Se ha denunciado esta presentación.
Se está descargando tu SlideShare. ×

โครงงานประโยชน์ของผลไม้

Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio
Anuncio

Eche un vistazo a continuación

1 de 46 Anuncio

โครงงานประโยชน์ของผลไม้

Descargar para leer sin conexión

1. นาย ธนวัฒน์ ตระกูลพุทธรักษา เลขที่ 2
2. นาย ธนดล ศิริตุ้ย เลขที่ 23
ชั้น ม 6/2

1. นาย ธนวัฒน์ ตระกูลพุทธรักษา เลขที่ 2
2. นาย ธนดล ศิริตุ้ย เลขที่ 23
ชั้น ม 6/2

Anuncio
Anuncio

Más Contenido Relacionado

Presentaciones para usted (20)

A los espectadores también les gustó (10)

Anuncio

Similares a โครงงานประโยชน์ของผลไม้ (20)

Más de greatzaza007 (11)

Anuncio

Más reciente (16)

โครงงานประโยชน์ของผลไม้

  1. 1. ประโยชน์ของผลไม้ (benefits of fruit)
  2. 2. สารบัญ เกี่ยวกับโครงงาน องุ่น ข้าวโพด แอปเปิ้ล กล้วย มะนาว มะพร้าว
  3. 3. เกี่ยวกับโครงงาน ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ประโยชน์จากผลไม้นานาชนิด ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) The benefits of fruits ประเภทโครงงาน โครงงานประเภท เพื่อการศึกษา ชื่อผู้จัดทา 1. นาย ธนวัฒน์ ตระกูลพุทธรักษา เลขที่ 2 2. นาย ธนดล ศิริตุ้ย เลขที่ 23 ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ตั้งแต่เดือน ตุลาคม ถึง เดือน กุมภาพันธ์
  4. 4. เนื่องจากปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนให้ความสาคัญจากการ ดูแลสุขภาพตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งสังเกตได้จาก การรณรงค์ให้จัดกิจกรรม ต่างๆ อาทิเช่น ออกก าลังกาย ตารวจไทย ไร้พุง เป็นต้น ซึ่งการที่ดูแล สุขภาพตัวเองนั้น นอกจากจะต้องดูแลเรื่องการออกกาลังกายแล้ว การ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สาคัญที่จะทา ให้ ร่างกาย เรามีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วยการกินการรับประมานที่ดีนั้น ควรจะรับประ มานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และให้เหมาะสมกับสิ่งที่ร่างกายจาเป็นต่อวัน ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
  5. 5. ในส่วนนี้เราขอพูดถึงเรื่องของ ผลไม้ เพราะผลไม้เป็นแหละ พลังงานที่ ส าคัญของ วิตามินและเกลือแร่ ต่างๆ ที่สาคัญต่อร่างกาย มนุษย์เราเป็นอย่างมากผลไม้แต่ละชนิดล้วนมี ประโยชน์ แตกต่างกัน ซึ่งให้ คุณค่าทางสารอาหารที่แตกต่างกัน เช่น ส้ม เลมอน เป็นผลไม้ที่ให้วิตามิน C สูง ซึ่งเป็นวิตามินที่ ร่างกายมนุษย์เรานั้น ต้องการมากที่สุด ซึ่งการทาน วิตามิน C นั้นช่วยในการป้ องกัน เลือดออกตามไรฟันอีกด้วยการ ที่เรารับรู้ ถึงข้อมูลต่างๆทางโภชนาการของ ผลไม้ชนิดต่างๆนั้น เป็นประโยชน์อย่าง มาก เพราะหากเรา ขาดวิตามิน หรือเกลือแร่ชนิดใด เราก็สามารถ รับประทานส่วนนั้น เพื่อแทนที่ส่วนที่ หายไปได้นั่นเอง ด้วยเหตุผล นี้เราจึง ได้ จัดท าโครงงานนี้ขึ้นมา
  6. 6. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อต้องการศึกษาว่าผลไม้ สาคัญต่อร่างการของมนุษย์อย่างไร 2. เพื่อต้องการศึกษาว่า ผลไม้แต่ละชนิดให้คุณค่าทางสารอาหารแตกต่างกันอย่างไร 3. เพื่อต้องการศึกษาว่าผลไม้แต่ละชนิด เป็นที่นิยมในประเทศ หรือภูมิภาคใดบ้าง 4. เพื่อทาความรู้ที่ได้ไปใช้ในการ ศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์เช่น การทดลอง เป็นต้น 5. เพื่อนาความรู้ที่ได้ทางด้านผลไม้นี้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน 6. เพื่อต้องการนาความรู้ที่ได้ ไปเผยแพร่เพื่อให้เกิดประโยชน์ ต่อคนรุ่นหลังสืบต่อไป
  7. 7. ขอบเขตโครงงาน สิงที่ต้องการจะศึกษา : ความรู้ต่างๆ เรื่องผลไม้ อาทิเช่น ประโยชน์ วิธีการ ปลูก และความสาคัญของผลไม้ที่ มีต่อร่างการ เป็นต้น สถานที่ : จากแหล่งความรู้ต่างๆ ที่สาคัญ เช่น ห้องสมุด อินเตอร์เน็ต หรือ ผู้ที่มีความรู้ความเชียวชาญ ระยะเวลา : ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม ถึง เดือน กุมภาพันธ์ ปี พุทธศักราช 2559
  8. 8. หลักการและทฤษฎี ความรู้ หลักการ และ ทฤษฎี ที่ใช้นั้นอยู่ในเรื่องของ 1. ความรู้ความสาคัญ ของผลไม้ 2. ผลไม้คืออะไร 3. ผลไม้ชนิดต่างๆที่ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม โดย เน้นสิ่งที่ สนใจ และเป็นที่นิยม 4. แหล่งที่เป็นที่นิยมของผลไม้
  9. 9. วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1. กาหนดหัวข้อและชื่อเรื่อง ที่ต้องการศึกษาและจัดทาโครงงาน 2. รวบรวมข้อมูลที่ต้องการจะจัดทาโครงงานนั้นๆขึ้นมา 3. นาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และสรุปลงมาเพื่อจัดทาโครงงาน 4. นาเสนอ โครงงานที่จัดทาขึ้น เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1. กระดาษสาหรับจดบันทึก 2. คอมพิวเตอร์ 3. ปากกา 4. สื่อทาง electronic ที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าหา ความรู้เพิ่มเติม 5. ดินสอ 6. ยางลบ
  10. 10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ได้เรียนรู้ว่าผลไม้มีความสาคัญต่อร่างกายของมนุษย์อย่างไร 2. ได้เรียนรู้ว่าผลไม้แต่ละชนิดนั้นให้ประโยชน์แตกต่างกันอย่างไร 3. ได้ทราบว่าผลไม้แต่ละชนิดนั้นเป็นที่นิยมในภูมิภาคใดบ้าง 4. ได้เรียนรู้ว่า หาเราต้องการวิตามินชนิดไหนเราสามารถรับประทานวิตามิน ชนิดนั้นเพิ่มเติมส่วนที่ขาด หายไปได้ 5. ได้นาความรู้นี้ไปเผยแพร่แก่คนรุ่นหลัง
  11. 11. กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง 1. ชีวะวิทยา : ในด้านคุณค่าทางโภชนาการ และคุณประโยชน์ต่างๆ รวมไป ถึง กระบวนการผลิตวิตามินและ เกลือแร่ที่สาคัญในผลไม้ 2. เคมี : เรื่อง โครงสร้างโมเลกุลของ สารต่างๆ ที่อยู่ภายใน เช่น โครงสร้างของ วิตามิน C เป็นต้น 3. คณิตศาสตร์ : การคานวณปริมาณ Calorie ของผลไม้ต่างๆ 4. หัตถกรรม : ด้านการถนอมอาหารและดูแลรักษาผลไม้ 5. สุขศึกษา : ด้านคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม ที่ควรบริโภคใน ชีวิตประจาวัน 6. เทคโนโลยี : กระบวนการ การถนอมอาหาร และผลิตผลไม้ต่างๆ 7. เกษตรกรรม : วิธีการปลูก การดูแลผลไม
  12. 12. แหล่งอ้างอิง 1. ข้อมูลทางด้านคุณประโยชน์ http://www.fruitnflora.com/nutrition-of-fruit https://cham11146.wordpress.com/ประโยชน์ของผลไม้ไทย-2 https://sites.google.com/site/memberbaby/prayochn- khxng-phl-mi 2. ด้านกระบวนการวิธีการปลูก kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=5&c hap=2 www.wisdomking.or.th/.../387-การปลูกผลไม้ในวงบ่อ ซีเมนต์.html https://dearbeefruit.wordpress.com/วิธีการ เพาะปลูกผลไม
  13. 13. ประโยชน์ของผลไม้ (benefits of fruit)
  14. 14. องุ่น
  15. 15. ผลมีรสหวาน เปรี้ยวเล็กน้อย เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อปอ ม้าม และไต ใช้ เป็นบารุงโลหิต (ผล)[1],[2],[3] ผลมีสรรพคุณช่วยบารุงกาลัง (ผล)[2],[3] ให้ใช้ผลองุ่นแห้งและโสม อย่าง ละ 3 กรัม นามาแช่ในเหล้าประมาณ 1 คืน แล้วนามาทาบริเวณฝ่ามือและแผ่นหลัง ช่วยลดความดันโลหิตสูง (ผล)[2] ช่วยลดไขมันในเลือด ด้วยการใช้เมล็ดองุ่นนามาบดให้เป็นผงแห้ง บรรจุ แคปซูลกิน 1-2 เม็ด เช้าและเย็น (เมล็ด)[2] ผลมีสรรพคุณช่วยต้านมะเร็ง (ผล)[2] ผลนามาคั้นเอาน้ารับประทาน จะช่วยแก้อาการหงุดหงิดได้ (ผล)[1] ช่วยแก้หัวใจเต้นผิดปกติ แก้เหงื่อออกไม่รู้ตัว เหงื่อออกเนื่องจากหัวใจไม่ ปกติ (ผล)[1],[2],[3] ผลมีสรรพคุณเป็นยาแก้เลือดน้อย โลหิตจาง (ผล)[1] เถาและใบมีรสชุ่มฝาด สุขุม มีสรรพคุณเป็นยาแก้ตาแดง (เถาและ ใบ)[2],[3] ช่วยแก้อาการไอ ไอเรื้อรัง (ผล)[1],[3]
  16. 16. ผลสดนามาคั้นเอาน้ารับประทานแก้กระหายน้า หรือใช้ผลสดนามาคั้น เอาน้า แล้วใช้ภาชนะที่ปั้นด้วยดินเผา เคี่ยวผสมน้าผึ้งเล็กน้อย เก็บไว้กินทีละน้อย (ผล)[1],[3] น้ามันที่ได้จากเมล็ดเมื่อนามากินก่อนหรือพร้อมอาหาร จะสามารถลด กรดที่มีมากเกินไปในกระเพาะอาหารได้ (น้ามันจากเมล็ด)[3] น้ามันจากเมล็ดมีฤทธิ์เป็นยาระบาย (น้ามันจากเมล็ด)[3] องุ่นแห้งมีสรรรพคุณช่วยหล่อลื่นลาไส้ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ ( ใบใช้เป็นยารักษาบิดในวัวควาย (ใบ)[3] ช่วยบารุงครรภ์ ครรภ์รักษา (ผล)[1],[2],[3] ราก เถา และใบ มีรสชุ่ม ฝาด เป็นยาสุขุม ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ ปัสสาวะขัด (ราก,เถา,ใบ)[1],[2],[3] ส่วนผลก็มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะเช่นกัน (ผล)[1],[2],[3]
  17. 17. ผลมีสรรพคุณแก้ปัสสาวะขัด เจ็บ มีเลือดออก ด้วยการใช้ผลสด นามาคั้นเอาน้า และน้าต้มรากบัวหลวง น้าต้มจากโกฐขี้เถ้า น้าผึ้ง นาไปต้ม กินครั้งละ 2 ถ้วยชา (ผล)[3] ผลมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคหนองใน (ผล)[2] ให้ใช้ผลสดนามาคั้น เอาน้า และน้าต้มรากบัวหลวง น้าต้มจากโกฐขี้เถ้า น้าผึ้ง นาไปต้มกินครั้งละ 2 ถ้วยชา (ผล)[3] ผลองุ่นมีสรรพคุณช่วยบารุงไต (ผล)[1],[2],[3] ช่วยขับลมชื้นในร่างกาย แก้บวมน้า แก้ตัวบวมน้า ช่วยขับน้าดี (น้ามันจากเมล็ด)[3] องุ่นที่ไม่แก่จัดใช้กินวันละประมาณ 1.4-2.7 กิโลกรัม เป็นยารักษา อาการตับและดีเสื่อมสมรรถภาพหรือทางานไม่ดี (ผล)[3] ใบใช้เป็นยาห้ามเลือดในริดสีดวงทวาร และบาดแผลสด (ใบ)[3] ใบและเถามีฤทธิ์ยาสมานแผล ทาให้แผลหายเร็วขึ้น (แต่ไม่มีฤทธิ์ ในการฆ่าเชื้อโรค) (ใบและเถา)[3]
  18. 18. ราก เถา และใบ ใช้ภายนอกเป็นยารักษาฝีหนองอักเสบ แผลบวม เป็นหนอง (ราก,เถา,ใบ)[1],[2],[3] รากสดใช้ตาพอกแก้อาการฟกช้าได้ (ราก)[3] ช่วยบารุงเส้นเอ็นและกระดูก (ผล)[1] ช่วยแก้อาการปวดหลัง ให้ใช้ผลองุ่นแห้งและโสม อย่างละ 3 กรัม นามาแช่ในเหล้าประมาณ 1 คืน แล้วนามาทาบริเวณฝ่ามือและแผ่นหลัง จะ ช่วยแก้อาการปวดหลังได้ (ผล)[1] รากและผลมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดข้อ (ราก,ผล)[2],[3] ใช้แก้ อาการปวดตามข้อให้ใช้รากสดประมาณ 60-90 กรัม และขาหมูตามบริเวณ เล็บ 1 ขา หรือปลาหลีอื้อประมาณ 1-2 ตัว ใส่น้าพอสมควร ต้มหรือใส่น้าและ เหล้าอย่างละเท่ากัน แล้วนาไปตุ๋นกิน (ราก)[3] ใช้แก้อาการปวดข้อเนื่องจาก ลมชื้นเข้าข้อกระดูก ด้วยการใช้รากองุ่น 100 กรัม, คากิ 1 อัน นามาตุ๋นกับ เหล้าและน้าอย่างละ 1 ส่วน แล้วนามารับประทาน (ราก)[1]
  19. 19. ข้าวโพด
  20. 20. เมล็ดมีรสหวานมัน มีสรรพคุณช่วยบารุงร่างกาย (เมล็ด)[1] หากความจาเสื่อมหรือลืมง่าย ให้ใช้ยอดเกสรเพศเมียแห้ง เอามาใส่ในกล้องยาสูบแล้ว ใช้จุดสูบ (เกสรเพศเมีย)[4] เมล็ดมีสรรพคุณช่วยบารุงปอดและหัวใจ (เมล็ด)[1],[2],[4] ยอดเกสรเพศเมียและฝอยข้าวโพด ใช้เป็นยาแก้เบาหวาน ด้วยการใช้ยอกเกสรเพศเมียที่ ตากแห้งแล้วประมาณ 30 กรัม นามาต้มกับน้ากิน (เกสรเพศเมีย,ฝอย)[2],[3],[4] ยอดเกสรเพศเมียหรือไหมข้าวโพด และฝอยข้าวโพด มีสรรพคุณช่วยแก้โรคความดัน โลหิตสูง ตามตารับยาจะใช้ยอดเกสรเพศเมียที่แห้งแล้ว เปลือกกล้วยแห้ง และเปลือกแตงโมแห้ง อย่างละเท่ากัน นามาต้มกับน้ากิน (เกสรเพศเมีย,ฝอย)[1],[2],[3],[4] ต้นและเมล็ดมีสรรพคุณช่วยทาให้เจริญอาหาร (ต้น,เมล็ด)[2],[4] เกสรเพศเมียมีรสหวาน เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อกระเพาะลาไส้และทางเดินปัสสาวะ มี สรรพคุณขับความร้อนชื้น แก้อาการกระหายน้า (เกสรเพศเมีย)[2],[3]
  21. 21. ช่วยแก้ไข้ทับระดู (ต้น)[2] ช่วยแก้โลหิตกาเดา (เกสรเพศเมีย)[2],[3],[4] หากตรากตราทางานหนัก มีอาการไอเป็นเลือดหรือตกเลือด ให้ใช้ยอดเกสรเพศเมีย นามาต้ม กับเนื้อสัตว์รับประทาน (เกสรเพศเมีย)[4] ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน (ฝอย)[2] รากและเมล็ด ช่วยแก้อาการเจียน (ราก,เมล็ด)[2] ราก และเกสรเพศเมีย มีสรรพคุณช่วยแก้อาเจียนเป็นโลหิต ด้วยการใช้รากข้าวโพดแห้งประมาณ 60-120 กรัม นามาต้มกับน้ารับประทาน (ราก,เกสรเพศเมีย)[1],[3],[4] ช่วยแก้โพรงจมูกอักเสบ จมูกอักเสบเรื้อรัง (เกสรเพศเมีย)[1],[3],[4] สาหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ โดยมีอาการเจ็บแปลบที่หน้าอกเพียงจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นซีกซ้ายหรือขวาก็ได้ และจะเจ็บเพียงชั่วขณะที่หายใจเข้าลึก ๆ ที่ปลอดขยายตัวเต็มที่ เลย ทาให้ส่วนที่อักเสบเกิดการเสียดสีกัน ถ้าเป็นเยื่อหุ้มปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสชนิดที่ไม่รุนแรง ก็จะ ไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ แต่สาหรับอาการที่เห็นทั่วไปจะมีเหงื่อเย็น ๆ ออกจนเปียกข้างลาตัว ให้ใช้เกสร เพศเมีย 1 กิโลกรัม นามานึ่งแล้วใช้พอกบริเวณปอด จะช่วยทาให้มีอาการดีขึ้น หรือจะนามาต้มกับน้าดื่ม ก็ได้ผลเช่นกัน (เกสรเพศเมีย)[9]
  22. 22. สาหรับผู้ที่ได้รับการผ่าตัดโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร ให้ใช้เมล็ดข้าวโพดนามาต้มใส่เกลือ เล็กน้อยและไข่ขาว แล้วนามารับประทานเป็นอาหารเสริม (เมล็ด)[3] ซังข้าวโพดมีรสจืดชุ่ม ใช้ซังแห้งประมาณ 10-12 กรัม นามาต้มกับน้าดื่ม หรือนามาเผาเป็น ถ่านผสมกับน้ากินเป็นยาแก้บิด แก้อาการท้องร่วง (ซัง)[1],[2],[4] ราก เกสรเพศเมีย ซัง และเมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ ตามตารับยาจะใช้รากแห้ง ประมาณ 60-120 กรัม นามาต้มกับน้าดื่ม หรือจะใช้ยอดเกสรเพศเมียหรือซังข้าวโพดเอามาต้มกับน้ากิน แทนน้าชาก็ได้ (ราก,เกสรเพศเมีย,ฝอย,ซัง,เมล็ด)[1],[2],[3],[4]ใช้เกสรเพศเมียประมาณ 10-20 กรัม นามา ต้มกับน้าดื่มทุกวันเป็นยาแก้โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังหรือเฉียบพลัน ช่วยแก้โรคทางเดิน ปัสสาวะอักเสบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ รวมถึงนิ่วในอวัยวะอื่น ๆ ด้วย (เกสรเพศเมีย)[9] ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ (ลาต้น,ใบ,เกสรเพศเมีย)[3] ช่วยแก้ปัสสาวะขัด (ซัง)[2] ราก ต้นและใบมีรสออกหวาน ใช้เป็นยาแก้นิ่ว ขับนิ่ว ตามตารับยาให้ใช้ต้นและใบสดหรือแห้ง จานวนพอสมควร นามาต้มกับน้าดื่มเป็นยาแก้นิ่ว ขับนิ่ว ถ้าเป็นรากให้ใช้รากแห้งประมาณ 60-120 กรัม นามาต้มกับดื่ม (ราก,ต้นและใบ,ฝอย)[1],[2],[4]
  23. 23. ใช้ซังแห้งประมาณ 10-12 กรัม นามาต้มกับน้าดื่ม หรือนามาเผาเป็นถ่านผสมกับน้ากินเป็น ยาบารุงม้าม (ซัง)[1],[4] ช่วยแก้อาการบวมน้า ด้วยการใช้ซังแห้งประมาณ 10-12 กรัม นามาต้มกับน้าดื่ม หรือนามา เผาให้เป็นถ่านแล้วผสมกับน้ากิน หรือจะใช้ซังข้าวโพดแห้ง 60 กรัม ผสมกับฮวงเฮียงก้วย 30 กรัม (ผล ของ Liquidambar taiwaniana Hance.) นามาต้มกับน้ากิน ส่วนเกสรเพศเมียมีสรรพคุณ ช่วยแก้อาการบวมน้า ขาบวม ซึ่งตามตารับยาจะใช้เกสรเพศเมีย 30 กรัม, หญ้าหนวดแมว 20 กรัม, หญ้า คา 20 กรัม, ข้าวเย็นเหนือ 25 กรัม, ข้าวเย็นใต้ 25 กรัม, และโกฐน้าเต้า 5 กรัม นามาต้มกับน้า รับประทาน ส่วนอีกตารับจะใช้เกสรเพศเมีย 50 กรัม ผสมกับเมล็ดเทียนเกล็ดหอย 15 กรัม นามาต้มกับ น้าดื่มวันละ 3 ครั้ง (เกสรเพศเมีย,ซัง)[1],[2],[3],[4],[9] เมล็ดนามาบดพอกแผลเพื่อทาให้เยื่ออ่อนนุ่มไม่ให้เกิดการระคายเคือง (เมล็ด)[1],[4] หากเกิดบาดแผล ให้ใช้เกสรเพศเมียสด ๆ นามาตาให้ละเอียดแล้วใช้เป็นยาพอกแผล จะช่วย ทาให้อาการดีขึ้น (เกสรเพศเมีย)[9] สาหรับเด็กที่เป็นแผลที่ผิวหนัง และมีเลือดออก ให้ใช้ซังข้าวโพดนามาเผาให้เป็นเถ้า แล้ว นามาผสมกับน้ามันเมล็ดป่านหรือน้ามันพืช ใช้เป็นยาทา (ซัง)[4]
  24. 24. แอบเปิ้ ล
  25. 25. แอปเปิ้ลมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยในการชะลอวัย แอปเปิ้ลเหมาะกับการเป็นอาหารที่ช่วยในการควบคุมน้าหนัก ช่วยลดความอาหารลง แม้ แอปเปิ้ลจะมีน้าตาลแต่ร่างกายก็สามารถดูดซึมและนาไปใช้ประโยชน์ ได้ภายในสิบนาที ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด หากรับประทานเป็นประจาวันละ 2-3 ผล เป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน ที่ต้องการควบคุมน้าตาลในเลือด เพราะแอปเปิ้ลมีไฟ เบอร์ชนิดละลายน้าในปริมาณสูงที่จะช่วยลดระดับน้าตาลในเลือดด้วย เป็นอาหารที่เหมาะอย่างยิ่งสาหรับผู้ป่วยภาวะเลือดเป็นกรดไขข้อรูมาติก โรคเกาต์ ดีซ่าน แอปเปิ้ลก็มีส่วนช่วยในการป้ องกันการเกิดฝ้ าได้เหมือนกันนะ ช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ ช่วยป้ องกันการเกิดโรคมะเร็งลาไส้ใหญ่ได้โดยตรง ช่วยป้ องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
  26. 26. ช่วยป้ องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง ช่วยป้ องกันการเกิดโรคต้อกระจก ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยลดไข้ และช่วยลดการอักเสบ ช่วยละลายเสมหะ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยบารุงหัวใจ แอปเปิ้ลไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในเนื้อเท่านั้น สาหรับเปลือกก็จัดว่ามีประโยชน์มากมายเลย ทีเดียว สาหรับใครที่ไม่ชอบรับประทานเปลือก ขอให้รู้ไว้ว่าว่าเปลือกก็มีความสาคัญไม่แพ้เนื้อเลยทีเดียว เนื่องจากมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยกาจัดสารพิษในร่างกายของเรา มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ และ ที่สาคัญยังช่วยป้ องกันโรคมะเร็งลาไส้ใหญ่ได้อีกด้วย ซึ่งก็ตรงกับงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุเอาไว้ว่าแอป เปิ้ลนั้นเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ “การรับประทานแอปเปิ้ลวันละ 1 ลูกจะป้ องกันการเกิดโรคมะเร็งลาไส้ ใหญ่ได้โดยตรง” แต่ทั้งนี้เวลากินก็ควรจะล้างน้าให้ สะอาดด้วย (ไม่ต้องปอกเปลือกนะ ขนาดอาดัมกับ อีฟยังหม่าทั้งลูก)
  27. 27. กล้วย
  28. 28. ช่วยลดกลิ่นปากได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ควรทานหลังตื่นนอนตอนเช้าทันที แล้วค่อยแปรงฟัน และถ้าเป็นกล้วยน้าว้าจะยิ่งช่วยลดกลิ่นปากได้ดีขึ้น กล้วย ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆที่สาคัญและจาเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาโบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และวิตามินซี ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของคุณ เพราะมีสารที่ช่วยทาให้มีเกิดสมาธิและมี การตื่นตัวตลอดเวลา กล้วยก็มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเหมือนกันนะ ที่ช่วยในการชะลอความแก่ ตัวของร่างกายนั่นเอง กล้วยมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะช่วยปรับระดับน้าตาลในเลือก ช่วยให้ลดอาการอยากกินของจุกจิกลงได้พอสมควร สาหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ กล้วยคือคาตออบสาหรับคุณ อาการหงุดหงิดยามเช้า กล้วยก็ช่วยคุณได้เหมือนกัน ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงในช่วงประจาเดือนมา
  29. 29. ช่วยลดอาการเมาค้างได้ดีระดับหนึ่ง เพราะจะช่วยชดเชยน้าตาลที่ร่างกาย ขาดไปในขณะดื่มแอลกอฮอล์ เป็นตัวช่วยสาหรับผู้ที่ต้องการอยากเลิกสูบบุหรี่ เพราะในกล้วยมีวิตามินเอ ซี บี6 บี12 โพรแทสเซียม และแมกนีเซียมที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นจากการเลิก นิโคติน ช่วยรักษาอาการท้องผูก เพราะกล้วยมีเส้นใยและกากอาหารซึ่งจะช่วยให้ ขับถ่ายได้อย่างปกติ ช่วยบรรเทาอาการของริดสีดวงทวาร หรือในขณะขับถ่ายจะมีเลือดออกมา ช่วยลดอาการเสียดท้อง ลดกรดในกระเพาะ การกินกล้วยจะทาให้คุณรู้สึก ผ่อนคลายจากอาการนี้ได้ ช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะช่วยในการ ผลิตฮีโมโกลบินในเลือด เพื่อรักษาภาวะโลหิตจางหรือผู้ที่อยู่ในสภาวะขาดกาลัง ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง หรือเส้นเลือดฝอยแตกได้
  30. 30. ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดเส้นโลหิตแตกได้ สาหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกระเพาะอักเสบ การรับประทานกล้วยบ่อย ๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลาง มีความนิ่มและเส้นใยสูง ช่วยรักษาแผลในลาไส้เรื้อรัง เพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลาง ทาให้ไม่เกิดการ ละคายเคืองในผนังลาไส้และกระเพาะอาหารด้วย ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ภาวะความเครียด เพราะกล้วยมีโปรตีนชิดหนึ่งที่ เรียกว่า Tryptophan ซึ่งช่วยในการผลิตสาร Serotonin หรือ ฮอร์โมนแห่ง ความสุข จึงส่วนช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดอัตราการเกิดตะคริวบริเวณมือ เท้า และน่องได้ ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องของมารดาลงได้ กล้วย สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการนิ่วในไตได้ในระดับหนึ่ง
  31. 31. มะนาว
  32. 32. ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ช่วยแก้อาเจียน เป็นลมวิงเวียนศีรษะ เมาเหล้าได้ ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงและต่า รู้หรือไม่ว่ามะนาวก็เป็นยาอายุวัฒนะ และช่วยในการเจริญอาหารได้ด้วย แก้อาการวิงเวียนหลังคลอดบุตร แก้อาการลมเงียบ ด้วยการเอาใบมะนาวมาต้มกินกับยาหอม แก้โรคตาแดง ใช้เป็นยาแก้ไข้ก็ได้เหมือกัน ด้วยการนาใบมาหั่นเป็นฝอย ๆ แล้วนามาชงในน้าเดือด ดื่มเป็น น้าชาหรือใช้อมกลั้วคอเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรค ใช้ในการแก้ไข้ทับระดู ด้วยการเอาใบมะนาวประมาณ 100 ใบมาต้มกิน สามารถช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด หรือเลือดออกตามไรฟันได้ เพราะในมะนาวมีวิตามินซี สูงมาก มะนาวช่วยในการขับเสมหะ ช่วยแก้ไอ หรืออาการไอที่มีเลือดปนออกมา ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการลงได้ดีในระดับหนึ่ง ช่วยบรรเทาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการเสียบแหบแห้ง ช่วยลดอาการเหงือกบวม
  33. 33. ใช้เป็นยาบ้วนปาก ด้วยการใช้น้ามะนาว 3-4 หยด ก็จะทาให้ช่องปากสะอาดมากยิ่งขึ้น ช่วยแก้ลิ้นเป็นฝ้ า ด้วยการใช้สาลีชุบน้ามะนาวเช็ดที่ลิ้นวันละ 2-3 ครั้ง ช่วยในการขจัดคราบบุหรี่ แก้เล็บขบ ด้วยการนามะนาวมาผ่าส่วนหัวแล้วคว้านเอาเนื้อข้างในออกเล็กน้อย แล้วใช้ปูน ทาบาง ๆ แล้วเอานิ้วสอดเข้าไป ก้างติดคอ ให้นาน้ํามะนาว 1 ลูกมาคั้นแล้เติมเกลือ ใส่น้าตาลเล็กน้อยแล้วกรอกลงไปให้ ตรงกับบริเวณที่ก้างติดคอ อมไว้สักครู่แล้วค่อย ๆกลืน ก้างปลาจะอ่อน ตัวลงแล้วหลุดลงไปในกระเพาะ ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้ อ ปวดท้อง แน่นท้อง ด้วยการนาน้ามะนาวมาใช้กินกับ น้าตาล แก้อาการท้องร่วง ด้วยการดื่มน้ามะนาว ช่วยการขับพยาธิไส้เดือน ด้วยการดื่มน้าผึ้งผสมมะนาว ช่วยรักษาอาการท้องผูก ด้วยการดื่มน้ามะนาวผสมเกลือเล็กน้อย ก็เป็นยาระบายชั้นดี ช่วยรักษาโรคกระเพาะ ด้วยการนาเปลือกมะนาวมาชงกับน้าอุ่น และดื่มเป็นยา แก้อาการบิด ด้วยการใช้มะนาวกับน้าผึ้งอย่างละเท่า ๆกัน แล้วนามาดื่ม แก้อาการปัสสาวะกระปริบกระปอย ด้วยการใช้ใบนะนาวสดต้มกับน้าตาลแดง สรรพคุณของมะนาวก็ช่วยรักษาโรคนิ่วได้เหมือนกัน แก้อาการระดูขาว ด้วยการดื่มน้ามะนาวผสมเกลือกับน้าตาลนิดหน่อย
  34. 34. แก้ผิดสาแลง นารากมะนาวมาฝนกับน้าซาวข้าวแล้วนามารับประทาน ช่วยฟอกโลหิต ด้วยการนาใบมะนาวต้มผสมกับน้าแล้วนามาดื่มเป็นประจา ช่วยบารุงโลหิต รักษาโรคโลหิตจาง ด้วยการนาน้ามะนาวผสมกับน้าหวานและปรุงด้วย เกลือทะเลพอสมควร ใส่น้าแข็งนามาดื่ม แก้โรคเหน็บชา ร้อนในกระหายน้าด้วยการดื่มน้ามะนาว ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียด้วยการดื่มน้ามะนาวผสมน้าตาล การดื่มน้ามะนาวจะช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้อีกด้วย รักษาโรคผิวหนัง ด้วยการนาน้ามะนาวมาทาบริเวณที่เป็น บรรเทาอาการคันบริเวณผิวหนัง แก้สังคัง ใช้มะนาวผ่าซีกแล้วนามาทาบริเวณดังกล่าว เป็นประจาก่อนเข้านอนแล้วหลังตื่น นอน แก้ปัญหา กาก เกลื้อน หิด ด้วยการนากามะถันมาตาให้ละเอียดผสมกับน้ามะนาว แล้ว นามาทาบริเวณดังกล่าวหลังอาบน้า แก้หูด ด้วยการใช้เปลือกมะนาวนามาหมักกับน้าส้มสายชูประมาณ 2 วันแล้วนาเปลือกมา ปิดทับบริเวณที่เป็นหูด แก้ฝีและอาการปวดฝี โดยใช้รากมะนาวสดมาฝนกับเหล้าและนามาทา ขูดเอาผิวมะนาว ผสมกับปูนแดงปิดไว้
  35. 35. แก้ฝีมะตอย ด้วยการนามะนาวทั้งลูก มาคว้านไส้ด้านในออกให้พอเอานิ้วแหย่เข้าไปได้ แล้วนามาปูนกินหมากทาเข้าไปในลูกมะนาวเล็กน้อย แล้วสวมนิ้วเข้า ไป รักษาโรคน้ากัดเท้า หรือปูนซีเมนต์กัดเท้าด้วยการใช้น้ามะนาวทาบริเวณดังกล่าว ทิ้งไว้ให้ แห้งแล้วล้างออก แก้ผิวหนังฟกช้า หัวโน อาการปวดบวม ปูดแดง ด้วยนาน้ามะนาวกับดินสอพองมาผสมให้ เข้ากัน แล้วทาบริเวณดังกล่าววันละ 1-2 ครั้ง แก้แผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก พุพองแสบร้อน ด้วยการใช้น้ามะนาวชโลมบริเวณดังกล่าว แก้แผลบาดทะยัก ด้วยการใช้น้ามะนาวมาทาบริเวณที่เกิดบาดแผล ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น ด้วยการใช้น้ามะนาวผสมดินสอพองให้เข้ากัน แล้วนามาทา บริเวณที่เป็นรอยแผล ช่วยบรรเทาอาการคันหนังศีรษะ ด้วยการใช้น้ามะนาวนวดศีรษะให้ทั่วแล้วค่อยสระผม น้ามะนาวช่วยดับกลิ่นเต่าหรือกลิ่นกายได้เหมือนกัน โดยนาน้ามะนาวมาทาบริเวณรักแร้ แก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย และช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด แก้พิษจากการโดนงูกัด ป้ องกันภัยจากงู ด้วยการใช้เปลือกวางไว้บริเวณใกล้ที่นอน ๆ งูจะไม่มารบกวนเพราะได้กลิ่น มะนาว
  36. 36. แก้แมงคาเรืองเข้าหู ด้วยการใช้น้ามะนาวหยอดหู หุงข้าวให้ขาวและอร่อยขึ้น ด้วยการนาน้ามะนาวประมาณ 2-3 ช้อนแล้วนาไปซาวข้าว ทอดไขให้ฟูและนิ่ม มะนาว 4-5 หยดจะช่วยได้ มะนาวช่วยลดกลิ่นคาวจากปลาเมื่อทาอาหาร และทาให้ปลาคงรูปไม่เละ สาหรับแม่ครัวที่หั่นหรือเด็ดผักเป็นประจา จะทาให้เล็บมือเป็นสีดา นามะนาวมาถูจะช่วย ปัญหาดังกล่าวได้ หากใช้มีดผ่าปลีกกล้วย มีดจะมีสีม่วงคล่า ล้างออกลาบาก นามานาวที่ผ่าแล้วมาถูกตาม ใบมีดจะช่วยมีดของคุณสะอาดดังเดิม การเชื่อมกล้วยหักมุมให้น่ารับประทาน เมื่อน้าตาลเดือดเป็นยางมะตูมแล้ว ให้บีบมะนาว ครึ่งซึกลงไป จะช่วยให้กล้วยใสน่าทานมากยิ่งขึ้น มะนาว 2-3 ลูกใส่ไว้ในถังข้าวสารช่วยป้ องกันมอดได้ เปลือกมะนาวสามารถนามาเช็ดภาชนะให้เงางามขึ้นได้ เช่น เครื่องเงิน ทองเหลือง ทองแดง เป็นต้น
  37. 37. มะพร้าว
  38. 38. ประโยชน์น้ามะพร้าว จะช่วยทาให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ขาวนวลขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ (น้ามะพร้าว) ยอดอ่อนมะพร้าว น้ามะพร้าวมะส่วนสาคัญอย่างมากต่อการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งทาให้ผิวมีความ ยืดหยุ่น กระชับ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดี (น้ามะพร้าว) ประโยชน์ของน้ามะพร้าว มีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญโตและการแบ่งเซลล์ได้เป็นอย่างดี (น้า มะพร้าว) ในเนื้อและน้ามันมะพร้าวอ่อนมีวิตามินและแร่ธาตุที่จาเป็นสาหรับร่างกายอย่างครบถ้วนไม่ ว่าจะเป็น วิตามินซี วิตามินบี กรดอะมิโน ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุ โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก และยังมีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้ ภายใน 5 นาที (น้ามะพร้าว)
  39. 39. น้ามะพร้าว ประโยชน์ใช้เป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติที่ทาให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและไม่มี อันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย (ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและโรคไต) น้ามะพร้าวเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นจึงช่วยดับร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี (น้ามะพร้าว) น้ามะพร้าวอ่อนมีคุณสมบัติเป็นธาตุเย็น ช่วยล้างพิษขับพิษของเสียออกจากร่างกาย หรือ ช่วยดีท็อกซ์นั่นเอง (น้ามะพร้าว) ประโยชน์ของมะพร้าว ช่วยบารุงร่างกาย (เนื้อมะพร้าว) ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ในช่วงที่ร่างกายมีความเป็นกรดสูง เพราะน้ามะพร้าวมีความ เป็นด่าง ทาให้กลไกการทางานของระบบต่าง ๆภายในร่างกายเป็นปกติส่งผลให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง (น้ามะพร้าว) ช่วยบารุงโลหิต (ดอก) ใช้เป็นเครื่องดื่มธรรมชาติที่ให้เกลือแร่ได้เป็นอย่างดีจึงเหมาะสาหรับนักกีฬา เนื่องจากอุดม ไปด้วย ธาตุโพแทสเซียม (น้ามะพร้าว)
  40. 40. ช่วยแก้กระหายน้า (น้ามะพร้าว,เนื้อมะพร้าว,ดอก) น้ามะพร้าวลดบวม ช่วยแก้อาการบวมน้า (น้ามะพร้าว) น้ามะพร้าวมีคุณสมบัติปลอดเชื้อโรค จึงนาไปใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดได้ สาหรับผู้ป่วยที่มีอาการ ขาดน้าหรือปริมาณเลือดลดแบบผิดปกติได้ (น้ามะพร้าว) ประโยชน์ของน้ามะพร้าวอ่อน ช่วยป้ องกันหรือชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ภาวะความจา เสื่อมในสตรีวัยทอง เนื่องจากมีปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง (น้ามะพร้าวอ่อน) ช่วยป้ องกันการเกิดโรคหัวใจ และช่วยรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ (น้ามะพร้าวอ่อน) ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้มะพร้าวแก่ขูดเอาเนื้อมาคั่วให้เหลือง โรยเกลือเล็กน้อย ใส่ภาชนะปิดให้แน่น แล้วนามารับประทานครั้งละ 1 ช้อนแกง เช้า กลางวัน เย็น ประมาณ 10 วันจะ ช่วยทาให้ระดับน้าตาลลดลงเรื่อย ๆช่วยเบาทาอาการปวดหัวปวดศีรษะได้ (น้ามะพร้าวอ่อน) นามาใช้รักษาโรคคอตีบได้ (เปลือกหุ้มรากของมะพร้าว )
  41. 41. ช่วยแก้อาการตาอักเสบ ด้วยการใช้น้ามะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย นามาผสมกับน้าตาลทรายแดง ไว้ดื่มเช้าและเย็น อาการอักเสบก็จะค่อย ๆหายไปเอง (น้ามะพร้าวอ่อน) ช่วยแก้อาการระคายเคืองตา ด้วยการใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนสด ๆ แปะที่ดวงตา อาการจะค่อย ๆทุเลาลง (เนื้อมะพร้าว) ช่วยลดอาการไข้สูง ตัวร้อน เพราะมีฤทธิ์เป็นยาเย็นจึงช่วยทุเลาอาการไข้ได้(น้ามะพร้าว อ่อน,เนื้อมะพร้าว) ใช้รักษาคนไข้ที่มีภาวะความเป็นกรดในเลือดสูง (น้ามะพร้าวอ่อน) กาบมะพร้าวช่วยแก้ไข้ทับระดู ด้วยเอาจั่นมะพร้าว ที่ยังมีกาบหุ้มอยู่นามาต้มน้าดื่ม เช้า กลางวัน เย็น อาการจะค่อยดีขึ้น (บางคนใช้รากก็ได้ผลเหมือนกัน) ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการดื่มน้ามะพร้าวอ่อนในช่วงเช้า และช่วงบ่าย (รับประทานเนื้อ ด้วย)
  42. 42. ช่วยแก้อาการปวดฟัน ด้วยการใช้กะลามะพร้าวแก่จัด ที่มีรู ขูดเอาเนื้อออกใหม่ ๆ ใส่ถ่านไฟ แดงลงไป แล้วรองเอาน้ามันมะพร้าวที่ไหลออกมาเก็บใส่ภาชนะปิดให้มิดชิด แล้วใช้สาลีพันปลายไม้ชุบ น้ามันที่ได้อุดรูฟันที่ปวด แต่อย่าให้สัมผัสกับเหงือกหรือเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆโดยตรง เพราะจะทาให้ชา ได้ (น้ามันจากกะลามะพร้าว) ประโยชน์มะพร้าว ช่วยกล่อมเสมหะ (ดอก) ช่วยแก้อาการอาเจียนเป็นเลือด (น้ามะพร้าว) สรรพคุณน้ามะพร้าว ช่วยรักษาโรคกระเพาะ (น้ามะพร้าวอ่อน) ใช้แก้อาการท้องเสีย ด้วยการใช้รากล้างสะอาดประมาณ 3 กามือ ทุบพอแตกต้มน้า 5 แก้ว เคี่ยวเอา 2 แก้ว แบ่งรับประทานครั้งละครึ่งแก้ว เช่า กลางวัน เย็น (ดอก,ราก,กะลา) ช่วยแก้โรคบิด ด้วยการดื่มน้ามะพร้าวอ่อน เช้า กลางวัน เย็น อาการจะดีขึ้น (น้ามะพร้าว อ่อน)
  43. 43. ช่วยแก้อาการไอ ด้วยการดื่มน้ามะพร้าวห้าว (น้ามะพร้าวห้าว) ช่วยแก้อาการปากเปื่อย ปากเป็นแผล ด้วยการอมน้ากะทิสด ๆ จากมะพร้าวแก่ประมาณ 5- 10 นาที ประมาณ 3 วันแผลจะหายเร็วขึ้น (น้ากะทิสด) ใช้แก้อาการเจ็บฟัน ด้วยการใช้เปลือกต้นสดนาไปเผาไฟให้เป็นเถ้าแล้วนามาสีฟัน (เปลือก ต้นสดมะพร้าว) ใช้เป็นยาแก้อาการเจ็บปากเจ็บคอ (ดอก) รากใช้อมบ้วนปากแก้อาการเจ็บคอ (ราก) ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ด้วยการใช้มะนาว 1 ซีกบีบผสมกับน้ามะพร้าวอ่อนแล้วดื่ม (น้ามะพร้าวอ่อนผสมมะนาว) สาหรับผู้ที่อาเจียนและท้องร่วงในเวลาเดียวกันให้ดื่มน้ามะพร้าว จะช่วยทาให้ร่างกายดูดซึม กลูโคสไปใช้ได้เร็ว ทาให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติได้ (น้ามะพร้าว)
  44. 44. ช่วยรักษาโรคลาไส้อักเสบ ด้วยการใช้เปลือกมะพร้าวมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนามาต้มน้า ดื่ม อาการจะค่อย ๆดีขึ้น (ควรใช้เปลือกมะพร้าวห้าว หรือมะพร้าวแก่) ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้ อ จุกเสียดแน่นท้อง ด้วยการใช้กะลามะพร้าวสะอาดมาเผาไฟ จนแดง แล้วคีบเก็บไว้ในปี๊ปสะอาดปิดฝาให้เรียบร้อย จะได้ถ่านกะลาสีดา นามาบดเป็นผงรับประทาน ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ (กะลา) ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียจากอาการท้องเสียท้องร่วงได้ ช่วยเติมพลังหลังการเสียเหงื่อ เสียน้าและเกลือแร่ในร่างกาย (น้ามะพร้าวอ่อน) ช่วยขับปัสสาวะ (น้ามะพร้าวอ่อน,เนื้อมะพร้าว,ราก) จาวมะพร้าวน้ามะพร้าว สรรพคุณช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ (น้ามะพร้าวอ่อน) ช่วยแก้นิ่ว ด้วยการดื่มน้ามะพร้าวอ่อน เช้า กลางวัน เย็น อาการจะดีขึ้นมาก (น้ามะพร้าว อ่อน)
  45. 45. ช่วยรักษาโรคตับและไต (ยังไม่ยืนยัน) ช่วยรักษาโรคดีซ่าน ด้วยการดื่มน้ามะพร้าวอ่อน เช้า กลางวัน เย็น เพียง 2 วันอาการก็จะดี ขึ้นมาก (น้ามะพร้าว) ใช้ถ่ายพยาธิได้ (น้ามะพร้าว,เนื้อมะพร้าว) ช่วยบารุงและแก้อาการปวดกระดูกและเอ็น (น้ามันจากกะลามะพร้าว) ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ อักเสบ ช้าบวม ด้วยการใช้น้ากะทิเคี่ยวให้ร้อน แล้ว นาผักเสี้ยนผีล้างให้สะอาดสับเคี่ยวเข้าด้วยกัน ใส่เมนทอลเล็กน้อยเพื่อให้มีกลิ่นหอมและช่วยให้ตัวยา แทรกซึมได้ดีขึ้น เสร็จแล้วนามานวดบริเวณที่มีอาการ (น้ากะทิเคี่ยว) ช่วยแก้อาการเม็ดผดผื่นคันตามตัว ด้วยการดื่มน้ามะพร้าวอ่อนเป็นประจา (น้ามะพร้าว อ่อน) สรรพคุณของมะพร้าว สามารถใช้รักษาโรคผิวหนังได้ (น้ามันจากกะลามะพร้าว) ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้นและป้ องกันการเกิดแผลเป็น ด้วยการใช้น้ามันมะพร้าวที่ได้จาก กะลาเผาไฟถ่าน นามาทาที่แผล จะทาให้แผลหายเร็วภายในไม่กี่วัน และจะไม่เกิดรอยแผลเป็น (น้ามัน จากกะลามะพร้าว)
  46. 46. ใช้รักษาแผลเรื้อรัง ด้วยการเอากะลามะพร้าวมาถูตะไบเอาผง นามาผสมกับน้ามันมะพร้าว ใส่พิมเสนเล็กน้อย แล้วนามาทาบริเวณแผลเช้า กลางวัน เย็น ใช้ทาแก้ผิวหนังแตกลาย (น้ามันจากกะลามะพร้าว) ใช้เป็นยาทาแก้กลากเกลื้อนได้ ด้วยการใช้กะลามะพร้าวแก่จัดที่ขูดแล้ว มีรู มาใส่ถ่านไฟ แดง ๆ น้ามันมะพร้าวจะไหลออกมา แล้วนามาทาบริเวณที่เป็นทิ้งไว้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ยางจะติดอยู่ เกลื้อนจะค่อย ๆหายไป (น้ามันจากกะลามะพร้าว) สรรพคุณมะพร้าว ช่วยรักษาเล็บขบ ฝ่ามือแตกลาย ด้วยการใช้น้ามันมะพร้าวที่ได้จากการ เผากะลามาทาเช้า กลางวัน เย็น หรือหยอดบริเวณที่เป็นเล็บขบ จะหายเร็วขึ้นและไม่มีอาการปวด (น้ามันจากกะลามะพร้าว) ช่วยรักษาโรคอีสุกอีใส ด้วยการใช้ใบมะพร้าวต้มน้าดื่ม (ใบมะพร้าว) ใช้ทาแก้หิด (เปลือกต้นสดมะพร้าว) ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก ด้วยการใช้มะพร้าวกะทิปิดบริเวณแผล (มะพร้าวกะทิ) ในไต้หวันและจีน นิยมดื่มน้ามะพร้าวเพื่อช่วยลดอาการเมา แก้อาเจียนหลังการดื่ม แอลกอฮอล์ (น้ามะพร้าว) ช่วยแก้พิษเบื่อเมา ด้วยการดื่มน้ามะพร้าว ซึ่งจะช่วยล้างพิษที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี (น้า มะพร้าวอ่อน)

×