Publicidad

ภารกิจการเรียนรู้ ครูผู้ช่วย

กำลังศึกษา en โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร ( Nongbuapittayakarn school )
11 de Jul de 2012
Publicidad

Más contenido relacionado

Similar a ภารกิจการเรียนรู้ ครูผู้ช่วย(20)

Publicidad

ภารกิจการเรียนรู้ ครูผู้ช่วย

  1. การเรียนรู้
  2. ครูบุญมี
  3. ห้องเรียนที่ 1 จากสถานการณ์ ครูบุญมี เป็นครูสอนวิชาภาษาไทย ในการสอนแต่ละชั่วโมง ครูจะใช้วิธีการบรรยาย ส่วนไหนที่ส้าคัญก็จะเน้นย้้าให้นักเรียนจด บันทึกและท่องซ้้าหลายครั้ง ทุกวันครูจะให้นักเรียนท่องค้าศัพท์วันละ 5 ค้า พร้อมทั้งคัดลายมือมาส่ง สื่อที่ครูใช้ประจ้าคือ บทเรียน โปรแกรมและชุดการสอน นอกจากนี้เมื่อเรียนจบแต่ละบทครูบุญมีก็ จะท้าการสอบเก็บคะแนน ถ้านักเรียนสอบตกก็จะให้สอบใหม่จนกว่า จะผ่านตามเกณฑ์
  4. ห้องเรียนที่ 1 ครูบุญช่วย เป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ในการสอนแต่ละครั้ง ครูจะน้าเข้าสู่บทเรียนโดยเชื่อมโยงเนื้อหาที่เรียนกับประสบการณ์เดิม ของผู้เรียน เช่นการใช้ค้าถาม การยกตัวอย่างเหตุการณ์ในชีวิตประจ้าวัน ข่าวสารต่าง ๆ เป็นต้น หลักจากนั้นครูจะแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มแล้ว มอบสถานการณ์ปัญหาหรือภารกิจการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทุก ๆ กลุ่ม นอกจากนี้ครูยังเตรียมแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หนังสือ วีดิทัศน์ เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ เพื่อให้ผู้เรียนค้นหาค้าตอบ
  5. ห้องเรียนที่ 1 และร่วมมือกันเรียนรู้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การลงมือ ทดลองเพื่อทดสอบแนวคิดของกลุ่ม โดยมีครูเป็นผู้ให้ค้าแนะน้า หาก พบว่ามีผู้เรียนคนใดหรือกลุ่มใดเข้าคลาดเคลื่อน ครูก็จะเข้าไปอธิบาย และกระตุ้นให้คิด หลังจากได้ค้าตอบแล้วทุกกลุ่มก็จะน้าเสนอ แนวความคิด และร่วมกันสรุปบทเรียนเป็นความเข้าใจของตนเอง
  6. ห้องเรียนที่ 1 ครูบุญชู สามารถสอนให้นักเรียนจ้าค้าศัพท์ภาษาอังกฤษได้ โดยไม่ลืม ซึ่งครูมีเทคนิคดังนี้ การแต่งเป็นบทเพลง การใช้ค้าคล้องจอง การใช้แผนภูมิรูปภาพประกอบเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเข้าใจถึง ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบ เช่น แผนผังแสดงความสัมพันธ์ของ คนในครอบครัว และที่น่าสนใจคือ การให้ผู้เรียนจ้าค้าศัพท์ โดยใช้การ ออกเสียงภาษาอังกฤษที่เหมือนกับภาษาไทย เช่น pic กับ พริก และ bear กับ แบมือ พร้อมมีรูปประกอบซึ่งเป็นการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมที่ ผู้เรียนรู้จักมาช่วยในการจดจ้าค้าศัพท์
  7. 1. ให้ท่านวิเคราะห์วิธีการจัดการเรียนรู้ของครูแต่ละคนว่าอยู่ใน กระบวนทัศน์การออกแบบการสอนใด และมีพื้นฐานมาจากทฤษฎี การเรียนรู้ใดบ้าง พร้อมอธิบายเหตุผล
  8. ครูบุญมี มีกระบวนทัศน์การออกแบบการสอน คือเน้นครู เป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีตามพื้นฐานทฤษฎีแนวพฤติกรรมนิยม เหตุผลคือ พื้นฐานทฤษฎีแนวพฤติกรรมนิยมนั้น มุ่งเน้นไป ยังพฤติกรรมที่สังเกตได้ และบทบาทของผู้เรียนคือเป็นผู้รับข้อมูล สารสนเทศ ซึ่งถูกถ่ายทอดจากครูโดยตรง ครูจะสร้างสิ่งแวดล้อมที่ ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ การอออกแบการสอนและ
  9. ซึ่งครูบุญมีก็เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และน้าสิ่งเล้ามาให้กับ นักเรียน โดยนักเรียนรอรับอย่างเดียว อีกทั้งครูบุญมียังดูว่ามีนักเรียน ท้าการบ้านหรือท่องค้าศัพท์วันละ 5 ค้า มาหรือไม่ และนักเรียนคน ใดสอบผ่านบ้าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าครูบุญมีมุ่งเน้นไปยังพฤติกรรมที่ สังเกตได้เท่านั้น จึงเห็นได้ว่าตรงกับพื้นฐานทฤษฎีแนวพฤติกรรม นิยม
  10. ครูบุญช่วย มีกระบวนทัศน์การออกแบบการสอน คือเน้น นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีตามพื้นฐานทฤษฎีแนวพุทธิปัญญานิยม และพื้นฐานทฤษฎีแนวคอนสตรัคติวิสต์
  11. เหตุผล คือ พื้นฐานทฤษฎีแนวพุทธิปัญญานิยม การเรียนรู้ เป็นการเปลี่ยนแปลงความรู้ของผู้เรียน ทั้งด้านปัญญาและคุณภาพ หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจัดระเบียบ จัดหมวดหมู่ เพื่อที่จะสามารถน้า ความรู้ที่ได้จัดเรียงนั้นกลับมาใช้ตามที่ต้องการ และสามารถเชื่อมโยง ความรู้ได้ ซึ่งครูบุญช่วยจะน้าเข้าสู่บทเรียนโดยเชื่อมโยงเนื้อหาที่ เรียนกับประสบการณ์เดิมของผู้เรียน เช่นการใช้ค้าถาม การ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในชีวิตประจ้าวัน ข่าวสารต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า ตรงกับพื้นฐานทฤษฎีแนวพุทธิปัญญานิยม
  12. เหตุผล คือ พื้นฐานทฤษฎีแนวคอนสตรัคติวิสต์ ให้ ความส้าคัญกับผู้เรียน โดยผู้เรียนมีส่วนร่วมกับสื่อการเรียนรู้ เน้นให้ ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เกิดทักษะกระบวนการ คิด วิเคราะห์แก้ไขปัญหาต่างๆได้ด้วยตนเอง โดยมีครูเป็นผู้คอย ชี้แนะแนวทาง ซึ่งจะเห็นได้ว่าครูบุญช่วยจะแบ่งนักเรียนออกเป็น กลุ่มแล้วมอบสถานการณ์ปัญหาหรือภารกิจการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทุก ๆ กลุ่ม นอกจากนี้ครูบุญช่วยยังเตรียมแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หนังสือ วีดิทัศน์ เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ เพื่อให้ผู้เรียนค้นหาค้าตอบ และร่วมมือกันเรียนรู้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์
  13. การลงมือทดลองเพื่อทดสอบแนวคิดของกลุ่ม โดยครูบุญ ช่วยจะเป็นผู้ให้ค้าแนะน้า หากพบว่ามีผู้เรียนคนใดหรือกลุ่มใดเข้า คลาดเคลื่อนหรือไม่ตรงตามค้าถามที่เป็นประเด็นที่ตั้งไว้ ครูบุญช่วย ก็จะเข้าไปอธิบายและกระตุ้นให้คิด หลังจากได้ค้าตอบแล้วทุกกลุ่มก็ จะน้าเสนอแนวความคิด และร่วมกันสรุปบทเรียนเป็นความเข้าใจ ของตนเอง จึงเห็นได้ว่าตรงกับพื้นฐานทฤษฎีแนวคอนสตรัคติวิสต์
  14. ครูบุญชู มีกระบวนทัศน์การออกแบบการสอน คือเน้นครู เป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีตามพื้นฐานทฤษฎีแนวพุทธิปัญญานิยม
  15. เหตูผลคือ พื้นฐานทฤษฎีแนวพุทธิปัญญานิยม ซึ่งการ เรียนรู้เป็นการเปลี่ยนแปลงความรู้ของผู้เรียน ทั้งด้านปัญญาและ คุณภาพหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจัดระเบียบ จัดหมวดหมู่ เพื่อที่จะ สามารถน้าความรู้ที่ได้จัดเรียงนั้นกลับมาใช้ตามที่ต้องการ และ สามารถเชื่อมโยงความรู้ได้ จะเห็นได้ว่าครูบุญชูจะมีการแต่ง เป็นบทเพลง การใช้ค้าคล้องจองการใช้แผนภูมิรูปภาพประกอบ เนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่าง องค์ประกอบ อีกทั้งครูบุญชูยังมีรูปประกอบซึ่งเป็นการ เชื่อมโยงประสบการณ์เดิมที่ผู้เรียนรู้จักมาช่วยในการจดจ้า ค้าศัพท์ จึงเห็นได้ว่าตรงกับพื้นฐานทฤษฎีแนวพุทธิปัญญานิยม
  16. 2. วิธีการเรียนรู้ของครูแต่ละคนมีข้อดีและข้อเด่นอย่างไร
  17. ครูบุญมี ครูบุญมี ข้อดี ข้อเสีย - จะท้าให้นักเรียนมีความ - นักเรียนไม่ได้แสดงความคิด รับผิดชอบต่อหน้าที่ ใดๆ - จะท้าให้ครูมีบทบาทต่อ - นักเรียนไม่เกิดกระบวนการ การเรียนการสอนมาก ซึ่งท้า เรียนรู้ด้วยตนเอง ให้นักเรียนเป็นไปการวาง แผนการจัดดารเรียนการสอน ของครู คือครูมีอ้านาจนั่นเอง
  18. ครูบุญมี ชู ครูบุญช่วย ข้อดี ข้อเสีย - นักเรียนเกิดกระบวนการ - เมื่อนักเรียนท้างานกันเป็นกลุ่ม เรียนรู้ด้วยตนเอง เกิดความจ้า นักเรียนอาจหยอกล้อเล่นกันได้ ระยะยาว - นักเรียนแต่ละคนมีทักษะใน - นักเรียนสามรถเชื่อมโยง กระบวนการเรียนรู้ไม่เท่ากัน ซึ่ง เนื้อหาจากความรู้เดิมได้ อาจท้าให้สิ่งที่ได้เรียนรู้หรือ - นักเรียนได้แลกเปลี่ยน ความรู้ที่ได้ไม่เท่ากัน แนวความคิดกับเพื่อน - เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
  19. ครูบุญมี ชู ครูบุญชู ข้อดี ข้อเสีย - นักเรียนสามรถเชื่อมโยง - นักเรียนไม่ได้แสดงความคิด เนื้อหาจากความรู้เดิมได้ ใดๆ - นักเรียนได้เทคนิควิธีช่วยจ้า - นักเรียนไม่เกิดกระบวนการ เรียนรู้ด้วยตนเอง
  20. 3. วิธีการจัดการเรียนรู้ของใครที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มากที่สุด เพราะเหตุใด
  21. ครูบุญมี พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ จะเน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยผู้เรียนค้นหาค้าตอบ วิเคราะห์ แก้ไข ปัญหา เกิดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง และยังให้ผู้เรียนร่วมมือ กันเรียนรู้มีการแลกเปลี่ยนแนวความคิด ประสบการณ์ การลงมือ ทดลองเพื่อทดสอบแนวคิดของกลุ่ม โดยมีครูเป็นผู้ให้ค้าแนะน้า
  22. ครูบุญมี หากพบว่ามีผู้เรียนคนใดหรือกลุ่มใดเข้าคลาดเคลื่อน ครูก็ จะเข้าไปอธิบายและกระตุ้นให้คิด หลังจากได้ค้าตอบแล้วทุกกลุ่มก็ จะน้าเสนอแนวความคิด และร่วมกันสรุปบทเรียนเป็นความเข้าใจ ของตนเอง ดังนั้น วิธีการจัดการเรียนรู้ของครูบุญช่วยจึงสอดคล้อง กับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มากที่สุด
  23. ครูบุญมี
  24. ครูบุญมี ผมเป็นครูสอนคณิตศาสตร์มาหลายปี ขณะสอนนักเรียนจะ ได้ยินค้าถามเสมอว่า "อาจารย์ (ครับ/ค่ะ)...เรียนเรื่องนี้ไปท้าไม เอาไป ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง" ก็ได้แต่ตอบค้าถามว่าน้าไปใช้ในการเรียน ต่อชั้นสูง และน้าไปประยุกต์ใช้ในวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งบางเนื้อหาก็มี โจทย์ปัญหาเป็นแนวทางท้าให้พอรู้ว่าจะน้าไปใช้อะไรได้บ้าง
  25. ครูบุญมี แต่บางเนื้อหาก็จะได้ยินเสียงบ่นพึมพ้าว่า "เรียนก็ยาก สูตรก็ เยอะไม่รู้จะเรียนไปท้าไม ไม่เห็นได้น้าไปใช้เลย" ในความเป็นจริงดิฉัน คิดว่าหลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์ของไทยน่าจะมีการ apply ให้มากกว่านี้ ในแต่ละเรื่องทั้ง ม.ต้น และม.ปลาย ผู้เรียนจะได้รู้ว่าถ้าเรียนแล้วสามารถ น้าไปใช้ได้จริงไม่ว่าจะเรียนต่อสายสามัญหรือสายอาชีพและเห็น ความส้าคัญของวิชานี้มากขึ้น
  26. 1. ให้ท่านวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง
  27. ครูบุญมี - เนื่องจากเนื้อหาของคณิตศาสตร์เป็นเรื่องที่ยาก อีกทั้งครูไม่ รู้จักวิธีการจัดการเรียนการสอนที่ท้าให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาได้ นักเรียนจึงเกิดข้อสงสัยว่าเรียนไปท้าไม - การเรียนรู้ของนักเรียนอาจไม่เชื่อมโยงเข้ากับประสบการณ์ สถานการณ์จริงหรือการน้าไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจ้าวันได้
  28. 2. วิเคราะห์หาทฤษฎีการเรียนรู้ และการออกแบบการ สอนที่สามารถแก้ปัญหาได้
  29. ครูบุญมี ปัญหาคือเมื่อนักเรียนเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์แล้ว นักเรียนไม่ สามารถน้าไปใช้ได้จริง - วิธีแก้ไขปัญหาตามแนวทฤษฎีพฤติกรรมนิยม คือครูต้อง รู้จักน้าสิ่งเล้าที่เป็นสื่อการสอนการเรียนรู้ที่อยู่ใกล้ตัวของผู้เรียนหรือ เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจ้าวันของตัวผู้เรียนเอง
  30. ครูบุญมี - วิธีแก้ไขปัญหาตามแนวทฤษฎีพุทธิปัญญานิยม คือเมื่อครู เข้าเนื้อหาจะต้องให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้จากประสบการณ์ เดิม สถานการณ์จริงได้หรือสามรถน้าไปใช้ในการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจ้าวันได้ - วิธีแก้ไขปัญหาตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ คือครูต้องน้า ค้าถามปลายเปิดที่เป็นสถานการณ์จริง ให้ผู้เรียนประสบปัญหาจริงด้วย ตนเอง จะท้าให้ผู้เรียนเข้าใจได้จริงและน้าไปใช้ได้จริง
  31. 3. ออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้
  32. ครูบุญมี - การจัดการเรียนรู้ต้องเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยให้ผู้เรียน ค้นหาค้าตอบจากค้าถามปลายเปิดด้วยวิธีที่แตกต่างและหลากหลาย วิเคราะห์ แก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งสถานการณ์ปัญหานั้นต้องท้าให้ ผู้เรียนสามมารถเชื่อมโยงเข้ากับความรู้ประสบการณ์เดิม สถานการณ์ จริงหรือสามรถน้าไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจ้าวันได้
  33. ครูบุญมี อีกทั้งให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง และยังให้ ผู้เรียนร่วมมือกันเรียนรู้ มีการแลกเปลี่ยนแนวความคิด ประสบการณ์ การลงมือทดลองเพื่อทดสอบแนวคิดของกลุ่ม โดยมีครูเป็นผู้ให้ ค้าแนะน้า หากพบว่ามีผู้เรียนคนใดหรือกลุ่มใดเข้าคลาดเคลื่อน หรือไม่ตรงตามค้าถามที่เป็นประเด็นที่ครูตั้งไว้ ครูก็จะเข้าไปอธิบาย และกระตุ้นให้คิด หลังจากได้ค้าตอบแล้วทุกกลุ่มก็จะน้าเสนอ แนวความคิด และร่วมกันสรุปบทเรียนเป็นความเข้าใจของตนเอง เช่นนี้ จะสามารถแก้ไข้ปัญหาได้เป็นอย่างดีที่สุด
Publicidad