2. H=1 C=12
N=14
O=16 Na=23
Mg=24
P=31 S = 32
Ca=40
Cl=35.5 Cr=52
Fe=56
Cu=63.5 Sb=122
I=127
ตอนที่ 1 ข้อ 1 / 50
1. ปัจจัยใดต่อไปนี้มีผลต่อความดันไอของของเหลว
1. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของของเหลว
2. ปริมาณของของเหลวซึ่งมีสมดุลของของเหลวและไอ
3. อุณหภูมิของของเหลว
1. ก เท่านั้น 2. ก และ ข เท่านั้น 3. ก และ ค เท่านั้น 4. ก, ข
และ ค
2. ข้อมูลแสดงค่าพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการละลายของสาร A , B และ C เป็นดังนี้
สาร พลังงานไฮเดรชัน ( kJ / พลังงานแลตทิซ ( kJ /
mol ) mol )
A 745 750
B 590 550
C 690 700
ถ้าใช้สาร A , B และ C จำานวนโมลเท่ากันละลายในนำ้าที่มีปริมาตร 100Ccm3 การ
เปรียบเทียบ
อุณหภูมิของแต่ละสารละลาย ข้อใดถูก
1. A > B > C 2. B > A > C 3. B > C > A
4. C > A > B
3. นักเรียนผู้หนึ่งทำาการททดลองเกี่ยวกับสมบัติของสารละลายพบว่าตัวทำาละลาย X มีจุดเยือกแข็งที่
5. 5 o C
นำาสารประกอบ X 0 . 2 โมล มาละลายในตัวทำาละลาย X 100 cm
3
พบว่าจุดเยือกแข็ง
เปลี่ยนเป็น
-4.3 o
C
ถ้านำาสารประกกอบ Z 8.4 g. มาละลายในตัวทำาละลาย X 50 cm3
จุดเยือกแข็งขอองสาร
ละลายเป็น –4.3
o
C เช่นเดียวกันถ้าสารประกอบ Z ประกอบด้วยธาตุคาร์บอนร้อยละ
85.71 ธาตุ
ไฮโดรเจนร้อยละ 14.29 โดยโมล สูตรโมเลกุลของสารประกอบนี้จะเป็นดังข้อใด
3. 1. C6H6 2. C6 H12 3. C 9H8
4. C9 H14
4. ถ้าการแยกสารด้วยวิธีโครมาโทกราฟโดยใช้กระดาษกรองเป็นตัวดูดซับได้ผลดังนี้
จุด X = สาร A บริสทธิ์
ุ
จุด y= สารตัวอย่างประกอบ
ด้วยสาร A และสาร B
ข้อสรุปใดน่าจะเป็นไปได้
ก. สาร A และสาร B มีค่า Rf เท่ากัน จึงแยกสาร A และ B ออกจากกันไม่ได้ด้วยวิธี
การนี้
2.สาร B อาจเป็นสารไม่มีสี จึงควรตรวจสมบัติตอไปโดยผ่านแสงอัลตราไวโอเลต
่
3.สาร A และสาร B เคลือนที่ไปบนตัวดูดซับได้ใกล้เคียงกัน จึงควรทำาการทดลองซำ้าโดย
่
เปลี่ยน
ตัวทำาละลาย
1. ก เท่านั้น 2. ข เท่านั้น 3. ก และ ข 4.
ข และ ค
5. แร่ตัวอย่างหนัก 1.12 g. นำามาวิเคราะห์หาปริมาณ Fe ( ΙΙΙ ) โดยทำาปฏิกิรยากับ
ิ
สารละลาย KΙ
ความเข้มข้น 1 mol / dm-3 ปริมาตร 10 cm3 เกิดแก็ส Ι 2 44.8 cm3 ที่
STP ปฏิกิริยาเกิดขึ้นดัง
สมการ Fe ( ΙΙΙ ) + 2 Ι( aq ) → FeΙΙΙ ) + Ι 2 ( g )
(
แร่ตัวอย่างนี้มีเหล็กในรูป Fe ( ΙΙΙ ) อยู่ร้อยละเท่าใดโดยมวล
1. 10 2. 25 3. 50
4. 100
6.ปฏิกิริยาระหว่างสารประกอบ สมมติ A และ B เป็นดังสมการ
A + 3B → 4C
จากการทดลองเพื่อการทดสอบประสิทธิภาพของปฏิกิริยานี้ พบว่าร้อยละของผลได้ มีค่า 75
%
ถ้าต้องการเตรียมสารประกอบ C 6 โมล จะต้องใช้ A และ B
A B
1. 1 3
2. 1.1 3.3
4. 3. 1.5 4.5
4. 2 6
7. ข้อใดถูก
สูตรเคมี นำ้าหนักสาร จำานวนโมเลกุล ชนิดของสารประกอบ
1. NO2 2.3 0.05 x โคเวเลนต์
โคเวเลนต์
2. N ( CH3)3 1.18 1023 ไอออนิก
3. NaCl 5.85 1.2 ไอออนิก
4. H2SO4 4.9 x 10 22
2 x 1022
0.10 x
1023
8. โลหะ A 2 mol ถูกยิงด้วยอนุภาค จนอิเล็กตรอนกระเด็นออกไปเกิดเป็น A3+ ไอออน
ร้อยละ 0.10
อิเล็กตรอน ทีกระเดนออกไปมีจำานวนเท่าใด
่
1 . 1.8 X 1021 2. 3.6 X 10 21
3. 1.2 X 1024 4. 3.6X 1024
9. พิจารณาตารางข้อมูลต่อไปนี้
ΙE พลังงานไอออไนเซชัน ( MJ / moI-1 )
ธาตุ ΙE 1 ΙE 2 ΙE 3 ΙE 4 ΙE 5 ΙE 6 ΙE 7 ΙE 8 Ι E 9 Ι E 10 Ι E 11
X 1.7 3.4 6.1 8.4 11. 15. 17. 92. 106
0 2 9 1 .4
Y 0.5 4.6 6.9 9.6 13. 16. 20. 25. 28. 141 159
4 6 1 5 9 .4 .1
ข้อสรุปใดผิด
1. อิเล็กตรอนในระดับพลังงาน n= 1 ของ X ต้องคายพลังงาน 90.15 MJ / mol
เพื่อจะไปอยูที่ระดับ
่
พลังงาน n =2
2. ผลต่างของระดับภพลังงาน n=2 และ n = 1 ใน Y จะมากกว่าใน X
3. ธาตุ X เป็นธาตุหมู่เดียวกับ 53 Ι
4. สาประกอบระหว่าง Y กับ X เป็นสารประกอบไอออนิก
10.พิจารณาแผนภาพต่อไปนี้
รูปใดแสดงการจัดเรียงอิเล็กตรอนในสภาวะพื้นของอะตอมไม่ถกต้อง
ู
10. 28.พิจารณารูปต่อไปนี้
การเปรียบเทียบพลังงานก่อกัมมันต์ และการบอกชนิดของปฏิกิรยา
ิ I และปฏิกิริยา II ในข้อใดถูก
ต้อง
พลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยา ปฎิกิริยาดูดความร้อน ปฎิกิริยาคายความร้อน
1. I = II I II
2. I > II I II
3. I < II II I
4. I II I
= II
29. ปฏิกิริยาต่อไปนี้เกิดในสถานะแก๊ส และอัตราการเกิดปฏิกิริยาขึ้นกับความเข้มข้นของทั้งสาร A,
และสาร B
A + B→ C
ก.- สาร A 1 mol ทำาปฏิกิริยากับสาร B 1 mol ในภาชนะขนาด 1 dm
3
ระบบ
ข. – สาร A 2 mol ทำาปฏิกิริยากับสาร B 2 mol ในภาชนะขนาด 2 dm
3
ระบบ
ระบบ ค. – สาร A 0.2 mol ทำาปฏิกิริยากับสาร B 0.2 mol ในภาชนะขนาด
0.1 dm3
จากข้อมูลข้างต้น จงหาว่า
Ι Ι. ระบบใดได้สาร C มากที่สุดภายในเวลาที่กำาหนด
ΙΙ. ระบบใดมีอตราการเกิดปฏิกิริยาสูงที่สูง
ั
Ι ΙΙ
1. ก ข
ข ค
2. ค ข
3. ค ค
4.
11. 30. ทีอุณหภูมิ 30OC
่ ปฏิกิริยา CO(g) + Cl2(g) COCl2(g) +
108 KJ มีความสัมพันธ์
ระหว่างความเข้มข้นระหว่างเวลาเป็นดังกราฟต่อไปนี้
หลังจากระบบเข้าสู่สมดุลที่ 30OC แล้วถ้าเพิ่มอุณหภูมิเป็น 50OC กราฟของปฏิกิรยาควรดำาเนินต่อไป
ิ
อย่างไร
31.แก๊ส X และ Y ทำาปฏิกิริยาได้แก๊ส Z ดังสมการ
. X(g) + 3Y (g) 2Z(g)
ถ้าให้ X และ Y อย่างละ 0.1 mol ทำาปฏิกิริยากันในกระบอกสูบขนาด 500 cm
3
จนเข้าสู่สภาวะสมดุล
ข้อใดถูกต้อง
1. เมือขยายปริมาตรของกระบอกสูบจะได้ Z น้อยลง
่
ΙΙ 2.ค่าคงทีสมดุลของปฏิกิริยานี้แปรผันโดยตรงกับความเข้มข้นของ Z และแปรผกผันกับ X และ Y
่
3. ที่ภาวะสมดุลจะมีแต่แก๊ส X และ Y ในกระบอกสูบ
ΙΙΙ 4. ถ้าเพิ่มปริมาณสารตั้งต้น Y เป็น 0.3 mol ทีสภาวะสมดุลใหม่ X และ Y จะทำา
่
ปฏิกิริยากันหมดพอดี
19. ตอนที่ 1
1. เฉลยข้อ 3
แนวคิด ถูก เพราะปัจจัยที่มีผลต่อ ความดันไอของของเหลว คือ
1. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของของเหลวความดันไอของของเหลวเป็นสัด
ส่วนกลับแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของของเหลว
2. อุณหภูมิ ความดันไอของของเหลว เป็นสัดส่วนตรงกับอุณหภูมิ
2 เฉลยข้อ 2
แนวคิด ให้สาร A, B และ C ต่างใช้จำานวน 1 mol ละลายนำ้าที่ปริมาตร 100
cm3
สารในนำ้า ความร้อนของการ เหตุผล
ละลาย
A ดูดพลังงาน พลังงานไฮเดรชัน น้อยกว่าพลังงานแลตทิช =
ดูดพลังงาน
B ดูดพลังงาน 750-745 = 5
C พลังงานไฮเดรชัน มากกว่าพลังงานแลตทิช =
590-550 = 40
พลังงานไฮเดรชัน น้อยกว่าพลังงานแลตทิช 700 -
690 = 10
การเปรียบเทียบอุณหภูมิของแต่ละสารละลาย B > A > C
3. เฉลยข้อ 2
M
แนวคิด สมมติให้ความหนาแน่นของตัวทำาละลาย X = x g/cm3 สูตร d
V
M = dV
X 100 cm3
ตัวทำาละลาย มีมวล = 100 X g. และตัวทำาละลาย X 50
cm3
มีมวล = 50X g.
20. 0.2
สารละลาย Y ใน X มีความเข้มข้น = (100X ) =
Kg
1000
2
mol / kg
X
สูตร ∆Tf = K f × m
2
แทนค่า (5.5 – (-4.3) ) = K f ×
X
สารละลาย Z ใน X
m1 × 1000
สูตร ∆Tf = Kf ×
m 2 × M.W 1
8.4 × 1000
แทนค่า (5.5 – (-4.3 ) ) = K f × ( 50X× M.W
) 1
2 8.4 × 1000
แต่ Kf × = K f × ( 50X× M.W
)
X 1
1000
Z = 8.4 × 50M.W จะได้
1
M. W 1 = 84
หาสูตรเอมพิริคล
ั
85.71 14.29
C:H = : โดยมวล
12 1
7.14 14.29
C:H = : โดยโมล
7.14 7.14
C:H = 1.00 : 2.00 โดยโมล
สูตรเอมพิรคัลของ Z
ิ คือ C1 H2
ให้สตรโมเลกุล ( CH2 )n
ู
มวลโมเลกุลของ Z = 84
(12+2 ) = 84
∴n = 6
สูตรโมเลกุล ( CH2 )6 จะได้ C6 H12
4. เฉลยข้อ 4
แนวคิด จากข้อมูลการทดลอง สรุปได้ว่า
1. ทีจุด Y สารตัวอย่าง
่ (A+B) แยกได้ 1 แถบ ซึ่งเคลื่อนที่ได้ระยะ
ทางเท่ากับ
สาร A บริสทธิ์ จากจุด
ุ X ดังนั้น สาร B อาจเป็นสารไม่มีสี
จึงควรตรวจสมบัตต่อ
ิ
ไปนี้ด้วยการผ่านแสงอัลตราไวโอเลต
2. สาร A และสาร B เคลื่อนที่ไปบนตัวดูดซับได้ใกล้
เคียงกันมาก จึงเห็นเป็น
แถบเดียว จึงควรทำาการทดลองซำ้าโดยเปลี่ยนตัวทำาละลาย
5. เฉลย ไม่มีคำาตอบ
21. แนวคิด เขียนสมการแสดงปฏิกริยาพร้อมดุล
ิ
แร่ตัวอย่าง 1.12 g KI ( aq ) 1 mol . dm-3
10 cm3
↓ ↓
2Fe (aq)
3+
2I –(aq)
→ 2Fe 2 + (aq) + I 2 (aq)
↓ ↓
↓
1 × 10
X g mol
1000
44.8 cm3
↓
↓
X
mol
56
44.8
mol
22.4 × 1000
จากขัอมูลที่โจทย์ให้มากำาหนดทั้งจำานวนโมลของสารตั้งต้น KI
และจำานวนโมลของ
ผลิตภัณฑ์ I 2 ในการคำานวณจะต้องยึดเอาจำานวนโมลของผลิตภัณฑ์
I 2 เป็นหลัก
กล่าวคือ KI จำาถูกใช้ทำาปฏิกิริยาหมดหรือไม่กตาม I 2 ต้องเกิดขึ้น
็
กับจำานวน 44.8
cm3 STP อย่างแน่นอน จึงใช้สารนี้เป็นหลักในการคำานวณ ดังนี้
3+
โมล
Fe 2
จากสมการ =
โมลI2 I
X
mol
56 2
=
44.8 I
mol
22.4 × 1000
2 × 44.8 × 56
∴X = = 0.224g
22.4 × 1000
3+
แร่ตัวอย่าง 1.12 g มีเหล็กในรูป Fe = 0.224g
แร่ตัวอย่าง 100 g มีเหล็กในรูป
0.224 × 100
Fe 3 + = = 20g
1.12
แร่ตัวอย่างมีเหล็ก
= 20% โดยมวล
6.เฉลยข้อ 4
แนวคิด สมการของปฏิกิริยา ดังนี้