Más contenido relacionado La actualidad más candente (20) Similar a โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่องสื่อการสอนภาษาไทย (20) Más de Nook Kanokwan (10) โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่องสื่อการสอนภาษาไทย1. โครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคา
ผู้ทาโครงงาน
1 นายเกียรติยศ วนาพฤกษ์พงศ์ เลขที่ 8 ชั้น ม.6 ห้อง4
2 นางสาวกนกวรรณ ต้นเงิน เลขที่ 13 ชั้น ม.6 ห้อง4
ทีปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
่
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
4. บทคัดย่อ
โครงงาน “สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคา ” มีจุดมุ่งหมาย คือ
การศึกษาในเรื่อง การเขียนสะกดคา หลักการเขียนสะกดคาที่ถูกต้อง รวมไปถึงคาที่มัก
สะกดผิด เพื่อให้ผู้ที่ได้ศึกษานั้นได้นาความรู้จากสื่อการสอนนี้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง
การดาเนินงานค้นคว้าและเรียบเรียงโครงงาน 1. รวมกลุ่มปรึกษาว่าสนใจศึกษา
โครงงานในหัวข้อใด 2. สืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเขียนสะกดคา 3. จัดทาโครงร่าง
โครงงาน 4. จัดทาสื่อการสอนโดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint 5. นาสื่อการสอน
ไปให้คุณครูตรวจสอบและนาไปปรับปรุงแก้ไข 6. จัดทาโครงงาน 7.นาเสนอ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ได้ศึกษาเรื่องการเขียนสะกดคาในสื่อการสอนนี้ ประสบ
ผลสาเร็จอย่างเห็นได้จากการที่พวกเขาสามารถนาความรู้ไปใช้ได้จริงและยังสามารถนาไป
ถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่นได้อีกด้วย
5. บทที่ 1 บทนา
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจาวันของเรามากขึ้น ทั้งการ
ติดต่อสื่อสาร การทาธุรกิจ และอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงการศึกษาที่มีการพัฒนาอย่าง
รวดเร็ว ทาให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าหนังสือ เพราะอินเตอร์เน็ตมักจะมีลูกเล่น สิ่งที่น่าสนใจ
มากกว่าหนังสือเรียน และคุณครูในยุคปัจจุบันนิยมนาเอาเทคโนโลยี มาใช้ในการเรียน
การสอนมากขึ้น
ในวิชาภาษาไทย มีคาศัพท์และสาระน่ารู้ต่างๆมากมายที่ยากที่จะจดจา จึงเป็น
เหตุให้มักมีการใช้อย่างไม่ถูกต้อง และไม่มีสิ่งจูงใจที่ทาให้ผู้คนมาสนใจ แต่ถ้ามีการทาสื่อ
อิเล็กทรอนิกส์มาประยุกต์ใช้ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยอินเตอร์เน็ต และมีสิ่งจูงใจ ก็จะ
สามารถช่วยในการเรียนรู้และจดจา คาศัพท์ สาระน่ารู้ เหล่านี้ได้ดีมากยิ่งขึ้น ผู้จัดทาจึง
คิด ที่จะทาโครงงานสื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคา
8. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
• หลักการเขียนสะกดคา
1. การเขียนคาผิดเพราะคาเหล่านั้นออกเสียงเหมือนกัน แต่มีความหมายคน
ละอย่ า งและเขี ย นต่ า งกั น ท าให้ ผู้ ใ ช้ ภ าษามั ก สั บ สนและใช้ ค าปนกั น เพราะจ า
ความหมายของคาที่ต้องการเขียนไม่ได้ เช่น
คาว่า ขั้น และ คั่น
สิน " สินธุ์
ฉัน " ฉันท์
พัน " พันธุ์
2. คาที่ออกเสียงต่างกันเพียงเล็กน้อย และมีความหมายต่างกันไม่มากนัก หาก
ไม่ระมัดระวัง ก็อาจเกิดปัญหาในการเขียนได้ เช่น
คาว่า ราด และ ลาด
รัก " ลัก
9. 3. เขีย นผิดเพราะไม่รู้ห ลักเกณฑ์ในการเขี ยน เช่ น ไม่รู้หลั กการใช้ ณ-น
หลักการประ- วิสรรชนีย์และไม่ประวิสรรชนีย์ หรือการใช้ ใอ และไอ เป็นต้น
4. ใช้แนวเทียบผิด เช่น คาว่า ญาติ และอนุญาต สัญชาติ และสัญชาตญาณ
บุคคล และบุคลิก เป็นต้น
5. เขียนผิดเพราะมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการเขียน แต่ผู้เขียนติดรูป
เดิมของคาบางคา เช่น คาว่า พงศ์ เดิมใช้ ษ์ ปัจจุบันใช้ ศ์ คาว่า เบียดเบียน เคยใช้
ฬ สะกด คือเขียน เบียดเบียฬ
10. 6. คาบางคามีความหมายอย่างเดียวกัน ออกเสียงเหมือนกันหรือคล้ายกัน
แต่เขียนต่างกัน คาเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะมีความหมายอย่างเดียวกันแต่มีที่ใช้ต่างกัน ผู้ใช้
ภาษาต้องรู้ว่า เมื่อใดจะใช้รูปใด คือรู้ว่าจะเขียนรูปใดในคาแวดล้อมอย่างใด ทั้งนี้
ขึ้นอยู่กับความนิยมของสังคม เช่น
คาว่า ศูนย์ และ สูญ
มารยาท และ มรรยาท
ภริยา
และ ภรรยา
วิชา
และ วิทยา
คาเหล่านี้มีความหมายอย่างเดียวกัน ออกเสียงเหมือนกันหรือคล้ายกัน แต่
ใช้กับคาแวดล้อมต่างกัน ซึ่งผู้ใช้ภาษาต้องรู้จักที่ใช้ และเขียนให้ถูกต้อง
11. 7. คาบางคาเขียนได้มากกว่า 1 รูป เช่น กรรไกร อาจจะใช้ว่า กรรไกร กรรไตร
หรือตะไกร ก็ได้
คาว่า ระบัด ระบบ ระบือ ระลอก อาจใช้ ละ และ ระ ได้ดังนี้ ละบัด ละบือ
และละลอก
คาว่า ยนต์ จะเขียน ยนต์ หรือ ยนตร์ ก็ได้ เช่น รถยนต์ ภาพยนตร์
ดังนั้น ผู้ใช้ภาษาควรจะรู้จักการเขียนทุก ๆ รูป เพื่อจะได้ไม่ทึกทักว่าคนอื่นใช้
ผิด เพราะใช้รูปผิดไปจากที่เราใช้
8. เขียนผิดเพราะเขียนตามเสียงอ่าน เช่น
ปรารถนา ออกเสียงว่า ปราด-ถะ-หนา มักเขียนผิดเป็น ปราถนา
ศีรษะ " สี-สะ มักเขียนผิดเป็น ศรีษะ
12. หลักการเขียนคาสมาส
ค าสมาสซึ่ ง เกิ ด จากการน าค าบาลี กั บ บาลี หรื อ ค าบาลี กั บ สั น สกฤต หรื อ
สันสกฤตกับสันสกฤต มารวมกันเพื่อสร้างคาใหม่ในภาษา เช่น
วิสาขะ (บาลี) + บูชา (บาลี) = วิสาขบูชา
ศัลยะ (สันสกฤต) + กรรม (สันสกฤต) = ศัลยกรรม
กิตติ (บาลี) + ศัพท์ (สันสกฤต) = กิตติศัพท์
การเขียนคาสมาสจึงมีหลัก ดังนี้
1. ถ้าพยางค์สุดท้ายของคาแรกมีประวิสรรชนีย์ (ะ) เวลาเขียนให้ตัด ออก ดัง
ตัวอย่างต่อไปนี้
อิสรภาพ ธนสมบัติ ศิลปศาสตร์ พันธกิจ รัตนโกสินทร์ ภารกิจ ศิลปกรรม พล
ศึกษา คณบดี กาญจนบุรี
13. 2. ถ้า พยางค์สุ ดท้ า ยของค าแรกของค าสมาสมี เครื่อ งหมาย
ทัณฑฆาต ( ์ ) เวลาเขียนให้ตัดออก ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ทรัพยสิทธิ ครุศา
สตรบัณฑิต แพทยศาสตร์ มนุษยชาติ ไปรษณียภัณฑ์ สัมพันธภาพ
พิพิธภัณฑสถาน อนุรักษนิยม
14. หลักการเขียนคาที่ออกเสียง อะ
การเขียนคาที่ออกเสียง อะ เขียนได้ ๒ วิธี คือ ประวิสรรชนีย์ เช่น สะดวก
สะอาด และไม่ประวิสรรชนีย์ เช่น ตวาด ชอุ่ม สบู่ เป็นต้น คาที่ประวิสรรชนีย์มีหลัก
ในการสังเกต ดังนี้
1. คาไทยแท้ทุกคาที่ออกเสียง อะ ให้ประวิสรรชนีย์ เช่น กะทิ กระพรวน
กระทะ ปะขาว ทะนง ทะนาน มะลิ กระชับ ตะแคง ชะลอ ละไม คะมา ตะโกน ขยะ
ขะมุกขะมอม
2. คาซึ่งเกิดจากการกร่อนเสียงมาเป็นเสียง อะ ให้ประวิสรรชนีย์ ดังนี้
15. 2.1 กร่อนเสียงจาก ต้น เป็น ตะ เช่น
ต้นเคียน เป็น ตะเคียน
ต้นไคร้ เป็น ตะไคร้
ต้นแบก " ตะแบก
ต้นคร้อ " ตะคร้อ
2.2 กร่อนเสียงจาก หมาก เป็น มะ เช่น
หมากเฟือง เป็น มะเฟือง
หมากม่วง " มะม่วง
หมากพร้าว " มะพร้าว
หมากดัน " มะดัน
16. 2.3 กร่อนเสียงจาก ตัว เป็น ตะ เช่น
ตัวเข้ เป็น ตะเข้
ตัวเข็บ " ตะเข็บ
ตัวกวด " ตะกวด
2.4 คา 2 พยางค์ อื่น ๆ ซึ่งเกิดจากการกร่อนเสียงก็ให้ประวิสรรชนีย์ทั้งสิ้น
เช่น ตะปู (ตาปู) ตะวัน (ตาวัน) สะดือ (สายดือ) สะใภ้ (สาวใภ้) ฉะนั้น (ฉันนั้น) ฉะนี้
(ฉันนี้)
นอกจากนี้คากร่อนจากคาซ้า (อัพภาส) เป็นเสียงอะในคาแรก ซึ่งเป็นคาซ้าใน
คาประพันธ์ ให้ประวิสรรชนีย์ เช่น ยะยิบ (ยิบยิบ) ระเรื่อย (เรื่อยเรื่อย) ระรัว (รัวรัว)
ฯลฯ
17. 2.5 คาที่มี 3 พยางค์ ซึ่งออกเสียง อะ ในพยางค์ที่ 2 มักประวิสรรชนีย์
เช่น รัดประคด บาดทะยัก เจียระไน สับปะรด คุดทะราด เป็นต้น
2.6 คาที่ยืมจากภาษาบาลี - สันสกฤต ถ้าออกเสียง อะ ที่พยางค์ท้าย
ของคา ให้ประวิสรรชนีย์ที่พยางค์ท้ายของคานั้น เช่น สาธารณะ ลักษณะ สรณะ
อิสระ สัมปชัญญะ พละ อักขระ ภาชนะ ฯลฯ
18. • ตัวอย่างคาที่ประวิสรรชนีย์ ได้แก่
ชะตา ชะงัก สะคราญ ทะนง คะนึง สะอื้น สะดุด สับปะรด สะอาด สะพาน
ชะล่า สะกด จะละเม็ด ฉะนั้น มักกะสัน ประณีต พะทามะรง สะเพร่า สะพัด สะบัด
สะระตะ สะระแหน่ สะอิดสะเอียน สะลึมสะลือ จระเข้ สะตอ ตะลีตะลาน ตะลุมบอน
ตะขิ ด ตะขวง ชะรอย ซั ง กะตาย ธุ ร ะ ศิ ล ปะ อารยะ สั จ จะ ละเอี ย ด ร ามะนาด
อังกะลุง
•ตัวอย่างคาที่ไม่ประวิสรรชนีย์ ได้แก่
อารยธรรม ศิ ล ปกรรม ธุ ร กิ จ คณบดี อิ ส รภาพ ปิ ย มหาราช พลศึ ก ษา
อาชีวศึกษา จริต จรุง ลออ สบาย สูบ่ ขมา ปรัมปรา พนัน ทมิฬ ตวัด ฉบับ ฉบัง ฉมัง
ฉวัดเฉวียน สลัว สลอน สลอด สลวย สลัก สราญ สลุต สว่าน เสนาะ อหังการ อสรพิษ
ทวาร ฉลาด ถวิล ชโลม
19. หลักการเขียนคาที่ใช้ ใอ, ไอ, อัย, ไอย
1. คาที่ใช้สระ ใอ (ไม้ม้วน) แต่โบราณกาหนดว่าคาไทยแท้เพียง 20 คาเท่านั้น
ที่เขียนด้วยสระ ใ ดังที่โบราณาจารย์ผูกไว้เป็นคาประพันธ์เพื่อช่วยความจา ดังนี้
ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ
ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ
มิหลงใหลใครขอดู
จักใคร่ลงเรือใบ ดูน้าใสและปลาปู
สิ่งใดอยู่ในตู้
มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง
บ้าใบ้ถือใยบัว
หูตามัวมาใกล้เคียง
เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วนจาจงดี
ปัจจุบันมีคาที่ใช้สระ ใ เพิ่มขึ้น ได้แก่ หมาใน เหล็กใน เยื่อใย ใยบัว ใยแมลงมุม
20. 2. คาที่ใช้สระ ไอ (ไม้มลาย) มีหลักการใช้ ดังนี้
2.1 ใช้กับคาไทยทั่วไปนอกจากคาที่ใช้สระ ใ (ไม้ม้วน) 20 คา
2.2 ใช้กับคาที่แผลงจากคาเดิมที่เขียนด้วย สระ อิ อี และ เอ ในภาษาบาลี
สันสกฤต เช่น ระวิ แผลงเป็น ราไพ วิจิตร แผลงเป็น ไพจิตร ตริ " ไตร วิหาร " ไพหาร
3. ใช้กับคาที่ยืมมาจากคาต่างประเทศทุกภาษา เช่น ไอศกรีม ไมล์ สไลด์
ไวโอลิน ไต้ฝุ่น ไผท อะไหล่ ฯลฯ
ตัวอย่างคาที่ใช้สระ ไอ (ไม้มลาย) ได้แก่
ไจไหม ร้องไห้ ไนกรอด้าย ปลาไน เสือกไส ไสไม้ ตะไคร่ ตะไคร้ ใส่ไคล้ ไยไพ
ไยดี ลาไย หยากไย่ สลัดได เหลวไหล น้าไหล จุดไต้ ตะไบ ลาไส้ ไขกุญแจ ไดโนเสาร์
21. 3. คาที่ใช้สระ อัย (อัย) ใช้กับคาที่ยืมจากภาษาบาลี - สันสกฤต ซึ่งเดิมออก
เสียง อะ และมี ย ตามหลังเท่านั้น เช่น
ชย ไทยใช้ ชัย ภย ไทยใช้ ภัย
อาลย " อาลัย อุทย " อุทัย
อภย " อภัย นย " นัย
4. คาที่ใช้สระ ไอย (ไอย) ใช้กับคายืมจากภาษาบาลี - สันสกฤต ที่คาเดิม
เป็นเสียง เอยย และ เอย เท่านั้น เช่น
เวเนยย ไทยใช้ เวไนย (เวไนยสัตว์) อสังเขยย ไทยใช้ อสังไขย
อธิปเตยย " อธิปไตย เทยยทาน " ไทยทาน
22. • หลักการเขียนคาที่ใช้ ศ ,ษ และ ส
การใช้พยัญชนะเสียง /สอ/ ในภาษาไทยมีหลักเกณฑ์การเขียน ดังนี้
1. คาไทยแท้ทั่วไปนิยมเขียนด้วย ส เช่น เสื้อ เสือ สดใส เสียม เป็นต้น ยกเว้น
คาไทย และค ายืมบางค าที่เขียนมาแต่โบราณใช้ ศ และ ษ บ้า ง จึ ง ยัง คงใช้ รูปเขียน
เหล่านั้นอยู่ในปัจจุบัน เช่น
ศ : ศอ ศอก เศิก ศึก เศร้า บาราศ ปราศจาก ฝรั่งเศส เลิศ ไอศกรีม
ษ : กระดาษ โจษจัน ดาษดา ดาษดื่น ฝีดาษ เดียรดาษ อังกฤษ
2. คาที่มาจากภาษาบาลีใช้ ส ทั้งหมด เช่น พระสงฆ์ มเหสี สัจจะ รังสี สิริ
โสภา สโมสร สาธิต สุสาน สาวก ฯลฯ
23. 3. คาที่มาจากภาษาสันสกฤต มีหลักเกณฑ์ ดังนี้
3.1 พยัญชนะ ศ เขียนหน้าพยัญชนะวรรค จะ และ หน้าพยัญชนะเศษวรรค
บางรูป ดังนี้
3.1.1 เขียนหน้าพยัญชนะวรรค จะ เช่น พฤศจิกายน อัศจรรย์
3.1.2 เขียนหน้าพยัญชนะเศษวรรค เช่น เทเวศร พิฆเนศวร์ แพศยา โศลก
อัศวิน อาศรม
3.2 พยัญชนะ ษ ใช้เขียนหน้าพยัญชนะวรรค ฏะ และ หน้าพยัญชนะวรรคอื่น
และพยัญชนะเศษวรรคบางรูปได้ ดังนี้
24. พยัญชนะ ษ ใช้เขียนหน้าพยัญชนะวรรค ฏะ และ หน้ าพยัญชนะวรรคอื่น
และพยัญชนะเศษวรรคบางรูปได้ ดังนี้
๓.๒.๑ เขียนหน้าพยัญชนะวรรค ฏะ เช่น กนิษฐา โฆษณา ดุษฎี ราษฎร
ทฤษฎี โอษฐ์
๓.๒.๒ เขียนหน้าพยัญชนะวรรคอื่น เช่น เกษตร บุษกร บุษบก บุษบา
พฤษภาคม
๓.๒.๓ เขียนหน้าพยัญชนะเศษวรรคบางรูป เช่น บุษยา ศิษย์ บุษยมาส
อักษร บุษรา
25. 3.3 พยัญชนะ ส ใช้เขียนหน้าพยัญชนะวรรค ตะ และพยัญชนะเศษวรรค
บางรูปได้ ดังนี้
3.3.1 เขียนหน้าพยัญชนะวรรค ตะ เช่น พัสดุ พิสดาร ภัสดา วาสนา
สถาน สัสดี สวัสดี สตรี อัสดง
3.3.2 เขียนหน้าพยัญชนะเศษวรรค เช่น ประภัสสร มัสลิน สุรัสวดี
มัตสยา
26. • หลักการเขียนคาพ้องเสียง
คาพ้องเสียง คือ คาที่ออกเสียงเหมือนกันแต่เขียนต่างกัน และมีความหมาย
แตกต่างกันด้วย การเขียนคาพ้องเสียงจึงอยู่ที่การสังเกตและจดจาความหมายของคา
เป็นหลัก คาพ้องเสียงในภาษาไทยมีอยู่เป็นจานวนมาก จึ งยกตัวอย่างมาเป็นเครื่อง
สังเกต ดังนี้
/กาน/ เมืองกาญจน์ กานไม้(ตัดไม้) กิจการ แถลงการณ์ ประสบการณ์ ฤดูกาล
กาฬโรค มหากาฬ กลอนกานท์(บทกลอน)
/เกียด/ มีเกียรติ เกียรติยศ รังเกียจ ขี้เกียจ เกียจคร้าน เกียดกัน
/สูด/ สูดดม สูตรคูณ ชันสูตร พหูสูต พิสูจน์
/น่า/ หน้าร้อน หน้าหนาว หน้าต่างน่ารัก น่ายกย่อง น่ากิน
/โจด/ โจทก์จาเลย โจทย์เลข พูดโจษ โจษขาน
27. /พัน/ พันผ้า ผูกพัน ละครพันทาง บทประพันธ์ ผิวพรรณ เผ่าพันธุ์
พรรณนา กรรมพันธุ์ ผลิตภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์ พรรดึก ภรรยา
/มุก/ ไข่มุก หน้ามุข ประมุข มุกดา
/เพด/ อาเพศ เพศชาย ลักเพศ เบญจเพส สมเพช ประเภท สามัคคีเภท
/ขัน/ ขันน้า ขันธ์๕ ประจวบคีรีขันธ์ พระขรรค์ เขตขันฑ์ ขัณฑสกร แข่งขัน
ขาขัน
/นาด/ ระนาด นวยนาด สีหนาท นาถ(ที่พึ่ง) วรนาถ นงนาฏ นาฏศิลป์
พินาศ
/ดิด/ บัณฑิต ประดิษฐ์ ประดิดประดอย อุตรดิตถ์ กาญจนดิษฐ์(ชื่ออาเภอ)
29. บทที่ 3 วิธีการดาเนินการศึกษา
แนวทางการดาเนินงาน
1. ประชุมและกาหนดหัวข้อโครงงานที่จะทา
2. แบ่งงานให้สมาชิกแต่ละคน
3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเขียนสะกดคา
4. จัดทาโครงร่างโครงงาน
5. รวบรวมข้อมูล
6. จัดทาสื่อการสอนโดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint
7. นาสื่อการสอนไปให้คุณครูตรวจสอบและนาไปปรับปรุงแก้ไข
8. นาเสนอโครงงาน
30. ที่
ผู้รับผิด
ชอบ
สัปดาห์ที่
ขั้นตอน
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1
คิดหัวข้อโครงงาน
/
2
ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / /
3
จัดทาโครงร่างงาน
4
ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5
ปรับปรุงทดสอบ
6
7
8
การทาเอกสารรายงาน
ประเมินผลงาน
นาเสนอโครงงาน
ทั้งสองคน
ทั้งสองคน
/ /
ทั้งสองคน
/ / / /
/
/
/
/
/ /
/
ทั้งสองคน
/
/
ทั้งสองคน
/
/
/
ทั้งสองคน
คุณครู
ทั้งสองคน
37. 8.จากนั้นให้กาหนด Effect การเปลี่ยน Slide โดยการคลิกที่แทบ Transition
แล้วเลือกรูปแบบตามที่ต้องการ หากต้องการให้ Effect ใช้กับทุก Slide ก็เลือก Apply
to all slide กาหนดค่าการหน่วงเวลาการแสดงสไลด์ที่ช่อง After แล้วกาหนด
ระยะเวลาลงไป ในตย ผมตั้งไว้ที่ 3 วินาที และกาหนดค่าเช่นนี้กับทุกสไลด์
39. ตัวอย่างแบบประเมินความพึงพอใจ
“สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคา”
รายการ
1.สื่อการสอนฯ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและตัวเนื้อหามีความถูกต้อง ชัดเจน
2.สื่อการสอนฯ สามารถช่วยให้เขียนสะกดคาได้ถูกต้องมากขึ้น
3.สื่อการสอนฯมีความสวยงาม น่าสนใจ ดึงดูดผู้ศึกษาและจัดรูปแบบได้อย่างเหมาะสม
4.สื่อการสอนฯ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนภายในห้องเรียนได้
5.สามารถนาความรู้ที่ได้จากสื่อการสอนฯ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
*หมายเหตุ : เกณฑ์การให้คะแนน 5 คือ ดีเยี่ยม , 4 คือ ดี , 3 คือปานกลาง , 2 คือ พอใช้ , 1 คือ ควรปรับปรุง
เกณฑ์การให้คะแนน
40. บทที่ 4 ผลการศึกษา
จากการที่ผู้จัดทาได้ให้กลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและ
มัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 20 ตัวอย่าง ได้ทดลองใช้ “สื่อการสอนวิชาภาษาไทย
เรื่อง การเขียนสะกดคา” และได้ทาแบบประเมินความพึงพอใจ ได้ผลดังนี้
เกณฑ์การให้คะแนน
รายการ
1.สื่อการสอนฯ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและตัวเนื้อหามีความถูกต้อง ชัดเจน
12
4
3
1
0
2.สื่อการสอนฯ สามารถช่วยให้เขียนสะกดคาได้ถูกต้องมากขึ้น
14
4
2
0
0
3.สื่อการสอนฯมีความสวยงาม น่าสนใจ ดึงดูดผู้ศึกษาและจัดรูปแบบได้อย่างเหมาะสม 10 4
4
2
0
4.สื่อการสอนฯ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนภายในห้องเรียนได้
13
4
1
2
0
5.สามารถนาความรู้ที่ได้จากสื่อการสอนฯ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
12
2
3
3
0
รวม 61 18 13
8
0
*หมายเหตุ : เกณฑ์การให้คะแนน 5 คือ ดีเยี่ยม , 4 คือ ดี , 3 คือปานกลาง , 2 คือ พอใช้ , 1 คือ ควรปรับปรุง
42. บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา
สรุปผลการศึกษา
โครงงาน “สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียน
สะกดคา” ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ได้ศึกษาสื่อการสอนนี้ ประสบ
ผลสาเร็จอย่างเห็นได้จากการที่ผู้ศึกษาสามารถนาความรู้เกี่ยวกับ
การเขียนสะกดคาไปใช้ได้จริง โดยสังเกตจากการที่ผู้ศึกษาสื่อการ
สอน เขียนสะกดคาผิดลดลง และยัง สามารถนาไปถ่ายทอดให้แก่
ผู้อื่นได้อีกด้วย