Enviar búsqueda
Cargar
บทที่ 2
•
1 recomendación
•
2,554 vistas
Jakkapong Jarnpho
Seguir
Denunciar
Compartir
Denunciar
Compartir
1 de 7
Descargar ahora
Descargar para leer sin conexión
Recomendados
รูปแบบโครงงานผงชูรส
รูปแบบโครงงานผงชูรส
Jakkapong Jarnpho
รูปแบบโครงงานผงชูรส
รูปแบบโครงงานผงชูรส
Jakkapong Jarnpho
รูปแบบโครงงาน
รูปแบบโครงงาน
Jakkapong Jarnpho
รูปแบบโครงงานผงชูรส
รูปแบบโครงงานผงชูรส
Jakkapong Jarnpho
Con11
Con11
pongsatornpalata
Con19
Con19
pongsatornpalata
Con15
Con15
pongsatornpalata
หหหหมี
หหหหมี
Anuchit07
Recomendados
รูปแบบโครงงานผงชูรส
รูปแบบโครงงานผงชูรส
Jakkapong Jarnpho
รูปแบบโครงงานผงชูรส
รูปแบบโครงงานผงชูรส
Jakkapong Jarnpho
รูปแบบโครงงาน
รูปแบบโครงงาน
Jakkapong Jarnpho
รูปแบบโครงงานผงชูรส
รูปแบบโครงงานผงชูรส
Jakkapong Jarnpho
Con11
Con11
pongsatornpalata
Con19
Con19
pongsatornpalata
Con15
Con15
pongsatornpalata
หหหหมี
หหหหมี
Anuchit07
บทที่ 3
บทที่ 3
Jakkapong Jarnpho
บทที่ 4
บทที่ 4
Jakkapong Jarnpho
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
Aekapoj Poosathan
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผล
Guntima NaLove
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Kittichai Pinlert
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
Chok Ke
โครงงาน เจลล้างมือกลิ่นผลไม้1
โครงงาน เจลล้างมือกลิ่นผลไม้1
Nong Max Z Kamilia
12. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
12. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ไม่โกรธ แต่ ไม่ลืม
โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่
โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่
Wan Ngamwongwan
อาหารและโภชนาการ เรื่อง สารกันบูด
อาหารและโภชนาการ เรื่อง สารกันบูด
UsableLabs
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30
Chanathip Loahasakthavorn
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
Vorawut Wongumpornpinit
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
Adisorn Tanprasert
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
Dr.Ratchaneewan Sinawat Poomsa-ad
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
4LIFEYES
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
tommy
Liver detox ล้างพิษตับ
Liver detox ล้างพิษตับ
โฮลลี่ เมดิคอล
06 food-additive[1]
06 food-additive[1]
วริศรา เสาไธสง
การรักษามะเร็งตับ
การรักษามะเร็งตับ
โฮลลี่ เมดิคอล
M6 126 60_1
M6 126 60_1
Wichai Likitponrak
Clu5
Clu5
กัญญาพัชร หลังหลงหมาด
Clu5
Clu5
onjiranaja
Más contenido relacionado
Destacado
บทที่ 3
บทที่ 3
Jakkapong Jarnpho
บทที่ 4
บทที่ 4
Jakkapong Jarnpho
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
Aekapoj Poosathan
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผล
Guntima NaLove
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Kittichai Pinlert
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
Chok Ke
โครงงาน เจลล้างมือกลิ่นผลไม้1
โครงงาน เจลล้างมือกลิ่นผลไม้1
Nong Max Z Kamilia
12. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
12. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ไม่โกรธ แต่ ไม่ลืม
Destacado
(8)
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 4
บทที่ 4
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
โครงงาน เจลล้างมือกลิ่นผลไม้1
โครงงาน เจลล้างมือกลิ่นผลไม้1
12. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
12. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
Similar a บทที่ 2
โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่
โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่
Wan Ngamwongwan
อาหารและโภชนาการ เรื่อง สารกันบูด
อาหารและโภชนาการ เรื่อง สารกันบูด
UsableLabs
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30
Chanathip Loahasakthavorn
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
Vorawut Wongumpornpinit
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
Adisorn Tanprasert
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
Dr.Ratchaneewan Sinawat Poomsa-ad
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
4LIFEYES
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
tommy
Liver detox ล้างพิษตับ
Liver detox ล้างพิษตับ
โฮลลี่ เมดิคอล
06 food-additive[1]
06 food-additive[1]
วริศรา เสาไธสง
การรักษามะเร็งตับ
การรักษามะเร็งตับ
โฮลลี่ เมดิคอล
M6 126 60_1
M6 126 60_1
Wichai Likitponrak
Clu5
Clu5
กัญญาพัชร หลังหลงหมาด
Clu5
Clu5
onjiranaja
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
4LIFEYES
Xxx66666
Xxx66666
iamauummm
Paraqaut
Paraqaut
Loveis1able Khumpuangdee
ธรรมชาติบำบัด
ธรรมชาติบำบัด
Vorramon1
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
Adisorn Tanprasert
โรคแผลในกระเพาะอาหาร
โรคแผลในกระเพาะอาหาร
Wan Ngamwongwan
Similar a บทที่ 2
(20)
โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่
โรคแผลในกระเพราะอาหารที่เกิดจากบุหรี่
อาหารและโภชนาการ เรื่อง สารกันบูด
อาหารและโภชนาการ เรื่อง สารกันบูด
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
Liver detox ล้างพิษตับ
Liver detox ล้างพิษตับ
06 food-additive[1]
06 food-additive[1]
การรักษามะเร็งตับ
การรักษามะเร็งตับ
M6 126 60_1
M6 126 60_1
Clu5
Clu5
Clu5
Clu5
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
Xxx66666
Xxx66666
Paraqaut
Paraqaut
ธรรมชาติบำบัด
ธรรมชาติบำบัด
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
โรคแผลในกระเพาะอาหาร
โรคแผลในกระเพาะอาหาร
บทที่ 2
1.
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวของ ผงชูรส ผงชูรส เปนชื่อกลางที่ใชเรียก โมโนโซเดียมกลูตาเมต (Monosodium Glutamate) วัตถุเจือ ปนอาหารประเภท วัตถุปรุงแตงรสอาหารที่มีการใชในอาหารกันอยางแพรหลายทั่วโลก ผงชูรสมี ลักษณะเปนผงผลึกสีขาวไมมีกลิ่น มีคุณสมบัติในการเปนสารเพิ่มรสชาติอาหาร (Flavor Enhancer) ทําใหอาหารมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากเมื่อผงชูรสหรือโมโนโซเดียมกลูตาเมตละลายน้ํา จะ แตกตัวไดโซเดียมและกลูตาเมตอิสระที่มีสมบัติในการเพิ่มรสชาติอาหาร โดยชวยเพิ่มรสชาติของ รสชาติพื้นฐาน 4 รสที่เรารูจักกันดีคือ รสหวาน รสเค็ม รสเปรี้ยว และรสขม ใหเดนชัดมากขึ้น ใน การศึกษาทางเภสัชวิทยาเกี่ยวกับรสชาติพบวาผงชูรสสามารถกระตุน Glutamate Receptor แลวทํา ใหเกิดรสชาติเฉพาะตัวที่เรียกวารสอูมามิ (Umami) ซึ่งเปนรสที่ 5 ที่มนุษยสามารถรับรูไดและมี เอกลักษณแตกตางจากรสชาติพื้นฐานทั้ง 4 โมโนโซเดียมกลูตาเมตเปนสารประกอบประเภทกลูตาเมตซึ่งเปนเกลือของ กรดกลูตามิก (Glutamic acid) อันเปนกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่เปนองคประกอบสําคัญของโปรตีนทั่วไป เชน โปรตีนในเนื้อสัตว โปรตีนในนม และโปรตีนในพืช โดยกลูตาเมตจะจับอยูกับกรดอะมิโนตัวอื่นๆ เกิดเปนโครงสรางของโปรตีน กลูตาเมตที่อยูในรูปของโปรตีนจะไมมีกลิ่นรสและไมมีคุณสมบัติ ทําใหเกิดรสอูมามิในอาหาร แตเมื่อเกิดการยอยสลายของโปรตีน เชน เกิดกระบวนการหมัก การบม การสุกงอมของผักและผลไม การทําใหสุกดวยความรอน จะทําใหกลูตาเมตในโปรตีนเกิดการสลาย แยกตัวออกมาเปนกลูตาเมตอิสระ ซึ่งเปนตัวที่ทําใหเกิดรสอูมามิในอาหาร นอกจากนี้ ยังไดมีการ คนพบวาสารที่เกิดจากการยอยสลายไรโบนิวคลีโอไทดในนิวเคลียสของเซลลสิ่งมีชีวิตซึ่งไดแก ไอ โนซิเนต(Inosinate) และ กัวไนเลต(Guanylate)[1]ก็มีคุณสมบัติใหรสอูมามิเชนเดียวกับกลูตาเมต อิสระ ยิ่งไปกวานั้นยังพบวาไอโนซิเนตและกัวไนเลตมีคุณสมบัติในการเสริมรสอูมามิใหเดนชัด มากขึ้นเมื่อใชรวมกับกลูตาเมต โดยผลการเสริมกันนี้มีลักษณะแบบ Synergistic Effect
2.
อาการไวตอผงชูรส
ในป ค.ศ. 1968 มีรายงานในวารสาร New England Journal of Medicine บรรยายถึงกลุม อาการที่เกิดหลังจากรับประทานอาหารจีน 15-30 นาทีหรืออาจชาถึง 2 ชั่วโมง แตหายไปเองโดยไม มีผลระยะยาวตามมา อาการเหลานี้ไดแก "ชาตามตนคอ แลวคอยๆลามมาที่แขนสองขาง หลัง และ มีอาการออนเพลีย ใจสั่น" ซึ่งภายหลังเรียกกลุมอาการนี้วา กลุมอาการภัตตาคารจีน (Chinese Restaurant Syndrome; CRS) 1.การประเมินของ JECFA (พ.ศ. 2530): ในการทดลองที่วางแผนอยางดีและการใชเทคนิด controlled double-blind crossover พบวาไมมีความสัมพันธุระหวางกลุมอาการภัตตาคารจีนและ การบริโภคผงชูรสแมในผูที่เขารวมการทดลองซึ่งอางวาตนเคยมีอาการดังกลาว สวนรายการจาก การสํารวจ ที่พบวามีอาการเหลานั้น เกิดจากการออกแบบการทดลองและใชแบบสอบถามที่ไม เหมาะสม 2.รายงาน FASEB (พ.ศ. 2538): รายงานของ FASEB ตอสํานักงานอาหารและยาแหง สหรัฐอเมริกา หรือ FDA ยืนยันวาการบริโภคผงชูรส ในปริมาณที่เหมาะสมนั้นทําไดโดยปลอดภัย และยังไมพบอาการระยะยาวที่เปนอันตราย อยางไรก็ตามรายงานนี้กลาววา อาการระยะสั้น ที่เรียก กันวา MSG Symptom Complex นั้นอาจเกิดในคนสองกลุม กลุมที่ 1 เกิดกับกลุมคนที่มีปฏิกิริยา หลังจากทานผงชูรสในปริมาณมาก โดยเฉพาะอยางยิ่งหากทานอาหารที่มีผงชูรสในขณะที่ทองวาง โดยปริมาณมากนี้ กําหนดไวที่ 3 กรัมขึ้นไปตอมื้อ และอีกกลุมที่มีอาการที่เกิดจากผงชูรสคือคนที่มี โรคหอบหืดประจําตัวรุนแรง อาการ MSG Symptom Complex ที่ชี้แจงโดยการศึกษานี้รวมไปถึง อาการ ชา แสบรอน ผิวตึง ปวดแนนหนาอก ปวดหัว คลื่นใส หัวใจเตนเร็ว งวงซึม และออนแรง ใน กรณีคนเปนโรคหอบหืดอาจจะมีอาการหายใจลําบากดวย แตการศึกษาเรื่องเฉพาะเจาะจงในกลุมนี้ ยังไมปรากฏผลที่แนนอนเชื่อถือได อยางไรก็ตาม มีผูนิยมผงชูรสวิจารณวา การทดลองของ FASEB นี้ใหผูทดสอบรับประทานผงชูรสที่อยูในรูปแคปซูลหรือสารละลาย ซึ่งไมสามารถนํามา เปรียบเทียบกับการบริโภคผงชูกับพรอมอาหารได 3. รายงาน ANSFA: รายงานเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2545 พบวามีประมาณ 1 เปอรเซ็นตของ ประชาการมีอาการผิดปกติหลังรับประทานอาหาร แตไมมีหลักฐานยืนยันวาความผิดปกติดังกลาว นั้น มีสาเหตุมาจากผงชูรส เพราะวาในการทดลองไมไดบอกถึงปริมาณของผงชูรสที่ใชอยางไรก็ ตามรายงานนี้ยืนยันไดกวาคนที่มีอาการแพผงชูรสนั้นมีไมถึง 1 เปอรเซ็นต[28] 4. งานวิจัยของไทย: สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. 2526) (ภก.ศ.(พิเศษ)ดร.ภักดี โพธิศิร,ิ ยุพิน ลาวัณยประเสริฐ, ศ.นพ.วิชัย ตันไพจิตร และ ผศ.ดร. ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาต) รายงานในการศึกษาความสัมพันธระหวางการเกิดการตอบรับตอกลุมอาการ
3.
“ภัตตาคารจีน” กับการบริโภคโมโซเดียมกลูตาเมต พบวาในกลุมตัวอยางคนไทยมีไมถึง
1% มีเกิด อาการดังกลาว หลังจากรับประทานอาหารที่มีผงชูรส จากอดีตจนกระทั่งถึงปจจุบันนี้ยังไมมีการศึกษาวิจัยทางวิชาการใดๆ ที่แสดงใหเห็นวาการ บริโภคผงชูรสในอาหารจะมีผลตอทางชีวเคมี หรือทางจุลกายวิภาค เชนการเกิดกลุมอาการ ภัตตาคารจีน อยางไรก็ตามการรับประทานผงชูรสในจํานวนที่มากเกินไปอาจจะทําใหเกิดการทน ตอสารอาหารไมได (food intolerance)ซึ่งเปนอาการที่ไมเกี่ยวของกับปฏิกิริยาทางระบบภูมิคุมกัน แตอยางใด จึงแตกตางจากการแพ (allergy) แมวาจะมีอาการคลายคลึงกัน และมักเกิดจากหลาย สาเหตุซึ่งบางครั้งก็ไมสามารถชี้ชัดไดวาเกิดมาไดอยางไร อันตรายจากผงชูรส เตือนอันตรายผงชูรส ชี้กินมากอาจปวยเปนโรคภัตตาคารจีน ย้ําผงชูรสไมใชสิ่งจําเปนตอ รางกายมนุษย แถมยังมีอันตรายตอสุขภาพหากกินผงชูรสปลอม นพ.ณรงคศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กลาวถึงอันตรายจากการกินผงชูรสใน ปริมาณที่มากเกินไปวา ปจจุบันผูบริโภคสวนใหญกําลังนิยมใสผงชูรสในอาหารจํานวนมากขึ้น โดยเชื่อวาผงชูรสจะชวยเพิ่มรสชาติอาหารใหอรอย ซึ่งในความเปนจริงนั้น ผงชูรสจะละลายไขมัน ใหผสมกลมกลืนกับน้ํา ทําใหมีรสเหมือนน้ําตมเนื้อ และกระตุนปุมปลายประสาทของลิ้นกับคอทํา ใหอาหารมีรสหวานอรอย แตถาหากกินมากเกินไปอาจกอใหเกิดอันตรายตอสุขภาพอนามัยของ ประชาชนได โดยเฉพาะอยางยิ่งอาการแพผงชูรสที่เรียกวา ไชนีสเรสเตอรองตซินโดรม หรือรูจักกันใน ชื่อของโรคภัตตาคารจีน ทําใหรูสึกชาที่ปาก ลิ้น ปวดกลามเนื้อบริเวณโหนกแกม ตนคอ หนาอก หัวใจเตนชาลง หายใจไมสะดวก ปวดทองคลื่นไส อาเจียน กระหายน้ํา นอกจากนี้ บริเวณผิวหนัง บางสวนอาจมีผื่นแดงเนื่องจากเสนเลือดรอบนอกบางสวนขยายตัว และในผูที่แพผงชูรสมากๆ จะเกิดอาการชาบริเวณใบหนา หู วิงเวียน หัวใจเตนเร็ว จนอาจ เปนอัมพาตตามแขนขาชนิดชั่วคราวได แตอาการเหลานี้จะหายเองภายในเวลา2 ชั่วโมง หากไมมี อาการแทรกซอนอื่นๆ อีก โดยเฉพาะหญิงมีครรภไมควรกินผงชูรสเด็ดขาดเพราะอาจสงผลตอมา รกในครรภได สําหรับทารกแรกเกิดถึง 3 เดือนนั้น หากไดกินผงชูรสเขาไปจะสงผลกระทบตอการ เจริญเติบโตของสมองในเด็กวัยนี้อีกดวย นพ.ณรงคศักดิ์ กลาวตอวา จากความนิยมกินผงชูรสกันอยางแพรหลายในขณะนี้ ทําให ผูผลิตบางรายใชสารปลอมปนในผงชูรสเพื่อลดตนทุนการผลิตและสารที่ใชมีทั้งที่เปนวัตถุไมเปน อันตรายแกผูบริโภค ไดแก เกลือ น้ําตาล แปง สวนวัตถุที่เปนอันตราย เชน บอแรกซ ซึ่งเปนสาร หามใชในอาหาร เพราะหากรางกายไดรับในปริมาณสูงอาจทําใหเสียชีวิตได หรือถาไดรับใน
4.
ปริมาณนอยแตบอยครั้งจะสะสมในรางกาย กอใหเกิดอาการพิษแบบเรื้อรัง ทําใหเบื่ออาหาร ออนเพลีย
สับสน ระบบยอยอาหารถูกรบกวน ผิวหนังอักเสบ นอกจากนี้ยังมีสารอีกชนิดที่นิยมใสปะปนในผงชูรสคือ โซเดียมเมตาฟอสเฟต ซึ่งปกติจะ ใชเปนน้ํายาลางหมอน้ํารถยนต เมื่อคนเรารับประทานเขาไปจะออกฤทธิ์เปนยาถายอยางแรง ดังนั้น เพื่อสรางความมั่นใจแกผูบริโภควาผงชูรสที่ใชนั้นปลอดภัยจากสารปลอมปน หรือไม สามารถตรวจสอบดวยวิธีการงายๆ คือ ใหนําผงชูรสที่สงสัยประมาณครึ่งชอนชาใสลงใน ชอนโลหะ เผาจนไหม หากเปนผงชูรสแทสารนั้นจะไหมไฟเปนถานสีดําที่ชอน แตถาเปนผงชูรสที่ มีสวนผสมของบอแรกซ หรือโซเดียมเมตาฟอตเฟตผสมอยู จะพบวามีทั้งสวนที่ไหมเปนสีดําและ สวนที่เหลือคางเปนสีขาวที่ชอน “การกินผงชูรสมากเกินไปนอกจากจะเสี่ยงตออาการแพผงชูรสแลว ยังเสี่ยงตอการไดรับ อันตรายจากผงชูรสปลอม ดังนั้น แมบานที่มีฝมือในการปรุงอาหารหรือใชน้ําเคี่ยวกระดูกสัตวอยู แลว ผงชูรสก็ไมจําเปนตองใชในการปรุงประกอบอาหาร แตถาหากจําเปนตองใชผงชูรสจริงๆ ผูบริโภคควรเพิ่มความพิถีพิถันในการเลือกซื้อโดยการสังเกตหีบหอหรือกระปองบรรจุ ขอบผนึก ตองไมมีรอยตําหนิ ฉลากพิมพเปนตัวหนังสือภาษาไทยชัดเจน ไมเลอะเลือนและตองระบุชื่อ อาหารแสดงคําวา “ผงชูรส” ตลอดจนมีเลขทะเบียนตํารับอาหาร (อย.) ระบุชื่อ ที่ตั้งของผูผลิต เดือน ปที่ผลิต รวมทั้งน้ําหนักสุทธิอยางชัดเจน” นพ.ณรงคศักดิ์ กลาว ผงชูรสทุกชนิด เครื่องมือบอนทําลายมนุษยชาติ - อาการ เมื่อกินผงชูรส จะมีอาการปากชา ลิ้นหนา คอแหง - ทั้งตัวรอนวูบวาบ อยากกินแตน้ํา อาการที่ - เปนมากๆ ปวดตามกลามเนื้อ โหนกแกม กลามเนื้อหัวใจคลายถูกบีบ - ลิ้นแข็ง ความรูสึกทรงตัวไมไหว - หายใจไมออก หนาซีด ตัวเย็นซีด ชั่ระยะหนึ่ง ผิวหนาจะตึง หมดกําลัง ออนเพลีย - ระบมตามกลามเนื้อตางๆ จะมีเหงื่อออกทั้งตัว ตัวเย็นซีด - อาการแพมากนอยอยูที่แตละคน โรคที่เกิดขึ้น - เบาหวานจะมากอน ปากคอ เปนแผล ทอนซฺลอักเสบ - มะเร็งในหลอดอาหารที่ลําคอ กระเพาะจะอักเสบ - หรือเปนฝที่ตับ ปอดจะเปนจุด เนื้อรายในปอดคลายๆ วัณโรค - หัวใจจะบวม ลิ้นหัวใจจะรั่ว ปดไมสนิท - ลําไสเนา ลําไสตันีด หากอวัยวะตางๆ - ที่กลาวถึงขางบนเสียหายแลว - จะเกิดเปนมะเร็งในเม็ดโลหิต
5.
พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากตัว "ผงชูรสแท"
1. ทําใหเกิดอาการแพผงชูรส ซึ่งจะมีอาการชา และรอนวูบวาบที่ ปาก ลิ้น ใบหนา โหนก แกม ตนคือ หนาอก บางคนมีผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัว แนนหนา อก หายใจไมสะดวก เปนตน จนเปน ที่รูจักและขนาน นามโรคแพผงชูรส วา " ไชนีสเรสทัวรองซินโดรม" (Chinese Restaurant Syndrome ) หรือ "โรคภัตตาคารจีน" เพราะรานอาหารจีนมักใชผงชูรสกันมากนั่นเอง 2.ทําลายสมองสวนหนาที่เรียกวา ไฮโปทาลามัส (HYPOTHALAMUS) ซึ่งเปนสวนสําคัญ ในการควบคุมการเจริญเติบโต และระบบสืบพันธุของรางกาย ทําใหการเจริญเติบโตชา ปญญาออน ระบบสืบพันธุผิดปกติ เปนหมัน อวัยวะสืบพันธุเล็กลงทั้งในเรื่องขนาดและน้ําหนัก ฯลฯ 3.ทําลายระบบประสาทตา สายตาเสียหรือเกิดตาบอดได โดยเฉพาะอยางยิ่งในสัตวทดลอง ยิ่งอายุนอยจะยิ่งเกิดผลรายมาก 4. ทําลายกระดูกและไขกระดูก ซึ่งเปนสวนที่ผลิตเม็ดเลือดแดงในรางกาย อาจทําใหเกิด โรคโลหิตจางได นอกเหนือจากโรคทรัพยจางเพราะตองใชเงินซื้อผงชูรสโดยไมจําเปน 5. ทําใหไวตามินในรางกายลดลง โดยเฉพาะอยางยิ่งไวตามินบี-6 ทําใหรางกายผิดปกติและ เปนโรคผิวหนังไดงาย (การคนพบนี้ทําใหไวตามินบี-6 แกโรคภูมิแพผงชูรสได) 6. เกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะ อยางยิ่งผงชูรสที่ผานความรอนสูงๆ เชน การปง ยาง เผา ทําให เกิดสารกอมะเร็งในอวัยวะตางๆ ไดหลายแหง เชน ลําไสใหญ ตับ และสมอง เปนตน 7. ทําลายระบบประสาทสวนกลาง (Central Nervous System) ทําใหเปนโรคประสาทได งายขึ้น ในปจจุบันมีผูปวยดวยโรคประสาทกันมากขึ้นเรื่อยๆ นาศึกษาวาเกิดจากผงชูรสหรือไม 8. เปลี่ยนแปลงโครโมโซม ทําใหรางกายเกิดวิรูปหรือผิดปกติ ปากแหวง หูแหวง จมูกวิ่น แขนขาพิการ เปนตน 9. ถากินมากจะผานเยื่อกั้นระหวางรกภายในรางกายของผูเปนมารดากับทารกในครรภได ทําใหทารกในครรภไดรับผลกระทบจากผงชูรส 10. ทําให เด็กเล็กถึงตายได เด็กไทยอายุ 20 เดือน ถึงแกความ ตาย เมื่อกินขนมครกโรยผงชูรสดวยความเขาใจผิด คิดวาเปนน้ําตาล (เรื่องนี้ รศ.ดร. พิชัย โตวิวิชญ ระบุวา ไดสัมภาษณบิดามารดาของเด็กเอง) เอกสารของรศ.ดร.พิชัย ยังระบุวา "สํานักงาน อ/ย รับจางบริษัทผูผลิตผงชูรสทําการวิจัย เรื่องผงชูรส โดยมีคณะกรรมการวิชาการระหวางประเทศที่ไดรับเงินจากผูผลิตผงชูรสเปนที่ปรึกษา โครงการวิจัย" "เรื่องนี้มีหลักฐานยืนยันเปนลายลักษณอักษรได เพราะเปนเอกสารที่พิมพเผยแพรอยาง กวาง ขวางในชวงป 2526 และพิมพแจกตอๆ กันมาอีกหลายป เรื่อง "การศึกษาความสัมพันธ ระหวางการเกิด การตอบรับตอกลุมอาการ "ภัตตาคารจีน" กับการ บริโภคโมโนโซเดียมกลูตาเมท"
6.
หลักฐานที่ชี้ชัดวาโครงการนี้ไดรับเงินจากบริษัทผูผลิตผงชูรสก็ตรงที่กิตติกรรมประกาศ
ในเอกสารระบุผูที่ใหทุนอุดหนุนสําหรับการวิจัยในครั้งนี้ทั้งหมดไดแก International Glutamate Technical Committee หรือ IGTC ซึ่งเปน ผูผลิตผงชูรสระหวางประเทศ และ เปนที่นาสังเกตวา คณะกรรมการ IGTC นี้ นอกจากจะใหทุนอุดหนุนการวิจัยครั้งนี้ทั้งหมดแลว ยังเปนที่ ปรึกษาของโครง การนี้อีกดวย จึงไมตองแปลกใจที่ผลงานวิจัยนี้จะสรุป ออกมาวา การบริโภคผงชูรสในปริมาณ มากไมนาหวงใย ประโยชนจากผงชูรส ผงชูรสมีประโยชนทําใหอาหารมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น โดยอาหารที่นํามาปรุงนันตองเปนอาหารที่สด ้ ดวยจะไดรสชาติที่ดี โดยธรรมชาติแลวผงชูรสจะใชไดดีมากกับอาหารที่มีรสเค็มหรือเปรี้ยว การใชผงชูรสใน อาหารตองใสในปริมาณที่เหมาะสม ประมาณรอยละ 0.1 - 0.8 โดยน้ําหนัก เชน อาหารหนัก 500 g หาก เติมผงชูรสประมาณ 0.5 - 4 g หรือประมาณ 1 ชอนชา ก็เพียงพอจะใหรสอูมามิในอาหาร การใสมากเกินไป จะทําใหรสชาติอาหารโดยรวมแยลง และมีรสชาติที่ผิดแปลกไปซึ่งผูบริโภคจะสามารถรับรสที่ผิดแปลกนี้ได ทันที ซึ่งเรียกวา Self Limiting อันเปนลักษณะเชนเดียวกับ เกลือแกง ที่ใหรสเค็ม และน้ําสมสายชู ที่ใหรส เปรี้ยวก็จะตองใชในปริมาณที่เหมาะสมเชนกัน ยิ่งไปกวานั้นอาหารที่เติมผงชูรสในปริมาณที่พอเหมาะจะชวยให ลดปริมาณการเติมเกลือแกงในอาหารลงไดโดยที่ยังคงความอรอยของอาหารอยู ทําใหผูบริโภคที่มีความ จําเปนตองจํากัดปริมาณโซเดียมในอาหาร เชน คนชรา สามารถบริโภคอาหารไดมากขึ้นและไดรับปริมาณ โซเดียมนอยลงอันเปนผลดีตอสุขภาพกายและใจ 3 กลุมการทดลองตอการกินผงชูรส งาน วิจัยของญี่ปุนฉบับที่ตีพิมพในนิว ไซแอนติสต วันที่ 26 ตุลาคม โดย ฮิโรชิ โอกูโระ มหาวิทยาลัยฮิโรซากิ แบงหนูทดลองเปน 3 กลุม กลุมแรก กินผงชูรสมากๆ กลุมสอง กินปานกลาง กลุมสาม ไมกินผงชูรสเลย ปรากฏ วาหนูกลุมแรกมีปญหาตามองไมเห็น และเยื่อจอตาซึ่งมีหนาที่รับภาพบางลงไป 75% และผลทดสอบปฏิกิริยาตอแสงปรากฏวาหนูมองไมเห็นเลย สวนหนูที่กินผงชูรสปานกลางมี ความเสียหายเชนกัน แตไมมากเทากลุมแรก งาน วิจัยชินนี้เปนชิ้นตอมาจากงานวิจัยเดิมซึ่งฉีดผงชูรสเขาตาสัตวทดลองโดย ตรง ทําให ้ ประสาทตาเสียหาย สวนงานชิ้นนี้เปนชิ้นแรกที่แสดงใหเห็นวา ผงชูรสที่รับจากการกิน กอผลใหตา บอดไดเชนเดียวกัน นักวิจัยอธิบาย วา ผงชูรสซึมซานเขาไปอยูในน้ําหลอเลี้ยงจอตา เกาะอยูที่นั่นและทําลายจอ ตาไปในที่สุด ทั้งยังมีผลกอกวนการทํางานของเซลลที่ยังเหลืออยูในการสงสัญญาณภาพไปยัง
7.
สมองอีกดวย เขาระบุวา อาหารที่ปริมาณ
20% ถือวาเปนสัดสวนสูง เปนอันตราย ขณะเดียวกัน แม จะกินในปริมาณนอย มันอาจจะสะสมเปนเวลานานนับสิบป กอนออกฤทธิ์ในภายหลัง นายโอกูโระ กลาววา ผลวิจัยชิ้นนี้อาจอธิยายวา ทําไมคนในแถบเอเชียตะวันออกถึงเปน โรคตอหินในอัตราสูง โดยเฉพาะวัยที่ขึ้นตนดวยเลขสี่
Descargar ahora