More Related Content
Similar to การศึกษาพฤติกรรมสาเหตุการทะเลาะวิวาทของเด็กนักเรียนอาชีวะม.6/1 (20)
การศึกษาพฤติกรรมสาเหตุการทะเลาะวิวาทของเด็กนักเรียนอาชีวะม.6/1
- 2. กิตติกรรมประกาศ
การศึกษานี้สาเร็จรุร่วงได้ด้วยดีด้วยความกรุณาจาก คุณครูที่อบรมสั่งสอนทุกท่าน
ที่ให้ความรู้และให้คาปรึกษา ซึ่งได้ให้คาแนะนาตรวจแก้ข้อบกพร่องต่างๆ ด้วยความเอาใจใส่
ปลูกฝังให้ผู้วิจัยรักการทางาน สนับสนุนให้กาลังใจและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้วิจัยมาโดย
ตลอด ผู้วิจัยขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
ทั้งนี้ผู้วิจัยรู้สึกซาบซึ้งและประทับใจในความกรุณาของท่านคุณครูทุกท่านที่ประ
สิทธิประสาทความรู้ในวิชา การวิจัย จนทาให้งานวิจัยสาเร็จเรียบร้อย ผู้วิจัยขอขอบพระคุณ
เป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
ขอขอบพระคุณ ครูเอกนรินทร์ แก้วอุ่นเรือน ครูโรงเรียนบ้านดุงวิทยา ที่กรุณาได้
ตรวจสอบงานวิจัย ให้คาแนะนาและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ในการแก้ไขเพิ่มเติมให้
วิทยานิพนธ์มีความสมบูรณ์และมีคุณค่าสูงยิ่งขึ้น ผู้วิจัยขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
ท้ายสุดนี้ ผู้ขอขอบพระคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่ไม่สามารถเอ่ยนามได้หมดในที่นี้
ทุกคนเป็นกาลังใจอันสาคัญยิ่งในการศึกษา และในการทาการศึกษาในครั้งนี้
คุณูปการอันเกิดจากวิจัย ขออุทิศให้บุพการีและครูอาจารย์ทุกท่าน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
- 4. สภาพสังคมไทยในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกๆด้านอย่างรวดเร็วได้ส่งผลกระทบ ต่อคน
ในสังคมก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ จานวน มาก ซึ่งปัญหาความขัดแย้ง การใช้ความรุนแรง ก็เป็นปัญหาหนึ่ง
ที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรง ปัญหานี้ถือว่าเป็นปัญหาที่สาคัญระดับชาติ เราจะพบว่าเหตุการณ์ความ
ขัดแย้งที่มีความ รุนแรงจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการ
ปกครอง การท่องเที่ยว ฯลฯ ปัญหานี้เป็นปัญหา หนึ่งที่มีความสาคัญและเป็นสิ่งที่ทุกฝ่าย พยายามร่วมกัน
แก้ไขเพื่อลดปัญหาเหล่านี้ และส่งผลกระทบทางลบที่น้อยที่สุด
ผู้ศึกษาจึงเห็นว่าปัญหาการก่อเหตุทะเลาะ วิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษามีความรุนแรง และยัง
ส่งผลกระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้องและ ประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก หากปัญหานี้ยัง ไม่ได้รับการป้องกันและ
แก้ไขก็อาจก่อให้เกิด ความเสียหายทั้งที่ประเมินได้และไม่ได้สูงมาก ยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่
จะศึกษา พฤติกรรมการใช้ความรุนแรง กรณีศึกษา การทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษา ในเขต
กรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะได้นาเอาผล การศึกษาไปเป็นข้อมูลหรือแนวทางในการหา สาเหตุหรือที่มา
โดยการทาความเข้าใจ และทราบถึงที่มาของปัญหาอย่างเจาะจง มากขึ้น และนาไปสู่มาตรการการป้องกัน
แก้ไข รวมถึงลดความรุนแรงของปัญหาการก่อเหตุ ทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษาในประเทศอีก
ด้วย
บทที่ 1
ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
บทนา
- 5. วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพื่อศึกษาปัจจัยด้านจิตวิทยา ครอบครัว ชุมชน และการคบหาเพื่อนที่มักกระทา
ผิดและมักใช้ความรุนแรงในสถาบันการศึกษาว่ามีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมใช้ความรุนแรง
2. เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมการใช้ ความรุนแรงของนักเรียนอาชีวะ
3.เพื่อศึกษาผลกระทบที่จะตามมาหลังการก่อเหตุทะเลาะ วิวาทของนักเรียนอาชีวะ
สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า
1.ปัจจัยด้านครอบครัว ชุมชน และการคบหาเพื่อนที่มักใช้ความรุนแรง มีผล
ต่อการใช้ความรุนแรงของนักเรียนอาชีวะจริง
2.ระดับการใช้ความรุนแรงต่อการทะเลาะ วิวาทหนึ่งครั้งขึ้นอยู่กับปัญหาที่
ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทและการใช้อาวุธจะส่งผลทาให้ความรุนแรงมีระดับเพิ่มขึ้น
3.ผลกระทบหลังการทะเลาะ วิวาทจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงอาจมีตั้งแต่
บาดเจ็บเล็กๆน้อยๆถึงขั้นอาจจะเสียชีวิตและยังส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอีกด้วย
- 8. บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในบทที่ 2 นี้ผู้ศึกษาได้นาเสนอผลของการศึกษาดังต่อไปนี้
ขอบเขตเนื้อหาของการศึกษาค้นคว้า
1. ความหมายของการศึกษา
2. ความหมายของการศึกษานอกระบบ
3. ความหมายของสายสามัญและสายอาชีพ
4. ความแตกต่างของสายสามัญและสายอาชีพ
5. ความหมายของการทะเลาะวิวาท
6. สาเหตุการทะเลาะวิวาท
7. มาตรการป้ องกันและแก้ไขปัญหา การทะเลาะ
วิวาทของนักเรียน นักศึกษา
8. สถิติการทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชิวะ
9. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทะเลาะวิวาท
- 12. สัปดา
ห์ที่
เดือน รายละเอียดการปฏิบัติกิจกรรม ผู้รับผิดชอบ
1 พ.ค. 58 ชี้แจงหัวข้อเรื่องต่อครูประจารายวิชา คณะผู้จัดทา
2 มิ.ย. 58 -เขียนโครงร่าง
-กาหนดขอบข่าย และวางแผนการดาเนินกิจกรรม
คณะผู้จัดทา
3 มิ.ย. 58 สมาชิกในกลุ่มนาเสนอและแสดงความคิดเห็นใน
ชิ้นงานที่จะทา
คณะผู้จัดทา
4 มิ.ย. 58 ประชุมปรับปรุงแผนและเตรียมแบ่งงานในความ
รับผิดชอบ
คณะผู้จัดทา
5 มิ.ย. 58 เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ที่จะใช้ในการปฏิบัติกิจกรรม คณะผู้จัดทา
6 ส.ค.58 ลงมือปฏิบัติกิจกรรม คณะผู้จัดทา
7 ส.ค.58 สรุปผลการดาเนินงาน คณะผู้จัดทา
8 ส.ค.58 ประชุมสรุปผลการดาเนินงาน คณะผู้จัดทา
9 ส.ค.58 จัดทารูปเล่มรายงาน คณะผู้จัดทา
10 ส.ค.58 จัดทารูปเล่มรายงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น คณะผู้จัดทา
11 ส.ค. 58 นาเสนอบทสรุปต่อครูที่ปรึกษา และประเมินผล
กิจกรรม
คณะผู้จัดทา
ปฏิทินการปฏิบัติกิจกรรม
ชื่อการศึกษา การศึกษาพฤติกรรมสาเหตุการทะเลาะวิวาทของเด็กนักเรียนอาชีวะ
- 14. บทที่ 5
สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาสาเหตุของการ
ทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวะและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุ่นแรงให้ลดน้อยลดหรือ
ไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาท
สรุปผลการศึกษา
การศึกษาสรุปผลได้ดังนี้ จากการศึกษาพบว่ากระบวนการเกิด พฤติกรรมความ
รุนแรงของนักเรียนวัยรุ่น นั้นเกิดจากปัจจัยหลายๆด้าน ทั้งปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้าน
ครอบครัว ปัจจัยทางสังคม ล้วนมีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมความรุนแรงของนักเรียน
วัยรุ่น ดังต่อไปนี้
- 16. 3. สาเหตุทางสังคม
3.1ด้านเพื่อน จากการศึกษาพบว่า นักเรียนถูกเพื่อนชักชวนให้มีเรื่องชกต่อยทะเลาะวิวาท
คบเพื่อนที่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาท
3.2 ด้านสื่อ จากการศึกษาพบว่า นักเรียนชอบติดตามข่าวนักเรียนนักศึกษายกพวกรุมทา
ร้ายกันจนส่งผลให้เกิดความเคยชินต่อพฤติกรรมความรุนแรงว่าเป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่น
3.3 ด้านเกมส์ออนไลน์ จากการศึกษาพบว่า นักเรียนเล่นเกมส์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความ
รุนแรงเป็นประจาทาให้ซึมซับเอาพฤติกรรมความรุนแรงไว้กับตัวเองและมาแสดงพฤติกรรมความ
รุนแรงต่อเพื่อนหรือคนที่อ่อนแอกว่า
- 17. การอภิปรายผล
สาเหตุของพฤติกรรมความรุนแงของนักเรียนอาชีวะ สามารถสรุปและอภิปรายผลได้ดังต่อไปนี้
1.ประเด็นด้านบุคคล พบว่า มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมความรุนแรงของนักเรียนวัยรุ่น
โดยนักเรียนวัยรุ่นมีทัศนคติต่อพฤติกรรมความรุนแรงว่าเป็นพฤติกรรมทีเป็นปกติธรรมดาเป็นที
ยอมรับของกลุ่มเพื่อน เป็นการแสดงออกถึงความกล้าหาญ ประกอบกับนักเรียนเป็นวัยรุ่นมีลักษณะ
เป็นคนโมโหง่ายควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ค่อยดีนัก และชอบแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรง คบ
เพื่อนที่เคยมีประวัติด้านการทะเลาะวิวาท หรือชอบต่อต้านสังคม เช่น ไม่เชื่อฟังครู ดื้อรั้น เอาแต่ใจ
ชอบทาผิดกฎระเบียบของทางโรงเรียน เช่น หนีเรียน ชอบความเป็นอิสระ
- 18. 2. ประเด็นด้านครอบครัว พบว่า มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมความรุนแรงของนักเรียน
วัยรุ่นนักเรียนวัยรุ่น ส่วนมากมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ เกิดจากพ่อแม่หย่าร้าง หรือเสียชีวิต นักเรียน
อาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง ขาดการดูแลเอาใจใส่ พบเห็นความรุนแรงในครอบครัว สมาชิกภายใน
ครอบครัวมีการทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจา ประกอบกับบิดามารดามีความเข้มงวดกวดขันในเรื่อง
การเรียน และเรื่องคบเพื่อนมากเกินไป จนทาให้ลูกเกิดความต่อต้านและต้องการความอิสระ ประกอบ
กับสภาพสังคม และเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ต้องแข่งขันกันในการดารงชีวิต ส่งผลให้ ผู้ปกครองสนใจแต่
การทางานจนไม่ค่อยมีเวลาดูแลเอาใจใส่ลูกแม้ว่าสถาบันครอบครัวจะมีความสาคัญในการพัฒนา
บุคคล แต่ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้เกิดปัญหาในครอบครัว เช่น สัมพันธภาพ
ที่ห่างเหินของคนในครอบครัวโดยเฉพาะบุตร ที่ไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องและเป็นสาเหตุให้ลูก
หันไปหาสิ่งอื่นทดแทน หรือเรียกร้องความสนใจ
- 19. 3. ประเด็นด้านอิทธิพลทางสังคม
3.1 ประเด็นด้านเพื่อน จากการศึกษาพบว่า มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมความรุนแรงของนักเรียน
โดยถูกเพื่อนชักชวนให้มีเรื่องทะเลาะวิวาท คบเพื่อนเกเร และมีกิจกรรมด้านลบต่อต้านสังคม เช่น หนี
เรียน ยกพวกตีกันกับนักเรียนต่างสถาบัน เมื่อเกิดปัญหาด้านความรุนแรงนักเรียนจะปรึกษาเพื่อนก่อน
เป็นอันดับแรกจึงนาไปสู่การทะเลาะวิวาทและยกพวกตีกัน บางคนมาเข้ากลุ่มเพื่อนเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ
บางคนมาเข้ากลุ่มเพื่อนเพื่อหนีความเบื่อหน่ายจากที่บ้าน และใช้สถาบันกลุ่มเป็นพื่นที่ในการแสดง
ตัวตนของตนเอง ซึ่งจากการถูกละเลยไม่ได้รับการให้คาปรึกษาอย่างถูกต้องจากผู้ใหญ่นักเรียนก็มัก
แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่างๆกับกลุ่มเพื่อน
3.2 ประเด็นด้านสื่อ จากการศึกษาพบว่า มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมความรุนแรงของนักเรียนโดย
นักเรียนวัยรุ่นชอบติดตามข่าวที่เกี่ยวกับนักเรียนนักศึกษายกพวกทาร้ายกัน ทั้งจากสื่อโทรทัศน์ และคลิป
วีดีโอทางโทรศัพท์มือถือที่ส่งให้กันในกลุ่มเพื่อนๆวัยรุ่นซึ่งการรับชมภาพข่าวที่มีเนื้อหาพฤติกรมความ
รุนแรงทาให้มีอิทธิพลต่อทัศนคติของนักเรียนว่าพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทั้งนี้
เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีด้านสื่อมีความพัฒนาก้าวหน้ามาก ทาให้คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงสื่อได้อย่าง
ง่ายดายและรวดเร็ว เสียงและภาพที่นักเรียนได้รับชมจากสื่อหลายๆครั้ง นอกจากจะปลูกฝังค่านิยมความ
รุนแรงแล้วยังส่งผลให้เกิดการเลี่ยนแบบพฤติกรรมความรุนแรงได้อีกทางหนึ่ง
- 20. 3.3 ด้านเกมส์ออนไลน์ จากการศึกษาพบว่า มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมความรุนแรงของ
นักเรียน โดยนักเรียนวัยรุ่นชอบเล่นเกมส์ประเภทที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงซึ่งมีอิทธิพล
ต่อนักเรียนให้ซึมซับเอาพฤติกรรมความรุนแรงนั้นไว้กับตนเอง กลายเป็นคนโมโหง่าย
หงุดหงิดเอาแต่ใจ และจะแสดงพฤติกรรมความรุนแรงออกมากับเพื่อนนักเรียนด้วยกันหรือ
รังแกคนที่อ่อนแอกว่า อีกทั้งการเล่นเกมส์ออนไลน์วันละหลายๆชั่วโมงก็ทาให้ขาดการพบปะ
พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวส่งผลให้สัมพันธภาพห่างเหินระหว่างสมาชิกในครอบครัว
- 22. 3. เพื่อน เป็นคนที่วัยรุ่นให้ความสาคัญเป็นอันดับแรกดังนั้นการคบเพื่อนที่ดีจึงมี
ความสาคัญต่อพฤติกรรมของวัยรุ่นด้วย ควรมีกิจกรรมที่สร้างสรรค์ทาร่วมกัน เช่น เล่นดนตรี
หรือ กีฬา ร่วมกันบาเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือสังคมบ้างตามแต่โอกาสอันควร รู้จักทากิจกรรมที่
เป็นสาธารณประโยชน์ร่วมกัน ให้คาปรึกษาที่ดีมีเหตุผลกับเพื่อนได้
4. สื่อต่างๆที่นาเสนอภาพข่าวเกี่ยวกับความรุนแรง ควรตรวจสอบข่าวให้ละเอียด
ทุกแง่มุมควรคานึงถึงเด็กและเยาวชนที่ยังไม่มีวิจารณญาณดีพอที่จะแยกแยะสิ่งที่ควรทาและ
ไม่ควรทาเมื่อสื่อนาเสนอข่าวความรุนแรงแล้วควรมีการนาเสนอความคิดเห็นของนักวิชาการ
เพื่อชี้ถึงผลเสียและสาเหตุของพฤติกรรมดังกล่าวด้วยไม่ควรเสนอข่าวที่จะทาให้ผู้รับชมเห็น
แล้วรู้สึกโกรธแค้น เพราะจะเป็นการบ่มเพาะความรุนแรงเข้าไปในใจของเด็ก
- 25. สรุปผลจากแบบสอบถาม
ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนบ้านดุงวิทยา มีทั้งหมด 1300
คิดเป็นกลุ่มตัวอย่าง อย่างน้อย 10% 1300/100 10=130
แจกแบบสอบถามไป140ใบ ได้รับคืน 130
จานวนผู้ตอบแบบสอบถาม มีดังนี้
เพศชาย 48 คน คิดเป็นร้อยละ 36.92
เพศหญิง 82 คน คิดเป็นร้อยละ 63.08
รวม 130 คน คิดเป็นร้อยละ 100
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มี 31 คน คิดเป็นร้อยละ 23.85
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มี 52 คน คิดเป็นร้อยละ 40
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มี 47 คน คิดเป็นร้อยละ 36.15
- 26. ผลจากการทาแบบสอบถามคิดเป็นร้อยละ มีดังนี้
การเลี้ยงดูของผู้ปกครองส่งผลต่อการใช้ความรุนแรงของเยาวชนเห็นด้วยมาก 78.64% เห็นด้วยปาน
กลาง 21.54% เห็นด้วยน้อย 0% การคบเพื่อนมีผลก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท เห็นด้วยมาก เห็นด้วยมาก 63.08%
เห็นด้วยปานกลาง 33.08% เห็นด้วยน้อย 3.85% บทลงโทษที่ไม่รุนแรงของเยาวชนกระทาผิดส่งผลให้เยาวชนไม่
เกรงกลัวต่อก่อเหตุทะเลาะวิวาท เห็นด้วยมาก 53.85% เห็นด้วยปานกลาง 43.85% เห็นด้วยน้อย 2.31%
สภาพแวดล้อมในชุมชนมีส่งผลต่อการทะเลาะวิวาท เห็นด้วยมาก 70.77% เห็นด้วยปานกลาง 26.92% เห็นด้วยน้อย
2.31% การทะเลาะวิวาทกันครั้งแรงส่งผลให้เกิดความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในครั้งต่อไป เห็นด้วยมาก 42.31% เห็นด้วย
ปานกลาง 52.31% เห็นด้วยน้อย 5.38% การกระทาของรุ่นพี่ส่งผลให้รุนน้องทาตาม เห็นด้วยมาก 30.77% เห็นด้วย
ปานกลาง 50.77% เห็นด้วยน้อย 18.46%
การเสพสื่อหรือเกมออนไลน์ที่มีความรุนแรงทาให้บ่มเพาะการชอบใช้ความรุนแรงและอาจเป็นเหตุให้เกิดการ
ทะเลาะวิวาท เห็นด้วยมาก 69.23% เห็นด้วยปานกลาง 28.46% เห็นด้วยน้อย 2.31% การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนสม
ของแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาท เห็นด้วยมาก 70.77% เห็นด้วยปานกลาง 23.08% เห็นด้วยน้อย
6.15% ความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งทางชู้สาวของเยาวชนก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทเห็นด้วยมาก 69.23% เห็นด้วยปาน
กลาง 23.08% เห็นด้วยน้อย 7.69% นโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมการทากิจกรรมร่วมกันของเยาวชนช่วยลด
ปัญหาการทะเลาะวิวาท เห็นด้วยมาก 30.78% เห็นด้วยปานกลาง 56.62% เห็นด้วยน้อย 13.08% การรู้จักให้อภัย
ซึ่งกันและกันช่วยลดการเกิดปัญหาการทะเลาะวิวาท เห็นด้วยมาก 80.77% เห็นด้วยปานกลาง 14.62% เห็นด้วย
น้อย 4.61%