Más contenido relacionado
Más de โฮลลี่ เมดิคอล (8)
ภูมิแพ้ รักษาหาย
- 1. เมื่อมีอาการ จาม คันจมูก คันตา คันหูและลาคอ ตาแดง จมูกตัน มี
น้ ามูกใส ๆ ไหลออกมาบ่อย ๆ และมีน้ าตาไหล เจ็บคอ ไอ อ่อนเพลีย ปวด
ท้อง ปวดศรี ษะ และปวดบริ เวณคาง และหน้าผาก อาการเหล่านี ้คืออาการ
ภูมิแพ้ เกิดจากระบบภูมิค้ มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารทัวไปที่เป็ น
ุ ่
สารอันตราย จึงกระตุ้นให้ เซลล์ปล่อยสารฮิสทามีน ทาให้ จาม หายใจขัดมี
ผื่นคัน อาเจียน บางครังรุนแรงถึงขันช็อก หมดสติ ถูกปิ ดกันทางเดิน
้ ้ ้
อากาศหายใจจนทาให้ หวใจหยุดทางาน สิงทีก่อให้ เกิดภูมิแพ้ เช่น ละออง
ั ่ ่
เกสร อาหาร สารเคมี ความเครี ยด สัตว์ พักผ่อนไม่เพียงพอ การทาน
อาหารที่หลากหลายครบทุกหมู่ จะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้
ส่วนใหญ่เมื่อหลีกเลี่ยงจากสิ่ งที่แพ้ และรับประทานยาแก้แพ้ก็จะสามารถ
ควบคุมอาการของโรคภูมิแพ้ได้ การรักษาโรคภูมิแพ้เบื้องต้นสาหรับผูที่มี้
อาการคัดจมูกมากอาจจะต้องให้ยาลดอาการคัดจมูก ( Decongestant) สาหรับ
ผูที่มีอาการเรื้ อรังอาจจะต้องใช้ยาหยอดจมูก steroid
้
โรคภูมแพ้ คือโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายมีการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ตามธรรมชาติไวผิดปกติ ทั้งที่คนทัวไปไม่เกิดอาการผิดปกติเมื่อสัมผัส
ิ ่
สารต่างๆเหล่านั้น สารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายได้หลายทางทาให้เกิดโรคภูมิแพ้ชนิดต่างๆซึ่งมีอาการแตกต่างกันดังนี้
สารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายโดยทางเดินหายใจ ตั้งแต่ จมูก คอ หลอดลมลงไปถึงปอด ทาให้เกิดอาการเป็ นหวัด คัดจมูก น้ ามูกไหล จาม
เรี ยกว่าโรคแพ้อากาศ ผูป่วยจะมีอาการคันคอ เจ็บคอ ไอมาก หากมีอาการหลอดลมตีบตัน หายใจลาบากเรี ยกว่าโรคหอบหื ด
้
สารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายโดยทางผิวหนัง ทาให้เกิดผื่นคันอักเสบ เป็ นลมพิษ มีน้ าเหลืองไหล เป็ นตุ่มพุพองที่ผวหนัง เรี ยกว่า “โรคผื่น
ิ
แพ้”
สารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายโดยทางเดินอาหาร ทาให้เกิดอาการคันปาก คันคอ มีผ่นคันที่ผวหนัง เป็ นลมพิษ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสี ย
ื ิ
่
อาหารไม่ยอย คลื่นไส้ อาเจียน มีแผลร้อนในในปาก เรี ยกว่า “โรคแพ้อาหาร”
สารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายโดยทางตา ทาให้คนตา แสบตา ตาแดง น้ าตาไหล ตาสูแสงไม่ได้ เยือบุตาแดงบวมและอักเสบ เรี ยก “โรคภูมิแพ้
ั ้ ่
ที่ตา”
- 2. โรคภูมิแพ้สามารถถ่ ายทอดทางกรรมพันธุ์ ถ้าพ่อหรื อแม่เป็ นโรคภูมิแพ้ ลูกจะมีโอกาสเป็ นโรคภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น เมื่อได้รับสาร
แปลกปลอม ซึ่งเป็ นสารก่อภูมิแพ้ เข้ามาในร่ างกายต่อเนื่องกันเป็ นเวลานานๆ จนกระทังร่ างกายเกิดปฏิกิริยา มีการสร้างภูมิคุมกันต่อสารชนิดนั้น
่ ้
เมื่อเราได้รับสารก่อภูมิแพ้น้ นเข้าไปอีก ก็จะเกิดปฎิกิริยาภูมิแพ้
ั
การติดเชื้อซ้าซากยาวนาน ทั้งที่เกิดจากแบคทีเรี ย ไวรัส ยีสต์ หรื อพยาธิ หรื อปั จจัยภายนอกใดๆ ที่คงอยูในตัวเรา หรื อสัมผัสกับ
่
ร่ างกายเรา โดยที่ร่างกายไม่สามารถกาจัดออกได้หมด เป็ นเวลาต่อเนื่องกันนาน จะกระตุนปฏิกิริยาภูมิคุมกัน ให้ผลิตภูมิคุมกันชนิดกว้างและมี
้ ้ ้
ความเจาะจงน้อย ซึ่งจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ตอสารต่างๆ มากขึ้นเรื่ อยๆ กลายเป็ นคนแพ้สิ่งต่างๆได้ง่ายและบางครั้งมีภูมิคุมกันที่ต่อต้านเนื้อเยือ
่ ้ ่
ของตนเองเกิดขึ้น กลายเป็ นโรคภูมิคุมกันทาลายตนเอง
้
อาการภูมิแพ้ ที่เป็ นเฉพาะเวลา ร่ างกายประสบกับภาวะเครี ยดทั้งทางร่ างกายหรื อทางจิตใจก็ตาม เนื่องจากความเครี ยดจะเผาผลาญ
พลังงานในร่ างกายด้วยการกระตุนต่อมไร้ท่อต่างๆ เมื่อเวลาผ่านไป ระบบป้ องกันตนเองของร่ างกายจะค่อยๆ อ่อนแอลงไป ร่ างกายเกิดการ
้
ตอบสนองต่อสิ่ งกระตุน ด้วยการเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อฝุ่ นละออง และสารต่างๆ ในชีวตประจาวัน ทาให้เกิดอาการอ่อนเพลีย มีเสมหะแห้งๆ ในคอ
้ ิ
ตลอดเวลา น้ ามูก มึนงง ไม่สดชื่น ฯลฯ
Th 1 เป็ นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สร้างสารต่อต้านเชื้อโรค เช่น สารอินเตอเฟอรอนแกมม่า
Th 2 2 เป็ นเซลล์ที่สร้างสารเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ เช่น อินเตอร์ลิวคีน 5
่ ่
ร่ างกายของคนเราต้องใช้เซลล์ท้ ง 2 ชนิดอย่างสมดุลจึงจะมีสุขภาพที่สมดุลแข็งแรง แต่สภาพการเลี้ยงดูบุตรหลานในยุคปั จจุบนไม่คอยได้อยูตาม
ั ั
ธรรมชาติ เช่น
อาบแต่น้ าอุน
่
นอนแต่ในห้องแอร์
ไม่ได้สมผัสธรรมชาติที่เป็ นของจริ ง เช่น ธาตุดิน ธาตุน้ า ธาตุลม ธาตุไฟ
ั
เด็กจึงไม่มีโอกาสสัมผัสเชื้อแบคทีเรี ยหรื อเชื้อไวรัสตามธรรมชาติ พอเป็ นไข้ไม่สบายก็รีบพาลูกไปหาหมอกินยาปฏิชีวนะ ยาลดน้ ามูก ยาลดไข้ ไว้
ตลอดโดยที่ภูมิตานทานที่แท้จริ งของตนเองไม่เคยได้ใช้งานต่อสูเ้ ชื้อโรคเลย ทาให้ร่างกายขาดเซลล์ Th 1 มีแต่เซลล์ Th 2 ซึ่งเป็ นตัวการคอยกระตุน
้ ้
ให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดขาวชื่อ อีโอซิโนฟิ ลล์ สาร IgE ที่เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ก็จะเกิดการหลังสารฮีสตามีนซึ่งทาให้เกิดอาการผิดปกติ
่
ต่างๆ
- 3. โรคภูมิแพ้ ชนิดเป็ นตามฤดูกาล จะมีอาการเป็ นช่วง ๆ ของปี ขึ้นอยูกบช่วงที่สารก่อภูมิแพ้ถูกผลิตออกมา สารก่อภูมิแพ้ในกรณี น้ ี เช่น
่ ั
ละอองเกสรดอกไม้ ฟางข้างต่าง ๆ
โรคภูมิแพ้ ชนิดเป็ นตลอดปี คนไข้จะมีอาการตลอดทั้งปี เนื่องจากคนไข้จะสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ตลอดเวลา ทาให้มีอาการแบบ
ั
เรื้ อรัง สารก่อภูมิแพ้ที่ทาให้คนแพ้กนมาก คือ ไรฝุ่ นในบ้าน เชื้อรา ขนสัตว์เลี้ยง เป็ นต้น
ภูมิแพ้ รักษาได้ดวยการล้างจมูกด้วยน้ าเกลืออุ่นๆ
้
ภูมิแพ้ รักษาได้ดวยการดื่มน้ าร้อนครั้งละ10-15 นาทีวนละ 2-4 ครั้ง
้ ั
พื้นห้องควรเป็ นพื้นขัดมัน เพราะกาจัดฝุ่ นได้ง่าย
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการจัดบ้านให้อากาศถ่ายเทได้ดี และแสงแดดส่องถึง ไม่มีฝน
้ ุ่
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการอย่าไปใกล้บริ เวณที่มีควันบุหรี่ ควันไฟ และบริ เวณที่มีฝนมาก
้ ุ่
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการไม่ปลูกต้นไม้ในบ้าน กระถางดอกไม้ที่อบชื้นจะเป็ นแหล่งเพาะเชื้อราได้
้ ั
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการพยายามกันสัตว์เลี้ยงไว้ขางนอกเท่าที่เป็ นไปได้ ห้ามนาสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องนอน
้ ้
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการล้างมือทุกครั้งที่คุณสัมผัสสัตว์เลี้ยง และพยายามให้มนอยูห่าง ๆ จากใบหน้าของคุณ
้ ั ่
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการทาความสะอาดที่นอนหมอน มุง ควรได้รับการตากแดดจัด ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อฆ่าตัวไร
้ ้
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการใช้ผาห่มประเภทขนสัตว์ ผ้าสักหลาด ผ้าสาลี ควรใช้ผาห่มที่ทาจากใยสังเคราะห์
้ ้ ้
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการระวังไม่ให้บาน ห้องน้ า อับชื้น และไม่ควรปลูกต้นไม้ในบ้านเพราะทาให้เชื้อราเติบโต
้ ้
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ และการพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ผป่วยมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น
้ ู้
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการทาความสะอาดเครื่ องปรับอากาศบ่อยๆ และใช้แบบที่มีเครื่ องกรองอากาศชนิด HEPA filter
้
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการกาจัดเศษอาหาร และขยะต่างๆ รวมทั้งปิ ดฝาท่อระบายน้ าเพื่อไม่ให้เป็ นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงสาบ
้
ภูมิแพ้ รักษาได้ดวยการใช้ยาตามที่แพทย์สงเท่านั้น ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะบางชนิดถ้าใช้ต่อเนื่องนานอาจมีอนตรายได้
้ ั่ ั
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการมีสิ่งของเครื่ องเรื อนให้นอยที่สุดเฉพาะที่จาเป็ นเท่านั้น เพื่อที่จะได้ทาความสะอาด และกาจัดฝุ่ นได้ง่าย
้ ้
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการซักผ้าปูที่นอน เครื่ องนอน และผ้าม่านอย่างสม่าเสมอโดยใช้น้ าร้อน (อย่างน้อย 60 C) สัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะ
้
ฆ่าไรฝุ่ นได้
ในกรณี แพ้ไรฝุ่ น ควรทาความสะอาดเครื่ องนอน (ที่นอน,หมอน,ผ้าห่ม) โดยซักด้วย น้ าร้อน 600C นาน 15-20 นาที อย่างน้อยทุก 2
สัปดาห์
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการใช้เครื่ องนอนทั้งหมดควรเป็ นใยสังเคราะห์ ไม่ใช้ฟก ที่นอน หมอน หรื อหมอนข้างที่ยดไส้ดวยนุ่น เพราะ
้ ู ั ้
นุ่นเป็ นทีอยูของไรฝุ่ น ควรใช้ชนิดที่ทาจากยาง หรื อฟองน้ า หากต้องใช้ที่นอนที่ยดไส้ดวยนุ่น ก็ควรหุมด้วยพลาสติก หรื อผ้าร่ มก่อน
่ ั ้ ้
เครื่ องปรับอากาศช่วยให้ละอองฝุ่ น เกสร และเชื้อราจากภายนอกบ้านเข้ามาในห้องนอนน้อยลง โดยเฉพาะในรุ่ นที่มีระบบกรอง
อากาศ
- 4. พัดลม ไม่ควรเปิ ดแรง หรื อเป่ าตรงตัวผูป่วย และไม่ควรเป่ าลงพื้น เพราะจะเป็ นการเป่ าฝุ่ นให้เข้าจมูกมากขึ้น อาการภูมิแพ้จะกาเริ บ
้
ได้ง่าย
ไม่เลี้ยงสัตว์ที่มีขนในบ้าน เช่น สุนข แมว นก ไว้ในบ้าน ถ้าอยากเลี้ยงจริ ง ๆ แนะนาให้เลี้ยงปลาเท่านั้น การอาบน้ าให้สตว์สปดาห์
ั ั ั
ละ 1 ครั้ง จะช่วยละสารภูมิแพ้ลงได้มาก
ภูมิแพ้ รักษาได้ดวยการหลีกเลี่ยงสารที่ทาให้เกิดโรคภูมิแพ้ ผูป่วยควรพยายามหลีกเลี่ยงสารที่ทราบว่าตนเองแพ้ เพื่อที่จะให้อาการ
้ ้
เกิดน้อยลง และใช้ยาน้อยลงด้วย
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการถ่ายน้ าออกจากบริ เวณที่มีน้ าขังในสนามหญ้า เก็บกวาดเศษใบไม้ และวัชพืชก่อนที่จะเริ่ มเน่า เก็บของหมัก
้
ใด ๆ ให้ห่างจากตัวบ้าน
ภูมิแพ้ ป้ องกันได้ดวยการทาความสะอาดฝักบัวในห้องน้ า หรื ออ่างน้ าอย่างสม่าเสมอด้วยน้ ายาทาความสะอาด และตรวจดูวามีเชื้อรา
้ ่
ขึ้นที่ม่านห้องน้ าหรื อไม่
ควรหาทางกาจัดแมลงภายในบ้าน โดยเฉพาะแมลงสาบ เพราะซาก และอุจจาระของแมลงสาบเป็ นสารก่อภูมิแพ้ที่สาคัญ การทา
ความสะอาด ทาความสะอาดห้องนอนด้วยผ้าชุบน้ าเปี ยก ๆ ไม่ควรกวาด ถ้าใช้เครื่ องดูดฝุ่ น ตัวผูป่วยโรคภูมิแพ้ไม่ควรทาเอง และ
้
ควรเช็ดด้วยผ้าเปี ยกซ้ าอีกครั้งหนึ่ง หากจาเป็ นต้องทาความสะอาดเอง ควรทานยาก่อนที่คุณจะทาความสะอาด หรื อใช้ฟ้าชุบน้ าบิด
ให้หมาด ๆ ปิ ดปาก และจมูก
วิตามิน B 3 ยับยั้งการหลังฮิสทามีนและลดการอักเสบ
่
วิตามิน B 6 ควบคุมอาการแพ้
วิตามิน B 12 ช่วยให้หายใจคล่อง
วิตามิน C ต้านฮิสทามีน
วิตามิน D ควบคุมการดูดซึมแคลเซียม
แคลเซียม ลดความรุ นแรงของอาการแพ้
แมกนีซียม เสริ มสร้างภูมิคุมกัน
้
โมลิบดีนม ลดอาการหายใจขัด
ั
ซีลีเนียม ต้านอนุมูลอิสระ
สังกะสี ขจัดสารพิษออกจากร่ างกาย
โอเมกา 6 แหล่งกรดไขมันจาเป็ นลดอาการภูมิแพ้
ไบโอฟลาโวนอยด์ ทางานร่ วมกับวิตามินซี ลดอาการแพ้
กรดแพนโทเทนิก ลดเความเครี ยดและต้านฮิสทามีน
- 5. คอลีนและอิโนซิทอล ลดความเครี ยด
น้ าผึ้ง(หลีกเลี่ยงหากแพ้ละอองเกสร)
ผักผลไม้สด
จมูกข้าวสาลี
ปลาซาร์ดีนทั้งตัว
หอมและกระทียม
เมล็ดทานตะวัน
นมและผลิตภัณฑ์นม เพราะเพิ่มเสมหะและน้ ามูก
สตรอว์เบอร์รี
อาหารทะเล
มะเขือเทศ
ช็อกโกแลต
ข้าวสาลี
ถัว
่
ไข่
หลีกเลี่ยงหรื อป้ องกันสารที่ก่อภูมิแพ้การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ได้กล่าวในหัวข้อของการแพ้สารก่อภูมิแต่ละชนิด สาหรับเครื่ องฟอก
อากาศก็มีประโยชน์ บางชนิดใช้ไฟฟ้ า บางชนิดใช้ fiberglass ซึ่งก็สามารถลดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศลง และอาจจะใช้เสริ มกับระบบ
เครื่ องปรับอากาศ ก่อนที่ท่านจะซื้อจะต้องเช่า 1-2 เดือนลองใช้กบห้องที่ค่อนข้างมิดชิดแล้วดูวาอาการภูมิแพ้ลดลงหรื อไม่ และต้องคานึงอีกข้อ
ั ่
หนึ่งคืออัตราการไหลของอากาศต้องมากพอที่จะฟอกอากาศ ถ้าอัตราการไหลต่าก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ควรใช้โอโซนเพราะจะระคายเคืองเยือ ่
จมูก
- 6. การผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติ ที่ทาให้มีอาการแพ้มากขึ้น เช่น ตัดเนื้องอกในจมูก ขูดต่อมแอดีนอยด์ (Adenoid) หลังโพรงจมูกออก ขยาย
โพรงจมูก (Functional nasal surgery) ให้กว้างขึ้น แก้ไขภาวะอุดตันของโพรงไซนัส (Osteomeatal complex) และโพรงจมูก เพื่อให้หายใจสูด
และสังน้ ามูกได้สะดวก สามารถใช้โพรงจมูกและโพรงไซนัสกรองอากาศให้สะอาด ปรับอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม ก่อนหายใจผ่าน
่
ช่องคอและกล่องเสี ยงเข้าสู่ปอด
ทานยา ฉี ดยา ยาพ่นจมูก ยาพ่นปอด ยาหยอดตา ยาทาผิวหนัง เป็ นประจาการใช้ควรยาอย่างเหมาะสม ภายใต้คาแนะนาของแพทย์ เพื่อลด
อาการ หรื อป้ องกันอาการ ยาที่ใช้รักษาโรคภูมิแพ้มีดงนี้
ั
• Steroid
• Decongestant
• ยาแก้แพ้ Antihistamine
• Antihistamine-Decongestant
• Mast cell stabilizer
• Anticholinergic
ยาต้านฮีสตามีนกลุ่มเก่า มีขอควรระวัง คือ มักจะทาให้เกิดอาการง่วงซึม และมีอาการข้างเคียง เช่น ปากแห้ง คอแห้ง ตาพร่ า ใจสัน ยาต้าน
้ ่
ฮีสตามีนกลุ่มใหม่ มีขอดี คือ ไม่ทาให้ง่วง อาการข้างเคียงน้อยลงไม่ต่างจากการให้เม็ดแป้ ง ออกฤทธิ์ไดนานกว่าซึ่งทาให้ไม่ตองกินยา
้ ้
บ่อย ๆ ส่วนมากวันละ 1-2 ครั้ง รักษาโรคติดเชื้อแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น เช่น การติดเชื้อของทางเดินหายใจ ไซนัสอักเสบ ต่อมทอนซิล
อักเสบ หูอกเสบ หลอดลมอักเสบ
ั
การรักษาโดยการฉี ดวัคซีนภูมิแพ้ Immunotherapy ผูป่วยจะได้รับสารก่อภูมิแพ้เพื่อให้ร่างการสร้างภูมิชนิด IgG การฉี ดวัคซีนจะเลือกฉี ด
้
่
เฉพาะสารก่อภูมิแพ้ที่ได้ทดสอบทางผิวหนังแล้วว่าแพ้ และจะค่อยเพิ่มขนาดยาตามตารางเวลา หลังจากฉี ดแต่ละครั้งควรอยูในสถานพยาบาล
ครึ่ งชัวโมง และระหว่างการรักษาไม่ควรรับประทานยา beta-block และยา monoamine oxidase
่
่
inhibitors (MAOIs) ผลข้างเคียงจากการฉี ดวัคซีนก็มีผื่นเฉพาะที่แดง คันผื่นจะอยูนาน 4-8 ชัวโมง ส่วนอาการข้างเคียงอีกชนิดหนึ่งคืออาการ
่
คัดจมูก แน่นหน้าอก คัดจมูกและน้ ามูกไหล อาการเหล่านี้มกจะเกิดภายใน 30 นาทีหลังฉีดวัคซีน
ั
การทดสอบทางผิวหนัง (Skin Test) โดยสุ่มทดสอบว่าผูป่วยแพ้อะไรบ้างแล้วฉี ดสารก่อภูมิแพ้ในปริ มาณน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่ อยๆ
้
เพื่อกระตุนภูมิคุมกันให้คุนเคยกับสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้น จึงสามารถป้ องกันการเกิดภูมิแพ้ได้ การรักษาชนิดนี้ตองใช้ระยะเวลานาน คือฉี ด
้ ้ ้ ้
ติดต่อกัน 9-12 เดือน หลังจากนั้นต้องฉี ดกระตุนไปอีกเป็ นระยะ เช่น เดือนละครั้ง อาจนาน 3-5 ปี อย่างไรก็ตาม ผลการรักษาไม่สูจะดีนก เมื่อ
้ ้ ั
เทียบกับเวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษา เพราะไม่อาจรับประกันได้วาจะสามารถหายจากโรคภูมิแพ้แน่นอน และผูป่วยโรคภูมิแพ้มกจะแพ้สาร
่ ้ ั
หลายตัว วิธีการนี้จึงเรี ยกได้วาค่อนข้างยุงยาก สิ้นเปลืองเสี ยเวลานาน และไม่ค่อยได้ผล
่ ่
การรักษาโรคภูมิแพ้น้ น แพทย์จะเป็ นผูพิจารณาว่าควรใช้วธีใดหรื อหลายๆ วิธีร่วมกัน เพื่อป้ องกันและรักษาไม่ให้ผป่วยมีอาการแพ้หรื อ
ั ้ ิ ู้
เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ความสาเร็ จที่เกิดขึ้นนั้นขึ้นกับว่าผูป่วยจะสามารถปฏิบติตนตามคาแนะนาของแพทย์ได้สม่าเสมอหรื อไม่
้ ั
ในปัจจุบนยังไม่มีวธีรักษาโรคภูมิแพ้ให้หายขาดได้ วิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ของแพทย์ หวังผลเพียงให้ผป่วยภูมิแพ้ไม่มีอาการ เพื่อป้ องกัน
ั ิ ู้
ไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ขึ้น เพราะถ้าปล่อยให้มีอาการแพ้เรื้ อรังนานเกินไป ไม่รักษา อาจเกิดหูอ้ือจนการได้ยนสูญเสี ยไปอย่างถาวร (Serous-
ิ
- 7. Adhesive otitis media) หรื อมีเนื้องอกในจมูก (Nasal polyp) เกิดขึ้น หรื อเป็ นไซนัสอักเสบได้ (ไซนัสอักเสบอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ผนังกั้น
โพรงจมูกคด มีเนื้องอก มีสิ่งแปลกปลอมในจมูก รากฟันบนอักเสบ ฯลฯ) ผูป่วยภูมิแพ้อาจมีอาการหอบหื ดอย่างรุ นแรงจนเป็ นอันตรายได้
้
เป็ นวิธีการปรับภูมิตานทานผูป่วย หรื อ “หนามยอกเอาหนามบ่ง” คือ เมื่อพบว่าภูมิแพ้เกิดขึ้นแล้วล่องลอยในกระแสเลือด ก็ใช้เลือดของตนเอง
้ ้
มาช่วยในการรักษาโดยเจาะเลือดของผูป่วยภูมิแพ้ขณะที่มีปฏิกิริยาภูมิแพ้ เอาเฉพาะซีรั่ม ซึ่งในซีรั่มนั้น จะมีภูมิคุมกันไวเกินที่ทาให้เกิดโรคภูมิแพ้
้ ้
อยู่ นาซีรั่มมาแยกเซลล์ที่ตกค้างออก ให้เหลือเฉพาะโปรตีน แล้วใช้ตวกระตุนซีรั่ม (Serum activator) เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างบางประการของ
ั ้
ภูมิคุมกันไวเกิน (Antibody) ให้มีสภาพเป็ น Antigen แล้วฉี ด Antigen ที่ได้เข้าใต้ผิวหนัง
้
โดยจะให้ผป่วยภูมิแพ้ได้รับสารก่อภูมิแพ้ที่เฉพาะเจาะจงสาหรับคนไข้ภมิแพ้แต่ละรายครั้งละน้อยๆเป็ นเวลาต่อกันระยะหนึ่ง วิธีน้ ีสามารถใช้ได้แม้
ู้ ู
ในกรณี ที่ผป่วยภูมิแพ้มีอาการแพ้มากที่สุด ซึ่งร่ างกายจะรับสารก่อภูมิแพ้ในขนาดน้อยๆ นี้ได้โดยไม่ปรากฏอาการใดๆจากนั้นระบบภูมิตานทาน
ู้ ้
ของร่ างกายจะมีการปรับโดยลดการสร้างภูมิคุมกันไวเกินลง หรื อหลังสารที่จะไปต้านการสร้างภูมิคุมกันไวเกินบางชนิดลงได้อย่างมีนยสาคัญ นัน
้ ่ ้ ั ่
- 8. คือ แม้วาผูป่วยจะได้รับสารก่อภูมิแพ้ภมิแพ้ แต่เมื่อร่ างกายลดการสร้างภูมิคุมกันไวเกินที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ลง จึงไม่สามารถก่อปฏิกิริยาภูมิแพ้
่ ้ ู ้
กับสารก่อภูมิแพ้น้ นได้ ผูป่วยก็จะปลอดจากโรคภูมิแพ้โดยปริ ยาย
ั ้
ส่งผลให้ปฏิกิริยาภูมิแพ้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงสามารถรักษาหรื อทุเลาอาการของโรคภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ การรักษาโรคภูมิแพ้ดวยวิธีน้ ี
้
ให้ผลการรักษาได้ผลดีร้อยละ 60 – 80 และไม่มีผลข้างเคียงใดๆเนื่องจากเป็ นสารที่สกัดมาจากตัวของผูป่วยภูมิแพ้เอง จึงปลอดภัย ไม่มีอาการต้าน
้
ยา แพ้ยา หรื อมีสารตกค้างภายในร่ างกาย
สอบถามเพิมเติมเกียวกับรายละเอียดการรักษาโรคภูมแพ ้โดยตรงที่ Wholly Medical Center
่ ่ ิ
ั้
ตึก 253 ชน 21 อโศก ซอยสุขมวิท 21
ุ
ตรงข ้าม มศว. ประสานมิตร ติดรถไฟฟ้ าใต ้ดินสถานีเพชรบุร ี
โทร.02-664-3027 9.00 - 19.00 น. ทุกวันไม่เว ้นวันหยุดราชการ
Email:crm@whollymedical.com ตลอด 24 ชวโมง ั่
ข้ อมูลอ้ างอิง
whollymedical.com, siamhealth.net, goface.in.th, doctor.or.th, pharm.chula.ac.th, Oknation.net blog ลุงแจ่ม