More Related Content
Similar to งานนำเสนอ1 (20)
More from Nattarika Wonkumdang (14)
งานนำเสนอ1
- 2. ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสําคัญของโครงงาน
• การเรียนรู้แบบโครงงาน คือ การจัดให้นักศึกษารวมกลุ่มกันทํากิจกรรมร่วมกัน โดย
มีจุดมุ่งหมายในการศึกษาหาความรู้ หรือทํากิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งตามความสนใจ
ของนักศึกษา การเรียนรู้แบบโครงงานนี้ จึงมุ่งตอบสนองความสนใจ ความ
กระตือรือร้น และความใฝ่เรียนรู้ของผู้เรียนเอง ในการแสวงหาข้อมูล ความรู้ต่างๆ
เพื่อทําโครงงานร่วมกันให้ประสบความสําเร็จตามจุดมุ่งหมายของโครงงาน
• การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้(Project Centered Learning) ซึ่ง
หมายถึง การกระทํากิจกรรมร่วมกัน ช่วยเหลือกันในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายใน
กลุ่ม ด้วยวิธีการปฏิบัติจริง เพื่อการเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา อันนําไปสู่ความสามารถ
ในการคิดวิเคราะห์ แสวงหาข้อมูลและแนวทางในการแก้ปัญหาเหล่านั้น
- 3. • โครงงาน ( project ) จึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างผู้เรียน กับห้องเรียน และโลกภายนอก ซึ่งผู้เรียนสามารถจะนํา
ความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ได้ในชีวิตจริงของผู้เรียน ทั้งนี้เพราะว่า ผู้เรียนต้องนําเอาความรู้ที่ได้จากชั้นเรียนมาบูรณาการเข้ากับ
กิจกรรมที่จะกระทํา เพื่อนําไปสู่ความรู้ใหม่ ๆ ด้วยการสร้างความหมาย การแก้ปัญหา และการค้นพบด้วยตนเอง
ผู้เรียนต้องสร้างและกําหนดความรู้ จากความคิดและแนวคิดที่มีอยู่กับความคิดและแนวคิดที่เกิดขึ้นใหม่ ทําให้เกิดการ
ปรับเปลี่ยนความรู้ให้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้สิ่งใหม่
• ความสําคัญของการเรียนรู้แบบโครงงาน w การที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านโครงงาน ทําให้มองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างความคิด
กับข้อเท็จจริง ซึ่งจะถูกเชื่อมโยงเข้าเป็นเรื่องเดียวกัน ในลักษณะของความสัมพันธ์ และการเชื่อมโยง อันจะสามารถนําไปใช้ใน
สถานการณ์อื่นได้อย่างหลากหลาย สามารถบูรณาการความรู้มาช่วยกันทําโครงงาน เรียนรู้จักการทํางานร่วมกับผู้อื่น รู้จักการ
หาข้อมูล ความรู้ต่างๆด้วยตนเอง ฝึกทักษะการสื่อสาร รู้จักการ การคิด แก้ไขปัญหา
ในส่วนของผู้เรียน การเรียนรู้จากโครงงาน ถือได้ว่าเป็นการเรียนรู้ร่วมกันภายในกลุ่ม เพราะทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการ
ค้นหาคําตอบ หาความหมาย ตลอดจนแนวทางแก้ไขปัญหา ร่วมคิด ร่วมทํางาน ส่งผลให้เกิดกระบวนการค้นพบกระบวนการ
เรียนรู้สิ่งต่างๆได้ด้วยตนเองสามารถนําความรู้ที่ได้รับมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนพื้นฐานความรู้ระหว่างผู้เรียน
ด้วยกัน เป็นลักษณะของการเรียนรู้ร่วมกัน ( Collaboration learning)
• ความรู้และสามารถด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตัวของผู้เรียน จะถูกกระตุ้นให้ได้แสดงออกมาอย่างเต็มที่ ขณะที่ปฏิบัติกิจกรรม
เช่นเดียวกับ ทักษะต่าง ๆ ที่จําเป็นสําหรับชีวิต เช่น ทักษะการทํางาน ทักษะการอยู่ร่วมกัน ทักษะการจัดการ ฯลฯ ก็จะถูกนําเอา
มาใช้อย่างเต็มตามศักยภาพ ในขณะที่ร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทําโครงงาน
การเรียนรู้แบบโครงงานยังช่วยส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมทั้งหลายก็จะถูกปลูกฝัง และสั่งสมในตัวผู้เรียนในขณะที่
ทุกคนร่วมกันทํางาน รวมทั้งเป็นการปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตย ฝึกหัดการรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเนื่องจากว่า
แนวคิดหลักของการเรียนรู้แบบโครงงาน จะใช้หลักการเรียนรู้ร่วมกัน (Team learning) อันจะนําไปสู่การเรียนรู้ด้วยการ
นําตนเอง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการเพิ่มโอกาสในการเจริญก้าวหน้าของบุคคลในการเรียนรู้และพัฒนาความรู้ ความสามารถของ
ตนเอง
- 5. ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
• ขอบข่ายของโครงงาน ดําเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์ เป็น
ผู้ให้คําแนะนําปรึกษา มีองค์ประกอบดังนี้
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก
วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบ
เห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทําโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ
เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วย
ตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปล
ผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดําเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กําหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา
รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดําเนินงานด้วย
- 6. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
• 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
• ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้าง
โปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็น
อุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน
ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มา
เป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริย
จักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชํากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สําคัญของประเทศไทย เป็นต้น
- 7. 2.โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
• โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงใน
ชีวิตประจําวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สําหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สําหรับการผสมสี และ
ซอฟต์แวร์สําหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้
สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ
สูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ
ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทํางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว
ปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษา
โปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 9. 4.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
• โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่
ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ
เป็นต้น สําหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคํา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้
เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออํานวยความ
สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุใน
มุมต่างๆ ใช้สําหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบน
และด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คํานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไข
ภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
- 10. 5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
• โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จําลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลอง
ด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทําต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และ
แนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ
หรือคําอธิบาย พร้อมทั้งารจําลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่ง
จะทําให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทําโครงงานประเภทนี้มีจุดสําคัญอยู่ที่ผู้ทําต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี
ตัวอย่างโครงงานจําลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการ
ทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
• http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/
- 11. ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”
• ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิต
สื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมี
ภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบ
รายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ถือว่าคอมพิวเตอร์
เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามา
ศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอน
ในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนา
สื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริย
จักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชํากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สําคัญ
ของประเทศไทย เป็นต้น
- 12. โครงงาน เรื่อง ระบบสุริยะ
ระบบสุริยะ คือระบบดาวที่มีดาวฤกษ์เป็นศูนย์กลาง และมีดาวเคราะห์ (Planet) เป็น
บริวารโคจรอยู่โดยรอบ เมื่อสภาพแวดล้อมเอื้ออํานวย ต่อการดํารงชีวิต สิ่งมีชีวิตก็จะเกิดขึ้นบนดาว
เคราะห์เหล่านั้น หรือ บริวารของดาวเคราะห์เองที่เรียกว่าดวงจันทร์ (Satellite) นักดาราศาสตร์
เชื่อว่า ในบรรดาดาวฤกษ์ทั้งหมดกว่าแสนล้านดวงในกาแลกซี่ทางช้างเผือก ต้องมีระบบสุริยะที่
เอื้ออํานวยชีวิตอย่าง ระบบสุริยะที่โลกของเราเป็นบริวารอยู่อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าระยะทางไกล
มากเกินกว่าความสามารถในการติดต่อจะทําได้ถึง
http://game1232537.wordpress.com/2013/02/13
- 16. โครงงานนํ้าสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
• ดื่มเพื่อดับกระหาย ช่วยปรับธาตุและได้ทั้งสรรพคุณในการบําบัดรักษาโรคได้บางโรค ที่สําคัญ
ราคาไม่แพง ดื่มได้ตลอดเวลา ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเพราะเกิดจากการใช้ใบ ดอก ผล เกสร
เปลือก รากของพืช มาผ่านกระบวนการผลิตที่สะอาด อาจใช้วิธีการต้มดื่มเป็นนํ้าสมุนไพร (ซึ่ง
หากเลี่ยงการใส่นํ้าตาลได้จะเป็นการดี เพื่อที่จะได้รับกลิ่นของพืชได้ดีขึ้น) หรืออาจจะตากแห้ง
เพื่อชงเป็นชาดื่ม (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพืชที่มีกลิ่นหอมระเหยขณะดื่มร้อนๆ ผู้ดื่มจะสูดรับกลิ่น
หอมเข้าไปด้วย ก่อให้เกิดผลทางสุขบําบัดแก่ร่างกาย)
• http://wwwkruwatblog.blogspot.com/2011/09/blog-post.html
- 17. ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
• โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน
ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วย
การมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สําหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น
โปรแกรมประมวลคํา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออํานวยความสะดวกให้การวาดรูปบน
เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้
สําหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่า
ด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คํานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อ
พิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
- 19. ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
• โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จําลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็น
งานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทําต้อง
ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้ว
เสนอเป็นแนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคําอธิบาย พร้อมทั้งาร
จําลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะ
ทําให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทําโครงงานประเภทนี้มีจุดสําคัญอยู่ที่ผู้ทําต้องมีความรู้ในเรื่อง
นั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจําลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลอง
เรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
- 21. ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
• โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงใน
ชีวิตประจําวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สําหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สําหรับการ
ผสมสี และซอฟต์แวร์สําหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการ
ของผู้ใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการ
ทดสอบการทํางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงาน
ประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่
เกี่ยวข้อง
- 23. ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
• โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ
เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมี
หลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้
น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทําการ
สํารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนํามาปรับปรุงหรือ
พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ