SlideShare a Scribd company logo
1 of 49
ศาสนายิว (Judaism)
โดย อ.สรณีย์ สายศร
ศาสนายิว
ศาสนาแห่งศาสดาพยากรณ์
 ศาสนายิว หรือ ยูดาห์เป็นศาสนา
ที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาศาสนา
เอกเทวนิยมที่ยังมีชีวิตอยู่
 ศาสนายิวเกิดประมาณ ๙๕๗-
๖๕๗ ปี ก่อน พ.ศ. โดยคิดตาม
สมัยของโมเสส
 ตามความเชื่อของชาวยิว >
ศาสนายูดาเกิดตั้งแต่สมัยอับรา
ฮัม ประมาณ ๑,๕๐๐ ปีก่อน พ.ศ.
หรือ ๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว
ลักษณะทั่วไป
ยูดาร์ ภาษาอังกฤษว่า Judalism กรีกว่า Judaios
หมายถึง ชาวยิว หรืออิสราเอล ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากแคว้น
ยูดาห์ โบราณ
 บรรพบุรุษของชาวยิวคือ อับราฮัม เป็นชาวคาลเดียน(ฮิบรู)
 ชาวโรมันเรียกว่า ยูเดอา-Judea อังกฤษเรียกเพี้ยนเสียงเป็ น
ยูเดีย และยิวในที่สุด
ลักษณะทั่วไป
 ดังนั้นมักเรียกศาสนานี้ว่า ยูดาห์, ยิว หรือ ฮิบรู
 ส่วนคาว่าศาสนาอิสราเอลใช้เรียกน้อย มักจะใช้เรียก
ประเทศมากกว่า
 ศาสนาคริสต์และอิสลามมีเนื้อหาในคัมภีร์ใกล้เคียงกัน
มาก มีนักวิชาการบางท่านวิเคราะห์ว่าทั้งสองศาสนานี้มี
กาเนิดและพัฒนาการมาจากศาสนายิว
 ศาสนายิว เป็นสัญลักษณ์ของคนยิวเพราะเป็นทุกอย่าง
ของยิว : ประเพณี, คาสอน, ประวัติศาสตร์ กฎหมาย
 ส่วนศาสนาอิสลามปรับปรุงคาสอนให้เหมาะสมกับชาว
อาหรับ ส่วนศาสนาคริสต์เพียงนาไปขยายความเท่า
นั้นเอง
 บรรพบุรุษของชาวยิว ได้ชื่อว่า ชาวฮิบรู เพราะใช้ภาษาฮิบรู ซึ่งเป็นภาษาที่
ใช้บันทึกคัมภีร์ส่วนใหญ่ของศาสนายูดาห์ / ในอิสราเอลปัจจุบัน ก็ใช้ภาษา
ฮิบรูเป็นภาษาราชการ
 ชาวยิวใช้ชีวิตแบบเร่ร่อน บุคคลในศาสนาทาหน้าที่รับภาระมาจากพระเจ้า
ทาการเสียสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่อปฏิบัติตามภาระที่ได้รับมอบหมายมาจาก
พระเจ้า นั่นคือทาประโยชน์แก่มนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นบุตรของพระเจ้า
 เมื่อชาวยิวเข้าไปอาศัยในท้องถิ่นของชาวคานาเนียน คนในท้องถิ่นจึงเรียกผู้
มาใหม่ว่า “ฮิบรู” แปลว่า คนต่างถิ่น เป็นที่มาของชื่อเชื้อชาติ
ลักษณะทั่วไป
 ศาสนายูดาห์ เป็นศาสนาแห่งประวัติศาสตร์และกฎหมาย
 ประวัติศาสตร์ = เพราะพัฒนามาจากศาสนาดั้งเดิมและรอพัฒนาให้
สมบูรณ์ต่อไป เพราะหวังผู้แทนของพระเจ้าหรือ Messiah = christ
 กฎหมาย = เป็นข้อปฏิบัติสาหรับชาวอิสราเอลโดยเฉพาะ
 เกิดขึ้นเพราะต้องการแผ่นดินสัญญา(Canaan) หรือความต้องการรวม
เป็นชนชาติของตน
 ความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว (ศรัทธาที่จะถูกถามไม่ได้เป็นข้อแรก)
 แผ่นศิลาจารึกบัญญัติ ๑๐ ประการ (เป็นแกนกลางของคาสอนต่างๆ)
 แม้ว่าชาวยิวจะได้เข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งพันธสัญญา
แต่ก็ยังไม่มีความผาสุก เพราะถูกรบกวนจากชนชาติอื่น
 มีความเชื่อเรื่อง >> เมสิอาห์ หรือ เมสไซอะห์ >> ต่อไป
ข้างหน้า พระเจ้าจะส่งบุคคลหนึ่งมารับบาป หรือความ
ทุกข์ทรมานแทนมนุษย์ ชาวยิวจึงจะมีความผาสุก
 เมสิอาห์ แปลว่า ผู้ได้รับการเจิมน้ามัน >> เป็นผู้แทน
ของพระเจ้าที่จะทาให้ศาสนายูดาห์และสังคมมนุษย์
สมบูรณ์
 การอ้อนวอนพระเจ้าเพื่อให้ส่งเมสิอาห์ลงมาโดยเร็ว
ถือเป็นความหวังของชาวยิวทั้งมวล
ศาสดาของศาสนายิว คือโมเสส
ประวัติความเป็นมา
 ชนชาติอิสราเอลถือกาเนิดเป็นชาติๆหนึ่ง เมื่อตอนรวมกลุ่มกันอพยพหนีความ
เป็นทาสจากประเทศอียิปต์ ภายใต้การนาของโมเสส >> เทศกาลอพยพ
 บรรพบุรุษของชาวอิสราเอลมาจากเมืองอูร์ของชาวคัลเดอา อยู่บนฝั่งแม่น้ายู
เฟรติสตอนใกล้อ่าวเปอร์เซีย >> อับราม ได้รับพันธสัญญาจากพระเจ้าว่าจะได้
เป็นต้นตระกูลของชาติที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ถ้ายอมปฏิบัติตามพระประสงค์ของ
พระเจ้าทุกอย่าง อับรามรับพันธสัญญา เปลี่ยนชื่อเป็น “อับราฮัม” แล้วอพยพ
ไปอยู่ดินแดนคานาอันที่พระเจ้าสัญญาจะประทานให้ (ดินแดน ปาเล็ตตีนา
หรือประเทศปาเลสไตน์)
 บุตรชาย ชื่ออิสอัค (ไอแซค) และยาโคบ (อิสราเอล) รับพันธสัญญาต่อมา
ยาโคบมีบุตรชาย ๑๒ คน จากภรรยา ๔ คน ทั้ง ๑๒ คนเป็นต้นตระกูลของ ๑๒
เผ่าของชาวอิสราเอล
 อัมบราฮัมเป็นปฐมบรรพบุรุษของชาวยิว
และเป็นคนแรกของชาวยิวที่เปลี่ยนจาก
การนับถือเทพเจ้าจานวนมาก มาเป็นนับ
ถือพระเจ้าองค์เดียว
 พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า
 “เจ้าจงออกจากเมือง จากญาติพี่น้อง
จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เรา
จะบอกให้เจ้ารู้ เราจะให้เจ้าเป็นชาติใหญ่
เราจะอวยพรแก่เจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียง
โด่งดัง เลื่องลือไกล แล้วเจ้าจะช่วยให้
ผู้อื่นได้รับพร เราจะอานวยพรแก่คนที่
อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า”
 “เราจะให้ดินแดนที่เจ้าอาศัยอยู่นี้ คือ แผ่นดินคานาอันทั้งสิ้นแก่เจ้า และ
แก่เชื้อสายของเจ้าที่จะสืบมา ให้เป็นกรรมสิทธิ์นิรันดร และเราจะเป็น
พระเจ้าของเจ้า”
 เมื่อชาวยิวตกเป็นเชลยของอียิปต์ โมเสสได้
ถือกาเนิดขึ้นในอาณาจักรอียิปต์ และรอด
พ้นจากการถูกฆ่าโดยกษัตริย์อียิปต์และ
ได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าหญิงอียิปต์ และ
เลี้ยงดูให้เป็นบุตรบุญธรรม
มีชื่อว่า “โมเสส” แปลว่า “ผู้รอดตายจากน้า”
 โมเสสได้รับการเลี้ยงดูในราชสานัก มีความ
เป็นอยู่ที่ดี วันหนึ่งไปพบชาวยิวถูกเฆี่ยนตี
ทารุณในการทางาน จึงได้วิวาทและได้ฆ่า
เจ้าหน้าที่ชาวอียิปต์ตาย
 โมเสสหนีไปอยู่ที่เมืองมีเดียน และได้พบกับ
ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า รวมทั้งได้
แต่งงานกับบุตรสาวของปุโรหิตและประกอบ
อาชีพเลี้ยงแกะที่เมืองมีเดียน ๔๐ ปี
 โมเสสได้พบและสนทนากับพระเจ้า และ
ทราบพระนามของพระเจ้า ว่าคือ “พระยะโฮ
วาห์” หรือ “พระยาเวห์” ( Jahweh)
 โมเสสได้ทูลขอฟาห์โร และนาพาชาวยิวออก
จากประเทศอียิปต์ตามคาบัญชาของพระเจ้า
เพื่อกลับไปสู่ดินแดนแห่งพันธะสัญญา หรือ
คานาอัน
 “เราได้เห็นความทุกข์ของประชากรของเราที่
อยู่ในประเทศอียิปต์แล้ว...เรารู้ถึงความทุกข์
ร้อนต่างๆ ของเขา เราลงมาเพื่อจะช่วยเขา
ให้รอดจากมือชาวอียิปต์และนาเขาออกจาก
ประเทศนั้น ไปยังแผ่นดินที่อุดมกว้างขวาง
เป็นแผ่นดินที่มีน้านมและน้าผึ้งไหลบริบูรณ์
คือ ไปยังที่อยู่ของชาวคานาอัน...บัดนี้คาร่า
ร้องของชนชาติอิสราเอลมาถึงเราแล้ว ทั้งเรา
ได้เห็นความบีบคั้นซึ่งชาวอียิปต์กระทาต่อ
เขาแล้ว เราจะใช้เจ้าไปเฝ้ าฟาโรห์ เพื่อจะได้
พาประชากรของเรา คือชนชาติอิสราเอล
ออกจากอียิปต์”
 เมื่อโมเสสและอาโรนพี่ชายพาชาวยิว
เดินทางมุ่งหน้าสู่ทะเลแดง ฟาโรห์เกิด
กลับใจเกรงชาวยิวจะเป็นภัยต่ออียิปต์
ภายหลัง จึงสั่งให้ทหารรีบติดตามมา
สังหารชาวยิว
 ในตอนนี้ พระเจ้าได้สั่งให้โมเสสเอา
ไม้เท้าชี้ที่ทะเลแดง ก็ปรากฏว่าน้าใน
ทะเลแดงแยกออกเป็นช่องทางให้
ชาวยิวเดินข้ามไปได้ และเมื่อทหาร
อียิปต์ตามมาทัน โมเสสก็ชี้ไม้เท้าลงที่
ทะเลอีกหลังจากที่ชาวยิวข้ามพ้นแล้ว
ปรากฏว่าน้าทะเลไหลกลับเข้าหากัน
ทาให้ทหารอียิปต์จมทะเลตาย
 โมเสสได้พาชาวยิวข้ามน้ามาได้
อย่างปลอดภัย เดินทางต่อ
มาถึงภูเขาสินาอี **โมเสสได้ขึ้น
ไปบนยอดเขาสินาอี(ซีไนย) เป็น
เวลา ๔๐ วัน จึงลงมาจากภูเขา
พร้ อมด้ วยแผ่ นหิน ๒ แผ่ น
ที่ จารึ กคาสั่ งของพระเจ้ า
เรี ยกว่ า “พระบัญญัติ ๑๐
ประการ” ซึ่ งถือเป็ นหลัก
ศีลธรรมสิ่งแรกที่สุดและสาคัญ
ที่สุดในศาสนายิว
พระบัญญัติ 10 ประการ
พระบัญญัติข้อ1 อย่านับถือพระเจ้าอื่นใด
พระบัญญัติข้อ 2 อย่าบูชารูปเคารพใดๆ
พระบัญญัติข้อ 3 อย่าออกพระนามพระเจ้าเปล่าๆ
พระบัญญัติข้อ 4 จงทางานให้เสร็จใน ๖ วัน
อย่าทางานใดๆ ในวันที่ ๗
พระบัญญัติข้อ 5 จงนับถือบิดา มารดาของตน
พระบัญญัติ 10 ประการ
พระบัญญัติข้อ 6 อย่าฆ่าคน
พระบัญญัติข้อ 7 อย่าล่วงประเวณีชาย หญิง
พระบัญญัติข้อ 8 อย่าลักทรัพย์
พระบัญญัติข้อ 9 อย่าเป็นพยานเท็จ
พระบัญญัติข้อ 10 อย่าโลภสมบัติของผู้อื่น
พระบัญญัติ 10 ประการ
 ๑) วันที่ ๑ พระเจ้าทรงสร้างแสงสว่าง
 ๒) วันที่ ๒ พระเจ้าทรงสร้างท้องฟ้ าและอากาศ
 ๓) วันที่ ๓ พระเจ้าทรงสร้างน้าและรวบรวมไว้ในทะเล
 ๔) วันที่ ๔ พระเจ้าทรงสร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
และดวงดาวต่างๆ
 ๕) วันที่ ๕ พระเจ้าทรงสร้างนกในอากาศ และสร้างปลาในน้า
 ๖) วันที่ ๖ พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์คนแรก
 ๗) พระเจ้าทรงหยุดพัก (วันสับบาธ) >> ชาวยิวหยุดพักใน
วันเสาร์ และชาวคริสต์หยุดในวันอาทิตย์
 โมเสสพาชาวยิวเร่ร่อนอยู่ ๔๐ ปี แต่
สิ้นชีวิตลงก่อนที่จะเข้าสู่ดินแดนแห่ง
พันธะสัญญา
 โยสุเอ เป็นหัวหน้าคนต่อมา และได้
นาพาชาวยิวเข้าสู่ดินแดนแห่งพันธะ
สัญญาได้สาเร็จ มีกษัตริย์องค์แรก
คือ ซามูแอล /ดาวิด / โซโลมอน
 เมื่ออยู่ที่ปาเลสไตน์แล้วก็ยังไม่เป็นสุข
ถูกรุกรานและตกเป็นทาสของชาติอื่นๆ
ประสบกับความยากลาบาก จึงมีศาสดา
ประกาศกอุบัติขึ้นเป็นระยะๆ เพื่อให้
วางใจในพระสัญญา
 มีความหวังเรื่องพระเมสิอาห์
 ในยุคต่อมา ชาวยิวกระจัดกระจายไปอยู่ใน
ประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ทุกคนถือเป็นยิว
และยึดมั่นในขบวนการไซออน ว่าสักวัน
พระเจ้าจะประธานแผ่นดินให้ยิวอีก
 พ.ศ. ๒๔๙๑ สหประชาชาติมีมติให้แบ่ง
ปาเลสไตน์ออกเป็น ๒ รัฐ คือ รัฐยิวและรัฐ
อาหรับ
 พ.ศ. ๒๔๙๑ ยิวจึงประกาศเอกราช เป็น
ประเทศอิสราเอล มีเยรูซาเล็ม (แปลว่า
สันติสุข) เป็นเมืองหลวง
เป็นที่ทราบกันดีว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมีสองส่วน
ส่วนแรกเป็นภาคพันธสัญญาเดิม (The Old Testament)
ส่วนที่สองเป็นภาคพันธสัญญาใหม่ (The New Testament)
ยิวเรียกคัมภีร์ของตนว่า "ตานัค" (Tanak) แบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ
1. โตราห์ (Torah) กฎบัญญัติ
2. ศาสดาประกาศก (Prophets)
3. วรรณกรรม (Writings)
คัมภีร์
ประกอบไปด้วยหนังสือหรือบัญญัติคัมภีร์ 5 เล่มแรกของ
คัมภีร์เก่า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคัมภีร์ 5 เล่มของโมเสส มีดังนี้คือ
1. บทปฐมกาล (Genesis)
2. บทอพยพ (Exodus)
3. บทเลวีนิติ (Leviticus)
4. บทกันดารวิถี หรือ การนับจานวนคนอิสราเอล
(Numbers)
5. บทเฉลยธรรมบัญญัติ (Deuteronomy)
โตราห์
คัมภีร์ "ทัลมุด" (Talmud) เป็นคัมภีร์ล่าสุด เป็นบทอธิบายเพิ่มเติมจาก
ของเดิม ประมวลเหตุการณ์ในระยะหลัง มีลักษณะเป็นปฏิปักษ์กับพระเยซู
เพราะผู้ที่นับถือศาสนายิวดั้งเดิมไม่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระ
เจ้า เขียนเป็นภาษาอารามาอิค และบางส่วนเขียนเป็นภาษาฮิบรู แบ่งออกเป็น
2 ตอน คือ
 มิสนาฮ (Mishnah)
 เจมารา (Gemara)
ทัลมุด
มิสนาฮ (Mishnah) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายบ้านเมือง
และกฎหมายที่เกี่ยวกับสังคม รวมไปถึงกฎหมายครอบครัว และ
แบบแห่งพิธีกรรม คัมภีร์นี้เขียนเป็นภาษาฮิบรู
เจมารา (Gemara) เป็ นส่วนที่อธิบายมิชนาห์ และ
โตราห์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของพวกยิวและเป็ นตาราเรียน
กฎหมายของนักศึกษา โดยเฉพาะคัมภีร์ นี้เขียนด้วยภาษา
อารามาอิค
ทัลมุด
สรุปคาสอนในคัมภีร์ คือ พระยาห์เว ทรงดูแลและทรง
กระทาการช่วยเหลือชาติยิวเป็นพิเศษ
พระเจ้า
 Jahweh = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - I am that I am.
 Elohim = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - Nuk pu nuk.
 El = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ผู้แข็งแรง
 Iloit = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ผู้สร้างทุกสิ่ง
 Ila = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ชาวเมโสโปเตเมีย
 Ba /al = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ชาวฮิต, อูการิต
 El = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ชาวเฟนิเซีย
 Allah = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ชาวอาหรับ
 ทุกคามีความหมายเหมือนกันทั้งหมด(ยกเว้นปลีกย่อย)
ชาวยิวเชื่อว่าผู้กระทาดีพระเจ้าจะทรง
นาไปสู่สวรรค์ผู้กระทาความชั่วจะต้องไต่
สะพานลงนรก
เมื่อดับจิตดวงวิญญาณจะวนเวียนอยู่
ใกล้ร่างเป็นเวลา 3 วัน ได้รับคาพิพากษา
ว่าจะให้ไปทางใด ก็จะไปทางนั้น สวรรค์มี
อยู่ 7 ชั้น และนรกมีอยู่ 7 ชั้น
เรื่องดวงวิญญาณ
หลักจริยศาสตร์
 ศาสนายิวถือคัมภีร์เก่าเป็นหลัก ผ่านทางโมเสส
 กฎเกณฑ์ต่าง ๆ สาหรับปฏิบัติในชีวิตอยู่ในคัมภีร์เลวีนิติ /
Leviticus ( พระบัญญัติ) และ คัมภีร์เฉลยธรรมบัญญัติ
 ความเข้มข้นอยู่ที่ศรัทธาในพระเจ้าเพื่อความอยู่รอดของชน
ชาติ
 กฎปฏิบัติที่สาคัญที่สุดคือบัญญัติ ๑๐ ประการ
ย่อเป็นได้ ๓
 จงมีความยุติธรรม
 จงรักความกรุณา
 จงดาเนินไปกับพระเจ้าอย่างอ่อนน้อม
ความเชื่อพื้นฐานของยิว
 ศรัทธาในพระเจ้า
 ศรัทธาว่ามีพระเจ้าองค์เดียว
 ศรัทธาว่าพระเจ้าสร้างโลก แต่โลกไม่คงอยู่นิรันดร
 ศรัทธาว่ามีพระเจ้าสากลเพียงองค์เดียว
 ศรัทธาว่าพระเจ้าทรงดูแลโลกและสัตว์โลกทั้งหมด
 ย่อเป็นข้อเดียวและเป็นพื้นฐานของจริยศาสตร์ทั้ง
ปวง คือ “จงมีความเชื่อในพระเจ้า”
1. ฟาริซี เป็นพวกเชื่อมั่นในลัทธิและจารีตเก่าโดยเชื่อว่า
สิ่งที่ปฏิบัติมาก่อนมีความสาคัญยิ่งกว่าจารึกในคัมภีร์
2. ซาดดูซูส เป็นพวกศาสนาปฏิรูป ทอดทิ้งการปฏิบัติพิธีกรรม
โบราณเปลี่ยนแปลงให้เหมาะกับยุคสมัย ยอมรับบัญญัติ ๑๐ ประการ
3. เอสเซเนส เป็นพวกที่ประพฤติพรหมจรรย์อย่าเคร่งครัด ไม่
ยอมแต่งงาน ชอบความสงบ ไม่นิยมพลีกรรม ไม่นิยมโรงสวด แต่นิยม
บูชาแสงสว่าง เช่นดวงอาทิตย์และ ดวงไฟ
นิกาย
ศาสนายิวใช้เครื่องหมายเดิม คือ เชิงเทียน 7 กิ่ง แต่ปัจจุบันใช้รูป
สามเหลี่ยมซ้อนกัน 2 รูปเป็นดาว 6 แฉก ซึ่งเป็นตราเครื่องหมาย
ประจาของกษัตริย์ดาวิด และเป็นเครื่องหมายในผืนธงชาติอิสราเอลด้วย
สัญลักษณ์ศาสนายิว
สัญลักษณ์ศาสนายิว
นอกจากนี้แล้ว ชาวยิวถือว่ามหาวิหาร ณ กรุงเยรูซาเลมที่กษัตริย์โซโลมอนทรงสร้าง
ขึ้น ก่อนคริสต์ศักราช 900 ปี เป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์
เพลงร้องในงานเทศกาล
 หนึ่งคือพระเจ้า
 สองคือแผ่นศิลาจารึก
 สามคือบิดา อับราฮัม ไอแซค
และจาคอบ
 สี่คือมารดา ซาร่า เรเบกาห์
ราเซลและเลอาห์
 ห้าคือหนังสือโตราห์
 หกคือหนังสือมิสนาห์
 เจ็ดคือวันแห่งสัปดาห์
 แปดคือวันทาพิธีสุหนัต
 เก้าคือเดือนแห่งการตั้งครรภ์
 สิบคือบัญญัติ 10 ประการ
 สิบเอ็ดดาวในความฝันของ
โจเซฟ
 สิบสองคือคน 12 เผ่า
ความเชื่อ 13 ประการ (Credo)
 1.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น
แหล่งแห่งความสุข เป็นผู้สร้างและผู้ชี้ทางแก่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกสร้าง
ขึ้นมา
 2.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น
แหล่งแห่งความสุข ทรงมีองค์เดียว ไม่มีอะไรมีลักษณะเหมือนพระองค์
 3.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น
แหล่งแห่งความสุข ไม่ทรงมีร่างกายเนื้อ เป็นิสระจากคุณสมบัติต่าง ๆ
จากวัตถุ
 4. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น
แหล่งแห่งความสุข ทรงเป็นหนึ่งและที่สุดท้าย
 5. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น
แหล่งแห่งความสุข ควรมีศรัทธาต่อพระองค์เท่านั้น และเป็นการถูกต้องที่
บูชาพระองค์
ความเชื่อ 13 ประการ (Credo)
 6. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ทุกคาพูดของศาสดาพยากรณ์เป็นความจริง
 7. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ถึงความเป็นศาสดาพยากรณ์ของโมเสส ศานติที่มีแก่
ท่านเป็นความจริง ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าศาสดาพยากรณ์ทั้งหลาย
 8. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าโตร่าห์ทั้งหมด ซึ่งเป็นสมบัติของพวกเราเป็นอัน
เดียวกับที่โมเสสมอบให้ ศานติจงมีแก่เขา
 9. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า โตร่าห์นี้จะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงและจะไม่มีบัญญัติอื่น ๆ
จากพระผู้สร้างอีก
 10. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็นแหล่งแห่ง
ความสุข ทรงรู้การกระทาทุกอย่างและตลอดความคิดทุกอย่าง
 11. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็นแหล่งแห่ง
ความสุข ทรงประทานรางวัลแก่ผู้รักษาบัญญัติของพระองค์
ความเชื่อ 13 ประการ (Credo)
 12.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ในการมาของ เมสไซอาห์ และแม้ว่าจะ
ชักช้า ข้าพเจ้าก็จะรอคอยถึงการมาของท่านทุกวัน
 13.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ผู้ที่ตายไปแล้วจะกลับมีชีวิตอีกตามเวลา
ที่กาหนดไว้เพื่อสรรเสริญพระเจ้า พระนามของพระองค์เป็นแหล่งแห่ง
ความสุข
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าหวังความหลุดพ้นนั้น (อยู่กับพระองค์)
วจนะจากคัมภีร์ฮิบรู
 ความชั่วร้ายก็มาจากคนชั่วร้าย
 ความหวังที่พังทลายย่อมทาให้หัวใจเจ็บป่วย แต่ความปรารถนาที่สาเร็จเป็น
ต้นไม้แห่งชีวิต
 หัวใจที่สงบระงับย่อมทาชีวิตให้ยืนยาว แต่ความริษยาเป็นความเน่าในกระดูก
 บุคคลผู้กดขี่คนยากจนย่อมเป็นการด่าว่าพระเจ้าของเขา แต่คนผู้มีความกรุณา
ในคนขัดสนย่อมเป็นการยกย่องพระองค์
 อาหารแม้เพียงผักในที่อบอวลด้วยความรัก ยังดีกว่าเนื้ออบที่คุกรุ่นด้วยความ
เกลียดกัน
 อย่าดีใจเมื่อศัตรูของท่านล้ม และอย่ายินดีเมื่อเขาเดินสะดุด
 คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ที่ถนน ฉันจะถูกฆ่าถ้าออกไป”
วจนะจากคัมภีร์ฮิบรู
 เพื่อนรักกันได้ในเวลาปกติ แต่พี่น้องเกิดมาเพื่อยามทุกข์เข็ญ
 ความบ้าของผู้หญิงก็คือการส่งเสียงเอ็ดตะโร หล่อนเป็นคนปราศจากความคิดและไม่รู้
อะไร และต่อผู้ชาย ผู้ขาดความเข้าใจ หล่อนจะพูดว่า “น้าที่ลักขโมยมามีรสหวาน
และขนมปังที่กินในที่เร้นลับย่อมน่าชื่นใจ” (แต่ผู้ชายไม่รู้ว่าความตายคอยอยู่ที่นั่น
แขกของหล่อนจะอยู่ในส่วนลึกของนรก
 หญิงดีย่อมเป็นมงกุฎต่อสามีนาง
 มี 7 สิ่งที่เป็นที่จงเกลียดจงชังของพระเจ้าคือ
1.ตาที่เหยียดหยาม 2.ลิ้นที่กะล่อน 3.มือที่เชือดเฉือนเลือดบริสุทธิ์
4.หัวใจที่วางแผนคิดชั่ว 5.เท้าซึ่งเร็วในการวิ่งไปทาชั่ว 6.มีลมหายใจอยู่เพื่อเป็น
พยานเท็จ และ7.บุคคลผู้หว่านความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง
วจนะจากคัมภีร์ฮิบรู
 ถ้าศัตรูของเจ้าหิวจงให้อาหารแก่เขา และถ้าเขากระหายก็จงให้น้าดื่มแก่
เขา การกระทาอย่างนี้เท่ากับเจ้ากองถ่านไฟร้อนลงบนศีรษะของเขา แล้ว
พระเจ้าจะประทานรางวัลแก่เจ้า
 ตาของคนไม่เคยอิ่ม
 คนผิดจะหนีทั้งที่ไม่มีใครตาม แต่คนถูกจะกล้าหาญเยี่ยงสิงโต
 แม่น้าทุกสายไหลลงสู่ทะเล ถึงกระนั้นทะเลก็ไม่เต็ม และน้าก็จะกลับไป
แหล่งต้นน้าอีก
 พระเจ้าทรงสร้างคนให้เป็นคนซื่อตรง แต่พวกเขาสร้างเส้นทางต่าง ๆ เอง
 เจ้าทาอย่างไร เจ้าจะได้รับผลอย่างนั้น
ศาสนิกของศาสนายิวจึงมีทั้งใน
ประเทศอิสราเอลและต่างประเทศ
กล่าวคือในสหรัฐอเมริกามีประมาณ 5
ล้านคน ในแคนาดา ประมาณ 1 ล้าน
คน ในทวีปยุโรปประมาณ 3 ล้าน 5
แสนคน และในทวีปเอเชีย
ประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งในจานวนนี้
เกือบทั้งหมดอยู่ในประเทศ
อิสราเอล
ศาสนายิวในปัจจุบัน
“พวกเราทั้งหมดไม่ได้มีพระบิดาองค์เดียวกัน
หรอกหรือ พระเจ้าองค์เดียวไม่ได้สร้างเราทุก
คนหรอกหรือ” (เยเรมีย์)
 ๑) ศาสนายูดา เป็นศาสนาที่พระเจ้าประทานมาแก่ปวงประชาที่
พระองค์ทรงเลือก คือ ชาวยิว หรืออิสราเอล
 ๒) ศาสนายูดา เป็นศาสนาเอกเทวนิยม นับถือพระยะโฮวาห์เพียง
องค์เดียวเท่านั้น
 ๓) ศาสนายูดาเชื่อว่า พระยะโฮวาห์ได้เคยส่งศาสดาพยากรณ์มา
หลายองค์แล้ว แต่โมเสสเป็นศาสดาพยากรณ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด และ
เป้ นที่โปรดปรานของพระเจ้ามากที่สุด
 ๔) ศาสนายูดาเชื่อว่ามีเทวดาอยู่มากมายทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว
ซาตานเป็นหัวหน้าฝ่ายชั่ว แต่ซาตานไม่อาจมีอานาจเหนือพระเจ้า
 ๕) ศาสนายูดาเชื่อว่า วิญญาณเป็นอมตะ และมีนรก สวรรค์คอยรับผู้ที่ตาย
ไปแล้ว
 ๖) ศาสนายูดาส่งเสริมให้ทาพิธีกรรม เช่น การเซ่นสรวงบูชา ตลอดถึง
เทศกาลเฉลิมฉลองทางศาสนา เช่น พิธีปาสคาล (Passovor)
จบการนาเสนอแล้ว
แต่เดี๋ยว...
..วันนี้คุณทาความดี
หรือยังค่ะ.....
ดาวน์โหลดไฟล์นี้ได้ที่
www.philosophychicchic.com
สนุกกับการเรียนรู้ปรัชญาและศาสนาแบบชิคๆ เคียงคู่รอยยิ้ม
ติดตามผลงานอื่นๆ ของเราได้ที่
www.padvee.com
Education for all.

More Related Content

What's hot

งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่ายงานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่ายSantichon Islamic School
 
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)sudoooooo
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนา
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนา
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนาPadvee Academy
 
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณbua2503
 
บทที่ 6 ดาวฤกษ์
บทที่ 6 ดาวฤกษ์บทที่ 6 ดาวฤกษ์
บทที่ 6 ดาวฤกษ์Ta Lattapol
 
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดการศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดpitsanu duangkartok
 
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียน
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียนเฉลย แบบทดสอบหลังเรียน
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียนTong Thitiphong
 
โครงงานภาษาไทย
โครงงานภาษาไทย โครงงานภาษาไทย
โครงงานภาษาไทย ssuserd40879
 
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์Padvee Academy
 
ใบความรู้ศาสนาคริสต์
ใบความรู้ศาสนาคริสต์ใบความรู้ศาสนาคริสต์
ใบความรู้ศาสนาคริสต์Proud N. Boonrak
 
ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1thnaporn999
 
การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2พัน พัน
 
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีเอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีพัน พัน
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1suchinmam
 
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์Moll Kim
 
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาThongsawan Seeha
 

What's hot (20)

โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิดโครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
 
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่ายงานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
 
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนา
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนา
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนา
 
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
 
บทที่ 6 ดาวฤกษ์
บทที่ 6 ดาวฤกษ์บทที่ 6 ดาวฤกษ์
บทที่ 6 ดาวฤกษ์
 
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดการศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
 
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียน
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียนเฉลย แบบทดสอบหลังเรียน
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียน
 
โครงงานภาษาไทย
โครงงานภาษาไทย โครงงานภาษาไทย
โครงงานภาษาไทย
 
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
 
ใบความรู้ศาสนาคริสต์
ใบความรู้ศาสนาคริสต์ใบความรู้ศาสนาคริสต์
ใบความรู้ศาสนาคริสต์
 
ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1
 
ทวีปยุโรป สังคมศึกษา ม.2
ทวีปยุโรป สังคมศึกษา ม.2 ทวีปยุโรป สังคมศึกษา ม.2
ทวีปยุโรป สังคมศึกษา ม.2
 
การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2
 
อิเหนา
อิเหนาอิเหนา
อิเหนา
 
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีเอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
 
ศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลาม
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
 
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์
 
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
 

Viewers also liked

ศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามPadvee Academy
 
พระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาPadvee Academy
 
ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์Padvee Academy
 
ศาสนาบาไฮ
ศาสนาบาไฮศาสนาบาไฮ
ศาสนาบาไฮPadvee Academy
 
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูPadvee Academy
 
บทที่ 1 ศาสนาคืออะไร
บทที่ 1 ศาสนาคืออะไรบทที่ 1 ศาสนาคืออะไร
บทที่ 1 ศาสนาคืออะไรPadvee Academy
 

Viewers also liked (6)

ศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลาม
 
พระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนา
 
ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์
 
ศาสนาบาไฮ
ศาสนาบาไฮศาสนาบาไฮ
ศาสนาบาไฮ
 
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
 
บทที่ 1 ศาสนาคืออะไร
บทที่ 1 ศาสนาคืออะไรบทที่ 1 ศาสนาคืออะไร
บทที่ 1 ศาสนาคืออะไร
 

More from Padvee Academy

หนังสือสอนใช้ WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น [ฉบับ E-book]
หนังสือสอนใช้ WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น [ฉบับ E-book]หนังสือสอนใช้ WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น [ฉบับ E-book]
หนังสือสอนใช้ WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น [ฉบับ E-book]Padvee Academy
 
Onpage stucture checklist
Onpage stucture checklist Onpage stucture checklist
Onpage stucture checklist Padvee Academy
 
ปรัชญาอัตถิภาวนิยมของ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean paul sartre)
ปรัชญาอัตถิภาวนิยมของ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean paul sartre)ปรัชญาอัตถิภาวนิยมของ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean paul sartre)
ปรัชญาอัตถิภาวนิยมของ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean paul sartre)Padvee Academy
 
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดียปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดียPadvee Academy
 
ปรัชญากับวิถีชีวิต
ปรัชญากับวิถีชีวิตปรัชญากับวิถีชีวิต
ปรัชญากับวิถีชีวิตPadvee Academy
 
ปรัชญาทั่วไป ตอน ทำความรู้จักกับปรัชญา
ปรัชญาทั่วไป ตอน ทำความรู้จักกับปรัชญาปรัชญาทั่วไป ตอน ทำความรู้จักกับปรัชญา
ปรัชญาทั่วไป ตอน ทำความรู้จักกับปรัชญาPadvee Academy
 
5 ขั้นตอนที่ต้องรู้ก่อนทำเว็บไซต์
5 ขั้นตอนที่ต้องรู้ก่อนทำเว็บไซต์5 ขั้นตอนที่ต้องรู้ก่อนทำเว็บไซต์
5 ขั้นตอนที่ต้องรู้ก่อนทำเว็บไซต์Padvee Academy
 
สรุปเนื้อหา ปรัชญาเบื้องต้น ตอน โทมัส ฮอบส์ (Thomas hobbes)
สรุปเนื้อหา ปรัชญาเบื้องต้น ตอน โทมัส  ฮอบส์ (Thomas hobbes)สรุปเนื้อหา ปรัชญาเบื้องต้น ตอน โทมัส  ฮอบส์ (Thomas hobbes)
สรุปเนื้อหา ปรัชญาเบื้องต้น ตอน โทมัส ฮอบส์ (Thomas hobbes)Padvee Academy
 
วิเคราะห์ปรัชญาขงจื๊อ
วิเคราะห์ปรัชญาขงจื๊อวิเคราะห์ปรัชญาขงจื๊อ
วิเคราะห์ปรัชญาขงจื๊อPadvee Academy
 
ปรัชญาหยางจื๊อ (Yang tzu)
ปรัชญาหยางจื๊อ (Yang  tzu)ปรัชญาหยางจื๊อ (Yang  tzu)
ปรัชญาหยางจื๊อ (Yang tzu)Padvee Academy
 
พระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhism
พระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhismพระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhism
พระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana BuddhismPadvee Academy
 
พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhism
พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhismพุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhism
พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land BuddhismPadvee Academy
 
Timeline : history of philosophy
Timeline : history of philosophyTimeline : history of philosophy
Timeline : history of philosophyPadvee Academy
 
Timeline : A History of Eastern Philosophy
Timeline : A History of Eastern PhilosophyTimeline : A History of Eastern Philosophy
Timeline : A History of Eastern PhilosophyPadvee Academy
 
รูปภาพ Infographic สรุปแนวคิดที่สำคัญทาง จริยศาสตร์
รูปภาพ Infographic สรุปแนวคิดที่สำคัญทาง จริยศาสตร์รูปภาพ Infographic สรุปแนวคิดที่สำคัญทาง จริยศาสตร์
รูปภาพ Infographic สรุปแนวคิดที่สำคัญทาง จริยศาสตร์Padvee Academy
 
เทพเจ้ากรีกและโรมัน (The greek and roman gods Infographic)
เทพเจ้ากรีกและโรมัน (The greek and roman gods Infographic)เทพเจ้ากรีกและโรมัน (The greek and roman gods Infographic)
เทพเจ้ากรีกและโรมัน (The greek and roman gods Infographic)Padvee Academy
 
ศิลปะแห่งความรัก
ศิลปะแห่งความรักศิลปะแห่งความรัก
ศิลปะแห่งความรักPadvee Academy
 
ความฉลาดทางอารมณ์และการพัฒนาจิตใจ
ความฉลาดทางอารมณ์และการพัฒนาจิตใจความฉลาดทางอารมณ์และการพัฒนาจิตใจ
ความฉลาดทางอารมณ์และการพัฒนาจิตใจPadvee Academy
 
รากฐานแห่งอภิปรัชญาของศีลธรรม โดย ค้านท์ (Kants groundwork of the metaphysics...
รากฐานแห่งอภิปรัชญาของศีลธรรม โดย ค้านท์ (Kants groundwork of the metaphysics...รากฐานแห่งอภิปรัชญาของศีลธรรม โดย ค้านท์ (Kants groundwork of the metaphysics...
รากฐานแห่งอภิปรัชญาของศีลธรรม โดย ค้านท์ (Kants groundwork of the metaphysics...Padvee Academy
 
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)Padvee Academy
 

More from Padvee Academy (20)

หนังสือสอนใช้ WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น [ฉบับ E-book]
หนังสือสอนใช้ WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น [ฉบับ E-book]หนังสือสอนใช้ WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น [ฉบับ E-book]
หนังสือสอนใช้ WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น [ฉบับ E-book]
 
Onpage stucture checklist
Onpage stucture checklist Onpage stucture checklist
Onpage stucture checklist
 
ปรัชญาอัตถิภาวนิยมของ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean paul sartre)
ปรัชญาอัตถิภาวนิยมของ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean paul sartre)ปรัชญาอัตถิภาวนิยมของ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean paul sartre)
ปรัชญาอัตถิภาวนิยมของ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean paul sartre)
 
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดียปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
 
ปรัชญากับวิถีชีวิต
ปรัชญากับวิถีชีวิตปรัชญากับวิถีชีวิต
ปรัชญากับวิถีชีวิต
 
ปรัชญาทั่วไป ตอน ทำความรู้จักกับปรัชญา
ปรัชญาทั่วไป ตอน ทำความรู้จักกับปรัชญาปรัชญาทั่วไป ตอน ทำความรู้จักกับปรัชญา
ปรัชญาทั่วไป ตอน ทำความรู้จักกับปรัชญา
 
5 ขั้นตอนที่ต้องรู้ก่อนทำเว็บไซต์
5 ขั้นตอนที่ต้องรู้ก่อนทำเว็บไซต์5 ขั้นตอนที่ต้องรู้ก่อนทำเว็บไซต์
5 ขั้นตอนที่ต้องรู้ก่อนทำเว็บไซต์
 
สรุปเนื้อหา ปรัชญาเบื้องต้น ตอน โทมัส ฮอบส์ (Thomas hobbes)
สรุปเนื้อหา ปรัชญาเบื้องต้น ตอน โทมัส  ฮอบส์ (Thomas hobbes)สรุปเนื้อหา ปรัชญาเบื้องต้น ตอน โทมัส  ฮอบส์ (Thomas hobbes)
สรุปเนื้อหา ปรัชญาเบื้องต้น ตอน โทมัส ฮอบส์ (Thomas hobbes)
 
วิเคราะห์ปรัชญาขงจื๊อ
วิเคราะห์ปรัชญาขงจื๊อวิเคราะห์ปรัชญาขงจื๊อ
วิเคราะห์ปรัชญาขงจื๊อ
 
ปรัชญาหยางจื๊อ (Yang tzu)
ปรัชญาหยางจื๊อ (Yang  tzu)ปรัชญาหยางจื๊อ (Yang  tzu)
ปรัชญาหยางจื๊อ (Yang tzu)
 
พระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhism
พระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhismพระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhism
พระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhism
 
พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhism
พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhismพุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhism
พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี | Pure Land Buddhism
 
Timeline : history of philosophy
Timeline : history of philosophyTimeline : history of philosophy
Timeline : history of philosophy
 
Timeline : A History of Eastern Philosophy
Timeline : A History of Eastern PhilosophyTimeline : A History of Eastern Philosophy
Timeline : A History of Eastern Philosophy
 
รูปภาพ Infographic สรุปแนวคิดที่สำคัญทาง จริยศาสตร์
รูปภาพ Infographic สรุปแนวคิดที่สำคัญทาง จริยศาสตร์รูปภาพ Infographic สรุปแนวคิดที่สำคัญทาง จริยศาสตร์
รูปภาพ Infographic สรุปแนวคิดที่สำคัญทาง จริยศาสตร์
 
เทพเจ้ากรีกและโรมัน (The greek and roman gods Infographic)
เทพเจ้ากรีกและโรมัน (The greek and roman gods Infographic)เทพเจ้ากรีกและโรมัน (The greek and roman gods Infographic)
เทพเจ้ากรีกและโรมัน (The greek and roman gods Infographic)
 
ศิลปะแห่งความรัก
ศิลปะแห่งความรักศิลปะแห่งความรัก
ศิลปะแห่งความรัก
 
ความฉลาดทางอารมณ์และการพัฒนาจิตใจ
ความฉลาดทางอารมณ์และการพัฒนาจิตใจความฉลาดทางอารมณ์และการพัฒนาจิตใจ
ความฉลาดทางอารมณ์และการพัฒนาจิตใจ
 
รากฐานแห่งอภิปรัชญาของศีลธรรม โดย ค้านท์ (Kants groundwork of the metaphysics...
รากฐานแห่งอภิปรัชญาของศีลธรรม โดย ค้านท์ (Kants groundwork of the metaphysics...รากฐานแห่งอภิปรัชญาของศีลธรรม โดย ค้านท์ (Kants groundwork of the metaphysics...
รากฐานแห่งอภิปรัชญาของศีลธรรม โดย ค้านท์ (Kants groundwork of the metaphysics...
 
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
สัทธรรมปุณฑริกสูตร (The Lotus of The True Law)
 

ศาสนายิว

  • 3.  ศาสนายิว หรือ ยูดาห์เป็นศาสนา ที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาศาสนา เอกเทวนิยมที่ยังมีชีวิตอยู่  ศาสนายิวเกิดประมาณ ๙๕๗- ๖๕๗ ปี ก่อน พ.ศ. โดยคิดตาม สมัยของโมเสส  ตามความเชื่อของชาวยิว > ศาสนายูดาเกิดตั้งแต่สมัยอับรา ฮัม ประมาณ ๑,๕๐๐ ปีก่อน พ.ศ. หรือ ๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว
  • 4. ลักษณะทั่วไป ยูดาร์ ภาษาอังกฤษว่า Judalism กรีกว่า Judaios หมายถึง ชาวยิว หรืออิสราเอล ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากแคว้น ยูดาห์ โบราณ  บรรพบุรุษของชาวยิวคือ อับราฮัม เป็นชาวคาลเดียน(ฮิบรู)  ชาวโรมันเรียกว่า ยูเดอา-Judea อังกฤษเรียกเพี้ยนเสียงเป็ น ยูเดีย และยิวในที่สุด
  • 5. ลักษณะทั่วไป  ดังนั้นมักเรียกศาสนานี้ว่า ยูดาห์, ยิว หรือ ฮิบรู  ส่วนคาว่าศาสนาอิสราเอลใช้เรียกน้อย มักจะใช้เรียก ประเทศมากกว่า  ศาสนาคริสต์และอิสลามมีเนื้อหาในคัมภีร์ใกล้เคียงกัน มาก มีนักวิชาการบางท่านวิเคราะห์ว่าทั้งสองศาสนานี้มี กาเนิดและพัฒนาการมาจากศาสนายิว  ศาสนายิว เป็นสัญลักษณ์ของคนยิวเพราะเป็นทุกอย่าง ของยิว : ประเพณี, คาสอน, ประวัติศาสตร์ กฎหมาย  ส่วนศาสนาอิสลามปรับปรุงคาสอนให้เหมาะสมกับชาว อาหรับ ส่วนศาสนาคริสต์เพียงนาไปขยายความเท่า นั้นเอง
  • 6.  บรรพบุรุษของชาวยิว ได้ชื่อว่า ชาวฮิบรู เพราะใช้ภาษาฮิบรู ซึ่งเป็นภาษาที่ ใช้บันทึกคัมภีร์ส่วนใหญ่ของศาสนายูดาห์ / ในอิสราเอลปัจจุบัน ก็ใช้ภาษา ฮิบรูเป็นภาษาราชการ  ชาวยิวใช้ชีวิตแบบเร่ร่อน บุคคลในศาสนาทาหน้าที่รับภาระมาจากพระเจ้า ทาการเสียสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่อปฏิบัติตามภาระที่ได้รับมอบหมายมาจาก พระเจ้า นั่นคือทาประโยชน์แก่มนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นบุตรของพระเจ้า  เมื่อชาวยิวเข้าไปอาศัยในท้องถิ่นของชาวคานาเนียน คนในท้องถิ่นจึงเรียกผู้ มาใหม่ว่า “ฮิบรู” แปลว่า คนต่างถิ่น เป็นที่มาของชื่อเชื้อชาติ
  • 7. ลักษณะทั่วไป  ศาสนายูดาห์ เป็นศาสนาแห่งประวัติศาสตร์และกฎหมาย  ประวัติศาสตร์ = เพราะพัฒนามาจากศาสนาดั้งเดิมและรอพัฒนาให้ สมบูรณ์ต่อไป เพราะหวังผู้แทนของพระเจ้าหรือ Messiah = christ  กฎหมาย = เป็นข้อปฏิบัติสาหรับชาวอิสราเอลโดยเฉพาะ  เกิดขึ้นเพราะต้องการแผ่นดินสัญญา(Canaan) หรือความต้องการรวม เป็นชนชาติของตน  ความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว (ศรัทธาที่จะถูกถามไม่ได้เป็นข้อแรก)  แผ่นศิลาจารึกบัญญัติ ๑๐ ประการ (เป็นแกนกลางของคาสอนต่างๆ)
  • 8.  แม้ว่าชาวยิวจะได้เข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งพันธสัญญา แต่ก็ยังไม่มีความผาสุก เพราะถูกรบกวนจากชนชาติอื่น  มีความเชื่อเรื่อง >> เมสิอาห์ หรือ เมสไซอะห์ >> ต่อไป ข้างหน้า พระเจ้าจะส่งบุคคลหนึ่งมารับบาป หรือความ ทุกข์ทรมานแทนมนุษย์ ชาวยิวจึงจะมีความผาสุก  เมสิอาห์ แปลว่า ผู้ได้รับการเจิมน้ามัน >> เป็นผู้แทน ของพระเจ้าที่จะทาให้ศาสนายูดาห์และสังคมมนุษย์ สมบูรณ์  การอ้อนวอนพระเจ้าเพื่อให้ส่งเมสิอาห์ลงมาโดยเร็ว ถือเป็นความหวังของชาวยิวทั้งมวล
  • 10.  ชนชาติอิสราเอลถือกาเนิดเป็นชาติๆหนึ่ง เมื่อตอนรวมกลุ่มกันอพยพหนีความ เป็นทาสจากประเทศอียิปต์ ภายใต้การนาของโมเสส >> เทศกาลอพยพ  บรรพบุรุษของชาวอิสราเอลมาจากเมืองอูร์ของชาวคัลเดอา อยู่บนฝั่งแม่น้ายู เฟรติสตอนใกล้อ่าวเปอร์เซีย >> อับราม ได้รับพันธสัญญาจากพระเจ้าว่าจะได้ เป็นต้นตระกูลของชาติที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ถ้ายอมปฏิบัติตามพระประสงค์ของ พระเจ้าทุกอย่าง อับรามรับพันธสัญญา เปลี่ยนชื่อเป็น “อับราฮัม” แล้วอพยพ ไปอยู่ดินแดนคานาอันที่พระเจ้าสัญญาจะประทานให้ (ดินแดน ปาเล็ตตีนา หรือประเทศปาเลสไตน์)  บุตรชาย ชื่ออิสอัค (ไอแซค) และยาโคบ (อิสราเอล) รับพันธสัญญาต่อมา ยาโคบมีบุตรชาย ๑๒ คน จากภรรยา ๔ คน ทั้ง ๑๒ คนเป็นต้นตระกูลของ ๑๒ เผ่าของชาวอิสราเอล
  • 11.  อัมบราฮัมเป็นปฐมบรรพบุรุษของชาวยิว และเป็นคนแรกของชาวยิวที่เปลี่ยนจาก การนับถือเทพเจ้าจานวนมาก มาเป็นนับ ถือพระเจ้าองค์เดียว  พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า  “เจ้าจงออกจากเมือง จากญาติพี่น้อง จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เรา จะบอกให้เจ้ารู้ เราจะให้เจ้าเป็นชาติใหญ่ เราจะอวยพรแก่เจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียง โด่งดัง เลื่องลือไกล แล้วเจ้าจะช่วยให้ ผู้อื่นได้รับพร เราจะอานวยพรแก่คนที่ อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า”
  • 12.  “เราจะให้ดินแดนที่เจ้าอาศัยอยู่นี้ คือ แผ่นดินคานาอันทั้งสิ้นแก่เจ้า และ แก่เชื้อสายของเจ้าที่จะสืบมา ให้เป็นกรรมสิทธิ์นิรันดร และเราจะเป็น พระเจ้าของเจ้า”
  • 13.  เมื่อชาวยิวตกเป็นเชลยของอียิปต์ โมเสสได้ ถือกาเนิดขึ้นในอาณาจักรอียิปต์ และรอด พ้นจากการถูกฆ่าโดยกษัตริย์อียิปต์และ ได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าหญิงอียิปต์ และ เลี้ยงดูให้เป็นบุตรบุญธรรม มีชื่อว่า “โมเสส” แปลว่า “ผู้รอดตายจากน้า”  โมเสสได้รับการเลี้ยงดูในราชสานัก มีความ เป็นอยู่ที่ดี วันหนึ่งไปพบชาวยิวถูกเฆี่ยนตี ทารุณในการทางาน จึงได้วิวาทและได้ฆ่า เจ้าหน้าที่ชาวอียิปต์ตาย
  • 14.  โมเสสหนีไปอยู่ที่เมืองมีเดียน และได้พบกับ ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า รวมทั้งได้ แต่งงานกับบุตรสาวของปุโรหิตและประกอบ อาชีพเลี้ยงแกะที่เมืองมีเดียน ๔๐ ปี  โมเสสได้พบและสนทนากับพระเจ้า และ ทราบพระนามของพระเจ้า ว่าคือ “พระยะโฮ วาห์” หรือ “พระยาเวห์” ( Jahweh)  โมเสสได้ทูลขอฟาห์โร และนาพาชาวยิวออก จากประเทศอียิปต์ตามคาบัญชาของพระเจ้า เพื่อกลับไปสู่ดินแดนแห่งพันธะสัญญา หรือ คานาอัน
  • 15.  “เราได้เห็นความทุกข์ของประชากรของเราที่ อยู่ในประเทศอียิปต์แล้ว...เรารู้ถึงความทุกข์ ร้อนต่างๆ ของเขา เราลงมาเพื่อจะช่วยเขา ให้รอดจากมือชาวอียิปต์และนาเขาออกจาก ประเทศนั้น ไปยังแผ่นดินที่อุดมกว้างขวาง เป็นแผ่นดินที่มีน้านมและน้าผึ้งไหลบริบูรณ์ คือ ไปยังที่อยู่ของชาวคานาอัน...บัดนี้คาร่า ร้องของชนชาติอิสราเอลมาถึงเราแล้ว ทั้งเรา ได้เห็นความบีบคั้นซึ่งชาวอียิปต์กระทาต่อ เขาแล้ว เราจะใช้เจ้าไปเฝ้ าฟาโรห์ เพื่อจะได้ พาประชากรของเรา คือชนชาติอิสราเอล ออกจากอียิปต์”
  • 16.  เมื่อโมเสสและอาโรนพี่ชายพาชาวยิว เดินทางมุ่งหน้าสู่ทะเลแดง ฟาโรห์เกิด กลับใจเกรงชาวยิวจะเป็นภัยต่ออียิปต์ ภายหลัง จึงสั่งให้ทหารรีบติดตามมา สังหารชาวยิว  ในตอนนี้ พระเจ้าได้สั่งให้โมเสสเอา ไม้เท้าชี้ที่ทะเลแดง ก็ปรากฏว่าน้าใน ทะเลแดงแยกออกเป็นช่องทางให้ ชาวยิวเดินข้ามไปได้ และเมื่อทหาร อียิปต์ตามมาทัน โมเสสก็ชี้ไม้เท้าลงที่ ทะเลอีกหลังจากที่ชาวยิวข้ามพ้นแล้ว ปรากฏว่าน้าทะเลไหลกลับเข้าหากัน ทาให้ทหารอียิปต์จมทะเลตาย
  • 17.  โมเสสได้พาชาวยิวข้ามน้ามาได้ อย่างปลอดภัย เดินทางต่อ มาถึงภูเขาสินาอี **โมเสสได้ขึ้น ไปบนยอดเขาสินาอี(ซีไนย) เป็น เวลา ๔๐ วัน จึงลงมาจากภูเขา พร้ อมด้ วยแผ่ นหิน ๒ แผ่ น ที่ จารึ กคาสั่ งของพระเจ้ า เรี ยกว่ า “พระบัญญัติ ๑๐ ประการ” ซึ่ งถือเป็ นหลัก ศีลธรรมสิ่งแรกที่สุดและสาคัญ ที่สุดในศาสนายิว
  • 19. พระบัญญัติข้อ1 อย่านับถือพระเจ้าอื่นใด พระบัญญัติข้อ 2 อย่าบูชารูปเคารพใดๆ พระบัญญัติข้อ 3 อย่าออกพระนามพระเจ้าเปล่าๆ พระบัญญัติข้อ 4 จงทางานให้เสร็จใน ๖ วัน อย่าทางานใดๆ ในวันที่ ๗ พระบัญญัติข้อ 5 จงนับถือบิดา มารดาของตน พระบัญญัติ 10 ประการ
  • 20. พระบัญญัติข้อ 6 อย่าฆ่าคน พระบัญญัติข้อ 7 อย่าล่วงประเวณีชาย หญิง พระบัญญัติข้อ 8 อย่าลักทรัพย์ พระบัญญัติข้อ 9 อย่าเป็นพยานเท็จ พระบัญญัติข้อ 10 อย่าโลภสมบัติของผู้อื่น พระบัญญัติ 10 ประการ
  • 21.  ๑) วันที่ ๑ พระเจ้าทรงสร้างแสงสว่าง  ๒) วันที่ ๒ พระเจ้าทรงสร้างท้องฟ้ าและอากาศ  ๓) วันที่ ๓ พระเจ้าทรงสร้างน้าและรวบรวมไว้ในทะเล  ๔) วันที่ ๔ พระเจ้าทรงสร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ  ๕) วันที่ ๕ พระเจ้าทรงสร้างนกในอากาศ และสร้างปลาในน้า  ๖) วันที่ ๖ พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์คนแรก  ๗) พระเจ้าทรงหยุดพัก (วันสับบาธ) >> ชาวยิวหยุดพักใน วันเสาร์ และชาวคริสต์หยุดในวันอาทิตย์
  • 22.  โมเสสพาชาวยิวเร่ร่อนอยู่ ๔๐ ปี แต่ สิ้นชีวิตลงก่อนที่จะเข้าสู่ดินแดนแห่ง พันธะสัญญา  โยสุเอ เป็นหัวหน้าคนต่อมา และได้ นาพาชาวยิวเข้าสู่ดินแดนแห่งพันธะ สัญญาได้สาเร็จ มีกษัตริย์องค์แรก คือ ซามูแอล /ดาวิด / โซโลมอน  เมื่ออยู่ที่ปาเลสไตน์แล้วก็ยังไม่เป็นสุข ถูกรุกรานและตกเป็นทาสของชาติอื่นๆ ประสบกับความยากลาบาก จึงมีศาสดา ประกาศกอุบัติขึ้นเป็นระยะๆ เพื่อให้ วางใจในพระสัญญา  มีความหวังเรื่องพระเมสิอาห์
  • 23.  ในยุคต่อมา ชาวยิวกระจัดกระจายไปอยู่ใน ประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ทุกคนถือเป็นยิว และยึดมั่นในขบวนการไซออน ว่าสักวัน พระเจ้าจะประธานแผ่นดินให้ยิวอีก  พ.ศ. ๒๔๙๑ สหประชาชาติมีมติให้แบ่ง ปาเลสไตน์ออกเป็น ๒ รัฐ คือ รัฐยิวและรัฐ อาหรับ  พ.ศ. ๒๔๙๑ ยิวจึงประกาศเอกราช เป็น ประเทศอิสราเอล มีเยรูซาเล็ม (แปลว่า สันติสุข) เป็นเมืองหลวง
  • 24. เป็นที่ทราบกันดีว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมีสองส่วน ส่วนแรกเป็นภาคพันธสัญญาเดิม (The Old Testament) ส่วนที่สองเป็นภาคพันธสัญญาใหม่ (The New Testament) ยิวเรียกคัมภีร์ของตนว่า "ตานัค" (Tanak) แบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ 1. โตราห์ (Torah) กฎบัญญัติ 2. ศาสดาประกาศก (Prophets) 3. วรรณกรรม (Writings) คัมภีร์
  • 25.
  • 26. ประกอบไปด้วยหนังสือหรือบัญญัติคัมภีร์ 5 เล่มแรกของ คัมภีร์เก่า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคัมภีร์ 5 เล่มของโมเสส มีดังนี้คือ 1. บทปฐมกาล (Genesis) 2. บทอพยพ (Exodus) 3. บทเลวีนิติ (Leviticus) 4. บทกันดารวิถี หรือ การนับจานวนคนอิสราเอล (Numbers) 5. บทเฉลยธรรมบัญญัติ (Deuteronomy) โตราห์
  • 27. คัมภีร์ "ทัลมุด" (Talmud) เป็นคัมภีร์ล่าสุด เป็นบทอธิบายเพิ่มเติมจาก ของเดิม ประมวลเหตุการณ์ในระยะหลัง มีลักษณะเป็นปฏิปักษ์กับพระเยซู เพราะผู้ที่นับถือศาสนายิวดั้งเดิมไม่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระ เจ้า เขียนเป็นภาษาอารามาอิค และบางส่วนเขียนเป็นภาษาฮิบรู แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ  มิสนาฮ (Mishnah)  เจมารา (Gemara) ทัลมุด
  • 28. มิสนาฮ (Mishnah) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายบ้านเมือง และกฎหมายที่เกี่ยวกับสังคม รวมไปถึงกฎหมายครอบครัว และ แบบแห่งพิธีกรรม คัมภีร์นี้เขียนเป็นภาษาฮิบรู เจมารา (Gemara) เป็ นส่วนที่อธิบายมิชนาห์ และ โตราห์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของพวกยิวและเป็ นตาราเรียน กฎหมายของนักศึกษา โดยเฉพาะคัมภีร์ นี้เขียนด้วยภาษา อารามาอิค ทัลมุด สรุปคาสอนในคัมภีร์ คือ พระยาห์เว ทรงดูแลและทรง กระทาการช่วยเหลือชาติยิวเป็นพิเศษ
  • 29. พระเจ้า  Jahweh = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - I am that I am.  Elohim = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - Nuk pu nuk.  El = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ผู้แข็งแรง  Iloit = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ผู้สร้างทุกสิ่ง  Ila = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ชาวเมโสโปเตเมีย  Ba /al = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ชาวฮิต, อูการิต  El = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ชาวเฟนิเซีย  Allah = ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น - ชาวอาหรับ  ทุกคามีความหมายเหมือนกันทั้งหมด(ยกเว้นปลีกย่อย)
  • 30. ชาวยิวเชื่อว่าผู้กระทาดีพระเจ้าจะทรง นาไปสู่สวรรค์ผู้กระทาความชั่วจะต้องไต่ สะพานลงนรก เมื่อดับจิตดวงวิญญาณจะวนเวียนอยู่ ใกล้ร่างเป็นเวลา 3 วัน ได้รับคาพิพากษา ว่าจะให้ไปทางใด ก็จะไปทางนั้น สวรรค์มี อยู่ 7 ชั้น และนรกมีอยู่ 7 ชั้น เรื่องดวงวิญญาณ
  • 31. หลักจริยศาสตร์  ศาสนายิวถือคัมภีร์เก่าเป็นหลัก ผ่านทางโมเสส  กฎเกณฑ์ต่าง ๆ สาหรับปฏิบัติในชีวิตอยู่ในคัมภีร์เลวีนิติ / Leviticus ( พระบัญญัติ) และ คัมภีร์เฉลยธรรมบัญญัติ  ความเข้มข้นอยู่ที่ศรัทธาในพระเจ้าเพื่อความอยู่รอดของชน ชาติ  กฎปฏิบัติที่สาคัญที่สุดคือบัญญัติ ๑๐ ประการ ย่อเป็นได้ ๓  จงมีความยุติธรรม  จงรักความกรุณา  จงดาเนินไปกับพระเจ้าอย่างอ่อนน้อม
  • 32. ความเชื่อพื้นฐานของยิว  ศรัทธาในพระเจ้า  ศรัทธาว่ามีพระเจ้าองค์เดียว  ศรัทธาว่าพระเจ้าสร้างโลก แต่โลกไม่คงอยู่นิรันดร  ศรัทธาว่ามีพระเจ้าสากลเพียงองค์เดียว  ศรัทธาว่าพระเจ้าทรงดูแลโลกและสัตว์โลกทั้งหมด  ย่อเป็นข้อเดียวและเป็นพื้นฐานของจริยศาสตร์ทั้ง ปวง คือ “จงมีความเชื่อในพระเจ้า”
  • 33. 1. ฟาริซี เป็นพวกเชื่อมั่นในลัทธิและจารีตเก่าโดยเชื่อว่า สิ่งที่ปฏิบัติมาก่อนมีความสาคัญยิ่งกว่าจารึกในคัมภีร์ 2. ซาดดูซูส เป็นพวกศาสนาปฏิรูป ทอดทิ้งการปฏิบัติพิธีกรรม โบราณเปลี่ยนแปลงให้เหมาะกับยุคสมัย ยอมรับบัญญัติ ๑๐ ประการ 3. เอสเซเนส เป็นพวกที่ประพฤติพรหมจรรย์อย่าเคร่งครัด ไม่ ยอมแต่งงาน ชอบความสงบ ไม่นิยมพลีกรรม ไม่นิยมโรงสวด แต่นิยม บูชาแสงสว่าง เช่นดวงอาทิตย์และ ดวงไฟ นิกาย
  • 34. ศาสนายิวใช้เครื่องหมายเดิม คือ เชิงเทียน 7 กิ่ง แต่ปัจจุบันใช้รูป สามเหลี่ยมซ้อนกัน 2 รูปเป็นดาว 6 แฉก ซึ่งเป็นตราเครื่องหมาย ประจาของกษัตริย์ดาวิด และเป็นเครื่องหมายในผืนธงชาติอิสราเอลด้วย สัญลักษณ์ศาสนายิว
  • 35. สัญลักษณ์ศาสนายิว นอกจากนี้แล้ว ชาวยิวถือว่ามหาวิหาร ณ กรุงเยรูซาเลมที่กษัตริย์โซโลมอนทรงสร้าง ขึ้น ก่อนคริสต์ศักราช 900 ปี เป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์
  • 36. เพลงร้องในงานเทศกาล  หนึ่งคือพระเจ้า  สองคือแผ่นศิลาจารึก  สามคือบิดา อับราฮัม ไอแซค และจาคอบ  สี่คือมารดา ซาร่า เรเบกาห์ ราเซลและเลอาห์  ห้าคือหนังสือโตราห์  หกคือหนังสือมิสนาห์  เจ็ดคือวันแห่งสัปดาห์  แปดคือวันทาพิธีสุหนัต  เก้าคือเดือนแห่งการตั้งครรภ์  สิบคือบัญญัติ 10 ประการ  สิบเอ็ดดาวในความฝันของ โจเซฟ  สิบสองคือคน 12 เผ่า
  • 37. ความเชื่อ 13 ประการ (Credo)  1.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น แหล่งแห่งความสุข เป็นผู้สร้างและผู้ชี้ทางแก่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกสร้าง ขึ้นมา  2.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น แหล่งแห่งความสุข ทรงมีองค์เดียว ไม่มีอะไรมีลักษณะเหมือนพระองค์  3.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น แหล่งแห่งความสุข ไม่ทรงมีร่างกายเนื้อ เป็นิสระจากคุณสมบัติต่าง ๆ จากวัตถุ  4. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น แหล่งแห่งความสุข ทรงเป็นหนึ่งและที่สุดท้าย  5. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็น แหล่งแห่งความสุข ควรมีศรัทธาต่อพระองค์เท่านั้น และเป็นการถูกต้องที่ บูชาพระองค์
  • 38. ความเชื่อ 13 ประการ (Credo)  6. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ทุกคาพูดของศาสดาพยากรณ์เป็นความจริง  7. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ถึงความเป็นศาสดาพยากรณ์ของโมเสส ศานติที่มีแก่ ท่านเป็นความจริง ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าศาสดาพยากรณ์ทั้งหลาย  8. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าโตร่าห์ทั้งหมด ซึ่งเป็นสมบัติของพวกเราเป็นอัน เดียวกับที่โมเสสมอบให้ ศานติจงมีแก่เขา  9. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า โตร่าห์นี้จะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงและจะไม่มีบัญญัติอื่น ๆ จากพระผู้สร้างอีก  10. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็นแหล่งแห่ง ความสุข ทรงรู้การกระทาทุกอย่างและตลอดความคิดทุกอย่าง  11. ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า พระผู้สร้าง พระนามของพระองค์เป็นแหล่งแห่ง ความสุข ทรงประทานรางวัลแก่ผู้รักษาบัญญัติของพระองค์
  • 39. ความเชื่อ 13 ประการ (Credo)  12.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ในการมาของ เมสไซอาห์ และแม้ว่าจะ ชักช้า ข้าพเจ้าก็จะรอคอยถึงการมาของท่านทุกวัน  13.ข้าพเจ้าเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ผู้ที่ตายไปแล้วจะกลับมีชีวิตอีกตามเวลา ที่กาหนดไว้เพื่อสรรเสริญพระเจ้า พระนามของพระองค์เป็นแหล่งแห่ง ความสุข ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าหวังความหลุดพ้นนั้น (อยู่กับพระองค์)
  • 40. วจนะจากคัมภีร์ฮิบรู  ความชั่วร้ายก็มาจากคนชั่วร้าย  ความหวังที่พังทลายย่อมทาให้หัวใจเจ็บป่วย แต่ความปรารถนาที่สาเร็จเป็น ต้นไม้แห่งชีวิต  หัวใจที่สงบระงับย่อมทาชีวิตให้ยืนยาว แต่ความริษยาเป็นความเน่าในกระดูก  บุคคลผู้กดขี่คนยากจนย่อมเป็นการด่าว่าพระเจ้าของเขา แต่คนผู้มีความกรุณา ในคนขัดสนย่อมเป็นการยกย่องพระองค์  อาหารแม้เพียงผักในที่อบอวลด้วยความรัก ยังดีกว่าเนื้ออบที่คุกรุ่นด้วยความ เกลียดกัน  อย่าดีใจเมื่อศัตรูของท่านล้ม และอย่ายินดีเมื่อเขาเดินสะดุด  คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ที่ถนน ฉันจะถูกฆ่าถ้าออกไป”
  • 41. วจนะจากคัมภีร์ฮิบรู  เพื่อนรักกันได้ในเวลาปกติ แต่พี่น้องเกิดมาเพื่อยามทุกข์เข็ญ  ความบ้าของผู้หญิงก็คือการส่งเสียงเอ็ดตะโร หล่อนเป็นคนปราศจากความคิดและไม่รู้ อะไร และต่อผู้ชาย ผู้ขาดความเข้าใจ หล่อนจะพูดว่า “น้าที่ลักขโมยมามีรสหวาน และขนมปังที่กินในที่เร้นลับย่อมน่าชื่นใจ” (แต่ผู้ชายไม่รู้ว่าความตายคอยอยู่ที่นั่น แขกของหล่อนจะอยู่ในส่วนลึกของนรก  หญิงดีย่อมเป็นมงกุฎต่อสามีนาง  มี 7 สิ่งที่เป็นที่จงเกลียดจงชังของพระเจ้าคือ 1.ตาที่เหยียดหยาม 2.ลิ้นที่กะล่อน 3.มือที่เชือดเฉือนเลือดบริสุทธิ์ 4.หัวใจที่วางแผนคิดชั่ว 5.เท้าซึ่งเร็วในการวิ่งไปทาชั่ว 6.มีลมหายใจอยู่เพื่อเป็น พยานเท็จ และ7.บุคคลผู้หว่านความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง
  • 42. วจนะจากคัมภีร์ฮิบรู  ถ้าศัตรูของเจ้าหิวจงให้อาหารแก่เขา และถ้าเขากระหายก็จงให้น้าดื่มแก่ เขา การกระทาอย่างนี้เท่ากับเจ้ากองถ่านไฟร้อนลงบนศีรษะของเขา แล้ว พระเจ้าจะประทานรางวัลแก่เจ้า  ตาของคนไม่เคยอิ่ม  คนผิดจะหนีทั้งที่ไม่มีใครตาม แต่คนถูกจะกล้าหาญเยี่ยงสิงโต  แม่น้าทุกสายไหลลงสู่ทะเล ถึงกระนั้นทะเลก็ไม่เต็ม และน้าก็จะกลับไป แหล่งต้นน้าอีก  พระเจ้าทรงสร้างคนให้เป็นคนซื่อตรง แต่พวกเขาสร้างเส้นทางต่าง ๆ เอง  เจ้าทาอย่างไร เจ้าจะได้รับผลอย่างนั้น
  • 43. ศาสนิกของศาสนายิวจึงมีทั้งใน ประเทศอิสราเอลและต่างประเทศ กล่าวคือในสหรัฐอเมริกามีประมาณ 5 ล้านคน ในแคนาดา ประมาณ 1 ล้าน คน ในทวีปยุโรปประมาณ 3 ล้าน 5 แสนคน และในทวีปเอเชีย ประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งในจานวนนี้ เกือบทั้งหมดอยู่ในประเทศ อิสราเอล ศาสนายิวในปัจจุบัน
  • 45.  ๑) ศาสนายูดา เป็นศาสนาที่พระเจ้าประทานมาแก่ปวงประชาที่ พระองค์ทรงเลือก คือ ชาวยิว หรืออิสราเอล  ๒) ศาสนายูดา เป็นศาสนาเอกเทวนิยม นับถือพระยะโฮวาห์เพียง องค์เดียวเท่านั้น  ๓) ศาสนายูดาเชื่อว่า พระยะโฮวาห์ได้เคยส่งศาสดาพยากรณ์มา หลายองค์แล้ว แต่โมเสสเป็นศาสดาพยากรณ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด และ เป้ นที่โปรดปรานของพระเจ้ามากที่สุด  ๔) ศาสนายูดาเชื่อว่ามีเทวดาอยู่มากมายทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว ซาตานเป็นหัวหน้าฝ่ายชั่ว แต่ซาตานไม่อาจมีอานาจเหนือพระเจ้า
  • 46.  ๕) ศาสนายูดาเชื่อว่า วิญญาณเป็นอมตะ และมีนรก สวรรค์คอยรับผู้ที่ตาย ไปแล้ว  ๖) ศาสนายูดาส่งเสริมให้ทาพิธีกรรม เช่น การเซ่นสรวงบูชา ตลอดถึง เทศกาลเฉลิมฉลองทางศาสนา เช่น พิธีปาสคาล (Passovor)