Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
Similar a สรุปเตรียมสอบผู้บริหาร ปี 55 (20)
สรุปเตรียมสอบผู้บริหาร ปี 55
- 1. 1. ความรู้ ทวไปและกฎหมายทีเกียวข้ องกับการปฏิบตงาน
ั ั ิ
1) นโยบายรัฐบาล แผนการบริหารราชการแผ่ นดินและวาระแห่ งชาติ
่
- หลักการนโยบายยิงลักษณ์ = ยืดหยุนคํานึงพลวัฒน์การเปลียนแปลง
- จุดมุ่งหมายนโยบายยิงลักษณ์ = กิจ – ปรอง – เซียน = แนวคิดพืนฐานหลัก
วัตถุประสงค์ปรองดอง 1.วิเคราะห์ความขัดแย้ง 2. เทียบประสบการการแก้ไขและสร้างความสําเร็ จจากต่างๆประเทศ
3. ปัจจัยเสริ มความปรองดรอง 4.จัดทําข้อเสนอแนะ
- นโยบายยิงลักษณ์ 8 ข้อ 2 ระยะ (เร่ ง – มัน – กิจ – สัง – ดิน – วิทย์ – ต่าง – เมือง)
ระยะที 1 เร่ งด่วน 16 ข้อ (ดอง/ติด/จิต/นํา/ใต้/พันธ์/ร้อน/วิต/ษี/ทุน/เศรษ/เทียว/กัน/หัต/เตอร์/เมือง)
ระยะที 2 ตามแผนฯ 4 ปี = ข้อ 2 - 8
- วาระแห่งชาติ = 1)ยาเสพติด(7แผน4ปรับ3หลัก6เร่ ง) – 2)สังคมและคุณภาพชีวิต – 3)ลดอุบติเหตุ ั
- เครื องมือในการบริ หารประเทศ = แผนบริ หารราชการแผ่นดิน (55-58)
- ปรัชญา(นโยบายสุ ชาติ ธาดาธํารงเวช) = ความเท่าเทียมและนําเทคโนโลยี
นโยบายกระทรวง ศธ.= 1) จัดการศึกษาทีมีคุณภาพสําหรับเยาวชนทุกคน จบ ม.6 เป็ นแรงงานคุณภาพ ประกันค่าแรง 300
2) ปันนักศึกษาไทยเป็ นมืออาชีพ จบ ป.ตรี ต้องเป็ นมืออาชีพ รายได้ 15,000
ขยายโอกาสทางการศึกษา = 1) โอกาสเข้าถึงทรัพยากร = One Tablet per Child , ห้องเรี ยนรู้ พลังครู , 1 ร.ร.1 พยาบาล
2) โอกาสเข้าถึงแหล่งทุน = Smart Card , เรี ยนก่อนผ่อนทีหลัง,1อําเภอ1ทุน,กองทุนตังตัวได้
3) โอกาสเพิมพูนและฝึ กฝนทักษะ = ศูนย์ซ่อมเพือชุมชน ,1ดนตรี 1กีฬา2ภาษา
4) โอกาสเรี ยนรู้ตลอดชีวต ส่ งเสริ มการศึกษานอกระบบ(ห้องสมุด/พิพิธภัณฑ์)= อินเตอร์เน็ตตําบล
ิ
- ผลผลิต สพฐ. 6 ยุทธศาสตร์ = ก่อน(ผูจบก่อนประถมฯ) / บัง(จบการศึกษาภาคบังคับ)/ ปลาย(จบ ม.ปลาย)/การ(เด็ก
้
พิการ) / ด้อย / พิเศษ
- การปฏิรูปรอบ 1 = ปฏิรูปโครงสร้าง / ปฏิรูปกฎหมาย
- การปฏิรูปรอบ 2 = ปฏิรูปคุณภาพ / ปฏิรูปไอที / ปฏิรูปการมีส่วนร่ วม ภายใต้กรอบ 4 ใหม่ = ไทย – ครู –ถาน –หาร
- วิสยทัศน์การปฏิรูปรอบ 2 = คนไทยเรี ยนรู ้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ
ั
- เป้ าหมายการปฏิรูปรอบ 2 = ภายในปี 61 ปฏิรูปเป็ นระบบเน้น- คุณภาพ/เพิมโอกาส/มีส่วนร่ วม
- วิสยทัศน์แผนฯ4ปี สพฐ = เป็ นองค์กรขับเคลือนคุณภาพการศึกษาให้สูงเทียบเท่าค่าเฉลียโลก ในปี 63
ั
- ค่านิยมฯแผนฯ4ปี สพฐ = เป็ นองค์กรทีมีชีวิต พร้อมจิตเอืออาทร มีอาภรณ์ คือ ขยัน ยึดมันหลักยุติธรรม
- กลยุทธ์แผนฯ4ปี สพฐ = (คุณ – คุณ – โอ – ครู – สิ ทธิ – ใต้) = คุณ(คุณภาพ) – คุณ(คุณธรรม) – โอ(โอกาส) – ครู
(พัฒนาครู ) – สิ ทธิ(เพิมประสิ ทธิภาพบริ หารจัดการ) – ใต้(ส่ งเสริ มการศึกษาพิเศษเฉพาะกิจภาคใต้)
- ทิศทาง สพฐ ปี 55 = เป็ นองค์กรขับเคลือนคุณภาพการศึกษาเข้าสู่ มาตรฐานสากล ในปี 63
- PISA = ประเมินผลนักเรี ยนนานาชาติ=ประเมินผลการศึกษาประเทศสมาชิก OEDC=เน้นสมรรถนะการใช้ความรู ้และ
ทักษะ 3 ด้าน =การอ่าน / คณิ ตศาสตร์ / วิทยาศาสตร์
- โรงเรี ยนมาตรฐานสากล = 1.ผูเ้ รี ยนเป็ นพลโลก(เลิศวิชาการ/สื อสาร2ภาษา(ม.ปลายเพิมภาษาที2)/ลําหน้าทางความคิด/
ผลิตอย่างสร้างสรรค์ 2.สอนเทียบเคียงมาตรฐานสากล 3.บริ หารจัดการด้วยระบบคุณภาพ
2) สถานการณ์ ทางเศรษฐกิจ สั งคมและการเมืองในปัจจุบน ั
แผนพัฒนาฯ ที11
- ยึดหลักปฏิบติตาม “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
ั
- ยึดแนวคิดการพัฒนาแบบบูรณาการเป็ นองค์รวมทีมี “คนเป็ นศูนย์กลาง”
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
1
- 2. - ยึดวิสยทัศน์ปี 70 = คนไทยภาคภูมิใจในความเป็ นไทย มีมิตรไมตรี บนวิถีความพอเพียง ยึดมันในวัฒนธรรมไทย และหลัก
ั
ธรรมาภิบาล บริ การสู่ สาธารณะทีทัวถึง มีคุณภาพ สังคมปลอดภัยและมันคงฯ
- วิสยทัศน์ = สังคมอยูร่วมกันอย่างมีความสุ ข เสมอภาค เป็ นธรรม และภูมิคุมกันต่อการเปลียนแปลง
ั ่ ้
- ยุทธศาสตร์ = 1) สร้างความธรรมในสังคม 2)พัฒนาคนสู่ สงคมแห่งการเรี ยนรู ้ตลอดชีวตอย่างยังยืน 3) ความเข็มแข็งภาค
ั ิ
เกษตร ความมันคงอาหารและพลังงาน 4) ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเติบโตมีคุณภาพ/ยังยืน 5) สร้างความเชือมโยงกับประเทศใน
ภูมิภาคเพือเศรษฐกิจและสังคม 6) จัดการทรัพยากรและสิ งแวดล้อมทียังยืน
3) การบริหารยุคใหม่ การบริหารการเปลียนแปลงและทฤษฎีทางการบริหาร
- การบริ หารมุ่งผลสัมฤทธิ = 1)วิเคราะห์วิสยทัศน์ พันธกิจ 2)กําหนดปัจจัยหลักความสําเร็ จCSFs 3)กําหนดตัวชีวัดผลการ
ั
ดําเนินงานหลักKPIs 4)กําหนดแหล่งข้อมูล 5)ตังเป้ าหมาย 6)รวบรวมข้อมูล 7)บันทึก/อนุมติขอมูล 8)วิเคราะห์ผล 9)รายงานผล
ั ้
- วิเคราะห์องค์กร =ดาว(โอกาส-แข็ง//กลยุทธ์เชิงรุ ก) /สงสัย(โอกาส-อ่อน//กลยุทธ์พฒนาองค์กร)/แม่วว(อุปสรรค-แข็ง//กล
ั ั
ยุทธ์ป้องกัน-ผูนา)/สุ นข(อุปสรรค-อ่อน//กลยุทธ์ประคองตัว-ถอยฉาก)
้ ํ ั
- การบริ หารโดยใช้โรงเรี ยนเป็ นฐาน(SBM) = กระจายอํานาจ – มีส่วนร่ วม – คืนอํานาจ – บริ หารตนเอง – ตรวจสอบและถ่วงดุล
- การบริ หารคุณภาพทังองค์กร TQM = โครงสร้าง + บุคคล = พัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนือง =ดําเนินงานบนพืนฐานเกียวกับ
ตัวบุคคล + ปรับปรุ งกระบวนการทํางาน
- ภาวะผูนาการเปลียนแปลง(4I’S) = แบบอย่าง – จูงใจ – แก้ปัญหา- เอใจใส่
้ ํ
1) การมีอิทธิผลอย่างมีอุดมการณ์ = ผูนาทีเป็ นแบบอย่างทีดี
้ ํ
2) การสร้างแรงบันดาลใจ = ผูนาทีสร้างแรงจูงใจภายในให้ผตามได้
้ ํ ู้
3) การกระตุนทางปัญญา = ผูนาทีกระตุนให้ผตามแก้ปัญหาได้ดวยตนเองอย่างสร้างสรรค์
้ ้ ํ ้ ู้ ้
4) การคํานึงถึงปัจเจกบุคคล = ผูนาทีเอาใจใส่ ผตามเป็ นรายบุคคล/โค้ช/ทีปรึ กษา
้ ํ ู้
- วัฒนธรรมองค์กร = สร้างการรับรู ้ – ปรับเปลียนแนวคิด ทัศนคติ – เปลียนพฤติกรรม
ปัจจัยสู ้ความสําเร็ จต่อการเปลียนฯ = เปลียนโครงสร้างองค์กร – ลดอายุงาน – สร้างวัฒนธรรมใหม่(ผูบริ หารทีมใหม่)
้
- การบริ หารความเสี ยง = กําหนดวัตถุประสงค์ – ระบุความเสี ยง – ประเมินความเสี ยง – ติดตาม รายงานผล
4) หลักปรัชญาเศรษฐกิจของเศรษฐกิจพอเพียง
่
- มาณ – ผล - คุม - รู ้ - ธรรม / 30-30-30-10=นํา-นา-พืชไร่ -ทีอยูอาศัย
้
- ความรู ้ = สติปัญญา/รอบรู ้/รอบคอบ/ระมัดระวัง/ คุณธรรม=ซือสัตย์/สุ จริ ต/ขยัน/อดทน/สามัคคี/แบ่งปัน
5) กฎหมายว่ าด้ วยการศึกษาแห่ งชาติ
- แผนการศึกษาแห่งชาติ = แผนระยาว 15 ปี / แผนฯปรับปรุ ง (เน้นการปฏิบติ) = สภาการศึกษา+รัฐมนตรี
ั
- กฎหมายแม่บททางการศึกษา = พรบ.การศึกษาแห่งชาติ 42
- สิ ทธิ = 1.บุคคลได้รับการศึกษา 12 ปี (ทัวถึง / คุณภาพ / ไม่เสี ยค่าใช้จ่าย) 2.เด็กพิการ + เด็กด้อยโอกาส 3. เด็กพิการจัด
ตังแต่แรกเกิด/แรกพบ 4.เด็กทีมีความสามารพิเศษจัดรู ปแบบทีเหมาะสม
- หน้าที = บิดาร – มารดา – ผูปกครอง เท่านัน
้
จุดเน้น 1. ก่อนประถม 1 = เจริ ญ /ร่ างกาย /สติปัญญา /อารมณ์
2. ประถม 1-3 = คิด /เขียน /อ่าน เบืองต้น
3. ประถม 6 = คิด /เขียน /อ่าน ขันสู ง
4. มัธยมศึกษาปี 3 = ระดับชาติ / นานาชาติ (77=66+11)
5. มัธยมศึกษาปี 6 = ศึกษาต่อ / อาชีพ (77=41+36)
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
2
- 3. - พรบ.45 =1.ปฏิรูประบบราชการ 2.แยกกระทรวงวัฒนธรรม 3.กําหนดหน้าทีอาชีวะ 4.ประเมินภายนอก
- พรบ.53 = การบริ หารยึดเขตฯ = ดับ(ระดับการศึกษา) – ถาน(สถานศึกษา) – กร(ประชากร) – วัฒ – สม
6) กฎหมายว่ าด้ วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
- พันธกิจแผนฯ 4 ปี กระทรวงศึกษา = ยกระดับคุณภาพ / เสริ มสร้างโอกาสทางการศึกษา / พัฒนาระบบบริ หารตามหลัก
ธรรมาภิบาล
- กระทรวงศึกษาธิการ = นโยบาย = ส่ วน(กลาง + เขตฯ + ญา)
- สพฐ = ติดตามภารกิจตามนโยบาย ครู = วิจย
ั
- สํานักงานเขตฯ = ยุบ/รวม/เลิก/ส่ งเสริ ม/สนับสนุน =มุ่งผลสัมฤทธิ (เขตฯ + สถานศึกษา + อปท.)
- สถานศึกษา = ปฏิบติ/ดําเนินการ = คณะกรรมการสถานศึกษา เล็ก =9คน/ใหญ่ =15คน
ั
- พระราชกฤษฎีกา = ออกโดยคณะรัฐมนตรี พระราชบัญญติ = ฝ่ ายนิติบญญัติ ั
- กฎกระทรวง = ฝ่ ายบริ หาร / ส่ วนราชการ / กระทรวง
7) กฎหมายว่ าด้ วยสภาครู และบุคลากรทางการศึกษา
- โครงสร้างการบริ หาร = เอก – จาย – ฐาน – ครู – ทรัพย์ – ร่ วม
8) กฎหมายว่ าด้ วยระเบียบข้ าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
สู ตรวาระการดํารงตําแหน่ง
1. 1,5,6,7,8 ปี ห้ามกา
2. ไม่เกิน 2 ปี 2 วาระติดต่อกัน = คณะกรรมการเขตฯ
3. ไม่เกิน 3 ปี 2 วาระติดต่อกัน = คณะกรรมการคุมครองเด็ก , คนพิการ , กตปน.
้
4. ไม่เกิน 4 ปี ทีเหลือกาเลย
จรรยาบรรณวิชาชีพ = มวลประสบการณ์ความประพฤติ
- ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ(ถูกเพิกถอน-แสดงตน) = โทษ 12 =จําคุก 1 ปี ปรับ 20,000
- ไม่ได้รับใบประกอบวิชาชีพเข้าประกอบอาชีพควบคุม = โทษ 36 =จําคุก 3 ปี ปรับ 60,000
- เพิกใบประกอบวิชาชีพ = พ้น 5 ปี พักใบประกอบวิชาชีพ = 5 ปี
9) กฎหมายว่ าด้ วยระเบียบวิธีปฏิบตราชการทางการปกครอง
ั ิ
- คําสังทางปกครอง = ผลจากการสร้างนิติสมพันธ์ระหว่างบุคคล เช่น การสังการ อนุญาต อนุมติ วินิจฉัยอุทธรณ์ รับรอง
ั ั
จัดทะเบียน คําสัง แต่ไม่รวมการออกกฎ(พระราชกฤษฎีกา/กฎกระทรวง/ประกาศกระทรวง/ข้อบัญญัติทองถิน/ระเบียบข้อบังคับ)
้
- คู่กรณี = ผูยนคําขอ / คัดค้านคําขอ / ผูอยูในบังคับของคําสังทางปกครอง / ผูถูกกระทบกระเทือน
้ื ้ ่ ้
- ห้ามทําการพิจารณาทางปกครอง = คู่กรณี /คู่หมัน คู่สมรส/ญาติคู่กรณี /เจ้าหนี ลูกหนี นายจ้าง/เคยเป็ นผูแทน
้
- ผูทีพิจารณาทางปกครอง = บรรลุนิติภาวะ/กฎหมายสังแม่ไม่บรรลุฯ/นิติบุคคล/ผูทีมีประกาศของนายกฯ
้ ้
- การยืนคําขอร่ วมกันเกิน 50 คน ข้อความเดียวกัน/ระบุตวแทน ให้ถือเป็ นตัวแทนร่ วม(บุคคลธรรมดา)
ั
ถ้าคู่กรณี เกิน 50 คน ข้อความเดียวกัน/ไม่ระบุตวแทน ให้เจ้าหน้าทีแต่งตังคู่กรณี ฝ่ายข้างมากเป็ นตัวแทนร่ วม(บุคคลธรรมดา)
ั
- เอกสารทียืนทีจัดทําเป็ นภาษาไทย ถ้าเป็ นภาษาต่างประเทศให้คู่กรณี จดทําแปลเป็ นภาษาไทยทีมีการรับรองความถูกต้อง
ั
- คําสังทางปกครองอาจเป็ นหนังสื อหรื อวาจา(ผูรับร้องขอภายใน 7 วัน เจ้าหน้าทีผูออกคําสังต้องยืนยันคําสังเป็ นหนังสื อ)หรื อสื อ
้ ้
ในรู ปแบบอืนแต่ตองมีขอความ/ความหมายชัดเจนทีจะเข้าใจได้ = ประกอบด้วย = ข้อเท็จจริ ง / ข้อกฎหมาย / ข้อพิจารณา-ข้อสนับสนุน
้ ้
- คู่กรณี อุทธรณ์คาสังทางปกครองภายใน 15 วันนับวันทีตนได้รับแจ้ง
ํ
- การเพิกถอนคําสังทางปกครองต้องกระทําภายใน 90 วันนับตังแต่ได้รู้ถึงเหตุ
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
3
- 4. - คําสังทางปกครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย ร้องขอค่าทดแทนภายใน 180 วันนับตังแต่ได้รับแจ้งเพิกถอน
้ ่
- ถ้าผูอยูในบังคับคําสังทางปกครองผ่าฝื นไม่ปฏิบติตาม ั
1) เจ้าหน้าทีดําเนินการเอง/มอบหมายคนอืนแทน ผูอยูในบังคับต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายและเงินเพิมร้อยละ 25/ปี ของค่าใช้จ่าย
้ ่
2) ใช้ชาระค่าปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท/วัน
ํ
- อายุความ = ไม่นบวันแรก วันสิ นสุ ดเข้าด้วย (วันทําการทีถัดจากวันหยุด)
ั
- การแจ้งคําสังทางปกครอง หากผูรับไม่รับ ้
1) ให้บุคคลบรรลุนิติภาวะทีนัน/ปิ ดหนังสื อไว้ในทีเห็นได้ง่าย ณ ทีนันต่อหน้าเจ้าพนักงาน
2) ไปรษณี ยตอบรับ (7วันภายในประเทศ / 15ต่างประเทศ)
์
3) ผูรับเกิน 50 คน ปิ ดประกาศ ณ ทีทําการ/ทีว่าการอําเภอ ถือรับแจ้งเมือพ้น 15 วัน
้
4) ไม่รู้ตวผูรับ/ไม่มีภูมิลาเนา/เกิน 100 คน ประกาศในหนังสื อพิมพ์ทีเผยแพร่ ในท้องถิน ถือรับแจ้งเมือพ้น 15 วัน
ั ้ ํ
10) กฎหมายว่ าด้ วยข้ อมูลข่ าวสารของราชการ
ข้อมูล = ข้อเท็จจริ ง – สารสนเทศ – สถิติ
ข้อมูลข่าวสาร = สิ งทีสื อความหมายให้รู้เรื องราว ข้อเท็จจริ ง ข้อมูล ในรู ปแบบเอกสาร ภาพ เสี ยง คอมพิวเตอร์
่
ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ = ข้อมูลข่าวสารทีอยูในครอบครอง/ดูแลของรัฐ
ข้อมูลข่าวสารส่ วนบุคคล = ข้อมูลข่าวสารเฉพาะบุคคล /การศึกษา/ฐานะการเงิน/ประวัติ/อืนทีรู ้ตวผูนนรวมทีถึงแก่กรรม
ั ้ ั
- ถ้าบุคคลขอดูขอมูลข่าวสาร หน่วยงานรัฐผูรับผิดชอบจัดหาข้อมูลข่าวสารนันภายในเวลาอันสมควร ถ้าไม่จดพิมพ์/
้ ้ ั
จัดหามีสิทธิร้องเรี ยนต่อคณะกรรมการฯ พิจารณาให้แล้วเสร็ จภายใน 30 วันถ้าขยายไม่เกิน 60 วัน
ข้อข่าวสารทีไม่ตองเปิ ดเผย = 1)ก่อให้เกิดความเสี ยหายต่อสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ 2) เสี ยหายต่อความมันคงของประเทศ/
้
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ/ความมันคงทางเศรษฐกิจ-คลัง 3) ทําให้กฎหมายเสื อมประสิ ทธิภาพ 4) เกิดอันตรายต่อชีวิต/ความ
ปลอดภัย 5) รายงานการแพทย์/รุ กลําสิ ทธิส่วนบุคคล เสี ยหาย (เสนอคําคัดค้านไม่นอยกว่า 15 วันทีรับแจ้ง) 6) กฎหมายคุมครอง
้ ้
เอกสารประวัติศาสตร์(ไม่ประสงค์เก็บรักษาส่ งต่อหอจดหมายเหตุ กรมศิลปากร) = ข้อ1) 75ปี ข้อ2-6) 20ปี
คณะกรรมการเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร ไม่นอยกว่า 3 คน
้
ไม่ปฏิบติ(ให้ถอยคํา/ส่ งวัตถุ เอกสาร) จําคุกไม่เกิน 3 เดือน /ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ั ้
ฝ่ าฝื น(เปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร ข้อ2-6)จําคุกไม่เกิน 1 ปี /ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
จุดมุ่งหมายระบบสารสนเทศ = ประมวลข้อมูลเป็ นสารสนเทศนําไปสู่ ความรู ้ทีช่วยแก้ปัญหา=คนสําคัญสุ ด
- EIS = ระดับการตัดสิ นใจ/เชียวชาญ = รัฐมนตรี DSS = สนับสนุนการตัดสิ นใจ = กระทรวง
- MIS = บริ หาร = สพฐ DPS = ระดับปฏิบติการ = เขตฯ + สถานศึกษา
ั
11) กฎหมายว่ าด้ วยการศึกษาสํ าหรับคนพิการ
- คนพิการ คือ บุคคลซึงมีขอจํากัดในการปฏิบติกิจกรรมประจําวันหรื อมีส่วนร่ วมทางสังคม
้ ั
- แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล = สิ งต้องคํานึงลําดับ 1 = แผนการเรี ยนรู ้คนพิการ = แผนซึงกําหนดแนวทางการจัด
การศึกษาทีสอดคล้องกับความต้องการจําเป็ นพิเศษของคนพิการ
- ครู การศึกษาพิเศษ = มีวฒิทางการศึกษาพิเศษสู งกว่าปริ ญญาตรี
ุ
- ศูนย์การศึกษาพิเศษ = จัดการศึกษานอกระบบ/อัธยาศัยแก่คนพิการตังแต่แรกเกิดหรื อแรกพบความพิการ
- ศูนย์การการเรี ยนเฉพาะความพิการ = จัดการศึกษานอกระบบ/อัธยาศัยแก่คนพิการโดยเฉพาะตังแต่ปฐมวัย
- คนพิการมีสิทธิ = 1) รับการศึกษาไม่เสี ยค่าใช้จ่าย 2)เลือกบริ การทางการศึกษา 3)ได้รับการศึกษาทีมีมาตรฐานและประกันคุณภาพ
- สพท.มีหน้าทีจัดการศึกษาโดยเฉพาะ การจักการเรี ยนร่ วม/นิเทศ/กํากับ/ติดตามเพือให้คนพิการไก้รับการศึกษาทัวถึง/มีคุณภาพ
- สพฐ. สนับสนุนทรัพยากร องค์ความรู ้ และบุคลากรทีเชียวชาญเฉพาะด้านแก่ สพท.(ได้ครู เพิม)
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
4
- 5. 12) กฎหมายว่ าด้ วยคุ้มครองเด็ก
- เด็ก คือ บุคคลทีมีอายุตากว่า 18 ปี บริ บูรณ์แต่ไม่รวมบรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
ํ
- เด็กพึงได้รับการสงเคราะห์ = เร่ ร่อน กําพร้า / ถูกทอดทิง พลัดหลง/พิการ/ลําบาก/ผูปกครองไม่สามารถเลียงได้-อาชีพไม่เหมาะ
้
เด็กทีได้รับการสงเคราะห์มีอายุ 18 ปี บริ บรณ์ ปลัดกระทรวง/ผู้ว่าฯ อาจสังให้รับฯถึง 20 ถ้ามิคดค้านรับฯไม่เกิน 24 ปี บริ บูรณ์
ู ั
้ ่
- เด็กพึงได้รับการคุมครองสวัสดิภาพ = ถูกทารุ ณกรรม / เสี ยงต่อการทําผิด / อยูในสภาพทีต้องคุมครอง
้
การส่ งเด็กไปสถานแรกรับระหว่างสื บเสาะและพินิจเพือหาวิธีการคุมครอง ให้กระทําได้ไม่เกิน 7 วัน
้
ศาลมีอานาจออกคําสังให้ตารวจจับกุมผูทารุ ณกรรมเด็กมากักขังได้ครังละไม่เกิน 30 วัน (ห้ามเข้าใกล้ตวเด็ก)
ํ ํ ้ ั
หากผูปกครองไม่เห็นด้วยกับการตัดสิ นทํางานบริ การสังคม มีสิทธินาคดีสู่ ศาล ภายใน 120 วัน
้ ํ
- สถานรับเลียงเด็ก = สถานทีรับเลียง/พัฒนาเด็กทีมีอายุไม่เกินหกปี บริ บูรณ์และมีหกคนขึนไป
ํ ้ ้่
- ปลัดกระทรวงมีอานาจจัดตังสถานรับเลียง/แรกรับ/สงเคราะห์/คุมครอง/ฟื นฟูเด็กทัวราชอาณาจักร / ผูวาฯภายในเขต
จังหวัด
ผูใดจัดตังโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจําคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
้
- สถานสงเคราะห์ = สถานทีอุปการะเลียวดู/พัฒนาเด็กตังแต่ 6 คนขึนไป
- คณะกรรมการคุมครองเด็ก ต้องเป็ นสตรี ไม่นอยกว่า 1 ใน 3
้ ้
- การปฏิบติต่อเด็ก ให้คานึงถึงประโยชน์สูงสุ ดของเด็กเป็ นสําคัญ
ั ํ
- ห้ามมิให้กระทําทารุ ณกรรม บังคับคู่เข็ญ ใช้ จาง วานเด็ก จําหน่วยสุ รา/บุหรี แก่เด็ก โทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน/ปรับไม่เกิน 30,000
- ห้ามเผยแพร่ ทาให้เกิดความเสี ยหายแก่จิตใจ ชือเสี ยง โทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน/ปรับไม่เกิน 60,000
ํ
- โรงเรี ยน/สถานศึกษาต้องมีระบบงานและกิจกรรมแนะแนว ให้คาปรึ กษา ฝึ กอบรม เพือส่ งเสริ มความประพฤติทีเหมาะสม
ํ
ความรับผิดชอบต่อสังคมและความปลอดภัยแก่นกเรี ยน
ั
- ผูใดยุยง ส่ งเสริ ม ช่วยเหลือ สนับสนุนให้นกเรี ยนนักเรี ยนประพฤติผดระเบียบของโรงเรี ยนจําคุกไม่เกิน3 เดือน ปรับไม่เกิน30,000
้ ั ิ
13) กฎหมายหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้ านเมืองทีดี
- การบริ หารราชการเพือบรรลุเป้ าหมาย
1) เกิดผลประโยชน์สุขของประชาชน(ม.๗) = กําหนดภารกิจของรัฐและส่ วนราชการเพือ ม.๗ สอดคล้องนโยบายรัฐ
2) เกิดผลสัมฤทธิต่อภารกิจของรัฐ = ก่อนดําเนินการต้องจัดทําแผนปฏิบติราชการ=แผน 4ปี (รายละเอียด/ขันตอน/
ั
ระยะเวลา/งบประมาณ/เป้ าหมาย/ผลสัมฤทธิ/ตัวชีวัด) = แผนบริ หารราชการแผ่นดิน เสนอคณะรัฐมนตรี ภายใน 90 วันทีแถลงนโยบาย
3) มีประสิ ทธิ ภาพและเกิดความคุมค่าของรัฐ 4) ไม่มีขนตอนปฏิบติงานเกินจําเป็ น 5) ประชาชนได้รับความสะดวก
้ ั ั
6) ปรับปรุ งภารกิจส่ วยราชการทันสถานการณ์ 7) ประเมินผลการปฏิบติราชการสมําเสมอ(คํารับรอง)
ั
- หลักธรรมมาภิบาล = นิ – คุณ – โปร่ ง – ร่ วม – ชอบ – ค่า (นิตธรรม + คุณค่า = หลักการ) (โปร่ ง – ร่ วม – ชอบ – ค่า = วิธีปฏิบติ)
ั
2. ความสามารถในการบริหารงานในหน้ าที
1) การบังคับบัญชา อํานาจและหน้ าทีบริหารกิจการของสถานศึกษาระเบียบ ข้ อบังคับ นโยบายและวัตถุประสงค์ ของ
สถานศึกษา
บทบาทและหน้าทีของผูบริ หาร
้
1. ตาม พรบ.ระเบียบบริ หารราชการ ศธ. 46 = 1) บริ หารกิจการตามกฎ ระเบียบ 2)ประสานระดมทรัพยากร 3)เป็ นผูแทนทํา
้
นิติกรรม 4)จําทํารายงานประจําปี 5)อนุมติวฒิ 6)อืนๆ
ั ุ
2. ตาม พรบ.ระเบียบ ก.ค.ศ. 47 = 1) บริ หารงานบุคคล 2)พิจารณาความดีความชอบ 3)ส่ งเสริ มสนับสนุนบุคลากรให้พฒนา
ั
4)จําทําภาระ/มาตรฐานครู 5)ประเมินผลการปฏิบติงานครู 6)อืนๆตาม อ.ก.ค.ศ.
ั
- ผลสัมฤทธิ = ประสบผลสําเร็ จ = วัตถุประสงค์ = เป้ าหมาย
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
5
- 6. - กระจายอํานาจ = วิ / มาณ / คน / ไป
2) การวางแผนพัฒนาการศึกษา ประเมินและจัดทํารายงานเกียวกับกิจการของสถานศึกษา
- งานวิชาการ = คุณภาพ,ประกัน,หลักสู ตร,วิชาการ,นิเทศ,วัดประเมินผล
- งานบุคคล = บรรจุ,แต่งตัง,สรรหา,ให้ออก,วินย,อุธรณ์,ร้องทุกข์,เครื องราช,ขวัญกําลังใจ
ั
- งบประมาณ = งบประมาณ,เงิน,บัญชี,ทรัพย์สิน,พัสดุ
็
- หนังสื อสังการ = คําสัง(ชอบด้วยกฎหมาย) / ระเบียบ(อาศัยอํานาจกฎหมายหรื อไม่กได้) / ข้อบังคับ(อาศัยอํานาจกฎหมาย)
- ชันความเร็ วหนังสื อ = ด่วนทีสุ ด(ปฏิบติทนที) / ด่วนมาก(ปฏิบติโดยเร็ ว) / ด่วน(ปฏิบติเร็ วกว่าปกติ-อักษรสี แดง)
ั ั ั ั
- ชันความลับ = ลับทีสุ ด(เสี ยหายต่อความมันคงร้อยแรงทีสุ ด)/ลับมาก(เสี ยหายต่อความมันคงร้อยแรง) / ลับ(เสี ยหายต่อฯ)
- หนังสื อเก็บไม่นอยกว่า 1 ปี = หนังสื อเรื องธรรมดาสามัญ
้
- หนังสื อเก็บไม่นอยกว่า 5 ปี = หนังสื อทีปฏิบติงานเสร็ จสิ นแล้วและเป็ นคู่สาเนา
้ ั ํ
- หนังสื อเก็บไม่นอยกว่า 10 ปี = หนังสื อความลับ/สํานวนศาล/หนังสื อประวัติศาสตร์/เอกสารการเงิน(ไม่ใช่เอกสารสิ ทธิ)
้
- ขันตอนการวางแผนและบริ หารโครงการ
1)ทบทวน/ตรวจสอบผลการดําเนินงานทีผ่านมา 2)ริ เริ มโครงการใหม่/วิเคราะห์เบืองต้น 3)วิเคราะห์/กําหนดรายละเอียด
โครงการ 4)วิเคราะห์/จําทําคําของบประมาณ 5)ติดตามความก้าวหน้าการดําเนินโครงการ 6)ประเมิน ติดตาม ปรับปรุ ง แก้ไข
- แผนพัฒนาสถานศึกษา (3-5ปี ) ครอบคลุมทุกด้าน /พัฒนาคุณภาพผูเ้ รี ยนต้องคํานึงถึงมาตรฐานการเรี ยนรู ้
- สถานศึกษาส่ งแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาประจําปี (คณะกรรมการสถานศึกษาเห็นชอบ)ต่อเขตฯภายในเดือน
พฤษภาคม (สมศ.เฉพาะปี รับประเมินภายนอก) เขตฯเสนอ สพฐ.ภายในเดือนกรกฎาคม สพฐ.นําผลมากําหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์
3) การจัดทําและพัฒนาหลักสู ตรสถานศึกษา การจัดกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาสื อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีฯ การนิเทศ
การวัดผล ประเมินผล
- ขันตอนการจัดทําหลักสู ตร = แต่งตังคณะกรรมการบริ หารหลักสู ตร(ผูบริ หาร-ครู )/วิเคราะห์/จัดทํา/คณะกรรมการ
้
สถานศึกษาเห็นชอบ/ใช้หลักสู ตร/วิจยและติดตามการใช้
ั
- หลักสู ตรแกนกลางฯ=คณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐาน(กพฐ.)=แผนพัฒนาฯที11/จุดเน้นนอง ศธ.
- หลักสู ตรท้องถิน = สพท. หลักสู ตรสถานศึกษา = สถานศึกษา
- วิสยทัศน์หลักสู ตร51 = มุ่งพัฒนาผูเ้ รี ยนทุกคน มีความสมดุลทังร่ างกาย ความรู ้ คุณธรรม เป็ นพลเมืองไทย พลโลก ยึดมัน
ั
ระบอบประชาธิปไตย ทุกคนสามารถเรี ยนรู ้และพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ
- หลักการหลักสูตร51 = เอก–ชน–จาย – ยืด – เน้น– ใน(/นอก/อัธยาศัย)
- จุดมุ่งหมายหลักสู ตร51 = คุณ – รู ้ – สุ ข – จิต – รักษ์ = เก่ง ดี สุ ข
- สมรรถนะหลักสู ตรฯ51= สื อ – คิด - แก้ – ทัก – เทค
- คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสู ตรฯ51 = ชาติ – ซือ – นัย – ใฝ่ – เพียง – งาน – รัก – จิต
- แนวทางการจัดการศึกษา = จัดการศึกษาเพือมุ่งผูเ้ รี ยนเป็ นสําคัญ
- ตัวชีวัดชันปี =เป้ าหมายพัฒนาระดับการศึกษาภาคบังคับ(ป.๑–ม.๓) ตัวชีวัดช่วงชัน=เป้ าหมายพัฒนาระดับม.ปลาย(ม.๔- ๖)
- สาระการเรี ยนรู ้ = องค์ความรู ้ + ทักษะหรื อกระบวนการเรี ยนรู ้ + คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รี ยน = แนะแนว/นักเรี ยน/เพือประโยชน์และสาธารณะประโยชน์(ประถม 60/ม.ต้น45/ม.ปลาย60)
- ห้องเรี ยนคุณภาพ = ไอ – จัย – นัย – แปลง – อิง
- การวัดผลประเมินผล51 = ชัน(ก่อน-หลัง-พัฒนาการ) – ถาน(ภาค/ปี /เลือนชัน) – เขต(ก่อนจบช่วงชัน) – ชาติ(จบช่วงชัน)
- การประเมินผูเ้ รี ยน = พัฒ + พฤติ + สัง + กิจ + สอบ
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
6
- 7. - การเทียบโอน = พิจารณาจาหลักฐาน + ทดสอบความรู ้ความสามารถ+ สภาพจริ ง = ก่อนเปิ ดภาคเรี ยนแรก/ต้นภาคเรี ยน
แรก/เรี ยนในทีเทียบโอนอย่างน้อย 1 ภาคเรี ยน
- ภารกิจสถานศึกษาพัฒนาหลักสู ตร = จัดทํา – วางแผน/ใช้ – วิจย – ประเมิน – ปรับปรุ ง/พัฒนา
ั
- การนิเทศ = กํากับ – ดูแล – ช่วยเหลือ
- นิเทศภายใน = สถานศึกษา
- การคัดเลือกหนังสื อ = ตรงสาระ/มาตรฐาน
- O-Net = การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขนพืนฐานั I – Net = อิสลาม
- A – Net = การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติระดับสู ง V – Net = อาชีวะ N – Net = นอกระบบ
- การจําหน่ายนักเรี ยน =ย้าย/ตาย/หยุดเรี ยนนาน/ไม่มีตวตนในพืนที/พ้นเกณฑ์ภาคบังคับ/เรี ยนจบ
ั
- ทัศนศึกษาไม่คางคืน ผอ.อนุญาต/ค้างคืน ผองเขตฯอนุญาต / ต่างประเทศ หัวหน้าส่ วนอนุญาต
้
4) การส่ งเสริมและจัดการศึกษาให้ กบผู้เรียนทุกกลุ่มเป้ าหมาย ทังในระบบและนอกระบบ และตามอัธยาศัย
ั
5) การจัดทําระบบประกันคุณภาพการศึกษา
หลักการ = กระจายอํานาจ – มีส่วนร่ วม – รับผิดชอบ (แผนพัฒนาคุณภาพฯ+มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา)
ระบบการประกันคุณภาพภายใน=1)การประเมินคุณภาพภายฯ 2)การติดตามตรวจสอบคุณภาพฯ 3)การพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ระบบการประกันคุณภาพภายนอก=1)การประเมินคุณภาพภายนอก 2)การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา
วิธีปฏิบติ = กําหนดมาตรฐาน/ทําแผนฯ/จัดระบบสารสนเทศ/ติดตาม/ประเมิน/รายงาน/พัฒนาคุณภาพต่อเนือง
ั
การประกันคุณภาพภายใน = โดยบุคลากรของสถานศึกษา(ทุกปี ) / เขตฯ(อย่างน้อย 1 ครังในทุก 3 ปี )
การประกันคุณภาพภายนอก = โดย สมศ.เพือประกันคุณภาพและให้มีคุณภาพและมาตรฐาน(อย่างน้อย 1 ครังในทุก 5 ปี )
ยึดหลักเทียงตรง เป็ นธรรม โปร่ งใส คํานึงถึงความเป็ นอิสระ/เสรี ทางวิชาการ=การรับรองระดับตัวบ่ งชี(ค่าเฉลียตัวบ่งชีพืนฐาน
4.00 ขึนไป/ตัวบ่งชีย่อยอย่างน้อย 20 ตัวมีคะแนน 3.75 ขึนไป/ไม่มีตวบ่งชีใดตํากว่า 2.5),การรับรองภาพรวม(ค่าเฉลีย 4.00ขึน
ั
ไป/ค่าเฉลียระดับ 3.75 ไม่ตากว่า 3 มาตรฐานใน 4 มาตรฐาน/ไม่มีมาตรฐานใดไก้ปรับปรุ ง น้อยกว่า 2.51)
ํ
6) การบริหารงบประมาณ การเงิน และทรัพย์ สิน
- หลักการบริ หารการเงิน = คล่องตัว/ถ่วงดุล
- หลักประกันสัญญา = เช็ค/หนังสื อคํา = ไม่ตาร้อยละ 5 = ไม่เกิน 3 วัน
ํ
- จัดซือจัดจ้างแบบไม่มีสญญา = หน่วยงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ – ส่ งมอบงานได้ภายใน 5 วัน
ั
- เงินรายได้แผ่นดิน = หนุน + เนียม + ทิศ(อุทิศ) + โยชน์ + ดอก
- RBM = Input – Process – Output - Outcome
- หลักการบริ หารมุ่งผลสัมฤทธิ (RBM) 1. มีพนธกิจ-ภารกิจ 2. มีการดําเนินงาน/โครงการชัดเจน
ั
3. มีการกํากับติดตามการปฏิบติงาน 4. ปรับปรุ งพัฒนางาน
ั
- หัวใจ RBM = 1. วัดผล 2. Ben Marking 3. ตัดสิ นใจ 4. คุณภาพ-พัฒนา(Service)
5. สร้างขวัญกําลงใจ 6. กระจายอํานาจ 7. มีคารับรองการปฏิบติงาน 8. MBO
ํ ั
- หลักSPBBS = 1.มีเครื องมือเกิดความสําเร็ จตามนโยบาย 2.โปร่ งใส มีประสิ ทธิภาพและประสิ ทธิผล 3.ความ
คล่องตัว = มีตวชีวัด (ปริ มาณ / คุณภาพ / เวลา / ค่าใช้จ่าย)
ั
- พัสดุ = คุณภาพทีถูกต้อง – ปริ มาณทีถูกต้อง – เวลาทีถูกต้อง – แหล่งขายทีถูกต้อง – ราคาทีถูกต้อง – กฎระเบียบทีถูกต้อง
เงินในสถานศึกษา = ตรวจสอบเงิน + ออกใบเสร็ จระบุรับจาก สพฐ. ไม่เกิน 5 วันทําการ + บันทึกลงบัญชี ร.ร. + จ่ายตามแผนฯ
1. เงินงบประมาณ = รายจ่ายส่ วนกลาง / รายจ่ายงบกลาง
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
7
- 8. 1.1 เงินอุดหนุน (เงินรายหัว) = เพือการเรี ยนการสอนตาแผนฯ(คกศ.เห็นชอบ) = วิชาการ60-70/บริ หารทัวไป20-30/
สํารอง10-20 =(เก็บได้2ปี งบ/ดอกเบียส่ ง31ม.ค.ปี ถัดไป/ออกใบเสร็ จ สพฐ.5วันทําการ)
1.1.1 งบบุคลากร
1.1.1.1 ค่าจ้างชัวคราว = จ้างครู อตราจ้าง พนักงานขับรถ
ั
1.1.2 งบดําเนินงาน
1.1.2.1 ค่าตอบแทน = ตอบแทนวิทยากร / โล่รางวัล
1.1.2.2 ค่าใช้สอย = เบียเลียง/ทีพัก/พาหนะ/ซ่อมแซม/จ้างเหมา
1.1.2.3 ค่าวัสดุ = ชินละไม่เกิน 5,000 บาท โปรแกรมคอมฯไม่เกิน20,000 บาท
1.1.2.4 ค่าสาธารณูปโภค = ค่านํา ไฟ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต
1.1.3 งบลงทุน
1.1.3.1 ค่าครุ ภณฑ์ = เกิน 5,000 บาท โปรแกรมคอมฯเกิน20,000 บาท (ผอ.มีอานาจตํากว่า2ล้าน)
ั ํ
1.1.3.2 ค่าทีดินและสิ งก่อสร้าง = ดัดแปลง/ต่อเติม/ปรับปรุ ง เกิน 50,000 บาท(ผอ.มีอานาจตํากว่า10 ล้าน)
ํ
1.2 เงินอุดหนุนปัจจัยพืนฐาน =ป.1(1,000 บาท) – ม.3(3,000 บาท) รายได้ไม่เกิน 40,000 บาท =เพือจัดหา
ปัจจัยพืนฐาน+เพิมโอกาสทางการศึกษา =ถัวจ่าย
1.2.1 ค่าหนังสื อ+อุปกรณ์ = จัดซือ/ยืม
1.2.2 ค่าเสื อผ้า+วัสดุแต่งกาย =จัดซือ/ผลิตแจก
1.2.3 ค่าอาหารกลางวัน = จัดซือ/จ้างเหมา/จ่ายเป็ นเงินสด(ตัง คก.3 คน จ่ายเงิน-ใบเสร็ จ)
1.2.4 ค่าพาหนะ = จ้างเหมา/จ่ายเป็ นเงินสด(ตัง คก.3 คน จ่ายเงิน-ใบเสร็ จ)
2. เงินรายได้ แผ่ นดิน = เงินทังปวงทีส่ วนราชการจัดเก็บหรื อได้รับเป็ นกรรมสิ ทธิ
3. เงินนอกงบประมาณ = เงินรายได้สถานศึกษา/เงินบริ จาค/เงินลูกเสื อ/เงินโครงการอาหารกลางวัน/เงินประกันสัญญา/
เงินทดลอง (จัดทํารายรับ-จ่ายให้ คกศ.และเขตฯ ทราบภายใน 30 วันก่อนสิ นปี งบประมาณ)
อํานาจก่ อหนีผูกพนและอนุมตจ่ายเงิน
ั ิ
ผอ.รร. = ครังละไม่เกิน 15 ล้าน ผอ.เขตฯ/ผอ.สํานักคลัง = ครังละไม่เกิน 20 ล้าน
้่
ผูวา = ครังละไม่เกิน 25 ล้าน ทีปรึ กษาคลัง สพฐ = ครังละไม่เกิน 30 ล้าน รองเลขาฯ=ไม่เกิน 40 ล้าน
- การหักภาษี ณ ทีจ่าย = บุคคลธรรมดาตังแต่ 10,000 บาท / นิติบุคคลตังแต่ 500 บาท โดยนําส่ งเดือนละ 1 ครัง แต่ถาเกิน้
10,000 บาท ส่ งภายใน 3 วันทําการ
- ตังกรรมการเก็บเงินอย่างน้อย 2 คน / ทํารายงานคงเหลือประจําวันทุกวัน / คก.จ่าย-ทําบัญชีคนละคนกัน
- การเก็บรักษาเงินรายได้สถานศึกษา 1) นักเรี ยนไม่เกิน 120 เก็บเงินสด 20,000 ธนาคาร 30,000 ทีเหลือกฝากคลัง
2) นักเรี ยนเกิน 120 เก็บเงินสด 30,000 ธนาคาร ไม่เกิน 1 ล้าน ทีเหลือกฝากคลัง
3) สพท เก็บเงินสด 100,000 ธนาคาร ไม่เกิน 5 ล้าน ทีเหลือกฝากคลัง
- นําเงินรายได้แผ่นดินส่ งคลัง เดือนละ 1 ครัง / ถ้าเกิน 10,000 ให้ส่งภายใน 3 วันทําการ
- การตรวจสอบพัสดุ – แต่งตัง คก.ก่อนสิ นปี งบ/ตรวจสอบวันแรกของเดือน ต.ค./รายงานใน 30 วันทําการ
- การซือการจ้าง 6 วิธี = ตกลงราคา(ไม่เกิน 1 แสน) – สอบราคา(เกิน 1 แสน – ไม่เกิน 2 ล้าน – ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า 10
วัน) – ประกวดราคา(เกิน 2 ล้าน – ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า 7 วันทําการ) – พิเศษ(เกิน 1 แสน) – กรณี พิเศษ – E-Auction(เกิน 2 ล้าน)
- e-GP(ระบบจัดซือจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเลคทรอนิกส์) = สอบราคา / ประกวดราคา / E-Auction
- ห้ามแต่งตัง = คณะกรรมการเปิ ดซองสอบราคา – คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
8
- 9. - = คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา – คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
= คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา – คณะกรรมการรับซองและเปิ ดซองประกวดราคา(ไม่ตองมีความรู้)
้
- หลักประกันสัญญา/หลักประกันซอง = 5% ของวงเงิน
- การปรับ = ซือปรับ 0.20% / จ้างปรับ 0.1%
- ค่าปรับกรณี ส่งมอบพัสดุ ร้อยละ 0.01 -0.2 /ค่าปรับงานก่อสร้าง ร้อยละ 0.01 -0.12/ค่าปรับสิ งก่อสร้างสาธารณะ ร้อยละ0.25
- จ่ายเงินล่วงหน้าซือกับรัฐ ไม่เกิน 50% / จ่ายเงินล่วงหน้าซือกับเอกชน ไม่เกิน 15%
7) การวางแผนการบริหารงานบุคคล การสรรหา การบรรจุ แต่ งตังการเสริมเสร้ างประสิ ทธิภาพในการปฏิบติงาน วินัย การ ั
รักษาวินัยการออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้ องทุกข์
- การปฏิบติราชการแทน = 1. กระจายอํานาจ 2. ต้องทําเป็ นหนังสื อ 3. ผูรับมอบมีอานาจเช่นเดียวกัน 4.ผูมอบอํานาจ
ั ้ ํ ้
กํากับติดตาม 5.มอบผูอืนแทนไม่ได้ 6. ยกเว้นผูวาฯ
้ ้่
- ปฏิบติราชการแทน = ผอ.อยู่ – มอบอํานาจเป็ นหนังสื อ – ข้าราชการในสถานศึกษา – มอบต่อไม่ได้
ั
- รักษาราชการแทน = ผอ.ไม่มี/มีแต่มามาให้รองรักษาราชการแทน – ถ้าหลายคน ผอ.เขตฯแต่งตังคนใดคนหนึง – ไม่มี/มี
รองแต่ไม่มา ผอ.เขตฯแต่งข้าราชการคนใดคนหนึงเป็ นผูรักษาราชการแทน ้
- การบริ หารงานบุคคล = คุณธรรม = เมอ – มาถ – มัน – เมือง
- งานบุคคล = การเสริ มแรง = ยกย่องชมเชย
- เลือนขันเงินเดือน = ตังคณะกรรมการ 3 คน – ยึดหลักคุณธรรม – ผลทีเกิดขึนกับผูเ้ รี ยน = ครู ผช่วย/ครู ให้ ผอ.รร.สัง
ู้
เลือนขัน / ครู ชานาญการขึนไปให้ ผอ.เขตฯ สังเลือน @ อ.ก.ค.ศ. เห็นชอบ
ํ
- ข้อ 6 เลือน 0.5=ไม่ถูกลงโทษหนักกว่าภาคฑัณฑ์/พักราชการเกิน2เดือน/ทํางานไม่นอยกว่า4เดือน/ไม่สายเกิน8ครัง/ลา
้
ไม่เกิน6ครัง/ลากิจไม่เกิน23วันทําการ/(ยกเว้นลาป่ วย60วัน/ลาบวช/ประกอบพิธีฮจย์/ลาคลอด90วัน/ั
- ข้อ 7 เลือน 1.0 = คะแนน 90 ขีนไป
- เกณฑ์อตรากําลัง ั 1) ประถมไม่เกิน120 = ครู 1/20 2)ประถมเกิน120 = ครู 1/25
3) มัธยม = ครู 1/20
- ผอ.ร.ร.สังภาคทัณฑ์/ตัดเงินเดือน 5% ไม่เกิน 1 เดือน
- ผอ.เขตฯ.สังภาคทัณฑ์/ตัดเงินเดือน 5% ไม่เกิน 2 เดือน ลด 1 ขัน
- นายก/ปลัด/เลขาฯ สังภาคทัณฑ์/ตัดเงินเดือน 5% ไม่เกิน 3 เดือน ลด 1 ขัน
- เครื องราช = เหรี ยญ – เบญจ – จัตุ – ตริ – ทวี – ประถม – มหา
- หลักการมอบอํานาจ = 1.มอบตามตําแหน่งหน้าที 2.มอบตามลําดับอาวุโส (ดับ-เดือน-ยุ-ราช-ตัว)
- ผูมีอานาจแต่งตัง
้ ํ 1. เชียวชาญพิเศษ = เลขาฯสพฐ รมต. โดยอนุมติ ก.ค.ศ. ั
2. ผอ.เขตฯ+รอง.ผองเขตฯ = เลขาธิการ สพฐ. โดยอนุมติ ก.ค.ศ. ั
3. ผอ.รร.+รอง+ครู มีวิทยฐานะ+ศน. = ผอ.เขตฯ โดยอนุมติ อ.ค.ก.ศ.
ั
4. ครู + ครู ผช่วย + ลูกจ้างประจํา = ผอ.รร. โดยอนุมติ อ.ค.ก.ศ.
ู้ ั
- ไปช่วยราชการใน สพท. ผองเขตฯโดยอนุมติ อ.ค.ก.ศ. ั / ย้ายต่าง สพท. อํานาจของเลขาธิการ สพฐ.
- ผอ.เขียนย้ายได้ปีละ 1 ครัง / ดํารงตําแหน่งไม่นอยกว่า 12 เดือน
้
- วินยไม่ร้ายแรง = ผูบงคับบัญชา (อุธรณ์+ร้องทุกข์เหนือขึนไปอีกชัน ภายใน 30 วัน)
ั ้ ั
- วินยร้ายแรง + ไม่มีวิทยฐานะ = อ.ค.ก.ศ. (อุธรณ์+ร้องทุกข์เหนือขึนไปอีกชัน ภายใน 30 วัน)
ั
- วินยร้ายแรง + มีวทยฐานะ = ก.ค.ศ. (อุธรณ์+ร้องทุกข์เหนือขึนไปอีกชัน ภายใน 30 วัน)
ั ิ
1. ปรากฏชัดแจ้ง = ลงโทษได้เลย
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
9
- 10. 2. กรณี ไม่ร้ายแรง = 1.รับสารภาพเป็ นหนังสื อ 2. ผูพิพากษาตัดสิ น
้
3. กรณี ร้ายแรง = 1.รับสารภาพเป็ นหนังสื อ 2. ขาดราชการติดต่อ 15 วัน 3.ตัดสิ นจําคุก
- เหตุแห่งการร้องทุกข์ = คับข้องใจ / ไม่เป็ นธรรม/ถูกกลันแกล้ง/ไม่มีสิทธิอุธรณ์/ให้ออก
- คณะกรรมการสถานศึกษา(คกศ.) = นักเรี ยน 300 = 9 คน(ผูทรงคุณวุฒิ =1, ผูแทนศาสนา =1)
้ ้
นักเรี ยน 301 ขึนไป = 15 คน(ผูทรงคุณวุฒิ =6, ผูแทนศาสนา =2)
้ ้
8) การจัดทํามาตรฐานและภาระงานข้ าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาในการระดมทรัพยากรเพือการศึกษาและให้ บริการ
ด้ านวิชาการแก่ชุมชน
- ระดมทุน = ระดมทรัพยากร = มีส่วนร่ วม = SBM
9) ส่ งเสริมสนับสนุนข้ าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาให้ มีการพัฒนา
- พานักเรี ยนไปนอกสถานศึกษาไม่คางคืน ผอ. อนุญาต
้ (ครู 1 คนต่อนักเรี ยน 30 คน)
- พานักเรี ยนไปนอกสถานศึกษาค้างคืน ผอ.เขตฯ อนุญาต
- พานักเรี ยนไปนอกราชอาณาจักร หัวหน้าส่ วนราชการ
10) การจัดระบบการควบคุมภายในสถานศึกษา
- หน่วยตรวจรับ = กระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานราชการ หน่วยงานทีได้รับเงินอุดหนุน
- หน่วยรับตรวจ = โรงเรี ยน –แบบ ปอ.(ใช้ประเมินองค์กร)
- การควบคุมภายใน คือ กระบวนการเพือสร้างความมันใจว่าการดําเนินงานบรรลุวตถุประสงค์ในด้านประสิ ทธิภาพ/
ั
ประสิ ทธิผล ซึ งลดความเสี ยหา รัวไหล สิ นเปลือง ทุจริ ต และปฏิบติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ
ั
- รายงานการควบคุมภายในต่อ คตง. อย่างน้อยปี ละ 1 ครังภายใน 90 วันจากวันสิ นปี งบประมาณ
- องค์ประกอบการควบคุมภายใน = สภาพแวดล้อมของการควบคุม / การประเมินความเสี ยง / กิจกรรมการควบคุม /
สารสนเทศและการสื อสาร / การติดตามประเมินผล
- การดําเนินการประเมินควบคุมภายใน = 1) กําหนดผูรับผิดชอบ (ผอ.=พิจารณาผลประเมินระดับหน่วยรับตรวจ , รอง
้
ผอ.=ประเมินผลการควบคุมด้วยตนเอง CSA-ติดตาม-สรุ ป-รายงาน) 2) กําหนดขอบเขตและวัตถุประสงค์การประเมิน 3) ศึกษาทํา
ความเข้าใจโครงสร้างควบคุมภายใน 4) จัดทําแผนการประเมิน 5) ดําเนินประเมินด้วย CSA 6) สรุ ปและจัดทําเอกสารประเมิน
11) การจัดระบบการดูแลช่ วยเหลือนักเรียน หรือนักศึกษา
- แนะแนว = ปรึ กษา – ช่วยเหลือ – แก้ปัญหา – พึงตนเองได้ // ปัญหา = ตระหนัก รับรู ้ แก้ปัญหา//
- รู ้จกนักเรี ยนเป็ นรายบุคคล – คัดกรองนักเรี ยน – ส่ งเสริ มนักเรี ยน – ป้ องกันและแก้ปัญหา - ส่ งต่อ
ั
- กลุ่มปกติ(สร้างภูมิคุมกัน) – กลุ่มเสี ยง(ป้ องกัน) – กลุ่มมีปัญหา(แก้ไข) – กลุ่มพิเศษ(ส่ งเสริ ม)
้
- การลงโทษนักเรี ยน = ว่ากล่าวตักเตือน – ทําทัณฑ์บน – ตัดคะแนนความประพฤติ – ทํากิจกรรมเพือปรับพฤติกรรม
- ประโยชน์ = 1) ช่วยเหลือทัวถึงตรงปัญหา 2)สัมพันธภาพครู -นักเรี ยน 3)รู ้จกตนเอง EQ(ฉลาดทางอารมณ์) IQ(ความเก่ง)
ั
MQ(คุณธรรมจริ ยธรรม) AQ(มุ่งมันชนะอุปสรรค) 4)สุ ขและเสริ มพัฒนาเต็มศักยภาพ 5)ผูมีส่วนร่ วมจริ งจัง เอาใจใส่ เสี ยสละ
้
- บทบาทหน้าที = 1)ทีมนํา(คณะกรรมการอํานวยการ/ผอ.เป็ นประธาน/หัวหน้าแนะแนวเป็ นเลขาฯ/ 2)ทีมทํา(ครู ทีปรึ กษา)
- ทฤษฎีบริ หารระบบดูแลฯ = บริ หารเชิงระบบ = ปัจจัย(ครู /ผูปกครอง/ชุมชน/งบประมาณ) – กระบวนการ(รู ้/คัด/ป้ อง/
้
เสริ ม/ต่อ) – ผลผลิต(ปริ มาณกล่อมเสี ยว/ปัญหาลดลง)
- เครื อข่ายในระบบดูแลฯ = ครู + ผูปกครอง +ชุมชน +ผูใหญ่ใจดี
้ ้ // เยียมบ้าน ครู 1 ต่อนักเรี ยน 20 คน//
- วินยเชิงบวก = การปฏิบติต่อเด็กในฐานะผูกาลังเรี ยนรู ้โดยปราศจากความรุ นแรงและเคารพศักดิศรี
ั ั ้ํ
ขันตอนการสร้างวินยเชิงบวก = บรรยายพฤติกรรมมาเหมาะสม-ให้เหตุผลทีชัดเจน-ให้แสดงอาการรับรู ้-ให้รางวัล/ชืนชม
ั
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
10
- 11. 3. สมรรถนะทางการบริหาร
สมรรถนะ คือ บุคลิกลักษณะทีซ่อนภายในปัจเจกบุคคล ซึงสามารถลักดันสร้างผลการปฏิบติงานทีดี = ภูเขานําแข็ง
ั
่
1) การมุ่งผลสั มฤทธิ = ประสิ ทธิ ภาพ (ผลผลิต) + ประสิ ทธิผล(ผลลัพธ์) = หัวใจอยูทีการวัดผลการปฏิบติงาน(C)
ั
1) มุ่งมันในการพัฒนาผลงานต่อเนือง+4=มุ่งมัน กระตือรื อร้นในการพัฒนางานทุกรายการทีได้รับมอบหมายจนปรากฏผล
งานมีคุณภาพ เป็ นทียอมรับในและนอกองค์กร
2) มีคุณภาพ ถูกต้อง สมบูรณ์ + 4=ผลงานมีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ เกือบทุกรายการและเป็ นแบบอย่างได้
3) คิดริ เริ มสร้างสรรค์/นํานวัตกรรม+4=มีการทดลอง วิธีการ หรื อจัดทําคู่มือประกอบการพัฒนางานใหม่ๆโดยมีการจัดทํา
รายงานทีเป็ นรู ปธรรม ชัดเจน และเผยแพร่ ในวงกว้าง
2) การบริการทีดี (หัวใจนักบริ การ = เจตคติ , มโนคติ)
1) ปรับปรุ งระบบบริ การ+4=ศึกษาความต้องการของผูรับบริ การนําข้อมูลมาปรับปรุ งและพัฒนาระบบบริ การเกือบทุก
้
รายการอย่างต่อเนือง
2) ความพึงพอใจของผูรับบริ การ+4=ผูรับบริ การร้อยละ 80 % มีความพึงพอใจระดับมาก
้ ้
หลักการบริ การ บุคลากร
กลยุทธ์ ระบบการบริ การ
3) การพัฒนาตนเอง (=คุณลักษณะ)
1) ศึกษา ค้นคว้า หาความรู ้ ด้วยการประชุม อบรม+4=มีชวโมงเข้าประชุม อบรม สัมมนาไม่นอยกว่า 20 ชัวโมง/ปี และมีการ
ั ้
จัดทําเอกสารนําเสนอเพือแลกเปลียนเรี ยนรู ้อย่างน้อย 2 รายการ/ปี
2) รวบรวมและประมวลความรู ้+4=มีการสังเคราะห์ขอมูลความรู ้ จัดเป็ นหมวดหมู่ ปรับปรุ งให้ทนสมัย รวบรวมองค์ความรู ้
้ ั
สําคัญเพือใช้ในการพัฒนางานอย่างต่อเนือง
3) แลกเปลียนความคิดเห็นด้านวิชาการ+4= เข้าร่ วมแลกเปลียนเรี ยนรู ้ภายในหน่วยงาน ร้อยละ 80 ของจํานวนกิจกรรมที
หน่วยฯจัด
4) การทํางานเป็ นทีม
1) ร่ วมแรงร่ วมใจ ช่วยเหลือ สนับสนุน+4=ให้ความร่ วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุน เพือนร่ วมงาน สมําเสมอเกือบทุกครัง
2) ผูนาหรื อผูตาม+4=แสดงบทบาทผูนาผูตามในการทํางานร่ วมกับผูอืนอย่างเหมาะสม
้ ํ ้ ้ ํ ้ ้
3) ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์+4=ใช้ทกษะการบริ หารจัดการในการทํางาน อย่างมีประสิ ทธิภาพในเกือบทุกสถานการณ์ ทุกโอกาส
ั
ํ ํ
4) เสริ มแรง ให้กาลังใจ ยกย่อง ชมเชย+4=ให้เกียรติ ยกย่อง ชมเชย ให้กาลังใจ สนับสนุนเพือนร่ วมงานในโอกาสที
เหมาะสมเกือบทุกครัง
ํ
เสริ มแรง = ภายใน(คุณค่าจิตใจ=ยกย่อง-ชมเชย-ชืนชม-ให้กาลังใจ) – ภายนอก(วัตถุสิงของ)
มาสโลว์ = กาย – ภัย – รัก – ชือ – ดม
หลักการบริ หารงานเป็ นทีม 1. ทีมงาน 2. มีส่วนร่ วม 3. สมาชิกมากว่า1 4. มนุษยสัมพันธ์/ปฏิสัมพันธ์ 5. บรรลุเป้ าหมายร่ วมกัน
5) การวิเคราะห์ และสั งเคราะห์
1) วิเคราะห์สภาพปัจจุบนปั ญหา/เสนอทางเลือก+ 4=ระบุสภาพปัจจุบน ปั ญหา ความต้องการ และแนวทางป้ องกัน แก้ไข
ั ั
ปัญหาทีหลากหลายและปฏิบติได้ บันทึกไว้เป็ นหลักฐาน
ั
ั
2) แผนงาน/โครงการ+ 4=องค์ประกอบแผนงาน โครงการมีความสอดคล้อง สัมพันธ์กนทุกองค์ประกอบ สอดคล้องกับ
นโยบาย ยุทธศาสตร์ และมีการระบุตวชีวัดความสําเร็ จอย่างชัดเจน
ั
เตรียมสอบผูบริหารสถานศึกษา ป 2555
(มนัด เทศทอง ครูโรงเรียนพระแกวทยา สพม.33)
ิ
11