More Related Content
Similar to digital law for GLAM (20)
More from Boonlert Aroonpiboon (17)
digital law for GLAM
- 4. การเรียนรู้และการค้นหาสารสนเทศ
ของ Digital native
• มือถือเป็นอวัยวะ ชีวิตรายล ้อมด ้วยอุปกรณ์ดิจิทัล
• หาความรู้ได ้จากทุกที่ ทุกเวลา
• ชอบความรวดเร็ว
• ชอบสื่อดิจิทัลและสื่อมัลติมีเดีย
• ชอบสร ้างเครือข่าย
• ชอบทาอะไรหลายอย่างพร ้อมกัน
• มีความคาดหวังสูง มีความมั่นใจ
• ชอบการเรียนรู้ที่ตรงประเด็น และสนุก
• ชอบเรียนและค ้นหาเมื่อถึงเวลา
4
http://www.okmd.or.th/okmd-opportunity/global-knowledge-society/259/
https://www.flickr.com/photos/wastes/5374490075
http://www.tcjapress.com/2017/01/31/gen-z-children/
https://www.slideshare.net/plaistrlc/the-role-of-librarians-in-the-21st-century
- 14. มาตรา 3 ระบุว่า “ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” หมายความว่า
ระบบเศรษฐกิจและสังคมที่มีการติดต่อสื่อสาร การผลิต การอุปโภค
บริโภค...การทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์...การศึกษา การเกษตรกรรม
การอุตสาหกรรม... การบริหารจัดการข ้อมูล และเนื้อหาหรือกิจกรรมทาง
เศรษฐกิจ และสังคมอื่นใด หรือการใด ๆ ที่มีกระบวนการหรือการ
ดาเนินงานทางดิจิทัลหรือทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ กิจการวิทยุคมนาคม กิจการโทรคมนาคม กิจการสื่อสาร
ดาวเทียม และการบริหารคลื่นความถี่ โดยอาศัยโครงสร ้างพื้นฐาน
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งเทคโนโลยีที่มีการหลอม
รวม หรือเทคโนโลยีอื่นใดในทานองเดียวกันหรือคล ้ายคลึงกัน
14
- 15. หมวด 1 การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
มาตรา 6 นโยบายและแผนระดับชาติว่าด ้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อ
เศรษฐกิจและสังคมมีเป้าหมายและแนวทางอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
(5) การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาให ้เกิดอุตสาหกรรมและ
นวัตกรรมด ้านเทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาให ้เกิดการใช ้เทคโนโลยี
ดิจิทัลเพื่อสร ้างหรือเผยแพร่เนื้อหาผ่านทางสื่อที่ก่อให ้เกิดประโยชน์ต่อ
เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและความมั่นคงของประเทศ
(7) การพัฒนาคลังข ้อมูลและฐานข ้อมูลดิจิทัล การบริหารจัดการ
ความรู้รวมทั้งการส่งเสริมเพื่อให ้มีระบบที่เป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้และ
ให ้บริการข ้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย ซึ่งเอื้อต่อการนาไปใช ้
ประโยชน์ในรูปแบบที่เหมาะกับยุคสมัย
15
- 16. หมวด 5 การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
มาตรา 35 วรรคสอง อุตสาหกรรมหรือนวัตกรรมดิจิทัล ให ้หมายความ
รวมถึงอุตสาหกรรมหรือนวัตกรรมในการใช ้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร ้าง
หรือเผยแพร่เนื้อหาผ่านทางสื่อที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรมและความมั่นคงของประเทศด ้วย
มาตรา 41 แผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่สานักงาน
ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จัดทาขึ้นตามมาตรา 35 (1) ต ้องสอดคล ้องกับ
นโยบายและแผนระดับชาติว่าด ้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ
สังคม และอย่างน้อยต ้องกาหนดเรื่องดังต่อไปนี้ด ้วย
(1) แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนให ้เกิดการใช ้เทคโนโลยีดิจิทัล
เพื่อสร ้างหรือเผยแพร่เนื้อหาผ่านทางสื่อที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ
สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงของประเทศ
(6) แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้ให ้ประชาชนใช ้
ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างคุ้มค่า ประหยัดและปลอดภัย
(9) แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ค ้นคว ้า วิจัย การ
ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จาเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม
ดิจิทัล
16
- 26. จดหมายเหตุ
ประเภทเอกสารจดหมายเหตุ
1. เอกสารจดหมายเหตุประเภท
ลายลักษณ์อักษร
(Textual Archives)
2. เอกสารโสตทัศนจดหมายเหตุ
(Audio–Visual Archives)
3. เอกสารจดหมายเหตุประเภท
แผนที่ แผนผัง
(Cartographic Archives)
4. เอกสารจดหมายเหตุประเภท
วัสดุคอมพิวเตอร์
(Machine - Readable
Archives)
กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
• พรบ.จดหมายเหตุแห่งชาติฯ
• ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด ้วย
งานสารบรรณฯ
• พรบ.ข ้อมูลข่าวสารราชการฯ
• ระเบียบว่าด ้วยการรักษาความลับของ
ทางราชการฯ
• พรบ.ว่าด ้วยธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ฯ
• พรบ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
และสังคมฯ
26
- 46. ฟอนต์มาตรฐานราชการไทย
• TH Baijam
• TH Chakra Peth
• TH Charm of AU
• TH Charmonman
• TH Fah kwang
• TH K2D July8
• TH Kodchasal
• TH KoHo
• TH Krub
• TH Mali Grade 6
• TH Niramit AS
• TH SarabunPSK
• TH Srisakdi
- 47. ซอฟต์แวร์ทางเลือก
Open Source Software
• ซอฟต์แวร์ที่เปิดเผยต ้นฉบับ
– ต ้นฉบับโปรแกรม (Source
code)
• ปรับแก ้ไขได ้
• สามารถสาเนาได ้
• สามารถเผยแพร่ได ้
• OSS ≠ Freeware
– ไม่ได ้“ฟรี” ทุกอย่าง
Freeware
• ซอฟต์แวร์ธุรกิจที่อนุญาตให ้
ใช ้ได ้ฟรี
• ไม่เปิดเผยต ้นฉบับโปรแกรม
• อาจจะตัดความสามารถ
บางอย่างออก
• มีเงื่อนไขในการใช ้งาน
– บางโปรแกรมใช ้ได ้เฉพาะส่วน
บุคคล
– บางโปรแกรมไม่อนุญาตให ้หา
รายได ้
- 51. เกณฑ์การใช้ลิขสิทธิ์ที่เป็ นธรรม
1. วัตถุประสงค์และความเหมาะสมในการใช ้งาน
ลิขสิทธิ์
– ไม่มีเจตนาทุจริต เช่น การนางานลิขสิทธิ์มาใช ้โดยไม่
อ ้างอิงถึงที่มา หรือใช ้ในลักษณะที่ทาให ้คนเข ้าใจว่าเป็น
งานของตนเอง
2. ลักษณะของงานลิขสิทธิ์
– งานที่มีระดับของการสร ้างสรรค์งานหรือใช ้จินตนาการ
มาก เช่น นวนิยาย หรือเรื่องเล่าอัดชีวประวัติบุคคล หาก
มีการนางานไปใช ้โอกาสที่จะถือว่าเป็นการใช ้งาน
ลิขสิทธิ์ที่ไม่เป็นธรรมจะมากกว่างานลิขสิทธิ์ที่
ประกอบด ้วยข ้อเท็จจริงจานวนมาก
- 52. เกณฑ์การใช้ลิขสิทธิ์ที่เป็ นธรรม
3. ปริมาณการใช ้งานและสัดส่วนของงาน
– หนังสือที่มีลิขสิทธิ์จานวน 50 หน้า นาไปใช ้25
หน้า ถือว่าเป็นการใช ้ลิขสิทธิ์ที่ไม่เป็นธรรม
– กรณีที่นางานลิขสิทธิ์ของคนอื่นมาใช ้แม ้ปริมาณ
น้อยก็อาจเป็นการละเมิดได ้ หากส่วนนั้นเป็นส่วนที่
เป็นสาระสาคัญหรือหัวใจของงานชิ้นนั้น
4. ผลกระทบต่อการตลาดหรือมูลค่าของงาน
ลิขสิทธิ์
– ไม่ทาให ้งานลิขสิทธิ์ขายไม่ได ้
- 53. การใช้งานลิขสิทธิ์ที่เป็ นธรรม
รูปภาพและภาพถ่าย
• ใช ้ได ้อย่างน้อย 1 ภาพแต่ไม่เกิน 5 ภาพ
ต่อผู้สร ้างสรรค์ 1 ราย หรือ ร ้อยละ 10 ของ
จานวนภาพของผู้สร ้างสรรค์ 1 ราย (แล ้วแต่
ว่าจานวนใดน้อยกว่ากัน)
• ผู้สอนและผู้เรียนดาวน์โหลดภาพจาก
อินเตอร์เน็ต เพื่อใช ้ในการศึกษาได ้ใน
ปริมาณเท่ากับ (ข ้างต ้น) แต่จะอัพโหลด
งานนั้นกลับขึ้นอินเตอร์เน็ตไม่ได ้หากไม่ได ้
รับอนุญาตจากเจ ้าของสิทธิ์สอน
53
- 55. “ใช ้แค่นิดหน่อย” /
“ใช ้เพื่อการเรียนการสอน” / “ใช ้เพื่อการศึกษา”/
“อ ้างอิงที่มาแล ้ว” /
“เป็นบรรณารักษ์” / “เป็นห ้องสมุด”
ไม่เป็ นไรหรอก ไม่ผิดกฎหมาย
ได้รับการยกเว้น
55
- 66. พรบ.ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
ความหมายและผลกระทบต่อผู้ให้บริการ
Company Logo
ระบบคอมพิวเตอร์
ข ้อมูลคอมพิวเตอร์
ข ้อมูลจราจรทาง
คอมพิวเตอร์
ผู้ให ้บริการ
ผู้ใช ้บริการ
พนักงานเจ ้าหน้าที่
รัฐมนตรี
หมวด 1
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
กระทาต่อคอมพิวเตอร์ ใช้คอมพิวเตอร์กระทา
ความผิด
ม.5: การเข ้าถึงระบบคอมฯ
ม.6: การล่วงรู้มาตรการการป้องกัน
การเข ้าถึง
ม.7: การเข ้าถึงข ้อมูลคอมฯ
ม.8: การดักรับข ้อมูลคอมฯ
ม.9: การรบกวนข ้อมูลคอมฯ
ม.10: การรบกวนระบบคอมฯ
ม.13: การจาหน่าย/ เผยแพร่
ชุดคาสั่งเพื่อใช ้กระทาความผิด
ม.11: Spam mail
ม.14: การปลอมแปลง
ข ้อมูลคอมพิวเตอร์/
เผยแพร่เนื้อหาอันไม่
เหมาะสม
ม.15: ความรับผิดของผู้
ให ้บริการ
ม.16: การเผยแพร่ภาพ
จากการตัดต่อ/ดัดแปลง
หมวด 2
พนักงานเจ้าหน้าที่
อานาจหน้าที่ (ม.18): (1) มีหนังสือ/
เรียกเพื่อให ้ถ ้อยคา/เอกสาร (2) เรียก
ข ้อมูลจราจร (3) สั่งให ้ส่งมอบข ้อมูลที่อยู่
ในครอบครอง (4) ทาสาเนาข ้อมูล
(5) สั่งให ้ส่งมอบข ้อมูล/อุปกรณ์
(6) ตรวจสอบ/เข ้าถึง (7) ถอดรหัสลับ
(8) ยึด/อายัดระบบ
ข้อจากัด/การตรวจสอบการใช้อานาจ
(ม.19): ยื่นคาร ้องต่อศาลในการใช ้อานาจ
ตาม ม.18 (4)-(8) , ส่งสาเนาบันทึก
รายละเอียดให ้แก่ศาลภายใน 48 ชม., ยึด/
อายัดห ้ามเกิน 30 วัน ขอขยายได ้อีก 60
วัน (ม.๑18(8))
การ block เว็บไซต์ พนักงานเจ้าหน้าที่โดย
ความเห็นชอบของรมว.ทก.ยื่นคาร ้องต่อศาล
(ม.20)
ความรับผิดของพนักงานเจ้าหน้าที่:
(ม.22 ถึง มาตรา 24)
พยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบ อ ้าง
และรับฟังมิได ้ (ม.24)
คานิยาม ม.3
ม.12 บทหนัก
กระทาความผิดนอกราชอาณาจักร ต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร์ (ม.17)
การรับฟังพยานหลักฐานที่ได้มาตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ (ม. 25)
ผู้ให้บริการ
ม.26: เก็บข ้อมูลจราจร
90 วันไม่เกิน 1 ปี
ม.27: ไม่ปฏิบัติตาม
คาสั่งพนักงานเจ ้าหน้าที่
หรือคาสั่งศาล ระวาง
โทษปรับ
มีผลบังคับใช้ภายหลังประกาศใช้ 30 วัน (ม.2)
พนักงานเจ้าหน้าที่
การแต่งตั้ง/กาหนดคุณสมบัติพนักงาน
เจ้าหน้าที่/การประสานงาน (ม.28-29)
- 67. สิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองในข้อมูล
ส่วนบุคคล
ข ้อมูลส่วนบุคคล
การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติ
สุขภาพ ประวัติอาชญากรรม หรือ
ประวัติการทางาน บรรดาที่มีชื่อ
ของผู้นั้น หรือมีเลขหมาย รหัส
หรือสิ่งบอกลักษณะอื่นที่ทาให ้
รู้ตัวผู้นั้น
• รูปถ่าย
• ภาพถ่ายบุคคล
• สถานที่ของบุคคล
• ฯ
กฎหมายที่เกี่ยวข ้อง
• รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทยฯ
• พรบ.ข ้อมูลข่าวสารของ
ราชการฯ
• ร่าง พรบ.คุ้มครองข ้อมูลส่วน
บุคคล พ.ศ....
• ปฏิญญาสากลว่าด ้วยสิทธิ
มนุษยชน
• พรบ.ว่าด ้วยการกระทา
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ
• พรบ.ว่าด ้วยธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ฯ
67
- 68. กรอบในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
68
http://www.etcommission.go.th/files/article/article-dp.pdf
ข้อ กรอบ OECD สาระสาคัญ
1
หลักข ้อจากัดในการ
เก็บรวบรวมข ้อมูล
ในการเก็บรวบรวมข ้อมูลนั้น ต ้องชอบด ้วยกฎหมายและต ้องใช ้วิธีการที่เป็น
ธรรมและเหมาะสม โดยในการเก็บรวบรวมข ้อมูลนั้นต ้องให ้เจ้าของข ้อมูลรู้
เห็น รับรู้หรือได ้รับความยินยอมจากเจ้าของข ้อมูล
2
หลักคุณภาพของ
ข ้อมูล
ข ้อมูลที่เก็บรวบรวมนั้น ต ้องเกี่ยวข ้องกับวัตถุประสงค์ที่กาหนดขึ้นว่า “จะ
นาไปใช ้ทาอะไร” และเป็นไปตามอานาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการ
ดาเนินงานของหน่วยงานตามที่กฎหมายกาหนด นอกจากนั้นข ้อมูลดังกล่าว
จะต ้องถูกต ้อง สมบูรณ์หรือทาให ้เป็นปัจจุบันหรือทันสมัยอยู่เสมอ
3
หลักการกาหนด
วัตถุประสงค์ในการ
จัดเก็บ
ต ้องกาหนดวัตถุประสงค์ว่า ข ้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมนั้น เก็บรวมรวมไปเพื่อ
อะไร พร้อมทั้ง กาหนดระยะเวลาที่เก็บรวบรวมหรือรักษาข ้อมูลนั้น ตลอดจน
กรณีที่จาเป็นต ้องมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข ้อมูลเช่น
ว่านั้น ไว ้ให ้ชัดเจน
4
หลักข ้อจากัดในการ
นาไปใช ้
ข ้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะต ้องไม่มีการเปิดเผย ทาให ้มีหรือปรากฏในลักษณะ
อื่นใด ซึ่งไม่ได ้กาหนดไว ้โดยชัดแจ ้งในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
ข ้อมูล เว ้นแต่จะได ้รับความยินยอมจากเจ ้าของข ้อมูล หรือโดยอาศัยอานาจ
ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
- 69. กรอบในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
69http://www.etcommission.go.th/files/article/article-dp.pdf
ข้อ กรอบ OECD สาระสาคัญ
5 หลักการรักษาความ
มั่นคงปลอดภัยข ้อมูล
จะต ้องมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข ้อมูลส่วนบุคคลที่
เหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงภัยใดๆ ที่อาจจะทาให ้ข ้อมูลนั้นสูญหาย
เข ้าถึง ทาลายใช ้ดัดแปลงแก ้ไข หรือเปิดเผยโดยมิชอบ
6 หลักการเปิดเผย
ข ้อมูล
ควรมีการประกาศนโยบายฯให ้ทราบโดยทั่วกัน หากมีการปรับปรุงแก ้ไข หรือ
พัฒนาแนวนโยบายหรือแนวปฏิบัติที่เกี่ยวกับข ้อมูลส่วนบุคคลก็ควรเปิดเผย
หรือประกาศไว ้ให ้ชัดเจน รวมทั้งให ้ข ้อมูลใดๆ ที่สามารถระบุเกี่ยวกับ
หน่วยงานของรัฐผู้ให ้บริการ ที่อยู่ผู้ควบคุมข ้อมูลส่วนบุคคลด ้วย
7 หลักการมีส่วนร่วม
ของบุคคล
ให ้บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข ้อมูลได ้รับแจ้งหรือยืนยันจากหน่วยงานของรัฐที่เก็บ
รวบรวมหรือจัดเก็บข ้อมูลทราบว่า “หน่วยงานของรัฐนั้นๆ ได ้รวบรวมข ้อมูล
หรือจัดเก็บข ้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหรือไม่ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม”
8 หลักความรับผิดชอบ ผู้ควบคุมข ้อมูลส่วนบุคคลต ้องปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการ
คุ้มครองข ้อมูลส่วนบุคคล
- 72. ฐิติมา ธรรมบารุง, PhD
เจ ้าหน้าที่สารสนเทศอาวุโส
ฝ่ ายบริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STKS)
สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
titima@nstda.or.th
http://facebook.com/titima.thumbumrung
72