SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 16
Descargar para leer sin conexión
แรง มวล และ กฎการเคลื่อนที่

3.1 สภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ
          สภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
          สภาพการเคลื่อนที่คงเดิม หมายถึง อาการที่วัตถุอยู่นิ่งหรือมีความเร็วคงที่ เช่นนักเรียนคนหนึ่งยืน
อยู่นิ่งๆ บนพื้น รถยนต์กาลังเบรกอย่าวกะทันหัน เป็นต้น




                                         รูป 3.1 สภาพการเคลื่อนที่คงเดิม

         สภาพการเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลง หมายถึงอาการที่วัตถุมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง เช่น นักเรียนคน
         หนึ่งกาลังออกวิ่ง รถยนต์กาลังเบรกกะทันหัน เป็นต้น




                                    รูป 3.2 สภาพการเคลื่อนที่เปลียนแปลง
                                                                 ่ยนแปลง
3.2 แรง
         แรง คือ อานาจอย่างหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุได้ เป็นปริมาณเวกเตอร์ มี
หน่วยเป็นนิวตัน (N)
         ถ้ามีกล่องใบหนึ่งวางอยู่บนพื้นลื่น เมื่อมีแรงผลักกล่องจะทาให้กล่องมีสภาพการเคลื่อนที่
เปลี่ยนไป แรงที่ผลักกล่องเรียกว่า แรงลัพธ์ ถ้าเป็นกรณีที่มีแรงกระทามากกว่าหนึ่งแรง เช่น ในรูป 3.3 ชาย
                                                                                             
สองคนออกแรงดึงกล่อง F 1 และ F 2ในทิศทางตรงกันข้าม สมติว่าขนาดของ F 2 มากกว่าขนาดของ F 1
กล่องจะเคลื่อนที่ไปทางขวามือและแรงลัพธ์ซึ่งเป็นการรวมแรงทั้งสองนั้นแบบเวกเตอร์ก็จะมีทิศทาง
เดียวกับการเคลื่อนที่ของกล่อง




                                              รูป 3.3
                       
ตัวอย่าง 1 แรง  F 1 และ F 2
                         ขนาด 5 และ 10 นิวตัน ตามลาดับ กระทากับกล่องซึ่งวางบนพื้นลื่น ดังรูป จง
คานวณแรงลัพธ์ที่กระทากับกล่องและกล่องจะเคลื่อนไปทางใด




                                                                         
วิธีทา ให้  F เป็นขนาดของแรงลัพธ์ F1 และ F2 เป็นขนาดของแรง F 1 และ F 2 ตามลาดับ จะได้
            F = F2 – F1; แรงพุ่งไปทางขวาแทนบวก พุ่งซ้ายแทนลบ
               = 10- 5 = 5N
                                                              
         นั่นคือ แรงลัพธ์มีค่า 5 นิวตัน และมีทิศไปทางเดียวกับ F 2 เพราะ F2 >F1 จึงทาให้กล่องเคลื่อนไป
                
ในแนวเดียวกับ F 2
          
ตัวอย่าง 2 จากรูป อนุภาคถูกแรงกระทา 3 แรง คือ F 1, F 2 และ F 3 มีขนาด 1, 2 และ 3 นิวตัน ตามลาดับ จง
คานวณขนาดและทิศทางของลัพธ์




                                                                             
วิธีทา การหาขนาดของแรงลัพธ์สาหรับกรณีนี้ วิธี ที่สะดวกคือ แตกแรง   F 1, F 2และ F 3 ลงในแกน   X และ
Y ดังรูป แล้วจึงรวมแรงที่ละแกน จากนั้นจึงนามารวมอีกครั้ง
เวกเตอร์                  ส่วนประกอบทางแกน X                                 ส่วนประกอบทางแกน Y
                
                F1
                                   (1)cos 30 =
                                                              3                      (1)sin 30 =      1
                                                                                                       2
                                                              2


                                  -(2) sin 30 = - 1                                (2)cos 30 =          3
                F2


                                                                                                          3 3
            F3                     -(3) sin 30 = - 3                                -(3)cos 30 = -
                                                              2                                                2

                     
            F                                        35
                                         Fx =                                           Fy = 1        3
                                                      2                                            2


            
    เมื่อ  F เป็นแรงลัพธ์ FX และ FY เป็นขนาดของแรงลัพธ์ในแกน X และ Y ตามลาดับจะได้
            (  F )2 = F2X+ FY2
                                     3  10 3  25
            (  F )2 =                                            + 1 2       33
                                                  4                        4
                          2         32  12 3
            ( ) =       F
                                              4
             F                = 2.8 N
                                    Fy            1
            tan               =          =               3
                                                              = 0.22
                                    FX                35

                      = tan-1 0.22
          นั่นคือ แรงลัพธ์มีขนาด 2.8 นิวตัน ทามุม = tan-1 0.22 และอนุภาคนี้จะเคลื่อนที่ไปตามทิศของ
แรลัพธ์

ตัวอย่าง 3 รถยนต์คันหนึ่งแล่นไปบนถนโค้งด้วยอัตราคงที่ ถามว่าสภาพการเคลื่อนที่ของรถคันนี้เปลี่ยน
ไปหรือไม่
วิธีทา
แม้ว่ารถยนต์จะแล่นด้วยอัตราเร็วคงที่ แต่ทิศทาวการเคลิอนที่เปลี่ยนไปตามความโค้งของถนนทาให้
ความเร็วเปลี่ยนไปการที่ความเร็วเปลี่ยนไปทาให้เกิดความเร่ง เมื่อมีความเร่งสภาพการเคลื่อนที่ของรถยนต์
ต้องเปลี่ยนไป นั่นคือ สภาพการเคลื่อนที่ของรถยนต์เปลี่ยนไป

3.3 กฎการเคลื่อนที่ข้อหนึ่งของนิวตันหรือกฎความเฉื่อย

กฎข้อ 1 “วัตถุจะรักษาสภาพอยู่นิ่งหรือสภาพเคลื่อนที่อย่างสม่่าเสมอในแนวเส้นตรง นอกจากจะมีแรง
ลัพธ์ที่ค่าไม่เป็นศูนย์มากระท่า”
                                                              
                                  หรือ v = 0 หรือคงที่ เมื่อ  F = 0

         กฎข้อที่ 1 นี้กล่าวได้อีกอย่างว่า วัตถุจะ ไม่เปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ถ้าแรงลัพธ์เป็นศูนย์ ดังรูป
                         
3.4 กล่องถูกแรง F 1 และ F 2 กระทาในทิศทางตรงข้ามกัน ถ้าวัตถุอยู่นิ่งหรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่
                                             
แสดงวาขนาดของ F 1 ต้องเท่ากับขนาดของ F 2 หรือแรงลัพธ์ที่กระทาต่อกล่องมีค่าเป็นศูนย์




                                                   รูป 3.4
                                                              
ตัวอย่าง 4 จากรูป เครื่องบิน ไอพ่นเคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงที่ a ปรากฏกับสายตาของชาย ก ซึ่งยืนนิ่งอยู่กับ
                                
ที่ ชาย ข วิ่งด้วยความเร็วคงที่ V เขาจะเห็นเครื่องบินไอพ่นเคลื่อนที่ด้วยความเร่งเท่าไร
                      
วิธีท่า สมมติว่า ขณะเวลา t1 เครื่องบินไอพ่นมีความเร็ว V และขณะ t2 มีความเร็ว V 2 บินมาอยู่ตรง
                                                            
ตาแหน่ง A และ B ตามลาดับ ความเร่งที่ปรากฏตอชาย ก เท่ากับ a ตามที่โจทย์กาหนดและสามารถคานวณ
ได้ว่า
                           
                     v 2  v1
              a   =                                     ……………(1)
                      t 2  t1




                                                                               
            ให้ a  เป็นความเร่วของเครื่องบินไอพ่นที่ปรากฏต่อชาย ข ให้ v  1 และ v  2 เป็นความเร็วของ
เคลื่อนบินไอพ่นที่ปรากฏต่อชาย ข ณ เวลา t1 และ t2 ตามลาดับ โดยอาศัยหลักเกณฑ์ของความเร็วสัมพันธ์
                                    
จะได้                  v  1= v  1- v        …………(2)
                                   
                      v  2= v  2- v                 …………(3)
                                        
         ดังนั้นเราสามารถคานวณ a  ได้ดังนี้
                                     
                               v2  v2
                      a   =
                                 t 2  t1
                                             
                               ( v 2  v )  ( v1  v
                           =
                                      t 2  t1
                                    
                               v 2  v1
                           =                            …………..(4)
                               t 2  t1
                                                   
              จากสมการ (1) และ (4) จะเห็นว่า a  = a แสดงว่า ถ้าผู้สังเกตมีสภาพการเคลื่อนที่ไม่
เปลี่ยนแปลง หมายถึงผู้สังเกตที่อยู่นิ่งและมีความเร็วคงที่ เขาจะสามารถเห็นการเคลื่อนที่ของวัตถุที่เคลิอนที่
ด้วยความเร่งได้เหมือนกัน จากตัวอย่างนี้จะยืนยันว่ากฎการเคลื่อนที่ของนิวตันจะเป็นจริงถ้าผู้สังเกตมีสภาพ
การเคลื่อนที่ไม่เปลี่ยนแปลง
                                                       
   นั่นคือ ชาย ข เห็นเครื่องบินไอพ่นมีความเร่งเท่ากับ a
ตัวอย่าง 5 ขณะที่คนกาลังกระโดดจากสะพานลงสู่แม่น้า ดังรูป แรงลัพธ์ที่กระทากับคนมีค่าเป็นศูนย์
หรือไม่




วิธีทา ขณะที่คนกระโดดลงจากสะพาน จะมีแรงกระทาอย่างน้อยสองแรง คือ
                แรงดึงดูดของโลก  มีค่ามาก มีทิศพุ่งลงแนวดิ่ง
                แรงต้านทานอากาศ  มีค่าน้อย มีทิศพุ่งแนวดิ่ง
     แรงทั้งสองเมื่อรวมกันทาให้เกิดแรงลัพธ์กระทาในทิศทางพุ่งลงแนวดิ่ง ทาให้คนตกสู่ แม่น้า
     นั่นคือ แรงลัพธ์กระทากับคนมีค่าไม่เป็นศูนย์

ตัวอย่าง 6 จากรูป กล่องวางทับผ้าบนพื้นราบ เมื่อเรากระตุกผ้าแรง ๆ อย่างเร็ว เราจะสามารถดึงผ้าออกมาได้
ทันที่กล่องไม่เคลื่อนที่หรือเคลื่อนน้อยมาก เป็นเพราะอะไร
วิธีทา ตามกฎการเคลื่อนที่ข้อที่หนึ่งของนิวตันหรือกฎความเฉื่อย เราสามารถขยายความต่อไปได้ว่า เมื่อ
     
  F = 0 วัตถุที่อยู่นิ่งจะยังอยู่นิ่งต่อไป และวัตถุที่มีความเร็วคงที่ก็จะมีความเร็วคงที่ต่อไป ดังนั้น การที่เรา
กระตุกผ้าออกมาจากการทับของผ้ากล่องได้เพราะกล่องกาลังอยู่ นิ่ง มันจึงอยากอยู่นิ่งต่อไปเมื่อผ้าถูกซัก
ออกมาแล้วบางครั้งกล่องอาจไม่ขยับหรือขยับน้อยมาก

3.4 มวล
             มวล (mass) คือ ปริมาณเนื้อธาตุของวัตถุหรือสาร เป็นปริมาณรสเกลาร์ มีหน่วยเป็นกิโลกรัม
(kg) มวลมีสมบัติในการต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ การเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ หมายถึง การที่
วัตถุมีความเร็วเปลี่ยนไป ดังที่กล่าวมาแล้ว กรณีที่วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงี่ไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยน
สภาพการเคลื่อนที่ เราสามารถสังเกตเห็นสมบัติในการต้านทานการเปลี่ยนสภาพการเคลือนที่ของมวลได้
จากรูป 3.5 ในการผลักมวลที่แขวนห้อยอยู่ด้วยเชือก เราจะรู้สึกว่าผลักมวล 100 กิโลกรัม ให้ขยับได้ง่ายกว่า
มวล 300 กิโลกรัม แสดงว่า มวลน้อยจะต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่น้อยกว่ามวลมาก




                                                    รูป 3.5

               สมบัติในการต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ของมวลเรียกว่า ความเฉื่อย ดังนั้น จึงสามารถ
กล่าวได้ว่า วัตถุที่มวลน้อยจะมีความเฉื่อยน้อย วัตถุที่มีมวลมากจะมีความเฉื่อยมาก
               มวลจะมีค่าคงที่เสมอ ในกรณีนี้หมายความว่า ถ้าเรามีมวล 100 กิโลกรัม ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ๆ
เช่น บนผิวโลก บนผิวดวงจันทร์ หรือที่ใดๆ ในเอกภพนี้ มันก็จะมีมวล 100 กิโลกรัม ไม่เปลี่ยนแปลง
3.5 กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน

กฎข้อ 2 “เมื่อมีแรงลัพธ์ซึ่งมีขนาดไม่เป็นศูนย์มากระท่าต่อวัตถุ จะท่าให้วัตถุเกิดความเร่งในทิศเดียวกับ
แรงลัพธ์ที่มากระท่าและขนาดของความเร่งนี้จะแปลผันตรงกับขนาดของแรงลัพธ์และแปลผกผันกับมวล
ของวัตถุ

              ในกฎข้อที่ 2 คาว่าแรงลัพธ์จะพูดถึงแรงภายนอกที่กระทาวัตถุ หากพิจารณากฎข้อที่ 2 จะเห็น
                                                  
ได้ว่าเราสามารถสรุปได้เป็นสมการสั้นๆ โดยถ้า  F เป็นแรงลัพธ์ที่กระทาต่อมวล m แล้วทาให้มวลมี
              
ความเร่วคงที่ a ดังรูป 3.6 จะได้

                                                
                                      F = ma

             โดยทิศทางของแรงลัพธ์และความเร่งของมวลจะไปทิศทางเดียวกัน




                                                  รูป 3.6
              จากสมการ (3.1 ) ถ้า m เท่ากับ 1 กิโลกรัม a เท่ากับ 1 เมตรต่อวินาที2 จะได้แรง  F เท่ากับ 1
นิวตัน ดังนั้นแรง 1 นิวตัน หมายถึง แรงที่สามารถทาให้วัตถุมีมวล 1 กิโลกรัมเคลื่อนที่ไปด้วยความเร่ง 1
เมตรต่อวินาที2

                                                                                        
ตัวอย่าง 7 มวล m ขนาด 10 กิโลเมตร มีแรง F 1 และ F 2 กระทาดังรูป ถ้าขนาดของ F 1 และ F 2 มีค่า
10 และ 20 นิวตันตามลาดับ จงหาขนาดและทิศทางความเร่งของมวล m
วิธีทา ตามกฎการเคลื่อนที่ข้อสองของนิวตันจะได้
                                            
                                   F = ma
                                          
                               F 1+ F 2 = m a

                          (+10)+(-20) = (10)a
                                               2
                                a = -1 m/s
                                                                                           
เครื่องหมายของ a ในที่นี้หมายถึง a และ F 2 มีทิศเดียวกัน เพราะตอนแทนค่า F 1 และ F 2 เราแทนแรง F 1
                                                                           
 ด้วย +10 เพราะพุ่งไปทางขวา แทนแรง F 2 ด้วย –20 เพราะพุ่งไปทางซ้าย ดังนั้น a มีทิศพุ่งไปทางซ้าย
       นั่นคือ ความเร่งของมวล m เท่ากับ 1 เมตรต่อวินาที 2 พุ่งไปทางซ้าย

ตัวอย่าง 8 เด็กคนหนึ่งรากแคร่บนพื้นราบลื่นด้วยเชือกเบา เอียงทามุม 15 องศากับแนวราบ ดังรูป ถ้าแคร่มี
มวล 20 กิโลกรัม และเด็กคนนี้ต้องออกแรงดึง 10 นิวตัน อยากทราบว่าแคร่จะเคลื่อนไปด้วยความเร่งเท่าไร




วิธีทา




                               
            จากรูป เราแตกแรง F ( ซึ่งสมมติว่าเป็นแรงที่เด็กคนนั้นใช้ดึง) ให้ออกเป็น 2 แนว คือ
แนวราบและแนวดิ่ง
                                                    
                 แนวราบ  อยู่ในแนวเคลื่อนที่ คือ F cos 15
                                                                  
                  แนวดิ่ง  อยู่ในแนวตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ คือ F sin 15
            แรงในดิ่งไม่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของแคร่ในแนวราบ สมมติแคร่เคลื่อนที่ไปในแนวราบด้วย
         
ความเร่ง a ตามกฎข้อสองของนิวตัน จะได้
                                   
                            F = ma
                                   
                      F cos 15 = m a
a=   F cos 15
                                                     =       (10 )( 0 . 966 )
                                                                                 = 0.48 m/s2
                                               m                    20


         นั่นคือ แคร่จะเคลื่อนที่ไปด้วยความเร่ง 0.48 เมตรต่อวินาที2

                                                                                                   
ตัวอย่าง 9 อนุภาคมวล m ขนาด 5.2 กิโลกรัม ถูกแรงสองแรงดึงในทิศทางที่ตั้งฉากกัน ดังรูป แรง F1
     
และ F 2 มีขนาด 3.7 และ 4.3 นิวตัน ตามลาดับ จงหาขนาดและทิศทางของความเร่งของอนุภาค




วิธีทา




                                                                                             
                หา  F  F เป็นแรงลัพธ์ที่กระทากับอนุภาคมวล m เราสามารถหา  F ได้โดยรวม
                      
แรง  F 1      และ  F 2 แบบเวกเตอร์
                                         
                เขียนแบบเวกเตอร์ :  F = F 1+ F 2
                เขียนแบบสเกลาร์ :  F =               2
                                                    F F
                                                     1  2
                                                         2


                                       F =                 ( 4 . 3 ) = 5.7 N
                                                              2       2
                                                   (3 .7 )
                                                                            
                จากรูป ถ้าจะหา      ซึ่งเป็นมุมที่แรงลัพธ์  F จะทากับ F 2 จะได้

                              tan  =     F1
                                               =   3 .7
                                                          = 0.86
                                          F2       4 .3

                                  = tan-1 0.86 = 40.7
                      
                หา a a เป็นความเร่งของอนุภาค เราสามารถหาได้โดยใช้กฎข้อสองของนิวตัน
                                               
                              จาก  F = m a
                                     5.7 = (5.2)a
                                                                        
                                        a = 1.1 m/s2 และมีทิศเดียวกับ  F
                                                                                          
                 นั่นคือ ความเร่งของอนุภาคมีขนาด 1.1 เมตรต่อวินาที 2 ทามุม tan-1 0.86 กับ F 2

ตัวอย่าง 10 ออกแรง F ลากวัตถุ m ไปในแนวราบ ทาให้มวลมีความเร่งสม่าเสมอ ได้ทดลองเพิ่มขนาดของ
                                           
ของแง F พบว่าแรง F มีความสัมพันธ์กับความเร่ง a ของมวล m ตามกราฟที่กาหนดให้ จงคานวณของวัตถุ
ก้อนนี้




วิธีทา จากกราฟที่โจทย์กาหนดให้ จะเห็นว่าขนาดออกแรงวัตถุ 5 N วัตถุมีความเร่งเป็นศูนย์ แสดงว่าวัตถุ
ยังไม่เคลื่อนที่ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากการที่วัตถุวางบนพื้นฝืด การจะให้วัตถุเคลื่อนที่ต้องออกแรงเพื่อให้ชนะ
ความฝืดเสียก่อน
                                                                
              จากกฎข้อสองของนิวตัน  F = m a ถ้าเรานา  F มาเขียนกราฟกับความเร่ง a เราจะได้
กราฟเส้นตรงโดยมีความชันเท่ากับมวล m ดังนั้นการหามวลของวัตถุข้อนี้จึงสามารถหาได้จากความชันของ
เส้นกราฟ
                 m = ความชันของเส้นกราฟ
                       20  5
                   =            
                                    15
                                          1 . 25   kg
                       12  0       12
             นั่นคือ วัตถุก้อนนี้มีมวล 1.25 กิโลกรัม

3.6 นาหนัก
                 เราทราบว่าถ้าปล่อยวัตถุมวล m ให้ตกอย่างเสรีบริเวณผิวโลก มันจ ะตกด้วยความเร่งคงที่

g ( g  9 . 8 เมตรต่อวิน าทที) โดยไม่คิดแรงต้านทานของอากาศ เมื่อมวลที่ตกมีความเร้งจึงต้องเกิดแรงลัพธ์ตาม

กฎข้อสองของนิวตัน และมีค่า
                                     
                                F  mg
                                                                                              
             เรานิยามน้าหนักว่า แรงที่โลกดึงดูดวั ตถุ ดังนั้นขณะที่วัตถุตกอย่างเสรีซึ่งมีแรง  F กระทา
                                                     
เราดึงแล้วปล่อย  F คือแรงที่โลกดึงดูดวัตถุมวล m ถ้า W เป็นน้าหนักของวัตถุมวล m ก้อนนี้ เราจะได้ ( ดู
รูป 3.7 ประกอบ )
                                             
                                         W  mg
รูป 3.7
              ดังนั้นน้าหนักของวัตถุจึงเป็นปริมาณเวกเตอร์ มีหน่วยเหมือนแรงคือ นิวตัน น้าหนักของวัตถุ
                              
ก้อนเดียวกันอาจเปลี่ยนไปถ้า g เปลี่ยนไป เช่น มนุษย์อากาศเมื่ออยู่บนพื้นโลกอาจมีน้าหนัก 700 นิวตัน แต่
                                                                      
เมื่ออยู่ในยานกระสวยอากาศที่โคจรรอบโลกอยู่สูงจากผิวโลกมากจนค่า g ใกล้เคียงศูนย์ มนุษย์อากาศคนนี้
จะอยู่ในสภาพที่น้าหนักเป็นศูนย์หรือไร้น้าหนัก ดังรูป 3.8




                                                       รูป 3.8
ตัวอย่าง 11 นายสมชายมีมวล 60 กิโลกรัม ถ้านายสมชาย อยู่ ที่ผิวโลกและดวงจันทร์ นายส มชายจะมี
น้าหนักอย่างไรถ้าอัตราเร่งโน้มถ่วงที่ผิวโลกเป็น 6 เท่าของที่ผิวดวงจันทร์
วิธีทา          ที่ผิวโลก:       จากW = mg
                                     Wล = (60)(10) = 600
                                                     10 
               ที่ผิวดวงจันทร์         W จ  ( 60 )       100 N
                                                     6 
               นั่นคือ ที่ผิวโลกและที่ผิดวงจันทร์นายสมชายจะหนัก 600 และ 100 นิวตัน
ตัวอย่าง 12 จากรูป เครื่องชั่งน้าหนักที่แม่ค้าใช้กาลังชั่งทุเรียนลูกหนึ่งเข็มชี้ที่ 1.5 กิโลกรัมพอดี แสดงว่า
ทุเรียนลูกนี้หนัก 1.5 กิโลกรัม หมายความว่าอย่างไร
วิธีทา เครื่องชั่งน้าหนักที่แม่ค้าใช้ เป็นเครื่องชั่งที่ใช้น้าหนักของมวลมาตรฐาน 1 Kg มาเปรียบเทียบแล้ว
และกาหนดให้ชั่งน้าหนักเป็นกิโลกรัม โดย
                   1 Kg จะหมายถึง วัตถุหนักเป็น 1 เท่าชองน้าหนักมาตรฐาน
                    2 Kg จะหมายถึง วัตถุหนักเป็น 2 เท่าชองน้าหนักมาตรฐาน
นั่นคือ ถ้าทุเรียนหนัก 1.5 กิโลกรัม กรณีนี้จึงหมายความว่า ทุเรียนมีน้าหนักเป็น 1.5 เท่าของน้าหนัก
มาตรฐาน

3.7 กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน
         นิวตันเสนอกฎแรงดึงดูดระหว่างมวลได้ว่า

"วัตถุทั่งหลายในเอกภพจะออกแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน โดยขนาดของแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่ ง ๆจะ
แปรผันตรงกับผลคูณระหว่างมวลวัตถุที่สองและจะแปรผกผันกับกาลังสองชองระยะทางระหว่างวัตถุทั้ง
สองนั่น"




                                             รูป 3.9
           ตามกฎแรงดึงดูดระหว่างมวลที่นิวตันเสนอ พิจารณาจากรูป 3.9 เราจะสามารถเขียนได้ว่า
                           FG 
                                  Gm 1m 2
                                        2
                                                                   …………. ( 3-3 )
                                    R
          เมื่อ m1 และ m2 เป็นมวลของวัตถุแต่ละก้อน มีหน่วยเป็น กิโลกรัม
                R เป็นระยะระหว่างมวล m1 กับm2 มีหน่วยเป็น เมตร
                G เป็นค่าคงตัวความโน้มถ่วงสากล เท่ากับ 6.673  10-11 นิวตัน – เมตรต่อกิโลกรัม2
                FG เป็นแรงดึงดูดระหว่างมวล m1 กับm2 มีหน่วยเป็น นิวตัน
           แรง FG ตามกฎของนิวตันมีความหมายว่า เป็นแรงดูดอย่างเดียวไม่มีแรงผลัก และเป็นแรง
กระทาร่วม กล่าวคือมวล m1 และ m2 ต่างฝ่ายต่างดูดซึ่งกันcละกันด้วยแรงขนาด ตามสมการ (3-3 )แต่
ทิศทางตรงข้ามกัน ไม่มีใครดูดใครมากกว่าใคร
ก. มวลของโลก




                                                รูป 3.10
            จากรูป 3.10 วัตถุมวล m อยู่ที่ผิวโลกซึ่งมีมวล me มีรัศมี Re วัตถุและโลกต่างดูดซึ่งกันและกัน
ด้วยแรง Fe มีค่าเป็น
                 FG 
                        Gm e m
                           2
                                                                         ………..(3-4 )
                         R e
             แรงที่วัตถุและโลกต่างดูดซึ่งกันและกันนี้แท้จริงคือน้าหนักของวัตถุนั่นเอง ดังนั้นถ้า g เป็น
อัตราเร่งโน้มถ่วงที่ผิวโลกจากสมการ (3-4) จะเขียนใหม่ได้เป็น
                         Gm e m
                  mg           2
                                                                             ………..(3-5 )
                           R        e
                                2
                  me 
                         gR e
                                                                             ………..(3-6 )
                           G
        สมการ 3-6 เป็นสมการที่แสดงค่ามวลของโลก ซึ่วถ้าททราบรัศมีของโลกเราจะสามารถ
คานวณมวลของโลกได้สมมติถ้ารัศมีของลกเท่ากับ 6.38 102 เมตร จะได้มวลของโลก meเท่ากับ
                                                           6 2
                                        ( 9 . 8 )( 6 . 3  10 )
                             me =                         11
                                           6 . 67  10
                              me = 5.98  10 4 kg                               ……(3-7 )
             ข.ความเร่งเนื่องจากความโน้มถ่วง ณ ตาแหน่งห่างจากโลก ในการพิจารณามวล
ของโลก เราจะไม่ได้สมการ(3-5) ถ้าเราตัดมวล m ทั้งสองข้างจะได้

                                                                  g =   Gm e
                                                                             2
                                                                                            ………….(3-8 )
                                                                        Re

             จากสมการ (3-8) จะเห็นว่า ค่า g ซึ่งเป็นค่าความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วง จะมีค่าขึ้นกับรัศมี
โลก Re หรืออาจกล่าวให้ชัดเจนขึ้นว่า g ขึ้นกับระยะทางห่างจากโลกออกไป กล่าวคือ g จากเมื่อระยะทาง
น้อย และ g จะน้อยเมื่อระยะทางงมาก หรือกล่าวสรุปว่า g แปรผันกับระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของโลกยก
กาลังสอง
ค. ความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วง ณ ตาแหน่งลึกลงไปใต้ผิวโลก ในกรณีที่
พิจารณา g ที่ตาแหน่งลึกลงไปใต้ผิวโลกจะพบว่า g แปรผันโดยตรงกับระยะจากศูนย์กลางของโลกถึง
ตาแหน่งที่พิจารณา และมีค่าเป็นศูนย์ที่จุดศูนย์กลางของโลก โดยจะได้

                         g = 4 G  R              ………….(3-9 )
                             3



            เมื่อ  เป็นความหนาแน่นของโลก และ R เป็นระยะจากศูนย์กลางโลกถึงตาแหน่งพิจารณา




*************************************************************************************

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลัง05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลังPhanuwat Somvongs
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงานเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงานWijitta DevilTeacher
 
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่npapak74
 
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงพัน พัน
 
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสารความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสารdalarat
 
เคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณเคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณAui Ounjai
 
ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์Jariya Jaiyot
 
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่menton00
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์สมศรี หอมเนียม
 
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกส์
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกส์การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกส์
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกส์Aey Usanee
 
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560krulef1805
 
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนkkrunuch
 
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็วแบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็วJariya Jaiyot
 
02 เคลื่อนที่แนวตรง
02 เคลื่อนที่แนวตรง02 เคลื่อนที่แนวตรง
02 เคลื่อนที่แนวตรงwiriya kosit
 
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีสWijitta DevilTeacher
 
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ sawed kodnara
 
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอนใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอนSukanya Nak-on
 

La actualidad más candente (20)

05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลัง05แบบฝึกกำลัง
05แบบฝึกกำลัง
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงานเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
 
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่
 
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
 
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสารความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
 
เคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณเคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณ
 
ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์
 
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
 
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
 
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
 
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกส์
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกส์การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกส์
การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกส์
 
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
แรงดึงดูดระหว่างมวล2560
 
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
 
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็วแบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
 
02 เคลื่อนที่แนวตรง
02 เคลื่อนที่แนวตรง02 เคลื่อนที่แนวตรง
02 เคลื่อนที่แนวตรง
 
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
 
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
แนวข้อสอบเข้า ม.4 วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมหิดลฯและโรงเรียนจุฬาภรณ์ฯ
 
ใบความรู้สนามแม่เหล็ก
ใบความรู้สนามแม่เหล็กใบความรู้สนามแม่เหล็ก
ใบความรู้สนามแม่เหล็ก
 
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอนใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
 

Destacado

แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันแบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันเซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
 
บทที่ 3 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันWannalak Santipapwiwatana
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันธงชัย ควรคนึง
 
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันThepsatri Rajabhat University
 
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่nik2529
 
บทเรียนโปรแกรม ผลของแรงลัพธ์
บทเรียนโปรแกรม ผลของแรงลัพธ์ บทเรียนโปรแกรม ผลของแรงลัพธ์
บทเรียนโปรแกรม ผลของแรงลัพธ์ krupornpana55
 
Slแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วย 1 แรงและการเคลื่อนที่
Slแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วย 1 แรงและการเคลื่อนที่ Slแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วย 1 แรงและการเคลื่อนที่
Slแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วย 1 แรงและการเคลื่อนที่ krupornpana55
 
หน่วยย่อยที่ 2 แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา
หน่วยย่อยที่ 2  แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยาหน่วยย่อยที่ 2  แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา
หน่วยย่อยที่ 2 แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยาkrupornpana55
 
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัดSlแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัดkrupornpana55
 

Destacado (11)

แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันแบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
บทที่ 3 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
แรงและแรงรับ
แรงและแรงรับแรงและแรงรับ
แรงและแรงรับ
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
เฉลย06กฎการเคลื่อนที่
เฉลย06กฎการเคลื่อนที่เฉลย06กฎการเคลื่อนที่
เฉลย06กฎการเคลื่อนที่
 
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
 
บทเรียนโปรแกรม ผลของแรงลัพธ์
บทเรียนโปรแกรม ผลของแรงลัพธ์ บทเรียนโปรแกรม ผลของแรงลัพธ์
บทเรียนโปรแกรม ผลของแรงลัพธ์
 
Slแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วย 1 แรงและการเคลื่อนที่
Slแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วย 1 แรงและการเคลื่อนที่ Slแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วย 1 แรงและการเคลื่อนที่
Slแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วย 1 แรงและการเคลื่อนที่
 
หน่วยย่อยที่ 2 แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา
หน่วยย่อยที่ 2  แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยาหน่วยย่อยที่ 2  แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา
หน่วยย่อยที่ 2 แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา
 
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัดSlแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
 

Similar a แรง มวล และกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน

Similar a แรง มวล และกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน (10)

สมดุลกล1
สมดุลกล1สมดุลกล1
สมดุลกล1
 
3
33
3
 
3
33
3
 
Add m5-1-chapter3
Add m5-1-chapter3Add m5-1-chapter3
Add m5-1-chapter3
 
บทที่ 5 โมเมนตัม
บทที่ 5 โมเมนตัมบทที่ 5 โมเมนตัม
บทที่ 5 โมเมนตัม
 
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ2
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ2การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ2
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ2
 
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01
 
9789740328896
97897403288969789740328896
9789740328896
 
9789740328896
97897403288969789740328896
9789740328896
 
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
เอกสารประกอบ เรื่อง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
 

Más de ชิตชัย โพธิ์ประภา

รายชื่อผู้เข้าค่าย ศูนย์ สอวน. ชีววิทยา
รายชื่อผู้เข้าค่าย ศูนย์ สอวน. ชีววิทยารายชื่อผู้เข้าค่าย ศูนย์ สอวน. ชีววิทยา
รายชื่อผู้เข้าค่าย ศูนย์ สอวน. ชีววิทยาชิตชัย โพธิ์ประภา
 
4กำหนดการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ค่าย 1
4กำหนดการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ค่าย 1 4กำหนดการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ค่าย 1
4กำหนดการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ค่าย 1 ชิตชัย โพธิ์ประภา
 
6รายชื่อนักเรียนเข้าค่าย 1 ปีการศึกษา 2556
6รายชื่อนักเรียนเข้าค่าย 1  ปีการศึกษา 25566รายชื่อนักเรียนเข้าค่าย 1  ปีการศึกษา 2556
6รายชื่อนักเรียนเข้าค่าย 1 ปีการศึกษา 2556ชิตชัย โพธิ์ประภา
 
ตารางเวรครูชาย เดือน ต.ค.ถึง มี.ค. 2556
ตารางเวรครูชาย เดือน ต.ค.ถึง มี.ค. 2556ตารางเวรครูชาย เดือน ต.ค.ถึง มี.ค. 2556
ตารางเวรครูชาย เดือน ต.ค.ถึง มี.ค. 2556ชิตชัย โพธิ์ประภา
 
คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ฝ่ายกิจการนักเรียน
คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ฝ่ายกิจการนักเรียนคู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ฝ่ายกิจการนักเรียน
คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ฝ่ายกิจการนักเรียนชิตชัย โพธิ์ประภา
 
โครงการประชุมวิชาการนักเรียนโครงการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้ง...
โครงการประชุมวิชาการนักเรียนโครงการวิทยาศาสตร์  คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี  ครั้ง...โครงการประชุมวิชาการนักเรียนโครงการวิทยาศาสตร์  คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี  ครั้ง...
โครงการประชุมวิชาการนักเรียนโครงการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้ง...ชิตชัย โพธิ์ประภา
 

Más de ชิตชัย โพธิ์ประภา (20)

ผลสอบปรีชาญาณ59
ผลสอบปรีชาญาณ59ผลสอบปรีชาญาณ59
ผลสอบปรีชาญาณ59
 
รายชื่อผู้เข้าค่าย ศูนย์ สอวน. ชีววิทยา
รายชื่อผู้เข้าค่าย ศูนย์ สอวน. ชีววิทยารายชื่อผู้เข้าค่าย ศูนย์ สอวน. ชีววิทยา
รายชื่อผู้เข้าค่าย ศูนย์ สอวน. ชีววิทยา
 
ครุฑน้อยกับเห็ดพิษ
ครุฑน้อยกับเห็ดพิษครุฑน้อยกับเห็ดพิษ
ครุฑน้อยกับเห็ดพิษ
 
ทหารหาญ
ทหารหาญทหารหาญ
ทหารหาญ
 
ยีราฟกลับใจ
ยีราฟกลับใจยีราฟกลับใจ
ยีราฟกลับใจ
 
วานรขาวเจ้าปัญญา
วานรขาวเจ้าปัญญาวานรขาวเจ้าปัญญา
วานรขาวเจ้าปัญญา
 
สมบัติวิเศษ
สมบัติวิเศษสมบัติวิเศษ
สมบัติวิเศษ
 
วิหคสีรุ้ง
วิหคสีรุ้งวิหคสีรุ้ง
วิหคสีรุ้ง
 
5ตารางสรุปจำนวนนักเรียน
5ตารางสรุปจำนวนนักเรียน5ตารางสรุปจำนวนนักเรียน
5ตารางสรุปจำนวนนักเรียน
 
4กำหนดการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ค่าย 1
4กำหนดการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ค่าย 1 4กำหนดการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ค่าย 1
4กำหนดการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ ค่าย 1
 
3แนวปฏิบัติการอยู่ค่าย
3แนวปฏิบัติการอยู่ค่าย3แนวปฏิบัติการอยู่ค่าย
3แนวปฏิบัติการอยู่ค่าย
 
1โครงการขยายผล สอวน
1โครงการขยายผล สอวน1โครงการขยายผล สอวน
1โครงการขยายผล สอวน
 
6รายชื่อนักเรียนเข้าค่าย 1 ปีการศึกษา 2556
6รายชื่อนักเรียนเข้าค่าย 1  ปีการศึกษา 25566รายชื่อนักเรียนเข้าค่าย 1  ปีการศึกษา 2556
6รายชื่อนักเรียนเข้าค่าย 1 ปีการศึกษา 2556
 
ตารางเวรครูชาย เดือน ต.ค.ถึง มี.ค. 2556
ตารางเวรครูชาย เดือน ต.ค.ถึง มี.ค. 2556ตารางเวรครูชาย เดือน ต.ค.ถึง มี.ค. 2556
ตารางเวรครูชาย เดือน ต.ค.ถึง มี.ค. 2556
 
คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ฝ่ายกิจการนักเรียน
คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ฝ่ายกิจการนักเรียนคู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ฝ่ายกิจการนักเรียน
คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ฝ่ายกิจการนักเรียน
 
ตารางการนำเสนอโครงงาน
ตารางการนำเสนอโครงงานตารางการนำเสนอโครงงาน
ตารางการนำเสนอโครงงาน
 
รายชื่อครูวิพากษ์โครงงาน
รายชื่อครูวิพากษ์โครงงานรายชื่อครูวิพากษ์โครงงาน
รายชื่อครูวิพากษ์โครงงาน
 
โครงการประชุมวิชาการนักเรียนโครงการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้ง...
โครงการประชุมวิชาการนักเรียนโครงการวิทยาศาสตร์  คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี  ครั้ง...โครงการประชุมวิชาการนักเรียนโครงการวิทยาศาสตร์  คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี  ครั้ง...
โครงการประชุมวิชาการนักเรียนโครงการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้ง...
 
รายชื่อโรงแรมในจังหวัดแพร่
รายชื่อโรงแรมในจังหวัดแพร่รายชื่อโรงแรมในจังหวัดแพร่
รายชื่อโรงแรมในจังหวัดแพร่
 
ปอซอ
ปอซอปอซอ
ปอซอ
 

แรง มวล และกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน

  • 1. แรง มวล และ กฎการเคลื่อนที่ 3.1 สภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ สภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ สภาพการเคลื่อนที่คงเดิม หมายถึง อาการที่วัตถุอยู่นิ่งหรือมีความเร็วคงที่ เช่นนักเรียนคนหนึ่งยืน อยู่นิ่งๆ บนพื้น รถยนต์กาลังเบรกอย่าวกะทันหัน เป็นต้น รูป 3.1 สภาพการเคลื่อนที่คงเดิม สภาพการเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลง หมายถึงอาการที่วัตถุมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง เช่น นักเรียนคน หนึ่งกาลังออกวิ่ง รถยนต์กาลังเบรกกะทันหัน เป็นต้น รูป 3.2 สภาพการเคลื่อนที่เปลียนแปลง ่ยนแปลง
  • 2. 3.2 แรง แรง คือ อานาจอย่างหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุได้ เป็นปริมาณเวกเตอร์ มี หน่วยเป็นนิวตัน (N) ถ้ามีกล่องใบหนึ่งวางอยู่บนพื้นลื่น เมื่อมีแรงผลักกล่องจะทาให้กล่องมีสภาพการเคลื่อนที่ เปลี่ยนไป แรงที่ผลักกล่องเรียกว่า แรงลัพธ์ ถ้าเป็นกรณีที่มีแรงกระทามากกว่าหนึ่งแรง เช่น ในรูป 3.3 ชาย     สองคนออกแรงดึงกล่อง F 1 และ F 2ในทิศทางตรงกันข้าม สมติว่าขนาดของ F 2 มากกว่าขนาดของ F 1 กล่องจะเคลื่อนที่ไปทางขวามือและแรงลัพธ์ซึ่งเป็นการรวมแรงทั้งสองนั้นแบบเวกเตอร์ก็จะมีทิศทาง เดียวกับการเคลื่อนที่ของกล่อง รูป 3.3   ตัวอย่าง 1 แรง F 1 และ F 2 ขนาด 5 และ 10 นิวตัน ตามลาดับ กระทากับกล่องซึ่งวางบนพื้นลื่น ดังรูป จง คานวณแรงลัพธ์ที่กระทากับกล่องและกล่องจะเคลื่อนไปทางใด   วิธีทา ให้  F เป็นขนาดของแรงลัพธ์ F1 และ F2 เป็นขนาดของแรง F 1 และ F 2 ตามลาดับ จะได้  F = F2 – F1; แรงพุ่งไปทางขวาแทนบวก พุ่งซ้ายแทนลบ = 10- 5 = 5N  นั่นคือ แรงลัพธ์มีค่า 5 นิวตัน และมีทิศไปทางเดียวกับ F 2 เพราะ F2 >F1 จึงทาให้กล่องเคลื่อนไป  ในแนวเดียวกับ F 2
  • 3.   ตัวอย่าง 2 จากรูป อนุภาคถูกแรงกระทา 3 แรง คือ F 1, F 2 และ F 3 มีขนาด 1, 2 และ 3 นิวตัน ตามลาดับ จง คานวณขนาดและทิศทางของลัพธ์    วิธีทา การหาขนาดของแรงลัพธ์สาหรับกรณีนี้ วิธี ที่สะดวกคือ แตกแรง F 1, F 2และ F 3 ลงในแกน X และ Y ดังรูป แล้วจึงรวมแรงที่ละแกน จากนั้นจึงนามารวมอีกครั้ง
  • 4. เวกเตอร์ ส่วนประกอบทางแกน X ส่วนประกอบทางแกน Y  F1 (1)cos 30 = 3 (1)sin 30 = 1 2 2  -(2) sin 30 = - 1 (2)cos 30 = 3 F2  3 3 F3 -(3) sin 30 = - 3 -(3)cos 30 = - 2 2  F 35 Fx = Fy = 1  3 2 2  เมื่อ  F เป็นแรงลัพธ์ FX และ FY เป็นขนาดของแรงลัพธ์ในแกน X และ Y ตามลาดับจะได้ (  F )2 = F2X+ FY2 3  10 3  25 (  F )2 = + 1 2 33 4 4  2 32  12 3 ( ) = F 4 F = 2.8 N Fy 1 tan = = 3 = 0.22 FX 35  = tan-1 0.22 นั่นคือ แรงลัพธ์มีขนาด 2.8 นิวตัน ทามุม = tan-1 0.22 และอนุภาคนี้จะเคลื่อนที่ไปตามทิศของ แรลัพธ์ ตัวอย่าง 3 รถยนต์คันหนึ่งแล่นไปบนถนโค้งด้วยอัตราคงที่ ถามว่าสภาพการเคลื่อนที่ของรถคันนี้เปลี่ยน ไปหรือไม่ วิธีทา
  • 5. แม้ว่ารถยนต์จะแล่นด้วยอัตราเร็วคงที่ แต่ทิศทาวการเคลิอนที่เปลี่ยนไปตามความโค้งของถนนทาให้ ความเร็วเปลี่ยนไปการที่ความเร็วเปลี่ยนไปทาให้เกิดความเร่ง เมื่อมีความเร่งสภาพการเคลื่อนที่ของรถยนต์ ต้องเปลี่ยนไป นั่นคือ สภาพการเคลื่อนที่ของรถยนต์เปลี่ยนไป 3.3 กฎการเคลื่อนที่ข้อหนึ่งของนิวตันหรือกฎความเฉื่อย กฎข้อ 1 “วัตถุจะรักษาสภาพอยู่นิ่งหรือสภาพเคลื่อนที่อย่างสม่่าเสมอในแนวเส้นตรง นอกจากจะมีแรง ลัพธ์ที่ค่าไม่เป็นศูนย์มากระท่า”   หรือ v = 0 หรือคงที่ เมื่อ  F = 0 กฎข้อที่ 1 นี้กล่าวได้อีกอย่างว่า วัตถุจะ ไม่เปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ถ้าแรงลัพธ์เป็นศูนย์ ดังรูป   3.4 กล่องถูกแรง F 1 และ F 2 กระทาในทิศทางตรงข้ามกัน ถ้าวัตถุอยู่นิ่งหรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่   แสดงวาขนาดของ F 1 ต้องเท่ากับขนาดของ F 2 หรือแรงลัพธ์ที่กระทาต่อกล่องมีค่าเป็นศูนย์ รูป 3.4  ตัวอย่าง 4 จากรูป เครื่องบิน ไอพ่นเคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงที่ a ปรากฏกับสายตาของชาย ก ซึ่งยืนนิ่งอยู่กับ  ที่ ชาย ข วิ่งด้วยความเร็วคงที่ V เขาจะเห็นเครื่องบินไอพ่นเคลื่อนที่ด้วยความเร่งเท่าไร
  • 6.  วิธีท่า สมมติว่า ขณะเวลา t1 เครื่องบินไอพ่นมีความเร็ว V และขณะ t2 มีความเร็ว V 2 บินมาอยู่ตรง  ตาแหน่ง A และ B ตามลาดับ ความเร่งที่ปรากฏตอชาย ก เท่ากับ a ตามที่โจทย์กาหนดและสามารถคานวณ ได้ว่า    v 2  v1 a = ……………(1) t 2  t1    ให้ a  เป็นความเร่วของเครื่องบินไอพ่นที่ปรากฏต่อชาย ข ให้ v  1 และ v  2 เป็นความเร็วของ เคลื่อนบินไอพ่นที่ปรากฏต่อชาย ข ณ เวลา t1 และ t2 ตามลาดับ โดยอาศัยหลักเกณฑ์ของความเร็วสัมพันธ์    จะได้ v  1= v  1- v …………(2)    v  2= v  2- v …………(3)  ดังนั้นเราสามารถคานวณ a  ได้ดังนี้    v2  v2 a = t 2  t1    ( v 2  v )  ( v1  v = t 2  t1   v 2  v1 = …………..(4) t 2  t1   จากสมการ (1) และ (4) จะเห็นว่า a  = a แสดงว่า ถ้าผู้สังเกตมีสภาพการเคลื่อนที่ไม่ เปลี่ยนแปลง หมายถึงผู้สังเกตที่อยู่นิ่งและมีความเร็วคงที่ เขาจะสามารถเห็นการเคลื่อนที่ของวัตถุที่เคลิอนที่ ด้วยความเร่งได้เหมือนกัน จากตัวอย่างนี้จะยืนยันว่ากฎการเคลื่อนที่ของนิวตันจะเป็นจริงถ้าผู้สังเกตมีสภาพ การเคลื่อนที่ไม่เปลี่ยนแปลง  นั่นคือ ชาย ข เห็นเครื่องบินไอพ่นมีความเร่งเท่ากับ a
  • 7. ตัวอย่าง 5 ขณะที่คนกาลังกระโดดจากสะพานลงสู่แม่น้า ดังรูป แรงลัพธ์ที่กระทากับคนมีค่าเป็นศูนย์ หรือไม่ วิธีทา ขณะที่คนกระโดดลงจากสะพาน จะมีแรงกระทาอย่างน้อยสองแรง คือ แรงดึงดูดของโลก  มีค่ามาก มีทิศพุ่งลงแนวดิ่ง แรงต้านทานอากาศ  มีค่าน้อย มีทิศพุ่งแนวดิ่ง แรงทั้งสองเมื่อรวมกันทาให้เกิดแรงลัพธ์กระทาในทิศทางพุ่งลงแนวดิ่ง ทาให้คนตกสู่ แม่น้า นั่นคือ แรงลัพธ์กระทากับคนมีค่าไม่เป็นศูนย์ ตัวอย่าง 6 จากรูป กล่องวางทับผ้าบนพื้นราบ เมื่อเรากระตุกผ้าแรง ๆ อย่างเร็ว เราจะสามารถดึงผ้าออกมาได้ ทันที่กล่องไม่เคลื่อนที่หรือเคลื่อนน้อยมาก เป็นเพราะอะไร
  • 8. วิธีทา ตามกฎการเคลื่อนที่ข้อที่หนึ่งของนิวตันหรือกฎความเฉื่อย เราสามารถขยายความต่อไปได้ว่า เมื่อ   F = 0 วัตถุที่อยู่นิ่งจะยังอยู่นิ่งต่อไป และวัตถุที่มีความเร็วคงที่ก็จะมีความเร็วคงที่ต่อไป ดังนั้น การที่เรา กระตุกผ้าออกมาจากการทับของผ้ากล่องได้เพราะกล่องกาลังอยู่ นิ่ง มันจึงอยากอยู่นิ่งต่อไปเมื่อผ้าถูกซัก ออกมาแล้วบางครั้งกล่องอาจไม่ขยับหรือขยับน้อยมาก 3.4 มวล มวล (mass) คือ ปริมาณเนื้อธาตุของวัตถุหรือสาร เป็นปริมาณรสเกลาร์ มีหน่วยเป็นกิโลกรัม (kg) มวลมีสมบัติในการต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ การเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ หมายถึง การที่ วัตถุมีความเร็วเปลี่ยนไป ดังที่กล่าวมาแล้ว กรณีที่วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงี่ไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยน สภาพการเคลื่อนที่ เราสามารถสังเกตเห็นสมบัติในการต้านทานการเปลี่ยนสภาพการเคลือนที่ของมวลได้ จากรูป 3.5 ในการผลักมวลที่แขวนห้อยอยู่ด้วยเชือก เราจะรู้สึกว่าผลักมวล 100 กิโลกรัม ให้ขยับได้ง่ายกว่า มวล 300 กิโลกรัม แสดงว่า มวลน้อยจะต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่น้อยกว่ามวลมาก รูป 3.5 สมบัติในการต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ของมวลเรียกว่า ความเฉื่อย ดังนั้น จึงสามารถ กล่าวได้ว่า วัตถุที่มวลน้อยจะมีความเฉื่อยน้อย วัตถุที่มีมวลมากจะมีความเฉื่อยมาก มวลจะมีค่าคงที่เสมอ ในกรณีนี้หมายความว่า ถ้าเรามีมวล 100 กิโลกรัม ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ๆ เช่น บนผิวโลก บนผิวดวงจันทร์ หรือที่ใดๆ ในเอกภพนี้ มันก็จะมีมวล 100 กิโลกรัม ไม่เปลี่ยนแปลง
  • 9. 3.5 กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน กฎข้อ 2 “เมื่อมีแรงลัพธ์ซึ่งมีขนาดไม่เป็นศูนย์มากระท่าต่อวัตถุ จะท่าให้วัตถุเกิดความเร่งในทิศเดียวกับ แรงลัพธ์ที่มากระท่าและขนาดของความเร่งนี้จะแปลผันตรงกับขนาดของแรงลัพธ์และแปลผกผันกับมวล ของวัตถุ ในกฎข้อที่ 2 คาว่าแรงลัพธ์จะพูดถึงแรงภายนอกที่กระทาวัตถุ หากพิจารณากฎข้อที่ 2 จะเห็น  ได้ว่าเราสามารถสรุปได้เป็นสมการสั้นๆ โดยถ้า  F เป็นแรงลัพธ์ที่กระทาต่อมวล m แล้วทาให้มวลมี  ความเร่วคงที่ a ดังรูป 3.6 จะได้    F = ma โดยทิศทางของแรงลัพธ์และความเร่งของมวลจะไปทิศทางเดียวกัน รูป 3.6 จากสมการ (3.1 ) ถ้า m เท่ากับ 1 กิโลกรัม a เท่ากับ 1 เมตรต่อวินาที2 จะได้แรง  F เท่ากับ 1 นิวตัน ดังนั้นแรง 1 นิวตัน หมายถึง แรงที่สามารถทาให้วัตถุมีมวล 1 กิโลกรัมเคลื่อนที่ไปด้วยความเร่ง 1 เมตรต่อวินาที2     ตัวอย่าง 7 มวล m ขนาด 10 กิโลเมตร มีแรง F 1 และ F 2 กระทาดังรูป ถ้าขนาดของ F 1 และ F 2 มีค่า 10 และ 20 นิวตันตามลาดับ จงหาขนาดและทิศทางความเร่งของมวล m
  • 10. วิธีทา ตามกฎการเคลื่อนที่ข้อสองของนิวตันจะได้    F = ma    F 1+ F 2 = m a (+10)+(-20) = (10)a 2  a = -1 m/s       เครื่องหมายของ a ในที่นี้หมายถึง a และ F 2 มีทิศเดียวกัน เพราะตอนแทนค่า F 1 และ F 2 เราแทนแรง F 1   ด้วย +10 เพราะพุ่งไปทางขวา แทนแรง F 2 ด้วย –20 เพราะพุ่งไปทางซ้าย ดังนั้น a มีทิศพุ่งไปทางซ้าย นั่นคือ ความเร่งของมวล m เท่ากับ 1 เมตรต่อวินาที 2 พุ่งไปทางซ้าย ตัวอย่าง 8 เด็กคนหนึ่งรากแคร่บนพื้นราบลื่นด้วยเชือกเบา เอียงทามุม 15 องศากับแนวราบ ดังรูป ถ้าแคร่มี มวล 20 กิโลกรัม และเด็กคนนี้ต้องออกแรงดึง 10 นิวตัน อยากทราบว่าแคร่จะเคลื่อนไปด้วยความเร่งเท่าไร วิธีทา  จากรูป เราแตกแรง F ( ซึ่งสมมติว่าเป็นแรงที่เด็กคนนั้นใช้ดึง) ให้ออกเป็น 2 แนว คือ แนวราบและแนวดิ่ง  แนวราบ  อยู่ในแนวเคลื่อนที่ คือ F cos 15  แนวดิ่ง  อยู่ในแนวตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ คือ F sin 15 แรงในดิ่งไม่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของแคร่ในแนวราบ สมมติแคร่เคลื่อนที่ไปในแนวราบด้วย  ความเร่ง a ตามกฎข้อสองของนิวตัน จะได้    F = ma   F cos 15 = m a
  • 11. a= F cos 15 = (10 )( 0 . 966 ) = 0.48 m/s2 m 20 นั่นคือ แคร่จะเคลื่อนที่ไปด้วยความเร่ง 0.48 เมตรต่อวินาที2  ตัวอย่าง 9 อนุภาคมวล m ขนาด 5.2 กิโลกรัม ถูกแรงสองแรงดึงในทิศทางที่ตั้งฉากกัน ดังรูป แรง F1  และ F 2 มีขนาด 3.7 และ 4.3 นิวตัน ตามลาดับ จงหาขนาดและทิศทางของความเร่งของอนุภาค วิธีทา    หา  F  F เป็นแรงลัพธ์ที่กระทากับอนุภาคมวล m เราสามารถหา  F ได้โดยรวม   แรง  F 1 และ  F 2 แบบเวกเตอร์    เขียนแบบเวกเตอร์ :  F = F 1+ F 2 เขียนแบบสเกลาร์ :  F = 2 F F 1 2 2 F =  ( 4 . 3 ) = 5.7 N 2 2  (3 .7 )   จากรูป ถ้าจะหา  ซึ่งเป็นมุมที่แรงลัพธ์  F จะทากับ F 2 จะได้ tan  = F1 = 3 .7 = 0.86 F2 4 .3  = tan-1 0.86 = 40.7   หา a a เป็นความเร่งของอนุภาค เราสามารถหาได้โดยใช้กฎข้อสองของนิวตัน   จาก  F = m a  5.7 = (5.2)a  a = 1.1 m/s2 และมีทิศเดียวกับ  F  นั่นคือ ความเร่งของอนุภาคมีขนาด 1.1 เมตรต่อวินาที 2 ทามุม tan-1 0.86 กับ F 2
  • 12.  ตัวอย่าง 10 ออกแรง F ลากวัตถุ m ไปในแนวราบ ทาให้มวลมีความเร่งสม่าเสมอ ได้ทดลองเพิ่มขนาดของ    ของแง F พบว่าแรง F มีความสัมพันธ์กับความเร่ง a ของมวล m ตามกราฟที่กาหนดให้ จงคานวณของวัตถุ ก้อนนี้ วิธีทา จากกราฟที่โจทย์กาหนดให้ จะเห็นว่าขนาดออกแรงวัตถุ 5 N วัตถุมีความเร่งเป็นศูนย์ แสดงว่าวัตถุ ยังไม่เคลื่อนที่ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากการที่วัตถุวางบนพื้นฝืด การจะให้วัตถุเคลื่อนที่ต้องออกแรงเพื่อให้ชนะ ความฝืดเสียก่อน   จากกฎข้อสองของนิวตัน  F = m a ถ้าเรานา  F มาเขียนกราฟกับความเร่ง a เราจะได้ กราฟเส้นตรงโดยมีความชันเท่ากับมวล m ดังนั้นการหามวลของวัตถุข้อนี้จึงสามารถหาได้จากความชันของ เส้นกราฟ m = ความชันของเส้นกราฟ 20  5 =  15  1 . 25 kg 12  0 12 นั่นคือ วัตถุก้อนนี้มีมวล 1.25 กิโลกรัม 3.6 นาหนัก เราทราบว่าถ้าปล่อยวัตถุมวล m ให้ตกอย่างเสรีบริเวณผิวโลก มันจ ะตกด้วยความเร่งคงที่  g ( g  9 . 8 เมตรต่อวิน าทที) โดยไม่คิดแรงต้านทานของอากาศ เมื่อมวลที่ตกมีความเร้งจึงต้องเกิดแรงลัพธ์ตาม กฎข้อสองของนิวตัน และมีค่า   F  mg  เรานิยามน้าหนักว่า แรงที่โลกดึงดูดวั ตถุ ดังนั้นขณะที่วัตถุตกอย่างเสรีซึ่งมีแรง  F กระทา   เราดึงแล้วปล่อย  F คือแรงที่โลกดึงดูดวัตถุมวล m ถ้า W เป็นน้าหนักของวัตถุมวล m ก้อนนี้ เราจะได้ ( ดู รูป 3.7 ประกอบ )   W  mg
  • 13. รูป 3.7 ดังนั้นน้าหนักของวัตถุจึงเป็นปริมาณเวกเตอร์ มีหน่วยเหมือนแรงคือ นิวตัน น้าหนักของวัตถุ  ก้อนเดียวกันอาจเปลี่ยนไปถ้า g เปลี่ยนไป เช่น มนุษย์อากาศเมื่ออยู่บนพื้นโลกอาจมีน้าหนัก 700 นิวตัน แต่  เมื่ออยู่ในยานกระสวยอากาศที่โคจรรอบโลกอยู่สูงจากผิวโลกมากจนค่า g ใกล้เคียงศูนย์ มนุษย์อากาศคนนี้ จะอยู่ในสภาพที่น้าหนักเป็นศูนย์หรือไร้น้าหนัก ดังรูป 3.8 รูป 3.8 ตัวอย่าง 11 นายสมชายมีมวล 60 กิโลกรัม ถ้านายสมชาย อยู่ ที่ผิวโลกและดวงจันทร์ นายส มชายจะมี น้าหนักอย่างไรถ้าอัตราเร่งโน้มถ่วงที่ผิวโลกเป็น 6 เท่าของที่ผิวดวงจันทร์ วิธีทา ที่ผิวโลก: จากW = mg Wล = (60)(10) = 600  10  ที่ผิวดวงจันทร์ W จ  ( 60 )    100 N  6  นั่นคือ ที่ผิวโลกและที่ผิดวงจันทร์นายสมชายจะหนัก 600 และ 100 นิวตัน ตัวอย่าง 12 จากรูป เครื่องชั่งน้าหนักที่แม่ค้าใช้กาลังชั่งทุเรียนลูกหนึ่งเข็มชี้ที่ 1.5 กิโลกรัมพอดี แสดงว่า ทุเรียนลูกนี้หนัก 1.5 กิโลกรัม หมายความว่าอย่างไร
  • 14. วิธีทา เครื่องชั่งน้าหนักที่แม่ค้าใช้ เป็นเครื่องชั่งที่ใช้น้าหนักของมวลมาตรฐาน 1 Kg มาเปรียบเทียบแล้ว และกาหนดให้ชั่งน้าหนักเป็นกิโลกรัม โดย 1 Kg จะหมายถึง วัตถุหนักเป็น 1 เท่าชองน้าหนักมาตรฐาน 2 Kg จะหมายถึง วัตถุหนักเป็น 2 เท่าชองน้าหนักมาตรฐาน นั่นคือ ถ้าทุเรียนหนัก 1.5 กิโลกรัม กรณีนี้จึงหมายความว่า ทุเรียนมีน้าหนักเป็น 1.5 เท่าของน้าหนัก มาตรฐาน 3.7 กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน นิวตันเสนอกฎแรงดึงดูดระหว่างมวลได้ว่า "วัตถุทั่งหลายในเอกภพจะออกแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน โดยขนาดของแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่ ง ๆจะ แปรผันตรงกับผลคูณระหว่างมวลวัตถุที่สองและจะแปรผกผันกับกาลังสองชองระยะทางระหว่างวัตถุทั้ง สองนั่น" รูป 3.9 ตามกฎแรงดึงดูดระหว่างมวลที่นิวตันเสนอ พิจารณาจากรูป 3.9 เราจะสามารถเขียนได้ว่า FG  Gm 1m 2 2 …………. ( 3-3 ) R เมื่อ m1 และ m2 เป็นมวลของวัตถุแต่ละก้อน มีหน่วยเป็น กิโลกรัม R เป็นระยะระหว่างมวล m1 กับm2 มีหน่วยเป็น เมตร G เป็นค่าคงตัวความโน้มถ่วงสากล เท่ากับ 6.673  10-11 นิวตัน – เมตรต่อกิโลกรัม2 FG เป็นแรงดึงดูดระหว่างมวล m1 กับm2 มีหน่วยเป็น นิวตัน แรง FG ตามกฎของนิวตันมีความหมายว่า เป็นแรงดูดอย่างเดียวไม่มีแรงผลัก และเป็นแรง กระทาร่วม กล่าวคือมวล m1 และ m2 ต่างฝ่ายต่างดูดซึ่งกันcละกันด้วยแรงขนาด ตามสมการ (3-3 )แต่ ทิศทางตรงข้ามกัน ไม่มีใครดูดใครมากกว่าใคร
  • 15. ก. มวลของโลก รูป 3.10 จากรูป 3.10 วัตถุมวล m อยู่ที่ผิวโลกซึ่งมีมวล me มีรัศมี Re วัตถุและโลกต่างดูดซึ่งกันและกัน ด้วยแรง Fe มีค่าเป็น FG  Gm e m 2 ………..(3-4 ) R e แรงที่วัตถุและโลกต่างดูดซึ่งกันและกันนี้แท้จริงคือน้าหนักของวัตถุนั่นเอง ดังนั้นถ้า g เป็น อัตราเร่งโน้มถ่วงที่ผิวโลกจากสมการ (3-4) จะเขียนใหม่ได้เป็น Gm e m mg  2 ………..(3-5 ) R e 2 me  gR e ………..(3-6 ) G สมการ 3-6 เป็นสมการที่แสดงค่ามวลของโลก ซึ่วถ้าททราบรัศมีของโลกเราจะสามารถ คานวณมวลของโลกได้สมมติถ้ารัศมีของลกเท่ากับ 6.38 102 เมตร จะได้มวลของโลก meเท่ากับ 6 2 ( 9 . 8 )( 6 . 3  10 ) me =  11 6 . 67  10  me = 5.98  10 4 kg ……(3-7 ) ข.ความเร่งเนื่องจากความโน้มถ่วง ณ ตาแหน่งห่างจากโลก ในการพิจารณามวล ของโลก เราจะไม่ได้สมการ(3-5) ถ้าเราตัดมวล m ทั้งสองข้างจะได้ g = Gm e 2 ………….(3-8 ) Re จากสมการ (3-8) จะเห็นว่า ค่า g ซึ่งเป็นค่าความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วง จะมีค่าขึ้นกับรัศมี โลก Re หรืออาจกล่าวให้ชัดเจนขึ้นว่า g ขึ้นกับระยะทางห่างจากโลกออกไป กล่าวคือ g จากเมื่อระยะทาง น้อย และ g จะน้อยเมื่อระยะทางงมาก หรือกล่าวสรุปว่า g แปรผันกับระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของโลกยก กาลังสอง
  • 16. ค. ความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วง ณ ตาแหน่งลึกลงไปใต้ผิวโลก ในกรณีที่ พิจารณา g ที่ตาแหน่งลึกลงไปใต้ผิวโลกจะพบว่า g แปรผันโดยตรงกับระยะจากศูนย์กลางของโลกถึง ตาแหน่งที่พิจารณา และมีค่าเป็นศูนย์ที่จุดศูนย์กลางของโลก โดยจะได้ g = 4 G  R ………….(3-9 ) 3 เมื่อ  เป็นความหนาแน่นของโลก และ R เป็นระยะจากศูนย์กลางโลกถึงตาแหน่งพิจารณา *************************************************************************************