SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 60
Descargar para leer sin conexión
ONET
.
. .
. .
( – )
( )
. __( )__ __( )__
. . .
. .
. . .
. .
( )
. . .
)
)
)
)
.
. .
. .
.
. .
. .
1
. . .
__ .__
__ .__
. . .
. .
. . .
. .
. . .
___ .___ ___ .___
. . .
. .
. . .
. .
. . .
.
. .
. .
.
. .
. .
. . .
2
.
. .
. .
.
. .
. .
. . .
.
. .
. .
.
. .
. .
. . .
)
)
)
)
.
. ) . )
. ) . )
.
. ) ) . ) )
. ) ) . ) )
3
. . .
( ) . . ( ).
. , , .
. , , .
( ) . , , . ( ).
. Carthamus tinctorius
L. Compositae .
[- ] . . ( . ).
.
. .
. .
. “ ”
. .
. .
. . .
. . . . . .
:
.
.
. .
. .
.
. . _______ . . _______
. . _______ . . ________
4
.
___ .___
___ .___
. . .
. .
. . .
. .
( – )
. .
- .
- .
- .
- .
. .
. .
.
. .
. .
–
. .
5
. . .
.
.
.
.
.
. .
. .
.
“
”
.
.
.
.
.
“ ”
.
.
.
.
.
. – .
6
.
.
.
.
–
.
.
.
.
.
.
. .
. .
.
“
”
. .
. .
7
.
“
”
. .
. .
.
. .
. .
.
. .
. .
.
. =
+ =
. .
. .
–
,
–
8
.
.
.
.
.
.
. .
. .
.
. .
. .
.
.
.
.
.
–
.
.
.
.
.
9
.
.
.
.
.
.
. .
. .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
10
.
.
.
.
.
.
. . http://www. thailand.com
. .
. .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
. .
11
.
) /
) /
) /
)
. .
. .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
12
.
“ ” .... ....
.
.
.
.
.
. .
.
.
.
.
. /
. /
.
/
. /
“ ”
-
–
___ ___
___ ___
. .
.
.
.
.
13
. .
.
.
.
.
.
) “ ” /
) /
) /
)
. .
. .
.
.
. .
.
. “ ”
. “ ”
.
.
.
.
.
. “ ”
. “ ”
. “ ”
. “ ”
14
.
.
.
.
.
. “ ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
15
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
) /
) /
) /
)
. .
. .
.
.
.
16
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
) /
) /
) /
)
. .
. .
.
.
.
.
.
17
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
) /
) /
) /
)
. .
. .
.
.
.
.
.
18
.
______
. .
. .
.
.
/
) /
) /
)
. .
. .
.
. .
. .
–
( ) ( )
( ) ( )
.
. .
. .
19
.
. .
. .
–
.
.
.
.
.
. .
. .
.
. .
. .
–
.
.
.
.
20
.
. .
. .
.
. .
. .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
)
)
)
)
21
. ) ) . ) )
. ) ) . ) )
.
)
)
)
)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
22
.
. .
. .
.
.
.
.
.
.
. .
. .
.
.
.
.
.
23
O-NET
.
( )
.
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
. / /
.
24
.
.
/ /
/ /
/ /
/ /
/ /
.
-
-
-
( )
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
( )
.
25
.)
.)
/
/
/
/
/
/
/
/
/
.
26
.
[ ]
/ /
/ / ( )
.
( )
( )
- - - -
27
. (O-NET )
.
.
.
.
. (O-NET )
.
.
.
.
. (O-NET )
.
.
.
.
. (O-NET )
.
.
.
.
. (O-NET )
.
.
.
.
28
. ( ) (O-NET )
.
.
.
.
. (O-NET )
.
. “ ”
.
. S
- (O-NET )
. .
. .
.
. .
. .
.
. .
. .
.
. .
. .
.
. .
. .
- (O-NET )
.
.
.
.
29
.
. .
. .
. .
. .
.
. .
. .
. ( )
. .
. .
.
. .
. .
.
.
.
.
.
.
. .
. . .
. ( )
“ ”
. .
. .
.
.
.
.
.
30
.
.)
.)
.
-
-
- -
- -
.
.
.
31
- -
- -
- -
- -
- -
-
.
-
- - -
-
-
-
- - -
- - - -
- -
- -
- - -
32
.
-
- -
-
-
-
-
-
-
- - - - - -
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
33
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
*************************************
.
.
.)
.)
.
.
.
.
.
34
.)
.)
.
.
.
..... ...........................................................................................................
....... ..........................................................................................
.
..........................................................................
...........................................................................
..........................................................................
.
.................................. ............................................................................
.................................... ..........................................................................
..................................... ...................................................................
.
. ................................................................................................................................
. ........................................................................................................................
. ...............................................................................................................................
. ...........................................................................................................................
. ............................................................................................................................
. ............................................................................................................................
35
. ..............................................................................................................................
.
.
.
.
.
.
. ( Slang )
.
“ ”
-
)
)
)
)
)
)
)
)
)
)
)
36
-
-
.
)
)
)
)
)
)
) +
) +
) +
.
)
) (
) ( )
)
)
)
)
)
)
37
) +
) ……………………………………………………………
) ……………………………………………………………
) ……………………………………………………………
) ……………………………………………………………
) ……………………………………………………………
.
)
)
)
. ,
.
+ =
.
+ =
+ =
. ,
.
+ = ,
+ =
......
......
......
…..
.....
.....
,
,
.....
.....
......
…..
38
.
+ = ,
.
+ = + =
. ,
.
+ = ,
+ =
.
+ = ,
.
+ = +
. +
+ =
. +
+ =
+ =
. + =
+ =
+ =
. + =
+ =
+ =
. + = .
+ = +
+ = +
.....
..... ,
.....
.....
......
…..
.....
..... ,
39
.. ( )
.
.
.
.
.
.
.
.
.
. ( )
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
. .
. .
O-NET
40
.
) / ) / )
/ )
. .
. .
.
. .
. .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
41
.
. .
. .
.
.
.
.
.
.
. .
. .
. ( )
. .
. .
.
. .
. .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
42
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
. .
. .
.
.
.
.
.
43
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
) / )
/ )
/ ) /
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
44
.
.
.
.
.
.
****************************************
.)
( ) (
)
( )
.)
.
45
.)
( )
.
.
.
. .
- …
. .
46
. .
. .
.
.
.
.
•
•
•
.
•
•
•
47
.
•
•
************************************************************
O-NET
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
48
.
.
.
.
.
O-NET
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
( ) ( )
( ) ( )
.
.
.
.
O-NET
.
.
.
.
.
49
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
O-NET
.
.
.
.
. . .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
50
02/02/55
1
อาจารยอาจารยสุพัตราสุพัตราอุตมังอุตมังสรุปสาระหลักการใช้ภาษาในข้อสอบO-NET
๑.เสียง
๒.อักษร
๓.คํา
๔.ประโยค
คําในภาษาไทยประกอบด้วยเสียง๓
ชนิดได้แก่
เสียงพยัญชนะ
เสียงสระ
เสียงวรรณยุกต์
๑.๑เสียงพยัญชนะ
พยัญชนะไทยมี๔๔รูป๒๑เสียงโดยมี
หนาที่ดังนี้หนาทดงน
๑.เสียงพยัญชนะตน
ก.เสียงพยัญชนะตนเดี่ยว
๒๑เสียงเชนบานสวยงาม
ข.เสียงพยัญชนะตนควบญ
เปนเสียงพยัญชนะตน๒เสียงปรากฏเฉพาะใน
ตําแหนงตนพยางคไดแกกขคตพผปทที่ควบกับ
รลวเชนความพรอมเปลาฯลฯ
02/02/55
2
๑.เสียงควบกลํ้าที่ได้รับอิทธิพลมาจาก
ภาษาต่างประเทศมี๕เสียงได้แก่
/บร/เช่นเบรกบรั่นดี/บร/เชนเบรกบรนด
/บล/เช่นบล็อก
/ดร/เช่นดรีมดรัมเมเยอร์
/ฟร/เช่นฟรีเฟรนด์
/ฟล/เช่นแฟลตฟลูออรีนส์
๒.อักษรนําและคําที่เขียนดวยทรออกเสียงเปนซ
คําเหลานี้ไมจัดเปนเสียงพยัญชนะตนควบไดแก
คําที่ใชหนําพยัญชนะตํ่าเดี่ยวเชนหมอใหญ
หวานหวาน
อนํายไดแกอยาอยูอยางอยาก
คําที่เขียนดวยทรแตออกเสียงซเชนทรายไทร
พุทรา
เสียงพยัญชนะท้ายหรือพยัญชนะสะกด
แม่กกใช้รูปพยัญชนะกขคฆ
แม่กดใช้รปพยัญชนะจชซฎฏแมกดใชรูปพยญชนะจชซฎฏ
ฐฑฒดตถทธศษส
แม่กบใช้รูปพยัญชนะบปพภฟ
แม่กงใช้รูปพยัญชนะง
แม่กนใช้รูปพยัญชนะนณญรลฬู
แม่กมใช้รูปพยัญชนะม
แม่เกยใช้รูปพยัญชนะย
แม่เกอวใช้รูปพยัญชนะว
ข้อสังเกต
๑.คําบางไม่ปรากฏรูปพยัญชนะสะกดแต่ปรากฏเสียง
พยัญชนะสะกดได้แก่พยางค์อําไอใอเอาเช่นขําไว้ใจ
เรา
๒.คําบางคํามีรูปพยัญชนะสะกดที่มีรูปสระกํากับแต่รูปสระ
นั้นไม่ออกเสียงเช่นธาตุเมรุญาติ
๓.พยัญชนะทุกตัวเป็นตัวสะกดได้ยกเว้น๙ตัวที่เป็น
ตัวสะกดไม่ได้ได้แก่.....ฃฅฉฌผฝหอฮ(ฃวดฅนฉิ่ง
เฌอผ้าฝาหีบอ่างฮูก)
๑.๒เสียงสระ
เสียงสระในภาษาไทยมี๒๑เสียงแบ่งเป็นสระเสยงสระในภาษาไทยม๒๑เสยงแบงเปนสระ
เดี่ยว๑๘เสียงสระประสม๓เสียง
02/02/55
3
สระเดี่ยว
สระเดี่ยวมี๑๘เสียงแบ่งเป็นสระเสียงสั้น
๙เสียงสระเสียงยาว๙เสียงดังนี้๙เสยงสระเสยงยาว๙เสยงดงน
สระเสียงสั้นสระเสียงยาว
อะ
อิ
อึ
อา
อี
อื
อุ
เอะ
แอะ
เออะ
โอะ
เอาะ
อู
เอ
แอ
เออ
โอ
ออ
สระประสม
สระประสมหรือสระเลื่อนเกิดจากการประสม
ของสระเดี่ยว๒เสียงเมื่อเริ่มออกเสียงที่สระ
ึ่้ื่ไปี่ึ่ัี้หนึงแลวเลือนไปทีสระหนึงดงนี
สระประสมสระเดี่ยวสระเดี่ยว
เอียะเอีย
ื/ื
อิ/อี
ึ/ื
อะ/อา
/เออะ/เออ
อัวะ/อัว
อ/ออ
อุ/อู
อะ/อา
อะ/อา
ข้อสังเกต
๑.สระอําไอใอเอาฤฤๅฦฦๅปัจจุบันถือเป็นพยางค์
เนื่องจากประกอบด้วยพยัญชนะต้นสระเสียงวรรณยุกต์
และเสียงพยัญชนะสะกดที่ไม่ปรากฏรปดังนี้และเสยงพยญชนะสะกดทไมปรากฏรูปดงน
อําเป็นพยางค์ที่มีเสียงมเป็นพยัญชนะสะกด
ไอใอเป็นพยางค์ที่มีเสียงยเป็นพยัญชนะสะกด
เอาเป็นพยางค์ที่มีเสียงวเป็นพยัญชนะสะกด
ฤฤๅมีเสียงพยัญชนะต้นรเสียงสระอึและอือ
ตามลําดับและมีเสียงวรรณยุกต์ตรีและสามัญ
ํัตามลําดับ
ฦฦๅมีเสียงพยัญชนะต้นลเสียงสระอึและอือ
ตามลําดับและมีเสียงวรรณยุกต์ตรีและสามัญ
ตามลําดับ
02/02/55
4
๒.สระบางเสียงในบางคําที่ออกเสียงสั้น
ยาวต่างกับรูปเขียน
อีกรูปเขียนเป็นเสียงยาวแต่ออกเสียงเป็นเสียงสั้น
[อิก]เช่น
ลองอีกทีอาจสําเร็จได้ลองอกทอาจสาเรจได
เกิดเหตุร้ายอีกแล้ว
ออกเสียงเป็นเสียงยาวได้เมื่อเน้นเสียงเช่น
พูดอีกก็ผิดอีก
นํ้ารูปเป็นอําแต่ออกเสียงยาว/น้าม/เช่น
จงประหยัดนํ้า
้้ออกเสียงสั้น/นั้ม/(ในคําประสม)เช่น
นํ้าแข็งที่จําหน่ายในท้องตลาดขณะนี้ยังไม่สะอาดพอ
๑.๓เสียงวรรณยุกต์
วรรณยุกต์คือระดับเสียงสูงตํ่าที่ทําให้คําเปลี่ยน
ี๔ป๕ีัี้ีัีความหมายม๔รูป๕เสยงดงนเสยงสามญเสยง
เอกเสียงโทเสียงตรีเสียงจัตวาแต่มีเครื่องหมายแทน
เสียงวรรณยุกต์เพียง๔รูปคือ
ไตรยางศ์คําเป็นคําตาย
อักษรกลาง๙ตัว
กจฎฏดตบปอ
เสียงสามัญ
บาน
เสียงเอก
บาด
อักษรสูง๑๑ตัว
ขฃฉฐถผฝศษสห
เสียงจัตวา
ขา
เสียงเอก
ขาดฐ
อักษรตํ่า
อักษรตํ่าเดี่ยว๑๐ตัว
งญนยณรวมฬล
อักษรตํ่าคู่๑๔ตัวค
ฅฆชฌฑฒทธพ
ภฟซฮ
เสียงสามัญ
แคน
สระเสียงสั้นเสียงตรี
คะคัด
สระเสียงยาวเสียงโท
คาดแนบ
เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยเกี่ยวข้องกับ
คําเป็น
ประสมตัวสะกดแม่กนกงกมเกยเกอวประสมตวสะกดแมกนกงกมเกยเกอว
ประสมด้วยสระเสียงยาว
คําที่ประสมสระอําไอใอเอาฤๅฦๅ
คําตาย
ประสมด้วยสระเสียงสั้นแม่กดกบกกประสมดวยสระเสยงสนแมกดกบกก
ประสมด้วยสระเสียงสั้นแม่เกยเกอว
02/02/55
5
เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยแบ่งตามระดับเสียงได้
๒ประเภท
วรรณยุกต์ระดับเสียงค่อนข้างคงที่ทั้งตลอดพยางค์
ีัเสียงสามัญ
เสียงเอก(เสียงตํ่า)
เสียงตรี(เสียงสูง)
วรรณยุกต์เปลี่ยนระดับเสียงเปลี่ยนแปลงมากระหว่าง
ต้นพยางค์กับตอนท้าย
่่เสียงโทเปลียนจากระดับสูงมาตํา
เสียงจัตวาเปลี่ยนจากตํ่าไปสูง
๑.ขอใดมีเสียงวรรณยุกตครบ๕เสียง(O-NET๕๐)
๑.เจาคุมแคนแสนโกรธพิโรธพี่
ตัวอย่างข้อสอบเรื่องเสียงในภาษาไทย
๒.แตเดือนยี่จนยางเขาเดือนสาม
๓.จนพระหนอสุริยวงศทรงพระนาม
๔.จากอารามแรมรางทางกันดาร
เฉลยข้อ๑
เจ้าเสียงวรรณยุกต์โท
คุมเสียงวรรณยุกต์สามัญ
แค้นเสียงวรรณยกต์ตรีแคนเสยงวรรณยุกตตร
แสนเสียงวรรณยุกต์จัตวา
โกรธเสียงวรรณยุกต์เอก
พิเสียงวรรณยุกต์ตรี
โรธเสียงวรรณยุกต์โท
๒.ขอใดไมมีสระประสม(O-NET๕๐)
๑.ใครดูถูกผูชํานาญในการชาง
๒ความคิดขวางเฉไฉไมเขาเรื่อง๒.ความคดขวางเฉไฉไมเขาเรอง
๓.เหมือนคนปาคนไพรไมรุงเรือง
๔.จะพูดดวยนั้นก็เปลืองซึ่งวาจา
เฉลยข้อ๑
สระประสม
ีืัสระเอียเอืออัว
02/02/55
6
๓.ตามธรรมชาติของภาษาข้อใดไม่ใช่ลักษณะทั่วไปของ
ภาษา(O-NET๕๑)
๑.คําเกิดจากการนําเสียงในภาษามาประกอบกันเข้า
๒.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่๖เขียนเรียงความส่งเข้า
ประกวด
๓.ประโยคนี้มี๒ประโยครวมกันโดยใช้คําเชื่อมช่วย
เชื่อมความ
๔.ปัจจุบันคนไทยหลายคนพูดเสียงพยัญชนะควบกลํ้า
ไม่ได้เลย
เฉลยข้อ๒
ลักษณะทั่วไปของภาษา
ใช้เสียงสื่อความหมาย
ประกอบด้วยหน่วยที่เล็กที่สุดเป็นหน่วยใหญ่ขึ้นไป
เรื่อยๆไม่จํากัด
มีลักษณะเหมือนและต่างกัน
มีการเปลี่ยนแปลง
๔.ข้อใดไม่มีเสียงวรรณยุกต์จัตวา(O-NET๕๑)
๑.พระเหลือบลงตรงโตรกชะโงกเงื้อม
๒.นํ้ากระเพื่อมแผ่นผาศิลาเผิน
๓.กระจ่างแจ้งแสงจันทร์แจ่มเจริญ
๔.พระเพลิดเพลินพลางเพรียกสําเหนียกใจ
เฉลยข้อ๑
ข้อ๒เผิน
ข้อ๓แสง
ข้อ๔สําเหนียก
๕.ข้อใดประกอบด้วยพยางค์ที่ออกเสียงสระยาว
ทุกคํา(O-NET๕๑)
๑.วิ้งว้างเงินผ่อนแบ่งแยก
๒.วี้ดว้ายเชิญชวนคลอนแคลน
๓.พล้เพล้ร่องแร่งจองหอง
๔.รีดกรายร่อนเร่ลอดช่อง
เฉลยข้อ๒
คําที่ออกเสียงสระเสียงสั้นเงินผ่อน
ร่องแร่งลอดช่องรองแรงลอดชอง
02/02/55
7
๖.ข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นมากที่สุด
(ไม่นับเสียงซํ้า)(O-NET๕๑)
๑.ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง
ไ๒.คงจะต้องบังคับขับไส
๓.เคี่ยวเข็ญเย็นคํ่ากรําไป
๔.ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย
เฉลยข้อ๔
เสียงพยัญชนะต้นได้แก่
๑.ครมปจข๕
๒.คจตบส๕
๓.คยกรป๔
๔.ตวสชผปน๗
๗.ตามธรรมชาติของภาษาข้อใดไม่ใช่ลักษณะทั่วไปของภาษา
(O-NET๕๒)
๑.ครูประจําชั้นกวักมือเรียกเด็กนักเรียนไปเข้าแถวที่สนาม
๒.คําว่า“บัตรเติมเงิน”เป็นคําประสมที่ใช้ในภาษาไทยไม่
นานนัก
๓.คุณวิมลเล่าว่าลูกสาวอายุ๒ขวบพูดเก่งขึ้นใช้ประโยคได้
ยาวกว่าเมื่อก่อนมาก
๔.เด็กชายทองไม่สามารถออกเสียงคําภาษาอังกฤษที่มีเสียง
ตัวSสะกดได้เพราะเสียงสะกดนี้ไม่มีในภาษาไทย
เฉลยข้อ๑ไม่ได้ใช้เสียงสื่อความหมาย
ลักษณะทั่วไปของภาษา
ใช้เสียงสื่อความหมาย
ประกอบด้วยหน่วยที่เล็กที่สุดเป็นหน่วยใหญ่ขึ้นไป
เรื่อยๆไม่จํากัด
มีลักษณะเหมือนและต่างกัน
มีการเปลี่ยนแปลง
ใช้คําประพันธ์ต่อไปนี้ตอบคําถามข้อ๘-๑๑(O-NET๕๒)
ก.จะหาจันทน์กฤษณานั้นหายาก
ข.เหมือนคนมากมีดื่นนับหมื่นแสน
ค.จะประสงค์องค์ปราชญ์ก็ขาดแคลนญ
ง.เสมอแม้นจันทน์แดงแรงราคา
๘.ข้อใดไม่มีเสียงวรรณยุกต์โท
๑.ข้อก๒.ข้อข
๓.ข้อค๔.ข้อง
เฉลยข้อ๔ข้อง
กคําว่ายาก
ขคําว่ามาก
คคําว่าก็
02/02/55
8
ก.จะหาจันทน์กฤษณานั้นหายาก
ข.เหมือนคนมากมีดื่นนับหมื่นแสน
ค.จะประสงค์องค์ปราชญ์ก็ขาดแคลน
งเสมอแม้นจันทน์แดงแรงราคาง.เสมอแมนจนทนแดงแรงราคา
๙.ข้อใดมีเสียงสระประสม
๑.ข้อก๒.ข้อข
๓.ข้อค๔.ข้อง
เฉลยข้อ๒
สระประสม
เอีย
เอือ
อัว
คําว่าเหมือน
ก.จะหาจันทน์กฤษณานั้นหายาก
ข.เหมือนคนมากมีดื่นนับหมื่นแสน
ค.จะประสงค์องค์ปราชญ์ก็ขาดแคลน
งเสมอแม้นจันทน์แดงแรงราคาง.เสมอแมนจนทนแดงแรงราคา
๑๐.ข้อใดมีอักษรกลางน้อยที่สุด
๑.ข้อก๒.ข้อข
๓.ข้อค๔.ข้อง
เฉลยข้อ๒
อักษรกลาง๙เสียงกจฎฏดตบปอ
ข้อกมี๔คําจะจันทน์กฤษณายาก
ข้อขมี๑คํามาก
ข้อคมี๖คําจะประสงค์องค์ปราชญ์ก็ขาด
ข้องมี๒คําจันทน์แดง
ก.จะหาจันทน์กฤษณานั้นหายาก
ข.เหมือนคนมากมีดื่นนับหมื่นแสน
ค.จะประสงค์องค์ปราชญ์ก็ขาดแคลน
งเสมอแม้นจันทน์แดงแรงราคาง.เสมอแมนจนทนแดงแรงราคา
๑๑.ข้อใดมีจํานวนพยางค์มากที่สุด
๑.ข้อก๒.ข้อข
๓.ข้อค๔.ข้อง
เฉลยข้อ๑
ข้อก๙พยางค์
ข้อข๘พยางค์
ข้อค๘พยางค์
ข้อง๘พยางค์
02/02/55
9
ใช้คําประพันธ์ต่อไปนี้ตอบคําถามข้อ๑๒-๑๖(O-NET๕๓)
ก.โบราณว่าเป็นข้าจอมกษัตริย์
ข.ราชสวัสดิ์ต้องเพียรเรียนรักษา
ค.ท่านกําหนดจดไว้ในตํารา
ง.มีมาแต่โบราณช้านานครัน
๑๒.ข้อใดมีเสียงสระประสม
๑.ข้อก๒.ข้อข
๓.ข้อค๔.ข้อง
เฉลยข้อ๒
คําว่าเพียรเรียน
ก.โบราณว่าเป็นข้าจอมกษัตริย์
ข.ราชสวัสดิ์ต้องเพียรเรียนรักษา
ค.ท่านกําหนดจดไว้ในตํารา
ง.มีมาแต่โบราณช้านานครัน
่๑๓ข้อใดมีคําที่ออกเสียงอักษรควบ
๑.ข้อก๒.ข้อข
๓.ข้อค๔.ข้อง
เฉลยข้อ๔
คําว่าครัน
ก.โบราณว่าเป็นข้าจอมกษัตริย์
ข.ราชสวัสดิ์ต้องเพียรเรียนรักษา
ค.ท่านกําหนดจดไว้ในตํารา
งมีมาแต่โบราณช้านานครันง.มมาแตโบราณชานานครน
๑๔.ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบ5เสียง
๑.ข้อก๒.ข้อข
๓.ข้อค๔.ข้อง
เฉลยข้อ๒
ราชเสียงโท
สวัสดิ์เสียงเอก
ต้องเสียงโทตองเสยงโท
เพียรเสียงสามัญ
เรียนเสียงสามัญ
รักเสียงตรี
ษาเสียงจัตวา
02/02/55
10
ก.โบราณว่าเป็นข้าจอมกษัตริย์
ข.ราชสวัสดิ์ต้องเพียรเรียนรักษา
ค.ท่านกําหนดจดไว้ในตํารา
งมีมาแต่โบราณช้านานครันง.มมาแตโบราณชานานครน
๑๕.ข้อใดมีอักษรตํ่าน้อยที่สุด(ไม่นับอักษรที่ซํ้ากัน)
๑.ข้อก๒.ข้อข
๓.ข้อค๔.ข้อง
เฉลยข้อ๓
ข้อกรณวมตย
ข้อขรชวงพยน
ข้อคทนวร
ข้องมรณชนค
ก.โบราณว่าเป็นข้าจอมกษัตริย์
ข.ราชสวัสดิ์ต้องเพียรเรียนรักษา
ค.ท่านกําหนดจดไว้ในตํารา
ง.มีมาแต่โบราณช้านานครันง.มมาแตโบราณชานานครน
๑๖.ข้อใดมีอักษรนํา
๑.ข้อกและข๒.ข้อขและค
๓.ข้อคและง๔.ข้องและก
เฉลยข้อ๒
สวัสดิ์
กําหนด
๑๗.ข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยวซํ้ากันมากที่สุด
๑.นุ่งยกนอกดอกวิเศษเกล็ดพิมเสน
๒.โจงกระเบนประคดคาดไม่หวาดไหว
๓.บ้างใส่เสื้อส้าระบับเข้มขาบใน
๔.ข้างนอกใส่กรุยกรองทองสําริด
เฉลยข้อ๓
ใส่เสื้อส้าเข้มขาบ๕เสียง
02/02/55
11
๑๘.ข้อใดมีคําที่ประกอบด้วยเสียงสระประสมทุก
คํา
๑.เฟื่องฟ้ารํ่ารวยเสียหน้า
่้๒.มัวหมองเชือใจเลิศลํา
๓.เปรี้ยวปากเกรอะกรังพรํ่าเพรื่อ
๔.เรื่องราวเพลี่ยวพลํ้าแท่นพิมพ์
เฉลยข้อ๑
๑.เฟื่องฟ้ารํ่ารวยเสียหน้า
สระเอียเอืออัว
๑๙.คําขวัญต่อไปนี้มีเสียงพยัญชนะสะกดกี่เสียง(ไม่
นับเสียงซํ้า)
“รักในหลวงห่วงลูกหลานช่วยกันต้านยาเสพติด”
๑๕เสียง๑.๕เสยง
๒.๖เสียง
๓.๗เสียง
๔.๘เสียง
เฉลยข้อ๒
“รักในหลวงห่วงลูกหลานช่วยกันต้านยาเสพติด”
รักลูกแม่กก
ในช่วยแม่เกยในชวยแมเกย
หลวงห่วงแม่กง
หลานกันต้านแม่กน
เสพแม่กบ
ติดแม่กด
๒๐.ข้อใดไม่มีเสียงสระประสม
๑.มโนมอบพระผู้เสวยสวรรค์
๒.พูดมากเปล่าเปลืองปนปดเหล้น
๓.สิ่งใดในโลกล้วนเปลี่ยนแปลง
๔.คําแสลงเสียดแทงระคนคําหยาบหยอกฤๅ
เฉลยข้อ๑
๑.มโนมอบพระผู้เสวยสวรรค์
สระประสมเอียเอืออัว
02/02/55
12
สิ่งที่นักเรียนควรรู้เกี่ยวกับอักษรมีดังนี้
๒.๑การสะกดคํา
๒.๒การอ่านออกเสียงคําไทยที่มาจาก
ีัภาษาบาลีและสันสกฤต
๑.สระ
๒.พยัญชนะ
๓.วรรณยุกต
๒.๑การสะกดคํา
การเขียนสะกดคําให้ถูกต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ
ดังนี้
๑.)คําพ้องเสียงคือคําที่เขียนต่างกันออกเสียง
ืั่ั่เหมือนกันความหมายต่างกันเช่น
ประพาสแปลว่าเที่ยว
ประพาตแปลว่าพัดกระพือ
ประภาษแปลว่าพูด
ประภาสแปลว่าแสงสว่าง
๒.๒การอ่านออกเสียงคําไทยที่มาจากภาษา
บาลีและสันสกฤต
๑.สระ
−ถ้าไม่มีรูปสระให้อ่านออกเสียงโอะเช่น
กมลอ่านว่ากะ-มน
−ถ้ามีรูปสระให้ออกเสียงตามรูปสระและพยัญชนะสะกด
เช่น
วิวิธอ่านว่าวิ-วิด
−คําที่มีตัวรออกเสียงออเช่น
กรกฎอ่านว่ากอ-ระ-กด
หรดาลอ่านว่าหอ-ระ-ดาน
−ถ้ามีสระอิอุกํากับอยู่ท้ายพยางค์ไม่ออกเสียงุู
เช่น
เกตุอ่านว่าเกด
เมรุอ่านว่าเมน
มาตุอ่านว่ามาด
−ถ้ามีสระอิอุกํากับอยู่ท้ายพยางค์และนําไป
รวมกับคําใหม่ต้องออกเสียงอิอุด้วย
ชาติพันธ์อ่านว่าชาดติพันชาตพนธุอานวาชาด-ต-พน
มาตุภูมิอ่านว่ามา-ตุ-พูม
ญาติธรรมอ่านว่ายาด-ติ-ทํา
02/02/55
13
−คําสมาสที่ไม่มีรูปสระประสมอยู่ให้ออกเสียงอะ
ที่ท้ายคําหน้าเช่น
ราชการอ่านว่าราด-ชะ-กาน
เอกสารอ่านว่าเอก-กะ-สาน
ข้อสังเกต
๑.คําบางคําอ่านออกเสียงได้๒แบบคือ
ตามหลักภาษาและตามความนิยมเช่น
วุฒิอ่านออกเสียงได้๒แบบคือวุด-ทิและวุด
๒.พยัญชนะมีข้อสังเกตดังนี้
−อักษรฑออกเสียงดตามในบาลีสันสกฤตเช่น
บัณฑิตบัณเฑาะว์บัณฑุ
ออกเสียงทตามภาษาไทยเช่นกุณฑลกุณฑี
ทัณฑฆาต
−ไม่ออกเสียงควบกลํ้าตามแบบบาลีสันสกฤต
แต่คงรูปการเขียนไว้เช่น
ศรีอ่านว่าสี
ศรัทธาอ่านว่าสัด-ทา
ศฤงคารอ่านว่าสิง-คานหรือ
สะ-หริง-คาน
−ทรบางคําไทยออกเสียงเป็นคําควบแท้บางคําเป็น
ควบไม่แท้
นิทราอ่านว่านิด-ทรา
จันทราอ่านว่าจัน-ทรา
ทรัพย์อ่านว่าซับ
พุทราอ่านว่าพุด-ซา
หากมีรและลตามพยัญชนะอื่นการอ่านคําในภาษาบาลี
สันสกฤตจะออกเสียงแยกพยางค์ไม่ควบกลํ้า
กรัชกายอ่านว่ากะ-รัด-ชะ-กาย
เทวนาครีอ่านว่าเท-วะ-นา-คะ-รี
กรณาอ่านว่ากะ-ร-นากรุณาอานวากะรุนา
กเลวระอ่านว่ากะ-เลว-ระ
ปรัมปราอ่านว่าปะ-รํา-ปะ-รา
ยกเว้นคําว่าปรามาสปรากฏปราณปริศนาครุ
ครุฑปรึกษาอ่านแบบอักษรควบ
02/02/55
14
๓.วรรณยุกต์
−คํายืมภาษาบาลีสันสกฤตที่มีพยัญชนะ๒ตัวเรียงกัน
ไทยอ่านเหมือนอักษรนําเช่น
กนกอ่านว่ากะหนกกนกอานวากะ-หนก
กษณะอ่านว่ากะ-สะ-หนะ
จริตอ่านว่าจะ-หริด
ผลิตอ่านว่าผะ-หลิด
−คําที่มีรูปสระกํากับบางคํานิยมอ่านแบบอักษรนําเช่น
ประโยชน์อ่านว่าประ-โหยด
ประมาทอ่านว่าประ-หมาด
ดิลกอ่านว่าดิ-หลกดลกอานวาดหลก
บัญญัติอ่านว่าบัน-หยัด
บางคําอ่านได้๒แบบเช่นสมรรถภาพอ่านว่า
สะ-หมัด-ถะ-พาบหรือสะ-มัด-ถะ-พาบ
ตัวอย่างข้อสอบเรื่องอักษร
๑.ข้อใดสะกดถูกทุกคํา
๑.เที่ยวประพาสในพนมพนาสัณฑ์
้๒.ทิศประจิมริมฐานมนฑปนัน
๓.ประณมหัตถ์ทักษิณเกษมสันต์
๔.กระแสสินธ์สายชลเป็นวนวัง
เฉลยข้อ๑
ประพาสก.ไปต่างถิ่นหรือต่างแดน
พนาสัณฑ์น.ราวป่า, แนวป่า, ทิวไม้, ป่าสูง, ป่าดง,
มณฑป[มนดบ]นเรือนยอดขนาดใหญ่มีรปสี่เหลี่ยมจัตรัสหรือเป็นรปมณฑป[มนดบ]น.เรอนยอดขนาดใหญมรูปสเหลยมจตุรสหรอเปนรูป
ตัดมุมหรือย่อไม้แปดย่อไม้สิบสองยอดหลังคาเป็นทรงจอมแห,ใช้ว่า
มรฑปก็มี
ประนมก.ยกกระพุ่มมือ,ยกมือขึ้นกระพุ่ม
ทักษิณน.ทิศใต้ใช้ว่าทิศทักษิณ
สินธุ์(กลอน)น.ลํานํ้า,แม่นํ้า,สายนํ้า,นํ้า,ทะเล,มหาสมุทร
๒.ข้อใดสะกดถูกทุกคํา
๑.ท่าทางชายคนนั้นดูลอกแล่กเลิกลั่กไม่น่าไว้ใจเลย
๒.เขาเดินลุกลี้ลุกลนมาหาลูกของเขาพูดละลํ่าละลัก
แล้วก็หลบไป
๓.วันนี้ทําอะไรดูขลุกขลักไปหมดงานชิ้นนี้จะเสร็จอยู่รอม
ล่อก็ไม่เสร็จ
๔.รุ่งกับเรืองไม่ยอมลดลาวาศอกเถียงกันอยู่นานกว่าจะ
รอมชอมกันได้
เฉลยข้อ๒
ลอกแลกว.แสดงอาการหลุกหลิกเป็นต้นเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ตลอดเวลา
ถือกันว่าเป็นกิริยาไม่สุภาพหรือบางทีก็ส่อพิรุธด้วย.
เลิ่กลั่กว.แสดงอาการทําหน้าตาตื่นเพราะอัศจรรย์ใจแปลกใจหรือตกใจเป็น
ต้น.
รอมร่อ[รอมมะร่อ]ว.ในระยะทางหรือเวลาอันใกล้จวนเจียนเช่นจะสําเร็จ
การศึกษาอยู่รอมร่อจะถึงบ้านอยู่รอมร่อ,รํามะร่อก็ว่า.
ลดราวาศอกก.อ่อนข้อ,ยอมผ่อนปรนให้,เช่นเถียงกันไม่ลดราวาศอกเขา
เป็นพี่ก็ต้องยอมลดราวาศอกให้เขาบ้าง
02/02/55
15
๓.ข้อใดสะกดถูกทุกคํา
๑.เขากินอาหารมังสวิรัติทุกวันพุธมาสามปีแล้ว
๒.ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านมียามรักษาการอยู่
ตลอดเวลา
๓.คนที่ซื้อทองรูปพรรณต้องจ่ายเงินค่ากําเหน็จ
ด้วย
๔.เพื่อนเห็นเขานั่งหลับจึงถามว่าเข้าฌานถึงชั้น
ไหนแล้ว
เฉลยข้อ๑
๑.ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านมียามรักษาการอยู่
ตลอดเวลา
ยามรักษาการณ์ยามรักษาเหตุการณ์
รักษาการปฏิบัติหน้าที่แทน
๔.ข้อใดมีคําสะกดผิด
๑.ดาวพระศุกร์ที่เห็นในเวลาเช้ามืดเรียกว่าดาว
ประกายพรึก
ใสสีํัั่ปป๒.ในสวนสาธารณะมคนมาออกกาลงกายกนอยูปะปาย
๓.กระบะที่ลงรักแบบญี่ปุ่นและจีนเรียกว่าเครื่องกํามะลอ
๔.ในภาวะเศรษฐกิจตกตํ่าทุกครอบครัวต้อง
กระเบียดกระเสียร
เฉลยข้อ๒
ประปรายว.มีกระจายอยู่ห่างๆเช่นผมหงอกประปราย
ผลไม้ติดประปราย,มีห่างๆเป็นระยะๆ,เรี่ยราย,เล็กน้อย,
เช่นยิงกันประปราย.
๕.ข้อใดสะกดถูกทุกคํา
๑.ถนนราดยางเต็นท์ซาบซึ้ง
๒.มาตรการภารกิจผัดวันประกันพรุ่ง
ิ์็ํ๓.ผลานิสงฆ์เกร็ดพงศาวดารดุลอานาจ
๔.ทนทายาดทุพภิกขภัยนานัปปการ
เฉลยข้อ๒
คําที่ผิดคือ
ถนนลาดยาง
์ผลานิสงส์
นานัปการ
02/02/55
16
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเรื่องคํา
๑.ความหมายของคํา
๒.ชนิดของคํา
๓.การใช้คํา
๔.การเพิ่มคํา
๑.ความหมายของคํา
พิจารณาได้เป็น๒ด้านดังนี้
๑.๑ความหมายเฉพาะแยกพิจารณาได้๒ทาง
ทางที่๑ความหมายตามตัวและความหมายเชิงอุปมา
ก.)ความหมายตามตัวหมายถึงความหมายเดิมของ
คํานั้นเช่นเก้าอี้คือที่สําหรับนั่ง
ข.)ความหมายเชิงอุปมาหมายถึงความหมายที่เกิด
จากการเปรียบเทียบกับความหมายตามตัวเช่น
หินความหมายตามตัวคือก้อนหิน
ความหมายเชิงอุปมาคือยาก
ทางที่๒ความหมายนัยตรงและความหมายนัยประหวัด
ก.)ความหมายนัยตรงเป็นความหมายที่มิได้มีเจตนาที่
จะทําให้เกิดความรู้สึกอย่างใด
ข.)ความหมายนัยประหวัดเป็นความหมายที่เกิดจาก
คํานั้นทําให้เกิดความร้สึกต่างๆกันไปอาจจะเป็นทางดีหรือไม่ดีหรือคานนทาใหเกดความรูสกตางๆกนไปอาจจะเปนทางดหรอไมดหรอ
ทางอื่นใดก็ได้เช่นหมู
ความหมายนัยตรงคืออาจหมายถึงสัตว์หรือสิ่งที่ง่ายๆไม่เกิน
ความสามารถที่จะทําได้
ความหมายนัยประหวัดเกิดความรู้สึกว่าโง่ดูถูกเพราะอยู่ใน
การควบคุม
๑.๒ความหมายเทียบเคียงกับคําอื่นแบ่งได้ดังนี้
๒.๑คําที่มีความหมายเหมือนกันหรือคําไวพจน์
คําที่ใช้ในภาษาสุภาพและไม่สุภาพเช่นก้นสุภาพกว่าตูด
คําที่ใช้ในภาษาแบบแผนเช่นหนังกับภาพยนตร์คาทใชในภาษาแบบแผนเชนหนงกบภาพยนตร
คําที่ใช้ในภาษาสําหรับเด็กกับผู้ใหญ่หรือคนสามัญกับเจ้านาย
คําที่ใช้ในการประพันธ์เช่นสุริยากับพระอาทิตย์
๒.๒คําที่มีความหมายคล้ายกันหรือร่วมกัน
ตัดก.ทําให้ขาดด้วยของมีคมเช่นตัดกระดาษตัดผ้า
หั่นก.เอาของวางลงบนที่รองรับแล้วตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ
เฉือนก.เชือดแบ่งเอาแต่บางส่วน
้้ส่งเสริมก.เกื้อหนุน, ช่วยเหลือสนับสนุนให้ดีขึ้น, เช่นส่งเสริม
การลงทุนส่งเสริมการศึกษา
สนับสนุนก.ส่งเสริม, ช่วยเหลือ, อุปการะ, เช่นสนับสนุนการ
กีฬาสนับสนุนการศึกษา
02/02/55
17
๒.๓คําที่มีความหมายตรงข้ามกัน
เรียบตรงข้ามกับ
แล้งตรงข้ามกับ
ยับ
ท่วมแลงตรงขามกบ
แดดตรงข้ามกับ
ทวม
ร่ม
๒.๔คําที่มีความหมายครอบคลุมคําอื่น
−สัตว์ปีกนกไก่เป็ด
ดอกไม้ดาวเรืองมะลิแก้ว−ดอกไมดาวเรองมะลแกว
−เครื่องเรือนเตียงตู้โต๊ะ
๒.ชนิดและหน้าที่ของคําในประโยค
ชนิดและหน้าที่ของคําในประโยคแบ่งได้เป็น๗ชนิดตามหนังสือ
หลักภาษาไทยดังนี้
๑.คํานามคําที่ใช้เรียกชื่อ
๒คําสรรพนามคําที่ใช้แทนชื่อ๒.คาสรรพนามคาทใชแทนชอ
๓.คํากริยาคําที่แสดงอาการหรือสภาพ
๔.คําวิเศษณ์คําขยาย
๕.คําบุพบทคําที่นําหน้าคําอื่นเพื่อบอกหน้าที่ของคํานั้น
๖.คําสันธานคําเชื่อม
๗.คําอุทานคําที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงความรู้สึก
๓.การใช้คํา
•ใช้ให้ตรงกับความหมายที่ต้องการจะสื่อใช้ให้
ตรงเจตนาใช้ให้ไม่กํากวม
•ใช้ให้ตรงตามความนิยมเช่นมะม่วงดกไม่ใช้
มะม่วงชุม
•ใช้คําให้เหมาะแก่กาลเทศะและบุคคล
•ใช้คําไม่ซํ้าซาก
•ใช้คําร่วมกับคําอื่นให้ถูกต้อง
๔.การเพิ่มคํา
ที่มาของคําบางคําในภาษาไทยเกิดจาก
๑.การเลียนเสียงธรรมชาติเช่นตุ๊กแกออดกริ่งฉู่ฉี่
๒การสร้างคําได้แก่คําซ้อนคําซํ้าคําประสมคําสมาส๒.การสรางคาไดแกคาซอนคาซาคาประสมคาสมาส
๓.การยืมคํามาจากภาษาอื่นเช่นภาษาบาลีสันสกฤตเขมรฯลฯ
๔.การกําหนดขึ้นมาใช้กันเฉพาะกลุ่มเรียกคําคะนอง(Slang)
เช่นเบๆชิวๆ
ข้อสังเกตเรื่องการเพิ่มคํา
๑.คําซํ้า
ิํํํีัํ้ัโใ้เกิดจากการนําคําคําเดียวกันมาซํากันโดยการใช้
“ๆ” เติมหลังคําเดิม
02/02/55
18
ความหมายของคําซํ้าอาจเปลี่ยนไปจากคําเดิมเช่น
๑.ความหมายพหูพจน์พี่ๆเพื่อนๆเด็กๆ
๒.ความหมายเพิ่มหลักจํานวนให้มากขึ้นเป็นแสนๆเป็น
ล้านๆเป็นหมื่นๆ
ิ่ํัใ้ึ้ป็โ๓.ความหมายเพิมจานวนลักษณนามให้มากขึนเป็นโหลๆ
เป็นเดือนๆ
๔.ความหมายเน้นเช่นเนื้อๆนํ้าๆผักๆ
๕.ความหมายไม่เฉพาะเจาะจงเช่นอะไรๆใครๆไหนๆ
แถวๆข้างๆใกล้ๆ
๖.ความหมายแยกทีละส่วนเช่นชิ้นๆคดีๆวันๆ
๗.ความหมายหลายครั้งและทําแต่เนื่องเช่นพูดๆมองๆ
ฟังๆ
๘.เน้นความหมายของคํากริยานั้นกินๆเร็วๆไปๆ
๙ความหมายเบาลงเช่นเพลียๆชอบๆเคืองๆ๙.ความหมายเบาลงเชนเพลยๆชอบๆเคองๆ
๑๐.ความหมายบอกความเน้นทําซํ้าเกิดซํ้าเช่นเสมอๆ
บ่อยๆช้าๆ
๑๑.คําซํ้าในภาษาพูดอาจออกเสียงเน้นหนักที่คําหน้าและ
เปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์เช่นเด๊กเด็กง้วงง่วง
ข้อสังเกต
-คําบางคําต้องออกเสียงซํ้าเสมอเช่นหยิมๆหงึกๆ
ฉอดๆเหนาะๆๆๆ
-คําต่อไปนี้ไม่ใช่คําซํ้าแม้จะเขียนเหมือนกันก็ตาม
เช่นจะจะนานาเชาเชา
๒.คําซ้อน
เกิดจากการนําคําตั้งแต่๒คําขึ้นไปมาเรียงต่อ
กันโดยแต่ละคํามีความสันพันธ์กันในด้าน
ความหมายเพื่อให้ได้ความหมายที่ชัดเจน
ลักษณะความหมายของคําซ้อน
๑)ความหมายเหมือนกันเช่นเร็วไวทรัพย์สินสูญหาย
๒)ความหมายคล้ายกันเช่นใจคอภาษีอากรเย็บปัก
ถักร้อย
๓)ความหมายตรงกันข้ามเช่นใกล้ไกลผิดถูกตื้นลึก
หนาบาง
จํานวนคําในคําซ้อน
•คําซ้อน๒คําเช่นช้างม้าบ้านเมืองกู้ยืม
•คําซ้อน๔คําเช่นถ้วยโถโอชามตีรันฟันแทงตับ
ไไ้ไตไส้พุง
•คําซ้อน๖คําเช่นคดในข้องอในกระดูกเลือกที่รัก
มักที่ชังกําแพงมีหูประตูมีช่อง
02/02/55
19
ที่มาของคําซ้อน
๑)คําไทย+คําไทยเช่นเดือดร้อนเข็ดหลาบแปดเปื้อน
๒)คําไทย+คําต่างประเทศเช่นข้าทาสศึกสงครามเขียว
ขจีแจกฟรีพักเบรก
๓)คําต่างประเทศ+คําต่างประเทศเช่นยักษ์มาร
ละเอียดลออ
๓.คําประสม
เกิดจากการนําหน่วยคําอิสระที่มีความหมาย
ต่างกันอย่างน้อย๒หน่วยมารวมกันเกิดเป็นคํา
่ใหม่ที่มีความหมายใหม่
ลักษณะเฉพาะของคําประสม
๑.เกิดความหมายใหม่แต่มีเค้าความหมายเดิมอยู่ด้วยเช่นผ้าเช็ดหน้า
กล่องดินสอนํ้าใจ
๒.ไม่สามารถแทรกคําใดๆระหว่างคําประสมได้ถ้าแทรกได้จะไม่ใช่
คําประสมเช่นลกช้าง(ลกของช้าง)ไม่ใช่คําประสมลกช้าง(คําคาประสมเชนลูกชาง(ลูกของชาง)ไมใชคาประสมลูกชาง(คา
สรรพนาม)เป็นคําประสม
๓.ไม่สามารถสลับตําแหน่งหรือย้ายที่คําได้
๔.คําประสมจะออกเสียงต่อเนื่องกันไม่หยุดระหว่างคําเช่นข้าวเย็น
หมดแล้ว
๕.ต้องไม่ใช่คําที่ใช้เป็นกลุ่มคําหรือประโยคเช่นกินนํ้าฝนตกฟ้าร้อง
ส่วนประกอบของคําประสม
๑)คําประสมที่เป็นคํานามเช่นรถด่วนผ้าขี้ริ้วทางเท้า
๒)คําประสมที่เป็นคํากริยาเช่นซักฟอกปิดปากตีบทแตก
๓)คําประสมที่เป็นคําวิเศษณ์เช่นคอตกใจดีปากหวาน๓)คาประสมทเปนคาวเศษณเชนคอตกใจดปากหวาน
๔)คําประสมที่มีคําตั้ง+คําเสริมเช่นคนใช้เจ้านายแม่นํ้าของ
หวานเครื่องเรือนที่นอนลูกคิดทําบุญวิ่งเร็วใจแคบขี้คุย
หัวหมอ
คําประสมที่มีความหมายเป็นสํานวนเช่น
๑)ไก่อ่อนผู้มีประสบการณ์น้อยยังไม่รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคน.
๒)หมอเทวดาหมอที่รักษาโรคให้หายได้เร็วหรือรักษาคนเจ็บหนัก
ให้หายได้ราวกับเทวดา
)ื้้ี่ิไ้่ีื้ัป๓)มือกาวผู้ร้ายทีหยิบของได้อย่างแนบเนียนหรือผู้รักษาประตู
ที่สามารถรับลูกฟุตบอลไม่ให้เข้าประตูได้
๔)ตีนแมวผู้ร้ายย่องเบาได้ราวกับแมว
๕)เขี้ยวกระแตไม้ดอกที่เป็นพันธุ์ไม้เลื้อยดอกสีขาวคล้ายเขี้ยว
ของกระแต
๔.คําสมาส
เกิดจากการนําคําบาลีสันสกฤตมา
ประกอบกันเป็นคําใหม่มี๒ประเภทคือ
่่คําสมาสที่ไม่มีการสนธิและคําสมาสที่มีสนธิ
มีข้อสังเกตดังนี้
02/02/55
20
คําสมาสที่ไม่มีสนธิ
๑.ส่วนใหญ่ความหมายอยู่ที่คําหลังแปลจากหลังมา
หน้าเช่นราชโอรส
๒.อ่านออกเสียงระหว่างคําตามรูปสระท้ายที่ปรากฏ
หรือหากไม่ปรากฏรูปสระให้อ่านออกเสียงอะเช่น
วุฒิสภาธนบัตรสุนทรียภาพ
คําสมาสที่มีสนธิ
๑)เกิดการกลมกลืนเสียงระหว่างคําโดยมีข้อสังเกต
ดังนี้
อะอะ
สระสนธิ
๑.สระหน้าเป็นอะ,อา
......อะ
......อา
อะ......
อา…..=อา
เช่นราชาธิราชจุฬาลงกรณ์
.....อะอะ,อามีตัวสะกด
สระอื่นๆที่ไม่ใช่
ลบสระหน้า
คงสระหลัง.....อาสระอนๆทไมใช
สระอะ,อา
คงสระหลง
เช่นนิละ+อุบล=นิโลบล
๒.สระหน้าเป็นอิ,อี
.....อิ
.....อี
อิ......
อี…..
=อิ,อี
เช่นไพรี+อินทร์=ไพรินทร์
.....อิ
.....อี
สระอื่นๆ
ที่ไม่ใช่
=เปลี่ยนอิ,อี
เป็นยะแล้ว
สระอิ,อีสนธิตามข้อ๑.
เช่นสามัคคี+อาจารย์=สามัคคยะ+อาจารย์=สามัคคยาจารย์
02/02/55
21
๓.สระหน้าเป็นอุ,อู
.....อุ
อ
อุ......
อ=อุ,อ.....อูอู…..ุ,ู
เช่นครุ+อุปกรณ์=ครุปกรณ์
สระอื่นๆที่
ไม่ใช่สระอุ,อู
.....อุ
.....อู
=เปลี่ยนอุ,
อูเป็นวะ
แล้วสนธิตาม
ข้อ๑.
เช่นมธุ+อาหาร=มธวะ+อาหารเป็นมัธวาหาร
พยัญชนะสนธิ
๑.อัสฺ+พยัญชนะใดๆเปลี่ยนอัสฺเป็นโอเช่น
มนัส+ภาพ=มโนภาพ
อิสฺ
อุสฺ
พยัญชนะใดๆเปลี่ยนสฺเป็นร
เช่น
นิสฺ+ภัย=นิรภัย
ทุสฺ+ชน=ทุรชนเป็นทรชน
นิคหิตสนธิ
๑.อํ+  พยัญชนะวรรคใด= เปลี่ยนอํเป็น
พยัญชนะตัวสุดท้ายของวรรคเช่น
อหํ+ การ= อหังการ
สยํ+ ภู=  สยมภูสยุมภูสยัมภู
๒.อํ+เศษวรรค= เปลี่ยนอํเป็นง
เช่น
สํ+สาร= สังสาร
สํ+เวช= สังเวช
02/02/55
22
๓.อํ+สระ=เปลี่ยนอํเป็นมะแล้วสนธิตามข้อ
๑.เช่น
สํ+อิทธิ=สมะ+อิทธิเป็นสมิทธิ
ศุภํ+อัศดุ=ศุภมะ+อัสดุเป็นศุภมัสดุ
ตัวอย่างข้อสอบเรื่องคํา
๑.. ข้อความต่อไปนี้มีคําสันธานและคําบุพบทกี่คํา(นับคําซํ้า)
นํ้าเป็นองค์ประกอบสําคัญต่อร่างกายของมนุษย์และทําให้เรา
สามารถดําเนินชีวิตอยู่ได้ถ้าร่างกายขาดนํ้าเราจะไม่สามารถ
ีไ้ดํารงชีวิตอยู่ได้เลย
๑. สันธาน๒คําบุพบท๑คํา
๒. สันธาน๒คําบุพบท๒คํา
๓. สันธาน๑คําบุพบท๒คํา
๔. สันธาน๑คําบุพบท๑คํา
๒๙.ตอบข้อ๒.สันธาน๒คําบุพบท๒คํา
นํ้าเป็นองค์ประกอบสําคัญต่อร่างกายของมนุษย์และ
ทําให้เราสามารถดําเนินชีวิตอยู่ได้ถ้าร่างกายขาดนํ้า
เราจะไม่สามารถดํารงชีวิตอยู่ได้เลย
๒.ข้อใดใช้คําลักษณนามไม่ถูกต้อง
๑.คุณปู่เหลาไม้เรียวไว้หลายกิ่งหลานๆจึงไม่กล้าซนมาก
๒ในสนามเด็กเล่นที่โรงเรียนเรามีไม้ลื่นให้เด็กๆเล่นหลายชด๒.ในสนามเดกเลนทโรงเรยนเรามไมลนใหเดกๆเลนหลายชุด
๓.วันจันทร์ให้นักเรียนนําไม้อัดมาคนละแผ่นครูจะสอนฉลุไม้
๔.พี่ชายเดินนับไม้หมอนรถไฟได้หลายท่อนแล้ว
๓๐.ตอบข้อ๑คุณปู่เหลาไม้เรียวไว้หลายกิ่ง
หลานๆจึงไม่กล้าซนมาก
ไม้เรียวลักษณนามเป็นอัน
๓.ข้อความต่อไปนี้มีคํานามและคํากริยาหลักอย่างละกี่คํา(ไม่นับคําซํ้า)
กิจกรรมนั้นเป็นของดีแต่สถาบันอุดมศึกษาไม่ได้ตั้งขึ้นสําหรับรับ
นักศึกษาเพื่อทํากิจกรรมกิจกรรมมีไว้ให้นักศึกษาใช้เวลาว่างทํา
ประโยชน์และเปลี่ยนบรรยากาศ
๑.นาม๗คํากริยา๘คํา
๒.นาม๖คํากริยา๘คํา
๓.นาม๗คํากริยา๗คํา
๔.นาม๖คํากริยา๖คํา
02/02/55
23
ตอบข้อ๓นาม๗คํากริยา๘คํา
กิจกรรมนั้นเป็นของดีแต่สถาบันอุดมศึกษาไม่ได้ตั้งขึ้นสําหรับรับนักศึกษาเพื่อ
ทํากิจกรรมกิจกรรมมีไว้ให้นักศึกษาใช้เวลาว่างทําประโยชน์และเปลี่ยน
บรรยากาศ
คํานาม๗คํากิจกรรม,ของดี,สถาบันอุดมศึกษา,นักศึกษา,เวลาประโยชน์
,บรรยากาศ
คํากริยา๗คําเป็น,ตั้งขึ้น,ทํา,มี,ใช้,ทํา,เปลี่ยน
๔.คําซํ้าในข้อใดต้องใช้เป็นคําซํ้าเสมอ
๑.คนงานใหม่ขยันเป็นพักๆเอาแน่ไม่ได้
๒.นักเรียนอนุบาลหกล้มหัวเข่าแตกเลือดไหลซิบๆ
๓.งานนี้ถึงจะได้เงินเดือนน้อยก็ทําไปพลางๆก่อนแล้วกัน
๔.ถ้าเราวางแผนให้ดีตั้งแต่แรกๆโครงการนี้ก็คงสําเร็จไปแล้ว
เฉลย๑
๕.ข้อใดเป็นคําซ้อนทุกคํา
๑.ซํ้าซ้อนซ่อนรูปซักฟอก
๒.ถ่องแท้ถี่ถ้วนถากถาง
๓.บีบคั้นเบียดเบียนเบาความ
๔.แปรผันเป่าหูโปรยปราย
๖.ข้อความต่อไปนี้ส่วนใดมีคําประสมทั้ง๒ส่วน
๑)บริเวณสวนกว้างขวาง/๒)มีสนามที่ได้รับการดูแลจากเทศบาล
เมือง/๓)มีประติมากรรมเป็นรูปเทพธิดาแสนงาม/๔)มุมหนึ่ง
มีนาฬิกาแดดคอยบอกเวลา
่๑.ส่วนที่๑และ๔
๒.ส่วนที่๒และ๓
๓.ส่วนที่๑และ๓
๔.ส่วนที่๒และ๔
๗.ข้อใดมีคําประสมทุกคํา
๑.คําขาดคําคมคําราม
๒.เดินแต้มเดินรถเดินสะพัด
๓.นํ้าป่านํ้าไหลนํ้ามือ
๔.ติดลมติดใจติดขัด
02/02/55
24
๘.ข้อใดไม่มีคําสมาส
๑.วิสุทธโยธามาตย์เจ้ากรมขวา
๒.หนึ่งชื่อราชโยธาเทพซ้าย๒.หนงชอราชโยธาเทพซาย
๓.ตําแหน่งศักย์ยศถาเสถียรที่
๔.คุมพยุหยาตราย้ายย่างเข้าตามสถาน
๙.ข้อใดมีคําสมาสที่มีการสร้างคําต่างกับข้ออื่น
๑.ขับคเชนทร์สาวก้าวส่ายเสื้องเทาทาง
๒สถานที่พทธบาทสร้างสืบไว้แสวงบญ๒.สถานทพุทธบาทสรางสบไวแสวงบุญ
๓.สุธารสรับพระเต้าเครื่องต้นไปตาม
๔.โดยเสด็จดําเนินแคล้วคลาดคล้อยบทจร
๑๐.คําภาษาอังกฤษในข้อใดใช้คําไทยแทนไม่ได้
๑.จินดาทําข้อสอบหลายวิชาจนรู้สึกเบลอร์ไปหมด
๒.จิตราเป็นดีไซเนอร์ประจําห้องเสื้อที่มีชื่อเสียง
๓.จินตนาไปหาหมอเพื่อใช้แสงเลเซอร์รักษาผิวหน้า
๔.จิตรลดาเป็นวิสัญญีแพทย์ระดับอินเตอร์ของโรงพยาบาลนี้
๑๑.ข้อใดเป็นคําศัพท์บัญญัติจากคําภาษาอังกฤษ
ทุกคํา
๑.จุลทรรศน์จุลินทรีย์จุลกฐิน
๒สังคมสังเคราะห์สังคมสังเคราะห์สังโยค๒.สงคมสงเคราะหสงคมสงเคราะหสงโยค
๓.สมมาตรสมมุติฐานสมเพช
๔.วิกฤตการณ์วิจัยวิสัยทัศน์
๑๒.ข้อใดไม่มีคํายืมภาษาบาลีสันสกฤต
ก.วันจะจรจากน้องสิบสองคํ่า
ข.พอจวนยํ่ารุ่งเร่งออกจากท่า
ครําลึกถึงดวงจันทร์ครรไลลาค.ราลกถงดวงจนทรครรไลลา
ง.พี่ตั้งตาแลแลตามแพราย
๑.ข้อกและข๒.ข้อกและค
๓.ข้อขและง๔.ข้อคและง
๑๓.ข้อใดใช้คําลักษณนามไม่ถูกต้อง
๑.เขาสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของหน่วยงานได้ครบ
ทุกข้อ
๒.นักวิชาการเสนอข้อคิดเห็นไว้ในบทสรุปของรายงานุ
หลายประการ
๓.รัฐบาลมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขหลายเรื่อง
๔.คณะกรรมการกําลังพิจารณาคําขวัญที่ส่งเข้า
ประกวด๕๐บาท
02/02/55
25
๑๔.ข้อความต่อไปนี้มีบุพบทและสันธานกี่คํา
คนไทยสมัยโลกาภิวัตน์ได้เปรียบคนไทยรุ่นก่อนในด้าน
ที่มีความรู้กว้าขวางเพราะสามารถแสวงหาความรู้ได้
จากแหล่งต่างๆทั้งหนังสือวิทยุโทรทัศน์และ
คอมพิวเตอร์
๑.บุพบท๑คําสันธาน๓คํา
๒.บุพบท๒คําสันธาน๓คํา
๓.บุพบท๑คําสันธาน๔คํา
๔.บุพบท๒คําสันธาน๔คํา
๑๕.ข้อความต่อไปนี้มีคํานามและคํากริยาหลักอย่างละกี่คํา
(ไม่นับคําซํ้า)
การกู้ยืมจะมีประโยชน์ต่อเมื่อเงินที่กู้มานั้นใช้อย่างมี
คณภาพและสร้างรายได้เพื่อเพิ่มต้นทนของเงินจํานวนนั้นคุณภาพและสรางรายไดเพอเพมตนทุนของเงนจานวนนน
๑.นาม๔คํากริยา๓คํา
๒.นาม๕คํากริยา๔คํา
๓.นาม๖คํากริยา๕คํา
๔.นาม๗คํากริยา๖คํา
๑๖.คําทุกคําในข้อใดใช้ได้ทั้งความหมายตามตัวและ
ความหมายเชิงอุปมา
๑.ปีนเกลียวปิดฉากถูกขาู
๒.ปิดตาเฝ้าไข้เปลี่ยนมือ
๓.วางใจเป่าปี่แก้เคล็ด
๔.ปั่นหัวกินตะเกียบลงคอ
๑๗.ข้อใดใช้คําถูกต้อง
๑.เธอได้รับคําชมว่าทํางานเก่งมากจนใครๆยกมือให้
๒.การแสดงดนตรีกว่าจะยกเลิกก็เกือบสองทุ่มุ
๓.ผู้มีรายได้ตํ่าได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้
๔.ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีจะได้รับการยกโทษลง
ครึ่งหนึ่ง
๑๘.ข้อใดใช้คําฟุ่มเฟือย
๑.ทหารในขบวนสวนสนามเดินอกผายไหล่ผึ่ง
๒.คุณยายขอให้ฉันกับญาติที่บุกรุกที่ดินเลิกแล้วต่อกันุญุุ
๓.ฉันต้องทนฟังเขาชี้แจงเหตุผลแม้จะไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย
๔.พ่อแม่ชื่นชมปีติยินดีที่ลูกสาวสําเร็จการศึกษาระดับ
ปริญญาเอก
๑๙.ข้อใดใช้ภาษากํากวม
๑.เด็กข้างบ้านวิ่งชนฉันหกล้มปากแตก
๒.คนขับรถถกสั่งพักงานฐานละเลยหน้าที่๒.คนขบรถถูกสงพกงานฐานละเลยหนาท
๓.ก๋วยเตี๋ยวปลาแบบโบราณในซอยนี้มีหลายร้าน
๔.พวงมาลัยแบบนี้แม่ค้าขายฉันพวงละ๑๐บาท
02/02/55
26
๒๐.ข้อใดใช้คําถูกต้องตามความหมาย
๑.ปีนี้อากาศร้อนเหลือเกินวันไหนไม่ได้เปิดแอร์ก็ร้อนตัว
มากๆเลย
๒.วัยรุ่นข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดังใครๆได้ฟังก็ร้อนหูไป
หมด
๓.เขาเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยจึงร้อนวิชาอยากพูด
อยากแสดงให้คนรู้
๔.บ้านสวยหลังนั้นปิดเงียบเพราะเจ้าของร้อนเงินหนีไป
ต่างประเทศแล้ว
๒๑.คําซํ้าในข้อใดไม่มีความหมายเป็นพหูพจน์
๑.น้องๆของเขารักใคร่กันดี
๒เขาป่วยต้องนอนพักเป็นเดือนๆ๒.เขาปวยตองนอนพกเปนเดอนๆ
๓.ตอนเด็กๆฉันเคยไปอยู่ต่างจังหวัด
๔.สาวๆสมัยนี้รูปร่างอ้อนแอ้นกันทั้งนั้น
๒๒.ข้อความต่อไปนี้มีคําซ้อนกี่คํา
ข้าวเป็นธัญญาหารที่มีประโยชน์อยู่ทุกอณูของเมล็ดข้าว
เนื้อข้าวรําข้าวและจมูกข้าวเราจึงควรกินข้าวให้ครบทุกส่วน
ของเมล็ดเพื่อชีวิตที่แข็งแรงสดใสห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆ
และมีสุขภาพดีอายุยืนยาว
๑.๓คํา๒.๔คํา
๓.๕คํา๔.๖คํา
๒๓.ข้อใดไม่ปรากฏในคําประพันธ์ต่อไปนี้
ใครจักผูกโลกแม้รัดรึง
เหล็กเท่าลําตาลตรึงไป่หมั้น
มนตร์ยาผูกนานหึงหายเสื่อม
้ผูกเพื่อไมตรีนั้นแน่นเท้าวันตาย
๑.คําซํ้า
๒.คําซ้อน
๓.คําโทโทษ
๔.คําตายแทนคําเอก
๒๔.ข้อใดมีคําสมาสที่มีการสนธิ
๑.ธาตุเจดีย์ธัญพืชธรรมจารี
๒.รัตนชาติราชสาส์นรมณียสถาน
๓.ภูมิลักษณ์ภูษามาลาภิญโญภาพ
๔.พรรณนาโวหารพยุหเสนาพรหมาสตร์
๒๕.ข้อใดไม่มีคํายืมจากภาษาต่างประเทศ
๑.ฝรั่งเป็นต้นตํารับอาหารกินเร็วยืนกินเดินกินก็ได้
๒.เมื่อเรารับมาก็ต้องกินตามอย่างเขาและรู้สึกว่าง่ายดี
๓.เราไม่ได้กินเพื่อประหยัดเวลาเอาไว้ทําการงานอย่างอื่น
๔.เป็นการกินเล่นๆกันในหมู่คนวัยที่ยังทํามาหากินไม่ได้
มากกว่า
02/02/55
27
๒๖.ข้อใดไม่มีคําที่มาจากภาษาบาลีหรือภาษา
สันสกฤต
๑.เราต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องู
๒.อย่าเลี้ยงลูกให้เป็นเทวดา
๓.ชื่อของเขาอยู่ในทําเนียบรุ่น
๔.ภรรยาของเขาทํางานอยู่ที่นี่
๒๗.ข้อความต่อไปนี้ส่วนใดไม่มีคําที่มาจากภาษาอังกฤษ
๑)เรตติ้งของรายการโทรทัศน์สัมพันธ์กับเวลาในการ
ออกอากาศ/๒)รายการที่ออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์หรือ
ช่วงเวลาที่มีผู้ชมโทรทัศน์มาก/๓)จะมีโอกาสได้รับความนิยม
่ี่ใ่ี่้มากกว่ารายการทีออกอากาศในช่วงเวลาทีคนชมรายการน้อย/
๔)ช่วงเวลาที่มีผู้ชมทีวีมากก็คือช่วงหัวคํ่าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หลังรายการข่าว/
๑.ส่วนที่๑๒.ส่วนที่๒
๓.ส่วนที่๓๔.ส่วนที่๔
๒๘.คําภาษาอังกฤษในข้อใดไม่มีคําภาษาไทยใช้แทน
๑.ห้างสรรพสินค้าส่งแค็ตตาล็อกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กําลังลด
ราคามาให้ดูที่บ้าน
๒.อยากโทรศัพท์บอกเพื่อนว่าอาจารย์ต้องการพบแต่ผมไม่
ีโฟ์มีโฟนการ์ด
๓.ไดรไอซ์มีประโยชน์มากช่วยทําให้อาหารแช่แข็งไม่
ละลายง่าย
๔.ตึกใหญ่หลังนั้นมีคนมาเช่าทําออฟฟิศกันมากมายคุณ
สนใจไหม
๒๙.ข้อใดใช้คําลักษณนามไม่ถูกต้อง
๑.น้องสาวฉันเป็นผู้หญิงสวยที่บ้านจึงมีกระจกเงาหลายบาน
ไว้ให้ส่อง
๒.เขาเป็นคนความจําดีอาขยานกี่บทๆก็สามารถท่องจําได้
ใไ่หมดในเวลาไม่นาน
๓.คุณไปเที่ยวงานแสดงสินค้าเห็นไม้เท้าสวยๆช่วยซื้ออันใหม่
มาฝากคุณปู่ด้วย
๔.มหาวิทยาลัยจะจัดประกวดคําขวัญเนื่องในวันสถาปนาใคร
จะส่งกี่ชิ้นก็ได้
๓๐.ข้อความต่อไปนี้มีคําสันธานและคําบุพบทกี่คํา
ทุกวันนี้โลกแคบลงจนสื่อสารกันได้ทันใจและเรา
ก้าวทันโลกได้ตามวิถีโลกาภิวัตน์วิทยาการต่างๆ
น่าจะสัมพันธ์กันได้มากขึ้นโลกของนักวิชาการมิใช่มี
ีีััีัั้เพียงซีกตะวันออกกับซีกตะวันตกเท่านัน
๑.สันธาน๒คําบุพบท๓คํา
๒.สันธาน๒คําบุพบท๒คํา
๓.สันธาน๓คําบุพบท๓คํา
๔.สันธาน๓คําบุพบท๒คํา
02/02/55
28
พยางค์
พยางค์เปิด(แม่กกา)คือพยางค์ที่ไม่มีเสียง
พยัญชนะท้ายเช่นมาดี
่พยางค์ปิดคือพยางค์ทีมีเสียงพยัญชนะท้าย
หรือพยัญชนะสะกดเช่นนกกบโรงเรียนเราทําใจ
พยางค์ที่มีความหมายเรียกว่าคําคําหนึ่งอาจมีได้
หลายพยางค์
วลีกลุ่มคํา
เป็นส่วนประกอบของประโยคส่วนใดส่วน
หนึ่งเมื่อประกอบเข้าเป็นประโยคแล้วย่อม
ทําหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งเช่นความสามัคคี
ของคนไทย
ส่วนประกอบของประโยคแบ่งออกเป็น๖ส่วนดังนี้
ประธาน
ขยาย
ประธาน
กริยากรรมขยายกรรมขยายกริยา
นักเรียนในห้อง
ประชุม
มีหน้าตาสวยหล่อมากมาย
เด็กๆที่ตั้งใจเรียนสอบติดคณะที่เลือกไว้กันทุกคน
ชนิดของประโยค(แบ่งเป็น๓ชนิดตามโครงสร้าง)
๑. ประโยคความเดียวคือประโยคที่มีคํากริยาสําคัญเพียงคํา
เดียวและไม่มีคําเชื่อมประโยคเช่น
การละเล่นพื้นบ้านของไทยเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างหนึ่ง
ของวัฒนธรรมไทย
ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายประเภท
การฟื้นฟูประเทศไทยทําได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนไทย
ทุกคน
ปโัปโ่
๒.ประโยคความซ้อน
ประโยคหลักประโยคย่อย
คําเชื่อม
ผู้ที่ซึ่งอันว่า
สายชลเป็นพระเอกที่หน้าตาดีที่สุด
นางฟ้าเชื่อว่าสักวันสายชลจะเข้าใจนางฟาเชอวาสกวนสายชลจะเขาใจ
การดูละครมากเกินไปเป็นภัยซึ่ง
อันตรายแก่การอ่านหนังสือ
02/02/55
29
http://www.glitter.kapook.com
๓.ประโยคความรวม
คือประโยคที่มีประธานหรือกริยาสําคัญ
ตั้งแต่๒ตัวขึ้นไปมี๒ลักษณะดังนี้ตงแต๒ตวขนไปม๒ลกษณะดงน
๓.๑สัมพันธ์กันในเชิงคล้อยตาม
ประโยคที่นํามารวมกันมีเนื้อความคล้อย‐ตามกัน
คําเชื่อมที่ใช้เช่นและทั้ง… และตลอดทั้งดัง
ั่ตวอย่าง
ฉันรักน้องและรักเพื่อนๆทุกคน
ทั้งเราและเพื่อนๆไปปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ
๓.๒สัมพันธ์กันในเชิงขัดแย้ง
ประโยคที่นํามารวมกันมีเนื้อความขัดแย้งกันคําเชื่อมที่ใช้
เช่นแต่แต่ว่าส่วนทว่าดังตัวอย่าง
ดอกรักบานในใจใครทั้งโลกแต่ดอกโศกบานในดอกรกบานในใจใครทงโลกแตดอกโศกบานใน
หัวใจฉัน
ฉันตั้งใจทํางานอย่างเต็มที่ทว่าสิ่งต่างๆก็ไม่
เป็นไปอย่างที่คิด
๓.๓สัมพันธ์กันในเชิงต่างเป็นตัวเลือก
ประโยคที่นํามารวมกันต่างมีเนื้อความเป็นตัวให้เลือก
คําเชื่อมที่ใช้เช่นหรือมิฉะนั้นไม่เช่นนั้นหรือไม่
ก็หาไม่ดังตัวอย่างกหาไมดงตวอยาง
ฉันต้องไปทํางานไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีรายได้
เธอต้องรอให้ฝนหยุดเสียก่อนหรือไม่ก็ต้องยอม
เปียกฝน
๓.๔สัมพันธ์กันในเชิงเป็นเหตุผล
ประโยคที่นํามารวมกันมีเนื้อความเป็นเหตุเป็นผล
กันเช่นเพราะเพราะว่าเพื่อเพื่อที่ดังนั้น
ฉะนั้นฯลฯฉะนนฯลฯ
เพราะอากาศร้อนฉันจึงไม่ออกไปนอกบ้าน
เขาไม่สบายดังนั้นจึงต้องหยุดเรียนไประยะหนึ่ง
02/02/55
30
เป็นประโยคความรวมเกิด
ปโจากประโยค
ความจําสั้น
สันหลังยาว
http://www.glitter.kapook.com
หน้าที่ของประโยคตามเจตนาของผู้ส่งสาร
๑.  แจ้งให้ทราบ
เป็นประโยคที่บอกเล่าเรื่องราวที่ผู้ส่งสารต้องการแจ้งให้ผู้รับสาร
ได้ทราบถ้าต้องการแจ้งให้ทราบในเชิงปฎิเสธก็จะปรากฏคําไดทราบถาตองการแจงใหทราบในเชงปฎเสธกจะปรากฏคา
ปฏิเสธเช่นมิไม่หามิได้อยู่ด้วย
พวกเราจะสอบติดกัน
ทุกคน
ทุกคนที่นี่ไม่ใช่คน
ขี้เกียจ(นะจ๊ะ)
๒.ถามให้ตอบ
เป็นประโยคที่ผู้ส่งสารใช้ถามเรื่องราวต่างๆจากผู้รับ
สารมีคําแสดงการถามเช่นใครอะไรที่ไหน
เมื่อใดอย่างไรทําไมอยู่ในประโยคถ้าเป็น
คําถามเชิงปฏิเสธก็จะมีคําปฏิเสธอยู่ด้วย
เจตนาคือ??
http://www.glitter.kapook.com
02/02/55
31
๓.บอกให้ทํา
เป็นประโยคที่ผู้ส่งสารใช้สั่งอ้อนวอนขอร้อง
หรือเชิญชวนอาจจะละประธานไว้ในฐานที่เข้าใจ
•กรุณาบริจาคสิ่งของเพื่อผู้ด้อยโอกาส
•แม่ครับขอค่าขนมหน่อยครับ
ชนิดของประโยคตามการเน้นความสําคัญ
๑.ประโยคประธานหมายถึงประโยคที่นําประธาน
มาวางไว้ต้นประโยคประโยคภาษาไทยส่วนใหญ่ญ
เป็นประโยคประธาน
•นักเรียนมุ่งมั่นจะทําข้อสอบให้ได้คะแนนดี
•เราต้องคิดถึงสํานวนไทย“เอาใจเขามาใส่ใจเรา”
บ้าง
๒.ประโยคกริยา
หมายถึงประโยคที่นํากริยามาไว้หน้าประโยค
–เก่งมากลูกศิษย์คนนี้
–ซนจริงๆลูกแม่
–มีเรื่องร้ายแรงในวันนี้
๓.ประโยคกรรมหมายถึงประโยคที่นํากรรมมา
ไว้หน้าประโยค
•ผู้ร้ายถูกตํารวจจับได้เมื่อวานนี้
•เขาโดนอันธพาลทําร้ายจนบาดเจ็บสาหัสเขาโดนอนธพาลทารายจนบาดเจบสาหส
•ทักษะการใช้ภาษานั้นนักเรียนได้รับมาจากการสอนภาษา
แบบบูรณาการ
•โทรศัพท์มือถือนี่ลูกชายคนโปรดของคุณทําหายเป็นเครื่อง
ที่สามแล้ว
ตัวอย่างข้อสอบเรื่องประโยค
๖.ข้อใดไม่เป็นประโยค
๑.นมแม่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ลูก
๒.การดื่มนมแม่ช่วยลดการติดเชื้อไวรัสในวัยทารก
๓ปัจจบันมีการโฆษณาให้แม่ดื่มนมวัวมากๆโดยสื่อว่า๓.ปจจุบนมการโฆษณาใหแมดมนมววมากๆโดยสอวา
ลูกในท้องจะแข็งแรง
๔.แม้จะมีการรณรงค์ให้มีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ซึ่งเป็นนม
ที่ดีที่สุดสําหรับทารก
 Sk8 th
 Sk8 th

Más contenido relacionado

Destacado

ใบความรู้ การศึกษาประวัติศาสาตร์+530+dltvhisp2+54his p02 f14-1page
ใบความรู้  การศึกษาประวัติศาสาตร์+530+dltvhisp2+54his p02 f14-1pageใบความรู้  การศึกษาประวัติศาสาตร์+530+dltvhisp2+54his p02 f14-1page
ใบความรู้ การศึกษาประวัติศาสาตร์+530+dltvhisp2+54his p02 f14-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
การศึกษาประวัติศาสตร์ ป.2+530+54his p02 f14-1page
การศึกษาประวัติศาสตร์ ป.2+530+54his p02 f14-1pageการศึกษาประวัติศาสตร์ ป.2+530+54his p02 f14-1page
การศึกษาประวัติศาสตร์ ป.2+530+54his p02 f14-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
ภาษาไทย ป.2 เรื่องการเพิ่มคำศัพท์อักษร ร
ภาษาไทย ป.2 เรื่องการเพิ่มคำศัพท์อักษร รภาษาไทย ป.2 เรื่องการเพิ่มคำศัพท์อักษร ร
ภาษาไทย ป.2 เรื่องการเพิ่มคำศัพท์อักษร รputchara
 
แบบฝึกอ่านคำบัญชีพื้นฐานป2
แบบฝึกอ่านคำบัญชีพื้นฐานป2แบบฝึกอ่านคำบัญชีพื้นฐานป2
แบบฝึกอ่านคำบัญชีพื้นฐานป2Ya Amon
 
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ผอ.พีระยศ บุญเพ็ง
 
นวตกรรม เล่ม1 คณิต ป.2
นวตกรรม เล่ม1 คณิต ป.2นวตกรรม เล่ม1 คณิต ป.2
นวตกรรม เล่ม1 คณิต ป.2dmathdanai
 
คิดเลขเร็วโดยใช้ความสัมพันธ์ของ การบวก ลบ คูณ หาร ป2
คิดเลขเร็วโดยใช้ความสัมพันธ์ของ การบวก ลบ คูณ หาร ป2คิดเลขเร็วโดยใช้ความสัมพันธ์ของ การบวก ลบ คูณ หาร ป2
คิดเลขเร็วโดยใช้ความสัมพันธ์ของ การบวก ลบ คูณ หาร ป2ทับทิม เจริญตา
 
การหาร ใบงาน
การหาร ใบงานการหาร ใบงาน
การหาร ใบงานNattapong Peenasa
 

Destacado (20)

ใบความรู้ การศึกษาประวัติศาสาตร์+530+dltvhisp2+54his p02 f14-1page
ใบความรู้  การศึกษาประวัติศาสาตร์+530+dltvhisp2+54his p02 f14-1pageใบความรู้  การศึกษาประวัติศาสาตร์+530+dltvhisp2+54his p02 f14-1page
ใบความรู้ การศึกษาประวัติศาสาตร์+530+dltvhisp2+54his p02 f14-1page
 
การศึกษาประวัติศาสตร์ ป.2+530+54his p02 f14-1page
การศึกษาประวัติศาสตร์ ป.2+530+54his p02 f14-1pageการศึกษาประวัติศาสตร์ ป.2+530+54his p02 f14-1page
การศึกษาประวัติศาสตร์ ป.2+530+54his p02 f14-1page
 
คณิตศาสตร์ ป.2
คณิตศาสตร์ ป.2 คณิตศาสตร์ ป.2
คณิตศาสตร์ ป.2
 
ภาษาไทย ป.2 เรื่องการเพิ่มคำศัพท์อักษร ร
ภาษาไทย ป.2 เรื่องการเพิ่มคำศัพท์อักษร รภาษาไทย ป.2 เรื่องการเพิ่มคำศัพท์อักษร ร
ภาษาไทย ป.2 เรื่องการเพิ่มคำศัพท์อักษร ร
 
คำศัพท์พื้นฐานชั้น ป.2
คำศัพท์พื้นฐานชั้น ป.2คำศัพท์พื้นฐานชั้น ป.2
คำศัพท์พื้นฐานชั้น ป.2
 
จำนวนและตัวเลข ป2
จำนวนและตัวเลข ป2จำนวนและตัวเลข ป2
จำนวนและตัวเลข ป2
 
แบบฝึกอ่านคำบัญชีพื้นฐานป2
แบบฝึกอ่านคำบัญชีพื้นฐานป2แบบฝึกอ่านคำบัญชีพื้นฐานป2
แบบฝึกอ่านคำบัญชีพื้นฐานป2
 
test ป.2
test ป.2test ป.2
test ป.2
 
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
 
นวตกรรม เล่ม1 คณิต ป.2
นวตกรรม เล่ม1 คณิต ป.2นวตกรรม เล่ม1 คณิต ป.2
นวตกรรม เล่ม1 คณิต ป.2
 
แบบฝึกจำนวนและตัวเลข ป.2
แบบฝึกจำนวนและตัวเลข ป.2แบบฝึกจำนวนและตัวเลข ป.2
แบบฝึกจำนวนและตัวเลข ป.2
 
วิทย์ ป.2
วิทย์ ป.2วิทย์ ป.2
วิทย์ ป.2
 
คิดเลขเร็วโดยใช้ความสัมพันธ์ของ การบวก ลบ คูณ หาร ป2
คิดเลขเร็วโดยใช้ความสัมพันธ์ของ การบวก ลบ คูณ หาร ป2คิดเลขเร็วโดยใช้ความสัมพันธ์ของ การบวก ลบ คูณ หาร ป2
คิดเลขเร็วโดยใช้ความสัมพันธ์ของ การบวก ลบ คูณ หาร ป2
 
การหาร ใบงาน
การหาร ใบงานการหาร ใบงาน
การหาร ใบงาน
 
แบบฝึกการอ่านเขียน เล่ม ๒
แบบฝึกการอ่านเขียน เล่ม ๒แบบฝึกการอ่านเขียน เล่ม ๒
แบบฝึกการอ่านเขียน เล่ม ๒
 
โจทย์แบบฝึกการคูณ ป. 2
โจทย์แบบฝึกการคูณ ป. 2โจทย์แบบฝึกการคูณ ป. 2
โจทย์แบบฝึกการคูณ ป. 2
 
โจทย์ปัญหาระคนป.2
โจทย์ปัญหาระคนป.2โจทย์ปัญหาระคนป.2
โจทย์ปัญหาระคนป.2
 
ฝึกอ่าน ป.2
ฝึกอ่าน ป.2ฝึกอ่าน ป.2
ฝึกอ่าน ป.2
 
แบบฝึกหัด อังกฤษ ป.2 school object
แบบฝึกหัด อังกฤษ ป.2 school objectแบบฝึกหัด อังกฤษ ป.2 school object
แบบฝึกหัด อังกฤษ ป.2 school object
 
แบบฝึกคิดเลขเร็ว ป2 (12 ชุด)
แบบฝึกคิดเลขเร็ว ป2 (12 ชุด)แบบฝึกคิดเลขเร็ว ป2 (12 ชุด)
แบบฝึกคิดเลขเร็ว ป2 (12 ชุด)
 

Similar a Sk8 th

แบบขอรับค่ารักษาพยาบาล สปส.2 19 (กรณีทุพพลภาพ)
แบบขอรับค่ารักษาพยาบาล สปส.2 19 (กรณีทุพพลภาพ)แบบขอรับค่ารักษาพยาบาล สปส.2 19 (กรณีทุพพลภาพ)
แบบขอรับค่ารักษาพยาบาล สปส.2 19 (กรณีทุพพลภาพ)Nithimar Or
 
ระเบียบวาระ 23 มค 56
ระเบียบวาระ 23 มค 56ระเบียบวาระ 23 มค 56
ระเบียบวาระ 23 มค 56Dhanee Chant
 
ใบสมัครโครงการอีนซีนอันดามันแฟมิลี่แรลลี่
ใบสมัครโครงการอีนซีนอันดามันแฟมิลี่แรลลี่ใบสมัครโครงการอีนซีนอันดามันแฟมิลี่แรลลี่
ใบสมัครโครงการอีนซีนอันดามันแฟมิลี่แรลลี่thelolitaworld
 
ใบขออนุญาตนักเรียนมาสาย 1 2554
ใบขออนุญาตนักเรียนมาสาย 1 2554ใบขออนุญาตนักเรียนมาสาย 1 2554
ใบขออนุญาตนักเรียนมาสาย 1 2554Narudol Pechsook
 
ใบงานที่ 2 ประเภทขององค์ประกอบของระบบสารสนเทศ.pdf
ใบงานที่ 2 ประเภทขององค์ประกอบของระบบสารสนเทศ.pdfใบงานที่ 2 ประเภทขององค์ประกอบของระบบสารสนเทศ.pdf
ใบงานที่ 2 ประเภทขององค์ประกอบของระบบสารสนเทศ.pdfNattapon
 
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลังแบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลังKru Wan Mirantee
 
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลังแบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลังKru Wan Mirantee
 
กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่  1กิจกรรมที่  1
กิจกรรมที่ 1thatlada5806
 
ใบตอบรับการสนับสนุน
ใบตอบรับการสนับสนุนใบตอบรับการสนับสนุน
ใบตอบรับการสนับสนุนChanabodee Ampalin
 
ไบงานที่ 9
ไบงานที่ 9ไบงานที่ 9
ไบงานที่ 9thatlada5806
 
ไบงานที่ 9
ไบงานที่ 9ไบงานที่ 9
ไบงานที่ 9thatlada5806
 

Similar a Sk8 th (20)

ใบกิจกรรมที่ 4 (ฝากไฟล์)
ใบกิจกรรมที่ 4 (ฝากไฟล์)ใบกิจกรรมที่ 4 (ฝากไฟล์)
ใบกิจกรรมที่ 4 (ฝากไฟล์)
 
27301 1
27301 127301 1
27301 1
 
Book1-1
Book1-1Book1-1
Book1-1
 
แบบขอรับค่ารักษาพยาบาล สปส.2 19 (กรณีทุพพลภาพ)
แบบขอรับค่ารักษาพยาบาล สปส.2 19 (กรณีทุพพลภาพ)แบบขอรับค่ารักษาพยาบาล สปส.2 19 (กรณีทุพพลภาพ)
แบบขอรับค่ารักษาพยาบาล สปส.2 19 (กรณีทุพพลภาพ)
 
ว อ 7
ว อ 7ว อ 7
ว อ 7
 
Ht 2
Ht 2Ht 2
Ht 2
 
ระเบียบวาระ 23 มค 56
ระเบียบวาระ 23 มค 56ระเบียบวาระ 23 มค 56
ระเบียบวาระ 23 มค 56
 
ใบสมัครโครงการอีนซีนอันดามันแฟมิลี่แรลลี่
ใบสมัครโครงการอีนซีนอันดามันแฟมิลี่แรลลี่ใบสมัครโครงการอีนซีนอันดามันแฟมิลี่แรลลี่
ใบสมัครโครงการอีนซีนอันดามันแฟมิลี่แรลลี่
 
เอกสารหมายเลข 7
เอกสารหมายเลข 7เอกสารหมายเลข 7
เอกสารหมายเลข 7
 
ใบขออนุญาตนักเรียนมาสาย 1 2554
ใบขออนุญาตนักเรียนมาสาย 1 2554ใบขออนุญาตนักเรียนมาสาย 1 2554
ใบขออนุญาตนักเรียนมาสาย 1 2554
 
Gn26
Gn26Gn26
Gn26
 
ใบงานที่ 2 ประเภทขององค์ประกอบของระบบสารสนเทศ.pdf
ใบงานที่ 2 ประเภทขององค์ประกอบของระบบสารสนเทศ.pdfใบงานที่ 2 ประเภทขององค์ประกอบของระบบสารสนเทศ.pdf
ใบงานที่ 2 ประเภทขององค์ประกอบของระบบสารสนเทศ.pdf
 
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลังแบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
 
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลังแบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
แบบทดสอบบทที่1สมบัติของเลขยกกำลัง
 
กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่  1กิจกรรมที่  1
กิจกรรมที่ 1
 
2.circle
2.circle2.circle
2.circle
 
การงาน ป.6 ชุด 1
การงาน ป.6 ชุด 1การงาน ป.6 ชุด 1
การงาน ป.6 ชุด 1
 
ใบตอบรับการสนับสนุน
ใบตอบรับการสนับสนุนใบตอบรับการสนับสนุน
ใบตอบรับการสนับสนุน
 
ไบงานที่ 9
ไบงานที่ 9ไบงานที่ 9
ไบงานที่ 9
 
ไบงานที่ 9
ไบงานที่ 9ไบงานที่ 9
ไบงานที่ 9
 

Más de Su Surut

การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 5
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 5การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 5
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 5Su Surut
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 3
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 3การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 3
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 3Su Surut
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ตัวอังสนา
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ตัวอังสนาการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ตัวอังสนา
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ตัวอังสนาSu Surut
 
โครงร่างงานคอม
โครงร่างงานคอมโครงร่างงานคอม
โครงร่างงานคอมSu Surut
 
โครงร่างงานคอม
โครงร่างงานคอมโครงร่างงานคอม
โครงร่างงานคอมSu Surut
 
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6Su Surut
 
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6Su Surut
 
เฉลย O net 48 ภาษาไทย+ สังคม
เฉลย O net 48 ภาษาไทย+ สังคมเฉลย O net 48 ภาษาไทย+ สังคม
เฉลย O net 48 ภาษาไทย+ สังคมSu Surut
 
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6Su Surut
 
ข้อสอบ O net 49 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net  49 สังคม ม 6ข้อสอบ O net  49 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 49 สังคม ม 6Su Surut
 
เฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมเฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมSu Surut
 
เฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมเฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมSu Surut
 
เฉลย Onet 50 สังคม
เฉลย Onet 50 สังคมเฉลย Onet 50 สังคม
เฉลย Onet 50 สังคมSu Surut
 
เฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมเฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมSu Surut
 
ข้อสอบ O net 50 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 50 สังคม ม 6ข้อสอบ O net 50 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 50 สังคม ม 6Su Surut
 
เฉลย Onet 50 สังคม
เฉลย Onet 50 สังคมเฉลย Onet 50 สังคม
เฉลย Onet 50 สังคมSu Surut
 
เฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมเฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมSu Surut
 
เฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมเฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมSu Surut
 
เฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมเฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมSu Surut
 
เฉลย Onet 51 สังคม
เฉลย Onet 51 สังคมเฉลย Onet 51 สังคม
เฉลย Onet 51 สังคมSu Surut
 

Más de Su Surut (20)

การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 5
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 5การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 5
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 5
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 3
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 3การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 3
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต 3
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ตัวอังสนา
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ตัวอังสนาการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ตัวอังสนา
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ตัวอังสนา
 
โครงร่างงานคอม
โครงร่างงานคอมโครงร่างงานคอม
โครงร่างงานคอม
 
โครงร่างงานคอม
โครงร่างงานคอมโครงร่างงานคอม
โครงร่างงานคอม
 
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
 
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
 
เฉลย O net 48 ภาษาไทย+ สังคม
เฉลย O net 48 ภาษาไทย+ สังคมเฉลย O net 48 ภาษาไทย+ สังคม
เฉลย O net 48 ภาษาไทย+ สังคม
 
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 48 สังคม ม 6
 
ข้อสอบ O net 49 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net  49 สังคม ม 6ข้อสอบ O net  49 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 49 สังคม ม 6
 
เฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมเฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคม
 
เฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมเฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคม
 
เฉลย Onet 50 สังคม
เฉลย Onet 50 สังคมเฉลย Onet 50 สังคม
เฉลย Onet 50 สังคม
 
เฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมเฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคม
 
ข้อสอบ O net 50 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 50 สังคม ม 6ข้อสอบ O net 50 สังคม ม 6
ข้อสอบ O net 50 สังคม ม 6
 
เฉลย Onet 50 สังคม
เฉลย Onet 50 สังคมเฉลย Onet 50 สังคม
เฉลย Onet 50 สังคม
 
เฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมเฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคม
 
เฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคมเฉลย O net 49 สังคม
เฉลย O net 49 สังคม
 
เฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคมเฉลย O net 52 สังคม
เฉลย O net 52 สังคม
 
เฉลย Onet 51 สังคม
เฉลย Onet 51 สังคมเฉลย Onet 51 สังคม
เฉลย Onet 51 สังคม
 

Sk8 th