Más contenido relacionado Chapter 92. การประยุก ต์ใ ช้ห ลัก
การเรีย นรู้
มีจ ุด มุ่ง หมายเพื่อ ให้ก าร
เรีย นรู้ม ีค ุณ ภาพและมี
ประสิท ธิภ าพสูง สุด
4. การประยุก ต์ใ ช้ห ลัก
การเรีย นรู้ ย นรู้ใ น
การประยุก ต์ห ลัก การเรี
การเรีย นการสอน
การถ่า ยทอดการเรีย นรู้
องค์ป ระกอบการฝึก เรีย นรูอ ย่า ง
้
มีป ระสิท ธิภ าพ
การควบคุม การเรีย นรูโ ดยการ
้
ให้ร างวัล & ลงโทษ
ความวิต กกัง วลและการเรีย นรู้
6. การประยุก ต์ห ลัก การเรีย นรู้ใ น
การเรีย นการสอน
ใช้ห ลัก การวางเงื่อ นไขแบบ
ลงมือ กระทำา
7. การประยุก ต์ห ลัก การเรีย นรู้ใ น
การเรีย นการสอน
การเรีย นโดย
อาศัย เครื่อ ง
มือ ช่ว ยสอน
การเรีย นโดย
อาศัย แบบ
ฝึก หัด
10. Linear Program
1. จิต วิท ยาเป็น
วิท ยาศาสตร์ท ี่ศ ึก ษา
พฤติก รรม
และจิต
เกี่ย วกับ _______ของ
2. _______มุ่ง เน้น ลัก ษณะ
อินนบวกและ
ด้า ทรีย ์
นัก มานุษ ย
นิย ม
3. การพัฒ นาศัก ยภาพของ
นัก จิต วิเ คราะห์น ิย มใช้
Free
บุคจิต วิบัด
คลา ท ยา
การบำ
4.
Associatio
ทางจิต ด้ว ยวิ เน้
สาขา_______มุ่งธ ี น
n
Develop
การ_______
อธิบ าย
mental
ถึง การที่ท ารกยัง ช่ว ย
Psycholo
เหลือ ตนเองไม่ไ ด้
14. กฎการเรีย นรู้ส ำา หรับ การสร้า ง
โปรแกรม
และเครือ งมือ การสอน
่
Active
Participa Inform Individu
tion
ation
al
or
Feedba Differen
Learning
ck
ce
by Doing
19. กระบวนการที่เ กิด จากการ ้
การถ่า ยทอดการเรีย นรู
ฝึก หัด
หรือ การเรีย นรูง านชิ้น ก่อ น
้
เข้า ไปมีผ ลต่อ การเรีย นงาน
ชิ้น ต่อ มา
การถ่า ยทอด การถ่า ยทอด
การเรีย นรู้
การเรีย นรู้
ทางบวก
ทางลบ
21. การถ่า ยทอด การถ่า ยทอด
การเรีย นรู้
การเรีย นรู้
ทางบวก
ทางลบ
การเรีย นงาน
1 ช่ว ยให้ก าร
เรีย นงาน 2
ง่า ยขึน
้
การเรีย นงาน 1
ทำา ให้ก ารเรีย น
งาน 2 ยากขึ้น
Learning Transfer
Training Transfer
22. การถ่า ยทอดการเรีย นรู้
“การลับ สมอง” ด้ว ยการ
ฝึก หัด งานที่ย ากก่อ น จะ
ช่ว ยให้เ ผชิญ ปัญ หาทั่ว ไปที่
ง่า ยกว่า ได้ด ีข ึ้น ใช่ห รือ ไม่
NO
การฝึก หัด ด้ว ยการเรีย นรู้ส ง ทีม ี
ิ่ ่
ความคล้า ยคลึง กัน ทำา ให้ก าร
ถ่า ยทอดการเรีย นรูม ี
้
24. ความคล้า ยคลึง กัน ของ
งานที่เ รีย น
สิ่ง เร้า ต่า งกัน
ตอบสนอง
คล้า ยกัน
สิ่ง เร้า เหมือ น
กัน ตอบสนอง
ต่า งกัน
ถ่า ยทอดการ
เรีย นรู้ท าง
บวก
ถ่า ยทอดการ
เรีย นรู้ท างลบ
25. การถ่า ยทอดการเรีย นรู้โ ดย
อาศันรู้ห ลัก การเรีย นรู้
ย กฎเกณฑ์
การได้เ รีย
คล้า ยคลึง กัน
สามารถถ่า ยทอดการเรีย นรูส ู่
้
กัน ได้
26. การเรีย นรู้เ ทคนิค การ
เรีย น
วิธ ีก ารหาเคล็ด ลับ การเรีย น
พัก ผ่อ น
คลาย
เครีย ด
องค์
ประกอบ
ไม่ใ ส่ใ จ
สิ่ง เร้า ที่
ไม่
เกีย วข้อ
่
หาความ
สัม พัน ธ์
ของตัว
27. การประยุก ต์ก ารถ่า ยทอดการ
เรีย นรู้ใ นการศึก ษา
1. ความแม่น ยำา หลัก
การพื้น ฐาน
2. สรุป กฎเกณฑ์ไ ปใช้ใ น
สถานการณ์อ ื่น ๆ
3. ปรับ ปรุง วิธ ีก าร
เรีย นให้ก ้า วหน้า
34. Consolidation Theory
เรีย น
Grou เรีย นอนหลับ
89
p1 น
%
Grou เรีย นอนหลับ กิจ กรรม เรีย 86
แทรก
น %
p2 น
เรีย น
Grou เรีย กิจ กรรม
44
แทรก
p3 น
%
Grou ก หัย แบบเว้น ระยะดีก ว่า แบบติย ต่อ
การฝึ เรี ด กิจ กรรม นอนหลับ เรี ด 59
แทรก
น %
กัน เฉพาะในการจำา การคิด แก้ป ัญ หาควร
p4 น
ฝึก หัด แบบต่อ เนื่อ งในระยะแรก
36. การแบ่ง เรีย นเป็น
ส่ว นย่อ ย
การเรีย นหมด
ทุก ส่ว น
เหมาะกับ งานที่ต ้อ ง
อาศัย การจำา
เหมาะกับ งานที่
ต้อ งอาศัย การ
คิด และเข้า ใจ
38. การให้ร างวัล
(Rewarding)
ใช้ใ นการดัด พฤติก รรมของ
อิน ทรีย ์
Intrinsic น Extrinsic
รางวัล ทางใจ เป็
รางวัล ล่อ ใจ
ความพอใจจาก
Reward
Reward
ภายนอก
การทำา งาน
เช่น ความสุข
ความพอใจ หรือ
ความภาคภูม ิใ จ
ไม่เ กี่ย วกับ ตัว งาน
โดยตรงเช่น การ
ทำา สิ่ง ใดเพื่อ
หวัง รางวัล หรือ
43. การลงโทษ
(Punishment)
การลงโทษจะดีก ็ต ่อ เมื่อ
ยุต ิ
พฤติก รรม
ที่ไ ม่เ หมาะ มีป ระโยชน์
สม แล้ว
ในแง่ท เ ป็น ทำา ให้เ กิด
ี่
แนะให้ผ ู้ สัญ ญาณแก่ การจดจำา
ถูก ลงโทษ
การตอบ
ไม่ก ระทำา
ประพฤติต ว
ั
สนอง
พฤติก รรม
ใหม่ใ น
ทำา ให้เ กิด แบบเดิม อีก
ด้า นที่จ ะไม่ ความระวัง
45. ความวิต กกัง วลและการ
เรี วามกั
บุค คลควรมีคย นรู้ ง วลบ้า ง
แต่ไ ม่ค วรมีค วามกัง วลมากเกิน
ไป ง วลตำ่า จะ
บุค คลทีม ค วามกั
่ ี
ทำา งานได้อ ย่า งมีป ระสิท ธิภ าพ
มากกว่า คนทีก ัง วลสูง
่
46. ความวิต กกัง วลและการ
บุค คลทีมเรีย นรู้ วลตำ่า จะ
่ ค วามกัง
ี
ทำา งานได้อ ย่า งมีป ระสิท ธิภ าพ
มากกว่า คนทีก ัง วลสูง
่
47. การวิต กกัง วลมีผ ลต่อ การเรีย น
หนัง สือ
ผู้ท ี่ก ง วลสูง จะได้ค ะแนนน้อ ย
ั
กว่า ผู้ท ก ง วลตำ่า
ี่ ั