More Related Content
Similar to พื้นฐานชีวิต 3.pptx (13)
More from SunnyStrong (20)
พื้นฐานชีวิต 3.pptx
- 2. สารบัญ
ที่มาของโหราศาสตร ์จีน 中国占卜学 23
วิธีพยากรณ์ของโหราศาสตร์จีน 30
ฤดูกาลและสีสันทั้งสี่ 36
ฤดูกาลทั้ง 5 ของจีน 54
ปฏิกิริยาธาตุ 5 กับวงจรการก่อเกิดฤดูกาล
ทั้ง 4
63
อักษรภาพจีน 70
ทฤษฏีปัญจธาตุ 83
12ราศีล่าง (地支) 96
- 8. ๒. พลังงานจลน์ (Kinetic Energy)
เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่
เช่น รถที่กาลังวิ่ง ธนูที่พุ่งออกจากแหล่ง
จักรยานที่กาลังเคลื่อนที่ เป็นต ้น
- 9. ๓. พลังงานสะสม (Stored Energy)
เป็นพลังงานที่เก็บสะสมในวัสดุหรือสิ่งของต่างๆ
เช่น พลังงานเคมีที่เก็บสะสมไว ้ในอาหาร
ในก ้อนถ่านหิน น้ามัน หรือไม ้ฟืน
ซึ่งพลังงานดังกล่าว
จะถูกเก็บไว ้ในรูปขององค์ประกอบทางเคมีหรือของ
วัสดุหรือ สิ่งของนั้น ๆ
และจะถูกปล่อยออกมา
เมื่อวัสดุหรือสิ่งของดังกล่าวมีการเปลี่ยนรูป
เช่น การเผาไม ้ฟืนจะให ้พลังงานความร ้อน
- 12. พลังงาน หมวด นักษัตรจีน นักษัตรไทย
ศักย์ ความรัก,ของสวยงาม (แม่
ธาตุ)
子 午 卯 酉 ชวด มะเมีย เถาะ ระกา
จลน์ อานาจ (พาหะ) 寅 申 巳 亥 ขาล วอก มะเส็ง กุน
สะสม เงินทอง (คลังขุมทรัพย์) 辰 戌 丑 未 มะโรง จอ ฉลู มะแม
- 23. ที่มาของโหราศาสตร ์จีน 中国占
卜学
• วิชาที่ว่าด ้วยการคานวณดวงชาตาของจีน
หรือโหราศาสตร์ของจีนนั้น
สมัยโบราณเรียกว่าวิชา เซวียนเสวี๋ย (玄学)
สมัยใหม่นี้ก็คือ วิชาพยากรณ์ศาสตร ์นั่นเอง
• https://bit.ly/3zrljm1
- 26. • และการศึกษาค ้นคว ้า
หารูปแบบและกฏเกณฑ์ที่เป็นรูปธรรมของจักรวาล
ที่สัมพันธ์กับทุกสรรพสิ่ง
โดยฉพาะได ้ผ่านการค ้นคว ้าและบันทึกสถิติ
จากนักปราชญ์ชาวจีนมาตลอดทุกยุคสมัย
จนกระทั่งได ้ตกผลึกเป็นภูมิปัญญาทางวิชาการ
โหราศาสตร์จีนอันยิ่งใหญ่
จวบจนถึงปัจจุบัน
- 33. • ส่วนไท่จี๋ (ไท ้เก็ก) ปากว ้า (โป๊ ยข่วย) หยินหยาง
เทียนกาน ตี้จือ (แผนภูมิฟ้าดิน) โหวงเฮ ้ง (ธาตุทั้ง5)
การเกิดและการทาลาย(เซิงเค่อ)
และเทวะวิทยา เทพเจ ้า ต่างๆ
ซึ่งต่างก็มีความหมายและรูปแบบแตกต่างกันในการ
พยากรณ์
และก็เป็นตัวแทนของความหมายต่างๆที่ซ่อนอยู่
(รหัส)
ซึ่งความหมายต่างๆเหล่านี้ เราเรียกว่า“象” “เซี่ยง”
(ลักษณะ)
• https://bit.ly/3zrljm1
- 34. ตัวอย่างเช่น ตัวอักษร “乾เฉียน”
• ในวิชา ปา กว้า หรือ โป๊ ยข่วย
ซึ่งสามารถอธิบายได ้ทุกสรรพสิ่ง
ก็จะมีลักษณะบ่งบอกความหมายในเชิงรูปลักษณ์
แทนคาว่า แข็งแรง,การเคลื่อนไหว,เงินทอง,โลหะ,
ความร่ารวย,ผู้ดี,หรือผู้นา เป็นต ้น
- 39. • ภาพด ้านบนนี่คือภาพซ ้อน
พื้นหลังคือ ผังดาวฤกษ์ทั้ง 28 ดวง
และด ้านบนทับด ้วยภาพสัตว์ทั้งสี่
ครองกลุ่มละ 7 ดวงโดยประมาณ รวมได ้28 ดวง
จาง่ายๆก็คือ
• มังกรเขียว (บารมี) ประจาทิศตะวันออก สีเขียว ธาตุ
ไม ้ ฤดูใบไม ้ผลิ
• เสือขาว (อานาจ) ประจาทิศตะวันตก สีขาว ธาตุทอง
ฤดูใบไม ้ร่วง
- 40. • หงส์แดง (โชคลาภ) ทิศใต ้สีแดง ธาตุไฟ ฤดูร ้อน
จริงๆก็กระดากปากจะเรียก หงส์แดง
เพราะตัวหนังสือจีนแท ้ๆ
เค ้าเขียนว่า จูเชว่ คือ กระจิบสีชาด หรือสีแดงเข ้ม
และไม่ใช่หงส์ ด ้วย
คนละนก แม ้ว่ารูปร่างจะคล ้ายออกทางหงส์มาก
แต่ยืนยันว่าเป็นนกคนละชนิด
• https://bit.ly/3OC2Kjo
- 41. • เต่าดา (มั่งคั่ง) ประจาทิศเหนือ สีดา ธาตุน้า ฤดู
หนาว
นี่ก็กระดากปากตัวที่สอง
เพราะภาษาจีนเขียนว่า เซวียนอู่
มันคือ เต่าบวกงู พ่วงด ้วยกัน
• https://bit.ly/3OC2Kjo
- 42. • ภาพด ้านล่าง
คงทาให ้มองเห็นภาพได ้ชัดขึ้น
ต ้องบอกก่อนว่า ผังนี้เป็ นผังฮวงจุ้ย หยางไจ๋ คือ บ้าน
คนเป็ น
ไม่ใช่ผังสุสานคนตายนะ
คนละแบบกัน
• https://bit.ly/3OC2Kjo
- 43. โดยที่เขายึดเอาหงส์แดง เป็นหน้า
บ ้าน
• เพราะคนจีนเชื่อว่า ไฟ คือ แสงสว่าง
คือความก ้าวหน้ารุ่งโรจน์
ไฟต ้องเป็นตัวหน้า ตัวขึ้นต ้น ตัวเจริญของสรรพสิ่ง
คนเรามีวิวัฒนาการขึ้น
ก็เพราะเราจุดไฟเป็ น ในยุคแต่บรรพกาลมา จริงไหม
- 44. • และพืชนี่เจริญด ้วยการสังเคราะห์แสง ก็คือ ดวง
อาทิตย์
ไฟจึงคือ แสงสว่างและความอบอุ่น
ดังนั้น ทิศที่เป็นไฟ ก็คือ ทิศใต ้
เนื่องจากว่า จีนนั้น เหนือหนาวใต้อุ่น
เพราะตั้งอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรครับ
- 45. สรุป ทิศใต ้หรือทิศหงส์แดงเลย
แทนหน้าบ ้าน
• แล้วก็กางแขนออก
ซ้ายคือมังกรเขียว ขวาก็คือ เสือขาว
ตรงตามทิศทางและสีสันข้างต้นทั้งหมดที่พูดไป
อย่าไปหันผิด
บางคนนี่ ยืนหน้าบ ้าน หันหน้าเข ้าบ ้าน แบบนี้เดี๋ยว
สับสน งงกันตาย
เสร็จยังไม่พอ
ก็เถียงกันสองผัวเมีย ว่า มังกรต ้องซ ้าย
อีกคนก็ มังกรต ้องขวา งงกันไปเรื่อยนะ
- 48. • ควักเอาเข็มทิศมาวัดทิศเลย
มังกรต ้องอยู่ตะวันออก ชัวร์ๆ
ไม่ก็ใจเย็นๆ
นั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้น ถ ้าไม่มีเข็มทิศนะ
• แต่ว่าบางสานัก เค ้าเอาหลักการง่ายๆ ก็ไม่วัดทิศครับ
เอาซ ้ายขวาหน้าหลังเอา ยึดที่ตัวบ ้าน
ไม่ต ้องตรงตะวันออกเป๊ ะๆ ก็บอกเป็นมังกร
แบบนี้ก็มี แล ้วแต่แต่ละสานัก อันนี้ไม่ก ้าวล่วง
- 49. • สอดคล ้องกับหลักการของจีนอีกอย่าง
คือ จั่ว หนาน อิ้ว หนวี่
แปลว่า ซ้ายชาย ขวาหญิง ครับ
มังกรเลยมาแทนเพศชาย
เค ้าเลยแต่งคาทานายออกมาไงว่า ต ้องเคลื่อนไหว
พลุกพล่าน
มีหัวคิด มีก ้าวหน้า เป็นทางบารมี
บารมีคืออะไรที่ดูเป็นรัศมีแผ่ออกไป กระเพื่อมไป
- 50. • ในขณะเดียวกัน สตรี ฝั่งขวาก็แทนเสือขาว คือ นิ่งๆ
แต่ก็ต ้องดูมีอานาจ มีพลังเยอะ
ทิศนี้เลยแทนอานาจ
- 51. หงส์แดง คือ ไฟ
• ทิศข ้างหน้าเป็นโชคลาภ
เป็นสิ่งดีๆที่เข ้ามา
เข ้ามาจากการรู้จักอะไรครับ
รู้จักการแสวงหา
เพราะไฟมีลักษณะลุกโชน พุ่งขึ้น
อันนี้ตาราจีนโบราณเขียนไว ้ ไม่ได ้พูดเองนะ
- 53. • พูดซะยืดยาว
ผมไม่ได ้บอกให ้เชื่อสานักที่แบ่งบ ้านแบบง่ายๆแบบนี้
นะ
เพียงแต่เราหาความรู้ไว ้ก็ไม่เสียหาย
เอาไว ้เพื่อประดับสมอง
เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให ้ชีวิต
• https://bit.ly/3OC2Kjo
- 54. ฤดูกาลทั้ง 5 ของจีน
• หลักอภิปรัชญา 5 ธาตุนี้
มีการอธิบายปรากฏการณ์ของปฏิกิริยาผ่านฤดูกาล
ต่างๆของจีน
ซึ่งตามที่เราเข ้าใจว่ามีเพียง 4ฤดูกาล
แต่ความเป็นจริงมี 5 ฤดูกาล
ซึ่งทฤษฎีนี้ถูกนามาใช ้มากที่สุด
โดยเฉพาะการแพทย์แผนจีน และโหราศาสตร์จีน
แขนงต่างๆ
เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ของพลังธาตุทั้ง 5
• https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-33-02/73-2010-01-16-14-52-47/1609-5-4-5-5.html
- 56. โดยฤดูกาลทั้ง 5 มีดังนี้
1. 木为春
ธาตุไม ้/ ฤดูใบไม ้ผลิ = (72 วัน)
เป็นระยะเวลาของการเจริญเติบโตและความมีชีวิตชีวา
พืชพันธุ์และสัตว์ต่างๆก็จะเริ่มเติบโตในช่วงนี้
ซึ่งเรียกว่า ฤดูใบไม ้ผลิ
เป็นผู้ควบคุมการก่อกาเนิด(春主生)
- 57. 2. 火为夏
ธาตุไฟ / ฤดูร ้อน = (72 วัน)
เป็นระยะเวลาของการผลิดอกออกผลที่เต็มไปด ้วย
พลังงาน (ไฟ )
ซึ่งเรียกว่า ฤดูร ้อน
เป็นผู้ควบคุมการเจริญเติบโต (夏主长)
- 58. 3. 土为季夏
ธาตุดิน/ฤดูร ้อนยาว = (72 วัน = 4 x 18
(4 ฤดูนับเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่าน x แต่ละฤดู 18วัน)
ในระหว่างระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านฤดูกาล
หรือเรียกว่า”ฉางเซี่ย长夏” หรือ 季夏
(Late Summer ปลายฤดูร ้อนหรือฤดูร ้อนช่วงยาว)
- เป็นระยะเวลาของที่เกี่ยวข ้องกับ
การปรับระดับและการรองรับ (การดูแลรักษา)
ผลผลิต
ซึ่งเรียกว่า ฤดูร ้อนยาว เป็นผู้ควบคุมการดูแลรักษา(季
夏主养)
- 60. 4. 金为秋
ธาตุทอง / ฤดูใบไม ้ร่วง = (72 วัน)
เป็นระยะเวลาของการเก็บเกี่ยวพืชพรรณ
ต ้นไม ้ก็จะผลิตเมล็ดพันธุ์ออกมาจากฤดูก่อนหน้า
และต ้นไม ้ต่างๆก็จะสลัดใบทิ้งไป เพื่อกักเก็บความชื้น
เอาไว ้
ซึ่งเรียกว่า ฤดูใบไม ้ร่วง
เป็นผู้ควบคุมการเก็บเกี่ยว/กักเก็บ(秋主收)
- 61. 5. 水为冬
ธาตุน้า / ฤดูหนาว = (72 วัน)
เป็นระยะเวลาของการพักผ่อนและการเก็บรักษา
ต ้นไม ้ต่างๆก็จะหยุดนิ่งไม่เจริญเติบโต
ซึ่งเรียกว่า ฤดูหนาว
เป็นผู้ควบคุมการเก็บซ่อน/เก็บรักษา(冬主藏)
- 63. ปฏิกิริยาธาตุ 5 กับวงจรการก่อ
เกิดฤดูกาลทั้ง 4
ในการก่อเกิดและขับเคลื่อนของวงจรปฏิกิริยา 5
ธาตุนี้
ถูกนามาอธิบายปรากฏการณ์ของการก่อเกิด
ผลัดเปลี่ยนและหมุนเวียนของฤดูกาลทั้ง 4
ซึ่งก่อให้เกิดความร้อน-เย็น, ความแห้ง-ความชื้น ,
กลางคืน-กลางวัน,
เวลาสั้น-ยาว ในฤดูกาลต่างๆที่แตกต่างกัน
- 65. • และก็จะเกิดปฏิกิริยา 5 ธาตุ
ซึ่งมีทั้งในด ้านจุดสูงสุดและต่าสุดในขณะเดียวกัน
ซึ่งเป็นหลักการที่ก่อให ้เกิดพลังยิ่งใหญ่ที่ไม่มีที่
สิ้นสุด (生杀大权)
โดยมี 6 ปฏิกิริยาย่อย
คือ 1.เข ้มแข็ง 2.อ่อนแอ 3.ร่วมกัน
4.หยุดพัก 5.กักเก็บ 6.สูญสลาย
(旺,衰,相,休,囚,死 )
- 66. 春ฤดูใบไม ้ผลิ ( เริ่มจากสารท ลี่
ชุน 立春 )
• ธาตุไม ้มีพลังสูงสุดและเป็นฤดูแห่งธาตุไม ้
ธาตุดินมีพลังต่าสุด เพราะถูกพิฆาตโดยธาตุไม ้
- 67. 夏ฤดูร ้อน (เริ่มจากสารท ลี่เซี่ย 立
夏)
• ธาตุไฟมีพลังสูงสุดและเป็นฤดูแห่งธาตุไฟ
ธาตุทองมีพลังต่าสุด เพราะถูกพิฆาตโดยธาตุไฟ
- 69. 冬ฤดูหนาว (เริ่มจากสารท ลี่ตง立
冬)
• ธาตุน้ามีพลังสูงสุดและเป็นฤดูแห่งธาตุน้า
ธาตุไฟมีพลังต่าสุด เพราะถูกพิฆาตโดยธาตุน้า
• https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-33-02/73-2010-01-16-14-52-47/1609-5-4-5-5.html
- 73. • ระบบแรกคือ “ระบบจู้อิน (注音)”
ซึ่งเป็นระบบที่มีการใช ้กันอย่างแพร่หลายที่ไต ้หวัน
อีกระบบหนึ่งคือ “ระบบพินอิน (拼音)”
เป็นระบบที่มีการใช ้กันอย่างแพร่หลายที่ประเทศจีน
- 80. ด ้วยเพราะจักรวาลทั้งหมดล ้วนถูก
ขับเคลื่อนด ้วยระบบของอินหยาง
นั่นเอง
• ปรัชญาอินหยาง สามารถอธิบายให ้จบได ้ด ้วยรูปภาพ
2.2
ในรูปนั้นมีลักษณะวงกลม วงกลมเป็นตัวแทนของ
เต๋า
ซึ่งหมายถึงสภาวะที่อยู่เหนืออินและหยาง คือไม่มี
การผันแปรเกิดดับ
และภายในเต๋าหรือวงกลมนั้นจะเห็นรูปที่มีลักษณะ
คล ้ายปลาสองตัว
โดยสีขาวเป็นตัวแทนของหยาง สีดาเป็นตัวแทนของ
อิน
ส่วนที่มีพื้นที่สีขาวมากสุด หมายถึงมีความเป็ นห
ยางมากที่สุด
- 81. • เมื่อเข ้าใจความหมายของภาพดังนี้แล ้วก็จะรู้ได ้ว่า
เมื่อหยางมากสุด อินย่อมต้องน้อยที่สุด
เมื่ออินน้อยสุด หยางย่อมต้องมากที่สุด
และในระหว่างที่หยางค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงนั้น
อินก็จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็ นเงาตามตัว
ตราบกระทั่งหยางเหลือน้อยที่สุดนั้น
ก็เป็ นเวลาที่อินมีพลานุภาพมากที่สุดนั่นเอง
- 82. นอกจากนี้ ในพื้นที่สีขาวยังมีจุด
เล็ก ๆ ที่เป็นสีดา
ส่วนในพื้นที่สีดาก็ยังมีจุดเล็ก ๆ ที่
เป็นสีขาว
• ตรงนี้หมายความว่า ในหยาง มีอินดารงอยู่
ขณะเดียวกัน ในอิน ก็ย่อมมีหยางดารงอยู่
สองสิ่งไม่สามารถแยกขาดออกจากกัน
ไม่สามารถดารงอยู่อย่างโดดเดี่ยวในธรรมชาติ
เพราะสองสิ่งคือสิ่งที่เกื้อหนุน
ให้เกิดการขับเคลื่อนเป็ นพลวัตไม่รู ้จักจบสิ้นนั่นเอง
• https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-33-02/73-2010-01-16-14-52-47/1609-5-4-5-5.html
- 85. • ธาตุไม ้(木) มีลักษณะพิเศษ คือ เกิดใหม่ได ้
เจริญเติบโตได ้ และอ่อนนุ่ม
ได ้แก่ ตับ ถุงน้าดี
ธาตุไฟ(火) มีลักษณะพิเศษ คือ ร ้อน ได ้แก่ หัวใจ
ลาไส ้เล็ก
ธาตุดิน(土) มีลักษณะพิเศษ คือ ให ้กาเนิดแก่สรรพสิ่ง
ได ้แก่ ม ้าม กระเพาะอาหาร
ธาตุโลหะ(金) มีลักษณะพิเศษ คือ สะอาด บริสุทธ์
แข็ง
และมีความสามารถในการดูดซับ ได ้แก่ ปอด ลาไส ้
ใหญ่
ธาตุน้า(水) มีลักษณะพิเศษ คือ ทาให ้เกิดความชื้น
ชื้น ไหลลงสู่ที่ต่า
- 86. • นอกจากธาตุทั้งห ้าจะมีอยู่ในอวัยวะของร่างกายแล ้ว
ยังมีอยู่ในทวาร ต่างๆ เนื้อเยื่อ เสียง อารมณ์ สี กลิ่น
รส
และสิ่งแวดล ้อม ได ้แก่ ฤดูกาล อากาศและทิศทาง
เป็นต ้น
• ธาตุทั้งห ้าจะมีความสัมพันธ์ต่อกันใน 2 ลักษณะ
คือ การสร ้าง (生) และการข่ม (克)
- 87. • การสร ้าง (生) หมาย ถึงการหนุนเนื่องให ้มีการเกิด
และการพัฒนา
ธาตุที่เป็นตัวสร ้าง ถือเป็น ธาตุ “แม่ (母)”
ส่วนธาตุที่ถูกสร ้าง ถือว่าเป็นธาตุ “ลูก(子)”
- 89. • ตัวอย่างเช่น น้า สร ้างไม ้น้าจึงเป็นแม่ของไม ้และไม ้
เป็นลูกของน้า
ไม ้สร ้างไฟ ไม ้จึงเป็นแม่ของไฟและไฟเป็นลูกของ
ไม ้ ดังนี้
ไม ้สร ้าง ไฟ 木生火—— ( ตับ เป็นที่เก็บสะสมเลือด
ส่งไปเลี้ยงที่ หัวใจ )
ไฟ สร ้าง ดิน 火生土—— ( หัวใจ ช่วยสูบฉีดเลือดไป
เลี้ยงที่ ม ้าม )
ดิน สร ้าง ทอง 土生金—— ( ม ้าม ทาหน้าที่สร ้าง
เลือดและลมปราณไปหล่อเลี้ยง ปอด )
ทอง สร ้าง น้า 金生水—— ( ปอด มีลมปราณจาก
ปอดกระจายลงไปช่วยการทางานของ ไต )
น้า สร ้าง ไม ้水生木—— ( ไต มีสารจาเป็นที่สะสมอยู่
- 90. การข่ม (克) หมายถึงการคุม หรือ
กดกันไว ้
ซึ่งมีลักษณะดังนี้
• ไม ้ข่ม ดิน 木克土—— ( ลมปราณ ตับ มักแผ่ซ่าน
สามารถกระจายลมปราณ ม ้าม ที่ติดขัดได ้)
ดิน ข่ม น้า 土克水—— ( ม ้าม ดูดซึมอาหารและน้า
ป้องกันน้าของ ไต ไม่ให ้สะสมมากเกินไป)
น้า ข่ม ไฟ 水克火—— ( น้าจาก ไต ขึ้นไปควบคุม
หัวใจ ไม่ให ้ร ้อนแรงเกินไป )
ไฟ ข่ม ทอง 火克金—— ( ไฟหยางของ หัวใจ
สามารถควบคุมไม่ให ้ลมปราณจาก ปอด กระจายลง
มากเกินไป )
ทอง ข่ม ไม ้金克木—— ( ลมปราณจาก ปอด
กระจายลง ป้องกันหยางของ ตับ ไม่ให ้เพิ่มมาก
เกินไป )
- 95. การข่มกลับ(侮)
• หมาย ถึง ปรากฏการณ์ที่ธาตุหนึ่งเคยเป็นฝ่ ายถูกข่ม
แต่กลับมีความแกร่งมากขึ้น มากจนสามารถข่มกลับ
ธาตุเดิมได ้
เช่น ปกติธาตุทองข่มธาตุไม ้และธาตุไม ้ข่มธาตุดิน
หากมีภาวะใดที่ธาตุไม้แกร่งขึ้นมาก
จะมีการข่มเกินต่อธาตุ ดิน และสามารถที่จะข่ม
กลับธาตุทองได้
การข่มเกินและข่มกลับมีกฏเกณฑ์แน่นอน
ธาตุที่สามารถข่มเกินธาตุอื่นได ้ต ้องแกร่งกว่า
ส่วนธาตุที่ถูกข่มกลับ ต ้องเป็นธาตุที่พร่อง
- 96. 12ราศีล่าง (地支)
• ราศีล่าง เป็นการเปลี่ยนแปลง เคลื่อนไหวของดินฟ้า
อากาศ
เกิดจากการจดบันทึกสถิติ
จัดทาเป็นปฏิทินกาหนดวันสารท และฤดูกาลต่าง ๆ
เพื่อให ้คนจีนสมัยก่อนทาการเกษตร
- 102. ราศีล่างเป็นพลังงานภาคดิน (地支
ตี่ จี)
• เป็นส่วนประกอบของแผนภูมิสวรรค์ (六十甲子 หลัก
จับกะจื้อ)
ที่จับคู่พลังงานราศีฟ้า 天干 และราศีล่าง
เรียงกันไปตามลาดับจนครบ 60 คู่และวนกลับมาใหม่
เพื่อบอกวันเวลาในปฏิทินจีน
- 108. ราศีล่าง เป็ นฐานของดวงชะตา
• ที่บอกเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ
อุปนิสัยใจคอที่ซ่อนอยู่ภายใน
พฤติกรรมที่แสดงออก บุคคลรอบตัว
ความยากดี มีจน เกียรติยศชื่อเสียง
โดยใช้ฐานเดือนเป็ นตัวตั้งต้น ในการพยากรณ์
- 111. ราศีล่างหลักปี 年柱
• จะใช ้แทนนักษัตร 十二生肖
เช่น ปีขาลแทนด ้วยไม ้寅
โดยยึดหลักพลังของ 28 ดวงดาวที่โคจรอยู่รอบโลก
มีการเปลี่ยนแปลงพลัง ที่แตกต่างกันในแต่ละปี
ตามปฏิทินจีนกะจื้อ (1 รอบมี 60 ปี)
- 115. - เดือนมะเส็ง 巳(丙庚戊) ไฟจี๋ (ฤดูร ้อน)
ราวต ้นเดือนพฤษภาคม
- เดือนมะเมีย 午(丁己) ไฟโง่ว
ราวต ้นเดือนมิถุนายน
- เดือนมะแม 未(己丁乙) ดินบี่
ราวต ้นเดือนกรกฏาคม
- 116. - เดือนวอก 申(庚壬戊) ทองซิม(ฤดูใบไม ้ร่วง)
ราวต ้นเดือนสิงหาคม
- เดือนระกา 酉(辛) ทองอิ้ว
ราวต ้นเดือนกันยายน
- เดือนจอ 戌(戊辛丁) ดินสุก
ราวต ้นเดือนตุลาคม
- 117. - เดือนกุน 亥(壬甲) น้าไห (ฤดูหนาว)
ราวต ้นเดือนพฤศจิกายน
- เดือนชวด 子(癸) น้าจื้อ
ราวต ้นเดือนธันวาคม
- เดือนฉลู 丑(己癸辛) ดินทิ่ว
ราวต ้นเดือนมกราคม
- 122. • ยามฉลู 丑 ดินทิ่ว 1.00-02.59น.
• ยามขาล 寅 ไม ้เอี้ยง 3.00-04.59น.
• ยามเถาะ 卯 ไม ้เบ ้า 5.00-06.59น.
• ยามมะโรง 辰 ดินซิ้ง 7.00-08.59น.
- 123. • ยามมะเส็ง 巳 ไฟจี๋ 9.00-10.59น.
• ยามมะเมีย 午 ไฟโง่ว 11.00-12.59น.
• ยามมะแม 未 ดินบี่ 13.00-14.59น.
• ยามวอก 申 ทองซิม 15.00-16.59น.
• ยามระกา 酉 ทองอิ้ว 17.00-18.59น.
• ยามจอ 戌 ดินสุก 19.00-20.59น.
• ยามกุน 亥 น้าไห 21.00-22.59น.
• https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/2224852897764296/?_rdr