Enviar búsqueda
Cargar
Dict sadda 2
•
0 recomendaciones
•
519 vistas
Rose Banioki
Seguir
Denunciar
Compartir
Denunciar
Compartir
1 de 611
Descargar ahora
Descargar para leer sin conexión
Recomendados
บาลี 68 80
บาลี 68 80
Rose Banioki
5 43++มงฺคลตฺถทีปนี+(ปฐโม+ภาโค)
5 43++มงฺคลตฺถทีปนี+(ปฐโม+ภาโค)
Tongsamut vorasan
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
gueste5023c7
6 48สมฺนฺตปาสาทิกา+นาม+วินยฏฐกถาย+อตฺถโยชนา+(ทุติโย+ภาโค)
6 48สมฺนฺตปาสาทิกา+นาม+วินยฏฐกถาย+อตฺถโยชนา+(ทุติโย+ภาโค)
Tongsamut vorasan
KKU SCL Research 2008
KKU SCL Research 2008
Denpong Soodphakdee
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
Suwicha Tapiaseub
บัญญัติรัก
บัญญัติรัก
Pradya Wongworakun
Entrepreneurship
Entrepreneurship
DrDanai Thienphut
Recomendados
บาลี 68 80
บาลี 68 80
Rose Banioki
5 43++มงฺคลตฺถทีปนี+(ปฐโม+ภาโค)
5 43++มงฺคลตฺถทีปนี+(ปฐโม+ภาโค)
Tongsamut vorasan
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
gueste5023c7
6 48สมฺนฺตปาสาทิกา+นาม+วินยฏฐกถาย+อตฺถโยชนา+(ทุติโย+ภาโค)
6 48สมฺนฺตปาสาทิกา+นาม+วินยฏฐกถาย+อตฺถโยชนา+(ทุติโย+ภาโค)
Tongsamut vorasan
KKU SCL Research 2008
KKU SCL Research 2008
Denpong Soodphakdee
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
Suwicha Tapiaseub
บัญญัติรัก
บัญญัติรัก
Pradya Wongworakun
Entrepreneurship
Entrepreneurship
DrDanai Thienphut
แหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึก
แหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึก
takuapa
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
privategold
Structure and development of plant seed-group5/334
Structure and development of plant seed-group5/334
ThanyapornK1
จิตตนคร นครหลวงของโลก
จิตตนคร นครหลวงของโลก
Panda Jing
การศึกษาเรื่องการกในคัมภีร์โมคคัลลานไวยากรณ์
การศึกษาเรื่องการกในคัมภีร์โมคคัลลานไวยากรณ์
Tongsamut vorasan
Tri91 02+มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tri91 02+มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tongsamut vorasan
MY HEART WILL GO ON
MY HEART WILL GO ON
Piyaratt R
Taxiway
Taxiway
konthaiuk
Happy Work Place
Happy Work Place
PMAT
09 คาถาที่ ๑๘๐ ๑๙๗
09 คาถาที่ ๑๘๐ ๑๙๗
Phaiboon Sopha
Developing Hc
Developing Hc
DrDanai Thienphut
โบราณวัตถุและโบราณสถาน
โบราณวัตถุและโบราณสถาน
guest7e2840
สารัตถทีปนี จูฬวรรควรรณนา-ปริวาวรรควรรณนา
สารัตถทีปนี จูฬวรรควรรณนา-ปริวาวรรควรรณนา
บริษัทปุ้มปุ้ย
Give N기부(기쁜기부)
Give N기부(기쁜기부)
The Hope Institute/ 희망제작소
Reading Technic
Reading Technic
ASI403 : Arsomsilp Institue of the Arts
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
gueste5023c7
ร่างพระราชบัญญัติ 41 ผ่านวาระ 3
ร่างพระราชบัญญัติ 41 ผ่านวาระ 3
PMAT
คู่มือทำวัตรเช้าเย็น สำหรับศีลจารีศีลจาริณี
คู่มือทำวัตรเช้าเย็น สำหรับศีลจารีศีลจาริณี
Tongsamut vorasan
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Rose Banioki
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway
Rose Banioki
Instant tax
Instant tax
Rose Banioki
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fund
Rose Banioki
Más contenido relacionado
La actualidad más candente
แหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึก
แหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึก
takuapa
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
privategold
Structure and development of plant seed-group5/334
Structure and development of plant seed-group5/334
ThanyapornK1
จิตตนคร นครหลวงของโลก
จิตตนคร นครหลวงของโลก
Panda Jing
การศึกษาเรื่องการกในคัมภีร์โมคคัลลานไวยากรณ์
การศึกษาเรื่องการกในคัมภีร์โมคคัลลานไวยากรณ์
Tongsamut vorasan
Tri91 02+มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tri91 02+มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tongsamut vorasan
MY HEART WILL GO ON
MY HEART WILL GO ON
Piyaratt R
Taxiway
Taxiway
konthaiuk
Happy Work Place
Happy Work Place
PMAT
09 คาถาที่ ๑๘๐ ๑๙๗
09 คาถาที่ ๑๘๐ ๑๙๗
Phaiboon Sopha
Developing Hc
Developing Hc
DrDanai Thienphut
โบราณวัตถุและโบราณสถาน
โบราณวัตถุและโบราณสถาน
guest7e2840
สารัตถทีปนี จูฬวรรควรรณนา-ปริวาวรรควรรณนา
สารัตถทีปนี จูฬวรรควรรณนา-ปริวาวรรควรรณนา
บริษัทปุ้มปุ้ย
Give N기부(기쁜기부)
Give N기부(기쁜기부)
The Hope Institute/ 희망제작소
Reading Technic
Reading Technic
ASI403 : Arsomsilp Institue of the Arts
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
gueste5023c7
ร่างพระราชบัญญัติ 41 ผ่านวาระ 3
ร่างพระราชบัญญัติ 41 ผ่านวาระ 3
PMAT
คู่มือทำวัตรเช้าเย็น สำหรับศีลจารีศีลจาริณี
คู่มือทำวัตรเช้าเย็น สำหรับศีลจารีศีลจาริณี
Tongsamut vorasan
La actualidad más candente
(18)
แหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึก
แหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึก
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
ท.เลียงพิบูลย์Tl001
Structure and development of plant seed-group5/334
Structure and development of plant seed-group5/334
จิตตนคร นครหลวงของโลก
จิตตนคร นครหลวงของโลก
การศึกษาเรื่องการกในคัมภีร์โมคคัลลานไวยากรณ์
การศึกษาเรื่องการกในคัมภีร์โมคคัลลานไวยากรณ์
Tri91 02+มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
Tri91 02+มหาวิภังค์+เล่ม+๑+ภาค+๒ (1)
MY HEART WILL GO ON
MY HEART WILL GO ON
Taxiway
Taxiway
Happy Work Place
Happy Work Place
09 คาถาที่ ๑๘๐ ๑๙๗
09 คาถาที่ ๑๘๐ ๑๙๗
Developing Hc
Developing Hc
โบราณวัตถุและโบราณสถาน
โบราณวัตถุและโบราณสถาน
สารัตถทีปนี จูฬวรรควรรณนา-ปริวาวรรควรรณนา
สารัตถทีปนี จูฬวรรควรรณนา-ปริวาวรรควรรณนา
Give N기부(기쁜기부)
Give N기부(기쁜기부)
Reading Technic
Reading Technic
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
สัปดาห์ที่ ๒เทคนิคการอ่าน
ร่างพระราชบัญญัติ 41 ผ่านวาระ 3
ร่างพระราชบัญญัติ 41 ผ่านวาระ 3
คู่มือทำวัตรเช้าเย็น สำหรับศีลจารีศีลจาริณี
คู่มือทำวัตรเช้าเย็น สำหรับศีลจารีศีลจาริณี
Más de Rose Banioki
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Rose Banioki
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway
Rose Banioki
Instant tax
Instant tax
Rose Banioki
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fund
Rose Banioki
หนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญา
Rose Banioki
Nutritive values of foods
Nutritive values of foods
Rose Banioki
Thaifood table
Thaifood table
Rose Banioki
Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7
Rose Banioki
Iphone user guide th
Iphone user guide th
Rose Banioki
P4
P4
Rose Banioki
P3
P3
Rose Banioki
P1
P1
Rose Banioki
To myfriends
To myfriends
Rose Banioki
The differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greece
Rose Banioki
Toilets pierre daspe
Toilets pierre daspe
Rose Banioki
Tibet
Tibet
Rose Banioki
Pps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_bea
Rose Banioki
Photosdutempspass
Photosdutempspass
Rose Banioki
Photo mix7
Photo mix7
Rose Banioki
Photos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobau
Rose Banioki
Más de Rose Banioki
(20)
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway
Instant tax
Instant tax
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fund
หนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญา
Nutritive values of foods
Nutritive values of foods
Thaifood table
Thaifood table
Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7
Iphone user guide th
Iphone user guide th
P4
P4
P3
P3
P1
P1
To myfriends
To myfriends
The differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greece
Toilets pierre daspe
Toilets pierre daspe
Tibet
Tibet
Pps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_bea
Photosdutempspass
Photosdutempspass
Photo mix7
Photo mix7
Photos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobau
Dict sadda 2
1.
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ.
ปยุตฺโต) (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑)
2.
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท © พระพรหมคุณาภรณ
(ป. อ. ปยุตฺโต) ISBN 974-575-029-8 พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ จํานวน ๑,๕๐๐ เลม – งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต เจาอาวาสพระพิเรนทร พิมพครั้งที่ ๒ (เพิ่มศัพทและปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๒๗ จํานวน ๙,๔๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๓ (เพิ่มภาคผนวก) พ.ศ. ๒๕๒๘ จํานวน ๕,๐๐๐ เลม – พิมพถวายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดย “ทุนพิมพพจนานุกรมพุทธศาสน” พิมพครั้งที่ ๔–๙ พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๓ จํานวน ๓๑,๕๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ (จัดเรียงพิมพใหมดวยระบบคอมพิวเตอร) ขนาดตัวอักษรธรรมดา ๕,๐๐๐ เลม และขนาดตัวอักษรใหญ ๕,๐๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๑๑ - มีนาคม ๒๕๕๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑) – คณะผูศรัทธารวมกันจัดพิมพเปนธรรมทาน จํานวน ๑๐,๐๐๐ เลม พิมพที่
3.
อนุโมทนา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ที่พิมพแจกเผื่อแผกันออกไปในครั้ง กอน
มาถึงบัดนี้ กลาวไดวาไมมีเหลือที่จะมอบใหแกผูใด กลายเปนของหายากอยาง ยิ่ง ผูศรัทธามากหลายทาน จึงประสงคจะพิมพพจนานุกรมฯ ฉบับนั้นเพิ่มขึ้น เพื่อใช ศึกษาคนควาเองหรือใชศึกษาในกลุมในหมูของตนบาง เพื่อแจกเปนธรรมทาน เปน การเผยแพรสงเสริมความรูความเขาใจในพระพุทธศาสนาใหกวางขวางเพิ่มทวียิ่งขึ้น บาง ดังเปนที่ทราบกันวา ไดมีการรวมกลุมบอกแจงบุญเจตนารวมกันไว โดยมี อาจารยวิไลวรรณ เวชชาชีวะ เปนศูนยกลาง และตอมา ไดมีกลุมที่รวมขาวทางคุณ กานดา อารยางกูร และคุณบุบผา คณิตกุล มาประสานเสริม จึงเพิ่มจํานวนผูจะ บําเพ็ญธรรมทานมากขึ้นๆ แมกระนั้น ญาติโยมผูศรัทธาก็ไมอาจดําเนินการอะไรคืบหนา เพราะทางดาน ตัวผูเรียบเรียงเองเงียบอยู ไมรูกัน จนกระทั่ง เมื่อทราบขาววาผูเรียบเรียงกําลังชําระ เพิ่มเติมพจนานุกรมเลมนั้นอยู ผูศรัทธา ซึ่งปรารถนาจะพิมพ พจนานุกรมพุทธ- ศาสตร ฉบับประมวลธรรม ดวย ก็ไดตกลงกันวาจะรอพิมพพจนานุกรมทั้งสองเลม พรอมในคราวเดียวกัน ในที่สุด เวลาผานไป ๒-๓ ป บัดนี้ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ผานการชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ เสร็จแลว หนังสือกลายเปนเลมหนาใหญ มีเนื้อความ เพิ่มขึ้นมากมาย ถึงโอกาสที่จะดําเนินการพิมพเผยแพรตามบุญเจตนาที่ไดตั้งไว ขออนุโมทนาฉันทะในธรรมและไมตรีจิตตอประชาชน ของทานผูศรัทธาที่ใฝใน ธรรมทานบุญกิริยา อันเปนเครื่องเจริญธรรมเจริญปญญาแกประชาชน หวังไดวา ธรรมทานของผูศรัทธา จะเปนสวนชวยดํารงรักษาสืบตออายุพระพุทธศาสนา และ เปนปจจัยเสริมสรางประโยชนสุขใหแผขยายกวางไกลออกไปในโลก ขอใหผูบําเพ็ญ กุศลจริยานี้ พรอมญาติมิตรทั้งปวง เจริญดวยจตุรพิธพรชัย รมเย็นในธรรม มีความสุข เกษมศานตยั่งยืนนานทั่วกัน พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๑
4.
บันทึกนํา - พิมพครั้งที่
๑๑ (ฉบับ “ชําระเพิ่มเติม ชวงที่ ๑”) หนังสือนี้เกิดขึ้น ๒๙ ปมาแลว เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ เดิมทีนั้นมุงใหเปนงานสําหรับใชไปพลาง โดยพัก งานพจนานุกรมเดิมที่เริ่มมาแต พ.ศ. ๒๕๐๖ ไวกอน (มีความเปนมาดังไดเลาไวตางหาก) และเปนงานเรงดวน เฉพาะหนา เพื่อเปนอนุสรณในงานพระราชทานเพลิงศพทานอาจารยพระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต อดีตเจา อาวาสวัดพระพิเรนทร ทําไวเพียงเปนขอมูลพื้นฐาน สําหรับผูเรียนนักธรรม และผูแรกศึกษา จึงตั้งชื่อวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม พรอมกับหวังวาจะหาโอกาสปรับปรุงและเพิ่มเติมตอไป บัดนี้ งานพจนานุกรมเดิมที่เริ่มแตป ๒๕๐๖ ซึ่งพักไว ไดกลายเปนพับไปแลว สวน พจนานุกรมพุทธ ศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ (เปลี่ยนเปนชื่อปจจุบันเมื่อพิมพครั้งที่ ๒ ใน พ.ศ.๒๕๒๗ เพื่อเขาชุดกับ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม ที่ไดเกิดขึ้นกอนตั้งแต พ.ศ.๒๕๑๘) ยังเปนเพียงขอมูลพื้นฐาน อยูอยางเดิม จนกระทั่งตนปที่แลว เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๐ ผานเวลามา ๒๘ ป บังเอิญผูเรียบเรียงเกิดมีโรค แทรกที่คอนขางยืดเยื้อ ก็เลยไดมีเวลาและโอกาสหันไปรื้อฟนงานเพิ่มเติมพจนานุกรมนี้ แตกระนั้น ก็กลาย เปนงานยืดเยื้อ มีงานอื่นมาแยงเวลาไปเสียมาก ถึงขณะนี้ ๑ ปครึ่ง จึงยุติที่จะพิมพเผยแพรไปคราวหนึ่งกอน งานปรับปรุงและเพิ่มเติมนี้ ในที่นี้ เรียกวา การชําระ-เพิ่มเติม เปนงานใหญ ยากจะทําใหเต็มตาม ตองการ จึงไดแบงงานนั้นเปน ๓ ชวง ดังนี้ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: แกไขปรับปรุงขอขาดตกบกพรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะสวนหลงตา ที่บังเอิญพบ และเพิ่มเติมคําศัพทและคําอธิบายที่รีบดวน หรือบังเอิญนึกได รวมทั้งศัพทที่บันทึกไวระหวางเวลาที่ ผานมา (เลือกทําเฉพาะคําที่ไมซับซอนนัก) และบางคําที่ทานผูใชไดมีน้ําใจแจงมาวาเจอคําผิดหรือคนหาไมพบ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒: อาน-ตรวจตลอดเลม เพื่อจะไดมองเห็นคําพิมพผิด คําตก จุดและแงที่ จะแกไข-ปรับปรุง-เพิ่มเติมทั่วทั้งหมด พรอมทั้งจัดปรับคําอธิบายศัพททั้งของเดิมและสวนที่เพิ่มเติม ใหเขา มาตรฐานเดียวกัน ทั้งในแงการแสดงความหมาย วิธีอธิบาย และอัตราสวนความยาวที่สัมพันธกับความสําคัญ ของศัพทนั้นๆ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๓: มุงที่การจัดระบบ เพื่อใหสม่ําเสมอ กลมกลืน เปนแบบแผนอันเดียวกัน และทั่วกัน เชน มีคําอาน บอกที่มาในคัมภีร แสดงคําเดิมในภาษาบาลีและสันสกฤต และถาเปนไปได ใหคํา แปลภาษาอังกฤษของศัพทตั้งหรือหัวศัพท พรอมทั้งแผนที่และภาพประกอบ บัดนี้ ถือวาเสร็จงาน ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ เนื้อหนังสือขยายจากเดิมเพิ่มขึ้น ๒๐๔ หนา (จาก ๓๗๖ หนา เปน ๕๘๐ หนา) มีศัพทที่ปรับแกเพิ่มเติมประมาณ ๑,๑๐๐ คํา แตพรอมกับที่มีศัพทและคําอธิบายเพิ่มขึ้น เปนอันมาก ก็เกิดความไมสมดุลขึ้น เพราะวา ในขณะที่ศัพทเพิ่มใหม และศัพทที่ปรับปรุง (เชน ปริตร, ภาณ ยักษ, มานะ) มีคําอธิบายยืดยาว ดังจะเปนสารานุกรม แตคําเกาที่มีอยูเดิมสวนใหญมีคําอธิบายสั้นนิดเดียว ทั้งนี้ ขอใหถือวาคงใชตอไปพลางกอน และใหความเรียบรอยราบรื่นเปนเรื่องของการชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒ และ ชวงที่ ๓ ที่อาจจะมีขางหนา พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๑
5.
ความเปนมา ในการ “ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่
๑”: ม.ค. ๒๕๕๐ - มิ.ย. ๒๕๕๑ ก) งานในโครงการ ชะงัก-หายไป ยอนหลังไปถึง พ.ศ.๒๕๐๖ เมื่อหนังสือ Student’s Thai–Pali–English Dictionary of Buddhist Terms เลมเล็กๆ เสร็จแลว ผูจัดทําหนังสือนี้ ก็ไดเริ่มงานพจนานุกรมพระพุทธศาสนา งานคางที่ ๑: เริ่มแรก คิดจะทําพจนานุกรมพระพุทธศาสนาเชิงสารานุกรม ฉบับที่คอนขาง สมบูรณเลยทีเดียว มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเขียนแยกเปน ๒ คอลัมน ซาย-พากยไทย และ ขวา-พากยอังกฤษ เริ่ม ๒๙ ก.ย. ๒๕๐๖ ถึง ๑๒ พ.ย. ๒๕๐๗ จบอักษร “บ” (ยังคางชําระ บางคํา) ตองเขารับงานที่มหาจุฬาฯ แลวยุงกับงานที่นั่น จนงานพจนานุกรมชะงักแลวหยุดไปเลย งานคางที่ ๒: เมื่อเห็นวายากจะมีโอกาสทํางานคางนั้นตอ จึงคิดใหมวาจะทําฉบับที่มีเพียงพากย ไทย อยางยนยอ โดยมีภาษาอังกฤษเฉพาะคําแปลศัพทใสวงเล็บหอยทายไว แลวเริ่มงานใน พ.ศ.- --- แตงานที่มหาจุฬาฯ มาก พอทําจบ “ต” ก็ตองหยุด (ตนฉบับงานชุดนี้ทั้งหมดหายไปแลว) (ระหวางนั้น ในป ๒๕๑๕ โดยคํานิมนตของทานเจาคุณเทพกิตติโสภณ ครั้งยังเปนพระมหา สมบูรณ สมฺปุณฺโณ ตกลงทําประมวลหมวดธรรมออกมาใชกันไปพลางกอน ทําใหเกิดพจนานุกรม พุทธศาสตร[ตอมาเติมคําวา ประมวลธรรม]เสร็จเปนเลม ใน พ.ศ. ๒๕๑๘) งานคางที่ ๓: ใน พ.ศ.๒๕๑๙ ไปเปนวิทยากรที่ Swarthmore College เมื่อกลับมาในป ๒๕๒๑ ตั้งใจหยุดงานอื่นทั้งหมดเพื่อจัดทําสารานุกรมพุทธศาสนาโดยเริ่มตนใหมทําเฉพาะพากยภาษาไทย มี ภาษาอังกฤษเพียงคําแปลศัพทในวงเล็บหอยทาย พอใกลสิ้นป ๒๕๒๑ ก็จบ “ก” รวมได ๑๐๕ หนา กระดาษพิมพดีด และขึ้น “ข” ไปไดเล็กนอย แลวหันไปทําคําเกี่ยวกับประวัติเสร็จไปอีก ๘๐ หนา ตนป ๒๕๒๒ นั้นเอง ศาสตราจารย ดร.ระวี ภาวิไล จะพิมพพุทธธรรม ไดขอเวลาทานเพื่อ เขียนเพิ่มเติม แลวการไปบรรยายที่ Harvard University มาแทรก กวาจะเติมและพิมพเสร็จ สิ้น เวลา ๓ป งานทําพจนานุกรม-สารานุกรมเปนอันหยุดระงับไป จากนั้นงานดานอื่นเพิ่มขึ้นตลอดมา ข) งานใหมนอกสาย แตเสร็จ: พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ๑. ยุคพิมพระบบเกา ตนป ๒๕๒๒ นั้นแหละ เมื่อเห็นวาคงไมมีโอกาสฟนงานที่คาง ก็นึกถึงหนังสือ ศัพทหลัก สูตรภาษาไทย (สําหรับวิชาใหมในหลักสูตรนักธรรม) ที่มหาจุฬาฯ พิมพออกมาใน พ.ศ.๒๕๐๓ ซึ่ง แทบจะยังไมทันไดเผยแพร วิชาใหมนั้นก็ถูกยกเลิกเสีย จึงพบหนังสือชุดนั้นเหลือคางถูกทอดทิ้ง อยูมากมาย เห็นวา มีขอมูลพอจะทําเปนพจนานุกรมเบื้องตนได อยางนอยหัวศัพทที่มีอยูก็จะทุน แรงทุนเวลาในการเก็บศัพทไปไดมาก จึงตกลงทํางานใหมชิ้นที่งายและรวบรัด โดยนําหนังสือชุดนั้น ทั้ง ๓ เลม รวม ๙ ภาค (ศัพท น.ธ.ตรี–โท–เอก ชั้นละ ๓ วิชา จึงมีชั้นละ ๓ ภาค) มาจัดเรียงเปน
6.
ค พจนานุกรมเบื้องตนเลมเดียว พิมพออกมากอน ในงานพระราชทานเพลิงศพทานอาจารยพระครูปลัด สมัย
กิตฺติทตฺโต (๑๙ พ.ค. ๒๕๒๒) เรียกชื่อวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม (เปลี่ยนเปนชื่อปจจุบันวาพจนานุกรมพุทธศาสนฉบับประมวลศัพท เมื่อพิมพครั้งที่๒พ.ศ.๒๕๒๗) หนังสือใหมเลมนี้ไมเกี่ยวของกับงานที่ทํามาแลวแตอยางใด งานเกาที่ทําคางไวทั้งหมดถูกพัก เก็บเฉยไว เพราะในกรณีนี้ มุงสําหรับผูเรียนขั้นตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ตองการเพียงศัพท พื้นๆ และความหมายสั้นๆ งายๆ จึงคงขอมูลสวนใหญไวตามหนังสือศัพทหลักสูตรภาษาไทยนั้น โดยแกไขปรับปรุงอธิบายเพิ่มหรือเขียนขยายบางเพียงบางคํา และเติมศัพทนักธรรมที่ตกหลนและ ศัพททั่วไปอันควรรูที่ยังไมมี เขามาบาง รวมแลว เปนขอมูลของเกากับของใหมราวครึ่งตอครึ่ง หลังจากพิมพออกมาแลว พจนานุกรมเลมนี้ก็มีชะตากรรมที่ขึ้นตอระบบการพิมพยุคนั้น โดยเฉพาะตนแบบซึ่งอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย การพิมพครั้ง ตอๆ มา ตองพิมพซ้ําตามตนแบบเดิม ถาจําเปนตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งตอมา แผนกระดาษตนแบบก็ผุเปอย โดยเฉพาะพจนานุกรมนี้ ตนแบบที่ทําขึ้นใหมในการพิมพครั้งที่ ๒ ไดสูญหายไปตั้งแตพิมพเสร็จ การพิมพตอนั้นมาตองใชวิธีถายภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนๆ แตกระนั้น พจนานุกรมนี้ยังมีศัพทและคําอธิบายที่จะตองเพิ่มอีกมาก เมื่อแกไขของเดิมไม ได พอถึงป ๒๕๒๘ จะพิมพครั้งที่ ๓ จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมเปน “ภาคผนวก” (มี ศัพทตั้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา) จากนั้นมา ก็ไดแคพิมพซ้ําเดิมอยางเดียว ๒. เขาสูยุคขอมูลคอมพิวเตอร เมื่อเวลาผานมาถึงยุคคอมพิวเตอร ก็มองเห็นทางวาจะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติมพจนานุกรม นี้ได แตก็ตองรอจุดตั้งตนใหม คือพิมพขอมูลพจนานุกรมในเลมหนังสือ ลงในคอมพิวเตอร แมจะตองใชเวลาและแรงงานมาก ก็มีทานที่สมัครใจเสียสละ ไดพิมพขอมูลหนังสือ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ลงในคอมพิวเตอร โดยมิไดนัดหมายกัน เทาที่ทราบ ๔ ชุด เริ่มดวยพระมหาเจิม สุวโจ แหงมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ทํางานอยูหลายปจนเตรียมขอมูล เสร็จแลวมอบมาใหเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑ แลวก็มีชุดของผูอื่นตามมาอีก ทั้งที่มีขอมูลในคอมพิวเตอรแลว ผูจัดทําเองก็ไมมีเวลาตรวจ เวลาผานมาจนกระทั่ง รศ. ดร. สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต (มีบุตรหญิง–ชาย คือ น.ส.ภาวนา ตั้งแตยังเปน ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ และนองชาย คือ นายปญญา ตั้งแตยังเปน ด.ช.ปญญา ฌานวังศะ เปนผูชวยพิมพขอมูล) นอกจาก พิมพขอมูลหนังสือลงในคอมพิวเตอรแลวยังชวยรับภาระในการพิสูจนอักษร(ตรวจปรูฟ)ตลอดเลม นอกจากตรวจเองแลว ก็ยังหาพระชวยตรวจทานอีก ใหแนใจวาขอมูลใหมในระบบคอมพิวเตอรนี้ ตรงกับขอมูลเดิมในเลมหนังสือ แลวในที่สุด พจนานุกรมนี้ก็พิมพเสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖ เนื่องจากผูจัดทําเองยังไมมีเวลาแมแตจะตรวจปรูฟ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล ศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ที่เสร็จออกมาในพ.ศ.๒๕๔๖ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลในระบบคอมพิวเตอร จึงมีหลักการทั่วไปวา ใหคงเนื้อหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียงพิมพเกายังไมปรับปรุงหรือเพิ่มเติม
7.
ง ค) งานเริ่มเขาทาง: ชําระ-เพิ่มเติม
ชวงที่ ๑ ๑. ผานไป ๒๘ ป จึงถึงทีชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ บัดนี้ เวลาผานไป ๒๙ ปแลว นับแตพิมพ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ออก มาครั้งแรก ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ขอมูลสวนใหญในพจนานุกรมนั้น ยังเปนขอมูลพื้นฐานที่ตั้งใจวาจะ ชําระ-เพิ่มเติม แตก็ขัดของตลอดมา ในชวง ๒๔ ปแรก ติดขัดดวยระบบการพิมพไมเอื้อแลวความบีบคั้นดานเวลาก็ซ้ําเขาไป สวน ในชวง ๔ ปที่ชิดใกลนี้ ทั้งที่มีขอมูลสะดวกใชอยูในคอมพิวเตอร ก็ติดขัดดวยขาดเวลาและโอกาส จนมาถึงขึ้นปใหม๒๕๕๐นี้ เมื่อหาโอกาสปลีกตัวจากวัด พอดีโรคทางเดินหายใจกําเริบขึ้นอีก คออักเสบลงไปถึงสายเสียง พูดยากลําบาก ตอดวยกลามเนื้อยึดสายเสียงอักเสบ โรคยืดเยื้อเกิน ๒ เดือน ไดไปพักรักษาตัวในชนบทนานหนอย เปนโอกาสใหไดเริ่มงานชําระ-เพิ่มเติมพจนานุกรม แตในขั้นนี้ เรงทําเฉพาะสวนรีบดวนและสวนที่พบเฉพาะหนาใหเสร็จไปชั้นหนึ่งกอน เรียกวา “งานชําระ-เพิ่ม เติม ชวงที่ ๑” คิดวาลุลวงไปไดทีหนึ่ง คงจะปดงานจัดใหพรอมเพื่อเขาโรงพิมพไดทันกอนโรคจะหาย แตแลวก็ไมเปนไปอยางนั้น จึงมีเรื่องตองเลาตออีก ๒. อะไรมากับ และจะมาตาม การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ งานชําระ-เพิ่มเติมนี้ คือการทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีคุณสมบัติ เต็มตามความมุงหมาย เพราะหนังสือที่พิมพเรื่อยมานั้น จัดทําขึ้นอยางรวบรัดเพื่อพอใชไปพลาง กอน เพียงเปนขอมูลพื้นฐานอยางที่กลาวแลว (มีบางบางคําที่มีโอกาสขยายความไปกอนแลว) เนื่องจากตระหนักวา จะไมมีโอกาสทํางานชําระ-เพิ่มเติมอยางตอเนื่องใหเสร็จสิ้นไปในคราว เดียว จึงกะวาจะแบงงานนี้เปน ๓ ชวง สําหรับชวงที่ ๑ คิดวาเพียงจะแกไขปรับปรุงขอขาดตกบก พรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะสวนหลงตาที่บังเอิญพบ และเพิ่มเติมคําศัพทและคําอธิบายที่รีบ ดวน หรือบังเอิญนึกได เสร็จแลวก็พิมพออกไปทีหนึ่งกอน งานปรับปรุงนอกจากนั้น เอาไวทําใน ชวงที่ ๒ และ ชวงที่ ๓ อยางไรก็ดี เมื่อตกลงยุติงานชวงที่ ๑ วาพอเทานี้กอน (๑๖มี.ค.๒๕๕๐) พอดีไดอานจดหมาย ของพระมหานิยม สีลสํวโร (เสนารินทร) ที่สงมาตั้งแต ๑๘ พ.ย. ๒๕๔๗ ก็มองเห็นวา ทานแจงคํา ผิด-ตก ที่สําคัญ แมจะมากแหง ก็ใชเวลาแกไขไมมาก จึงทําใหเสร็จไปดวยในคราวนี้ รวมเพิ่มที่แก ไขอีกราว ๕๐ แหง อีกทั้งไดเห็นชัดวา ดวยฉันทะของทานเอง พระมหานิยมตรวจพจนานุกรม โดย เทียบกับเลมเดิมที่เปนตนฉบับไปดวยนี้ ทานใชเวลาอานจริงจังละเอียด จนทําใหคิดวา ในการ ชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๒ ที่จะอานอยางตรวจปรูฟตลอดดวยนั้น งานสวนนี้คงเบาลงมาก จะไดมุงไป ที่งานเพิ่มเติม-ปรับปรุงทั่วไป จึงขออนุโมทนาพระมหานิยม สีลสํวโร ไว ณ ที่นี้ พอจะปดงาน หันมาดูรายการศัพทที่พระธรรมรักษาแจงมาตั้งแต ๑๔ ธ.ค.๒๕๒๘ จนถึง ก.ค. ๒๕๒๙วาไมพบในพจนานุกรมฯรวมได๒๘คําเปนศัพทในอรรถกถาชาดกแทบทั้งนั้นเห็นวานาจะทํา ใหเสร็จไปดวยเลย จึงตัดคํานอกขอบเขตออกไป ๖ ศัพท (๑๙ หัวศัพทที่ทําเพิ่มตามเสนอของพระ
8.
จ ธรรมรักษาคือจุลกฐิน ฉาตกภัย ธุวภัต
นิพัทธทาน บุพจริยา ประชุมชาดก ปาฏิหาริยปกษ พาหิรทาน พาหิรภัณฑ วิตถารนัย สัตตสดกมหาทาน สัมมานะ สาธุกีฬา สุคโตวาท อธิคมธรรม อภิสัมพุทธคาถา อสทิสทาน อุปทวะ อุยยานบาล, อุทยานบาล) แลวแถมเองอีกประมาณ ๒๐ คํา ใชเวลาคน-เขียนจน เสร็จอีก ๔ วัน (ของพระมหานิยมราว ๕๐ ศัพท ทานตรวจใชเวลามากมาย แตเปนการแกคําที่พิมพ ผิด-ตก จึงใชเวลาเพียง ๖.๔๐ ชม. ก็เสร็จ สวนของพระธรรมรักษา แจงคําที่ไมเจอ แมจะนอย ทําแค ๑๙ หัวศัพทแตตองเขียนเพิ่มใหม จึงใชเวลามาก) ขออนุโมทนาพระธรรมรักษาดวย มีจุดหนึ่งซึ่งการแกปญหาคอนขางซับซอน คือ คํา “อสิตดาบส” ที่ไดรับความเอื้อเฟอจาก รอง ศาสตราจารย ดร.ภัทรพร สิริกาญจน แจงใหทราบวา ทานที่ทํางานวิชาการ ทั้งฝายผูเสนองาน และ ฝายผูพิจารณางาน ประสบความติดของ เพราะหลักฐานชั้นตนกับเอกสารอางอิง มีขอมูลขัดแยงกัน ใบแจงของ ดร.ภัทรพร สิริกาญจน ชวยทําใหเอะใจและไดตรวจสอบขอมูล ซึ่งไดแกปญหาดวยวิธี บอกขอมูลไปตามที่เปนของแหลงนั้นๆ โดยไมวินิจฉัย ขออนุโมทนาทานผูแจง เปนอยางยิ่ง เมื่องานปรับแกเพิ่มเติมดําเนินมาถึงวันที่๒๔มีนาคม๒๕๕๐มีศัพทตั้งที่เพิ่มขึ้นและที่มีความ เปลี่ยนแปลงราว ๓๑๗ หัวศัพท (ไมนับการแกคําผิด-ตก ที่พระมหานิพนธชวยแจงมาราว ๕๐ แหง) หนังสือหนาเพิ่มขึ้น ๔๘ หนา (จากเดิม ๓๗๖ หนา เปน ๔๒๔ หนา) คิดวาจะยุติเทานี้และสงโรงพิมพ อยางไรก็ดี เมื่อเหลือบไปดูในหนังสือที่พิมพรุนเกา พ.ศ.๒๕๒๗ ซึ่งใชเปนที่ทยอยบันทึกศัพท ที่นึกขึ้นมาวาควรเพิ่มหรือควรปรับปรุง ก็ไดเห็นวาบางศัพทนาจะเติมลงไปในคราวนี้ดวย ก็เลยรอเพิ่ม อีกหนอย พอทําคํานี้เสร็จ เห็นวาคํานั้นก็นาทํา ก็เติมอีกหนอย แลวมีงานอื่นที่เรงแทรกเขามาเปน ระยะๆ รวมแลวงานอื่นแทรกราว๘เดือน และมีเวลาทํายืดมาราว๖ เดือน ทําไปทํามาก็ยุติลงในบัดนี้ การแกไขและเพิ่มเติมทั้งหมดนี้ เปนการทําเปนจุดๆ มุงจําเพาะไปที่จุดนั้นๆ จึงยังไมไดตรวจดู ทั่วตลอดทั้งเลม การแกคําที่พิมพผิดและการเพิ่มศัพทใหมจํานวนมาก เปนเรื่องที่มาจากความบังเอิญ พบบังเอิญเห็น เชน จะดูคํา “สรณคมน” วาควรอธิบายเพิ่มเติมหรือไม พอดีเหลือบไปเห็นคํา “สรภัญญะ” ซึ่งอยูใกลๆ ทั้งที่ไมไดนึกไววาจะทําอะไรกับคํานี้เลย แตพอเห็นวาไดใหความหมายไวสั้น นัก ก็เลยเขียนอธิบายใหมอยางคอนขางยาว, จะอธิบายคําวา “ภาณวาร” ใหชัดขึ้น ก็พลอยนึกถึงคําวา “ภาณยักษ” ดวย ทั้งที่เดิมไมมีคํานี้ และไมไดตั้งใจมาแตเดิม ก็เลยบรรจุ “ภาณยักษ” เขามาดวย และ อธิบายเสียยาว, คําวา “ถวายพรพระ” “คาถาพาหุง” “ชัยมงคลคาถา” ฯลฯ ก็เขามาโดยบังเอิญทํานองนี้ แมคําที่พิมพผิด ซึ่งยังไมไดตั้งใจจะตรวจปรูฟ ก็พบโดยบังเอิญและแกไปมากมาย แมกระทั่ง เมื่อหนังสือใกลจะเสร็จ เชน จะเติมขอความ ๑ บรรทัดวา “ศาสนวงศ ดู สาสนวงส” ตอนนั้นจะตอง รักษาใหขอความบรรทัดแรกและบรรทัดสุดทายของหนานั้นคงอยูที่เดิม จึงตองลดบรรทัดในหนานั้น ลง ๑ บรรทัด ทําใหตองอานหาคําศัพทในหนานั้นซึ่งมีคําอธิบายที่พอจะบีบใหบรรทัดนอยลง ก็เลย เจอโดยบังเอิญวา ที่คํา “ศีล ๘” มีขอความวา “จะรักษาประจําใจก็ได” เกิดความสงสัยวา ไมนาจะมี “ใจ” จึงเปดหนังสือเกาสมัยปกสีสมดู พบวามีแต “ประจํา” จึงไดแกโดยตัด “ใจ” ออกไป หรืออยาง เมื่อตรวจดูความเรียบรอยของหัวศัพทที่ขึ้นไปปรากฏบนหัวกระดาษ ก็ทําใหบังเอิญพบหัวศัพทที่พิมพ ผิด “สปทาจาริกังคะ” (สปทานจาริกังคะ) และ “อปโลกนธรรม” (อปโลกนกรรม) จึงไดแกใหถูกตอง
9.
ฉ ๓. การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่
๑ ทําใหมีความเปลี่ยนแปลงอะไร การชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๑ นี้ ถือวายุติลงในวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๑ ไดทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีศัพทที่เพิ่มขึ้นและที่มีความเปลี่ยนแปลงรวม ประมาณ ๑,๑๐๐ หัวศัพท กลายเปนเพิ่มอีก ๒๐๔ หนา (จากเดิม ๓๗๖ หนา เปน ๕๘๐ หนา) หัวศัพท ที่มีการปรับแก และที่เพิ่มใหมในระยะ ๒ เดือนแรก มี ตัวอยาง ดังนี้ กัป,กัลป กิริยา กิเลสพันหา คงคา คณาจารย เครื่องราง ชุมนุมเทวดา ตัณหา ๑๐๘ ทักขิณาบถ ทีฆนขสูตร ธรรมราชา ธัญชาติ นัมมทา บริขาร บุพการ บุพนิมิตแหงมรรค ปกตัตตะ ปปญจะ ปริตร,ปริตต ปญญา ๓ พรหมจรรย มหานที ๕ มหายาน มาตรา มานะ ยถากรรม ยมุนา โยนก โวการ (เชน จตุโวการ) สมานฉันท สรภู สังคายนา สัจกิริยา สัจจาธิฏฐาน สีหนาท สุตะ หีนยาน อจิรวดี อธิษฐาน อธิษฐานธรรม อภิสัมพุทธคาถา อโศกมหาราช อาภัพ อายุ อายุสังขาร อาสภิวาจา อุตราบถ อุทยาน หัวศัพท ที่มีการปรับแก และที่เพิ่มใหมในระยะ ๑๔ เดือนหลัง มี ตัวอยาง ดังนี้ กรรมวาท กลาป คันธกุฎี คามวาสี คิหิวินัย จุณณิยบท จูฬมัชฌิมมหาศีล ฉันมื้อเดียว ชยมังคลัฏฐกคาถา ชวนะ ญาณ ๑๖ เดน ตุลา ถวายพรพระ ธรรมทูต ธรรมสภา บังสุกุลตาย-เปน ปฏิกรรม ปรมัตถธรรม ปานะ โปราณัฏฐกถา พุทธาวาส ภาณยักษ ยมกปาฏิหาริย รูปรูป,สุขุมรูป วิถีจิต วิปสสนูปกิเลส สมานฉันท สรณคมน สรภัญญะ สังฆาวาส สารีริกธาตุ สุวรรณภูมิ สูกรมัททวะ อตัมมยตา อภิธัมมัตถสังคหะ อรรถกถา อรัญวาสี อัชฏากาศ อากาศ อุปฏฐานศาลา เอตทัคคะ การชําระ-เพิ่มเติมนี้ ทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีลักษณะคืบเคลื่อน เขาไปใกลงานคางที่ ๓ ซึ่งไดหยุดลงเมื่อใกลสิ้นป ๒๕๒๑ เชน คํา “กัป, กัลป” ในการพิมพครั้ง ที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ มีคําอธิบาย ๑๒ บรรทัด แตในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ขยายเปน ๑๑๓ บรรทัด เมื่อนําไปเทียบกับฉบับงานคางที่ ๓ นั้น (ในการเขียนขยายคราวนี้ ไมไดหันไปดู งานคางนั้นเลย) ปรากฏวา คําอธิบายในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ยังสั้นกวาเกาเกือบครึ่งหนึ่ง ถาตองการมองใหชัดวางานชําระ-เพิ่มเติมมีลักษณะอยางไร จะดูไดงายที่คําตัวอยางขางบน นั้น เฉพาะอยางยิ่งคําวา กัป,กัลป; กิเลสพันหา; เครื่องราง; ชาดก; ทักขิณาบถ; นัมมทา; บริขาร; ปริตร,ปริตต; ภาณวาร; มานะ; ยถากรรม; สรภัญญะ; สัจกิริยา; อธิษฐาน; อายุ บัดนี้ งานชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ ไดเสร็จสิ้นแลว โดยกําหนดเอาเองวาเพียงเทานี้ แตงาน ชําระ-เพิ่มเติมชวงที่๒ และ ๓ ซึ่งรอขางหนา มีมากกวา ขอทําความเขาใจรวมกันวา ตามที่คิดไว งานตรวจชําระ ๓ ชวง จะเปนดังนี้
10.
ช การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑:
แกไขปรับปรุงขอขาดตกบกพรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะ สวนหลงตาที่บังเอิญพบ และเพิ่มเติมคําศัพทและคําอธิบายที่รีบดวน หรือบังเอิญนึกได รวมทั้ง ศัพทที่บันทึกไวระหวางเวลาที่ผานมา (ไดเลือกทําแลวเฉพาะคําที่ไมซับซอนนัก) และบางคําที่ทานผู ใชหนังสือ ไดมีน้ําใจแจงมาวาเจอคําผิดหรือคนหาไมพบ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒: อาน-ตรวจตลอดเลม เพื่อจะไดมองเห็นคําพิมพผิด คําตก จุดและแงที่จะแกไข-ปรับปรุง-เพิ่มเติมทั่วทั้งหมด พรอมทั้งจัดปรับคําอธิบายศัพททั้งของเดิมและ สวนที่เพิ่มเติม ใหเขามาตรฐานเดียวกัน ทั้งในแงการแสดงความหมาย วิธีอธิบาย และอัตราสวน ความยาวที่สัมพันธกับความสําคัญของศัพทนั้นๆ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๓: มุงที่การจัดระบบ เพื่อใหสม่ําเสมอ กลมกลืน เปนแบบแผน อันเดียวกันและทั่วกัน เชน มีคําอาน บอกที่มาในคัมภีร แสดงคําเดิมในภาษาบาลีและสันสกฤต และถาเปนไปได ใหคําแปลภาษาอังกฤษของศัพทตั้งหรือหัวศัพท พรอมทั้งแผนที่และภาพประกอบ งานชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ ไดเสร็จสิ้นลง โดยกําหนดเอาเองวาแคนี้กอน แตชวงที่ ๒ และ ชวงที่ ๓ ไมอาจคาดหมายวาจะเสร็จเมื่อใด หากไมนิราศ-ไมไดโอกาสจากโรค ก็กลาวไดเพียงวา อยูในความตั้งใจที่จะทําตอไป พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๑
11.
คําปรารภ (ในการพิมพครั้งที่ ๑๐) เมื่อกลาวถึง พจนานุกรมพุทธศาสน
ฉบับประมวลศัพท หลายทานนึกถึง พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม ดวย โดยเขาใจวาเปนหนังสือชุดที่มีสองเลมรวมกัน แตแทจริงเปนหนังสือที่เกิดขึ้นตาง หากกัน ตางคราวตางวาระ และมีความเปนมาที่ทั้งตางหากจากกัน และตางแบบตางลักษณะกัน ก. ความเปนมา ชวงที่ ๑: งานสําเร็จ แตขยายไมได พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เปนหนังสือที่คอยๆ กอตัวขึ้นทีละนอย เริ่มจากหนังสือ Student’s Thai–Pali–English Dictionary of Buddhist Terms เลมเล็กๆ ที่จัดทําเสร็จใน พ.ศ. ๒๕๐๖ ตอแตนั้นก็ไดปรับปรุง–เพิ่มเติม–ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ และไดขยายขอบเขตออกไปจนกลายเปนงานที่มี ลักษณะเปนสารานุกรม เมื่อเวลาผานไปๆ ก็มองเห็นวางานทําสารานุกรมจะกินเวลายืดเยื้อยาวนานมาก ยิ่งมีงานอื่นแทรกเขา มาบอยๆ ก็ยิ่งยากที่จะมองเห็นความจบสิ้น ในที่สุดจึงตกลงวาควรทําพจนานุกรมขนาดยอมๆ ขั้นพื้นฐาน ออกมากอน และไดรวบรวมคัดเลือกหมวดธรรมมาจัดทําคําอธิบายขึ้น ซึ่งไดบรรจบรวมกับหนังสือเลมเล็ก เดิมที่สืบมาแต พ.ศ. ๒๕๐๖ กลายเปนภาคหนึ่งๆ ใน ๓ ภาคของหนังสือที่รวมเปนเลมเดียวกันอันมีชื่อวา พจนานุกรมพุทธศาสตร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ กาลลวงมาจนถึง พ.ศ. ๒๕๒๘ พจนานุกรมพุทธศาสตร ซึ่งพิมพครั้งที่ ๔ จึงมีชื่อปจจุบันวา พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เพื่อใหเขาคูกับพจนานุกรมอีกเลมหนึ่งที่เปลี่ยนจากชื่อเดิมมา เปน พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ถึงวาระนี้ พจนานุกรมสองเลมนี้จึงเสมือนเปนหนังสือที่รวมกันเปนชุดอันเดียว พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ที่วานั้น เปนหนังสือที่เกิดขึ้นแบบทั้งเลมฉับพลันทันที โดยแทรกตัวเขามาใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งขยายขอบเขตออกไปจนจะเปนสารานุกรม นั้น กําลังดําเนินอยู เนื่องจากผูรวบรวมเรียบเรียงเห็นวางานทําสารานุกรม คงจะกินเวลายืดเยื้อไปอีกนาน และ พจนานุกรมพุทธศาสตร ที่ทําเสร็จไปแลว ก็มีเฉพาะดานหลักธรรมซึ่งจัดเรียงตามลําดับหมวดธรรม ควรจะมี พจนานุกรมเลมเล็กๆ งายๆ วาดวยพระพุทธศาสนาทั่วๆ ไป แบบเรียงตามลําดับอักษร ที่พอใชประโยชนพื้นๆ สําหรับผูเลาเรียนในขั้นตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ออกมากอน พรอมนั้นก็พอดีประจวบเหตุผลอีกอยางหนึ่งมาหนุน คือ ไดเห็นหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย สําหรับนักธรรม ชั้นตรี ชั้นโท และชั้นเอก ที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจัดพิมพออกมาใน พ.ศ. ๒๕๐๓ เหลืออยูจํานวนมากมาย และดูเหมือนวาไมมีใครเอาใจใส หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนั้น ทาง มจร. จัดพิมพขึ้นมาเพื่อสนองความตองการของ นักเรียนนักธรรมที่จะตองสอบวิชาใหมซึ่งเพิ่มเขามาในหลักสูตร คือวิชาภาษาไทย แตแทบจะยังไมทันไดเผย แพรออกไป วิชาภาษาไทยนั้นก็ไดถูกยกเลิกเสีย หนังสือชุดนั้นจึงถูกทอดทิ้ง ไดมองเห็นวา หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย นั้น ไมควรจะถูกทิ้งไปเสียเปลา ถานํามาจัดเรียงใหมในรูป พจนานุกรม ก็จะใชประโยชนได อยางนอยศัพทตั้งหรือหัวศัพทที่มีอยูก็จะทุนแรงทุนเวลาในการเก็บศัพทเปนอันมาก
12.
ฌ โดยนัยนี้ ก็ไดนําหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย
ชุดนั้นทั้ง ๙ ภาค (ศัพทสําหรับนักธรรมตรี–โท–เอก ชั้นละ ๓ วิชา จึงมีชั้นละ ๓ ภาค พิมพรวมเปนชั้นละเลม) มาจัดเรียบเรียงเปนพจนานุกรมเลมเดียว ดังไดเลา ไวแลวใน “แถลงการจัดทําหนังสือ ประกาศพระคุณ ขอบคุณ และอนุโมทนา (ในการพิมพครั้งที่ ๑)” ศัพทจํานวนมากทีเดียว ที่งายๆ พื้นๆ และตองการเพียงความหมายสั้นๆ หรือคําอธิบายเพียงเล็ก นอย ไดคงไวตามเดิมบาง แกไขปรับปรุงบาง สวนศัพทที่ตองการคําอธิบายยาวๆ ก็เขียนขยาย และศัพท สําหรับการเรียนนักธรรมที่ตกหลนหรือศัพททั่วไปอันควรรูที่ยังไมมี ก็เติมเขามา รวมเปนของเกากับของใหม ประมาณครึ่งตอครึ่ง จึงเกิดเปนพจนานุกรม ซึ่งในการพิมพครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๒๒ เรียกชื่อวา พจนานุกรม พุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม ตอมา ในการพิมพครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๒๗ พจนานุกรมเลมนั้นไดเปลี่ยนมีชื่ออยางปจจุบันวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท คือหนังสือเลมนี้ เมื่อมีการเผยแพรมากขึ้น ผูขออนุญาตพิมพบางแหงจึงไดนําพจนานุกรมทั้งสองเลมนี้มาจัดรวมกัน เปนชุด และลาสุดบางทีถึงกับทํากลองใสรวมกัน แมจะมีประวัติแหงการเกิดขึ้นตางหากกัน แตพจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีลักษณะที่เหมือนกันอยางหนึ่ง คือเปนงานในชวงระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งตอเนื่องมาแตเดิมและขยายออกไปจนกลายเปนสารานุกรม แสดงอาการวาจะเปนเรื่องยืดเยื้อตองรออีกยาวนาน หลังจากการพิมพลงตัวแลว พจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีชะตากรรมอยางเดียวกัน คือขึ้นตอระบบการทํา ตนแบบและการพิมพยุคกอนนั้น ซึ่งตนแบบอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แกไขและขยับขยายไดยาก ยิ่งเปน หนังสือขนาดหนาและมีรูปแบบซับซอน ก็แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย ดวยเหตุนี้ การพิมพพจนานุกรมสองเลมนั้นในครั้งตอๆ มา จึงตองพิมพซ้ําตามตนแบบเดิม ถาจํา เปนจริงๆ ที่จะตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งเมื่อเวลาผานมานานขึ้น แผนกระดาษตนแบบทั้งหมด ก็ผุเปอยหรือสูญหายไป (ตนแบบของ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ซึ่งทําขึ้นใหมในการพิมพ ครั้งที่ ๒ ไดสูญหายไปตั้งแตเมื่อการพิมพครั้งที่ ๒ นั้นเสร็จสิ้นลง) ทําใหการพิมพตอจากนั้นตองใชวิธีถาย ภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนๆ ซึ่งจะไดตัวหนังสือที่เลือนลางลงไปเรื่อยๆ ไดแตรอเวลาที่จะพิมพทําตน แบบขึ้นใหม โดยจะถือโอกาสเพิ่มเติมดวยพรอมกัน อยางไรก็ตาม เนื่องจาก พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ มีศัพทและคําอธิบายที่จะเพิ่ม มากมาย เมื่อแกไขตนแบบเดิมไมได ก็จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมในการพิมพครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๒๘ โดยทําเปน “ภาคผนวก” (มีศัพทตั้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา ขยายขนาดเลม หนังสือเฉพาะตัวพจนานุกรมแทๆ ขึ้นเปน ๔๖๖ หนา) ตอแตนั้นมา ก็พิมพซ้ําอยางที่กลาวขางตน ข. ความเปนมา ชวงที่ ๒: เขายุคใหม มีฐานที่จะกาวตอ ระหวางรอเวลาที่จะพิมพทําตนแบบใหม พรอมกับเขียนเพิ่มเติม ซึ่งมองไมเห็นวาจะมีโอกาสทําไดเมื่อ ใด กาลก็ลวงมา จนถึงยุคคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอรไดชวยใหการพิมพเจริญกาวหนาอยางมหัศจรรย ซึ่งแกปญหาสําคัญในการทํา พจนานุกรมไดทั้งหมด โดยเฉพาะ • การพิมพขอมูลใหมทําไดอยางดีและคลองสะดวก • รักษาขอมูลใหมนั้นไวไดสมบูรณและยืนนาน โดยมีคุณภาพคงเดิม หรือจะปรับใหดียิ่งขึ้นก็ได
13.
ญ • ขอมูลใหมที่เก็บไวนั้น จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม
ที่จุดไหนสวนใด อยางไร และเมื่อใด ก็ไดตาม ปรารถนา ถึงตอนนี้ ก็เห็นทางที่จะทําใหงานทําพจนานุกรมกาวตอไป แตก็ตองรอขั้นตอนสําคัญ คือจุดตั้งตน ครั้งใหม ไดแกการพิมพขอมูลพจนานุกรมทั้งหมดในเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ซึ่งตองใชเวลาและแรง งานมากทีเดียว ถามีขอมูลที่พิมพลงในคอมพิวเตอรไวพรอมแลว ถึงจะยังไมมีเวลาที่จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ก็ อุนใจได เพราะสามารถเก็บรอไว มีโอกาสเมื่อใด ก็ทําไดเมื่อนั้น แตตองเริ่มขั้นเตรียมขอมูลนั้นใหไดกอน ขณะที่ผูรวบรวมเรียบเรียงเองพิมพดีดไมเปน กับทั้งมีงานอื่นพันตัวนุงนัง ไมไดดําเนินการอันใดใน เรื่องนี้ ก็ไดมีทานที่มีใจรักและทานที่มองเห็นประโยชน ไดพิมพขอมูล พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล ศัพท ทั้งหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ดวยความสมัครใจของตนเอง โดยมิไดนัดหมาย เทาที่ทราบ/ เทาที่พบ ๔ ราย เปน ๔ ชุด คือ ๑. พระมหาเจิม สุวโจ แหงสถาบันวิจัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไดเริ่มจัดทํางานนี้ตั้งแตระยะ ตนๆ ของยุคแหงการพิมพดวยระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทั้งอุปกรณและบุคลากรดานนี้ยังไมพรั่งพรอม ใชเวลา หลายป จนในที่สุด ไดมอบขอมูลที่เตรียมเสร็จแลวแกผูรวบรวมเรียบเรียง เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑ ขอมูลที่พระมหาเจิม สุวโจ เตรียมไวนี้ ไดจัดวางรูปแบบเสร็จแลว รอเพียงงานขั้นที่จะสงเขาโรงพิมพ รวมทั้งการตรวจครั้งสุดทาย นับวาพรอมพอสมควร แตผูรวบรวมเรียบเรียงก็ไมมีเวลาตรวจ เวลาก็ผานมาเรื่อยๆ ๒. รศ. ดร.สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต ไดเตรียมขอมูลพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท (พรอมทั้งพจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม) โดยบุตรหญิง–ชาย คือน.ส.ภาวนา ตั้งแตยังเปน ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ และนองชาย คือ นายปญญา ตั้งแตยังเปนด.ช.ปญญา ฌานวังศะ ไดชวยกันแบงเบา ภาระดวยการพิมพขอมูลทั้งหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ภายใตการดูแลของ ดร.สมศีล ฌานวังศะ ซึ่งเปนผูตรวจความเรียบรอยและจัดรูปแบบขอมูลนั้นตามเลมหนังสืออีกทีหนึ่ง ๓. พระไตรปฎก (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) ฉบับสมาคมศิษยเกา มหาจุฬาลงกรณราช- วิทยาลัย ซึ่งเสร็จออกเผยแพรในชวงตนของ พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดขอบรรจุ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับ ประมวลธรรม และ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ไวในโปรแกรมดวย ผูจัดทําจึงไดพิมพขอมูล ทั้งหมดของหนังสือทั้งสองเลมนั้นลงในคอมพิวเตอร แตเนื่องจากเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร จึง ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ ๔. พจนานุกรมพุทธศาสน (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) รุน ๑.๕ (ในโปรแกรมวา พจนานุกรม พุทธศาสตร Version <1.2>) พ.ศ. ๒๕๔๔ จัดทําโดยคณะวิศวกรรมศาสตรคอมพิวเตอร มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งก็ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ เพราะเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร ขอมูลทั้ง ๔ ชุดนี้ ผูจัดทําชุดนั้นๆ ไดนําศัพทตั้งและคําอธิบายทั้งหมดใน “ภาคผนวก” รวม ๒๔ หนา ๑๒๔ ศัพท ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาในเนื้อหาหลักของเลมตามลําดับอักษรเสร็จเรียบรอยดวย เมื่อมีชุดขอมูลใหเลือก ก็แนนอนวาจะตองพิจารณาเฉพาะชุดที่จัดรูปแบบไวแลวเพื่อการตีพิมพอยาง เลมหนังสือ คือชุดที่ ๑ และชุดที่ ๒ แตทั้งที่มีขอมูลนั้นแลว เวลาก็ผานไปๆ โดยผูรวบรวมเรียบเรียงมิไดดําเนินการใดๆ เพราะวาแมจะมี ขอมูลครบทั้งหมดแลว แตก็ยังมีงานสุดทายในขั้นสงโรงพิมพ โดยเฉพาะการพิสูจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอด เลมอีกครั้ง ซึ่งควรเปนภาระของผูรวบรวมเรียบเรียงเอง
14.
ฎ ถาจะใหผูรวบรวมเรียบเรียงพิสูจนอักษรเองอยางแตกอน การพิมพคงตองรออีกแรมป หรืออาจจะ หลายป
(ยิ่งมาบัดนี้ เมื่อตาทั้งสองเปนโรคตอหินเขาอีก ก็แทบหมดโอกาส) คงตองปลอยใหพิมพครั้งใหมดวยการ ถายภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนตอไปอีก ค. ความเปนมา ชวงที่ ๓: พิมพครั้งใหม ในระบบใหม การพิมพในระบบใหมคืบหนา เมื่อ ดร.สมศีล ฌานวังศะ ชวยรับภาระขั้นสุดทายในการจัดทําตนแบบ ใหพรอมที่จะนําเขารับการตีพิมพในโรงพิมพ ในงานขั้นสุดทายนี้ สําหรับ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม ซึ่งจัดเรียงใหมดวยระบบ คอมพิวเตอร และพิมพเปนเลมหนังสือไปแลวเปนครั้งแรก เมื่อกลางป พ.ศ. ๒๕๔๕ นั้นผูรวบรวมเรียบเรียง ไดอานตนแบบสุดทายกอนยุติ แตเมื่อมาถึง พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ก็เปนเวลาที่ผูรวบรวม เรียบเรียงประสบปญหาจากโรคตามากแลว รวมทั้งโรคตอหิน จึงยกภาระในการตรวจปรูฟอานตนแบบแมแต ครั้งยุติให ดร.สมศีล ฌานวังศะ รับดําเนินการทั้งหมด เพียงแตเมื่อมีขอผิดแปลกนาสงสัยที่ใด ก็ไถถามปรึกษา เปนแตละแหงๆ ไป พอดีวา ผูรับภาระนอกจากมีความละเอียดและทํางานนี้ดวยใจรักแลว ยังเปนผูศึกษาวิจัยเรื่อง พจนานุกรมเปนพิเศษอีกดวย ยิ่งเมื่อไดคอมพิวเตอรมาเปนเครื่องมือ ก็ยิ่งชวยใหการจัดเรียงพิมพตนแบบ สามารถดําเนินมาจนหนังสือเสร็จเปนเลมในรูปลักษณที่ปรากฏอยูนี้ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลอันไดเตรียมขึ้น ใหมดวยระบบการพิมพแบบคอมพิวเตอรนี้ โดยหลักการ ไดตกลงวาใหคงเนื้อหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียง พิมพระบบเกา ยังไมปรับปรุงหรือเพิ่มเติม เนื่องจากผูรวบรวมเรียบเรียงยังไมมีเวลาที่จะดําเนินการกับคํา ศัพทมากมายอันควรเพิ่มและสิ่งที่ควรแกไขปรับปรุงตางๆ ที่บันทึกไวระหวางเวลาที่ผานมา และจะรอก็ไมมี กําหนด (จุดเนนหลักอยูที่การไดฐานขอมูลในระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทําใหพรอมและสะดวกที่จะปรับปรุงเพิ่ม เติมตอไป) ทั้งนี้ มีขอยกเวน คือ ๑. นําศัพทตั้งและคําอธิบายทั้งหมดใน “ภาคผนวก” ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาไปใน เนื้อหาหลักของเลมตามลําดับอักษรของศัพทนั้นๆ (ขอนี้เปนการเปลี่ยนแปลงดานรูปแบบเทานั้น สวนเนื้อหา ยังคงเดิม) ๒. เนื่องจากมีศัพทตั้ง ๘ คํา ที่ไดปรับปรุงคําอธิบายไวกอนแลว จึงนํามาใสรวมดวย พรอมทั้งถือ โอกาสแกไขเนื้อความผิดพลาด ๒–๓ แหงที่ผูใชพจนานุกรมฉบับนี้ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถบางทานไดแจง เขามานับแตการพิมพครั้งกอนๆ ซึ่งขอขอบคุณ–อนุโมทนาไว ณ ที่นี้ดวย ๓. มีการปรับปรุงเพิ่มเติมปลีกยอยที่พบเห็นนึกไดแลวถือโอกาสทําไปดวยระหวางทํางานขั้นสุดทาย ในการจัดทําตนแบบใหพรอมกอนจะสงเขารับการตีพิมพในโรงพิมพ กลาวคือ คําอธิบายเล็กนอยในบางแหง ซึ่งเห็นวาควรจะและพอจะใหเสร็จไปไดในคราวนี้ เฉพาะอยางยิ่ง • ไดปรับคําอธิบายคําวา ศิลปศาสตร และไดนําคําอธิบายการแบงชวงกาลในพุทธประวัติ คือชุด ทูเรนิทาน–อวิทูเรนิทาน–สันติเกนิทาน ชุดปฐมโพธิกาล–มัชฌิมโพธิกาล–ปจฉิมโพธิกาล และชุดปุริมกาล–อปร กาล มาปรับรวมกันไวที่ศัพทตั้งวา พุทธประวัติ อีกแหงหนึ่งดวย
15.
ฏ • ไดแยกความหมายยอยของศัพทตั้งบางคําออกจากกัน เพื่อใหเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น
(เชน คํา วา พยัญชนะ) • ไดตัดศัพทตั้งบางคําที่เห็นวาไมจําเปนออก (เชน วงศกุล, เทวรูปนาคปรก) ๔. เนื่องจากเดิมนั้น พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ จัดทําขึ้นโดยมุงเพื่อประโยชนของ ผูเลาเรียนขั้นตน โดยเฉพาะนักธรรมตรี–โท–เอก ถอยคําใดมีในแบบเรียนนักธรรม ก็ไดรักษาการสะกดตัว โดยคงไวอยางเดิมตามแบบเรียนเลมนั้นๆ เปนสวนมาก แตในการพิมพตามระบบใหมครั้งนี้ เห็นวาควรจะคํานึงถึงคนทั่วไป ไมจํากัดเฉพาะนักธรรม จึงตกลง ปรับการสะกดตัวของบางศัพทใหเปนปจจุบัน (เชน ปฤษณา แกเปน ปริศนา) พรอมนั้น ตามที่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ใหหลักไววา คําที่เปนศัพทธรรมบัญญัติ จะเขียน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือเขียนเต็มรูปอยางเดิมก็ได และในพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับ ประมวลศัพท แตเดิมมาเขียนทั้งสองรูป เชน โลกุตตรธรรม–โลกุตรธรรม อริยสัจจ–อริยสัจ สวนในการพิมพ ตามระบบใหมครั้งนี้ ถาคํานั้นอยูในขอความอธิบาย ไดปรับเขียนเปนรูปเดียวกันทั้งหมด เชน โลกุตตรธรรม อริยสัจจ ทั้งนี้ เพื่อความสอดคลองกลมกลืนเปนอันเดียวกัน แตผูอานจะนําไปเขียนเองในรูปที่ประสงคก็ได ตามคําชี้แจงตนเลม ๕. แตเดิมมาหนังสือนี้มุงเพื่อประโยชนแกผูมีความรูพื้นฐานทางธรรมอยูแลว โดยเฉพาะนักเรียน นักธรรม ซึ่งถือวารูวิธีอานคําบาลีอยูแลว จึงไมไดนึกถึงการที่จะแสดงวิธีอานคําบาลีนั้นไว แตบัดนี้ไดตกลงที่ จะคํานึงถึงผูใชทั่วไป ดังนั้น ในการพิมพครั้งใหมดวยระบบใหมนี้ จึงไดแสดงวิธีอานออกเสียงศัพทตั้งบางคําเพื่อเกื้อกูลแกผู ใชที่ยังไมคุนกับวิธีอานคําที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต เชน สมสีสี [สะ-มะ-สี-สี], โอมสวาท [โอ-มะ-สะ-วาด] แตเนื่องจากยังเปนทํานองงานแถม จึงทําเทาที่นึกไดหรือพบเฉพาะหนา อาจมีคําศัพททํานองนี้อยูอีกหลายคํา ที่ยังมิไดแสดงวิธีอานออกเสียงกํากับไว อยางไรก็ตาม ในการพิมพใหมครั้งนี้ ไดแทรก “วิธีอานคําบาลี” เพิ่มเขามาดวย เพื่อใหผูใชทั่วไปทราบ หลักพื้นฐานที่พอจะนําไปใชเปนแนวทางในการอานไดดวยตนเอง โดย ดร.สมศีล ฌานวังศะ ชวยรับภาระเขียนมา งานขั้นสุดทายที่จะเขาโรงพิมพมีความละเอียด ซึ่งตองใชเวลาและเรี่ยวแรงกําลังมาก ประกอบกับผู รับภาระมีงานอื่นที่ตองรับผิดชอบอีกหลายดาน นับจากเริ่มงานขั้นสุดทายนี้ จนตนแบบเสร็จเรียบรอยนําสง โรงพิมพได ก็ใชเวลาไปหลายเดือน ทั้งนี้เพราะวา งานขั้นสุดทายกอนรับการตีพิมพมิใชเพียงการตรวจความถูกตองของตัวอักษรเทานั้น นอกจากอานปรูฟตลอดเลม ทวนแลวทวนอีกหลายเที่ยวแลว ไดถือโอกาสแหงการพิมพที่เปนการวางรูปแบบ ครั้งใหมและมีคอมพิวเตอรเปนอุปกรณนี้ ตรวจทานจัดการเกี่ยวกับความสอดคลองกลมกลืน–สม่ําเสมอ– ครบถวน โดยเฉพาะในเรื่องที่เปนระบบแบบแผน ใหลงตัวไวเทาที่จะทําได คือ ก) ความสอดคลองกลมกลืน ทั่วๆ ไป ไมวาจะเปนเครื่องหมายวรรคตอน หรือการพิมพคํา–ขนาด ตัวอักษร–รูปลักษณของตัวอักษร ทั้งคําทั่วไปและคําที่ใชในการอางอิงและอางโยง (เชน ดู เทียบ คูกับ ตรงขามกับ) ไดพยายามตรวจและแกไขใหสม่ําเสมอกันทุกแหง ข) ความถูกตองครบถวนทั่วถึง อีกหลายอยาง ที่ยังอาจตกหลนหรือขามไปในการพิมพระบบเกา โดยเฉพาะการอางโยง ไดตรวจสอบเทาที่ทําได เชน ตรวจดูใหแนใจวาศัพทตั้งทุกคําที่เปนธรรมขอยอย ได อางโยงถึงหมวดธรรมใหญที่ธรรมขอยอยนั้นแยกออกมา
Descargar ahora