Enviar búsqueda
Cargar
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง แก้ไขแล้ว
•
1 recomendación
•
2,477 vistas
ท
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
Seguir
Denunciar
Compartir
Denunciar
Compartir
1 de 10
Descargar ahora
Descargar para leer sin conexión
Recomendados
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
moohhack
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Kittichai Pinlert
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
Benny BC
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Pongtep Treeone
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บัณฑิตา อ่อนพุทธา
07 ภาคผนวก
07 ภาคผนวก
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
00 ส่วนนำ1.docเสร็จแล้ว
00 ส่วนนำ1.docเสร็จแล้ว
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
Recomendados
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
moohhack
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Kittichai Pinlert
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
Benny BC
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Pongtep Treeone
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บัณฑิตา อ่อนพุทธา
07 ภาคผนวก
07 ภาคผนวก
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
00 ส่วนนำ1.docเสร็จแล้ว
00 ส่วนนำ1.docเสร็จแล้ว
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ภาคผนวก
ภาคผนวก
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บรรณานุกรม
บรรณานุกรม
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 5 สรุปผล ข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล ข้อเสนอแนะ
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ภาคผนวก
ภาคผนวก
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
Más contenido relacionado
Más de ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ภาคผนวก
ภาคผนวก
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บรรณานุกรม
บรรณานุกรม
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 5 สรุปผล ข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล ข้อเสนอแนะ
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ภาคผนวก
ภาคผนวก
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
Más de ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ
(11)
ภาคผนวก
ภาคผนวก
บรรณานุกรม
บรรณานุกรม
บทที่ 5 สรุปผล ข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล ข้อเสนอแนะ
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
ภาคผนวก
ภาคผนวก
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง แก้ไขแล้ว
1.
บทที่ 2
เอกสารทีเ่ กียวข้ อง ่ ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ อง การสารวจความรู้และการปองกันโรคเอดส์ของนักเรี ยนชันมัธยมศึกษาปี ที่ 5/4 ้ ้ โรงเรี ยนเลยอนุกลวิทยา อาเภอ เมือง จังหวัด เลย นี้ ผูจดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจาก ู ้ั เว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 2.1 ความสาคัญของโรคเอดส์ 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับ โรคเอดส์ 2.3 ผลกระทบของโรคเอดส์ 2.4 ความรู้เรื่ องโรคเอดส์ 2.5 การปฏิบติ ั 2.1 ความสาคัญของโรคเอดส์ โรคเอดส์ (AIDS) คืออะไร (wikipedia.org) โรคเอดส์ หรือ โรคภูมคมกันบกพร่อง (Acquired Immune Deficiency Syndrome - AIDS) เป็ นกลุม ิ ุ้ ่ ่ ้ ั ่ อาการเจ็บป่ วยทีเกิดขึนเพราะร่างกายได้รบเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึงจะเข้าไปทาลายเม็ดเลือดขาว ทีเป็ น ่ แหล่งสร้างภูมคมกันโรค ทาให้ภมคมกันโรคลดน้อยลง จึงทาให้ตดเชื้อโรคฉวยโอกาสแทรกซ้อนเข้าสูรางกาย ิ ุ้ ู ิ ุ้ ิ ่ ่ ่ ้ ได้งายขึน เช่น วัณโรคในปอด หรือต่อมน้าเหลือง เยือหุมสมองอักเสบจากเชื้อรา โรคผิวหนังบางชนิด หรือเป็ น ่ ้ ่ ้ มะเร็งบางชนิดได้งายกว่าคนปกติ ซึงสาเหตุของการเสียชีวตมักเกิดขึนจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ เหล่านี้ ่ ิ ทาให้อาการจะรุนแรง และเสียชีวตอย่างรวดเร็ว ิ ปัจจุบ ันโรคเอดส์มการตรวจพบทั่วโลก และประมาณการว่ามีผเสียชีวตเนื่องจากโรคเอดส์ อย่างน้อย 25 ล้านคน ี ู้ ิ ตังแต่ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) นับเป็ นโรคทีมอ ันตรายสูงโรคหนึ่งของประวัตศาสตร์มนุษย์ชาติ ้ ่ ี ิ ่ ในปี พ.ศ. 2548 ประมาณการว่ามีผตดโรคเอดส์ประมาณ 3.1 ล้านคน(ระหว่าง 2.8 - 3.6 ล้าน) ซึง 570,000 ู้ ิ คนของผูป่วยโรคเอดส์เป็ นเด็ก (UNAIDS, 2005) ้
2.
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับ โรคเอดส์
อาการของเอดส์ มี 2 ระยะ 1. ระยะไม่มอาการ ผูตดเชื้อจะมีสขภาพแข็งแรง ไม่มอาการผิดปกติแต่อย่างใด ผูตดเชื้อส่วน ี ้ ิ ุ ี ้ ิ ใหญ่จะอยูในระยะนี้ และบางคนไม่ทราบว่า ตัวเองติดเชื้อ จึงอาจแพร่เชื้อไปสูผอนได้ ่ ่ ู้ ื ่ 2. ระยะมีอาการ ผูตดเชื้อส่วนใหญ่จะเริมแสดงอาการ ภายหลังจากได้รบเชื้อประมาณ 7-8 ปี ้ ิ ่ ั แบ่งเป็ น 2 ระยะ คือ - ระยะเริมปรากฎอาการ อาการทีพบคือ มีเชื้อราในปาก ต่อมน้าเหลืองโต งูสวัด มีไข้ ท้องเสีย ่ ่ น้าหนักลด มีตมคันบริเวณผิวหนัง ุ่ - ระยะโรคเอดส์ เป็ นระยะทีมภมตานทานลดลงมาก ทาให้ตดโรคติดเชื้อฉวยโอกาสได้งายขึน ่ ี ู ิ ้ ิ ่ ้ เช่น วัณโรค ปอดบวม เยือหุมสมองอักเสบ เป็ นต้น ่ ้ ป้ องกันตัวเอง ไม่ให้ตดเชื้อเอดส์ ได้อย่างไร ิ รักเดียว ใจเดียว หากจะมีเพศสัมพันธ์กบหญิง ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครัง ทีมเพศสัมพันธ์ ั ้ ่ ี ขอรับบริการปรึกษา เรื่อง โรคเอดส์ ก่อนแต่งงาน และก่อนทีจะมีบตรทุกท้อง ่ ุ ไม่ดมเหล้า และงดใช้สารเสพติดทุกชนิด ื่ 2.3 ผลกระทบของโรคเอดส์ โรคเอดส์ เป็ นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชไอวี มีผลทาให้ภูมิคุมกันของร่ างกายเสื่ อมลง ร่ างกายจึงติดเชื้อฉวย ้ โอกาสได้ง่าย และเป็ นมะเร็งที่ปกติไม่พบในคนที่อายุนอยกว่า 60 ปี นอกจากผลกระทบทางด้านร่ างกายแล้ว ยังส่งผล ้ กระทบทางด้านจิตสังคม และมักจะรุ นแรงกว่าโรคอื่น ๆ กล่าวคือ เกิดขึ้นทุกระยะตั้งแต่ก่อนทราบผลการตรวจ ระยะ ทราบผลการวินิจฉัย ระยะได้รับการรักษา ระยะเกิดโรคแทรกซ้อน หรื อติดเชื้อซ้ า และระยะใกล้ตาย ผูป่วยส่วนใหญ่จะ ้ กังวล กลัวตาย กลัวสังคมรังเกียจ กลัวถูกทอดทิ้ง กลัวการถูกแยก บางคนอาจทุกข์ทรมานมากจากอาการทางกาย และจิต สังคม จึงคิดฆ่าตัวตาย ผลกระทบของโรคเอดส์ มิใช่มีผลเฉพาะตัวผูป่วยเท่านั้น ยังมีผลกระทบต่อครอบครัว และบุคคล ้ ใกล้ชิด ต่อสังคม และประเทศชาติอีกด้วย
3.
2.4 ความรู ้เรื่
องโรคเอดส์ เอดส์ โรคติดเชื้อ HIV,AIDS เอดส์หรื อโรคเอดส์เป็ นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไปทาลายระบบภูมิคุมกันของร่ างกายทาให้ร่างกายเสี่ ยงต่อการ ้ ติดเชื้อฉวยโอกาส ่ ประเทศไทยมีการติดเชื้อ HIV เป็ นจานวนมากแม้วาเวลาผ่านไปนานพอสมควรก็ยงพบผูป่วยที่ติดเชื้อเพิ่ม ั ้ ่ ขึ้นอยูตลอดเวลา เป็ นการสมควรที่ทุกคนจะเรี ยนรู ้ถึงโรคและการป้ องกัน หากท่านมีผลเลือดบวกแสดงว่าท่าน ได้รับเชื้อ HIV จากการร่ วมเพศกับผูที่ติดเชื้อโดยที่ไม่ได้ป้องกัน หรื ออาจจะเกิดจากการฉี ดยาเสพติด ้ HIV และ AIDS ต่ างกันอย่ างไร เชื้อ Human Immunodeficiency Virus(hiv) เป็ นเชื้อไวรัสที่ทาให้เกิดโรคเอดส์ เมื่อเชื้อ เข้าสู่ร่างกายเชื้อจะแบ่งตัวอย่างมากและมีการเกิดโรคที่อวัยวะต่างๆ เช่นสมอง หัวใจ ไตและที่สาคัญคือจะ ทาลายระบบภูมิคุมกันของร่ างกาย ระบบภูมิคุมกันนี้จะทาหน้าที่สร้างถูมิเพื่อต่อต้านการติดเชื้อและมะเร็ งบาง ้ ้ ชนิด ในการสร้างภูมิจะต้องอาศัยเซลล์หลายชนิดที่สาคัญได้แก่เซลล์ CD4+ lymphocytes ซึ่งเป็ น เซลล์ที่เชื้อ HIV ชอบ เมื่อเซลล์ CD4+ lymphocytes ถูกทาลายโดยเชื้อมากจะทาให้ภูมิของ ร่ างกายอ่อนแอ ดังนั้นปั ญหาที่สาคัญของคนติดเชื้อ HIV คือปั ญหาของโรคที่เกิดจาดภูมิที่อ่อนแอลงเช่นโรค ติดเชื้อฉวยโอกาส opportunistic infections เช่นโรคปอดบวมและโรคเยือหุมสมองอักเสบ และมะเร็ งบางชนิด ปั จจุบนพบเชื้อ HIV มี2 ่ ้ ั ชนิดคือ HIV-1 เป็ นชนิดที่แพร่ ระบาดทัวโลก ่ HIV-2 พบที่แถบประเทศ Africa HIV-1มี sub-types หลายชนิด HIV disease คือผูป่วยที่ได้รับเชื้อHIV และยังไม่เกิดอาการจากเชื้อฉวยโอกาสและมีจานวนเซลล์ CD4+ ้ ่ lymphocytes มากกว่า 200 cells/mm3(ปกติมากกว่า 100 cell/mm)โดยทัวไปไม่มีอาการเป็ นเวลา 5-10 ปี แม้วาจะ ่ ไม่มีอาการเชื้อก็แบ่งตัวและทาลายระบบภูมิคุมกันของร่ างกาย และเมื่อภูมิถูกทาลายมากจนกระทังเกิดโรคที่เกิด ้ ่ จากภูมิบกพร่ อง Acquired Immunodeficiency Syndrome หรื อโรคเอดส์ คือผูป่วยที่ได้รับเชื้อ HIV และโรคได้ลุกลามจนภูมิคุนกัน ้ ้ บกพร่ อง และอาจจะทาให้เกิดโรคฉวยโอกาสและมะเร็ ง ตามองค์การควบคุมโรคติดเชื้อของอเมริ กาหมายถึง
4.
โรคติดเชื้อบางชนิดเช่น Pneumocystis carinii pneumonia (PCP), and cryptococcal meningitis มะเร็ งบางชนิดเช่น cervical cancer, Kaposi’s sarcoma, และมะเร็ งต่อม น้ าเหลืองที่ระบบประสาท( central nervous system lymphoma ) CD4+ count น้อยกว่า 200 cells/mm3(ค่าปกติ 600-1000) หรื อ 14 percent of lymphocytes AIDS ทาลายร่ างกายอย่ างไร ทาลายระบบภูมิคุมกันของร่ างกายทาให้มีปัจจัยเสี่ ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาสและมะเร็ ง ้ สมองถูกทาลายทาให้สมองเสื่ อมและความจาเสื่ อม ทาให้หวใจวายมีอาการเหนื่อยง่าย บวมเท้าและท้อง ั ทาให้ไตวาย ไม่สามารถทางานประจาวันได้เช่น การขับรถ มีการเปลี่ยนแปลงทางน้ าหนักและท้องร่ วงเรื้ อรัง อาการของโรคติดเชื้อ HIV อาการของการติดเชื้อ HIV จะมีความหลากหลายขึ้นกับระยะของโรค เนื่องจากเชื้อ HIV เป็ นไวรัสชนิดหนึ่ง อาการของการติดเชื้อ HIV จะเหมือนอาการของไข้หวัดคือ มีไข้ ปวดศีรษะ มีผื่น อ่อนเพลีย เราไม่สามารถวินิจฉัย ได้จากอาการ แม้วาผูได้รับเชื้อ HIV จะไม่มีอาการแต่เขาสามารถแพร่ เชื้อสู่ผอื่นได้ ฉนั้นผูที่มีพฤติกรรมเสี่ ยงควร ่ ้ ู้ ้ ได้รับการเจาะเลือด ในช่วงแรกของการติดเชื้อ HIV คุณอาจจะมีอาการดังต่อไปนี้ ต่อมน้ าเหลืองโต ตับม้ามโต มักจะเป็ นอาการอันแรกของการติดเชื้อ ท้องร่ วง บางคนอาจจะเรื้ อรัง น้ าหนักลด. มีไข้ ไอและหายใจลาบาก เมื่อไม่ได้รับการรักษาเชื้อก็จะแบ่งตัวเรื่ อยและทาลายระบบภูมิคุมกันและกลายเป็ นโรคเอดส์ซ่ ึงจะมีอาการดังนี้ ้ เหงื่ออกกลางคืน ไข้หนาวสัน ไข้สูงเรื้ อรัง ่ ไอเรื้ อรังและหายใจลาบาก ท้องร่ วงเรื้ อรัง ลิ้นเป็ นฝ้ าขาว
5.
ปวดศีรษะ ตามัวลงหรื อเห็นเป็ นเส้นลอยไปมา น้ าหนักลด การติดเชื้อฉวยโอกาส เป็ นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย หากเป็ นผูหญิงก็มีอาการตกขาวบ่อย ้ เพลียและเหนื่อยง่าย บางคนมีผื่นตามตัว ท่ านทีตดเชื้อ HIV จะมีสุขภาพดีจะต้ องทาอย่ างไร ่ ิ ท่านที่ติดเชื้อ HIV สามารถมีสุขภาพดีได้โดยจะต้องปฏิบติตวโดยเคร่ งคัดดังนี้ ั ั ปรึ กษาแพทย์ท่ีเชี่ยวชาญโรคนี้ ไปตามที่แพทย์นด รับประทานยาตามที่แพทย์สง หากมีผลข้างเคียงของยาต้องปรึ กษาแพทย์หามหยุดยา ั ั่ ้ เอง ฉี ดวัคซีนป้ องกันโรคปอดบวม ให้หยุดสรุ ปบุหรี่ รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ พักผ่อนให้เต็มที่ รู ้จกผ่อนคลาย ั การดาเนินของโรค HIV ผูป่วยบางคนที่ได้รับเชื้อ HIV และดาเนินไปสู่โรค AIDS เร็ ว บางคนก็ดาเนินช้า ผูป่วยที่ดาเนินช้า(A slow ้ ้ progress)อาจจะเนื่องจากพันธุกรรม หรื อได้รับเชื้อชนิดที่มีความรุ นแรงน้อยซึ่งภูมิของร่ างกายสามารถคุมเชื้อได้ และการปฏิบติตวที่ดี ส่วนผูที่การดาเนินของเชื้อเร็ วอาจจะเนื่องจากได้รับสายพันธ์ที่มีความรุ นแรงมาก เชื้อมีการ ั ั ้ แบ่งตัวมาก อายุมาก ติดยาเสพติด ติดสุรา การรักษา ตั้งแต่ได้รับเชื้อHIV จนกระทังเป็ นAIDS ผุป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการแต่เชื้อกาลังทาลายร่ างกายอย่างต่อเนื่อง ่ ้ ก่อนที่จะมียารักษาโรคหรื อป้ องกันการไปสู่โรค AIDS หลายคนที่มีปัจจัยเสี่ ยงต่อการติดเชื้อ HIV จะไม่ยอมเจาะ
6.
เลือดเพราะกลัวเจอเชื้อซึ่งยังไม่มีการรักษาแต่ปัจจุบนได้คนพบยาหลายชนิด ซึ่งสามารถลดการแย่งตัวของเชื้อทา
ั ้ ่ ให้ป้องกันโรค AIDS ได้ หากว่ารู ้วาติดเชื้อ HIV ตั้งแต่เริ่ มแรกการให้ยาป้ องกันโรค AIDS จะได้ผลดี การติดต่ อของเชื้อ HIV เชื้อ HIV สามารถติดต่อได้หลายทางดังต่อไปนี้ 1. ทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะไม่ได้ใส่ถุงยางคุมกาเนิดเมื่อร่ วมเพศกับกลุ่มเสี่ ยงต่อการติดเชื้อ(ติดยาเสพติด รักร่ วมเพศ ไม่ทราบสถานะของคู่ขา ) ไม่วาจะเป็ นการร่ วมเพศระหว่างชายหญิงหรื อทางทวารหนัก ่ หรื อทางปาก หรื อการใช้อุปกรณื ทางเพศร่ วมกันโดยไม่ได้ทาความสะอาด เช่นถุงยางคุมกาเนิด การที่มี การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์เช่นหนองใน แผลริ มอ่อน หรื อการใช้ยาฆ่า sperm จะเพิมปั จจัยเสี่ ยงต่อ ่ การติดเชื้อ HIV พฤติกรรมเสี่ ยงทางเพศสัมพันธ์ 2. การใช้เข็มร่ วมกันสาหรับผูป่วยที่ใช้ยาเสพติดท่านควรจะใช้เข็มครั้งเดียวแล้วทิ้ง ไม่ควรใช้ร่วมกับคน ้ อื่นโดยเฉพาะใช้ร่วมกันหลายคนและยังเสี่ ยงต่อการติดเชื้อตับอักเสบ บี 3. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ถูกเข็มตา อัตราการติดเชื้อพบได้ 3/1000 ราย 4. ติดต่อโดยการให้เลือดที่มีเชื้อโรค ซึ่งปั จจุบนการตรวจเลือดและการคัดกรองการบริ จาคทาให้ปัญหานี้ ั ลดลง 5. การติดต่อจากแม่ไปลูก เด็กประมาณ1/4-1/3ของผูหญิงที่ติดเชื้อ HIV ที่ไม่ได้รับการรักษาจะติด ้ เชื้อ HIV แต่ถาหากแม่ได้รับการรักษาโอกาสติดเชื้อจะลดลงโดยเฉพาะหากผ่าตัดทางหน้าท้อง ้ กิจกรรมทีไม่ ตดต่ อ ่ ิ หลายท่านที่มีเพื่อนหรื อญาติเป็ นโรค AIDS กังวลจะติดเชื้อจากผูป่วย ทาให้ผป่วยเกิดอาการน้อยเนื้อต่าใจนาไปสู่ ้ ู้ การซึมเศร้าท่านไม่สามารถติดเชื้อจาก อากาศ อาหาร น้ า ยุงหรื อแมลงกัด ห้องน้ า ช้อนซ่อม ท่านสามารถช่วย ผูป่วยใส่เสื้ อผ้า ช่วยป้ อนอาหารอาบน้ าโดยที่ไม่ติดเชื้อ กิจกรรมที่ดาเนินตามปกติมกจะไม่ติดต่อเช่น ้ ั การจับมือหรื อการสัมผัสภายนอก การดื่มน้ าแก้วเดียวกัน การใช้ถวยชามร่ วมกัน ้ สัมผัสกับเหงื่อหรื อน้ าตาก็ไม่ติดต่อ การว่ายน้ าในสระเดียวกัน การใช้โถส้วมเดียวกัน ถูกแมลงหรื อยุงกัด การจูบกัน การบริ จาคเลือด
7.
ความสาคัญของการวินิจฉัย หลายคนที่มีปัจจัยเสี่ ยงต่อการติดเชื้อ HIV
ไม่กล้าเจาะเลือดเพราะเข้าใจผิดว่าไม่สามารถรักษาหรื อป้ องกันได้ ่ หากท่านรอจนกระทั้งเกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาสจึงรู ้วาเป็ นโรค aids โอกาสที่จะรักษาและป้ องกันก็จะ น้อยลง ดังนั้นท่านที่สงสัยว่าจะได้รับเชื้อ HIV เช่นใช้ยาเสพติดชนิดฉี ดเข้าเส้น มีเพศสัมพันธ์กบคู่ขาหลาย ั คนโดยที่ไม่ได้ป้องกัน รักร่ วมเพศ จะต้องรี บตรวจหาเชื้อ หากผลเลือดให้ผลบวกจะได้รับยาที่ชลอการเกิดโรค AIDS และยาที่ลดการติดเชื้อฉวยโอกาสหากท่านไม่เจาะรอจนกระทั้งเป็ น AIDS ภูมิของท่านรวมทั้ง อวัยวะภายในจะถูกทาลาย โรคติดเชื้อ HIV และระบบภูมค้ ุมกัน ิ เมื่อเชื้อไวรัส Human Immunodeficiency Virus (HIV) เข้ากระแสเลือดเชื้อจะเข้าไป ทาลายระบบภูมิคุมกัน การทาลายภูมิอาจจะเร็ วต่างกันในแต่ละคน บางคนทาลายเร็ วไม่กี่ปีก็เป็ นโรคเอดส์ แต่ ้ ส่วนใหญ่ใช้เวลา 10 ปี จึงจะกลายเป็ นโรคเอดส์ แต่อย่างไรก็ตามมีขอเท็จจริ งที่ควรทราบดังนี้ ้ การเจาะเลือดหาปริ มาณเชื้อ HIV ในเลือด (viral load )จะสามารถคาดการณ์ไดว่าเชื้อจะทาลาย ระบบภูมิคุมกันเร็ วแค่ไหน ถ้าเชื้อมีปริ มาณมากจะทาลายภูมิของร่ างกายเร็ ว ยาต้านไวรัส HIV ที่ดีจะ ้ สามารถยับยังการแบ่งตัวของเชื้อทาให้หยุดยั้งการดาเนินของโรค การเจาะเลือดหาเซลล์ CD-4 จะบ่งบอกสภาพภูมิของร่ างกาย เซลล์ CD-4 ยิงต่าภูมิยงบกพร่ อง ่ ิ่ มากขึ้นเท่านั้น หากไม่ได้รักษาเชื้อ HIV จะทาลายระบบภูมิคุมกันอย่างมากทาให้ร่างกายติดเชื้อฉวยโอกาส ้ โดยเฉพาะปริ มาณเซลล์ CD-4 น้อยกว่า 300 ถ้าหากต่ากว่า 100 จะมีการติดเชื้อรุ นแรง ใครควรทีจะต้ องเจาะเลือดหาเชื้อHIV ่ ผูที่ได้รับเลือดและหรื อน้ าเหลืองก่อนปี คศ.1970-1980 ้ รักร่ วมเพศ ้ ั ผูที่มีเพศสัมพันธ์กบคนอื่นโดยไม่ได้ป้องกัน ้ ั ผูที่มีเพศสัมพันธ์กบคนที่มีเชื้อ HIV ั ้ มีเพศสัมพันธ์กบผูที่ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น ผูที่มีคู่ขาหลายคน ้ ผูที่เป็ นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เข่นซิฟิลิส หนองใน ้ ผูติดยาเสพติดเข้าเส้น ้ คนท้อง
8.
คนท้ องกับโรคAIDS คนท้องทุกคนควรได้รับการตรวจเลือดหาเชื้อ
HIV โดยเฉพาะผูที่มีปัจจัยเสี่ ยงต่อการติดเชื้อ หากผลเลือดบวก ้ ก็ควรจะได้รับยา antiretrovirals เพื่อป้ องกันเชื้อถ่ายจากแม่ไปลูก และไม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง การตรวจหาการติดเชื้อ เป็ นการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาภูมิของโรค เจาะเลือดตรวจหาภูมิโดยวิธี enzyme-linked immunoabsorbent assay (ELISA) ถ้าให้ผลบวกต้องยืนยันการวินิจฉัยโดยวิธีการ Western Blot แต่มีขอเสี ยคือไม่ ้ สามารถให้การวินิจฉัยได้เร็ วคือหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 6 เดือนจึงให้ผลบวก การตรวจ HIV PCR เป็ นการตรวจหาตัวเชื้อหลังจากสัมผัสโรคโดยที่ภมิยงไม่ข้ ึน ู ั 2.5 การปฏิบติ ั การป้ องกันการติดเชื้อ HIV วิธีการป้ องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ที่ดีที่สุดคือการลดพฤติกรรมเสี่ ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์ เช่น การฉี ดยาเสพติดเข้าเส้น การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย หากเรา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้จะสามารถลดการเกิดอัตราติดเชื้อเหมือนที่ ประเทศไทยประสบผลสาเร็ จในการให้ใช้ถุงยาง 100 % เนื่องจากยังไม่มีการรักษาหรื อวัคซีนที่ป้องกัน โรคดังนั้นทุกคนจะต้องเรี ยนรู ้วธีป้องกันโรค ิ ใครบ้างที่เสี่ ยงต่อการติดเชื้อ HIV สมัยก่อนผูที่ติดเชื้อมักจะเป็ นพวกรักร่ วมเพศ หรื อฉี ดยาเสพติดเข้าเส้น ปั จจุบนพบว่าการติดเชื้อHIV พบได้ ้ ั ใน วัยรุ่ น คนทางาน ผูที่มีเพศสัมพันธ์กบหญิงอื่น แม่บาน คือสามารถพบได้ทวๆไป ดังนั้นทุกคนเสี่ ยงต่อการ ้ ั ้ ั่ ติดเชื้อ HIV หากไม่ป้องกันหรื อประมาท โดยเฉพาะผูที่มีพฤติกรรมเสี่ ยงต่อการติดเชื้อ ้
9.
การป้ องกันการติดเชื้อ HIV
จากเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อ HIV จะสามารถติดต่อทางเยือเมือก (mucous membranes)เช่น ปลายอวัยวะเพศชาย ่ ปาก ทวารหนัก ช่องคลอด หากเยือเมือกเหล่านี้ได้รับเชื้อ HIV จาก น้ าอสุจิ น้ าหล่อลื่นของทั้งหญิงและชาย ่ เลือด ทาให้เกิดการติดเชื้อได้ ั ้ วิธีป้องกันที่ได้ผลมากที่สุดแต่ทายากที่สุดคือการไม่มีเพศสัมพันธ์กบผูอื่น ป้ องกันตัวเองทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางที่ทาจากยาง latex condom หรื อ dental dam หากแพ้ยาง latex ให้ใช้ชนิด polyurethane condoms นอกจากการเลือกใช้ ชนิดของถุงยางแล้ว ต้องเรี ยนรู ้วธีใช้ที่ถูกต้อง ห้ามใช้สารหล่อลื่นที่เป็ นไขมันเพราะจะทาให้ถงยางรั่ว ิ ุ กิจกรรมอะไรที่เสี่ ยงและไม่เสี่ ยงต่อการติดเชื้อ HIV การช่วยตัวเอง การกอดรัดเล้าโลม การจูบ พวกนี้มีโอกาสการติดเชื้อต่า การมีเพศสัมพันธ์ท้ งทางทวารและช่องคลอดจะมีโอกาสเสี่ ยงต่อการติดเชื้อสูง ั การมีเพศสัมพันธ์ทางปากก็มีความเสี่ ยง ดังนั้นต้องใส่ถุงยางป้ องกัน การป้ องกันการติดเชื้อสาหรับผูที่ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น ้ เชื้อ HIV สามารถติดต่อผ่านทางเข็มฉี ดยาที่ใช้ร่วมกัน เข็มดังกล่าวจะปนเปื้ อนเลือด ดังนั้นวิธีป้องกันการติด เชื้อทาได้ดงนี้ ั หยุดยาเสพติดและเข้ารับการบาบัดเพื่อหยุดยาเสพติด หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉี ดยาร่ วมกัน ให้ใช้เข็มใหม่ทุกครั้ง สาหรับผูที่ยงไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เข็มร่ วมกัน ก็ให้ลางเข็มให้สะอาดด้วยน้ าโดยการฉี ดล้าง ้ ั ้ กระบอกฉี ดยา และแช่เข็มในน้ ายาฆ่าเชื้อ 1 นาที การป้ องกันการติดเชื้อ HIV ในคนท้อง เด็กที่คลอดจากแม่ที่มีเชื้อ HIV สามารถรับเชื้อจากแม่ขณะตั้งครรภ์ และการคลอด ปั จจุบนหากทราบว่าคน ั ท้องมีเชื้อ HIV สามารถให้ยา AZT ซึ่งสามารถลดอัตราการติดเชื้อลง การป้ องกันการติดเชื้อ HIV หลังสัมผัสโรค
10.
ทางการแพทย์มีประสบการณ์เกี่ยวกับการป้ องกันการติดเชื้อ HIV
หลังสัมผัสโรคโดยศึกษาในเจ้าหน้าที่ สาธารณะสุขที่ถูกเข็มตา พบว่าหากให้ AZT หลังถูกเข็มตาจะสามารถลดอุบติการณ์ลงได้ร้อยละ 80 จาก ั ความรู ้น้ ีสามารถนามาใช้กบการสัมผัสโรคHIVโดยทางเพศสัมพันธ์ ก็น่าจะให้ยาป้ องกันได้ การป้ องกันดี ั ที่สุดคือไม่มีเพศสัมพันธ์ การใส่ถุงยาง การมีเพศสัมพันธ์แบบ safer sexual practices หลีกเลี่ยง ่ พฤติกรรมที่เสี่ ยง สาหรับผูที่มีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ป้องกันไม่วาทางทวารหรื อทางปกติ oral sex กับผู ้ ้ ที่ติดเชื้อ HIV หรื อกลุ่มเสี่ ยง เช่นผูที่ติดยาเสพติด รักร่ วมเพศ ควรจะได้รับยาป้ องกันภายใน 3 วันหลัง ้ สัมผัส และหากท่านทราบว่าตัวเองติดเชื้อ HIV และไปร่ วมเพศกับคนที่ไม่ได้ติดเชื้อท่านต้องแจ้งให้คู่ขา ทราบภายใน 72 ชัวโมงเพื่อที่คู่ขาจะได้รับยาป้ องกันการติดเชื้อ HIV ่
Descargar ahora