SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 26
Descargar para leer sin conexión
30-Aug-12




        Local Area Network
                                                                                                       เจษฎา

                                                                                                   ฮาร์ ดแวร์ สําหรับระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณ
                                                                                          • ฮาร์ดแวร์สาหรับระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณมีส่วนประกอบหลักสาม
                                                                                                      ํ
                                                                                            ส่วนคือ
             ระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณ                                                      – เครืองคอมพิวเตอร์ (Computer) เช่น เครืองพีซี (Personal Computer: PC)
                                                                                             – อุปกรณ์เชือมต่อระบบเครือข่าย (Network Interface Card or Adapter: NIC)
               (Local Area Networks )                                                        – สือถ่ายทอดสัญญาณ (Transmission Medium)

                 นายเจษฎา ริ นเขียว


                                                                                  3                                                                                    4




                                                                                          • เครื องพีซีจะถูกนํามาใช้ ในสองบทบาทเป็ นเครื องทํางานหรื อ
               ฮาร์ ดแวร์ สําหรับระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณ                                 เครื องผู้ใช้ (Work Station or Client)ซึงมีไว้ ให้ ผ้ ูใช้
                                                                                            ทัวไปสามารถทํางานโดยลําพังและติดต่อกับเครื อง
• ฮาร์ ดแวร์ สาหรั บระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณมีส่วนประกอบหลัก
  สามส่วนคือ
              ํ
                                                                                            คอมพิวเตอร์ อืนผ่านระบบเครื อข่ายได้ ส่วนอีกบทบาทเป็ นผู้
     – เครื องคอมพิวเตอร์ (Computer) เช ่น เครื องพีซี (Personal Computer:
       PC)                                                                                  ให้ บริ การหรื อเซิร์ฟเวอร์ (Server)ซึงมีหน้ าทีในการบริ การ
            • ไม่จําเป็ นต้องเหมือนกันทังเครื อข่าย
            • มักทํางานในลักษณะ Client-Server                                               ต่างๆจึงมักจะเลือกใช้ คอมพิวเตอร์ ทีมีประสิทธิ ภาพสูงและมี
            • Workstation หรื อ Client เป็ นเครื องคอมพิวเตอร์ ทีเชือมต่อในระบบ
              เครื อข่ายทีผูใช้ใช้งาน
                            ้                                                               อุปกรณ์ประกอบทีเหมาะสม เช่น มีฮาร์ ดดิสก์ขนาดใหญ่เพือ
            • Server เป็ นเครื องทีให้บริ การต่างๆ มักมีประสิ ทธิ ภาพสู งและมี
              อุปกรณ์ประกอบทีเหมาะสมกับการให้บริ การ                                        เก็บข้ อมูลหรื อบางระบบจะไม่มฮาร์ ดดิสก์ในการทํางานเรี ยกว่า
                                                                                                                             ี
     – อุปกรณ์เชือมต่อระบบเครื อข่าย (Network Interface Card or
       Adapter: NIC)
            • เชือมต่อเครื องคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบเครื อข่าย
                                                                                            Diskless Workstation หรื อ Network
            • มีการเชือมต่อเข้ากับระบบเครื อข่ายผ่านสื อ
            • ออกแบบมาสําหรับระบบเครื อข่ายแต่ละชนิ ด
                                                                                            Computer (NC)ซึงจะใช้ อปกรณ์เชือมต่อระบบเครื อข่าย
                                                                                                                               ุ
     – สื อถ่ายทอดสัญญาณ (Transmission Medium)                                              ชนิดทีแตกต่างกันออกไป
            • เชือมต่ออุปกรณ์ทงหมดในระบบเครื อข่ายเข้าด้วยกัน
                              ั
            • อาจเป็ นแบบมีสายหรื อไร้สายก็ได้

                                                                                                                                                                       6
                                                                                      5




                                                                                                                                                                              1
30-Aug-12




              ชวลิต
                                                                                           นายชวลิต คํามูล
                                                                                             52122309




                                                                                                        โมเด็ม (Modem)
     อุปกรณ์เชือมต่อเครือข่าย
  (Network Interface Card or                                                                                โมเด็มเป็ นฮาร์ดแวร์ทีทํ าหน ้าทีแปลงสัญญาณอนาล็อกให ้เป็ น
    Adapter Card) ทําหน ้าที                                                                            สัญญาณดิจตอล เมือข ้อมูลถูกส่งมายังผู ้รับละแปลงสัญญาณดิจตอล
                                                                                                                      ิ                                               ิ
                       ี
เชือมต่อกับเครืองพีซเข ้ากับระบบ                                                                        ให ้เป็ นอนาล็อก เมือต ้องการส่งข ้อมูลไปบนช่องสือสาร
  เครือข่าย ซึงเป็ นอุปกรณ์ทเป็ น
                            ี
แผงวงจรสําหรับเสียบเข ้าช่องต่อ
   ขยาย (Expansion Bus)ของ
    เครืองคอมพิวเตอร์ เพือให ้                                                                                การ์ดเครือข่าย (Network Adapter) หรือ การ์ด LAN
 สามารถต่อสายของเครือข่ายเข ้า
                                                                                                                           เป็ นอุปกรณ์ทําหน ้าทีสือสารระหว่างเครืองต่างกันได ้
 มาและทําการติดต่อส่งข ้อมูลกับ
                                                                                                             ไม่จําเป็ นต ้องเป็ นรุ่นหรือยีห ้อเดียวกันแต่หากซือพร ้อมๆกันก็
           เครือข่ายได ้                                                                                     แนะนํ าให ้ซือรุนและยีห ้อเดียวกันจะดีกว่าและควรเป็ น การ์ดแบบ
                                                                                                                               ่
                                                                                                             PCI เพราะสามารถส่งข ้อมูลได ้เร็วกว่าแบบ ISAและเมนบอร์ดรุ่น
                                                                                                             ใหม่ๆมักจะไม่มี Slot ISA ควรเป็ นการ์ดทีมีความเร็วเป็ น 100
                                                                                                             Mbps




                      เกตเวย์ (Gateway)
                                                                                                       รีพตเตอร์ (Repeater)
                                                                                                           ี
                          เกตเวย์ เป็ นอุปกรณ์อเล็กทรอนิกส์อกอย่างหนึงทีช่วยในการ
                                               ิ            ี                                                       รีพีตเตอร์ เป็ นเครืองทบทวนสัญญาณข ้อมูลในการส่ง
                      สือสารข ้อมูลคอมพิวเตอร์หน ้าทีหลักคือช่วยให ้เครือข่าย                          สัญญาณข ้อมูลในระยะทางไกลๆสํ าหรับสัญญาณแอนะล็อกจะต ้องมี
                      คอมพิวเตอร์ 2 เครือข่ายหรือมากกว่า ซึงมีลกษณะไม่เหมือนกัน
                                                                 ั                                     การขยายสัญญาณข ้อมูลทีเริมเบาบางลงเนืองจากระยะทาง และ
                      สามารถติดต่อสือสารกันได ้เหมือนเป็ นเครือข่ายเดียวกัน                            สํ าหรับสัญญาณดิจตัลก็จะต ้องมีการทบทวนสัญญาณเพือป้ องกันการ
                                                                                                                           ิ
                                                                                                       ขาดหายของสัญญาณเนืองจากการส่งระยะทางไกลๆ
                                                                                                       เช่นกัน รีพีตเตอร์จะทํางานอยู่ในชัน Physical
                      เราเตอร์ (Router)
                                เราเตอร์เป็ นอุปกรณ์ในระบบเครือข่ายทีทํ าหน ้าทีเป็ นตัว
                      เชือมโยงให ้เครือข่ายทีมีขนาดหรือมาตรฐานในการส่งข ้อมูลต่างกัน
                      สามารถติดต่อแลกเปลียนข ้อมูลระหว่างกันได ้ เราเตอร์จะทํ างานอยู่                   สายส ัญญาณ
                      ชัน Network หน ้าทีของเราเตอร์กคอ ปรับโปรโตคอล (Protocol)
                                                       ็ ื                                                            เป็ นสายสํ าหรับเชือมต่อเครืองคอมพิวเตอร์ต่างๆใน
                      (โปรโตคอลเป็ นมาตรฐานในการสือสารข ้อมูล บนเครือข่าย                                ระบบเข ้าด ้วยกัน หากเป็ นระบบทีมีจํานวนเครืองมากกว่า 2 เครืองก็
                      คอมพิวเตอร์) ทีต่างกันให ้สามารถสือสารกันได ้                                      จะต ้องต่อผ่านฮับอีกทีหนึง โดยสายสัญญาณสํ าหรับเชือมต่อ
                                                                                                         เครืองในระบบเครือข่าย จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ
                    บริดจ์ (Bridge)                                                                      1. สาย Coaxial Cable มีลกษณะเป็ นสายกลม คล ้ายสาย
                                                                                                                                          ั
                               บริดจ์มีลกษณะคล ้ายเครืองขยายสัญญาณ บริดจ์จะทํ างาน
                                        ั                                                                                                                  ้
                                                                                                              โทรทัศน์ ส่วนมากจะเป็ นสีดําสายชนิดนีจะใชกับการ์ด LAN ที
                    อยู่ในชัน Data Link บริดจ์ทํางานคล ้ายเครืองตรวจตํ าแหน่งของข ้อมูล                       ใช ้คอนเน็กเตอร์
                    โดยบริดจ์จะรับข ้อมูล จากต ้นทางและส่งให ้กับปลายทาง โดยทีบริดจ์จะ                   2. สาย UTP (Unshied Twisted Pair) เป็ นสายสํ าหรับ
                    ไม่มการแก ้ไขหรือเปลียนแปลงใดๆแก่ข ้อมูล บริดจ์ทําให ้การเชือมต่อ
                         ี                                                                                    การ์ด LAN ทีใช ้คอนเน็กเตอร์แบบ RJ-45 สามารถส่ง
                    ระหว่างเครือข่ายมีประสิทธิภาพลดการชนกัน ของข ้อมูลลง บริดจ์จงเป็ น
                                                                                    ึ                         สัญญาณได ้ไกล
                    สะพานสํ าหรับข ้อมูลสองเครือข่าย                                                          ประมาณ 100 เมต




                                                                                                                                                                                         2
30-Aug-12




                                                                                                   ื        ั
                                                                                                  สอถ่ายทอดสญญาณ


            ชาติชาย                                                                 สือถ่ายทอดส ัญญาณ (Transmission Medium)
                                                                                           ทําหน ้าทีเชือมต่ออุปกรณ์ทงหมดในระบบเครือข่ายเข ้าด ้วยกัน
                                                                                                                     ั
                                                                                    และถ่ายทอด สัญญาณไปยังอุปกรณ์เหล่านัน
                                                                                           ตัวอย่างสือถ่ายทอดสัญญาณทีใช ้ทัวไป ได ้แก่
                                                                                                   สายคูบดเกลียว (Twisted Pair)
                                                                                                         ่ ิ
                                                                                                   สายโคแอกเซียล (Coaxial)
                                                                                                   สายใยแก ้วนําแสง (Fiber Optic)
                                                                                                   อากาศ (สําหรับถ่ายทอดสัญญาณคลืนวิทยุ)
                                                                                           ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณส่วนใหญ่นยมใช ้สายคูบดเกลียว
                                                                                                                               ิ         ่ ิ
                                                                                    และสายโคแอกเซียล เนืองจากเป็ นสือทีใช ้เทคโนโลยีตา ราคาถูก
                                                                                                                                       ํ
                                                                                    และสามารถติดตังใช ้งานได ้ง่าย




              สือถ่ายทอดสัญญาณทีใช ้ทัวไป                                                           ระบบเครือข่ายไร ้สาย
                                                                                                    (Wireless Network)
สายคูบดเกลียว (Twisted Pair)
     ่ ิ
                                                                                              เป็ นระบบทีกําลังได ้รับความนิยมนํ ามาใช ้งานอย่างมาก
                                                                                                                                  ื
                                                                                     โดยเฉพาะในองค์กรสมัยใหม่ ทีมีอปกรณ์สอสารไร ้สาย เช่น
                                                                                                                          ุ
                                                                                     โน ้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แทปเล็ต เป็ นตน    ้
สายโคแอกเซียล (Coaxial)
                                                                                             จุดเด่นของระบบเครือข่ายไร ้สายคือ การทีไม่ใช ้สายสือสาร
                                                                                     ทําให ้เกิดความคล่องตัวในการทํางานเป็ นอย่างมาก และไม่มความ
                                                                                                                                               ี
                                                                                     ยุ่งยากทีอาจเกิดขึนจากการเดินสายสือสารไปตามจุดต่าง ๆ หรือ
สายใยแก ้วนํ าแสง (Fiber Optic)                                                      ปั ญหา สายสือสารชํารุด



อากาศ (สําหรับถ่ายทอดสัญญาณคลืนวิทยุ)




                   สือนํ าข ้อมูลแบบไร ้สาย



                                                                                            ณัฐพงศ
                      (Wireless Media)
การสือสารข ้อมูลแบบไร ้สาย จะใช ้อากาศเป็ นตัวกลางของการสือสาร เช่น
        - แสงอินฟราเรด เป็ นการสือสารข ้อมูลโดยใช ้แสงอินฟราเรดเป็ นสือกลาง

           - สัญญาณวิทยุ เป็ นสือนําข ้อมูลแบบไร ้สาย (Wireless Media) ทีมีการส่ง
ข ้อมูลเป็ นสัญญาณคลืนวิทยุไปในอากาศไปยังตัวรับสัญญาณ

         - ไมโครเวฟภาคพืนดิน เป็ นการสือสารไรสายอีกประเภทหนึง การสือสาร
ประเภทนีจะมีเสาส่งสัญญาณไมโครเวฟทีอยูหางๆกัน ทําการส่งข ้อมูลไปในอากาศไป
                                        ่ ่
ยังเสารับข ้อมูล

         - การสือสารผ่านดาวเทียม เป็ นการสือสารจากพืนโลกทีมีการส่งสัญญาณ
ข ้อมูลไปยังดาวเทียม โดยดาวเทียมจะทําหน ้าทีเป็ นสถานีทวนสัญญาณ เพือจัดส่ง
สัญญาณต่อไปยังสถานีภาพพืนดินอืนๆ




                                                                                                                                                              3
30-Aug-12




    มาตรฐานสําหรับระบบเครือข่าย
                                                                • มาตรฐานเหล่านีได ้กําหนดวิธการทีเครืองผู ้ใช ้
                                                                                             ี
           เฉพาะบริเวณ
                                                                    ติดต่อกับสือ กําหนดคุณสมบัตของสือและ
                                                                                               ิ
         ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณมีการนํ าไปใช ้งานมาก จึง          ความเร็วในการรับส่งข ้อมูลผ่านสือนันมาตรฐาน
  ได ้มีการกําหนดมาตรฐานไว ้เพือให ้ระบบต่างๆสามารถสือสาร           เหล่านีได ้รับการแก ้ไขปรับปรุงให ้เหมาะสมกับ
  ระหว่างกันได ้                                                    เทคโนโลยีทเปลียนไปอยู่เสมอ เช่น เลข
                                                                              ี
         องค์กร IEEE (Institute of Electrical and Electronics       มาตรฐาน 802.11 กล่าวถึงมาตรฐานสําหรับระบบ
  Engineers) ได ้กําหนดมาตรฐานสําหรับระบบเครือข่ายขึนมา             เครือข่ายแบบไร ้สาย
  ชุดหนึง เรียกว่า “มาตรฐาน IEEE 802”




• ส่วน 802.12 เป็ นมาตรฐานทีเรียกว่า AnyLAN
 ซึงเป็ นมาตรฐานระบบเครือข่ายทีมีความเร็วสูง

 ( ไม่เกิน 100 Mbps ) ทีใช ้สือประเภท
                                                                                    พิชัย
 สายใยแก ้วนําแสงหรือสายยูทพระดับชันที5
                           ี ี




                                                                •                 ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณถูกกํา หนดรูป แบบการ
                                                                    วางและเชือมต่ออุปกรณ์ตางๆ เข ้าด ้วยกัน โดยพิจารณาถึงความ
                                                                                              ่
                                                                    เหมาะสมของระบบเครือข่ายกับพืนทีติดตังใช ้งานเป็ นหลัก โดย
  รูปแบบการเชือมต่ออุปกรณ์สําหรับระบบ                               จะเน ้นในเรืองความเร็ว ในการใช ้งาน และความสะดวกในการ
                                                                    ปรับ ปรุงหรือขยายขีด ความสามารถในอนาคต ความแตกต่า ง
         เครือข่ายเฉพาะบริเวณ                                       จากระบบเครือข่ายวงกว ้างทีเห็ น ได ้ชัด คือ อุป กรณ์ห ลายตัว ใน
                                                                    ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณมักจะมีการย ้ายทีตังเป็ นประจํา ซึง
                                                                    จะยังคงเชือมต่อกับ ระบบเสมอ เช่น พนั กงานอาจจะต ้องย ้าย
                                                                    ห ้องทํางานซึงก็มักจะนํ าพีซทตนใช ้งานเป็ นประจํา นั นติด ตัว ไป
                                                                                                 ี ี
                                                                    ด ้วย หรือ อุ ป กรณ์บ างอย่ า ง เช่ น เครืองพิม พ์ อ าจจะถู ก ย า ย
                                                                                                                                    ้
                                                                    ตําแหน่งได ้เสมอ นอกจากนีระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณมักจะมี
                                                                    การขยายตัว อยู่ ต ลอดเวลา คือจะมีทังจํา นวนผู ้ใช ้และอุป กรณ์
                                                                    มากขึน รูป แบบการวางและเชือมต่ออุป กรณ์จงจะต ้องมีค วาม
                                                                                                                     ึ
                                                                    อ่อนตัว ในการตอบสนองความเปลียนแปลงทีเกิดขึนได ้




                                                                                                                                             4
30-Aug-12




ระบบเครือข่ายแบบวงแหวน
                                                                         •           จะเห็นได ้ว่าโครงสร ้างทีเชือมคอมพิวเตอร์เข ้า
                                                                              เป็ นวงแหวนข อ มู ล จะถู ก สงต่ อ ๆกั น ไปในวงแหวน
                                                                                             ้
                                                                              จนกว่าจะถึงเครืองผู ้รับทีถูกต ้อง

                                                                         • ข้อดีของโครงสร ้างแบบนีคือ ใช ้สายเคเบิลน ้อย และ
                                                                           สามารถตัดเครืองเสีย ออกจากระบบได ้ ทํ าให ้ไม่ม ีผ ล
                                                                           ต่อระบบเครือข่าย
•              ระบบเครือ ข่า ยแบบวงแหวน (Ring Topology) ถู ก
    ออกแบบมาเพือให ้เครืองผู ้ใช ้แต่ละเครืองเชือมต่อกับเครืองผู ้ใช ้
    ทีอยู่ข ้างเคียง ซึงเมือต่อถึงกันหมดแล ้วจะกลายเป็ นวงจรปิ ดรูป      • ข้อเสียคือ หากมีเครืองทีมีปั ญหาอยู่ใ นระบบจะทํ าให ้
    วงแหวน ซึงข ้อมูลทีใช ้ในระบบเครือข่า ยเรีย กว่า Message จะ            เครือข่า ยไม่ส ามารถทํ างานได ้เลย และการเชือมต่อ
    ถูกส่งไปในทิศ ทางเดีย วกัน เสมอ เครืองผู ้ใช ้แต่ละเครืองทีรับ                      ่
                                                                           เครืองเข ้าสูเครือข่ายอาจต ้องหยุดระบบทังหมดลงก่อน
    ข ้อมูลเข ้ามาจะเก็บข ้อมู ลนั นไว ้ในกรณีทเป็ นข ้อมู ลของตนเอง
                                               ี
    เท่านัน หากข ้อมูลไม่ใช่ของตนเอง ต ้องส่งผ่ า นไปยั งสถานีอน   ื
    ต่อไป




                                                                                               วนัส
•            ระบบเครือข่ายวงแหวนแบบทีกํ า ลั ง นิ ย มใช ้เป็ นแบบ
    เอฟดีด ีไอ (Fiber Distributed Data Interface : FDDI)
    FDDI ใช ้สายใยแก ้วนํ าแสงในการสร ้างวงแหวนสองวงซ ้อน
    กัน ข ้อมูลจะถูกส่งผ่านสายทังสองเครือข่าย ซึงจะมีทศทางที
                                                          ิ
    สวนทางกัน ในกรณีทข ้อมูล ในวงหนึ งไปไม่ถ ึง ผู ้รั บข ้อมูล ใน
                           ี
    อีกวงหนึงก็จะไปถึงผู ้รับได ้ ระบบเอฟดีดไอมักจะนํ าไปใช ้เป็ น
                                             ี
    เครือข่ายสือสารหลัก สําหรับระบบเครือข่ายองค์กร เนืองจาก
    มีความเร็ ว ในการถ่ า ยทอดข ้อมูล สูง มากและมีอ ัต ราการเกิด
    ข ้อมูลผิดพลาดตํามาก




                                                                         เครือข่ายแบบบ ัส (Bus topology)

เครือข่ายแบบบัส ( Bus topology )
                                                                                                                           ้
                                                                                       เป็ นรู ป แบ บ ที มี ผู น ิ ย ม ใ ช ม าก แบ บ ห นึ ง เ พราะ มี
                                                                                                                 ้
                                                                             โครงสร ้างไม่ ยุ่ งยากและไม่ ต ้องใช ้อุป กรณ์ส ลับ สาย เป็ นการ
                                                                             เชือมต่อแบบหลายจุด สถานีทกสถานีรวมทังอุป กรณ์ทุกชินใน
                                                                                                                     ุ
                                                                             เครื อ ข่ า ยจะ เชื อม ต่ อ เข า กั บ ส า ยสื อ ส ารห ลั ก เพี ย งส า ย
                                                                                                            ้
                                                                             เดียว เรียกว่าแบ็ กโบน (Backbone) การจัด ส่งข ้อมู ลลงบนบั ส
                                                                             จึง ส าม ารถทํ า ให ก ารส่ ง ข อ มู ล ไป ถึง ทุ ก สถานี ไ ด ้ผ่ านสาย
                                                                                                   ้           ้
                                                                             แบ็ กโบนนี โดยการจัด ส่งวิธ ีน ีต ้องกํา หนดวิธ ีการทีจะไม่ ใ ห ้ทุก
                                                                                     ่
                                                                             สถานีสงข ้อมูลพร ้อมกัน เพราะจะทําให ้ข ้อมูลชนกัน โดยวิธ ีการ
                                                                             ทีใช ้อาจเป็ นการแบ่ งช่ว งเวลา หรือให แต่ละสถานีใ ช ้ความถี
                                                                                                                              ้
                                                                             สัญญาณทีแตกต่างกัน ข ้อดีทใช ้สายน ้อย และถ ้ามีเครืองเสีย ก็
                                                                                                                   ี
                                                                             ไม่มผลอะไรต่อระบบโดยรวม ส่วนข ้อเสียก็คอตรวจหาจุด ทีเป็ น
                                                                                  ี                                              ื
                                                                             ปั ญหาได ้ยาก




                                                                                                                                                               5
30-Aug-12




                                                                           โครงสร้างเครือข่ายแบบบ ัส
 เครือข่ายแบบบ ัส
                                                                           (Bus Network)
 (Bus Network)

                                                                                     คือลักษณะการเชือมต่อแบบอนุ กรม โดยใช ้สายเคเบิลเส ้น
         เครือ ข่ า ยแบบบ ส (Bus Network) เป็ นเครือ ข่ า ยที
                            ั                                               ยาวต่อเนืองกันไปดังรูปทีได ้แสดงไว ้ โครงสร ้างแบบนีมีจุด อ่อนคือ
เชือมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ตาง ๆ ด ้วยสายเคเบิลยาวต่อเนือง
                                     ่                                      เมื อคอมพิ ว เตอร์ต ัว ใดตัว หนึ งมีปั ญหากั บ สายเคเบิ ล ก็ จะทํ า ให ้
ไปเรือย ๆ โดยจะมีค อนเน็ กเตอร์เป็ นตัว เชือมต่อคอมพิว เตอร์ และ            เครือข่ายรวนไปทังระบบ นอกจากนีเมือมีการเพิมคอมพิวเตอร์เข ้าไป
อุปกรณ์ เข ้ากับสายเคเบิลในการส่งข ้อมู ลจะมีค อมพิว เตอร์เพีย งตัว         ในเครือข่าย อาจต ้องหยุดการใช ้งานของระบบเครือข่ายก่อน เพือตัด
เดีย วเท่ า นั น ทีสามารถส่ งข ้อมู ลได ้ในช่ ว ง เวลาหนึ งๆ การจัด ส่ ง    ต่อ สายเข ้าเครืองใหม่ ส่ ว นข ้อดีค ือโครงสร ้างแบบบั ส นี ไม่ ต ้องมี
                                                      ่
ข ้อมูลวิธนจะต ้องกําหนดวิธการทีจะไม่ให ้ทุกสถานีสงข ้อมูลพร ้อมกัน
          ี ี                 ี                                             อุปกรณ์อย่าง Hub หรือ Switch ใช ้เพียงเส ้นเดียวก็สามารถเชือมต่อ
เพราะจะทํา ให ้ข ้อมู ลชนกัน วิธ ีการทีใช ้อาจแบ่ งเวลาหรือให ้แต่ละ        เป็ นเครือข่ายขนาดเล็กทีมีจํานวนเครืองไม่มาก ปั จจุบันไม่คอยใช ้กัน
                                                                                                                                         ่
สถานีใช ้ความถีสัญญาณทีแตกต่า งกัน การเซตอัป เครืองเครือข่า ย               แล ้ว เนื องจากไม่ ม ี การพั ฒ นาเทคโนโลยีใ หม่ ๆ เพิ มเติม ทํ า ให ้
แบบบัสนี ทําได ้ไม่ยากเพราะคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์แต่ละชนิด ถูก               ความเร็ว ถูกจํา กัด อยู่ ท ี 10 Mbps และถูกทดแทนโดยการเชือมต่อ
เชือมต่อด ้วยสาย เคเบิลเพีย งเส ้นเดีย วโดยส่ว นใหญ่ เครือข่า ยแบบ          แบบสตาร์
บัส มักจะใช ้ในเครือข่ายขนาดเล็ก ซึงอยู่ในองค์กรทีมี คอมพิว เตอร์
ใช ้ไม่มากนัก




  ข้อดี เครือข่ายแบบบ ัส



    - ใช ้สายส่งข ้อมูลน ้อยและมีรปแบบทีง่ายในการติดตัง ทําให ้ลด
                                  ู
    ค่าใช ้จ่ายในการติดตังและบํ ารุงรักษา
                             ิ
    - สามารถเพิมอุปกรณ์ชนใหม่เข ้าไปในเครือข่ายได ้ง่าย

  ข้อดี เครือข่ายแบบบ ัส
                                                                                             วัธนา
   - ในกรณีทเกิดการเสียหายของสายส่งข ้อมูลหลัก จะทําให ้ทังระบบ
             ี
   ทํางานไม่ได ้
   - การตรวจสอบข ้อผิดพลาดทําไดยาก ต ้องทําจากหลายๆจุด
                               ้




                                                                                    เป็ นการเชื อมต่ อแบบจุ ด ต่ อจุ ด โดยสถานี ทุ ก
                                                                            สถานี ใ นเครื อข่ า ยจะต่ อเข้ า กับ หน่ ว ยสลับ สายกลาง
                                                                            แบบจุ ด ต่ อ จุ ด การติ ด ต่ อสื อสารระหว่ า งสถานี จ ะ
  เครือข่ ายแบบดาว (star topology)                                          กระทําได้ ด้วยการติดต่ อผ่ านทางวงจรของหน่ วย สลับ
                                                                            สายกลาง การทํางานของหน่ วยสลับสายกลางจึงคล้ าย
                                                                            กับ ศู น ย์ กลางของการติด ต่ อวงจรเชื อมโยง ระหว่ า ง
                                                                            สถานีต่าง ๆ ทีต้ องการติดต่ อกัน




                                                                                                                                                        6
30-Aug-12




     ข้ อ ดี คื อ การเชื อมต่ อ คอมพิ ว เตอร์ เครื องใหม่
สามารถทําได้ ง่ายและไม่ กระทบกับ เครื องอืนในระบบ
เลย แต่ ข้ อเสี ย คื อมี ค่ า ใช้ จ่ า ยเกียวกับ สายสู ง และถ้ า
คอมพิ ว เตอร์ ศู นย์ กลางเสี ยระบบเครื อข่ ายจะ
หยุดชะงักทังหมดทันที




                  เอนก
                                                                                         โพรโทคอล
                                                                                               protocol

                                                                                         อีเทอร์เน็ต
                                                                                                Ethernet




Protocol & Ethernet                                                Protocol & Ethernet
                                                                                                                       ้
                                                                    ชุดโพรโทคอลต่อไปนี คือชุดโพรโทคอลสําคัญ ซึงเป็ นใชเป็ นต ้นแบบ ในการ
                      โพรโทคอล                                         ้
                                                                    ใชงานต่างๆ แบ่งได ้เป็ น 2 มาตรฐานดังนี คือ


• โพรโทคอล (protocol) หรือชือไทยว่า เกณฑ์วธคอ  ิ ี ื
  ข ้อกําหนดซึงประกอบด ้วยกฎต่าง ๆ สําหรับรูปแบบการ
  สือสารเฉพาะรูปแบบใดรูปแบบหนึง เพือให ้การ                        1.มาตรฐานเปิ ด Internet protocol suite
  ติดต่อสือสารในระบบเครือข่าย ทํางานได ้ด ้วยกันทัง                   - Open Systems Interconnection (OSI)
  ระบบ คล ้ายกับมนุษย์สามารถใช ้ภาษาอังกฤษเป็ น                    2.มาตรฐานปิ ด AppleTalk
  ภาษากลางในการสือสารถึงกันได ้                                       - DECnet
                                                                      - IPX/SPX
                                                                      - SMB
                                                                      - Systems Network Architecture (SNA)
                                                                      - Distributed Systems Architecture (DSA)




                                                                                                                                                  7
30-Aug-12




 Protocol & Ethernet                                                  Protocol & Ethernet
                                                                                              อีเทอร์เน็ ต
 โพรโทคอลทีสําคัญ
                                                                      • อีเทอร์เน็ต (Ethernet) เป็ นเทคโนโลยีเครือข่าย
  -   HTTP (Hyper Text Transfer Protocol)                               คอมพิวเตอร์ทเป็ นฐานหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศ
                                                                                       ี
  -   POP3 (Post Office Protocol 3).                                    ทังหมด เนืองจากเป็ นเทคโนโลยี LAN ทีได ้รับความ
  -   SMTP (Simple Mail Transfer Protocol).                             นิยมมากทีสุด เทคโนโลยีนีได ้ถูกพัฒนาและปรับปรุง
                                                                        ภายใต ้ความดูแลรับผิดชอบของ IEEE
  -   FTP (File Transfer Protocol).
  -   IP (Internet Protocol).                                         • สิงสําคัญทีได ้รับการเปลียนแปลงปรับปรุง คือ "ความเร็ว
                                                                        ในการรับส่งข ้อมูล (Bandwidth)" โดยมีการปรับปรุง
  -   DHCP (Dynamic Host Configuration Protocol).
                                                                        ความเร็วจาก 10 Mbps เป็ น 100 Mbps ซึงเรียก
  -   IMAP (Internet Message Access Protocol).
                                                                        Ethernet นีว่า Fast Ethernet ซึงได ้รับความนิยม
                                                                        มากกว่า ATM (Asynchronous Transfer Mode)




  กรรณิการ ก.                                                                           โทเกนพาสซงิ
                                                                                       (Token Passing)




                       โทเก ้นพาสซิง คือ

• ระบบเครือ ข่ายทีใช ้โทเก ้นพาสซิงจะต ้องสร ้างข ้อมูล
  พิเศษขึนมาชุดหนึง เรีย กว่าโทเก ้น (Token) เพือส่ง
  จากอุปกรณ์หนึงไปยังอุปกรณ์ ใ นลํ าดับ ต่อไปทีละตัวจน
  ครบทุกตัวในระบบแล ้วจึง วนกลับ มาทีอุป กรณ์ ตัวแรกใน
                                                       ิ
  วงรอบถัดไป อุป กรณ์ ท ีรับ โทเก ้นเข ้ามามีส ท ธิท ีจะส่ง            วิธนจะมี token ทีใช ้เป็ นสือกลางในการรับส่งข ้อมู ล ซึงจะวิงวนใน
                                                                          ี ี
                ่
  ข ้อมูลเข ้าสูระบบเครือข่ายก่อนทีจะส่งโทเก ้นออกไปเป็ น              เครือ ข่ า ย ในกรณี ท ี token วิงมาถึง เครื องใด เครืองนั นก็ จ ะ
  ลํ าดั บ สุดท ้าย หรือ ถ ้าไม่ม ีข ้อมูล ทีจะส่ง ก็เ พีย งแต่ส ่ง                                                  ี ่
                                                                       ตรวจสอบว่ามีข ้อมูลส่งมาถึงหรือเปล่าถ ้าไม่มก็สงไปยังเครืองถัดไป
                                                                       และในกรณีท ีต ้องการจะส่ง ข ้อมู ล ก็จะตรวจสอบว่ า token ว่า ง
  โทเก ้นออกไป                                                         หรือไม่ ถ ้าว่างก็จะบรรจุข ้อมูลและระบุทอยู่ของเครืองทีจะรับ ลงใน
                                                                                                               ี
                                                                       token แล ้วส่งไปยังเครืองถัดไป




                                                                                                                                             8
30-Aug-12




            ตัวอย่างระบบเครือข่ายทีใช ้ เช่น Token-Ring           • อุปกรณ์ตัวอืนทีต ้องการส่งข ้อมูลต ้องรอให ้โทเก ้นมาถึง
                                                                     ตัวเองก่อนจึงจะดําเนินการส่ง ข ้อมูลได ้ โพรโตคอลนีมี
                                                                     ความยุตธรรมเนืองจากอุปกรณ์ทกตัวจะมีโอกาสเท่ากัน
                                                                              ิ                          ุ
                                                                     ในการได รั บ โทเก ้นด ว ยโอกาสเท่ า กั น ดั ง นั นจึง มี
                                                                                ้             ้
                                                                     โอกาสทีจะส่งข ้อมูลเท่ากัน โพรโตคอลโทเก ้นพาสซิง
                                                                     มีอยุ่ สองแบบคือ
                                                                         - โทเก ้นริง ซึงใช ้งานร่วมกับ รูป แบบการเชือมต่อ
                                                                  อุปกรณ์แบบวงแหวน
                                                                         - โทเก ้นบั ส ใช ร่ ว มกั บ รู ป แบบบั ส แม ้ว่า จะใช ้
                                                                                           ้
                                                                      โทเก ้นทั งสองแบบแต่ ก็ ม ีร ายละเอีย ดการทํ างาน
                                                                      แตกต่างกัน




  ณัฐพงษ
                                                                       Token Ring Technology
                                                                            เครือข่ายแบบโทเคนริง (Token Ring) เป็ นเทคโนโลยี
                                                                    เครือข่าย LAN ทีพัฒนาโดยบริษัท IBM ในช่วงทศวรรษที1970
                                                                    ซึงต่อมา IEEE (The Institute of Electrical and Electronics
                                                                    Engineers) ได ้นํ ามาเป็ นแม่แบบในการพัฒนามาตรฐาน IEEE
                                                                    802.5 ซึง IEEE 802.5 หรือ โทเคนริง (Token Ring) จัดเป็ น
                                                                    เครือข่ายทีใช ้โทโปโลยีแบบวงแหวน ด ้วยสายคูตเกลียวหรือเส ้น
                                                                                                                   ่ ี
                                                                    ใยนํ าแสง อัตราการส่งข ้อมูลของโทเค็นริงทีใช ้โดยทัวไปคือ 4
                                                                    หรือ 16 Mbps กําหนดให ้มีสถานีเชือมต่อไดไม่เกิน 250 สถานี
                                                                                                               ้
                                                                    เครือข่าย LAN แบบโทเคนริงนัน เหมาะกับงานทีต ้องการ
                                                                    รับประกันอัตราความเร็วในการรับ/ส่งข ้อมูล รวมทังงานทีต ้องการ
                                                                    ระบบความแน่นอนทีสามรถใช ้งานไดดีอยู่แม ้มีปัญหาเกิด ขึนกับ
                                                                                                       ้
                                                                    ระบบ




Token Ring Technology (ต่อ)                                          ล ักษณะการทํางานของ Token Ring
           เป็ นรูปแบบที เครืองคอมพิวเตอร์ทกเครืองในระบบ
                                                 ุ                      คอมพิวเตอร์แต่ละเครืองจะต่อเข ้ากับคอมพิวเตอร์
เครือข่าย ทังเครืองทีเป็ นผู ้ให ้บริการ ( Server) และ เครืองที        เครืองอืนโดยตรง และมีลักษณะต่อแบบต่อเนืองไป
เป็ นผู ้ขอใช ้บริการ (Client) ทุกเครืองถูกเชือมต่อกันเป็ น            เรือยๆ จนกระทังวนกลับมายังคอมพิวเตอร์เครือง
วงกลม ข ้อมูลข่าวสารทีส่งระหว่างกัน จะไหลวนอยู่ใน                      แรก หรือมีการต่อเป็ นวงนันเอง ข ้อมูลทีส่งออกจาก
เครือข่ายไปใน ทิศทางเดียวกัน โดยไม่มจดปลายหรือเทอร์
                                             ี ุ                       เครืองใดๆ จะถูกส่งต่อไปเรือยๆ จนกระทังถึงเครือง
มิเนเตอร์เช่นเดียวกับเครือข่ายแบบ BUS ในแต่ละโหนดหรือ
แต่ละเครือง จะมีรพตเตอร์ (Repeater) ประจําแต่ละเครือง 1
                     ี ี                                               ปลายทางทีระบุไว ้ในส่วนประกอบ ของข ้อมูล
ตัว ซึงจะทําหน ้าทีเพิมเติมข ้อมูลทีจําเป็ นต่อการติดต่อสือสาร                                 ส่งต่ อ
เข ้าในส่วนหัวของแพ็ กเกจทีส่ง และตรวจสอบข ้อมูลจากส่วน
หัวของ Packet ทีส่งมาถึง ว่าเป็ นข ้อมูลของตนหรือไม่ แต่ถ ้า                                                    ส่งต่ อ
                                                                                        ส่ง
ไม่ใช่ก็จะปล่อยข ้อมูลนันไปยัง Repeater ของเครืองถัดไป
                                                                                                               ส่งต่ อ

                                                                                                         รับ




                                                                                                                                           9
30-Aug-12




             โทโปโลยีแบบวงแหวน (ต่อ)                                       รูปแบบการเชือมต่อโทเคนริงเข้าก ับ Hub
ข้อดี
                                                                              (เชือมเครือข่า◌่ยเปน Token Ring)
                                                                                                 ็
- ผู ้ส่งสามารถส่งข ้อมูลไปยังผู ้รับได ้หลาย ๆ เครืองพร ้อม ๆ กัน โดย
 กําหนดตําแหน่งปลายทางเหล่านั นลงในส่วนหัวของแพ็ กเกจข ้อมูล                     ในเครือข่ายโทเคนริงทุกสถานีจะเชือมต่อโดยตรงกับ
 Repeater ของแต่ละเครืองจะทําการตรวจสอบเองว่า ข ้อมูลทีส่งมาให ้           โทเคนริงฮับหรือ MSAU (Multi-Station Access Unit)◌ ้ ดังนัน
 นั น เป็ นตนเองหรือไม่
        - การส่งผ่านข ้อมูลในเครือข่ายแบบ RING จะเป็ นไปในทิศทางเดียว      จึงมีโทโปโลยีแบบต่างๆ ในหนึงเครือข่ายอาจมีมากกว่าหนึงฮับ
                ่
 จากเครืองสูเครือง จึงไม่มีการชนกันของสัญญาณ ข ้อมูลทีส่งออกไป             ก็ได ้ ซึงถ ้ามีมากกว่าหนึงฮับขึนไป การพ่วงต่อฮับต ้องเป็ นไปใน
         - คอมพิวเตอร์ทกเครืองในเน็ ตเวิรกมีโอกาสทีจะส่งข ้อมูลได ้อย่าง
                         ุ                 ์
 ทัดเทียมกัน                                                               รูปแบบวงแหวน(Ring) แสดงการเชือมต่อของโทเคนริง จากรูป
                                                                           คอมพิวเตอร์จะเชือมต่อโดยตรงเข ้ากับฮับ และแต่ละฮับจะมี
ข้อเสีย                                                                    สายสัญญาณเชือมต่อไปยังฮับทีอยู่ตดกันทําให ้การเชือมต่อ
                                                                                                                 ิ
- ถ ้ามีเครืองใดเครืองหนึงในเครือ ข่ายเสียหาย ข ้อมูลจะไม่สามารถ           เป็ นวงแหวน(Ring)
 ส่งผ่านไปยังเครืองต่อ ๆ ไปได ้ และจะทําให ้เครือข่ายทังเครือข่าย
 หยุดชะงั กได ้
       - ขณะทีข ้อมูลถูกส่งผ่านแต่ละเครือง เวลาส่วนหนึงจะสูญเสียไปกับ
 การทีทุก ๆ Repeater จะต ้องทําการตรวจสอบตําแหน่งปลายทางของ
 ข ้อมูลนั น ๆ ทุก ข ้อมูลทีส่งผ่านมาถึง




กรรณิการ พ.                                                                                    Token Bus

                                                                                                  โทเก ้นบัส




        ได ้รั บ การพั ฒ นาเพือเป็ นมาตรฐานสํ า หรั บ ระบบ                     จากนั นก็จะส่ง ข ้อมูลแจ ้งกลับ ไปยั ง สถานีง านต ้น
   เครือ ข่า ยแบบบั ส ทีตอบสนองความต ้องการ คือ ไม่                        ทางว่าได ้รับ แล ้วผ่านทางโทเคนเดิม ระบบเครือข่า ย
   ต ้องการให ้มีการชนกันของข ้อมูลเกิดขึนเลย                              จะต ้องสร ้างตารางของตํ าแหน่ง ทีอยู่สํ าหรับ สถานีง าน
         โดยจะทํางานด ้วยการส่ง แพ็กเกตข ้อมูลทีเรีย กว่า                  ทังหมดขึน ซึง จะเรีย งตามลํ าดับ ตามลํ าดับ ของสถานี
   โทเคน (Token) วนเป็ นวงแหวนไปตามสถานีงานต่างๆ                           งานทีสามารถรับโทเคนไปได ้
   บนเครือข่าย เมือโทเคนไปถึงสถานีง านปลายทางก็จะ                              ในกรณี ท ีมีส ถานี ง านใดต ้องการติด ต่อ กับ ระบบ
   มีการคัดลอกข ้อมูลขึนมา                                                 เครือข่ายสูงเป็ นพิเศษ นั นก็คือต ้องการได ้รับ โทเคนถี
                                                                           ขึนเป็ นพิเศษ ก็สามารถทําได ้ด ้วยการใส่ตําแหน่ง ทีอยู่
                                                                           ของสถานีนันๆ ไว ้ในตารางให ้มากขึน




                                                                                                                                                   10
30-Aug-12




                                                                                   กิตติยา
     ข ้อด ้อยของโทเคนบั ส คือความจํา กั ด ในแง่ ข องระยะทาง
  และข ้อจํากัดในเรืองจํานวนของสถานีงานใหม่ ทจะสามารถเพิม
                                               ี
  ลงไปใ นบั ส ทั งนี เพราะทุ ก ๆ ส ถานี ง านใหม่ ทีเพิ ม ขึนย่ อ ม
  หมายถึงความเพียนของสัญญาณโดยรวมทีจะเกิดมากขึน




ระบบเครือข่าย Apple                                                                      AppleTalk


           พั ฒ นาโดยบริษั ท Apple Computer                          • โปรโตคอล Apple Talk ถูก ออกแบบมาให ้
    เป็ นโปรโตคอลทีใช ้สํ า หรั บ สือสารในระบบ                         ทํางานเป็ นเครือข่ายในแบบ peer-to-peer ซึง
    เครือข่ายคอมพิวเตอร์ Macintosh โดยเฉพาะ                            ถือ ว่า เครืองทั งหมดทีเชือมต่อ อยู่ ใ นเครือข่า ย
    ได ้พั ฒ นาขึนมาใช ้ตังแต่ท ศวรรษ 1980 มี                          สามารถเป็ นเซิร ์ฟ เวอร์ได ้ทุกเครืองโดยไมต ้อง
    ระบบเป็ นของตนเอง คือ AppleTalk และ                                จั ด ให บ างเครื องทํ า หน า ที เป็ นเซิร ์ ฟ เ วอร์ ท ี
                                                                                ้                 ้
    AppleShare IP                                                      ให ้บริการโดยเฉพาะ




• การทํา งาน AppleTalk เป็ นโปรโตคอลแบบซี                                                ั        ้
                                                                      การหลีกเลียงการส่งสญญาณท ับซอน
  เอสเอ็ม เอ (Carrier Sense Multiple Access
  with Collision Avoidance : CSMA ) สําหรั บ                         • AppleTalk ทําได ้โดยการให ้ผู ้ทีจะส่งข ้อมูล
  การควบคุมการใช ้สายสือสารแบบเดีย วกับทีใช ้                          สร ้างแพ็กเกตข ้อมูลพิเศษส่งออกไปก่อนเพือ
                                          ้
  ใ น ร ะ บ บ อี เ ท อ ร์ เ น็ ต แ ต่ ใ ช เ ท ค นิ ค ใ น ก า ร         เป็ นการเตือนให ้ผู ้อืนทราบว่ามีผู ้ทีกําลังจะส่ง
  หลีกเลียงการส่งสัญญาณทับซ ้อนกัน (Collision                          ข ้อมูลจึงต ้องหยุดรอ เมือผู ้ส่งสัญญาณเตือนว่า
  Avoidance)          ร ว ม เ รี ย กว่ า ซี เ อส เ อ็ ม เ อ ซี         ส่งข ้อมูลเสร็จแล ้ว ผู ้อืนคนต่อไปจึงจะสามารถ
  (CSMA/CA)และใช ้ รู ป แบบการเชือมอุป กรณ์                            ส่งสัญญาณเตือนออกมาได ้ ดังนันการส่ง
  แบบบัส                                                               สัญญาณทับซ ้อนกัน จึงเกิดขึนกับแพ็กเกต
                                                                       สัญญาณเตือนเท่านัน




                                                                                                                                   11
30-Aug-12




                                                                                     ชรินรัตน
               ่ ั
           การสงสญญาณของ
        ระบบเครือข่าย AppleTalk

• สามารถส่ง ได ท ีความเร็ ว ขั นตํ า คือ 230,400
                     ้
  bps หรือ 0.23 Mbps เท่านั น และมีจํา นวน
  เครืองผู ้ใช ้สูงสุดไม่เกิน 32 เครือง




                                                                                          แอปเปิ ลแชร์ ไอพี (AppleShare IP)

       ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณ                                              ระบบเครือข่ายรุ่น ใหม่ หรือทีเรียกว่า แอปเปิ ลแชร์ไอพี (AppleShare IP)ใน
                                                                                                             ้       ี                       ้
                                                                    สมัยก่อนการเชือมต่อระบบเครือข่ายทีใชเครืองพีซเข ้ากับระบบเครือข่ายทีใชเครือง
                                                                    แมคอินทอช เป็ นเรืองทีมีความซับซ ้อนมาก




                      แอปเปิ ลแชร์ไอพี
                      (AppleShare IP)




                               ู              ้
         ต่อมาแอปเปิ ลแชร์ไอพีถกนําออกมาใชงานทําใหการเชือมต่อระบบ
                                                  ้
 คอมพิวเตอร์ทงสองตระกูลเป็ นไปได ้อย่างง่ายดาย
             ั
                                                                    แอปเปิ ลแชร์ไอพีช่วยให้ ?

                                                                            ้
                                                                    • ผู ้ใชสามารถแลกเปลียนข ้อมูลระหว่างกัน

                                                                         ้
                                                                    • ใชบริการเอฟทีพ( File Transfer Protocol)ติดต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตและติดต่อผู ้ให ้
                                                                                      ี
                                                                    บริการเครืองพิมพ์และอีเมล

                                                                    • สามารถรองรับอุปกรณ์ได ้มากถึง 500 เครืองและมีเครืองเซิรฟเวอร์ได ้หลายเครือง
                                                                                                                             ์
                                                                    พร ้อมกัน




                                                                                                                                                                12
30-Aug-12




•
                        หน้าที

      เป็ นเว็บเซิรฟเวอร์(Web Server)ทีให ้บริการแก่เว็บไซต์ได ้ 50 แห่งได ้ในเวลาเดียวกัน
                   ์
                                                                                                              ธารกมล
•                       ้
      ระบบอีเมลสามารถใชโพรโทคอล POP(PostOfficeProtocol)และ IMAP(Internet
                                               ้
      Messege Access Protocol)และมีจํานวนผู ้ใชมากถึง 10,000 คนต่อเซิรฟเวอร์
                                                                      ์

•     มีระบบปฏิบัตการ Mac OS X จะสามารถให ้บริการ
                   ิ                                  วีดทัศน์ระบบดิจ ิทลผ่านระบบ
                                                         ิ              ั
      อินเทอร์เน็ตทีมีความเร็ว 10 Mbps หรือ 100 Mbps บนสายคู่ บดเกลียวหรือสายยูทพ ี
                                                               ิ                 ี
      ได ้




                                                                                                                                                                ้
                                                                                                       ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณถูกแบ่งออกตามวิธการทีเครืองผู ้ใชสือสาร
                                                                                                                                               ี
                                                                                                                                 ระหว่างกัน

     ชนิดของระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณ


                                                                                                แบบพีบเอ็กซ์
                                                                                                      ี                                                     แบบเซิรฟเวอร์
                                                                                                                                                                   ์
                                                                                                                                 แบบเพียร์
                                                                                                                                                                เบส




                                                                                                            ทังสามชนิดใช ้โพรโทคอลและมีรปแบบการ
                                                                                                                                        ู
                                                                                                            เชือมต่ออุปกรณ์แตกต่างกันในการทํางาน




                                 ระบบเครือข่ายแบบพีบเอ็กซ์
                                                    ี                                                                 ระบบเครือข่ายแบบพีบเอ็กซ์ (ต่อ)
                                                                                                                                         ี




          อุป กรณ์ พ ี บ ี เ อ็ ก ซ์ (Private Branch Exchange) เป็ น
    อุปกรณ์ทได ้รับการพัฒนามานานมากแล ้ว
            ี
                                                                                                      บทบาทของเครืองพี บ ีเอ็ กซ์ไ ด ้เปลียนไป เมื อมี การนํ า
                                                                                             ระบบเครือ ข่ า ยเฉพาะบริ เ วณเข ้ามาใช ้ ในองค์ก ร เนื องจาก
          ใช ้สําหรับการสลับสายสัญ ญาณอัต โนมั ต ระบบเครือข่า ย
                                                 ิ                                           เค รื อ ข่ า ย พี บ ี เ อ็ กซ์ นั น มี อ ยู่ แ ล ว แล ะ ก าร เ ชื อม ต่ อ เค รื อ ง
                                                                                                                                              ้
    โทรศัพท์ย่อยภายในองค์กร                                                                  คอมพิวเตอร์เข ้ากับสายโทรศัพท์ในระบบพีบเอ็กซ์นั นสามารถทําี
                                                                                             ได ้ทันที เครืองพีบเอ็กซ์จงเปลียนมาทําหน ้าทีในการส่ง ข ้อมู ลใน
                                                                                                                        ี       ึ
                                                                                             ระ บ บคอมพิ ว เตอร์ ไ ป ยั ง เครื องผู รั บ แทนที จะ เป็ นสั ญ ญ าณ
                                                                                                                                                ้
                                                                                             โทรศัพท์
          เป็ นอุปกรณ์เชือมต่อสายโทรศัพท์จากภายนอกองค์กรให ้
    สามารถติดต่อกันได ้




                                                                                                                                                                                         13
30-Aug-12




                                                                          นนทิยา



                                                                      ระบบเครือข่ายแบบเพียร์

                                                               ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ (Peer or peer to peer) เป็ น
       ระบบเครือข่ายแบบเพียร์
                                                               ระบบเครือข่ายทีสามารถ ติดตังใช ้งานและบํ ารุง รักษา
                Peer                                           ง่า ย จึง ได ้รั บ ความนิย มนํ าใช ้งานในระบบเครือ ข่า ย
                                                               ขนาดเล็กในองค์กรทัวไป ในระบบนีเครืองคอมพิวเตอร์
                                                               และอุปกรณ์ทกชนิดมีความเท่าเทีย มกันคือไม่ม ีเครือง
                                                                                 ุ
                                                               คอมพิวเตอร์ใดทําหน ้าทีเป็ นผู ้ควบคุมระบบเครือข่าย




  ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ (ต่อ)

เครืองผู ้ใช ้แต่ล ะเครืองมีส ิท ธิใ นการเลือ กติด ต่อ กับ
เครืองคอมพิว เตอร์ ใ ดก็ไ ด ้ในเวลาเดีย วกั น เครือง
                                ี ิ
คอมพิวเตอร์แต่ละเครืองก็มสทธิเต็มทีในเต็มทีในการที
จะกํ า หนดสิท ธิผ ู ้ใช ้ (อนุ ญ าต หรือ ไม่ อ นุ ญ าต หรื อ
อนุญาตเป็ นบางส่วนให ้แก่เครืองอืนทีเข ้ามาติดต่อด ้วย
วัตถุประสงค์หลักของเครือข่ายเพีย ร์คือการอนุญาตให ้
เครืองผู ้ใช ้สามารถแลกเปลียนข ้อมูลระหว่างกัน หรือใช ้
อุปกรณ์รวมกันได ้
           ่




                                                                                                                                14
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network
Local area network

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่ายบทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่ายTum WinNing
 
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์BoMz Zilch
 
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์iamohm204
 
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์SaiYoseob
 
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์Nthw Trty
 
Basiccom1
Basiccom1Basiccom1
Basiccom1mod2may
 
องค์ประกอบคอมของพิวเตอร์
องค์ประกอบคอมของพิวเตอร์องค์ประกอบคอมของพิวเตอร์
องค์ประกอบคอมของพิวเตอร์snapcheetar
 

La actualidad más candente (11)

Com element
Com elementCom element
Com element
 
Unit1
Unit1Unit1
Unit1
 
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่ายบทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
 
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
Random 130916022121-phpapp01
Random 130916022121-phpapp01Random 130916022121-phpapp01
Random 130916022121-phpapp01
 
Computer2
Computer2Computer2
Computer2
 
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
Basiccom1
Basiccom1Basiccom1
Basiccom1
 
องค์ประกอบคอมของพิวเตอร์
องค์ประกอบคอมของพิวเตอร์องค์ประกอบคอมของพิวเตอร์
องค์ประกอบคอมของพิวเตอร์
 

Destacado (8)

Normalization
NormalizationNormalization
Normalization
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
 
Ch3 information technology
Ch3 information  technologyCh3 information  technology
Ch3 information technology
 
Protocol
ProtocolProtocol
Protocol
 
Data tranmission
Data tranmissionData tranmission
Data tranmission
 
Normalization
NormalizationNormalization
Normalization
 
E r diagram
E r diagramE r diagram
E r diagram
 
Introduction to computer hardware
Introduction to computer hardwareIntroduction to computer hardware
Introduction to computer hardware
 

Similar a Local area network

ระบบเครือข่ายคอมผิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมผิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมผิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมผิวเตอร์nuchanad
 
Com element [compatibility mode]
Com element [compatibility mode]Com element [compatibility mode]
Com element [compatibility mode]twatfangmin
 
หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ekkachai kaikaew
 
องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์Orapan Chamnan
 
การสื่อสาร อ.พรทิพย์
การสื่อสาร อ.พรทิพย์การสื่อสาร อ.พรทิพย์
การสื่อสาร อ.พรทิพย์Namfon Phenpit
 
Javacentrix com chap01-0
Javacentrix com chap01-0Javacentrix com chap01-0
Javacentrix com chap01-0Theeravaj Tum
 
06 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
06 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์06 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
06 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์teaw-sirinapa
 
คู่มือระบบเครือข่าย
คู่มือระบบเครือข่ายคู่มือระบบเครือข่าย
คู่มือระบบเครือข่ายssrithai
 
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77Tophit Sampootong
 
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77Tophit Sampootong
 
ความหมายและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ความหมายและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ความหมายและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ความหมายและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์Sujit Chuajine
 
อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์nink12345
 

Similar a Local area network (20)

Lan 01
Lan 01Lan 01
Lan 01
 
ระบบเครือข่ายคอมผิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมผิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมผิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมผิวเตอร์
 
Com element [compatibility mode]
Com element [compatibility mode]Com element [compatibility mode]
Com element [compatibility mode]
 
Network
NetworkNetwork
Network
 
หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
Learnning02
Learnning02Learnning02
Learnning02
 
องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
 
การสื่อสาร อ.พรทิพย์
การสื่อสาร อ.พรทิพย์การสื่อสาร อ.พรทิพย์
การสื่อสาร อ.พรทิพย์
 
Javacentrix com chap01-0
Javacentrix com chap01-0Javacentrix com chap01-0
Javacentrix com chap01-0
 
Home network
Home networkHome network
Home network
 
Network
NetworkNetwork
Network
 
06 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
06 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์06 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
06 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
คู่มือระบบเครือข่าย
คู่มือระบบเครือข่ายคู่มือระบบเครือข่าย
คู่มือระบบเครือข่าย
 
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
 
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
%B7อข่ายคอมพิวเตอร์77
 
ดัชนี
ดัชนีดัชนี
ดัชนี
 
Lernning 07
Lernning 07Lernning 07
Lernning 07
 
ความหมายและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ความหมายและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ความหมายและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ความหมายและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
อร์
อร์อร์
อร์
 

Más de Nittaya Intarat

Más de Nittaya Intarat (20)

Network equipment
Network equipmentNetwork equipment
Network equipment
 
Network equipment
Network equipmentNetwork equipment
Network equipment
 
Media
MediaMedia
Media
 
Database architecture
Database architectureDatabase architecture
Database architecture
 
Data management pub
Data management pubData management pub
Data management pub
 
Data management
Data managementData management
Data management
 
Data management
Data managementData management
Data management
 
Data communication
Data communicationData communication
Data communication
 
Opac exam
Opac examOpac exam
Opac exam
 
Ch5 database system
Ch5 database systemCh5 database system
Ch5 database system
 
Ch4 communication and network
Ch4 communication and networkCh4 communication and network
Ch4 communication and network
 
Ch3 in fo re_source
Ch3 in fo re_sourceCh3 in fo re_source
Ch3 in fo re_source
 
Information sources 1
Information  sources 1Information  sources 1
Information sources 1
 
Ch2 ระบบสารสนเทศ
Ch2 ระบบสารสนเทศCh2 ระบบสารสนเทศ
Ch2 ระบบสารสนเทศ
 
Ch2 องค์การและระบบสารสนเทศ
Ch2 องค์การและระบบสารสนเทศCh2 องค์การและระบบสารสนเทศ
Ch2 องค์การและระบบสารสนเทศ
 
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการ
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการCh1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการ
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการ
 
Db architecture
Db architectureDb architecture
Db architecture
 
Data management
Data managementData management
Data management
 
Data management
Data managementData management
Data management
 
Media
MediaMedia
Media
 

Local area network

  • 1. 30-Aug-12 Local Area Network เจษฎา ฮาร์ ดแวร์ สําหรับระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณ • ฮาร์ดแวร์สาหรับระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณมีส่วนประกอบหลักสาม ํ ส่วนคือ ระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณ – เครืองคอมพิวเตอร์ (Computer) เช่น เครืองพีซี (Personal Computer: PC) – อุปกรณ์เชือมต่อระบบเครือข่าย (Network Interface Card or Adapter: NIC) (Local Area Networks ) – สือถ่ายทอดสัญญาณ (Transmission Medium) นายเจษฎา ริ นเขียว 3 4 • เครื องพีซีจะถูกนํามาใช้ ในสองบทบาทเป็ นเครื องทํางานหรื อ ฮาร์ ดแวร์ สําหรับระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณ เครื องผู้ใช้ (Work Station or Client)ซึงมีไว้ ให้ ผ้ ูใช้ ทัวไปสามารถทํางานโดยลําพังและติดต่อกับเครื อง • ฮาร์ ดแวร์ สาหรั บระบบเครื อข่ายเฉพาะบริ เวณมีส่วนประกอบหลัก สามส่วนคือ ํ คอมพิวเตอร์ อืนผ่านระบบเครื อข่ายได้ ส่วนอีกบทบาทเป็ นผู้ – เครื องคอมพิวเตอร์ (Computer) เช ่น เครื องพีซี (Personal Computer: PC) ให้ บริ การหรื อเซิร์ฟเวอร์ (Server)ซึงมีหน้ าทีในการบริ การ • ไม่จําเป็ นต้องเหมือนกันทังเครื อข่าย • มักทํางานในลักษณะ Client-Server ต่างๆจึงมักจะเลือกใช้ คอมพิวเตอร์ ทีมีประสิทธิ ภาพสูงและมี • Workstation หรื อ Client เป็ นเครื องคอมพิวเตอร์ ทีเชือมต่อในระบบ เครื อข่ายทีผูใช้ใช้งาน ้ อุปกรณ์ประกอบทีเหมาะสม เช่น มีฮาร์ ดดิสก์ขนาดใหญ่เพือ • Server เป็ นเครื องทีให้บริ การต่างๆ มักมีประสิ ทธิ ภาพสู งและมี อุปกรณ์ประกอบทีเหมาะสมกับการให้บริ การ เก็บข้ อมูลหรื อบางระบบจะไม่มฮาร์ ดดิสก์ในการทํางานเรี ยกว่า ี – อุปกรณ์เชือมต่อระบบเครื อข่าย (Network Interface Card or Adapter: NIC) • เชือมต่อเครื องคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบเครื อข่าย Diskless Workstation หรื อ Network • มีการเชือมต่อเข้ากับระบบเครื อข่ายผ่านสื อ • ออกแบบมาสําหรับระบบเครื อข่ายแต่ละชนิ ด Computer (NC)ซึงจะใช้ อปกรณ์เชือมต่อระบบเครื อข่าย ุ – สื อถ่ายทอดสัญญาณ (Transmission Medium) ชนิดทีแตกต่างกันออกไป • เชือมต่ออุปกรณ์ทงหมดในระบบเครื อข่ายเข้าด้วยกัน ั • อาจเป็ นแบบมีสายหรื อไร้สายก็ได้ 6 5 1
  • 2. 30-Aug-12 ชวลิต นายชวลิต คํามูล 52122309 โมเด็ม (Modem) อุปกรณ์เชือมต่อเครือข่าย (Network Interface Card or โมเด็มเป็ นฮาร์ดแวร์ทีทํ าหน ้าทีแปลงสัญญาณอนาล็อกให ้เป็ น Adapter Card) ทําหน ้าที สัญญาณดิจตอล เมือข ้อมูลถูกส่งมายังผู ้รับละแปลงสัญญาณดิจตอล ิ ิ ี เชือมต่อกับเครืองพีซเข ้ากับระบบ ให ้เป็ นอนาล็อก เมือต ้องการส่งข ้อมูลไปบนช่องสือสาร เครือข่าย ซึงเป็ นอุปกรณ์ทเป็ น ี แผงวงจรสําหรับเสียบเข ้าช่องต่อ ขยาย (Expansion Bus)ของ เครืองคอมพิวเตอร์ เพือให ้ การ์ดเครือข่าย (Network Adapter) หรือ การ์ด LAN สามารถต่อสายของเครือข่ายเข ้า เป็ นอุปกรณ์ทําหน ้าทีสือสารระหว่างเครืองต่างกันได ้ มาและทําการติดต่อส่งข ้อมูลกับ ไม่จําเป็ นต ้องเป็ นรุ่นหรือยีห ้อเดียวกันแต่หากซือพร ้อมๆกันก็ เครือข่ายได ้ แนะนํ าให ้ซือรุนและยีห ้อเดียวกันจะดีกว่าและควรเป็ น การ์ดแบบ ่ PCI เพราะสามารถส่งข ้อมูลได ้เร็วกว่าแบบ ISAและเมนบอร์ดรุ่น ใหม่ๆมักจะไม่มี Slot ISA ควรเป็ นการ์ดทีมีความเร็วเป็ น 100 Mbps เกตเวย์ (Gateway) รีพตเตอร์ (Repeater) ี เกตเวย์ เป็ นอุปกรณ์อเล็กทรอนิกส์อกอย่างหนึงทีช่วยในการ ิ ี รีพีตเตอร์ เป็ นเครืองทบทวนสัญญาณข ้อมูลในการส่ง สือสารข ้อมูลคอมพิวเตอร์หน ้าทีหลักคือช่วยให ้เครือข่าย สัญญาณข ้อมูลในระยะทางไกลๆสํ าหรับสัญญาณแอนะล็อกจะต ้องมี คอมพิวเตอร์ 2 เครือข่ายหรือมากกว่า ซึงมีลกษณะไม่เหมือนกัน ั การขยายสัญญาณข ้อมูลทีเริมเบาบางลงเนืองจากระยะทาง และ สามารถติดต่อสือสารกันได ้เหมือนเป็ นเครือข่ายเดียวกัน สํ าหรับสัญญาณดิจตัลก็จะต ้องมีการทบทวนสัญญาณเพือป้ องกันการ ิ ขาดหายของสัญญาณเนืองจากการส่งระยะทางไกลๆ เช่นกัน รีพีตเตอร์จะทํางานอยู่ในชัน Physical เราเตอร์ (Router) เราเตอร์เป็ นอุปกรณ์ในระบบเครือข่ายทีทํ าหน ้าทีเป็ นตัว เชือมโยงให ้เครือข่ายทีมีขนาดหรือมาตรฐานในการส่งข ้อมูลต่างกัน สามารถติดต่อแลกเปลียนข ้อมูลระหว่างกันได ้ เราเตอร์จะทํ างานอยู่ สายส ัญญาณ ชัน Network หน ้าทีของเราเตอร์กคอ ปรับโปรโตคอล (Protocol) ็ ื เป็ นสายสํ าหรับเชือมต่อเครืองคอมพิวเตอร์ต่างๆใน (โปรโตคอลเป็ นมาตรฐานในการสือสารข ้อมูล บนเครือข่าย ระบบเข ้าด ้วยกัน หากเป็ นระบบทีมีจํานวนเครืองมากกว่า 2 เครืองก็ คอมพิวเตอร์) ทีต่างกันให ้สามารถสือสารกันได ้ จะต ้องต่อผ่านฮับอีกทีหนึง โดยสายสัญญาณสํ าหรับเชือมต่อ เครืองในระบบเครือข่าย จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ บริดจ์ (Bridge) 1. สาย Coaxial Cable มีลกษณะเป็ นสายกลม คล ้ายสาย ั บริดจ์มีลกษณะคล ้ายเครืองขยายสัญญาณ บริดจ์จะทํ างาน ั ้ โทรทัศน์ ส่วนมากจะเป็ นสีดําสายชนิดนีจะใชกับการ์ด LAN ที อยู่ในชัน Data Link บริดจ์ทํางานคล ้ายเครืองตรวจตํ าแหน่งของข ้อมูล ใช ้คอนเน็กเตอร์ โดยบริดจ์จะรับข ้อมูล จากต ้นทางและส่งให ้กับปลายทาง โดยทีบริดจ์จะ 2. สาย UTP (Unshied Twisted Pair) เป็ นสายสํ าหรับ ไม่มการแก ้ไขหรือเปลียนแปลงใดๆแก่ข ้อมูล บริดจ์ทําให ้การเชือมต่อ ี การ์ด LAN ทีใช ้คอนเน็กเตอร์แบบ RJ-45 สามารถส่ง ระหว่างเครือข่ายมีประสิทธิภาพลดการชนกัน ของข ้อมูลลง บริดจ์จงเป็ น ึ สัญญาณได ้ไกล สะพานสํ าหรับข ้อมูลสองเครือข่าย ประมาณ 100 เมต 2
  • 3. 30-Aug-12 ื ั สอถ่ายทอดสญญาณ ชาติชาย สือถ่ายทอดส ัญญาณ (Transmission Medium) ทําหน ้าทีเชือมต่ออุปกรณ์ทงหมดในระบบเครือข่ายเข ้าด ้วยกัน ั และถ่ายทอด สัญญาณไปยังอุปกรณ์เหล่านัน ตัวอย่างสือถ่ายทอดสัญญาณทีใช ้ทัวไป ได ้แก่ สายคูบดเกลียว (Twisted Pair) ่ ิ สายโคแอกเซียล (Coaxial) สายใยแก ้วนําแสง (Fiber Optic) อากาศ (สําหรับถ่ายทอดสัญญาณคลืนวิทยุ) ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณส่วนใหญ่นยมใช ้สายคูบดเกลียว ิ ่ ิ และสายโคแอกเซียล เนืองจากเป็ นสือทีใช ้เทคโนโลยีตา ราคาถูก ํ และสามารถติดตังใช ้งานได ้ง่าย สือถ่ายทอดสัญญาณทีใช ้ทัวไป ระบบเครือข่ายไร ้สาย (Wireless Network) สายคูบดเกลียว (Twisted Pair) ่ ิ เป็ นระบบทีกําลังได ้รับความนิยมนํ ามาใช ้งานอย่างมาก ื โดยเฉพาะในองค์กรสมัยใหม่ ทีมีอปกรณ์สอสารไร ้สาย เช่น ุ โน ้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แทปเล็ต เป็ นตน ้ สายโคแอกเซียล (Coaxial) จุดเด่นของระบบเครือข่ายไร ้สายคือ การทีไม่ใช ้สายสือสาร ทําให ้เกิดความคล่องตัวในการทํางานเป็ นอย่างมาก และไม่มความ ี ยุ่งยากทีอาจเกิดขึนจากการเดินสายสือสารไปตามจุดต่าง ๆ หรือ สายใยแก ้วนํ าแสง (Fiber Optic) ปั ญหา สายสือสารชํารุด อากาศ (สําหรับถ่ายทอดสัญญาณคลืนวิทยุ) สือนํ าข ้อมูลแบบไร ้สาย ณัฐพงศ (Wireless Media) การสือสารข ้อมูลแบบไร ้สาย จะใช ้อากาศเป็ นตัวกลางของการสือสาร เช่น - แสงอินฟราเรด เป็ นการสือสารข ้อมูลโดยใช ้แสงอินฟราเรดเป็ นสือกลาง - สัญญาณวิทยุ เป็ นสือนําข ้อมูลแบบไร ้สาย (Wireless Media) ทีมีการส่ง ข ้อมูลเป็ นสัญญาณคลืนวิทยุไปในอากาศไปยังตัวรับสัญญาณ - ไมโครเวฟภาคพืนดิน เป็ นการสือสารไรสายอีกประเภทหนึง การสือสาร ประเภทนีจะมีเสาส่งสัญญาณไมโครเวฟทีอยูหางๆกัน ทําการส่งข ้อมูลไปในอากาศไป ่ ่ ยังเสารับข ้อมูล - การสือสารผ่านดาวเทียม เป็ นการสือสารจากพืนโลกทีมีการส่งสัญญาณ ข ้อมูลไปยังดาวเทียม โดยดาวเทียมจะทําหน ้าทีเป็ นสถานีทวนสัญญาณ เพือจัดส่ง สัญญาณต่อไปยังสถานีภาพพืนดินอืนๆ 3
  • 4. 30-Aug-12 มาตรฐานสําหรับระบบเครือข่าย • มาตรฐานเหล่านีได ้กําหนดวิธการทีเครืองผู ้ใช ้ ี เฉพาะบริเวณ ติดต่อกับสือ กําหนดคุณสมบัตของสือและ ิ ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณมีการนํ าไปใช ้งานมาก จึง ความเร็วในการรับส่งข ้อมูลผ่านสือนันมาตรฐาน ได ้มีการกําหนดมาตรฐานไว ้เพือให ้ระบบต่างๆสามารถสือสาร เหล่านีได ้รับการแก ้ไขปรับปรุงให ้เหมาะสมกับ ระหว่างกันได ้ เทคโนโลยีทเปลียนไปอยู่เสมอ เช่น เลข ี องค์กร IEEE (Institute of Electrical and Electronics มาตรฐาน 802.11 กล่าวถึงมาตรฐานสําหรับระบบ Engineers) ได ้กําหนดมาตรฐานสําหรับระบบเครือข่ายขึนมา เครือข่ายแบบไร ้สาย ชุดหนึง เรียกว่า “มาตรฐาน IEEE 802” • ส่วน 802.12 เป็ นมาตรฐานทีเรียกว่า AnyLAN ซึงเป็ นมาตรฐานระบบเครือข่ายทีมีความเร็วสูง ( ไม่เกิน 100 Mbps ) ทีใช ้สือประเภท พิชัย สายใยแก ้วนําแสงหรือสายยูทพระดับชันที5 ี ี • ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณถูกกํา หนดรูป แบบการ วางและเชือมต่ออุปกรณ์ตางๆ เข ้าด ้วยกัน โดยพิจารณาถึงความ ่ เหมาะสมของระบบเครือข่ายกับพืนทีติดตังใช ้งานเป็ นหลัก โดย รูปแบบการเชือมต่ออุปกรณ์สําหรับระบบ จะเน ้นในเรืองความเร็ว ในการใช ้งาน และความสะดวกในการ ปรับ ปรุงหรือขยายขีด ความสามารถในอนาคต ความแตกต่า ง เครือข่ายเฉพาะบริเวณ จากระบบเครือข่ายวงกว ้างทีเห็ น ได ้ชัด คือ อุป กรณ์ห ลายตัว ใน ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณมักจะมีการย ้ายทีตังเป็ นประจํา ซึง จะยังคงเชือมต่อกับ ระบบเสมอ เช่น พนั กงานอาจจะต ้องย ้าย ห ้องทํางานซึงก็มักจะนํ าพีซทตนใช ้งานเป็ นประจํา นั นติด ตัว ไป ี ี ด ้วย หรือ อุ ป กรณ์บ างอย่ า ง เช่ น เครืองพิม พ์ อ าจจะถู ก ย า ย ้ ตําแหน่งได ้เสมอ นอกจากนีระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณมักจะมี การขยายตัว อยู่ ต ลอดเวลา คือจะมีทังจํา นวนผู ้ใช ้และอุป กรณ์ มากขึน รูป แบบการวางและเชือมต่ออุป กรณ์จงจะต ้องมีค วาม ึ อ่อนตัว ในการตอบสนองความเปลียนแปลงทีเกิดขึนได ้ 4
  • 5. 30-Aug-12 ระบบเครือข่ายแบบวงแหวน • จะเห็นได ้ว่าโครงสร ้างทีเชือมคอมพิวเตอร์เข ้า เป็ นวงแหวนข อ มู ล จะถู ก สงต่ อ ๆกั น ไปในวงแหวน ้ จนกว่าจะถึงเครืองผู ้รับทีถูกต ้อง • ข้อดีของโครงสร ้างแบบนีคือ ใช ้สายเคเบิลน ้อย และ สามารถตัดเครืองเสีย ออกจากระบบได ้ ทํ าให ้ไม่ม ีผ ล ต่อระบบเครือข่าย • ระบบเครือ ข่า ยแบบวงแหวน (Ring Topology) ถู ก ออกแบบมาเพือให ้เครืองผู ้ใช ้แต่ละเครืองเชือมต่อกับเครืองผู ้ใช ้ ทีอยู่ข ้างเคียง ซึงเมือต่อถึงกันหมดแล ้วจะกลายเป็ นวงจรปิ ดรูป • ข้อเสียคือ หากมีเครืองทีมีปั ญหาอยู่ใ นระบบจะทํ าให ้ วงแหวน ซึงข ้อมูลทีใช ้ในระบบเครือข่า ยเรีย กว่า Message จะ เครือข่า ยไม่ส ามารถทํ างานได ้เลย และการเชือมต่อ ถูกส่งไปในทิศ ทางเดีย วกัน เสมอ เครืองผู ้ใช ้แต่ละเครืองทีรับ ่ เครืองเข ้าสูเครือข่ายอาจต ้องหยุดระบบทังหมดลงก่อน ข ้อมูลเข ้ามาจะเก็บข ้อมู ลนั นไว ้ในกรณีทเป็ นข ้อมู ลของตนเอง ี เท่านัน หากข ้อมูลไม่ใช่ของตนเอง ต ้องส่งผ่ า นไปยั งสถานีอน ื ต่อไป วนัส • ระบบเครือข่ายวงแหวนแบบทีกํ า ลั ง นิ ย มใช ้เป็ นแบบ เอฟดีด ีไอ (Fiber Distributed Data Interface : FDDI) FDDI ใช ้สายใยแก ้วนํ าแสงในการสร ้างวงแหวนสองวงซ ้อน กัน ข ้อมูลจะถูกส่งผ่านสายทังสองเครือข่าย ซึงจะมีทศทางที ิ สวนทางกัน ในกรณีทข ้อมูล ในวงหนึ งไปไม่ถ ึง ผู ้รั บข ้อมูล ใน ี อีกวงหนึงก็จะไปถึงผู ้รับได ้ ระบบเอฟดีดไอมักจะนํ าไปใช ้เป็ น ี เครือข่ายสือสารหลัก สําหรับระบบเครือข่ายองค์กร เนืองจาก มีความเร็ ว ในการถ่ า ยทอดข ้อมูล สูง มากและมีอ ัต ราการเกิด ข ้อมูลผิดพลาดตํามาก เครือข่ายแบบบ ัส (Bus topology) เครือข่ายแบบบัส ( Bus topology ) ้ เป็ นรู ป แบ บ ที มี ผู น ิ ย ม ใ ช ม าก แบ บ ห นึ ง เ พราะ มี ้ โครงสร ้างไม่ ยุ่ งยากและไม่ ต ้องใช ้อุป กรณ์ส ลับ สาย เป็ นการ เชือมต่อแบบหลายจุด สถานีทกสถานีรวมทังอุป กรณ์ทุกชินใน ุ เครื อ ข่ า ยจะ เชื อม ต่ อ เข า กั บ ส า ยสื อ ส ารห ลั ก เพี ย งส า ย ้ เดียว เรียกว่าแบ็ กโบน (Backbone) การจัด ส่งข ้อมู ลลงบนบั ส จึง ส าม ารถทํ า ให ก ารส่ ง ข อ มู ล ไป ถึง ทุ ก สถานี ไ ด ้ผ่ านสาย ้ ้ แบ็ กโบนนี โดยการจัด ส่งวิธ ีน ีต ้องกํา หนดวิธ ีการทีจะไม่ ใ ห ้ทุก ่ สถานีสงข ้อมูลพร ้อมกัน เพราะจะทําให ้ข ้อมูลชนกัน โดยวิธ ีการ ทีใช ้อาจเป็ นการแบ่ งช่ว งเวลา หรือให แต่ละสถานีใ ช ้ความถี ้ สัญญาณทีแตกต่างกัน ข ้อดีทใช ้สายน ้อย และถ ้ามีเครืองเสีย ก็ ี ไม่มผลอะไรต่อระบบโดยรวม ส่วนข ้อเสียก็คอตรวจหาจุด ทีเป็ น ี ื ปั ญหาได ้ยาก 5
  • 6. 30-Aug-12 โครงสร้างเครือข่ายแบบบ ัส เครือข่ายแบบบ ัส (Bus Network) (Bus Network) คือลักษณะการเชือมต่อแบบอนุ กรม โดยใช ้สายเคเบิลเส ้น เครือ ข่ า ยแบบบ ส (Bus Network) เป็ นเครือ ข่ า ยที ั ยาวต่อเนืองกันไปดังรูปทีได ้แสดงไว ้ โครงสร ้างแบบนีมีจุด อ่อนคือ เชือมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ตาง ๆ ด ้วยสายเคเบิลยาวต่อเนือง ่ เมื อคอมพิ ว เตอร์ต ัว ใดตัว หนึ งมีปั ญหากั บ สายเคเบิ ล ก็ จะทํ า ให ้ ไปเรือย ๆ โดยจะมีค อนเน็ กเตอร์เป็ นตัว เชือมต่อคอมพิว เตอร์ และ เครือข่ายรวนไปทังระบบ นอกจากนีเมือมีการเพิมคอมพิวเตอร์เข ้าไป อุปกรณ์ เข ้ากับสายเคเบิลในการส่งข ้อมู ลจะมีค อมพิว เตอร์เพีย งตัว ในเครือข่าย อาจต ้องหยุดการใช ้งานของระบบเครือข่ายก่อน เพือตัด เดีย วเท่ า นั น ทีสามารถส่ งข ้อมู ลได ้ในช่ ว ง เวลาหนึ งๆ การจัด ส่ ง ต่อ สายเข ้าเครืองใหม่ ส่ ว นข ้อดีค ือโครงสร ้างแบบบั ส นี ไม่ ต ้องมี ่ ข ้อมูลวิธนจะต ้องกําหนดวิธการทีจะไม่ให ้ทุกสถานีสงข ้อมูลพร ้อมกัน ี ี ี อุปกรณ์อย่าง Hub หรือ Switch ใช ้เพียงเส ้นเดียวก็สามารถเชือมต่อ เพราะจะทํา ให ้ข ้อมู ลชนกัน วิธ ีการทีใช ้อาจแบ่ งเวลาหรือให ้แต่ละ เป็ นเครือข่ายขนาดเล็กทีมีจํานวนเครืองไม่มาก ปั จจุบันไม่คอยใช ้กัน ่ สถานีใช ้ความถีสัญญาณทีแตกต่า งกัน การเซตอัป เครืองเครือข่า ย แล ้ว เนื องจากไม่ ม ี การพั ฒ นาเทคโนโลยีใ หม่ ๆ เพิ มเติม ทํ า ให ้ แบบบัสนี ทําได ้ไม่ยากเพราะคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์แต่ละชนิด ถูก ความเร็ว ถูกจํา กัด อยู่ ท ี 10 Mbps และถูกทดแทนโดยการเชือมต่อ เชือมต่อด ้วยสาย เคเบิลเพีย งเส ้นเดีย วโดยส่ว นใหญ่ เครือข่า ยแบบ แบบสตาร์ บัส มักจะใช ้ในเครือข่ายขนาดเล็ก ซึงอยู่ในองค์กรทีมี คอมพิว เตอร์ ใช ้ไม่มากนัก ข้อดี เครือข่ายแบบบ ัส - ใช ้สายส่งข ้อมูลน ้อยและมีรปแบบทีง่ายในการติดตัง ทําให ้ลด ู ค่าใช ้จ่ายในการติดตังและบํ ารุงรักษา ิ - สามารถเพิมอุปกรณ์ชนใหม่เข ้าไปในเครือข่ายได ้ง่าย ข้อดี เครือข่ายแบบบ ัส วัธนา - ในกรณีทเกิดการเสียหายของสายส่งข ้อมูลหลัก จะทําให ้ทังระบบ ี ทํางานไม่ได ้ - การตรวจสอบข ้อผิดพลาดทําไดยาก ต ้องทําจากหลายๆจุด ้ เป็ นการเชื อมต่ อแบบจุ ด ต่ อจุ ด โดยสถานี ทุ ก สถานี ใ นเครื อข่ า ยจะต่ อเข้ า กับ หน่ ว ยสลับ สายกลาง แบบจุ ด ต่ อ จุ ด การติ ด ต่ อสื อสารระหว่ า งสถานี จ ะ เครือข่ ายแบบดาว (star topology) กระทําได้ ด้วยการติดต่ อผ่ านทางวงจรของหน่ วย สลับ สายกลาง การทํางานของหน่ วยสลับสายกลางจึงคล้ าย กับ ศู น ย์ กลางของการติด ต่ อวงจรเชื อมโยง ระหว่ า ง สถานีต่าง ๆ ทีต้ องการติดต่ อกัน 6
  • 7. 30-Aug-12 ข้ อ ดี คื อ การเชื อมต่ อ คอมพิ ว เตอร์ เครื องใหม่ สามารถทําได้ ง่ายและไม่ กระทบกับ เครื องอืนในระบบ เลย แต่ ข้ อเสี ย คื อมี ค่ า ใช้ จ่ า ยเกียวกับ สายสู ง และถ้ า คอมพิ ว เตอร์ ศู นย์ กลางเสี ยระบบเครื อข่ ายจะ หยุดชะงักทังหมดทันที เอนก โพรโทคอล protocol อีเทอร์เน็ต Ethernet Protocol & Ethernet Protocol & Ethernet ้ ชุดโพรโทคอลต่อไปนี คือชุดโพรโทคอลสําคัญ ซึงเป็ นใชเป็ นต ้นแบบ ในการ โพรโทคอล ้ ใชงานต่างๆ แบ่งได ้เป็ น 2 มาตรฐานดังนี คือ • โพรโทคอล (protocol) หรือชือไทยว่า เกณฑ์วธคอ ิ ี ื ข ้อกําหนดซึงประกอบด ้วยกฎต่าง ๆ สําหรับรูปแบบการ สือสารเฉพาะรูปแบบใดรูปแบบหนึง เพือให ้การ 1.มาตรฐานเปิ ด Internet protocol suite ติดต่อสือสารในระบบเครือข่าย ทํางานได ้ด ้วยกันทัง - Open Systems Interconnection (OSI) ระบบ คล ้ายกับมนุษย์สามารถใช ้ภาษาอังกฤษเป็ น 2.มาตรฐานปิ ด AppleTalk ภาษากลางในการสือสารถึงกันได ้ - DECnet - IPX/SPX - SMB - Systems Network Architecture (SNA) - Distributed Systems Architecture (DSA) 7
  • 8. 30-Aug-12 Protocol & Ethernet Protocol & Ethernet อีเทอร์เน็ ต โพรโทคอลทีสําคัญ • อีเทอร์เน็ต (Ethernet) เป็ นเทคโนโลยีเครือข่าย - HTTP (Hyper Text Transfer Protocol) คอมพิวเตอร์ทเป็ นฐานหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศ ี - POP3 (Post Office Protocol 3). ทังหมด เนืองจากเป็ นเทคโนโลยี LAN ทีได ้รับความ - SMTP (Simple Mail Transfer Protocol). นิยมมากทีสุด เทคโนโลยีนีได ้ถูกพัฒนาและปรับปรุง ภายใต ้ความดูแลรับผิดชอบของ IEEE - FTP (File Transfer Protocol). - IP (Internet Protocol). • สิงสําคัญทีได ้รับการเปลียนแปลงปรับปรุง คือ "ความเร็ว ในการรับส่งข ้อมูล (Bandwidth)" โดยมีการปรับปรุง - DHCP (Dynamic Host Configuration Protocol). ความเร็วจาก 10 Mbps เป็ น 100 Mbps ซึงเรียก - IMAP (Internet Message Access Protocol). Ethernet นีว่า Fast Ethernet ซึงได ้รับความนิยม มากกว่า ATM (Asynchronous Transfer Mode) กรรณิการ ก. โทเกนพาสซงิ (Token Passing) โทเก ้นพาสซิง คือ • ระบบเครือ ข่ายทีใช ้โทเก ้นพาสซิงจะต ้องสร ้างข ้อมูล พิเศษขึนมาชุดหนึง เรีย กว่าโทเก ้น (Token) เพือส่ง จากอุปกรณ์หนึงไปยังอุปกรณ์ ใ นลํ าดับ ต่อไปทีละตัวจน ครบทุกตัวในระบบแล ้วจึง วนกลับ มาทีอุป กรณ์ ตัวแรกใน ิ วงรอบถัดไป อุป กรณ์ ท ีรับ โทเก ้นเข ้ามามีส ท ธิท ีจะส่ง วิธนจะมี token ทีใช ้เป็ นสือกลางในการรับส่งข ้อมู ล ซึงจะวิงวนใน ี ี ่ ข ้อมูลเข ้าสูระบบเครือข่ายก่อนทีจะส่งโทเก ้นออกไปเป็ น เครือ ข่ า ย ในกรณี ท ี token วิงมาถึง เครื องใด เครืองนั นก็ จ ะ ลํ าดั บ สุดท ้าย หรือ ถ ้าไม่ม ีข ้อมูล ทีจะส่ง ก็เ พีย งแต่ส ่ง ี ่ ตรวจสอบว่ามีข ้อมูลส่งมาถึงหรือเปล่าถ ้าไม่มก็สงไปยังเครืองถัดไป และในกรณีท ีต ้องการจะส่ง ข ้อมู ล ก็จะตรวจสอบว่ า token ว่า ง โทเก ้นออกไป หรือไม่ ถ ้าว่างก็จะบรรจุข ้อมูลและระบุทอยู่ของเครืองทีจะรับ ลงใน ี token แล ้วส่งไปยังเครืองถัดไป 8
  • 9. 30-Aug-12 ตัวอย่างระบบเครือข่ายทีใช ้ เช่น Token-Ring • อุปกรณ์ตัวอืนทีต ้องการส่งข ้อมูลต ้องรอให ้โทเก ้นมาถึง ตัวเองก่อนจึงจะดําเนินการส่ง ข ้อมูลได ้ โพรโตคอลนีมี ความยุตธรรมเนืองจากอุปกรณ์ทกตัวจะมีโอกาสเท่ากัน ิ ุ ในการได รั บ โทเก ้นด ว ยโอกาสเท่ า กั น ดั ง นั นจึง มี ้ ้ โอกาสทีจะส่งข ้อมูลเท่ากัน โพรโตคอลโทเก ้นพาสซิง มีอยุ่ สองแบบคือ - โทเก ้นริง ซึงใช ้งานร่วมกับ รูป แบบการเชือมต่อ อุปกรณ์แบบวงแหวน - โทเก ้นบั ส ใช ร่ ว มกั บ รู ป แบบบั ส แม ้ว่า จะใช ้ ้ โทเก ้นทั งสองแบบแต่ ก็ ม ีร ายละเอีย ดการทํ างาน แตกต่างกัน ณัฐพงษ Token Ring Technology เครือข่ายแบบโทเคนริง (Token Ring) เป็ นเทคโนโลยี เครือข่าย LAN ทีพัฒนาโดยบริษัท IBM ในช่วงทศวรรษที1970 ซึงต่อมา IEEE (The Institute of Electrical and Electronics Engineers) ได ้นํ ามาเป็ นแม่แบบในการพัฒนามาตรฐาน IEEE 802.5 ซึง IEEE 802.5 หรือ โทเคนริง (Token Ring) จัดเป็ น เครือข่ายทีใช ้โทโปโลยีแบบวงแหวน ด ้วยสายคูตเกลียวหรือเส ้น ่ ี ใยนํ าแสง อัตราการส่งข ้อมูลของโทเค็นริงทีใช ้โดยทัวไปคือ 4 หรือ 16 Mbps กําหนดให ้มีสถานีเชือมต่อไดไม่เกิน 250 สถานี ้ เครือข่าย LAN แบบโทเคนริงนัน เหมาะกับงานทีต ้องการ รับประกันอัตราความเร็วในการรับ/ส่งข ้อมูล รวมทังงานทีต ้องการ ระบบความแน่นอนทีสามรถใช ้งานไดดีอยู่แม ้มีปัญหาเกิด ขึนกับ ้ ระบบ Token Ring Technology (ต่อ) ล ักษณะการทํางานของ Token Ring เป็ นรูปแบบที เครืองคอมพิวเตอร์ทกเครืองในระบบ ุ คอมพิวเตอร์แต่ละเครืองจะต่อเข ้ากับคอมพิวเตอร์ เครือข่าย ทังเครืองทีเป็ นผู ้ให ้บริการ ( Server) และ เครืองที เครืองอืนโดยตรง และมีลักษณะต่อแบบต่อเนืองไป เป็ นผู ้ขอใช ้บริการ (Client) ทุกเครืองถูกเชือมต่อกันเป็ น เรือยๆ จนกระทังวนกลับมายังคอมพิวเตอร์เครือง วงกลม ข ้อมูลข่าวสารทีส่งระหว่างกัน จะไหลวนอยู่ใน แรก หรือมีการต่อเป็ นวงนันเอง ข ้อมูลทีส่งออกจาก เครือข่ายไปใน ทิศทางเดียวกัน โดยไม่มจดปลายหรือเทอร์ ี ุ เครืองใดๆ จะถูกส่งต่อไปเรือยๆ จนกระทังถึงเครือง มิเนเตอร์เช่นเดียวกับเครือข่ายแบบ BUS ในแต่ละโหนดหรือ แต่ละเครือง จะมีรพตเตอร์ (Repeater) ประจําแต่ละเครือง 1 ี ี ปลายทางทีระบุไว ้ในส่วนประกอบ ของข ้อมูล ตัว ซึงจะทําหน ้าทีเพิมเติมข ้อมูลทีจําเป็ นต่อการติดต่อสือสาร ส่งต่ อ เข ้าในส่วนหัวของแพ็ กเกจทีส่ง และตรวจสอบข ้อมูลจากส่วน หัวของ Packet ทีส่งมาถึง ว่าเป็ นข ้อมูลของตนหรือไม่ แต่ถ ้า ส่งต่ อ ส่ง ไม่ใช่ก็จะปล่อยข ้อมูลนันไปยัง Repeater ของเครืองถัดไป ส่งต่ อ รับ 9
  • 10. 30-Aug-12 โทโปโลยีแบบวงแหวน (ต่อ) รูปแบบการเชือมต่อโทเคนริงเข้าก ับ Hub ข้อดี (เชือมเครือข่า◌่ยเปน Token Ring) ็ - ผู ้ส่งสามารถส่งข ้อมูลไปยังผู ้รับได ้หลาย ๆ เครืองพร ้อม ๆ กัน โดย กําหนดตําแหน่งปลายทางเหล่านั นลงในส่วนหัวของแพ็ กเกจข ้อมูล ในเครือข่ายโทเคนริงทุกสถานีจะเชือมต่อโดยตรงกับ Repeater ของแต่ละเครืองจะทําการตรวจสอบเองว่า ข ้อมูลทีส่งมาให ้ โทเคนริงฮับหรือ MSAU (Multi-Station Access Unit)◌ ้ ดังนัน นั น เป็ นตนเองหรือไม่ - การส่งผ่านข ้อมูลในเครือข่ายแบบ RING จะเป็ นไปในทิศทางเดียว จึงมีโทโปโลยีแบบต่างๆ ในหนึงเครือข่ายอาจมีมากกว่าหนึงฮับ ่ จากเครืองสูเครือง จึงไม่มีการชนกันของสัญญาณ ข ้อมูลทีส่งออกไป ก็ได ้ ซึงถ ้ามีมากกว่าหนึงฮับขึนไป การพ่วงต่อฮับต ้องเป็ นไปใน - คอมพิวเตอร์ทกเครืองในเน็ ตเวิรกมีโอกาสทีจะส่งข ้อมูลได ้อย่าง ุ ์ ทัดเทียมกัน รูปแบบวงแหวน(Ring) แสดงการเชือมต่อของโทเคนริง จากรูป คอมพิวเตอร์จะเชือมต่อโดยตรงเข ้ากับฮับ และแต่ละฮับจะมี ข้อเสีย สายสัญญาณเชือมต่อไปยังฮับทีอยู่ตดกันทําให ้การเชือมต่อ ิ - ถ ้ามีเครืองใดเครืองหนึงในเครือ ข่ายเสียหาย ข ้อมูลจะไม่สามารถ เป็ นวงแหวน(Ring) ส่งผ่านไปยังเครืองต่อ ๆ ไปได ้ และจะทําให ้เครือข่ายทังเครือข่าย หยุดชะงั กได ้ - ขณะทีข ้อมูลถูกส่งผ่านแต่ละเครือง เวลาส่วนหนึงจะสูญเสียไปกับ การทีทุก ๆ Repeater จะต ้องทําการตรวจสอบตําแหน่งปลายทางของ ข ้อมูลนั น ๆ ทุก ข ้อมูลทีส่งผ่านมาถึง กรรณิการ พ. Token Bus โทเก ้นบัส ได ้รั บ การพั ฒ นาเพือเป็ นมาตรฐานสํ า หรั บ ระบบ จากนั นก็จะส่ง ข ้อมูลแจ ้งกลับ ไปยั ง สถานีง านต ้น เครือ ข่า ยแบบบั ส ทีตอบสนองความต ้องการ คือ ไม่ ทางว่าได ้รับ แล ้วผ่านทางโทเคนเดิม ระบบเครือข่า ย ต ้องการให ้มีการชนกันของข ้อมูลเกิดขึนเลย จะต ้องสร ้างตารางของตํ าแหน่ง ทีอยู่สํ าหรับ สถานีง าน โดยจะทํางานด ้วยการส่ง แพ็กเกตข ้อมูลทีเรีย กว่า ทังหมดขึน ซึง จะเรีย งตามลํ าดับ ตามลํ าดับ ของสถานี โทเคน (Token) วนเป็ นวงแหวนไปตามสถานีงานต่างๆ งานทีสามารถรับโทเคนไปได ้ บนเครือข่าย เมือโทเคนไปถึงสถานีง านปลายทางก็จะ ในกรณี ท ีมีส ถานี ง านใดต ้องการติด ต่อ กับ ระบบ มีการคัดลอกข ้อมูลขึนมา เครือข่ายสูงเป็ นพิเศษ นั นก็คือต ้องการได ้รับ โทเคนถี ขึนเป็ นพิเศษ ก็สามารถทําได ้ด ้วยการใส่ตําแหน่ง ทีอยู่ ของสถานีนันๆ ไว ้ในตารางให ้มากขึน 10
  • 11. 30-Aug-12 กิตติยา ข ้อด ้อยของโทเคนบั ส คือความจํา กั ด ในแง่ ข องระยะทาง และข ้อจํากัดในเรืองจํานวนของสถานีงานใหม่ ทจะสามารถเพิม ี ลงไปใ นบั ส ทั งนี เพราะทุ ก ๆ ส ถานี ง านใหม่ ทีเพิ ม ขึนย่ อ ม หมายถึงความเพียนของสัญญาณโดยรวมทีจะเกิดมากขึน ระบบเครือข่าย Apple AppleTalk พั ฒ นาโดยบริษั ท Apple Computer • โปรโตคอล Apple Talk ถูก ออกแบบมาให ้ เป็ นโปรโตคอลทีใช ้สํ า หรั บ สือสารในระบบ ทํางานเป็ นเครือข่ายในแบบ peer-to-peer ซึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ Macintosh โดยเฉพาะ ถือ ว่า เครืองทั งหมดทีเชือมต่อ อยู่ ใ นเครือข่า ย ได ้พั ฒ นาขึนมาใช ้ตังแต่ท ศวรรษ 1980 มี สามารถเป็ นเซิร ์ฟ เวอร์ได ้ทุกเครืองโดยไมต ้อง ระบบเป็ นของตนเอง คือ AppleTalk และ จั ด ให บ างเครื องทํ า หน า ที เป็ นเซิร ์ ฟ เ วอร์ ท ี ้ ้ AppleShare IP ให ้บริการโดยเฉพาะ • การทํา งาน AppleTalk เป็ นโปรโตคอลแบบซี ั ้ การหลีกเลียงการส่งสญญาณท ับซอน เอสเอ็ม เอ (Carrier Sense Multiple Access with Collision Avoidance : CSMA ) สําหรั บ • AppleTalk ทําได ้โดยการให ้ผู ้ทีจะส่งข ้อมูล การควบคุมการใช ้สายสือสารแบบเดีย วกับทีใช ้ สร ้างแพ็กเกตข ้อมูลพิเศษส่งออกไปก่อนเพือ ้ ใ น ร ะ บ บ อี เ ท อ ร์ เ น็ ต แ ต่ ใ ช เ ท ค นิ ค ใ น ก า ร เป็ นการเตือนให ้ผู ้อืนทราบว่ามีผู ้ทีกําลังจะส่ง หลีกเลียงการส่งสัญญาณทับซ ้อนกัน (Collision ข ้อมูลจึงต ้องหยุดรอ เมือผู ้ส่งสัญญาณเตือนว่า Avoidance) ร ว ม เ รี ย กว่ า ซี เ อส เ อ็ ม เ อ ซี ส่งข ้อมูลเสร็จแล ้ว ผู ้อืนคนต่อไปจึงจะสามารถ (CSMA/CA)และใช ้ รู ป แบบการเชือมอุป กรณ์ ส่งสัญญาณเตือนออกมาได ้ ดังนันการส่ง แบบบัส สัญญาณทับซ ้อนกัน จึงเกิดขึนกับแพ็กเกต สัญญาณเตือนเท่านัน 11
  • 12. 30-Aug-12 ชรินรัตน ่ ั การสงสญญาณของ ระบบเครือข่าย AppleTalk • สามารถส่ง ได ท ีความเร็ ว ขั นตํ า คือ 230,400 ้ bps หรือ 0.23 Mbps เท่านั น และมีจํา นวน เครืองผู ้ใช ้สูงสุดไม่เกิน 32 เครือง แอปเปิ ลแชร์ ไอพี (AppleShare IP) ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณ ระบบเครือข่ายรุ่น ใหม่ หรือทีเรียกว่า แอปเปิ ลแชร์ไอพี (AppleShare IP)ใน ้ ี ้ สมัยก่อนการเชือมต่อระบบเครือข่ายทีใชเครืองพีซเข ้ากับระบบเครือข่ายทีใชเครือง แมคอินทอช เป็ นเรืองทีมีความซับซ ้อนมาก แอปเปิ ลแชร์ไอพี (AppleShare IP) ู ้ ต่อมาแอปเปิ ลแชร์ไอพีถกนําออกมาใชงานทําใหการเชือมต่อระบบ ้ คอมพิวเตอร์ทงสองตระกูลเป็ นไปได ้อย่างง่ายดาย ั แอปเปิ ลแชร์ไอพีช่วยให้ ? ้ • ผู ้ใชสามารถแลกเปลียนข ้อมูลระหว่างกัน ้ • ใชบริการเอฟทีพ( File Transfer Protocol)ติดต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตและติดต่อผู ้ให ้ ี บริการเครืองพิมพ์และอีเมล • สามารถรองรับอุปกรณ์ได ้มากถึง 500 เครืองและมีเครืองเซิรฟเวอร์ได ้หลายเครือง ์ พร ้อมกัน 12
  • 13. 30-Aug-12 • หน้าที เป็ นเว็บเซิรฟเวอร์(Web Server)ทีให ้บริการแก่เว็บไซต์ได ้ 50 แห่งได ้ในเวลาเดียวกัน ์ ธารกมล • ้ ระบบอีเมลสามารถใชโพรโทคอล POP(PostOfficeProtocol)และ IMAP(Internet ้ Messege Access Protocol)และมีจํานวนผู ้ใชมากถึง 10,000 คนต่อเซิรฟเวอร์ ์ • มีระบบปฏิบัตการ Mac OS X จะสามารถให ้บริการ ิ วีดทัศน์ระบบดิจ ิทลผ่านระบบ ิ ั อินเทอร์เน็ตทีมีความเร็ว 10 Mbps หรือ 100 Mbps บนสายคู่ บดเกลียวหรือสายยูทพ ี ิ ี ได ้ ้ ระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณถูกแบ่งออกตามวิธการทีเครืองผู ้ใชสือสาร ี ระหว่างกัน ชนิดของระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณ แบบพีบเอ็กซ์ ี แบบเซิรฟเวอร์ ์ แบบเพียร์ เบส ทังสามชนิดใช ้โพรโทคอลและมีรปแบบการ ู เชือมต่ออุปกรณ์แตกต่างกันในการทํางาน ระบบเครือข่ายแบบพีบเอ็กซ์ ี ระบบเครือข่ายแบบพีบเอ็กซ์ (ต่อ) ี อุป กรณ์ พ ี บ ี เ อ็ ก ซ์ (Private Branch Exchange) เป็ น อุปกรณ์ทได ้รับการพัฒนามานานมากแล ้ว ี บทบาทของเครืองพี บ ีเอ็ กซ์ไ ด ้เปลียนไป เมื อมี การนํ า ระบบเครือ ข่ า ยเฉพาะบริ เ วณเข ้ามาใช ้ ในองค์ก ร เนื องจาก ใช ้สําหรับการสลับสายสัญ ญาณอัต โนมั ต ระบบเครือข่า ย ิ เค รื อ ข่ า ย พี บ ี เ อ็ กซ์ นั น มี อ ยู่ แ ล ว แล ะ ก าร เ ชื อม ต่ อ เค รื อ ง ้ โทรศัพท์ย่อยภายในองค์กร คอมพิวเตอร์เข ้ากับสายโทรศัพท์ในระบบพีบเอ็กซ์นั นสามารถทําี ได ้ทันที เครืองพีบเอ็กซ์จงเปลียนมาทําหน ้าทีในการส่ง ข ้อมู ลใน ี ึ ระ บ บคอมพิ ว เตอร์ ไ ป ยั ง เครื องผู รั บ แทนที จะ เป็ นสั ญ ญ าณ ้ โทรศัพท์ เป็ นอุปกรณ์เชือมต่อสายโทรศัพท์จากภายนอกองค์กรให ้ สามารถติดต่อกันได ้ 13
  • 14. 30-Aug-12 นนทิยา ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ (Peer or peer to peer) เป็ น ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ ระบบเครือข่ายทีสามารถ ติดตังใช ้งานและบํ ารุง รักษา Peer ง่า ย จึง ได ้รั บ ความนิย มนํ าใช ้งานในระบบเครือ ข่า ย ขนาดเล็กในองค์กรทัวไป ในระบบนีเครืองคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ทกชนิดมีความเท่าเทีย มกันคือไม่ม ีเครือง ุ คอมพิวเตอร์ใดทําหน ้าทีเป็ นผู ้ควบคุมระบบเครือข่าย ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ (ต่อ) เครืองผู ้ใช ้แต่ล ะเครืองมีส ิท ธิใ นการเลือ กติด ต่อ กับ เครืองคอมพิว เตอร์ ใ ดก็ไ ด ้ในเวลาเดีย วกั น เครือง ี ิ คอมพิวเตอร์แต่ละเครืองก็มสทธิเต็มทีในเต็มทีในการที จะกํ า หนดสิท ธิผ ู ้ใช ้ (อนุ ญ าต หรือ ไม่ อ นุ ญ าต หรื อ อนุญาตเป็ นบางส่วนให ้แก่เครืองอืนทีเข ้ามาติดต่อด ้วย วัตถุประสงค์หลักของเครือข่ายเพีย ร์คือการอนุญาตให ้ เครืองผู ้ใช ้สามารถแลกเปลียนข ้อมูลระหว่างกัน หรือใช ้ อุปกรณ์รวมกันได ้ ่ 14