SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 8
1


   1. การเปลี่ยนแปลงของสารในขณะเกิดปฏิกิริยา
      ในขณะที่เกิดปฏิกิริยา ส       า       ร      ตั้        ง ต้    น
      ผลิตภัณฑ์
      สารตั้ ง ต้ น จะลดลงส่ ว นสารผลิ ตภั ณ ฑ์ จ ะเพิ่ ม ขึ้ น    สมมติ
      ปฏิกิริยา
        ٢A + B                             c + 2D ปริ ม าณสารมี ก าร
      เปลียนแปลงดังกราฟ
          ่

                  ปริมาณสาร

                                                     สารผลิตภัณฑ์


                                                         สารตั้งต้น
                                                                      เวลา

    ข้ อ สั ง เกต การเปลี่ ย นแปลงของสารตั้ ง ต้ น และผลิ ต ภั ณ ฑ์ ต อน
แรกจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แล้วจะค่อยช้าลงเมื่อเวลาผ่านไป
นานขึ้น
    การวัดอัตราการเกิดปฏิกิริยา
          เนื่องจากในขณะเกิดปฏิกิริยาปริมาณสารตั้งต้นจะลดลง ส่วน
ปริ มาณของสารผลิตภั ณ ฑ์ จ ะเพิ่ ม ขึ้ น ดั ง นั้ น การวั ดอั ตราการเกิ ด
ปฏิกิริยาอาจทำาได้โดย
             1. วัดจากอัตราการลดลงของสารตั้งต้น
                    ปริมาณสารต ังต้นท่ีล ดลง
                                ้
            R =    เวลาท่ใช้ ในการเกิดป ฏิกิร ิยา
                         ี
         2. วัดจากอัตราการเพิ่มขึ้นของสารผลิตภัณฑ์
                  ปริมาณสารผ ลิตภัณฑ์ที ่เพ่ิมขึน
                                                ้
            R =    เวลาท่ีใช้ ในการเกิดป ฏิกิร ิยา
      โดยปริมาณสารที่เปลี่ยนไปอาจหมายถึง มวลสาร ปริมาณ
ของสาร ความเข้ ม ข้ น ของสาร นอกจากนี้ ส มบั ติ ที่ เ ปลี่ ย นไปบาง
ประการของสารก็สามารถนำามาใช้ในการวัดอัตราการเกิดปฏิกิริยาได้
เช่น ความเข้มของสี ค่า pH การนำาไฟฟ้าก็ได้
          ถ้ า สมการทั่ ว ไปเป็ น ดั ง นี้              aA + bB
cC + dD
       อัตราการเกิดปฏิกิริยามีค่าดังนี้
2


               1 ∆[ A ]    1 ∆[B ] 1 ∆[C ] 1 ∆[D ]
     R=    −
               a ∆t
                        =−
                           b ∆t
                                  =
                                    c ∆t
                                          =
                                            d ∆t

                        1 d [ A]    1 d [B ] 1 d [C ] 1 d [D ]
      หรือ R =      −
                        a dt
                                 =−
                                    b dt
                                            =
                                              c dt
                                                     =
                                                       d dt

                             1        1     1    1
                R=       −
                             a
                               R A = − R B = RC = R D
                                      b     c    d


      อัตราการเกิดปฏิกิริยาเฉลี่ย
      อัตราการเกิดปฏิกิริยาช่วงเวลาหนึ่งเราสามารถหาอัตราเร็ว
เฉลี่ยได้จากความสัมพันธ์ดังนี้
                                      ปริมาณสารท ี่เปล่ียนแ ปลงทังหมด
                                                                 ้
           อัตราเร็วเฉลีย =
                        ่
                                             เวลาท่ีใช้ ทังหมด
                                                          ้
      อัตราปฏิกิริยาเคมี ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
      การหาอัตรา ณ เวลาหนึ่งๆ จะต้องคิดจากกราฟโดยสร้างกราฟ
ตามข้อมูลระหว่างปริมาณสารกับเวลา แล้วหาค่าความชัน ( slop )
ณ เวลาหนึ่งๆ ซึ่งค่าความชันนี้คือค่าของอัตรา ณ เวลานั้นๆ
        จากการศึกษาของนักเคมีพบว่า อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะ
ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารตั้งต้น ซึ่งแสดงได้ดังสมการต่อไปนี้
               AA+bB                                cC+ dD
      จะได้วา่      R α [A]m[B]n

         R = K [A]m[B]n เรียกสมการนี้วา กฎอัตรา (Rate Law)
                                      ่

       เมื่อ K คือ ค่าคงที่ของอัตรา
       [] คือ ความเข้มข้นในหน่วย mol/dm3
       m ,n เป็นตัวเลขใด ๆ ก็ได้ซึ่งหาได้จากผลการทดลองเท่านั้น
ซึ่งอาจเท่ากับ a ,b หรือไม่เท่าก็ได้
       m +n เรียกว่า อันดับของปฏิกิริยา (Order of Reaction)
       ถ้ า เลขยกกำา ลั ง ของสารใดเป็ น ٠ แสดงว่ า อั ต ราการเกิ ด
ปฏิกิริยาไม่ขึ้นกับความเข้มข้นของสารนั้น
ข้อสังเกตการนำากฎอัตราไปใช้
    1. ต้องมีข้อมูลเป็นผลการทดลองมาให้โดยการกำา หนดความเข้ม
       ข้ น / ปริ ม าณสารตั้ ง ต้ น มาให้ และกำา หนดอั ต ราการเกิ ด
       ปฏิกิริยาจากการทดลองแต่ละครั้งมาให้ ( ถ้าไม่กำา หนดอัตรา
3


  มาให้ อ าจต้ อ งคำา นวณหาเอง โดยคิ ด จากปริ ม าณสารที่
  เปลียนแปลงในหนึ่งหน่วยเวลา )
       ่
2.เขียนสมการแสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยาในรูปของกฎอัตราโดย
  คิดค่าเลขยกกำาลังคือค่าของ m , n ไว้
3.หาค่า m , n โดยนำา ข้ อมูล แสดงการทดลองจากข้ อ 1 มา
  คำานวณหา
4.ถ้าโจทย์ต้องการให้หาอัตราการเกิดปฏิกิริยาจากข้อมูลใหม่ที่
  กำาหนดซึ่งไม่ใช่ผลการทดลองที่มีอยู่เดิม ให้หาค่า K แล้วนำา
  ไปแทนค่ า ในสมการกฎอั ต ราในข้ อ 2 ( เพื่ อ หาอั ต ราตาม
  เงื่อนไขใหม่ตามที่โจทย์กำาหนด


ตัวอย่าง ปฏิกิริยาระหว่างสารละลาย A กับสารละลาย B เป็น
ดังนี้ A + B                   C

                   ความเข้มข้นของสารละลาย                  อัตราการเกิด
 การทดลอง
                         ( mol/dm3 )                          ปฏิกิริยา
ครั้งที่
                      สาร A         สาร B                   mol/dm3.s
       1               0.1           0.1                        0.5
       2               0.1           0.2                        1.0
       3               0.2           0.2                        2.0

١. จงเขียนสมการแสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยานี้
2.ถ้าสาร A และสาร B เข้ม ข้ น 0.3 และ 0.4 mol/dm3 ตาม
  ลำาดับอัตราการเกิดปฏิกิริยานี้จะเป็นเท่าไร

วิธีคิด
    จากการทดลองที่ 1 และ 2 ความเข้มข้นของสาร A คงที่ แต่
ความเข้ ม ข้ น ของสาร B เพิ่ ม ขึ้ น เป็ น 2 เท่ า อั ต ราก็ เ พิ่ ม ขึ้ น จาก
เดิ ม 2 เท่ า แสดงว่ า อั ต ราขึ้ น กั บ ความเข้ ม ข้ น ของสาร B ยก
กำาลัง 1
    จากการทดลองที่ 2 และ 3 ความเข้มข้นของสาร B คงที่ แต่
ความเข้ ม ข้ น ของสาร A เพิ่ ม ขึ้ น เป็ น 2 เท่ า อั ตราก็ เ พิ่ ม ขึ้ น จาก
เดิ ม 4 เท่ า แสดงว่ า อั ต ราขึ้ น กั บ ความเข้ ม ข้ น ของสาร A ยก
กำาลัง 2
         ดังนั้นจะได้วา R = K[A]2 [B]
                      ่
4


    จากการทดลองที่ 1 เมื่ อ นำา ความเข้ ม ข้ น ของสาร A สาร B
และอัตราการเกิดปฏิกิริยามาแทนในสมการที่
                        ดังนั้น K = 500
    เมื่อนำา ความเข้ มข้ นของสาร A และสาร B แทนลงในสมการ
แสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยาจะได้อัตราการเกิดปฏิกิริยาใหม่ดังนี้ R
= 500[0.3]2 [0.4]
                           = 18.0 mol/dm3.s



      รูปกราฟที่น่าสนใจ
           1.กราฟแสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยาคงที่

                      อัตรา




                                        เวลา
          2.กราฟแสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยาไม่ขึ้นกับความเข้มข้น
ของสารตั้งตั้น
               ความเข้มข้นของสารตั้งต้น




                                     เวลา

           3.กราฟแสดงอั ตราการเกิ ดปฏิ กิ ริ ย าขึ้ น กั บ ความเข้ ม ข้ น
ของสารตั้ ง ต้ น (มี ก ารเปลี่ ย นแปลงเมื่ อ ความเข้ ม ข้ น ของสารตั้ ง ต้ น
เปลียนไป)
    ่
                        ปริมาณสารตั้งต้น
5


                                              เวลา

            4.กราฟระหว่างผลิตภัณฑ์กับเวลา
                   ปริมาณสารผลิตภัณฑ์




                                     เวลา
            5.กราฟระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิริยากับความเข้มข้นของ
ผลิตภัณฑ์
                  อัตรา



                                                 ผลิตภัณฑ์


การอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมี
      ทฤษฎีการชน                   ( Collission   Theory )    เป็นทฤษฎีที่
ใช้อธิบายการเกิดปฏิกิริยาของสารเคมี โดยกล่าวว่า “ ปฏิกิริยาเคมี
จะเกิ ด ขึ้ น ก็ ต่ อ เมื่ อ อนุ ภ าคของสารมี ก ารชนกั น และการชนกั น ต้ อ ง
เป็นการชนแบบมีผล ” ซึ่งมีเงื่อนไข ดังนี้
      1. ทิศทางการชนต้องเหมาะสม
      2. มีการสะสมพลังงานอย่ างน้ อ ยเท่ า กั บ พลัง งานก่ อ กั ม มั น ต์
( Activation Energy )
      พลังงานก่อกัมมันต์ ( Activation Energy : Ea ) หมาย
ถึง พลังงานจำา นวนน้อยที่สุดที่สารเคมีแต่ละคู่จะต้องสะสมไว้เพื่อ
เปลี่ยนสารตั้งต้นไปเป็นสารใหม่ ดังนั้นพลังงานก่อกัมมันต์ของสาร
แต่ละคู่เวลาทำาปฏิกิริยากัน จึงไม่เท่ากัน

                                  แผนภาพแสดงการเปลี่ยนของสารใน
ขณะเกิดปฏิกิริยา
6


                A         B                   A                     A
2 A         B
              A   +      B
           พลังงานตำ่ากว่า Ea     B                B
พลังงานสูงกว่า Ea
                             สารเชิงซ้อนถูกกระตุ้น
                           [ Activated complex ]




       การเปลี่ยนแปลงพลังงานของสารในระหว่ างการดำา เนิน
ไปของปฏิกิริยา
       ในขณะที่สารเกิดปฏิกิริยาจะมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานเกิดขึ้น
เสมอ ซึ่ ง ลั ก ษณะการเปลี่ ย นแปลงพลั ง งานแบ่ ง เป็ น 2 แบบ คื อ
ปฏิกิริยาดูดความร้อน และปฏิกิริยาคายความร้อน
       1.ปฏิกิริยาดูดความร้อน มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงพลังงาน
ดังนี้
                     พลังงาน            E2


                                                                   Ea
                    E3

                    E1
                                            ก า ร ดำา เ นิ น ไ ป ข อ ง
                    ปฏิกิริยา
         2.ปฏิกิริยาคายความร้อน มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงพลังงาน
ดังนี้

                พลังงาน                E2


                                                                   Ea
                    E3
7


                     E1
                                                       ก า ร ดำา เ นิ น ไ ป ข อ ง
                     ปฏิกิริยา


ข้อสังเกต ปฏิกิริยาที่มีค่า Ea ตำ่า เกิดง่ายเร็ วขึ้ น : ถ้าค่า Ea สูง
เกิดยาก เกิดช้า
ในบางปฏิกิริยามีกลไกในการเกิดปฏิกิริยาหลายขั้น เช่น A2 +3B2
2AB3 เกิดปฏิกิริยา 3 ขั้น คือ
        (1) B2                    2B          …. เร็ว
        (2) A2                     2A          …. ช้า (อัตราขึ้นกับ
ขั้นนี)
      ้
        (3) A + 3B                  AB3 …. เร็ว
        อัตราการเกิดปฏิกิริยาของปฏิกิริยาที่มีหลายขั้นจะขึ้นกับขั้นที่
ช้าที่สุดเสมอ เนื่องจากขั้นที่มี Ea สูงที่สุด


          ถ้านำามาเขียนกราฟจะได้ดังนี้ ( สมมติว่าปฏิกิริยานี้คาย
ความพลังงาน )
         พลังงาน           ขั้นที่ ٢
                ขั้นที่ ١          ขั้นที่ ٣



                                                          เวลา
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
    1. ความเข้ ม ข้ น ของสารตั้ ง ต้ น ในกรณี ที่ ส ารตั้ ง ต้ น เป็ น
        สารละลาย ยิ่งสารละลายนั้น มีความเข้ มข้ นมากขึ้ นอั ตราการ
        เกิ ด ปฏิ กิ ริ ย าจะเร็ ว ขึ้ น เนื่ อ งจากมี จำา นวนอนุ ภ าคของตั ว ถู ก
        ละลายมากขึ้นจะชนกันบ่อยมากขึ้น
    แต่การเพิ่มปริมาตรของสารละลายโดยความเข้มข้นเท่าเดิมอัตรา
    การเกิดปฏิกิริยาจะเท่าเดิม
         ٢. อุณหภูมิ การที่อุณหภูมิของสารตั้งต้นเพิ่มขึ้น อัตราการ
เกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิ สูงขึ้น โมเลกุลของ
สารจะมี พ ลั ง งานจลน์ สู ง ขึ้ น เคลื่ อ นที่ เ ร็ ว ขึ้ น จึ ง ชนกั น บ่ อ ยมากขึ้ น
สุ ด ท้ า ยก็ จ ะมี จำา นวนโมเลกุ ล ที่ มี พ ลั ง งานอย่ า งน้ อ ยเท่ า กั บ หรื อ
8


มากกว่ า Ea มากขึ้ น เมื่ อ อุ ณหภู มิ เ พิ่ ม ขึ้ น จึ ง ทำา ให้ อัต ราการเกิ ด
ปฏิกิริยาเร็วขึ้นนั้นเอง
       ٣. พื้ น ที่ ผิ ว สั ม ผั ส สารที่ มี พื้ น ที่ ผิ ว สั ม ผั ส มากกว่ า จะทำา
ปฏิกิริยาได้เร็วขึ้น เนื่องจากสัมผัสกัน (ชนกัน) มากขึ้น ใช้ในการ
พิจารณาสารตั้งต้นที่เป็นของแข็ง ดังนั้นสารที่เป็นของแข็งจึงต้อง
บดให้ละเอียดก่อนทำาปฏิกิริยา
           ٤. ตัวเร่งปฏิกิริยา ( Catalyst) ตัวเร่งปฏิกิริยาเป็นสาร
เคมีที่ช่วยทำาให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาได้เร็วขึ้น เนื่องจากตัวเร่งจะ
ช่ ว ยในการลดพลั ง งานกระตุ้ น ในการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ย า โดยช่ ว ยปรั บ
กลไกในการเกิ ดปฏิ กิ ริ ย าให้ เ หมาะสมกว่ า เดิ ม โดยจะเข้ า ไปช่ ว ย
ตั้งแต่เริ่มปฏิกิริยาแต่เมื่อปฏิกิริยาสิ้นสุดมันจะกลับมาเป็นสารเดิม
       ٥. ตัวหน่วงปฏิ กิริ ยา (Inhibitor) หมายถึง สารที่ทำา ให้
อั ตราการเกิ ดปฏิ กิ ริ ย าช้ าลงโดยขั ด ขวางกลไกในการเกิ ดปฏิ กิ ริ ย า
ทำาให้ค่าพลังงานก่อกัมมันต์สูงขึ้น
       ٦. ธรรมชาติของสารตั้งต้น เนื่องจากสารเคมีจะมีการยึด
เหนี่ยวด้วยพันธะที่ต่างกัน โดยปกติสารละลาย ของสารประกอบอิ
ออนิกเวลาเข้าทำาปฏิกิริยาจะแตกตัวเป็นอิออนบวกและอิออนลบก่อน
และเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าโมเลกุลของสารประกอบโควาเลนต์ ดังนั้น
สารอิออนิกจึงทำาปฏิกิริยาได้เร็วกว่าสารโควาเลนต์ แม้กระทังสารโค            ่
วาเลนต์ด้วยกันก็ยังแตกต่างกัน เนื่องจากอาจยึดด้วยพันธะเดี่ยว
พันธะคู่ หรือพันธะสามก็ได้

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยาSircom Smarnbua
 
บทที่ 7 สมดุลเคมี
บทที่ 7 สมดุลเคมีบทที่ 7 สมดุลเคมี
บทที่ 7 สมดุลเคมีoraneehussem
 
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีJariya Jaiyot
 
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีSircom Smarnbua
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมีGesika
 
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาManchai
 
สื่อการสอน Chemical equilibrium
สื่อการสอน Chemical equilibriumสื่อการสอน Chemical equilibrium
สื่อการสอน Chemical equilibriumพัน พัน
 
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมีครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมีja1122
 
บทที่ 6 อัตราการเกิดปฏิกิริยา
บทที่ 6 อัตราการเกิดปฏิกิริยาบทที่ 6 อัตราการเกิดปฏิกิริยา
บทที่ 6 อัตราการเกิดปฏิกิริยาoraneehussem
 
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีweerabong
 
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีchemnpk
 
3210000000000000000
32100000000000000003210000000000000000
3210000000000000000Awirut619
 

La actualidad más candente (16)

2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
 
บทที่ 7 สมดุลเคมี
บทที่ 7 สมดุลเคมีบทที่ 7 สมดุลเคมี
บทที่ 7 สมดุลเคมี
 
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 
Bk
BkBk
Bk
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมี
 
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
 
สื่อการสอน Chemical equilibrium
สื่อการสอน Chemical equilibriumสื่อการสอน Chemical equilibrium
สื่อการสอน Chemical equilibrium
 
Rate
RateRate
Rate
 
Stability
StabilityStability
Stability
 
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมี
 
บทที่ 6 อัตราการเกิดปฏิกิริยา
บทที่ 6 อัตราการเกิดปฏิกิริยาบทที่ 6 อัตราการเกิดปฏิกิริยา
บทที่ 6 อัตราการเกิดปฏิกิริยา
 
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 
3210000000000000000
32100000000000000003210000000000000000
3210000000000000000
 

Destacado

ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้าweerabong
 
Thesis. sustainability benchmarking
Thesis. sustainability benchmarkingThesis. sustainability benchmarking
Thesis. sustainability benchmarkingsaqibhkhan
 
วิทย์ม31
วิทย์ม31วิทย์ม31
วิทย์ม31weerabong
 
Чисте місто: національний проект
Чисте  місто: національний проектЧисте  місто: національний проект
Чисте місто: національний проектpresscvua
 
Thesis- Predictive Models
Thesis- Predictive ModelsThesis- Predictive Models
Thesis- Predictive Modelssaqibhkhan
 
Графік проведення зборів #chernivtsi
Графік проведення зборів #chernivtsiГрафік проведення зборів #chernivtsi
Графік проведення зборів #chernivtsipresscvua
 
นโยบาย สพฐ 2551
นโยบาย สพฐ 2551นโยบาย สพฐ 2551
นโยบาย สพฐ 2551weerabong
 
"LtechIndia : Dare to Miss the Revolution NEXT? The MOBILE Revolution"
"LtechIndia : Dare to Miss the Revolution NEXT? The MOBILE Revolution""LtechIndia : Dare to Miss the Revolution NEXT? The MOBILE Revolution"
"LtechIndia : Dare to Miss the Revolution NEXT? The MOBILE Revolution"F Daniel
 
ความหมายของนิเวศวิทยา
ความหมายของนิเวศวิทยาความหมายของนิเวศวิทยา
ความหมายของนิเวศวิทยาweerabong
 

Destacado (13)

ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
Thesis. sustainability benchmarking
Thesis. sustainability benchmarkingThesis. sustainability benchmarking
Thesis. sustainability benchmarking
 
วิทย์ม31
วิทย์ม31วิทย์ม31
วิทย์ม31
 
Чисте місто: національний проект
Чисте  місто: національний проектЧисте  місто: національний проект
Чисте місто: національний проект
 
Thesis- Predictive Models
Thesis- Predictive ModelsThesis- Predictive Models
Thesis- Predictive Models
 
Sheet rate
Sheet rateSheet rate
Sheet rate
 
Графік проведення зборів #chernivtsi
Графік проведення зборів #chernivtsiГрафік проведення зборів #chernivtsi
Графік проведення зборів #chernivtsi
 
28 feb07
28 feb0728 feb07
28 feb07
 
Globalworming
GlobalwormingGlobalworming
Globalworming
 
นโยบาย สพฐ 2551
นโยบาย สพฐ 2551นโยบาย สพฐ 2551
นโยบาย สพฐ 2551
 
"LtechIndia : Dare to Miss the Revolution NEXT? The MOBILE Revolution"
"LtechIndia : Dare to Miss the Revolution NEXT? The MOBILE Revolution""LtechIndia : Dare to Miss the Revolution NEXT? The MOBILE Revolution"
"LtechIndia : Dare to Miss the Revolution NEXT? The MOBILE Revolution"
 
Rate012
Rate012Rate012
Rate012
 
ความหมายของนิเวศวิทยา
ความหมายของนิเวศวิทยาความหมายของนิเวศวิทยา
ความหมายของนิเวศวิทยา
 

Similar a อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี

1แผนที่2
1แผนที่21แผนที่2
1แผนที่2yaowaluk
 
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมี
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมีจลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมี
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมีnn ning
 
สมดุล
สมดุลสมดุล
สมดุลMuk52
 
รายงานเรียน
รายงานเรียนรายงานเรียน
รายงานเรียนtippawan61
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมีpaknapa
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมีpaknapa
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมีNanmoer Tunteng
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมีpaknapa
 
Reaction
ReactionReaction
Reactionkaoijai
 
สมดุลเคมี ธวัชชัย รุ่งโรจน์
สมดุลเคมี ธวัชชัย  รุ่งโรจน์สมดุลเคมี ธวัชชัย  รุ่งโรจน์
สมดุลเคมี ธวัชชัย รุ่งโรจน์Nnear .
 
สมดุลเคมี ชินกร ดีดวงพันธ์
สมดุลเคมี ชินกร ดีดวงพันธ์สมดุลเคมี ชินกร ดีดวงพันธ์
สมดุลเคมี ชินกร ดีดวงพันธ์Nnear .
 

Similar a อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี (20)

Rate3
Rate3Rate3
Rate3
 
1แผนที่2
1แผนที่21แผนที่2
1แผนที่2
 
Rate
RateRate
Rate
 
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมี
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมีจลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมี
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมี
 
สมดุล
สมดุลสมดุล
สมดุล
 
Bk
BkBk
Bk
 
Bk
BkBk
Bk
 
Bk
BkBk
Bk
 
Bk
BkBk
Bk
 
Bk
BkBk
Bk
 
รายงานเรียน
รายงานเรียนรายงานเรียน
รายงานเรียน
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมี
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมี
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมี
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมี
 
Entrance Rate
Entrance RateEntrance Rate
Entrance Rate
 
Reaction
ReactionReaction
Reaction
 
Chemographics : Stoichiometry
Chemographics : StoichiometryChemographics : Stoichiometry
Chemographics : Stoichiometry
 
สมดุลเคมี ธวัชชัย รุ่งโรจน์
สมดุลเคมี ธวัชชัย  รุ่งโรจน์สมดุลเคมี ธวัชชัย  รุ่งโรจน์
สมดุลเคมี ธวัชชัย รุ่งโรจน์
 
สมดุลเคมี ชินกร ดีดวงพันธ์
สมดุลเคมี ชินกร ดีดวงพันธ์สมดุลเคมี ชินกร ดีดวงพันธ์
สมดุลเคมี ชินกร ดีดวงพันธ์
 

อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี

  • 1. 1 1. การเปลี่ยนแปลงของสารในขณะเกิดปฏิกิริยา ในขณะที่เกิดปฏิกิริยา ส า ร ตั้ ง ต้ น ผลิตภัณฑ์ สารตั้ ง ต้ น จะลดลงส่ ว นสารผลิ ตภั ณ ฑ์ จ ะเพิ่ ม ขึ้ น สมมติ ปฏิกิริยา ٢A + B c + 2D ปริ ม าณสารมี ก าร เปลียนแปลงดังกราฟ ่ ปริมาณสาร สารผลิตภัณฑ์ สารตั้งต้น เวลา ข้ อ สั ง เกต การเปลี่ ย นแปลงของสารตั้ ง ต้ น และผลิ ต ภั ณ ฑ์ ต อน แรกจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แล้วจะค่อยช้าลงเมื่อเวลาผ่านไป นานขึ้น การวัดอัตราการเกิดปฏิกิริยา เนื่องจากในขณะเกิดปฏิกิริยาปริมาณสารตั้งต้นจะลดลง ส่วน ปริ มาณของสารผลิตภั ณ ฑ์ จ ะเพิ่ ม ขึ้ น ดั ง นั้ น การวั ดอั ตราการเกิ ด ปฏิกิริยาอาจทำาได้โดย 1. วัดจากอัตราการลดลงของสารตั้งต้น ปริมาณสารต ังต้นท่ีล ดลง ้ R = เวลาท่ใช้ ในการเกิดป ฏิกิร ิยา ี 2. วัดจากอัตราการเพิ่มขึ้นของสารผลิตภัณฑ์ ปริมาณสารผ ลิตภัณฑ์ที ่เพ่ิมขึน ้ R = เวลาท่ีใช้ ในการเกิดป ฏิกิร ิยา โดยปริมาณสารที่เปลี่ยนไปอาจหมายถึง มวลสาร ปริมาณ ของสาร ความเข้ ม ข้ น ของสาร นอกจากนี้ ส มบั ติ ที่ เ ปลี่ ย นไปบาง ประการของสารก็สามารถนำามาใช้ในการวัดอัตราการเกิดปฏิกิริยาได้ เช่น ความเข้มของสี ค่า pH การนำาไฟฟ้าก็ได้ ถ้ า สมการทั่ ว ไปเป็ น ดั ง นี้ aA + bB cC + dD อัตราการเกิดปฏิกิริยามีค่าดังนี้
  • 2. 2 1 ∆[ A ] 1 ∆[B ] 1 ∆[C ] 1 ∆[D ] R= − a ∆t =− b ∆t = c ∆t = d ∆t 1 d [ A] 1 d [B ] 1 d [C ] 1 d [D ] หรือ R = − a dt =− b dt = c dt = d dt 1 1 1 1 R= − a R A = − R B = RC = R D b c d อัตราการเกิดปฏิกิริยาเฉลี่ย อัตราการเกิดปฏิกิริยาช่วงเวลาหนึ่งเราสามารถหาอัตราเร็ว เฉลี่ยได้จากความสัมพันธ์ดังนี้ ปริมาณสารท ี่เปล่ียนแ ปลงทังหมด ้ อัตราเร็วเฉลีย = ่ เวลาท่ีใช้ ทังหมด ้ อัตราปฏิกิริยาเคมี ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง การหาอัตรา ณ เวลาหนึ่งๆ จะต้องคิดจากกราฟโดยสร้างกราฟ ตามข้อมูลระหว่างปริมาณสารกับเวลา แล้วหาค่าความชัน ( slop ) ณ เวลาหนึ่งๆ ซึ่งค่าความชันนี้คือค่าของอัตรา ณ เวลานั้นๆ จากการศึกษาของนักเคมีพบว่า อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารตั้งต้น ซึ่งแสดงได้ดังสมการต่อไปนี้ AA+bB cC+ dD จะได้วา่ R α [A]m[B]n R = K [A]m[B]n เรียกสมการนี้วา กฎอัตรา (Rate Law) ่ เมื่อ K คือ ค่าคงที่ของอัตรา [] คือ ความเข้มข้นในหน่วย mol/dm3 m ,n เป็นตัวเลขใด ๆ ก็ได้ซึ่งหาได้จากผลการทดลองเท่านั้น ซึ่งอาจเท่ากับ a ,b หรือไม่เท่าก็ได้ m +n เรียกว่า อันดับของปฏิกิริยา (Order of Reaction) ถ้ า เลขยกกำา ลั ง ของสารใดเป็ น ٠ แสดงว่ า อั ต ราการเกิ ด ปฏิกิริยาไม่ขึ้นกับความเข้มข้นของสารนั้น ข้อสังเกตการนำากฎอัตราไปใช้ 1. ต้องมีข้อมูลเป็นผลการทดลองมาให้โดยการกำา หนดความเข้ม ข้ น / ปริ ม าณสารตั้ ง ต้ น มาให้ และกำา หนดอั ต ราการเกิ ด ปฏิกิริยาจากการทดลองแต่ละครั้งมาให้ ( ถ้าไม่กำา หนดอัตรา
  • 3. 3 มาให้ อ าจต้ อ งคำา นวณหาเอง โดยคิ ด จากปริ ม าณสารที่ เปลียนแปลงในหนึ่งหน่วยเวลา ) ่ 2.เขียนสมการแสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยาในรูปของกฎอัตราโดย คิดค่าเลขยกกำาลังคือค่าของ m , n ไว้ 3.หาค่า m , n โดยนำา ข้ อมูล แสดงการทดลองจากข้ อ 1 มา คำานวณหา 4.ถ้าโจทย์ต้องการให้หาอัตราการเกิดปฏิกิริยาจากข้อมูลใหม่ที่ กำาหนดซึ่งไม่ใช่ผลการทดลองที่มีอยู่เดิม ให้หาค่า K แล้วนำา ไปแทนค่ า ในสมการกฎอั ต ราในข้ อ 2 ( เพื่ อ หาอั ต ราตาม เงื่อนไขใหม่ตามที่โจทย์กำาหนด ตัวอย่าง ปฏิกิริยาระหว่างสารละลาย A กับสารละลาย B เป็น ดังนี้ A + B C ความเข้มข้นของสารละลาย อัตราการเกิด การทดลอง ( mol/dm3 ) ปฏิกิริยา ครั้งที่ สาร A สาร B mol/dm3.s 1 0.1 0.1 0.5 2 0.1 0.2 1.0 3 0.2 0.2 2.0 ١. จงเขียนสมการแสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยานี้ 2.ถ้าสาร A และสาร B เข้ม ข้ น 0.3 และ 0.4 mol/dm3 ตาม ลำาดับอัตราการเกิดปฏิกิริยานี้จะเป็นเท่าไร วิธีคิด จากการทดลองที่ 1 และ 2 ความเข้มข้นของสาร A คงที่ แต่ ความเข้ ม ข้ น ของสาร B เพิ่ ม ขึ้ น เป็ น 2 เท่ า อั ต ราก็ เ พิ่ ม ขึ้ น จาก เดิ ม 2 เท่ า แสดงว่ า อั ต ราขึ้ น กั บ ความเข้ ม ข้ น ของสาร B ยก กำาลัง 1 จากการทดลองที่ 2 และ 3 ความเข้มข้นของสาร B คงที่ แต่ ความเข้ ม ข้ น ของสาร A เพิ่ ม ขึ้ น เป็ น 2 เท่ า อั ตราก็ เ พิ่ ม ขึ้ น จาก เดิ ม 4 เท่ า แสดงว่ า อั ต ราขึ้ น กั บ ความเข้ ม ข้ น ของสาร A ยก กำาลัง 2 ดังนั้นจะได้วา R = K[A]2 [B] ่
  • 4. 4 จากการทดลองที่ 1 เมื่ อ นำา ความเข้ ม ข้ น ของสาร A สาร B และอัตราการเกิดปฏิกิริยามาแทนในสมการที่ ดังนั้น K = 500 เมื่อนำา ความเข้ มข้ นของสาร A และสาร B แทนลงในสมการ แสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยาจะได้อัตราการเกิดปฏิกิริยาใหม่ดังนี้ R = 500[0.3]2 [0.4] = 18.0 mol/dm3.s รูปกราฟที่น่าสนใจ 1.กราฟแสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยาคงที่ อัตรา เวลา 2.กราฟแสดงอัตราการเกิดปฏิกิริยาไม่ขึ้นกับความเข้มข้น ของสารตั้งตั้น ความเข้มข้นของสารตั้งต้น เวลา 3.กราฟแสดงอั ตราการเกิ ดปฏิ กิ ริ ย าขึ้ น กั บ ความเข้ ม ข้ น ของสารตั้ ง ต้ น (มี ก ารเปลี่ ย นแปลงเมื่ อ ความเข้ ม ข้ น ของสารตั้ ง ต้ น เปลียนไป) ่ ปริมาณสารตั้งต้น
  • 5. 5 เวลา 4.กราฟระหว่างผลิตภัณฑ์กับเวลา ปริมาณสารผลิตภัณฑ์ เวลา 5.กราฟระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิริยากับความเข้มข้นของ ผลิตภัณฑ์ อัตรา ผลิตภัณฑ์ การอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมี ทฤษฎีการชน ( Collission Theory ) เป็นทฤษฎีที่ ใช้อธิบายการเกิดปฏิกิริยาของสารเคมี โดยกล่าวว่า “ ปฏิกิริยาเคมี จะเกิ ด ขึ้ น ก็ ต่ อ เมื่ อ อนุ ภ าคของสารมี ก ารชนกั น และการชนกั น ต้ อ ง เป็นการชนแบบมีผล ” ซึ่งมีเงื่อนไข ดังนี้ 1. ทิศทางการชนต้องเหมาะสม 2. มีการสะสมพลังงานอย่ างน้ อ ยเท่ า กั บ พลัง งานก่ อ กั ม มั น ต์ ( Activation Energy ) พลังงานก่อกัมมันต์ ( Activation Energy : Ea ) หมาย ถึง พลังงานจำา นวนน้อยที่สุดที่สารเคมีแต่ละคู่จะต้องสะสมไว้เพื่อ เปลี่ยนสารตั้งต้นไปเป็นสารใหม่ ดังนั้นพลังงานก่อกัมมันต์ของสาร แต่ละคู่เวลาทำาปฏิกิริยากัน จึงไม่เท่ากัน แผนภาพแสดงการเปลี่ยนของสารใน ขณะเกิดปฏิกิริยา
  • 6. 6 A B A A 2 A B A + B พลังงานตำ่ากว่า Ea B B พลังงานสูงกว่า Ea สารเชิงซ้อนถูกกระตุ้น [ Activated complex ] การเปลี่ยนแปลงพลังงานของสารในระหว่ างการดำา เนิน ไปของปฏิกิริยา ในขณะที่สารเกิดปฏิกิริยาจะมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานเกิดขึ้น เสมอ ซึ่ ง ลั ก ษณะการเปลี่ ย นแปลงพลั ง งานแบ่ ง เป็ น 2 แบบ คื อ ปฏิกิริยาดูดความร้อน และปฏิกิริยาคายความร้อน 1.ปฏิกิริยาดูดความร้อน มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงพลังงาน ดังนี้ พลังงาน E2 Ea E3 E1 ก า ร ดำา เ นิ น ไ ป ข อ ง ปฏิกิริยา 2.ปฏิกิริยาคายความร้อน มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงพลังงาน ดังนี้ พลังงาน E2 Ea E3
  • 7. 7 E1 ก า ร ดำา เ นิ น ไ ป ข อ ง ปฏิกิริยา ข้อสังเกต ปฏิกิริยาที่มีค่า Ea ตำ่า เกิดง่ายเร็ วขึ้ น : ถ้าค่า Ea สูง เกิดยาก เกิดช้า ในบางปฏิกิริยามีกลไกในการเกิดปฏิกิริยาหลายขั้น เช่น A2 +3B2 2AB3 เกิดปฏิกิริยา 3 ขั้น คือ (1) B2 2B …. เร็ว (2) A2 2A …. ช้า (อัตราขึ้นกับ ขั้นนี) ้ (3) A + 3B AB3 …. เร็ว อัตราการเกิดปฏิกิริยาของปฏิกิริยาที่มีหลายขั้นจะขึ้นกับขั้นที่ ช้าที่สุดเสมอ เนื่องจากขั้นที่มี Ea สูงที่สุด ถ้านำามาเขียนกราฟจะได้ดังนี้ ( สมมติว่าปฏิกิริยานี้คาย ความพลังงาน ) พลังงาน ขั้นที่ ٢ ขั้นที่ ١ ขั้นที่ ٣ เวลา ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา 1. ความเข้ ม ข้ น ของสารตั้ ง ต้ น ในกรณี ที่ ส ารตั้ ง ต้ น เป็ น สารละลาย ยิ่งสารละลายนั้น มีความเข้ มข้ นมากขึ้ นอั ตราการ เกิ ด ปฏิ กิ ริ ย าจะเร็ ว ขึ้ น เนื่ อ งจากมี จำา นวนอนุ ภ าคของตั ว ถู ก ละลายมากขึ้นจะชนกันบ่อยมากขึ้น แต่การเพิ่มปริมาตรของสารละลายโดยความเข้มข้นเท่าเดิมอัตรา การเกิดปฏิกิริยาจะเท่าเดิม ٢. อุณหภูมิ การที่อุณหภูมิของสารตั้งต้นเพิ่มขึ้น อัตราการ เกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิ สูงขึ้น โมเลกุลของ สารจะมี พ ลั ง งานจลน์ สู ง ขึ้ น เคลื่ อ นที่ เ ร็ ว ขึ้ น จึ ง ชนกั น บ่ อ ยมากขึ้ น สุ ด ท้ า ยก็ จ ะมี จำา นวนโมเลกุ ล ที่ มี พ ลั ง งานอย่ า งน้ อ ยเท่ า กั บ หรื อ
  • 8. 8 มากกว่ า Ea มากขึ้ น เมื่ อ อุ ณหภู มิ เ พิ่ ม ขึ้ น จึ ง ทำา ให้ อัต ราการเกิ ด ปฏิกิริยาเร็วขึ้นนั้นเอง ٣. พื้ น ที่ ผิ ว สั ม ผั ส สารที่ มี พื้ น ที่ ผิ ว สั ม ผั ส มากกว่ า จะทำา ปฏิกิริยาได้เร็วขึ้น เนื่องจากสัมผัสกัน (ชนกัน) มากขึ้น ใช้ในการ พิจารณาสารตั้งต้นที่เป็นของแข็ง ดังนั้นสารที่เป็นของแข็งจึงต้อง บดให้ละเอียดก่อนทำาปฏิกิริยา ٤. ตัวเร่งปฏิกิริยา ( Catalyst) ตัวเร่งปฏิกิริยาเป็นสาร เคมีที่ช่วยทำาให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาได้เร็วขึ้น เนื่องจากตัวเร่งจะ ช่ ว ยในการลดพลั ง งานกระตุ้ น ในการเกิ ด ปฏิ กิ ริ ย า โดยช่ ว ยปรั บ กลไกในการเกิ ดปฏิ กิ ริ ย าให้ เ หมาะสมกว่ า เดิ ม โดยจะเข้ า ไปช่ ว ย ตั้งแต่เริ่มปฏิกิริยาแต่เมื่อปฏิกิริยาสิ้นสุดมันจะกลับมาเป็นสารเดิม ٥. ตัวหน่วงปฏิ กิริ ยา (Inhibitor) หมายถึง สารที่ทำา ให้ อั ตราการเกิ ดปฏิ กิ ริ ย าช้ าลงโดยขั ด ขวางกลไกในการเกิ ดปฏิ กิ ริ ย า ทำาให้ค่าพลังงานก่อกัมมันต์สูงขึ้น ٦. ธรรมชาติของสารตั้งต้น เนื่องจากสารเคมีจะมีการยึด เหนี่ยวด้วยพันธะที่ต่างกัน โดยปกติสารละลาย ของสารประกอบอิ ออนิกเวลาเข้าทำาปฏิกิริยาจะแตกตัวเป็นอิออนบวกและอิออนลบก่อน และเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าโมเลกุลของสารประกอบโควาเลนต์ ดังนั้น สารอิออนิกจึงทำาปฏิกิริยาได้เร็วกว่าสารโควาเลนต์ แม้กระทังสารโค ่ วาเลนต์ด้วยกันก็ยังแตกต่างกัน เนื่องจากอาจยึดด้วยพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสามก็ได้