หมากรุกไทย
- 1. หมากรุกไทย
หมากรุ กไทย เป็ นเกมกระดานที่พฒนามาจากหมากรุ กของอินเดียที่ชื่อเกมว่าจตุรงค์ ลักษณะการเล่น
ั
เกมใกล้เคียงกับหมากรุ กฝรั่ง นอกจากนี้ในประเทศกัมพูชามีเกมหมากรุ ก ซึ่ งมีลกษณะใกล้เคียงกับหมากรุ ก
ั
ไทยนิยมเล่นกันอย่างแพร่ หลาย
หมากรุ กไทย มีประวัติเริ่ มในอินเดีย โดยมาจากตานานของรามเกียรติ์ ตามตานานกล่าวว่า ฝ่ าย
ทศกัณฐ์น้ น เมื่อมีศึกเข้าประชิด นางมณโฑ มเหสี ของทศกัณฐ์เห็นทศกัณฐ์เครี ยดกับการศึกจึงคิดหาเกมให้
ั
่
สวามีได้ผอนคลาย โดยคิดเป็ นเกมหมากรุ กขึ้น โดยแต่เดิมใช้คนเล่น 4 คน เรี ยกว่า จตุรงค์ แต่ในภายหลัง
ได้รับการปรับปรุ งจนสามารถใช้ผเู ้ ล่นเพียง 2 คนได้
่
แชมป์ หมากรุ กโลก วลาดิเมียร์ แครมนิคระบุวาการเดินหมากรุ กไทยนั้นต้องใช้กลยุทธพอๆกับการ
เดินหมากรุ กสากลในช่วงท้ายเกมเลยทีเดียว
- 2. ตัวหมากรุก
ขุน เป็ นตัวหมากรุ กที่สาคัญที่สุด มีการเดินและกินไปในทิศทางรอบตัวได้ แต่ไม่สามารถเดินเข้าไป
ในตากินของฝ่ ายตรงข้ามได้
เม็ด มีการเดินและกินไปในแนวทแยงทั้ง 4 ด้าน
โคน มีการเดินและกินไปในแนวทแยงทั้ง 4 ด้านและเดินไปทางข้างหน้า
ม้า เดินเหมือนม้าของหมากรุ กสากล เดินและกินในแนวทะแยงไขว้แบบ 2x3 (ลักษณะตัว L) 8
ทิศทาง สามารถข้ามหมากตัวอื่นได้
เรื อ มีการเดินและกินไปในแนวตั้ง-แนวนอน ระยะยาว ไม่สามารถข้ามหมากตัวอื่นได้เหมือนเรื อของ
หมากรุ กชาติอื่น
เบี้ย มีการเดินไปทางข้างหน้าและกินในแนวทแยงด้านหน้า เมื่อเบี้ยไปถึงแนววางเบี้ยของฝ่ ายตรง
ข้ามจะกลายเป็ นเบี้ยหงาย และมีการเดินและกินเช่นเดียวกับเม็ดทุกประการ
กติกาการเล่น
ผูเ้ ล่นแต่ละคนผลัดกันเดินหมากของฝ่ ายตนเองครั้งละ 1 ตัว
ถ้าเดินหมากของฝ่ ายตัวเองไปในตาแหน่งที่หมากของฝ่ ายตรงข้ามตั้งอยู่ หมากของฝ่ ายตรงข้ามจะถูก
กินและนาออกนอกกระดาน ยกเว้นขุนจะถูกกินไม่ได้
ถ้าเดินหมากไปในตาแหน่งที่ตาต่อไปสามารถกินขุนของฝ่ ายตรงข้ามได้ จะเรี ยกว่ารุ ก โดยตาต่อไป
่
ฝ่ ายตรงข้ามต้องป้ องกันหรื อเดินหนีไม่ให้ขุนอยุในตาแหน่งที่จะถูกกิน
่
ถ้าขุนถุกรุ กอยูและไม่สามารถเดินหนี หรื อป้ องกันการรุ กได้ จะถือว่ารุ กจนและเป็ นฝ่ ายแพ้
ถ้าขุนไม่ถูกรุ ก แต่ในตาต่อไปไม่สามารถเดินหมากตัวใดๆได้เลย จะเรี ยกว่าอับ และจะเสมอกัน
การนับศักดิ์
การนับศักดิ์ หรื อบางครั้งเรี ยกว่า การนับเพือขอเสมอ เป็ นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายกระดาน มี
่
เฉพาะในหมากรุ กไทยเท่านั้น โดยเมื่อมีการนับจนครบตามเงื่อนไข จะถือว่าทั้งสองฝ่ ายเสมอกัน ไม่มีการ
แพ้-ชนะเกิดขึ้น
การนับศักดิ์ จะนับโดยฝ่ ายที่เป็ นรองฝ่ ายเดียวเท่านั้น โดยนับในขณะที่ตนเป็ นฝ่ ายเดินหมาก หากลืม
นับในตาใด ให้ถือว่าเป็ นความผิดของฝ่ ายเป็ นรอง ดังนั้นเมื่อถึงตาถัดไปหรื อเมื่อนึกได้ ให้นบเลขต่อจากที่
ั
- 3. นับตัวสุ ดท้าย ห้ามมิให้มีการนับข้ามเด็ดขาด (เว้นแต่ฝ่ายเป็ นต่อจะอนุญาต) เช่น หากนับถึง 10 แล้วลืมนับ
ไป 3 ตา จึงนึกขึ้นได้ ตาต่อไปที่เดินก็ให้นบ 11 (ไม่ให้นบ 14)
ั ั
การนับศักดิ์ สามารถแบ่งได้เป็ น 2 แบบ คือ การนับศักดิ์กระดาน และการนับศักดิ์หมาก
การนับศักดิ์กระดาน
การนับโดยวิธีน้ ีจะเริ่ มนับเมื่อทั้งสองฝ่ ายไม่มีเบี้ยคว่า และฝ่ ายเป็ นรองเหลือหมากตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป
โดยให้เริ่ มต้นนับตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 64 (ฝ่ ายเป็ นรองเป็ นผูนบฝ่ ายเดียว) โดยเมื่อฝ่ ายเป็ นรองนับเลข 64 ฝ่ าย
้ ั
เป็ นต่อจะมีโอกาสเดินอีก 1 ตา ถ้ารุ กจน จะถือว่าชนะ (ต้องนับ 65 ถึงจะเสมอ)
ถ้าระหว่างนับศักดิ์กระดานฝ่ ายเป็ นต่อถูกกินหมากจนกลับเป็ นรอง ก็มีสิทธิ ขอนับศักดิ์กระดานได้
โดยให้นบใหม่ต้ งแต่ 1 และหากฝ่ ายเป็ นต่อกลับมาได้เปรี ยบอีกครั้ง (ได้เปรี ยบ>เสี ยเปรี ยบ>กลับมา
ั ั
ได้เปรี ยบ) ฝ่ ายเป็ นรองก็มีสิทธิ ขอนับศักดิ์กระดานได้ใหม่ แต่ตองเริ่ มนับใหม่ต้ งแต่ 1 ห้ามนับต่อจากเดิม
้ ั
เด็ดขาด
ถ้าระหว่างนับศักดิ์กระดานฝ่ ายเป็ นรองถูกกินหมากจนเหลือขุนเพียงตัวเดียว ฝ่ ายเป็ นรองมีสิทธิเลือก
ที่จะนับศักดิ์กระดานต่อจนครบ 64 หรื อเปลี่ยนไปนับศักดิ์หมากก็ได้
การนับศักดิ์หมาก
การนับโดยวิธีน้ ีจะเริ่ มนับก็ต่อเมื่อฝ่ ายเป็ นรองเหลือขุนเพียงตัวเดียว และบนกระดานไม่มีเบี้ยคว่า
เหลืออยู่ โดยเริ่ มนับตัวหมากของทั้งสองฝ่ ายที่อยูบนกระดานก่อน ได้จานวนเท่าใดก็ให้เริ่ มนับศักดิ์หมาก
่
ต่อจากนั้น เช่น ฝ่ ายเป็ นต่อมีหมาก 4 ตัว (ขุน โคน และเบี้ยหงายอีก 2 ตัว) ฝ่ ายเป็ นรองมีหมาก 1 ตัว (เหลือ
ขุนเพียงตัวเดียว ซึ่ งเป็ นเงื่อนไขของการนับศักดิ์หมากด้วย) เท่ากับว่ามีตวหมากอยูบนกระดาน 5 ตัว ในการ
ั ่
นับศักดิ์หมากก็ให้เริ่ มนับต่อที่ 6 โดยฝ่ ายเป็ นรองเป็ นผูนบฝ่ ายเดียว เมื่อฝ่ ายเป็ นต่อมีศกดิ์ของหมากดังนี้
้ ั ั
เรื อสองลาต้องรุ กให้ฝ่ายเป็ นรองนับถึง 8
เรื อลาเดียวต้องรุ กให้ฝ่ายเป็ นรองนับถึง 16
โคนสองตัวต้องรุ กให้ฝ่ายเป็ นรองนับถึง 22
โคนตัวเดียวต้องรุ กให้ฝ่ายเป็ นรองนับถึง 44
ม้าสองตัวต้องรุ กให้ฝ่ายเป็ นรองนับถึง 32
ม้าตัวเดียวต้องรุ กให้ฝ่ายเป็ นรองนับถึง 64
สาหรับเม็ดและเบี้ยหงายนับถึง 64
การนับศักดิ์หมากให้ไล่นบจากศักดิ์ใหญ่ก่อนเสมอ (เรี ยงจากบนลงล่าง) เช่น หากเหลือ เรื อ 1 ตัว,
ั
โคน 1 ตัว, ม้า 2 ตัว ให้นบ 16 ถ้าหากเลือก โคน 1 ตัว,เบี้ ยหงาย 3 ตัว ให้นบ 44 ถ้าหากเหลือ โคน 1 ตัว,ม้า 2
ั ั
- 4. ตัว ให้นบ 44 (ไม่ใช่ 32 เพราะโคนมีศกดิ์สูงกว่าม้า) แต่บางแห่งก็บอกว่าให้ฝ่ายเสี ยเปรี ยบสามารถเลือกนับ
ั ั
ศักดิ์นอยสุ ดได้
้
การนับศักดิ์หมากจะมีเงื่อนไขการเสมอเหมือนกับจากการนับศักดิ์กระดาน คือ เมื่อฝ่ ายเป็ นรองนับ
จนครบแล้ว ฝ่ ายเป็ นต่อมีสิทธิ เดินได้อีก 1 ตา หากสามารถรุ กจนได้ ให้ถือว่าฝ่ ายเป็ นต่อชนะ เช่น ถ้ามีเรื อ 2
ตัว (นับ 8) พอนับถึง 8 แล้ว ฝ่ ายเป็ นต่อจะมีสิทธิ เดินอีก 1 ครั้ง โดยที่ยงไม่เสมอ (จะเสมอเมื่อฝ่ ายเป็ นรอง
ั
นับ 9 ได้)
ถ้าเริ่ มนับศักดิ์หมากแล้วถ้าฝ่ ายเป็ นรองกินหมากตัวใดตัวหนึ่งของฝ่ ายเป็ นต่อก็มิให้เปลี่ยนแปลงการ
นับเป็ นอย่างอื่น (มีเรื อ 2 ลา นับ 8 หากถูกกินไป 1 ลา ก็ยงคงนับถึงแค่ 8 ไม่เปลี่ยนเป็ น 16 แต่อย่างใด) แต่ถา
ั ้
คิดว่าตัวเองพลิกสถานการณ์ได้แล้ว ฝ่ ายเป็ นรองสามารถจะหยุดนับเมื่อใดก็ได้
นอกจากนี้การนับศักดิ์ยงช่วยเพิ่มความสนุกให้กบการแข่งขัน คือ เมื่อการแข่งขันดาเนิ นมาจนถึงช่วง
ั ั
ปลายกระดาน แต่ยงไม่มีทีท่าว่าจะจบลง หากปล่อยไว้ก็จะใช้เวลามากและน่าเบื่อ เมื่อมีการนับศักดิ์จะทาให้
ั
การแข่งขันไม่ยดเยื้อ และยังช่วยให้ท้ งสองฝ่ ายตั้งใจเดินหมากมากขึ้น เพราะฝ่ ายเป็ นต่อต้องการที่จะชนะ
ื ั
แต่หากคิดไม่รอบคอบ โดนนับจนครบ แทนที่ตวเองจะชนะกลับกลายเป็ นได้แค่เสมอ ในขณะเดียวกัน ฝ่ าย
ั
เป็ นรอง ถ้าปล่อยให้เล่นยืดเยื้อไม่สิ้นสุ ด ย่อมมีโอกาสแพ้สูง แต่เมื่อมีการนับศักดิ์ ทาให้ฝ่ายเป็ นรองเห็น
จุดหมายที่จะเสมอ ทาให้ตองคิดให้รอบคอบเพื่อที่จะได้ไม่ตองแพ้ในกระดานนั้นๆ
้ ้
แหล่งอ้างอิงมาจาก
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E
0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2