Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
Más de Wan Ngamwongwan (20)
ระบบหายใจ
- 5. การแลกเปลี่ยนแก๊สในสัตว์นา
้
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้าได้รับแก๊สออกซิเจนซึ่งละลายอยู่ในน้าแพร่เข้าสูอวัยวะ
่
หายใจโดยตรง
ในน้ามีแก๊สออกซิเจนร้อยละ 0.446 เท่านั้น น้อยกว่าในอากาศมาก ใน
อากาศมีออกซิเจนมากถึงร้อยละ 21 นอกจากนี้การแพร่ของออกซิเจนในน้า
ก็ช้ากว่าในอากาศมาก
ดังนั้นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้า จึงต้องให้น้าไหลผ่านบริเวณทีมีการแลกเปลี่ยน
่
แก๊สอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้แก๊สมากและเพียงพอต่อการดารงชีวิต
- 7. สัตว์หลายเซลล์
เมื่อสิ่งมีชีวิตมีจานวนเซลล์มากขึ้นพร้อมกับมีขนาดใหญ่ขึ้น
การแลกเปลี่ยนแก๊สต้องมีโครงสร้างซับซ้อนมากขึ้น ใน
ฟองน้า การแลกเปลี่ยนแก๊สเกิดกับเซลล์แต่ละเซลล์ที่น้า
ผ่านเข้าไปถึงทางช่องน้าเข้า
ฟองน้า มีรูพรุน คือ ออสเทีย(ostia) รอบตัว น้าจะไหลเข้าทาง
รูพรุนนี้ และไหลออกทางรู ออสคิวลัม (osculum) ในขณะเกิดการ
ไหลเวียนของน้าผ่านเซลล์และผ่านลาตัวฟองน้า จะเกิดการแลกเปลี่ยน
แก๊สโดยการแพร่
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 12. การใช้ผวหนังหรือผิวลาตัว
ิ
หนอนตัวแบน เช่น พลานาเรีย
ใช้การแลกเปลี่ยนแก๊สผ่านผิวหนัง
แก๊สจะผ่านไปทีละเซลล์
เช่นเดียวกับอะมีบา ผนังลาตัว
ของพลานาเรียบางและเปียกชื้นอยู่
เสมอ โครงสร้างของร่างกาย
พลานาเรียมีลาตัวแบน จึงมีพื้นที่
ผิวมากทาให้มีประสิทธิภาพในการ
แลกเปลี่ยนแก๊สได้ดี
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 16. ฉวีวรรณ นาคบุตร
คาถาม
- การแลกเปลียนแก๊สของฟองน้า ไฮดรา พลานาเรีย และไส้เดือนดิน
่
เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ
ฟองน้า ไฮดรา พลานาเรีย จะใช้เซลล์ที่ผวหนังที่สัมผัสกับสิ่งแวดล้อม
ิ
แลกเปลี่ยนแก๊สกับสิ่งแวดล้อม และมีการแพร่ของแก๊สระหว่างเซลล์กับ
เซลล์ ส่วนไส้เดือนดินมีการแลกเปลี่ยนแก๊สโดยผ่านทางผิวหนังคล้ายกับ
พลานาเรีย แต่ไส้เดือนดินมีร่างกายขนาดใหญ่การแลกเปลี่ยนแก๊สใช้
วิธีการแพร่อย่างเดียวยังไม่เพียงพอและรวดเร็วจึงต้องมีระบบหมุนเวียนเลือด
ช่วยในการลาเลียงแก๊สไปยัง ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทาให้การ
แลกเปลี่ยนแก๊สมีประสิทธิภาพดีขึ้น ซึ่งเหมาะสมกับโครงสร้างของร่างกาย
- 17. คาถาม
- โครงสร้างของร่างกายที่ทาหน้าที่แลกเปลียนแก๊สจะต้องมี
่
ลักษณะสาคัญอย่างไร
ตอบ
มีพื้นที่ผิวมากและบางพอที่จะแลกเปลี่ยนแก๊สได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ มีการลาเลียงแก๊สไปยังบริเวณอื่นๆ ได้อย่าง
รวดเร็ว มีการป้องกันอันตรายให้กับโครงสร้างที่ใช้
แลกเปลี่ยนแก๊สและโครงสร้างในการแลกเปลี่ยนแก๊สต้องชุ่ม
ชื้นอยู่เสมอ
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 18. ท่อลม ( Trachea )
ในสัตว์ชั้นสูงขึ้นมา ได้แก่ พวกอาร์โทรพอด เช่น แมลง
บริเวณท้องจะพบว่ามีรูเล็ก ๆ เรียกว่า ช่องหายใจ หรือ สไปเรเคิล
(Spiracle) อยู่ที่ผนังลาตัว ตามปกติมี 10 คู่ คือ ปล้องอก 2 คู่
และปล้องท้อง 8 คู่ ถัดจากรูเปิดสไปเรเคิลเข้าไปในลาตัวจะเป็น
ท่อลม ( trachea ) เป็นหลอดใสๆ เล็กๆ ยืดหดได้คล้ายสปริง
เมื่ออากาศเข้าไปตามท่อลมแล้วจะผ่านไปตามท่อลมที่แตกแขนงเป็น
ท่อลมฝอย ( tracheole ) จนถึงท่อที่เล็กที่สุดมีผนังบางมากที่
สัมผัสกับเซลล์ร่างกาย ปลายท่อที่เล็กที่สุดมีของเหลวอาบอยู่
ออกซิเจนจากท่อลมจะละลายในของเหลวและแพร่เข้าสู่เนื้อเยื่อ
ใกล้เคียง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 22. ผนังของท่อลมมีความแข็งแรง ประกอบด้วยคิวติเคิล
( Cuticle ) จึงทาให้คงรูปอยู่ได้
แมลงบางชนิดมีถุงลม ( Air sac ) ขนาดใหญ่ช่วยเก็บ
อากาศไว้หายใจเพื่อช่วยอัดอากาศให้ผ่านเข้าออกได้เร็วขึ้น
แมลงบางชนิด เช่น ตั๊กแตนใช้การยืดหดของกล้ามเนื้อหน้า
ท้องและอก เพื่อช่วยดันอากาศให้เข้าออกจากตัวทางช่อง
หายใจ ดังนั้นถ้าแมลงตัวโตมากๆ จะไม่มีความดัน
บรรยากาศเพียงพอที่จะส่งแก๊สเข้าไปสูปลายสุดของท่อลม
่
(Tracheole ) ได้ เป็นสาเหตุทาให้แมลงมีขนาดจากัด
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 23. บุคลัง ( Book lung )
มีลักษณะเป็นห้องเล็ก ๆ มีทางติดต่อกับอากาศภายนอกภายในห้องเล็กๆ
มีแผ่นเยื่อบาง ๆ เรียงซ้อนเป็นปึก ออกซิเจนจากอากาศจะเข้าสู่ของเหลวที่
หมุนเวียนอยู่ในบุคลัง ของเหลวนาออกซิเจนไปให้เนื้อเยื่อร่างกายและดึง
คาร์บอนไดออกไซด์ออกมา บุคลัง พบในแมงมุมบางชนิดเท่านั้น
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 24. คาถาม
- เพราะเหตุใด แมลงจึงไม่จาเป็นต้องมีระบบหมุนเวียน
เลือดเป็นตัวนาแก๊สออกซิเจนไปใช้เซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย
ตอบ
แมลงมีระบบท่อลมซึ่งแตกแขนงไปทั่วร่างกาย ระบบท่อลมนี้
สามารถนาแก๊สไปใช้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายได้โดยตรง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 25. เหงือก ( Gill )
ในสัตว์น้าหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา
ล้วนมีเหงือกเป็นอวัยวะ ทาหน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊สกับน้า
โดยมีพื้นที่สัมผัสกับน้ามากมาย และในเหงือกของสัตว์ชั้นสูง
จะมีหลอดเลือดฝอยมาเลี้ยงเหงือก อาจมีผิวบาง ๆ หรือมี
เซลล์เพียงแถวเดียวกั้นระหว่างเลือดกับน้า หรือ มีผนัง
หลอดเลือดบาง ๆ เพื่อสะดวกในการรับออกซิเจนจากน้า
และคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเลือด
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 28. คาถาม
- อวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์น้ามีความเหมาะสมต่อการ
ดารงชีวิตอย่างไร
ในน้ามีแก๊สออกซิเจนที่ละลายอยู่ในปริมาณน้อยมาก
และมีการแพร่ช้ามากเมื่อเทียบกับในอากาศ สัตว์ที่
ตอบ อยู่ในน้า เช่น ปลาและกุ้ง จึงพัฒนาโครงสร้างที่
ใช้แลกเปลี่ยนแก๊ส คือ เหงือกให้มีลักษณะเป็นซี่ๆ
เรียงกันเป็นแผง เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวที่สัมผัสกับ
ออกซิเจนในน้า
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 29. นกเป็นสัตว์ทมี Metabolism สูง
ี่
ใช้พลังงานมาก ดังนั้นระบบ
หายใจของนกต้องดี และมี
ประสิทธิภาพสูงมากด้วย ปอดนก
มีขนาดเล็ก แต่นกมีถุงลม(airsac)
ซึ่งเจริญดีมาก แยกออกจากปอด
หลอดลมคอ หลอดลม เป็นคู่ๆ
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 30. ถุงลมส่วนหน้า อากาศออก
อากาศเข้า
ถุงลมส่วนหลัง
หลอดลม
ปอด
ปอด
เมื่อหายใจเข้าถุงลมจะพองออก เมื่อหายใจออกถุงลมจะยุบลงปอดจะ
อากาศจะผ่านเข้าสู่หลอดลม พอง อากาศจากปอดและจากถุงลมส่วน
ผ่านปอด เข้าสูถุงลมที่อยู่ส่วน
่ หน้าถูกขับออกจากตัวนก อากาศทีผ่าน
่
หลัง อากาศที่ใช้แล้ว ออกจาก ปอดทั้งหายใจเข้าและหายใจออกจะเป็น
ปอดเข้าสู่ถุงลมส่วนหน้า อากาศที่มีแก๊ส o2 สูงทั้งสิ้น
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 31. นกมีปอดและถุงลมอีก 9 อัน(ในนกส่วนใหญ่) ซึ่งช่วยให้การ
ไหลของอากาศมีปริมาณมากขึ้นและมีปริมาณออกซิเจนสูง ซึ่งการ
ไหลของอากาศในปอดจะเป็นไปในทิศทางเดียว (unidirection)
ซึ่งต่างจากในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมที่มีการไหลเวียนของอากาศ
ภายในปอดแบบ 2 ทิศทาง ทาให้อากาศมีทั้งอากาศใหม่และเก่า
รวมกัน และมีปริมาณออกซิเจนน้อยกว่า
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 32. คาถาม
- นักเรียนคิดว่าถุงลมของนกทาหน้าที่แลกเปลี่ยน
แก๊สได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ ถุงลมของนกไม่ได้ทาหน้าที่แลกเปลียนแก๊ส
่
เนื่องจากผนังของถุงลมไม่บาง ถึงแม้วาจะมี
่
หลอดเลือดฝอยมาล้อมรอบก็ตาม แต่มีหน้าที่
สารองอากาศเพื่อส่งให้ปอดแลกเปลี่ยนแก๊สให้
นกใช้ในขณะบิน
ฉวีวรรณ นาคบุตร