สตรีมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียม....(ดีที่สุดเมื่อเทียบกับที่อื่น)#

10. ศิลปะและสถาปัตยกรรม (พวกวัตถุนิยม)
-พีระมิด
-สฟิงซ์ (สิงโต+หญิง)
-วิหาร (คาร์นัค)
วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
-การทาปฏิทิน (สุริยคติ..... ๑ ปีมี ๑๒ เดือน ๓๐ วัน)
-การแพทย์ (ผ่าตัด, รู้จักหน้าที่ของหัวใจ , ใช้น้าเกลือ)
-คานวณหาพื้นที่....(สร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่)

11. ด้านอักษรศาสตร์
-เฮียโรกลิฟิก..... “อักษรภาพ”
-เฮราติก.... “ภาพ+อักษร”
-เดโมติค..... “ตัวอักษร”
การเมืองการปกครอง (“เทวธิปไตย”...สมมุติเทพ)
-เปลี่ยนศักราชเมื่อเปลี่ยนราชวงศ์
-ฟาโรห์รามเสสที่ ๒....แบ่งดินแดน (“สนธิสัญญาฉบับแรกของโลก”)
-“พระนางฮัทเซฟซุท” (กษัตริย์หญิงองค์แรก)...... “คนแรกของโลก”
-“พระนางคลีโอพัฒรา”......ตานานรักแห่งสตรีเพศ
(ปโตเลมี,ซีซาร์,มาร์ค เอนโทนี)

12. อารยธรรมลุ่มแม่น้า ไทกรีส-ยูเฟรติส...............

13. อารยธรรมลุ่มแม่น้าไทกรีส-ยูเฟรติส
“ เมโสโปเตเมีย”.. “ดินแดนพระจันทร์เสี้ยว”.. “บาบิโลเนีย”
ลักษณะเด่น
-“” .....ดินแดนระหว่างแม่น้า
-ประเทศอิรักในปัจจุบัน
-“เป็นดินแดนที่มีชาติพันธุ์มนุษย์ผสมปนเปกันมากที่สุด”

14. ลักษณะเด่น (ต่อ)
-“พึ่งพึงเกษตรกรรมเหมือนกัน”
-“ไม่คิดเรื่องที่จะกลับมาเกิดใหม่”
กฎหมายฉบับแรก.....
“...ถ้าบ้านหลังหนึ่งทรุดตัวลง เจ้าของบ้านตาย ผู้สร้างก็ต้องตาย”
“...ถ้าคนไข้ตายในระหว่างผ่าตัด แพทย์ผู้ผ่าตัดก็ต้องตาย....”

15. กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ
ชาวสุเมเรียน
-เป็นผู้ให้กาเนิด.....
-“กฎหมายลงโทษแบบสนองตอบ” (รากฐาน)
-“ซิกกูแรต” เป็นที่ประทับเทพ (ทาจากอิฐ)
-“อักษรลิ่ม...คูนิฟอร์ม”
ชาวอัคคาเดียน
-“จักรวรรดิสุเมโร-อัคคาเดียน” .....(จักรวรรดิแรก)

16. ชาวอะมอไรท์ ...(บาบิโลน)
-“ฮัมมูราบี”...คือผู้นาคนสาคัญ
-ให้กาเนิด..กฎหมายแรกของโลก (สิทธิสตรี,มรดก,การค้า)
ชาวแคลเดียน
-สถาปัตยกรรมเจริญถึงขีดสุด
-สวนลอยฟ้า
-กาแพงอิซต้า
-กาเนิดวันอาทิตย์-วันจันทร์
-หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน

17. ชาวฮิบรู...
-เสมือนผู้ให้กาเนิดศาสนา.... (การสร้างโลก , น้าท่วมโลก)
ชาวเปอร์เซีย
-โซโรแอสเตอร์

18. อารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ

19. อารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ.....อารยธรรมอินเดีย
-ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ + ทรัพยากรที่สมบูรณ์
-พวกดราวิเดียน, พวกทราวิฑ, พวกอารยัน
-“โมเฮนโจดาโรและฮารับปา” (Mohenjodaro) ( Harappa)
-ปัจจุบันอยู่ในประเทศปากีสถาน
๓ ยุคแห่งความเป็นสินธุและอินเดีย
๑. ยุคพวกดราวิเดียนและพวกทราวิฑ
+๒.ยุคพวกอารยัน
๓. หลังยุคพระเวท

20. ลักษณะเด่นของอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ
๑. ยุคพวกดราวิเดียน และพวกทราวิฑ (เริ่มอารยธรรมสินธุ)
-ลักษณะสังคมเมือง , การวางผังเมือง
-เน้นการค้าขาย (ไม่เน้นเกษตร) (ติดต่อกับเมโสโปเตเมีย)
-มีตัวอักษรใช้เอง...+(แต่ไม่มีหลักฐาน)+
๒. ยุคพวกอารยัน (ยุคพระเวท) (เริ่มเป็นอินเดีย)
-“คัมภีร์พระเวท” .....ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
-“มหาภารตะ”... “รามายณะ” ......การเมืองการปกครอง สังคม ศาสนา
-ภาษาสันสกฤต.....(เริ่มต้นตั งแต่นั นเป็นต้นมา)

21. ลักษณะเด่นของอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ
๒. ยุคพวกอารยัน(ต่อ) (ยุคพระเวท) (เริ่มเป็นอินเดีย)
-“ระบบวรรณะ” เกิดขึ้นจากความอยากเป็นใหญ่..พวกเดียว
๑. พราหมณ์ ....ผู้ประกอบพิธีกรรม สืบทอดศาสนา
๒. กษัตริย์...ชนชั้นปกครองหรือนักรบ
๓. แพศย์...สามัญชนทั่วไปที่เป็นพวกเดียวกับเรา
๔. ศูทร...ชาวพื้นเมืองเดิม(คนใช้ของวรรณะด้านบน)
วรรณะท้ายสุด......... “จัณฑาล”

22. ลักษณะเด่นของอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ
๓. หลังยุคพระเวท
-“ศาสนาพุทธ” กับ “ศาสนาเซน”
-พระเจ้าอโศกมหาราช.....คือคนสาคัญของศาสนาพุทธและอื่นๆ
-พวกกรีกเคยเข้ามารุกรานอารยธรรมนี้ด้วย
-“โมหันทาส กะรัมจันทคานธี” (MahatmaGandhi)
จุดสังเกต.....อารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุคืออารยธรรมดินเดีย

24. อารยธรรมลุ่มแม่น้าฮวงโห(จีน)
การแบ่งอย่างง่าย......
๑. สมัยโบราณ
๒. สมัยจักรวรรดิ
ลักษณะเด่นแต่ละสมัย
๑. สมัยโบราณ (เริ่มต้น..แต่ยังไม่เป็นจีนเดียว)
-ราชวงศ์ชาง (แรกสุด)..ตัวอักษรบนกระดองเต่า , กระดูกวัว
-ราชวงศ์โจว...“โอรสสวรรค์-อาณัติสวรรค์” ลัทธิขงจื๊อ,ลัทธิ เต๋า

25. ๒. สมัยจักรวรรดิ (เริ่มต้น...อารยธรรมจีน)
-ราชวงศ์จิ๋น(ซิวั่งตี่ ,ฉินสื่อหวงตี่).....กาแพงเมืองจีนถูกเชื่อม ติดกัน
-ราชวงศ์ฮั่น(ยุคทองการค้า)...เส้นทางสายไหม(Silk Road)
-โรมัน อินเดีย อาหรับคือ.....ลูกค้า
-“มาร์โคโปโร”.........
-ราชวงศ์สุย ......“สามก๊ก”
-ราชวงศ์ถัง..... (ศาสนาพุทธ) “พระถังซาจั๋ง”
-ราชวงศ์หยวน... “พวกมองโกล” (กุบไล่ข่าน)
-ราชวงศ์เหม็ง,หมิง....... “พระราชวังต้องห้าม”
-ราชวงศ์ชิง.... “พวกแมนจู” “พระนางซูสีไทเฮา”