8. ( C o mp u te r
G e n e r a t io n s )
ยุคที่หนึง (พ.ศ. 2494-
่
2501) สุญญากาศ
ยุคนี้ใช้หลอดสุญญากาศเป็นวงจร
อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีข้อเสียหลายอย่าง คือ
ต้องใช้หลอดสุญญากาศจำานวนมาก ทำาให้
เครื่องมีขนาดใหญ่ การทำางานต้องใช้กระแส
ไฟฟ้าจำานวนมาก ทำาให้เครืองเกิดความร้อน
่
สูงและมักเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย และหลอด
สุญญากาศยังมีอายุการใช้งานตำ่า ตัวอย่าง
คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ เช่น UNIVAC I เป็นต้น
8
9. ( C o mp u te r
G e n e r a t io n s )
ยุคที่สอง (พ.ศ. 2502 –
2507)ทรานซิสเตอร์
ยุคนีใช้ทรานซิสเตอร์ เป็นวงจร
้
อิเล็กทรอนิกส์ ทำาให้เครื่องมีขนาดเล็กลง
ความเร็วในการทำางานสูง ใช้กระแสไฟฟ้าน้อย
ลง ต้นทุนที่ใช้ในการผลิตลดลง ได้ข้อมูลที่ถูก
ต้องมากกว่า ยุคนีใช้วงแหวนแม่เหล็กเป็นหน่วย
้
ความจำาหลักและตอนปลายยุคใช้จานแม่เหล็ก
เป็นหน่วยความจำาสำารอง เริ่มใช้ชุดคำาสั่งภาษา
ระดับสูง เช่น ภาษาโคบอล ภาษาฟอร์แทรน
ภาษาอัลกอล ตัวอย่างคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ได้แก่
9
IBM 1620 เป็นต้น
10. ( C o mp u te r
G e n e r a t io n s )
ยุคที่สาม (พ.ศ. 2508 -
2513) วงจรรวม IC
ยุคนีใช้วงจรไอซี ซึ่งเป็นสารกึ่งตัวนำาที่
้
สามารถบรรจุวงจรกึ่งตัวนำาเอาไว้มาก แล้ว
พิมพ์บนแผ่นซิลิคอน เรียกว่า "ชิป" (Chip)
ซึ่งมีขนาดเล็กมาก จึงทำาให้เครื่องในยุคนี้มี
ขนาดเล็กลง เขียนชุดคำาสั่งด้วยภาษาระดับ
สูง และเริ่มมีโปรแกรมสำาเร็จรูปใช้งาน
ตัวอย่างเครืองในยุคนี้ ได้แก่ IBM360
่
10
11. ( C o mp u te r
G e n e r a t io n s )
ยุคที่สี่ (พ.ศ. 2514 – 2523)
ไมโครโปรเซสเซอร์
ยุคนี้ใช้วงจร LSI (Large-Scale
Integrated Circuit) คือ การใช้เทคโนโลยีใหม่ โดย
รวมวงจรไอซีจำานวนมากลงในแผ่นซิลิคอนชิป 1
แผ่น ซึงทำาให้เล็กลงไปอีกมาก ทำาให้เกิดแนวคิด
่
ในการบรรจุวงจรที่สำาคัญสำาหรับการทำางานพื้นฐาน
ของคอมพิวเตอร์ลงในชิปตัวเดียว นั่นคือส่วนของ
CPU (Central Processing Unit) อยูบนชิปตัวเดียว
่
เรียกว่า "ไมโครโปรเซสเซอร์" ตัวอย่างเครื่องในยุคนี้
ได้แก่ IBM 370 ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาด
ใหญ่ และไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก คือ 11
Altair 8800 , aApple II เป็นต้น
12. ( C o mp u te r
G e n e r a t io n s )
ยุคที่ห้า (พ.ศ. 2524 – ปัจจุบัน)
คอมพิวเตอร์อัจฉริยะ
ยุคนี้จนถึงปัจจุบัน ใช้วงจร VLSI (Very Large
-Scale Integrated Circuit) ซึงสามารถบรรจุวงจร
่
ได้มากกว่า 1 ล้านวงจร เป็นช่วงที่กำาลังพัฒนา "ไมโคร
โปรเซสเซอร์" ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึน ทั้งทางด้าน
้
เทคโนโลยี ทางสถาปัตยกรรมโครงสร้าง และการพัฒนา
ภาษาที่ใช้กบระบบซอฟท์แวร์เพื่อให้รับรู้ภาษาพูดของ
ั
มนุษย์โดยตรง มีหน่วยความจำาขนาดมหึมาพอกับการ
จัดการระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างเพียงพอ ซึงต่อ ่
ไปเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีระบบแก้ไขข้อขัดข้องภายใน
ตัวมันเอง และมีความสามารถสูงพอที่จะรับคำาสั่งจาก
ภาษาพูดของมนุษย์ได้ จนถือว่าเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ 12
จำาเป็นอย่างหนึ่งภายในบ้าน