Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
Similar a Mil chapter 1_2(2) (20)
Mil chapter 1_2(2)
- 1. หน่ วยที 2 สือใหม่ (New Media)
เป็ นการสือสารในรูปแบบใหม่ ทีมีการนําเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ ามาประกอบการสือสาร ทําให้ การ
สือสารนันทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิงขึน เช่น TV on Mobile, Webcam เป็ นต้ น ทําให้ ผ้ ูรับสาร ทีอยู่
ทัวทุกมุมโลกสามารถรับรู้ ข่าวสารได้ อย่างรวดเร็ วและชัดเจน เป็ นการกระจายข่าวสารไปได้ ทุกสารทิศ เช่น
การส่งอีเมลล์ ทวิตเตอร์ การแชท โดยทีผู้รับสารสามารถตอบโต้ กับสือมวลชนได้ ในขณะทีสือดังเดิมไม่
สามารถทําได้ เช่น การส่ง SMS ไปในรายการต่างๆทีเปิ ดโอกาสให้ แสดงความคิดเห็นในโทรทัศน์ หรื อการ
โทรศัพท์เข้ าไปในรายการวิทยุหรื อโทรทัศน์เพือแสดงความคิดเห็น ซึงในปั จจุบนสือใหม่ได้ เข้ ามามีบทบาท
ั
อย่างมากทุก วงการ ไม่เฉพาะวงการสื อสารมวลชน แต่ยังมีอีก มากมาย เช่น ด้ านการศึกษา คมนาคม
อุตสาหกรรม เป็ นต้ น
การรวมตัวของสือใหม่และสือเดิมทํ าให้ เกิดการมาบรรจบกันของเทคโนโลยี สือ (convergence)
เป็ นการพัฒนาสือเข้ ามาใกล้ กนของเทคโนโลยี 3 ประเภทคือ
ั
1 เทคโนโลยีการแพร่ ภาพและเสียง เช่น วิทยุ โทรทัศน์
2 เทคโนโลยีการพิมพ์ เช่น หนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์
3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ โดยมีเทคโนโลยีสือสารโทรคมนาคมเป็ นปั จจัยสนับสนุน ได้ แก่
หนังสือพิมพ์ออนไลน์ นิตยสารออนไลน์
สือใหม่จึงอยู่ในรู ปของความรู้ ทางดิจิทล (digital knowledge) ซึงหมายถึงความรู้ ทีจําเป็ นต้ องมี
ั
เพื อให้ สามารถประยุกต์ ใช้ งานคอมพิ วเตอร์ และอิ นเทอร์ เน็ตในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตน ซึงอาจ
รวมถึงความรู้ ทีสามารถผลิตสือด้ วยตนเองเพือเผยแพร่ ความคิดเห็นในเรื องต่างๆออกสูสงคม รั ฐบาลของ
่ ั
แต่ละประเทศมีโครงการพัฒนา e-Government และโครงการรักษาพยาบาลระยะไกล เช่น Telemedicine
เป็ นต้ น
อํานาจของอินเทอร์ เน็ตและสือดิจิทลอยู่ทีการปฏิสมพันธ์ ระหว่างผู้ใช้ โดยผู้ใช้ สามารถเป็ นผู้ผลิต
ั ั
สือไปพร้ อมๆกัน ทําให้ ผ้ ูใช้ ร่ วมแลกเปลียนทัศนคติในเรื องต่างๆได้ และจัดทํ าเว็บไซต์ เว็บบล็อกในการ
เผยแพร่ ข้อมูลทางอินเทอร์ เน็ตด้ วยค่าใช้ จ่ายทีตํา รวมถึงการใช้ เครื อข่ายสังคม เช่น เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ และ
อืนๆ
ปั จจุบนการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ล้ วนใช้ สอใหม่เป็ นเครื องมือสําคัญในการสือสาร
ั ื
ให้ เข้ าถึงประชาชน การใช้ สือใหม่จึงเป็ นทังโอกาสและภัยคุกคามของผู้ใช้ หรื อผู้บริ โภค อยู่ทีความสามารถ
ในการเลือกใช้ และเลือกทีจะเข้ าใจในเนือหาสาระอย่างชาญฉลาด การทําให้ ประชาชนมีความรู้ เท่าทันสือ
จึงเกียวข้ องกับความอยู่รอดของประชาชน ทีจะไม่ตกเป็ นเหยือของข้ อมูลข่าวสารและสือ
- 4. 5) การสืบค้ นข้ อมูลออนไลน์
สือออนไลน์
ปั จจุบันการใช้ สือออนไลน์ ผ่านทางเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้ ขยายวงกว้ างออกไปมากขึน โดยได้
ก้ าวล่วงเข้ าไปในทุกสาขาอาชีพ ไม่ได้ จํากัดอยู่เฉพาะด้ านการศึกษาหรื อการวิจัยเหมือนเมือเริ มมีการใช้
อินเทอร์ เน็ตใหม่ๆ ด้ วยคุณสมบัติการเข้ าถึงกลุมเปาหมายจํานวนมากๆ ได้ ในเวลาอันรวดเร็ ว และใช้ ต้นทุน
่ ้
ในการลงทุน ตํ า ทํ าให้ อิ นเทอร์ เ น็ ต เป็ นสิ งที พึง ปรารถนาขององค์ ก รต่า งๆ หลายหน่ว ยงานได้ มีค วาม
พยายามนํ า อิ น เทอร์ เน็ ต มาใช้ เพื อประโยชน์ สํ า หรั บ หน่ ว ยงานของตนในรู ป แบบต่ า งๆ อาทิ การ
ประชาสัมพันธ์ อ งค์ กร การโฆษณาสินค้ า การค้ าขาย การติดต่อสือสาร ฯลฯ นอกจากนีอินเทอร์ เน็ตยัง
กลายเป็ นอีก สือหนึ งของความบัน เทิง ภายในครอบครั ว ไม่ว่ าจะเป็ นการฟั งวิ ท ยุ ดูโทรทัศ น์ หรื อ อ่า น
หนังสือพิมพ์ ล้ วนแล้ วแต่สามารถกระทําผ่านอินเทอร์ เน็ตได้ ทงสินc]tขณะทีสือออนไลน์อย่างอินเทอร์ เน็ตมี
ั
ประโยชน์หลากหลาย แต่ในทางตรงกันข้ าม หากผู้ใช้ ขาดการรู้เท่าทัน คุณอนันต์ทีเห็นอาจกลับกลายเป็ น
โทษมหันต์ได้ เช่นเดียวกัน
ความเสียงของสืออินเทอร์ เน็ต
1) เนือหาทีไม่ เหมาะสมกับบางช่ วงอายุ
เนืองจากอินเทอร์ เน็ต เป็ นสือทีคนทุกกลุ่มสามารถเข้ าถึงได้ ง่า ย และประโยชน์หลักของ
อินเทอร์ เน็ตยังอยู่ทีปริ มาณของตัวเนือหาทีมีให้ เลือกอย่างมากมายมหาศาล แต่ก็ไม่ใช่เนือหาทังหมดทีเด็ก
และเยาวชนจะสามารถเข้ าถึงได้ ดัง นันการลงข้ อ มูลต่า งๆจึงเป็ นเรื องที พึง ระวัง เพื อให้ ข้ อมูลนันๆ
เหมาะสมกับแต่ละวัย และอายุ เนื อหาที ไม่เหมาะสมกับ บางช่ วงอายุ เช่น ภาพลามกอนาจารสําหรั บ
- 5. ผู้ใหญ่ ทีอาจทําร้ ายเยาวชนได้ หากเยาวชนบริ โภคสือลามกนันโดยไม่เจตนาและขาดวิจารณญาณ เนือหา
ทีไม่เหมาะสมในทุกกลุ่มอายุ อาจมีการให้ คําอธิ บายเชิงพาณิ ชย์ แต่ยังสามารถสร้ างขึนจากผู้ใช้ เอง ใน
อดีต การเข้ าถึงข้ อมูลนันอาจจะมีข้อจํากัดให้ กลุ่มสมาชิกผู้ใช้ ภายในเท่านัน ในขณะทีเนือหาทีผู้ใช้ สร้ างขึน
เป็ นส่วนใหญ่จะทีเปิ ดเผยต่อสาธารณชนและต้ องการความสนใจเป็ นพิเ ศษ เนื องจากปั จ จุบันเด็กและ
เยาวชนมีโทรศัพท์มือถือระบบมัลติมีเดียทีมีฟังก์ ชันซึงมีความสามารถในการเข้ าถึงระบบอินเทอร์ เน็ตแค่
เพี ยงปลายนิว ทังนี ตัวเด็กและเยาวชนเองจะต้ องใช้ วิจ ารณญาณว่าพวกเขาควรจะเข้ าถึง เนื อหาที ไม่
เหมาะสมกับวัยด้ วยตัวเองและควรมีผ้ ูใหญ่ให้ คาแนะนําด้ วย
ํ
2) เนือหาทีผิดกฎหมาย
ลัทธิ การเหยี ยดผิ ว การทํ าอนาจารเด็ก จัดเป็ นประเภทของเนื อหาทีผิดกฎหมาย แต่ก็
ขึนอยู่กับ กฎหมายของแต่ละประเทศ แม้ ว่าประเภทของเนือหาบางอย่างจะผิดกฎหมายในประเทศส่วน
ใหญ่ แต่เนือหาทีผิดกฎหมายเหล่านีสามารถเข้ าถึงได้ โดยไม่ได้ ตงใจ และเจตนาโดยกลุมเด็กและเยาวชน
ั ่
ดังนันผู้ใหญ่ ควรให้ ความสนใจกับ เด็ก และเยาวชนที เป็ นเหยื อโดยระงับ เนือหาที ผิ ดกฎหมาย เช่น การ
เผยแพร่ภาพการล่วงละเมิดเด็ก หรือวิดีโอ
3) ขาดการตรวจสอบเนือหา
เนือหาทีเผยแพร่ ทางอินเทอร์ เน็ต มักจะไม่ผ่านการตรวจสอบแต่อย่างใด ดังนันควรเรี ยนรู้
ทีจะอ่านเนือหาต่างๆอย่างมีวิจารณญาณ และไม่เชือในทุกสิงทีปรากฏบนอินเทอร์ เน็ต โดยเฉพาะเนือหา
ลักษณะ Web 2.0 ทีมักจะมีบางส่วนทีลําเอียงหรื อไม่ถูกต้ อง ผู้ใช้ ในวัยเยาว์จะต้ องตระหนักถึงอันตราย
จากสิงทีอ่านออนไลน์
4) การยัวยุทก่ อให้ เกิดอันตราย
ี
มีเว็บไซด์มากมายทีส่งเสริ ม หรื อยัวยุให้ ผ้ ูใช้ ทําร้ ายตัวเอง เช่น เว็บไซด์ที ส่งเสริ มให้ ฆ่าตัว
ตายม อดอาหารเพือรักษารู ปร่ าง หรื อการแบ่งแยกนิกาย และมีความเป็ นไปได้ ทีเพิมขึนในการเผยแพร่
เนือหาของผู้ใช้ ความเสียงของการบริ โภคเนือหาทีเป็ นการยัวยุให้ เกิดอันตราย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและ
เยาวชนในหลายๆกรณีทีไม่สามารถทําการประเมินความเสียงทีเกิดจากการปฏิบัติตามคําแนะนําทีให้ ไว้ ใน
เว็บไซต์
5) การละเมิดสิทธิมนุษยชน/ หมินประมาท
การโฆษณาชวนเชือกับคนบางกลุม หรื อบุคคล เพือให้ เป็ นทีนิยม ต้ องสามารถเข้ าใจได้ ว่า
่
บุคคลนันๆได้ ทําหน้ าทีแตกต่างกันในระบบออนไลน์ โดยที พวกเขาไม่ต้อ งเผชิ ญกับปฏิ กิริ ยาของผู้ทีทํ า
หน้ าทีคล้ ายๆกัน หรื อผู้ทีตกเป็ นเหยือของพวกเขาโดยตรง อีกทังยังไม่ต้องเผชิญกับผลกระทบในทันทีจาก
การปฏิบติของพวกเขา ดังนันความเสียงของการกระทําการละเมิดสิทธิมนุษยชน และตกเป็ นเหยือของการ
ั
ถูกหมินประมาทนันมีแนวโน้ มสูงทีจะเกิดขึนในระบบออนไลน์ มากกว่าในความเป็ นจริ ง นอกจากนียังมี
เนือหาหมินประมาทเป็ นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน อาจจะมีการรับอิทธิพลจากข้ อมูลชักจูงทีเป็ นอันตราย
- 6. 6) โฆษณาทีไม่ เหมาะสม และการตลาดเพือเด็ก
โฆษณาทีไม่เหมาะสม หมายถึง โฆษณาทีมีความเสียงต่อการรั บ หรื อบริ โภคสือโฆษณา
สําหรับผลิตภัณฑ์ หรื อบริ การทีไม่เหมาะสมให้ กับเด็กและเยาวชน เช่น การทําศัลยกรรม ผู้ใช้ จํานวนมาก
ยิ นดี ทีจะให้ ข้ อ มูล ส่ว นตัว เช่ น ชื อ อายุ หรื อ เพศ ฯ และมี แนวโน้ มมากขึนที พวกเขากํ าลังจะได้ รับ สื อ
โฆษณา โดยในกลุมเด็กและเยาวชนนัน มักจะมีหลายกรณีด้วยกันทีตัวเด็กเองไม่ได้ ตระหนักถึงผลกระทบ
่
หรื อความเสียงจากการพิมพ์ ชือและรายละเอียดต่างๆลงในแบบฟอร์ มบนเว็บไซต์ และเมือพิจารณาจาก
อัตราการแทรกซึมอันสูงลิวของโทรศัพท์มือถือต่อความสนใจของของเด็ก เยาวชนและวัยรุ่ น การเผยแพร่
โฆษณานันก็ค้ มค่าทีจะจ่ายกับช่องทางนี
ุ
7) ข้ อมูลส่ วนตัว
เนือหาทีถูกเผยแพร่ บนเว็บไซต์จะสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ วไปทัวโลกและสามารถ
ดํารงอยู่อย่างไม่มีกําหนด โดยกลุ่มเด็กและเยาวชนนันมักจะไม่ตระหนักถึงผลกระทบ ระยะสัน และระยะ
ยาวของการเผยแพร่ ข้อความและรูปภาพทีไม่เหมาะสม ทีจะเผยแพร่ บนพืนทีสาธารณะ ข้ อมูลทีเก็บไว้ บน
เซิร์ฟเวอร์ หรื อแพลตฟอร์ มนัน สามารถเข้ าถึงได้ ง่ายโดยคนอืนๆ และคนทัวไปอาจไม่ตระหนักถึงความไม่
ปลอดภัยของข้ อมูลส่วนบุคคลทีสามารถเข้ าถึงได้ ง่ายนี
8) การละเมิดลิขสิทธิ
การละเมิ ดลิ ข สิ ท ธิ เป็ นความเสี ยงที เกี ยวข้ อ งกับ การดํ า เนิ น การของผู้ใ ช้ เ อง โดยไม่
คํานึงถึงความเป็ นจริ ง ไม่ว่าจะเป็ นลิขสิทธิ ของผู้อืนทีถูกละเมิดโดยจงใจ หรื อไม่ได้ เจตนา การละเมิดจึง
ถือว่าเป็ นการหลอกลวงผู้ครอบครอง และเป็ นการฝ่ าฝื นทีนําพาความเสียงในการถูกลงโทษ