More Related Content
Similar to โครงงานคอ.. (20)
More from Noot Ting Tong (20)
โครงงานคอ..
- 1. ความหมายและความสำา คัญ ของโครงงาน
คอมพิว เตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็นงานวิจัยในระดับนักเรียนเป็นการใช้
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นที่มีอยู่ในการศึกษา ทดลอง แก้
ปัญหาต่าง ๆ เพื่อนำาผลที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือใช้เพื่อ
ช่วยสร้างสื่อเพื่อเสริมการเรียนให้ได้ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้
นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกฝนการใช้ทักษะการใช้เครื่อง
คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่าง ๆ ในการแก้
ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้างผลงานจริงอีกด้วย
โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็นกิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระ
ในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้
ความรู้ทางคอมพิวเตอร์ ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนา
โครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือ
จากที่มีอยู่ ซึ่งนักเรียนจะต้องคิดออกแบบสร้างขึ้นหรือดัดแปลง
เพื่อใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงาน
คอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คำาปรึกษาของครูใน
สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ หรือต่างสาขาวิชารวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ
ด้านต่าง ๆ ด้วย
โครงงานคอมพิวเตอร์ ที่จะทำาในระดับมัธยมศึกษาควรเป็น
ประเด็นหรือปัญหาที่นักเรียนสนใจใคร่รู้ และสามารถใช้ความรู้
ทักษะ ตลอดจนประสบการณ์ในระดับของนักเรียน เพื่อคิด
แนวทางในการแก้ปัญหาและการพัฒนาโปรแกรม เพื่อให้โครง
งานคอมพิวเตอร์นั้นมีคุณค่ายิ่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องที่นักเรียน
สนใจและคิดที่จะทำาโครงงานอาจมีผู้สนใจทำามาก่อน หรือเป็น
- 2. เรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนามาแล้ว แต่
นักเรียนก็ยังสามารถทำาโครงงานดังกล่าวได้ เพียงแต่คิด
ดัดแปลงแนวทางในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนา
โปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้
ความสำาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของ
สังคมปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่
ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึง
ต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็นสำาคัญ การศึกษาด้าน
วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจำาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยา
ศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราใน
ด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคม
สารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จาก
ระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สำาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ
ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดด เครื่องคิดเลข เป็นต้น
ี
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่
ซับซ้อนต่างๆ
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของ
โลกปัจจุบัน
- 3. การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้นเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน
มีความรู้ ความเข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีความ
สามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทำาโครงงาน
คอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทำาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุเป้าหมายนี้
ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่สำาคัญประการหนึ่งของการเรียน
การสอนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียน คือ การที่ผู้เรียนได้มีโอกาส
นำาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์
คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มี
ประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือการทำาโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ
ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนำาผลงานที่ได้มา
ประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการ
สอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็น
กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะ
การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือ
ต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผล
งาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถศึกษา
ปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความ
รู้อื่นๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดำาเนินงาน
ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะ
พื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการ
วัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งผู้เรียนจะต้องพัฒนาขึ้น
หรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการ
พัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คำา
ปรึกษาของผู้สอน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ
- 4. การทำาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมี
คุณค่าต่อการฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความรู้ ความชำานาญ และมี
ทักษะในการนำาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา
ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้
กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่าอื่นๆ อีกดังต่อไปนี้
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตาม
ศักยภาพของตนเอง
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้
เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องตามปกติ
- ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสิน
ใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
- กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศ และมีความสนใจที่จะประกอบอาชีพทางด้านนี้
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทาง
สร้างสรรค์
- สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้ง
ส่งเสริมให้ชมชนสนใจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
ุ
มากขึ้น
- สร้างสำานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบ
ด้วยตนเอง
Creditby:http://kruoong.blogspot.com/2011/05/b
log-post.html
http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/
blog-post_13.html
- 6. 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทำาโครงงานด้วยตนเอง หรือ
เป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้
แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่
จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และ
ความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผน
ปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อ
ดำาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กำาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของ
นักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดำาเนินงาน
ด้วย
ประเภทของโครงงานคอมพิว เตอร์
- 7. 1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้าง
โปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึงอาจจะต้องมีภาคแบบ
่
ฝึกหัด บททบทวน และคำาถามคำาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถ
เรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์
ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึงอาจ
่
เป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษา
ด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้
ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่
เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริย
จักรวาล ตัวแปรต่างๆ ทีมีผลต่อการชำากิ่งกุหลาบ หลักภาษา
่
ไทย และสถานที่สำาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
2.โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
- 10. โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้าง
งานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น
ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการ
มองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สำาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งาน
นั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรา
ใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์
การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออำานวยความสะดวกให้การวาดรูปบน
เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สำาหรับซอฟต์แวร์ช่วย
การมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สำาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ
อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบน
และด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คำานวณค่าและภาพที่
ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบ
ไว้ได้อย่างสะดวก
5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
- 11. โครงงาน
ประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จำาลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วย
สถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครง
งานที่ผู้ทำาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และ
แนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็น
แนวคิด แบบจำาลอง หลักการ ซึงอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ
่
หรือคำาอธิบาย พร้อมทั้งารจำาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้
ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น
ซึ่งจะทำาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทำาโครงงาน
ประเภทนี้มีจุดสำาคัญอยู่ที่ผู้ทำาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็น
อย่างดี ตัวอย่างโครงงานจำาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่อง
การไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรัน
ย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
Creditby:http://namkwanmay.wordpress.com/
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/3141
00