Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
Similar a ความสัมพันธ์กับอาณาจักรต่างๆในสมัยสุโขทัย อยุธยา (20)
Más de Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand (20)
ความสัมพันธ์กับอาณาจักรต่างๆในสมัยสุโขทัย อยุธยา
- 2. ความสัมพันธ์กับอาณาจักรต่างๆ ในสมัยสุโขทัย
อาณาจักรล้านนา
ในปี พ.ศ. 1839 พญามังราย(พ.ศ. 1804 - 1854) ได้มีคาสั่งให้สร้าง
เมืองใหม่ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า นภบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ (เชียงใหม่)เพื่อที่จะเป็น
เมืองหลวงแห่งใหม่ของอาณาจักรล้านนา ครั้งนั้นพ่อขุนรามคาแหง-มหาราช
และพญางาเมือง ได้เสด็จมาช่วยด้วย
- 3. อาณาจักรนครศรีธรรมราช
สั น นิ ษ ฐานว่ า น่ า จะเริ่ ม ในสมั ย พ่ อ ขุ น รามค าแหงมหาราช ซึ่ ง เป็ น
ลักษณะขยายอิทธิพลลงไปปกครองในฐานะเมืองประเทศราช และได้โปรด
ให้นิมนต์พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา นิกายเถรวารลัทธิลังกาวงศ์จากเมือง
นครศรีธรรมราชมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ สุโขทัย ทาให้พระพุทธศาสนา
นิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ประดิษฐานอย่างมั่นคงในสุโขทัยนับแต่นั้นมา
- 4. อาณาจักรลังกา
สมเด็จ พระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุ นีนัดดาของพ่อขุนผาเมือง
ในศิลาจารึกสุโขทัยกล่าวว่าเคยเสด็จไปลังกา แล้วกลับมาสร้างพระธาตุ
ตามเมืองต่างๆรวมทั้งบูรณะวัดวาอารามต่างๆ
ความสัมพันธ์กับลังกาโดยผ่านเมืองสาคัญ คือ นครศรีธรรมราชทาให้
เกิดสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆ เช่น พระอัฎฐารศ และพระสถูปทรงลังกา รวมถึงการ
สร้างเจดีย์ช้างล้อม
- 5. การสร้างพระบรมธาตุขึ้นกลางเมืองสุโขทัย คงอยู่ราวสมัยของ
พ่อขุนศรีนาวนาถม เนื่องจากในจารึกหลักที่ 2 ระบุว่า พระองค์ได้สร้าง
พระธาตุขึ้นที่ สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และสระหลวงสองแคว
การสร้างพระพุทธบาท เขาพระบาทใหญ่ สมัยพระมหาธรรมราชาลิไท
โปรดให้ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทตามเมืองสาคัญ 4 เมือง ที่เขา
พระบาทใหญ่ หรือเขาสุมนกูฏ ตามศิลาจารึกกล่าวว่า พระองค์โปรดให้
ไปจาลองมาจากเขาสุมนกูฏ เมืองลังกา แต่ที่เห็นชัดเจนคือ มีลักษณะทาง
ศิลปะคล้ายคลึงกับที่พุกาม (รวมถึงสัญลักษณ์มงคล 108) ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า
ทรงให้ไปคัดลอกจากเมืองพุกาม
- 6. จักรวรรดิมองโกล
กองทั พ จั ก รวรรดิ ม องโกลแผ่ แ สนยานุ ภ าพโดดเด่ น ที่ สุ ด เป็ น ช่ ว ง
เดียวกับการตั้งกรุงสุโขทัย ในปี พ.ศ. 1800 (ค.ศ. 1257) ซึ่งเป็นอาณาจักร
ของตนอย่ า งแท้ จ ริ ง เป็ น ครั้ ง แรก หลั ก ฐานส าคั ญ ในมิ ไ ด้ บั ง คั บ ให้
เป็ น ไปตามนี้ ซึ่ ง จะเห็ น ได้ ว่ า พ่ อ ขุ น รามค าแหงก็ มิ ไ ด้ ป ฏิ บั ติ ต ามแต่
ประการใด พงศาวดารหงวนฉบับเก่า เล่มที่ 18 กุบไลข่านได้ส่งคณะทูต
ชุ ด ที่ ส า ม ม า สุ โ ข ทั ย โ ด ย ไ ด้ อั ญ เ ชิ ญ พ ร ะ บ ร ม ร า ช โ อ ง ก า ร ใ ห้
พ่อขุนรามคาแหงเสด็จไปเฝ้า หากมีเหตุขัดข้องให้ส่งโอรสหรือพระอนุชา
และอามาตย์ผู้ใหญ่เป็นตัวประกัน ซึ่งปรากฏว่าพ่อขุนรามคาแหงก็มิได้
ปฏิบัติตาม แต่ส่งคณะทูตนาเครื่องราชบรรณาการไปแทน
- 7. อาณาจักรอยุธยา
หลั ง จากมี ก ารก่ อ ตั้ ง กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยา แรกนั้ น สุ โ ขทั ย และอยุ ธ ยา
ไม่ ไ ด้ เ ป็ น ไมตรี ต่ อ กั น แต่ ด้ ว ยชั ย ภู มิ ที่ เ หมาะสมกว่ า ท าให้ อ ยุ ธ ยา
เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ประกอบกับปัญหาการเมืองภายในของสุโขทัย
มิได้เป็นไปโดยสงบ มีการแย่งชิงราชสมบัติกันระหว่าง พระยาบาลเมือง
พระยาราม ยั ง ผลให้ อ ยุ ธ ยาสบโอกาสเข้ า แทรกแซงกิ จ การภายใน
ในรั ช กาลนี้ มี ก ารรั บ ไมตรี จ ากอยุ ธ ยาโดยการสมรสระหว่ า งราชวงศ์
พระร่วง กับราชวงศ์สุพรรณภูมิโดยมีพระราเมศวร ซึ่งต่อมาคือ สมเด็จ-
พระบรมไตรโลกนาถ
- 8. จีน
เครื่องปั้นดินเผาเคลือบและเครื่องปั้นดินเผาแบบแกร่ง พบตั้งแต่
สมัยทวารวดี มีทั้งการนาเข้ามาโดยการแลกเปลี่ยนสินค้ากับทางเมืองจีน และ
การน าเอาเทคโนโลยี ใ นการท าเครื่ อ งปั้ น ดิ น เผาน าเข้ า มาสร้ า งเตาผลิ ต เอง
ในประเทศ
ที่เมืองดงแม่นางเมือง เขตอาเภอบรรพตพิสัย ไม่พบเศษภาชนะดินเผา
แต่พบเศษภาชนะเคลือบแบบลพบุรีและจีน แสดงให้เห็นว่า ความเจริญ
ทางเทคโนโลยีในการผลิตเครื่องปั้นดินเผาเคลือบมีมาก่อนการเกิดเตาในสุโขทัย
และศรีสัชนาลัย นอกจากนี้ยังมีการติดต่อค้าขายกับจีน เศษภาชนะดินเผาเคลือบ
ที่พบเป็นของจีนสมัยราชวงศ์ซ้องลงมา แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
กับจีน ซึ่งนาไปสู่การรับเทคโนโลยีในการทาภาชนะมาใช้ในสมัยต่อมา
- 10. ความสัมพันธ์กับสุโขทัย
ความสัมพันธ์กับรัฐที่อยู่ใกล้เคียง
สุโขทัย
มลายู ล้ านนา
ญวน พม่า
ล้ านช้ าง มอญ
เขมร
- 11. ในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1(อู่ทอง) แห่งกรุงศรีอยุธยาได้ยก
กองทั พ ไปยึ ด เมื อ งชั ย นาทจากอาณาจั ก รสุ โ ขทั ย ไว้ ไ ด้ ซึ่ ง ตรงกั บ รั ช สมั ย
พระมหาธรรมราชาลิไทแห่งสุโขทัยสุโขทัยได้ส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวาย
พระเจ้าอู่ทอง เพื่อขอเมืองชัยนาทคืน พระเจ้าอู่ทองจึงคืนเมืองชัยนาทกลับคืน
ให้กับสุโขทัยตามเดิมสุโขทัยจึงต้องยอมรับเป็นไมตรีกับกรุงศรีอยุธยา
ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถอาณาจักรสุโขทัยเกิดการจลาจล
เพราะล้ า นนาเข้ า มาตี เ มื อ งพิ ษ ณุ โ ลกแต่ ตี ไ ม่ ไ ด้ จึ ง ไปตี เ มื อ งก าแพงเพชร
กรุงศรีอยุธยาจึงมาช่วยป้องกันเมืองไว้ได้และพระบรมไตรโลกนาถจึงมาประทับ
อยู่ที่พิษณุโลก และให้พระบรมราชาธิราชที่ 2 ราชโอรสปกครองกรุงศรีอยุธยา
ต่อมาพระบรมไตรโลกนาถเจริญสัมพันธไมตรีกับล้านนาทาให้สงครามยุติและ
สุโขทัยจึงรวมเป็นอาณาจักรเดียวกับกรุงศรีอยุธยา
- 12. ความสัมพันธ์กับอาณาจักรสุโขทัย
• ประสานประโยชน์
• เผชิญหน้าทางด้านการทหาร
• ใช้นโยบายสร้างความสัมพันธ์ทางเครือญาติ
• สุโขทัยเคยเป็นเมืองประเทศราชของอยุธยา
• สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ รวมสุโขทัยกับอยุธยาเข้าด้วยกัน
- 14. ความสัมพันธ์กับพม่า
พม่ายกทัพมาตีไทยถึง 24 ครั้ง โดยสาเหตุของสงครามส่วนใหญ่มีดังนี้
1. เกิ ด ปั ญ หาเกี่ ย วกั บ หั ว เมื อ งชายแดนที่ พ ม่ า ต้ อ งการยึ ด ให้ ไ ด้
เพื่อขยายอานาจมายังอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา
2. ไทยกั บ พม่ า ในสมั ย กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยามี อ านาจเท่ า เที ย มกั น
จนกลายเป็ น คู่ แ ข่ ง ทางการเมื อ งและเศรษฐกิ จ โดยมี ค วามสั ม พั น ธ์ ด้ า น
สงครามไทยกับพม่าดังนี้
- สงครามครั้ ง แรกก็ คื อ ศึ ก เชี ย งกราน พ .ศ.2081 ในสมั ย
พระไชยราชาธิ ร าช กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยาเสี ย เอกราชครั้ ง แรกแก่ พ ม่ า ในปี
พ.ศ.2112 ในสมัยพระเจ้ามหินทราธิราช
- 15. - สงครามสมเด็ จ พระศรี สุ ริ โ ยทั ย ถู ก พระเจ้ า แปรฟั น คอขาด
บนคอช้า ง เนื่องจากพระองค์ไสช้างไปขวางพระเจ้ าแปร ไม่ให้ ตาม
พระมหาจักรพรรดิทัน
- สมเด็ จพระนเรศวรมหาราช ทรงกอบกู้ เ อกราชของไทยได้ ใ น
ปี พ.ศ.2127 และปี 2135 พระนเรศวรมหาราชทรง ทายุทธหัตถีกับ
พระมหาอุ ปราชของพม่ าจนได้ ชัย ชนะ-ในปี พ .ศ.2310 ไทยเสี ยกรุ ง
ให้พม่าครั้งที่ 2ในสมัยพระเจ้าเอกทัศ
- 18. ความสัมพันธ์กับอาณาจักรล้านนา
ใน พ.ศ. 1893 กรุงศรีอยุธยาเริ่มขยายอานาจออกไปยังบริเวณที่อยู่
รอบนอก เพื่ อ ความมั่ น คงของกรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยาและในปี พ .ศ.1929 สมเด็ จ
พระบรมราชาธิ ร าชที่ 1(ขุ น หลวงพะงั่ ว ) ทรงเป็ น พระมหากษั ต ริ ย์
กรุงศรีอยุธยาองค์แรกที่ไปตีเชียงใหม่แต่ไม่สาเร็จ
หลังสงคราม พ.ศ.1929 แล้วกรุงศรีอยุธยาได้ทาสงครามกับ
ล้านนาอีกหลายครั้ง สงครามได้ดาเนินไประหว่าง พ.ศ.2003-
2017 จึงยุติลงและทั้งสองฝ่ายเป็นไมตรีต่อกันพ.ศ.2050
ล้านนายกทัพไปรุกรานหัวเมืองฝ่ายเหนือของกรุงศรีอยุธยา
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 จึงยกทัพไปตีลาปาง
- 29. ความสัมพันธ์กับหัวเมืองมลายู
มีความสัมพันธ์
เมืองสาคัญ คือ ปัตตานี ไทรบุรี
ทางด้านการค้าต่อกัน
กลันตัน ตรังกานู มะละกา
อยุธยาสัมพันธ์กับมลายู อยุธยาเคยส่งกองทัพ
ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ไปตีมะละกา
- 45. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยกรุงธนบุรี
1. ความสัมพันธ์กับพม่า
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่าในสมัยกรุงธนบุรี จะปรากฎในรูป
ของความขัดแย้ง การทาสงคราม โดยไทยเป็น ฝ่ายตั้งรับการรุกรานของพม่า
หลังจากได้รักเอกราช ต้องทาสงครามกับพม่าถึง 9 ครั้ง ส่วนใหญ่พม่าเป็น
ฝ่ายปราชัย
ครั้งสาคัญที่สุด คือ ศึกอะแซหวุ่นกี้ตีเมืองเหนือ พ.ศ.2318 ครั้งนั้น
เจ้าพระยาจักรี (รัชกาลที่ 1) และเจ้าพระยาสุรสีห์ สองพี่น้องได้ร่วมกัน
ป้องกันเมืองพิษณุโลกอย่างสุดความสามารถ แต่พม่ามีกาลังไพร่พลเหนือกว่า
จึงตีหักเอาเมืองได้
- 46. 2.ความสัมพันธ์กับกัมพูชา
เขมรเคยเป็นประเทศราชของไทยมาแต่สมัยอยุธยา หลังจากกรุงศรี
อยุธยาเสี ยแก่พ ม่าในปี พ.ศ.2310แล้ วพระเจ้าตากสิ นกู้เอกราชได้สาเร็ จ
ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์เขมรไม่ยอมส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวาย
อ้างว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไม่ใช่เชื้อพระวงศ์พระเจ้าแผ่นดินกรุงศรี
อยุธยา สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้พระยาอภัยรณฤทธิ์ (ทองด้วง)
และพระยาอนุชิตราชา (บุญมา) นาทัพไปตีเขมรใน พ.ศ.2312 แต่ไม่สาเร็จ
เพราะเขมรแกล้งปล่อยข่าวว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จสวรรคต
พระยาอภัยรณฤทธิ์และพระยาอนุชิตราชาจึงยกทัพกลับ ต่อมาปี พ.ศ.2314
โปรดให้พระยาจักรียกทัพไปตีเขมรอีก และได้เขมรกลับมาเป็นประเทศราช
ของไทย
- 47. 3. ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาว
ไทยทาสงครามขยายอาณาเขตไปถึงลาว 2 ครั้ง คือ ตีเมืองจาปาศักดิ์
และตีเมืองเวียงจันทร์ครั้งหลัง ไทยได้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางมายัง
ไทย โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
- 48. ล้านนา
ไทยพยายามขับไล่พม่าออกไปจากล้านนาได้สาเร็จ แต่ไม่สามารถรักษา
ล้านนาไว้ได้ เพราะเมื่อทัพกรุงธนบุรีออกจากล้านนา ทัพพม่าก็เข้ามาคุกคาม
ล้านนาอีก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชคงทรงพิจารณาเห็นว่าล้านนาเป็นเมือง
ซึ่งพม่าใช้เป็นฐานทัพเสมอ ทุกครั้งที่พม่ายกทัพมาตีเมืองไทย ทุกครั้งที่พม่ามารบ
ไทย ก็ใช้ล้านนาเป็นคลังเสบียงอาหาร จึงต้องทรงยกทัพไปตีเชียงใหม่ ในปี
พ.ศ. 2317 หลังจากนั้นล้านนาก็เป็นอิสระ โดยมีกรุงธนบุรีคุ้มกันอยู่
- 49. มลายู
หั ว เมื อ งได้ แ ก่ ปั ต ตานี ไทรบุ รี กลั น ตั น และ ตรั ง กานู เคยเป็ น
เมืองขึ้นของไทยมาตลอด เพิ่งมาแยกตัวเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก เมื่อปี
พ.ศ. 2310 ส่วนเมืองปัตตานี และ ไทรบุรี ในตอนต้นสมัยกรุงธนบุรีนั้น ยัง
สวามิภักดิ์อยู่ มาแข็งข้อทีหลัง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตีได้เมือง
นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง แต่มิได้ยกทัพไปตีเมืองมลายู มีแต่คิดอุบายให้
เจ้าพระยานครศรีธรรมราชไปยืมเงินเมืองปัตตานี และไทรบุรี สาหรับที่จะซื้อ
เครื่องศัตราวุธเมืองละ 1,000 ชั่ง เพื่อหยั่งท่าทีพระยาไทรบุรี และ พระยา
ปัตตานี ดูว่าจะทาประการใด แต่ทั้งสองเมืองไม่ยอมให้ขอยืม สมเด็จพระเจ้า
ตากสินก็มิได้ทรงยกทัพไปตี เพราะทรงพิจารณาเห็นว่า ขณะนั้นเป็นการเกิน
กาลังของพระองค์ที่จะยกทัพไปปราบ จึงปล่อยให้หัวเมืองมลายูเป็นอิสระ
- 50. ความสัมพันธ์กับจีน
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการค้าขายกับจีน ในสมัยกรุงธนบุรี ปรากฎว่ามีสาเภา
ของพ่อค้าจีน เข้ามาติดต่อค้าขายตลอดรัชกาลและทางไทยก็ได้เอาใจใส่ในการ
ทะนุบารุงการค้าขายทางเรือนี้อย่างมาก สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงส่งสาเภา
หลวงออกไปทาการติดต่อค้าขายกับเมื องจีนอยู่เสมอ จึงนับว่าจีนเป็นชาติ ที่
สาคัญที่สุดที่เราติดต่อทางการค้าด้วยในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสิน
มหาราชที่จะให้จีนยอมรับฐานะและเพื่อให้ไทยได้เปิดค้าขายกับจีน เป็นการฟื้นฟู
เศรษฐกิจและทาให้ฐานะของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมั่นคงขึ้นด้วย
- 51. การเมืองระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์กับโปรตุเกส
การค้าขายกับโปรตุเกส ปรากฏในจดหมายเหตุของบาทหลวงฝรั่งเศสซึ่ง
เข้ามาอยู่ในกรุงธนบุรีครั้งนั้น เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2322 มีเรือแขกมัวร์
จากเมืองสุรัต ซึ่งขณะนั้นเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกส เข้ามาค้าขาย ณ กรุงธนบุรี
ด้วยและว่าที่ภูเก็ตเวลานั้นมีพวกโปรตุเกสครึ่งชาติอยู่ 2-3 คน อยู่ในความ
ปกครองของบาทหลวงฟรังซิสแกงของโปรตุเกส จึงแสดงว่า ในสมัยกรุงธนบุรี
นั้นเราได้มีการติดต่อค้าขายสมาคมกับชาวโปรตุเกสอยู่บ้าง โดยทางเราได้เคย
ส่งสาเภาหลวงออกไปค้าขายยังประเทศอินเดียจนถึงเขตเมืองกัว เมืองสุรัต
อันเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสอยู่ในครั้งนั้นด้วยเหมือนกัน
- 52. การเมืองระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์กับอังกฤษ
ในตอนปลายสมั ย กรุ ง ธนบุ รี บรรดาฝรั่ ง ชาติ ต่ า ง ๆ ที่ เ ดิ น ทางเข้ า มา
ค้าขายในเอเชีย มีการแย่งชิงอานาจกัน ทางการค้าเป็นอันมาก ด้วยเหตุนี้
อังกฤษจึงมีความประสงค์ที่จะได้สถานที่ตั้งสาหรับทาการค้าขาย แข่งกับ
พวกฮอลั น ดา ทางด้ า นแหลมมลายู สั ก แห่ ง หนึ่ ง อัง กฤษเห็ น ว่ า เกาะหมาก
(ปีนัง) มีความเหมาะสม จึงได้พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมกับพระยาไทรบุรี
ผู้มี อานาจปกครองเกาะนี้อยู่เพื่อจะขอเช่า ในปี พ.ศ. 2319 กะปิตันเหล็ก
(ฟรานซิสไลท์) เจ้าเมืองเกาะหมาก ได้ส่งปืนนกสับเข้ามาถวายสมเด็จพระเจ้า
ตากสิน จานวน 1,400 กระบอก พร้อมด้วยสิ่งของเครื่องราชบรรณาการต่างๆ
- 53. ความสัมพันธ์กับฮอลันดา
ปี พ.ศ. 2313 ชาวฮอลันดาจากเมืองปัตตาเวีย (จาการ์ตา) และ พวกแขก
เมืองตรังกานู ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อถวายปืนคาบ
ศิลาจานวน 2,200 กระบอก และ ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง
ความสัมพันธ์กับล้านช้าง
การที่ได้ล้านช้างมาเป็นประเทศราชเพราะมีการทาสงครามขยายอาณาเขต
ถึง 2 ครั้ง
1. ตีเมืองจาปาศักดิ์ พ.ศ. 2319 พระเจ้าตากสิน จึงโปรดให้เจ้าพระยาจักรี
(ทองด้วง) เป็นแม่ทัพยกไปปราบ เจ้าพระยาสุรสีห์ยกทัพไปช่วย สามารถตี
เมืองจาปาศักดิ์ได้ พระเจ้าตากสินจึงโปรดให้เจ้าพระยาจักรี(ทองด้วง)
เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น "สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก”
- 54. 2. พ.ศ. 2321 ไทยตีเมืองเวียงจันทน์
พระเจ้าตากสินเห็นว่า ลาวได้ละเมิดอธิปไตยของไทย จึงโปรดให้สมเด็จ
เจ้ า พระยามหากษั ต ริ ย์ ศึ ก ฯ และเจ้ า พระยาสุ ร สี ห์ ฯ ยกทั พ ไป ตี เ มื อ ง
เวี ย งจั น ทน์ ตี เ มื อ งเวี ย งจั น ทน์ น าน 4 เดื อ นจึ ง ส าเร็ จ ไทยจึ ง ได้ เ มื อ ง
เวียงจ้นทน์และหลวงพระบาง เป็นประเทศราช เสร็จจากสงครามในครั้งนี้
สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกฯ ได้อัญเชิญ พระแก้วมรกต มาประดิษฐาน
ณ วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) หรือวัดพระแก้วในสมัยกรุงธนบุรี
- 58. จัดทาโดย
นายรชตะ ศิริกุลชัย เลขที่ 3
นางสาวบุศรินทร์ ประทุมโทน เลขที่ 9
นางสาวสุธาสินี สายทอง เลขที่ 14
นางสาวณัฏฐาพร ศรีชัยคา เลขที่ 16
นางสาวพนิตนันท์ โรจนศุภมิตร เลขที่ 19
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
เสนอ
ครูสายพิณ วงษารัตน์
โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย