More Related Content
Similar to เรื่องปัญหาน้ำท่วม (20)
เรื่องปัญหาน้ำท่วม
- 3. กิตติกรรมประกาศ
งานนาเสนอวิชา Is เรื่องปัญหาน้าท่วมสาเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาและความช่วยเหลืออย่างสูงยิ่ง
จาก อาจารย์ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม อาจารย์ที่ปรึกษาประจาวิชา ที่ได้กรุณาให้คาปรึกษาแนะนา และตรวจสอบ
แก้ไข ข้อพกพร่องทุกขั้นตอนของการจัดทาโครงงาน
คณะผู้จัดทาโครงงานขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงขอขอบพระคุณ บิดา มารดา เพื่อนนักเรียน ตลอดจนผู้ที่
เกี่ยวข้องทุกท่านที่ไม่ได้กล่าวนามไว้ณ ที่นี้ ที่ได้ให้กาลังใจและมีส่วนช่วยเหลือให้โครงงานฉบับนี้สาเร็จ
ลุล่วงได้ด้วยดีท้ายที่สุด คณะผู้จัดทาโครงงานหวังว่าโครงงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจไม่มากก็
น้อย
คณะผู้จัดทา
- 4. สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทที่1 ปัญหาน้าท่วม 1
-วิธีการไม่ให้น้าท่วม 2
-หลักการป้องกัน 3
บทที่2 สาเหตุและแหล่งที่มา 4
-สาเหตุ 5
-แหล่งที่มา 6
บทที่3 ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขและเยียวยาปัญหาน้าท่วมอย่างยั่งยืน 7
-แนวทางการแก้ไข 8
-การเยียวยาปัญหาน้าท่วม 9
บทที่4 วิธีปฏิบัติตนก่อนและหลังการเกิดอุทกภัยน้าท่วม 10
-การรับรู้ข่าวสาร 11
-หลังการเกิดอุทกภัยน้าท่วม 12
บทที่5 การแก้ไขปัญหาน้าท่วม 13
-การสร้างเขื่อน 14
-การปรับปรุงและตกแต่งสภาพลาน้า 15
-ภาคผนวก 16
-บรรณนานุกรม 17
- 6. วิธีการไม่ให้น้าท่วม
การอนุรักษ์ป่ าบริเวณต้นน้าลาธาร ควบคุมป่าไม่ให้ถูกทาลาย การปลูกป่าใหม่ การปลูกสร้างสวนป่า จัดสรรพื้นที่ทา
การเกษตร ทาทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และคัดเลือกพันธุ์พืช เช่น ปลูกหญ้าแฝกเพื่อชะลอการไหลของน้า
สร้างเขื่อน (Dams) คือ สิ่งก่อสร้างที่กั้นแม่น้า เพื่อควบคุมการไหลของน้าจากที่สูงมายังที่ต่า ให้น้าไหลช้าลงจะได้ไม่
เกิดอุทกภัยในที่ต่า ทาฝาย ทานบคันดินฯ
การผันทางน้าให้ไหลจากทางน้าใหญ่ ไปเข้าร่องน้าทางน้าแยกหรือคลองส่งน้า เพื่อแบ่งน้าจากทางน้าใหญ่ หรือผันน้า
จากทางน้าใหญ่ ที่จะทาให้เมืองใหญ่เกิดน้าท่วมซึ่งจะเสียหายมาก ไปเข้าท่วมทุ่งนาเพื่อพักน้าชั่วคราว
ขยายทางน้าที่ไหลอยู่ให้กว้างออก คือ การปรับปรุงทางน้าไหลให้กว้างออก ทาให้น้าปริมาณมากไหลได้เร็วขึ้น น้าจะ
ไม่เอ่อล้นตลิ่ง โดย การเคลื่อนย้ายวัตถุที่มาปิดกั้นทางน้าไหลออกไป เช่น เศษไม้ กอสวะ สิ่งก่อสร้าง สิ่งปลูกสร้างที่รุกล้าคู
คลองไม่ให้กีดขวางทางน้าเพราะจะช่วยให้การไหลของน้ารวดเร็ว
สร้างอ่างเก็บน้าขึ้นในเขตใกล้แม่น้า (Detention Storage) คือ การผันทางน้าจากแม่น้าให้ไหลลงสู่อ่างเก็บน้าและ
ค่อยๆ ระบายออกเป็นระยะๆ จะทาให้ที่ราบสองข้างฝั่งไม่เกิดน้า
หลักการป้องกัน
การป้องกันปัญหาน้าท่วม คือสภาพที่มีน้านองขึ้นมาบนผิวดินเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดความยากลาบากในการสัญจร
การอยู่อาศัย หรือ ทาให้พื้นที่ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติเมื่อเกิดน้าท่วมขังขื้นในพื้นที่ก็แสดงว่าน้าฝนไม่สามารถระบาย
ออกจากพื้นที่ได้ทันท่วงที เราสามารถป้องกันการเกิดปัญหานี้ได้โดยการออกแบบสภาพทางกายภาพให้เอื้ออานวยต่อการ
ระบายน้าดีออกจากพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาดังกล่าว ทางภูมิสถาปัตยกรรมจะประเด็นหลักอยู่ 2
ประการคือ การวางระบบระบายน้าผิวดิน และการขุดบ่อพักน้า
- 7. บทที่2
สาเหตุและแหล่งที่มา
สาเหตุของการเกิดอุทกภัยน้าท่วม สาเหตุของการเกิดอุทกภัย นั้นสามารถแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1) สาเหตุจากธรรมชาติ ได้แก่ ฝนตกหนัก น้าท่าล้นตลิ่ง และอิทธิพลน้าทะเลหนุน
- ฝนตกหนัก การเกิดอุทกภัยโดยทั่วไปมีสาเหตุสาคัญมาจากปริมาณฝนตกหนักมากเกินความสามารถใน
การระบาย
1) สาเหตุจากธรรมชาติ ได้แก่ ฝนตกหนัก น้าท่าล้นตลิ่ง และอิทธิพลน้าทะเลหนุน
- ฝนตกหนัก การเกิดอุทกภัยโดยทั่วไปมีสาเหตุสาคัญมาจากปริมาณฝนตกหนักมากเกินความสามารถใน
การระบาย
- ฝนตกหนัก การเกิดอุทกภัยโดยทั่วไปมีสาเหตุสาคัญมาจากปริมาณฝนตกหนักมากเกินความสามารถใน
การระบาย
2) สาเหตุจากการกระทาของมนุษย์ได้แก่การตัดไม้ทาลายป่า การพัฒนาชุมชนการทาลายคันป้องกันน้าท่วม
และ การสูบน้าบาดาล
1.การตัดไม้ทาลายป่า ทาให้ปริมาณน้าฝนไม่สามารถดูดซึมโดยลาต้น ใบ และรากได้ สาหรับบริเวณที่โล่ง
การไหลบ่าของน้าผิวดินเร็วขึ้นเพราะไม่มีต้นไม้คอยชลอน้า ซึ่งทาให้อัตราการไหลสูงสุดของน้าสูงขึ้น
นอกจากนี้ฝนยังมีโอกาสที่จะชะเอาหน้าดินไปด้วย ซึ่งจะทาให้ความขุ่นของน้าและตะกอนที่มากับน้ามีมาก
ขึ้นตามไปด้วย
2.การพัฒนาชุมชน พื้นที่ชุมชนเมืองส่วนใหญ่จะมีผิวพื้นที่น้าฝนซึมผ่านได้ยาก ทาให้น้าฝนไหลไปสู่คลอง
ระบายมากขึ้น ต่างกับพื้นที่ชนบทที่ฝนสามารถไหลซึมลงไปใต้ดินได้รวมทั้งการพัฒนาชุมชนที่ไม่ถูกหลัก
วิชาทาให้ประสิทธิภาพการระบายน้าเลวลง โดยการกีดขวางทางไหลของน้า ทาให้ไม่สามารถระบายน้าออก
นอกพื้นที่ชุมชนได้ก่อให้เกิดสภาพน้าท่วมขัง นอกจากนั้นในพื้นที่ชุมชนส่วนใหญ่มักจะมีการสร้าง
บ้านเรือนอยู่ริมคลองซึ่งเป็นการก่อสร้างบ้านเรือนรุกล้าลาน้าสาธารณะ ทาให้ขนาดของลาน้าแคบลง แล้ว
ยังมีการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงลาน้าทาให้ลาน้าตื้นเขินอีกด้วย
3.การทาลายคันป้องกันน้าท่วรราษฎรที่อาศัยอยู่นอกคันป้องกันน้าท่วมมักจุทาลายคันป้องกันน้าท่วม ทาให้
ปริมาณน้าหลากทะลักเข้าไปในพื้นที่ชุมชน ถึงแม้ว่าหน่ายราชการที่เกี่ยวข้องจะทาหน้าที่ดูแลรักษาคัน
ป้องกันก็ตาม
4.การสูบน้าบาดาล เป็นเหตุให้แผ่นดินทรุดตัวทาให้ระดับน้าท่วมเพิ่มมากขึ้นและเวลาที่น้าท่วมยาวนานขึ้น
ซึ่งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้พยายามที่จะจากัดการสูบน้าบาดาล
- 10. บทที่5
การแก้ไขปัญหาน้าท่วม
1.การแก้ปัญหาที่สะสมมาตั้งแต่อดีตและดารงอยู่ในปัจจุบัน
ไม่ ว่าจะเป็นการสร้างบ้านเรือน การขยายตัวของชุมชนที่อยู่ริมแม่น้าสายสาคัญๆที่ในระยะหลังไม่ได้ปลูก
บ้านมี ใต้ถุนสูงเลยระดับน้าหลาก แต่ไปนิยมชมชอบรูปแบบบ้านแบบยุโรปหรือตะวันตกโดยมิได้ตระหนัก
ถึงปัญหาที่จะ ตามมาเมื่อมีการหลากล้นตลิ่ง หรือการถมที่สร้างบ้านจัดสรรหรือขยายเมืองไปในทิศ ทางที่
เป็นที่ต่าหรือที่ลุ่มซึ่งเป็นจุดอ่อนที่จะถูกน้าท่วมได้ง่ายเมื่อ เกิดฝนตกเนื่องจากประสิทธิภาพการระบายน้าไม่
ดีพอจะต้องใช้มาตรการต่างๆ
2.การป้องกันปัญหาที่เกิดจากปัจจัยภายนอกคือน้าที่จะหลากเข้าท่วมโดยใช้ มาตรการปิดล้อมพื้นที่หรือ
ชุมชนที่ไม่ต้องการให้ถูกน้าท่วมโดยการก่อสร้าง ระบบป้องกันน้าท่วมโดยรอบ ได้แก่ การก่อสร้างคันกั้น
น้าตามแนวลาน้าหรือใกล้เคียง การยกระดับของถนนบางสายให้สูงกว่าระดับน้าหลากสูงสุด รวมถึงการ
ก่อสร้างประตูน้าตามคู คลองต่างๆ
3.ให้มีการก่อสร้างแนวคันดินกั้นน้าที่มีความสูงเหนือระดับน้าหลากสูงสุดตามแนวเขตพื้นที่ควบคุมที่
ประกาศเพื่อป้องกันน้ามิให้น้าหลากท่วมพื้นที่ภายนอก
4.รณรงค์ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกวดขันเพื่อให้มาตรการสัมฤทธ์ผลแบบยั่งยืนแทนการไล่
ตามแก้ปัญหาดินพอกหางหมูแบบไม่รู้จบ
5.1การสร้างเขื่อน
ใช้ในการเก็บกักน้าและป้องกันอุทกภัยรวมถึงผลิตกระแสไฟฟ้า ส่วนบนของเขื่อนจะประกอบไปด้วยส่วน
ที่เรียกว่าทางน้าล้น สาหรับให้น้าที่สูงกว่าระดับที่ต้องการไหลผ่านมาที่ฝั่งปลายน้า มากกว่าครึ่งหนึ่งของ
แม่น้าสายหลักทั่วโลกจะมีเขื่อนกั้นไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในทางใดทางหนึ่ง
เพื่อกักเก็บน้า โดยเก็บน้าจากช่วงฤดูน้าหลากและปล่อยน้าใช้ในการเกษตรกรรม อุปโภคบริโภคในช่วงขาด
แคลนน้า เขื่อนยังคงใช้สาหรับป้องกันน้าท่วมฉับพลันในฤดูที่น้าไหลหลากอีกทางหนึ่ง โดยเขื่อนจะทา
หน้าที่ชะลอความเร็วของน้า ให้น้าไหลผ่านได้เฉพาะตามปริมาณที่เหมาะสม ในปัจจุบันเขื่อนมีหน้าที่หลัก
อีกด้านคือการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยพลังงานไฟฟ้าส่วนหนึ่งในประเทศไทยมาจากการปั่นไฟจากเขื่อน