More Related Content
Similar to ประเพณ ผีตาโขน Is ทั้งงหมด ม.3/1 เลขที่ 8,13,36 (แก้)
Similar to ประเพณ ผีตาโขน Is ทั้งงหมด ม.3/1 เลขที่ 8,13,36 (แก้) (20)
ประเพณ ผีตาโขน Is ทั้งงหมด ม.3/1 เลขที่ 8,13,36 (แก้)
- 1. เรื่อง ประเพณีผีตาโขน
คณะผู้จัดทา
เด็กหญิง พลอยณิชชา สุพัชรธนาวัฒน์ เลขที่ 8
เด็กหญิงชนิตาภรณ์กงสะเด็น เลขที่13
เด็กหญิงทรรศนีย์ทาขันทา เลขที่36
เสนอ
คุณครู อุไรทองดี
เอกสารเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการสื่อสารและการนาเสนอ (IS2)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
โรงเรียนชุมแพศึกษา อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามะยมศึกษา เขต 25
กระทรวงศึกษาธิการ
- 2. ชื่อเรื่องการศึกษาค้นคว้า เรื่องประเพณีผีตาโขน
ชื่อผู้ศึกษาค้นคว้า ด.ญ. พลอยณิชชา สุพัชรธนาวัฒน์
ด.ญ. ชนิตาภรณ์ กงสะเด็น
ด.ญ. ทรรศนีย์ ทาขันทา
ชื่อคุณครูที่ปรึกษาการศึกษาค้นคว้า คุณครูอุไร ทองดี
ระดับชั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียน โรงเรียนชุมแพศึกษา
ปีการศึกษาที่ศึกษาค้นคว้า ปีการศึกษา 2556
บทคัดย่อ
การศึกษา เรื่อง ประเพณีผีตาโขน ในรายวิชา การศึกษาและสร้างองค์ความรู้ (IS1)
และได้รวบรวมข้อมูลและพร้อมนาเสนอในรายวิชา เพื่อการสื่อสารและการนาเสนอ (IS2)
คณะผู้จัดทาไดศึกษาค้นคว้าข้อมูล
มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับประเพณีผีตาโขน
ทาให้ผู้ที่สนใจและต้องการศึกษาเกี่ยวกับประเพณีผีตาโขนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
เป็นการนาเสนอสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กับชาวต่างชาติ
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสืบสานประเพณีผีตาโขนให้คนรุ่นหลัง
สามารถนาความรู้มาพัฒนาและปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้
- 3. กิตติกรรมประกาศ
รายงานการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้(IS1) เรื่อง ประเพณีผีตาโขน
ได้รวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้นสมบูรณ์ พร้อมนาเสนอข้อมูลในการสื่อสารและนาเสนอ (IS2)
ในรูปแบบรายงานฉบับเสร็จสมบูรณ์
ซึ่งรายงานดังกล่าวได้เสร็จสมบูรณ์แล้วโดยได้รับความอนุเคราะห์จากบุคคลหลายท่าน
ซึ่งไม่อาจนามากล่าวได้ทั้งหมด ท่านแรกคือ คุณครู อุไร ทองดี ครูผู้สอนที่ได้ให้ความรู้
คาแนะนาตรวจทาน และแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ด้วยความเอาใจใส่ทุกขั้นตอน
เพื่อให้การเขียนรายงานการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์ที่สุดและนักเรียนห้อง
ม.2/1
ที่ช่วยในการสืบค้นข้อมูลแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดและให้กาลังใจในการศึกษาค้นคว้าตลอดมา
ขอขอบคุณคุณครูทุกท่านที่ได้ให้คาแนะนาในการจัดทารายงานการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ควา
มรู้ฉบับนี้จนสามารถนาความรู้ข้อมูลที่ได้ ไปนาเสนอในการสื่อสารและนาเสนอ(IS2)
ขอขอบพระคุณ นางนิศารัตน์ สุพัชรธนาวัฒน์
ที่อยู่เบื้องหลังความสาเร็จและได้ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน อีกทั้งให้กาลังใจตลอดมา
ด.ญ. พลอยณิชชา สุพัชรธนาวัฒน์
ด.ญ. ชนิตาภรณ์ กงสะเด็น
ด.ญ. ทรรศนีย์ ทาขันทา
- 4. สารบัญ
บทที่ หน้า
บทที่ 1 บทนา………………………………… ………………………….….…........1
วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า………………………………………….…2
สมมุติฐาน.................................................. ........................................................2
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า.............................................................................2
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ......................................................................... ........2
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง.............................................................................3
ประวัติและความเป็นมาของประเพณีผีตาโขน.....................................................3
รูปแบบประเพณีผีตาโขน.....................................................................................4
จุดเด่นของพิธีกรรม..............................................................................................4
ชนิดของผีตาโขน.................................................................................................5
การเดินทางไปชมเทศกาลผีตาโขน.......................................................................6
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อ..................................................................................................7
บทที่ 3วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า....................................................................................11
วัสดุ อุปกรณ์และโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา.....................................................11
วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า....................................................................................11
บทที่ 4 ผลการศึกษาค้นคว้า...............................................................................................12
ผลการศึกษาค้นคว้า............................................................................. ...............12
- 5. บทที่ 5 สรุปผล การดาเนินการศึกษา และข้อเสนอแนะ .....................................................14
การดาเนินการศึกษาค้นคว้า ..................................................................................14
วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า.........................................................................14
วัสดุ อุปกรณ์ และโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา......................................................14
สรุปผลการดาเนินการศึกษาค้นคว้า........................................................................15
ข้อเสนอแนะ ...........................................................................................................16
ข้อเสนอแนะทั่วไป..................................................................................................16
ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา............................................................16
บรรณานุกรม...........................................................................................................17
ภาคผนวก..................................................................................................................
การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1)
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา การสื่อสารและการนาเสนอ (IS2)
ภาพประกอบการทาการศึกษาค้นคว้า
- 6. บทที่ 1
บทนา
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
การศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัย เรื่อง ประเพณีผีตาโขน มีที่มาและความสาคัญดังนี้
ผีตาโขน เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในอาเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคอีสานของประเทศไทยเ
ป็นเทศกาลที่เกิดขึ้นในเดือน 7 ซึ่งมักจัดมากกว่าสามวันในบางช่วงระหว่าง เดือนมีนาคม
และกรกฎาคม โดยจัดขึ้นในวันที่ได้รับเลือกให้จัดขึ้นในแต่ละปีโดยคนทรงประจาเมือง
ซึ่งงานบุญประเพณีพื้นบ้านนี้มีชื่อเรียกว่า บุญหลวงโดยแบ่งออกเป็นเทศกาล
ผีตาโขน ประเพณีบุญบั้ไฟ และ
งานบุญหลวง
ผีตาโขน นั้น
เดิมมีชื่อเรียกว่า ผีตามคน เป็นเทศกาลที่ได้รับอิทธิพลมาจากมหาเวสสันดรชาดก ชาดกในทางพระ
พุทธศาสนา ที่ว่าถึงพระเวสสันดร และพระนางมัทรี จะเดินทางออกจากป่ากลับสู่เมืองหลวง
บรรดาสัตว์ป่ารวมถึงภูตผีที่อาศัยอยู่ในป่านั้น ได้ออกมาส่งเสด็จด้วยอาลัย
ซึ่งวันแรกจะเป็นเทศกาลผีตาโขน ซึ่งเรียกวันนี้ว่า วันรวม (วันโฮม)
โดยจะมีพิธีเบิกพระอุปคุตต์ ในบริเวณระหว่างลาน้าหมันกับลาน้าศอก
ส่วนวันที่สองของเทศกาลดังกล่าวจะมีพิธีจุดบั้งไฟบูชา พร้อมด้วยเครื่องแต่งกายที่หลากหลาย
รวมถึงการแข่งขันเต้นราตลอดจนขบวนพาเหรด
ส่วนในวันที่สามและวันสุดท้ายจะมีการให้ชาวบ้านฟังเทศน์ทั้งนี้
ผีตาโขนยังได้รับการนามาใช้เป็นสัญลักษณ์ และฉายาประจาทีม สโมสรฟุตบอลเลย ซิตี้ เช่นกัน
และประเพณียังคงมีความเชื่อกันว่า สาหรับคนที่เล่นหรือมีการแต่งตัวเป็นผีตาโขนใหญ่
ต้องถอดเครื่องแต่งกายผีตาโขนใหญ่ออกให้หมดและนาไปทิ้งในแม่น้าหมัน ห้ามนาเข้าบ้าน
เป็นการทิ้งความทุกข์ยากและสิ่งเลวร้ายไป และรอจนถึงปีหน้าจึงค่อยทาเล่นกันใหม่
- 9. เมื่อชาวเมืองไปพบเข้าจึงตกใจกลัวสัญชาตญาณผีก็อดที่จะแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกชาวบ้านไม่ได้ เมื่
อได้เวลาบรรดาผีป่าก็จะพากันออกนอกเมืองกลับคืนสู่ป่า พร้อม
ๆกับนาพาความโชคร้ายและทุกข์โศกโรคภัยทั้งปวงออกจากเมืองไปด้วย
1.1.ประเพณีแห่ผีตาโขน เป็นงานประเพณีเล็ก ๆที่เล่นกันอยู่ในขอบเขตอาเภอเล็ก ๆ
คืออาเภอด่านซ้ายจังหวัดเลย แต่ด้วยรูปแบบและเนื้อหาของงานที่เป็นเรื่องผี
ๆแต่เป็นผีน่ารักน่าสนุกจึงน่าสนใจยิ่งสาหรับมนุษย์ งานเล็กจากอาเภอเล็ก ๆงานนี้
สุดท้ายจึงก้าวออกไปเป็นงานประเพณีที่เชิดหน้าชูตาของภูมิภาคอีสานและกลายเป็นงานประเพณีร
ะดับชาติทุกปีจะมีชาวต่างประเทศจากทั่วโลกเดินทางไปเที่ยวชมงานผี
ๆงานนี้กันปีละไม่ใช่น้อยงานประเพณีแห่ผีตาโขนเป็นการรวมงานสาคัญของท้องถิ่นสามงานเข้าด้
วยกันคือ งานบุญผะเหวดหรือบุญพระเวส อันเป็นงานฉลองการฟังเทศน์มหาชาติ
งานแห่ผีตาโขนและงานบุญบั้งไฟ เข้าด้วยกัน
2.รูปแบบประเพณีผีตาโขน
งานประเพณีแห่ผีตาโขนผูกพันแนบแน่นกับองค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจาเมืองคือองค์พระ
ธาตุศรีสองรักษ์ที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นโดยพระมหาจักรพรรดิฝ่ายกรุงศรีอยุธยาและพระเจ้าไชยเชษฐา
ธิราชฝ่ายกรุงศรีสัตนาคนหุตเพื่อเป็นประจักษ์พยานถึงมิตรภาพระหว่างกัน
วงจรของประเพณีผีตาโขน
เริ่มต้นขึ้นโดยบุคคลศักดิ์สิทธิ์ประจาเมืองสองคนคือเจ้าพ่อกวนและเจ้าแม่นางเทียม
ที่มีฐานะเป็นดังผู้วิเศษหมอผีและครูใหญ่ของเมืองที่มีหน้าที่หลักในการดูแลองค์พระธาตุศรีสองรัก
พระธาตุคู่เมืองด่านซ้ายโดยเจ้าพ่อกวนและเจ้าแม่นางเทียมจะเป็นจุดเริ่มต้นวงจรของประเพณีนี้เริ่ม
ต้นจากพิธีบายศรีที่บ้านของเจ้าพ่อกวนและเจ้าแม่นางเทียมในภาคเช้าและระหว่างที่พิธีกรรมอันศัก
ดิ์สิทธิ์กาลังดาเนินอยู่นั่นเอง เด็ก
ๆในทุกบ้านเรืองของเมืองด่านซ้ายก็จะช่วยกันจัดหาเศษผ้ามาเย็บเป็นเสื้อผ้าของผีตาโขนหาอุปกร
ณ์คือหวดนึ่งข้าวเหนียวและแกนก้านมะพร้าวมาทาหน้ากากผีตาโขนด้วยการวาดลวดลายเพิ่มสีสันเ
ป็นผีตาโขนที่หน้าตาโหดร้ายน่ากลัว หา
- 10. "หมากกะแหล่ง"หรือกระดึงผูกคอวัวควายมาทาเป็นเครื่องประดับและที่สาคัญที่สุดที่ผีตาโขนหลาย
ตัวประณีตบรรจงประดิดประดอยเป็นที่สุดก็คืออาวุธของผีตาโขนเป็นดาบใหญ่ทาด้วยไม้มีทีเด็ดขอ
งดาบอยู่ที่ปลายด้ามดาบที่ทาเป็นรูปปลัดขิกอันโตทายอดกลม ๆเป็นสีแดงแจ๋ เอาไว้ไล่จิ้มสาว ๆ
ในเมืองโดยเฉพาะในภาคบ่ายจะเป็นพิธีการในฝ่ายราชการ เป็นการแห่ผีตาโขนโดยจัดรูปขบวนแห่
อันประกอบด้วยผีตาโขนใหญ่ที่ทาเป็นหุ่นใหญ่คล้ายหัวโตของภาคกลาง และผีตาโขนเล็ก เป็นเด็ก
ๆผู้ชายในเมืองเกือบทั้งหมดภาคค่าเป็นการชุมนุมกันฟังเทศน์มหาชาติของผู้เฒ่าผู้แก่และผู้ใหญ่ในเ
มือง
ส่วนในวันที่สองตั้งแต่เช้าเป็นการออกอาละวาดไปทั่วเมืองของชาวผีตาโขนและตกช่วงบ่า
ยจะเป็นพิธีจุดบั้งไฟขอฝน เป็นอันหมดสิ้นประเพณีแห่ผีตาโขนรวม 2 วันกับหนึ่งคืนด้วยกัน
3.จุดเด่นของพิธีกรรม
จุดเด่นที่สุดของงานนี้จะมีอยู่ด้วยกันสองช่วง
คือภาคบ่ายวันแรกอันเป็นขบวนแห่ผีตาโขนอันน่าสนุกสนานและสวยงามและวันที่สองช่วงสายที่ผี
ตาโขนจะออกอาละวาดไปทั่วเมือง จัดขึ้นที่อาเภอด่านซ้าย ในวันเสาร์-อาทิตย์ หลังวันขึ้น 15 ค่า
เดือน 6ของทุกปี หลังจากงานนมัสการพระธาตุศรีสองรักแล้ว
4.ชนิดของผีตาโขน
ผีตาโขนในขบวนแห่จะแยกเป็น 2 ชนิดคือ ผีตาโขนใหญ่และผีตาโขนเล็ก
- ผีตาโขนใหญ่ ทาเป็นหุ่นรูปผีทาจากไม้ไผ่สานมีขนาดใหญ่กว่าคนธรรมดาประมาณ 2
เท่าประดับตกแต่งรูปร่าง
- ผีตาโขนเล็ก ผีตาโขนเล็กเป็นการละเล่นของเด็ก ไม่ว่าเด็กเล็ก
เด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ทั้งผู้หญิงชาย มีสิทธิ์ทา และเข้าร่วมสนุก
ได้ทุกคนแต่ผู้หญิงไม่ค่อยเข้าร่วมเพราะเป็นการเล่นค่อนข้างผาดโผนและซุกซน
- 11. 5.การเดินทางไปชมเทศกาลผีตาโขน
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ถนนพหลโยธิน
(ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75
กิโลเมตรจะถึงตัวเมืองสระบุรีจากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16 กิโลเมตร
จากนั้นเลี้ยวขวาไปทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ( ทางหลวงหมายเลข 21 )
เมื่อเลี้ยวขวาแล้วขับตรงไปมุ่งหน้า อาเภอหล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 269.4
กิโลเมตรจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 203ขับตรงไปประมาณ55.8 กิโลเมตร
จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 2014 ขับตรงไปประมาณ 10.6 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวา
ไปทางอาเภอด่านซ้าย แล้วขับตรงไปประมาณ 800เมตร ทางด้านซ้ายมือ คือ งานผีตาโขน
รวมภาพบรรยากาศงานประเพณีแห่ผีตาโขน
- 12. 6.งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
กาญจนา สวนประดิษฐ์ “ความมุ่งหมายของการวิจัยนี้เพื่อศึกษาเกี่ยวกับ
ผีตาโขนในด้านประวัติความเป็นมา องค์ประกอบ
และวิธีการเล่นผีตาโขนตลอดจนศึกษาถึงคุณค่าของการเล่นผีตาโขนที่มีต่อสังคม
พบว่ามีการเล่นผีตาโขนกันมานาน
สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นพร้อมกันประเพณีบุญหลวงจุดมุ่งหมายของการเล่นคือการเล่นเพื่อถวาย
เจ้านาย นอกจากนั้นยังเล่นเพื่อขอฝัน ความสุนกสนาน
และเพื่อประกอบขบวนแห่พระเวสสันดรเข้าเมือง องค์ประกอบในการเล่นมี 4 อย่างคือ
ผู้เล่นผีตาโขน หน้ากากผีตาโขนอุปกรณ์การเล่น ได้แก่ดาบกับหมากกะแหล่ง
และขบวนเซิ้งการเล่นสะท้อนถึงโลกทรรศน์ของชาวอาเภอด่านซ้ายว่ามีคติความเชื่อแบบผสมผสา
นระหว่างศาสนาพุทธ ศาสนาพราหณ์ และภูติผีปีศาจตลอดจนอานาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
เป็นประเพณีที่ช่วยสร้างขวัญและกาลังใจให้แก่คนในสังคม ผู้เล่นได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน
เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดช่วยลดความกดดันและความขัดแย้งในสังคมได้
การเล่นมีส่วนช่วยรักษาบรรทัดฐานและสร้างเอกภาพในสังคมเพราะคนในสังคมมีความเชื่อในสิ่งเ
ดียวกัน
ทุกคนจึงตระหนักและสานึกในหน้าที่ของตนพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นั้นด้วยความเต็มใจและศรัทธ
- 17. 2. วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า
2.1 คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนาเสนอคุณครูที่ปรึกษาการค้นคว้า
2.2 ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ ว่ามีข้อมูลมากน้อยเพียงใด
มีมากพอที่จะนามาใช้ในการโครงงานได้หรือไม่ และเก็บข้อมูลรวบรวมไว้
2.3 ทบทวนเรื่องที่ศึกษาจากการเรียน IS1
2.4 จัดทาโครงร่างการเขียนรายงานวิชาการ
2.5 จัดทาโครงร่างรายงานต่อคุณครูที่ปรึกษาการค้นคว้าเพื่อจะพิจารณาอนุมัติ
2.6 ศึกษาวิธีการจัดทารายงานทางวิชาการเป็นรูปเล่ม
2.7 นาเสนอความก้าวหน้าเป็นระยะๆตามที่คุณครูที่ปรึกษาการค้นคว้ากาหนด
เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้า
2.8 ศึกษาวิธีการเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรม
2.9 จัดทาร่างรายงานทางวิชาการและเป็นรูปเล่ม
2.10 ตรวจสอบความถูกต้องของรายงานทางวิชาการ
2.11
นาเสนอร่างรายงานทางวิชาการเป็นรูปเล่มต่อคุณครูที่ปรึกษาการค้นคว้าเพื่อตรวจสอบความถูกต้อ
ง
2.12 จัดทารายงานเป็นรูปเล่มฉบับสมบูรณ์
2.13 จัดทา PPT นาเสนอในชั้นเรียน
2.14 เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะชนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น Social media online
(facebook)
- 18. บทที่ 4
ผลการศึกษา
การศึกษาเรื่อง ประเพณีผีตาโขน ในรายวิชา การศึกษาและสร้างองค์ความรู้(IS1)
และได้รวบรวมข้อมูลและพร้อมนาเสนอ ในรายวิชา การสื่อสารและการนาเสนอ(IS2)
คณะผู้จัดทาได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูล
มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการค้นคว้าหาความรู้และเป็นการเผยแพร่ประเพณีผีตาโขนอีกวิธีหนึ่ง
ซึ่งมีผลการดาเนินการศึกษา ดังนี้
- 19. 1. ผลการศึกษา (ผลตอบปัญหาประเด็นที่เราตั้งขึ้น ให้ตอบคาถาม)
ความเป็นมาของประเพณีผีตาโขน
ปราชญ์ท้องถิ่น
ครูภูมิปัญญาและนักการศึกษาหลายท่านที่ศึกษาวิจัยเรื่องราวของผีตาโขนในแง่มุมต่างๆ
ล้วนมีข้อสรุปตรงกันว่าประเพณีผีตาโขน เป็นการละเล่นที่เกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรม
เพื่อบวงสรวงบูชาติดต่อกับผู้ชมดูการละเล่น คือ วิญญาณผีบรรพชน ที่กลุ่มชนชาติพันธุ์ไท-ลาว
เชื่อถือร่วมกันว่าบรรพชน คือ ต้นตระกูลเผ่าพันธุ์ผู้ที่สร้างบ้านแปลงเมือง บรรพชนเมื่อตายเป็นผี
จึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่น่าเกรงขาม มีอานาจที่จะดลบันดาลให้ความอุดมสมบูรณ์
หรือความหายนะแก่บ้านเมืองได้ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
เพื่อความอุดมสมบูรณ์พูนสุขของบ้านเมือง เมื่อถึงงานบุญประเพณีสาคัญ ๆ ตามฮีตประเพณี
จึงจะต้องทาการละเล่นเต้นฟ้อนผีตาโขนเพื่อเซ่นสรวงบูชาให้เป็นที่ ถูกอกถูกใจแก่ผีบรรพชน
การละเล่นผีตาโขนจึงเป็นการละเล่นที่มีมาแต่โบราณ และผ่านการ
สืบทอดทางพิธีกรรมเป็นสายยาวจากรุ่นต่อรุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
ผีตาโขนจึงเป็นการละเล่นส่วนหนึ่งในงานบุญหลวงของอาเภอด่านซ้าย หรือเมืองด่านซ้ายในอดีต
นับเป็นการละเล่นที่นาพาให้เกิดความสนุกสนานและความบันเทิงเป็นหลัก
เช่นกันกับการเล่นทอดแห ขายยา และทั่งบั้ง
อันเป็นสีสันแห่งการเฉลิมฉลองในงานบุญหลวงและโดยเฉพาะในพิธีอันเชิญพระเวสสันดร
และนางมัทรีเข้าเมือง ตามฮีตเดือนสี่ (บุญเผวส) ของชาวอีสาน
ซึ่งชาวด่านซ้าย ได้รวมเอางานบุญฮีตเดือนสี่(บุญเผวส) ฮีตเดือนห้า (บุญสงกรานต์) ฮีตเดือนหก
(บุญบั้งไฟ) และ ฮีตเดือนเจ็ด (บุญซาฮะ) มาจัดขึ้นพร้อมกันในช่วงเดือนเจ็ดของทุกปี
ซึ่งมักจะอยู่ระหว่างปลายเดือนมิถุนายนถึงช่วงต้นเดือนกรกฏาคม ทั้งนี้เจ้าพ่อกวน
(ผู้นาทางจิตวิญญาณของท้องถิ่น)จะเป็นผู้กาหนดวันโดยผ่านพิธีการเข้าทรงล่วงหน้า คาว่า
ผีตาโขน ตามความเห็นของเจ้ากวน (ถาวร เชื้อบุญมี) น่าจะมาจากการที่บรรดาผีเหล่านั้น
สวมหน้ากากคล้ายลักษณะของโขนละคร แต่เดิมบางคนเรียกว่าผีตาขน
แต่ก็หาความหมายไม่ได้ชัดแจ้ง และจากคาบอกเล่าของเจ้าพ่อกวนในขณะเข้าทรงว่า
ผีตามคนมาในงานบุญพระเวส จึงเรียกผีตามคนต่อมาจึงเพี้ยนเป็นผีตาโขน
จากการศึกษาวิจัยเรื่องพัฒนาการประเพณีผีตาโขน ของ สนอง
อุปลาพบว่าประเพณีผีตาโขนเป็นการละเล่นที่เกิดจากความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณของผีบรรพชน
สืบสานมาจากการละเล่นปู่เยอ ย่าเยอของชาวหลวงพระบาง แต่เนื่องจากการละเล่น ผีตาโขน
อาเภอด่านซ้าย ต้องผ่านพ้นกับกาลเวลาอันยาวนาน และฟันฝ่ากับระบบการเมือง การปกครอง
- 21. การจัดทา IS เรื่อง ประเพณีผีตาโขน นี้สามารถสรุปผลการดาเนินการศึกษาค้นคว้า
และข้อเสนอแนะ ได้ดังนี้
1. การดาเนินงานการศึกษาค้นคว้า
1.1 วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า
1.1.1 เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติ ความเป็นมาของประเพณีผีตาโขน
1.1.2
เพื่อรู้ถึงความสาคัญของประเพณีผีตาโขนว่ามีความสาคัญต่อการดารงชีวิตหรือวิถีชีวิตของชาวบ้าน
อย่างไรบ้าง
1.1.3
เพื่อที่จะเผยแพร่ข้อมูลของประเพณีผีตาโขนให้ผู้ที่อย่างศึกษาเกี่ยวกับเรื่องประเพณีผีตาโขนได้รู้แล
ะได้เผยแพร่ต่อไป
1.2 วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้พัฒนา
1.2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
1.2.2 เว็บ ไซ ด์ที่ ค อ ยใ ห้ ข้อ มูล เกี่ยว กับ เรื่ อ ง ป ร ะ เพ ณี ผี ต าโ ข น เช่น
http://th.wikipedia.org/wiki/
http://allknowledges.tripod.com/phitakhon.html , http://www.paiduaykan.com/
1.2.3เว็บไซด์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น www.facebook.com , www.hotmail.com ,
www.google.co.th
1.2.4 โปรแกรมที่ใช้ในการนาเสนองาน คือ โปรแกรม Microsoft Word
- 22. 2.สรุปผลการดาเนินงาน
ผู้จัดทาได้เริ่มดาเนินงานตามขั้นตอนที่เสนอในบทที่ 3แล้วจึงสรุปได้ดังนี้
การศึกษาค้นคว้าข้อมูลของประเพณีผีตาโขนทาให้ผู้จัดทาได้ทราบเรื่องต่างๆที่ผู้จัดทาไม่เคยรู้มาก่อ
น เช่น ประเพณีผีตาโขน เป็นการละเล่นที่เกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรม
เพื่อบวงสรวงบูชาติดต่อกับผู้ชมดูการละเล่น คือ วิญญาณผีบรรพชน ที่กลุ่มชนชาติพันธุ์ไท-ลาว
เชื่อถือร่วมกันว่าบรรพชน คือ ต้นตระกูลเผ่าพันธุ์ผู้ที่สร้างบ้านแปงเมือง บรรพชนเมื่อตายเป็นผี
จึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่น่าเกรงขาม มีอานาจที่จะดลบันดาลให้ความอุดมสมบูรณ์
หรือความหายนะแก่บ้านเมืองได้ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
เพื่อความอุดมสมบูรณ์พูนสุขของบ้านเมือง เมื่อถึงงานบุญประเพณีสาคัญ ๆ ตามฮีตประเพณี
จึงจะต้องทาการละเล่นเต้นฟ้อนผีตาโขนเพื่อเซ่นสรวงบูชาให้เป็นที่ ถูกอกถูกใจแก่ผีบรรพชน
การละเล่นผีตาโขนจึงเป็นการละเล่นที่มีมาแต่โบราณ และผ่านการ
สืบทอดทางพิธีกรรมเป็นสายยาวจากรุ่นต่อรุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
ผีตาโขนจึงเป็นการละเล่นส่วนหนึ่งในงานบุญหลวงของอาเภอด่านซ้าย หรือเมืองด่านซ้ายในอดีต
นับเป็นการละเล่นที่นาพาให้เกิดความสนุกสนานและความบันเทิงเป็นหลัก
เช่นกันกับการเล่นทอดแห ขายยา และทั่งบั้ง
อันเป็นสีสันแห่งการเฉลิมฉลองในงานบุญหลวงและโดยเฉพาะในพิธีอันเชิญพระเวสสันดร
และนางมัทรีเข้าเมือง ตามฮีตเดือนสี่ (บุญเผวส) ของชาวอีสาน ซึ่งชาวด่านซ้าย
ได้รวมเอางานบุญฮีตเดือนสี่(บุญเผวส) ฮีตเดือนห้า (บุญสงกรานต์) ฮีตเดือนหก
(บุญบั้งไฟ) และฮีตเดือนเจ็ด (บุญซาฮะ) มาจัดขึ้นพร้อมกันในช่วงเดือนเจ็ดของทุกปี
ซึ่งมักจะอยู่ระหว่างปลายเดือนมิถุนายนถึงช่วงต้นเดือนกรกฏาคม ทั้งนี้เจ้าพ่อกวน
(ผู้นาทางจิตวิญญาณของท้องถิ่น)จะเป็นผู้กาหนดวันโดยผ่านพิธีการเข้าทรงล่วงหน้า คาว่า
ผีตาโขน ตามความเห็นของเจ้ากวน (ถาวร เชื้อบุญมี) น่าจะมาจากการที่บรรดาผีเหล่านั้น
สวมหน้ากากคล้ายลักษณะของโขนละคร แต่เดิมบางคนเรียกว่าผีตาขน
แต่ก็หาความหมายไม่ได้ชัดแจ้ง และจากคาบอกเล่าของเจ้าพ่อกวนในขณะเข้าทรงว่า
ผีตามคนมาในงานบุญพระเวส จึงเรียกผีตามคนต่อมาจึงเพี้ยนเป็นผีตาโขน
จากการศึกษาวิจัยเรื่องพัฒนาการประเพณีผีตาโขน ของ สนอง
อุปลาพบว่าประเพณีผีตาโขนเป็นการละเล่นที่เกิดจากความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณของผีบรรพชน
สืบสานมาจากการละเล่นปู่เยอ ย่าเยอของชาวหลวงพระบาง แต่เนื่องจากการละเล่น ผีตาโขน
อาเภอด่านซ้าย ต้องผ่านพ้นกับกาลเวลาอันยาวนาน และฟันฝ่ากับระบบการเมือง การปกครอง
เศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งการปะทะสังสรรค์ทางวัฒนธรรมกับคนหลากหลายกลุ่มชน
- 28. ประวัติย่อของผู้ศึกษาค้นคว้า
1. ชื่อ เด็กหญิงพลอยณิชชา สุพัชรธนาวัฒน์
วันเกิด วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2542
สถานที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 353/23 หมู่10
ตาบล หนองไผ่อาเภอ ชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น 40130
กาลังศึกษาอยู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมแพศึกษา
อีเมล์ poy-255411@hotmail.com /
เบอร์โทรศัพท์0821086661
- 29. 2. ชื่อ เด็กหญิงชนิตาภรณ์ กงสะเด็น
วันเกิด วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2542
สถานที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 200 หมู่9 ตาบล โนนสะอาด
อาเภอ ชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น 40130
กาลังศึกษาอยู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมแพศึกษา
อีเมล์ paiship@hotmail.co.th /เบอร์โทรศัพท์ 0832825173
- 30. 3. ชื่อ เด็กหญิงทรรศนีย์ ทาขันทา
วันเกิด วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2542
สถานที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 202 หมู่5 ตาบล หนองไผ่อาเภอ ชุมแพ
จังหวัด ขอนแก่น 40130
กาลังศึกษาอยู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมแพศึกษา
อีเมลล์ cartoon23@hotmail.co.th / เบอร์โทรศัพท์ 0924672836