More Related Content
Similar to กลไกการรักษาดุลยภาพ 54 (20)
More from Oui Nuchanart (20)
กลไกการรักษาดุลยภาพ 54
- 11. ไปกรวยไต เนื้อไต แบ่งเป็น 2 ชั้น คือ เนื้อไตชั้นนอก คอร์เทกซ์ ( cortex ) เนื้อไตชั้นใน เมดัลลา ( medulla ) ภายในเนื้อไตประกอบด้วยหน่วยไต ( nephron ) จำนวนมากมาย ไตแต่ละข้าง มีหน่วยไตประมาณ 1 ล้านหน่วย โครงสร้างของไต เมดัลลา เปลือกไต คอร์เทกซ์ ท่อไต หน่วยไต ท่อรวม
- 13. การดูดสารกลับที่ท่อของหน่วยไต สรุปได้ดังนี้ 1. การดูดน้ำกลับ จะดูดกลับที่ท่อขดส่วนต้น 80 % ที่เหลือจะถูก ดูดกลับที่ส่วนอื่น การดูดกลับเกิดจากการควบคุมของฮอร์โมน วาโซเปรสซิน หรือ ADH 2. การดูดซึมกลูโคส และวิตามินซี ถ้าปริมาณปกติจะถูกดูดซึมกลับทั้งหมดที่ท่อขดส่วนต้น 3. โซเดียมคลอไรด์ กรดอะมิโน วิตามิน บางชนิด และเกลือซัลเฟต จะถูกดูดกลับที่ท่อขดส่วนต้น 4. สารที่มีการดูดกลับน้อยมาก ได้แก่ ยูเรีย ฟอสเฟต ซัลเฟต การดูดสารกลับที่ท่อของหน่วยไต
- 14. น้ำ โปรตีน ยูเรีย กรดยูริก แอมโมเนีย กลูโคส โซเดียม คลอไรด์ กรดอะมิโน 9 0 8 0.0 3 0.00 4 0.0001 0.1 0.31 – 0.33 0.35 – 0.40 0.05 90 0.03 0 0.0001 0.00 4 0.37 0.05 0.32 0.1 0.6 0 0.6 0 0.05 0.05 1.8 0 95 ตารางเปรียบเทียบสารในของเหลวที่กรองได้ กับน้ำปัสสาวะ สาร พลาสมา g/100 cm 3 ของเหลวที่กรองผ่าน โกลเมอรูลัส ที่หน่วยไต g/100 cm 3 น้ำปัสสาวะ g/100 cm 3
- 15. จากตารางพบว่า สารกรองผ่านโกลเมอรูลัส ซึ่งเป็นสารที่มาจากกระบวนการ เมแทบอลิซึมสามารถ แยกเป็นกลุ่ม ดังนี้ 1. สารที่เป็นของเสีย ได้แก่ ยูเรีย ยูริก ต้องกำจัดออกจากร่างกาย จึงพบในน้ำปัสสาวะมาก 2. สารที่ไม่ใช่ของเสีย แต่มีมากเกินไปต้องกำจัดออก ส่วนหนึ่งเก็บไว้และบางส่วนกำจัดออก เช่น น้ำและแร่ธาตุ 3. สารที่มีประโยชน์ แต่ถูกกรองผ่านโกลเมอรูลัส เช่น กลูโคส กรดอะมิโน โปรตีน จะไม่พบสารเหล่านี้ในปัสสาวะเพราะมีการดูดกลับหมด 4. สารที่ไม่สามารถกรองผ่านโกลเมอรูลัส คือ เซลล์เม็ดเลือดแดง การดูดสารกลับที่ท่อของหน่วยไต
- 18. 1.) แสงสว่าง ถ้ามีความเข้มข้นแสงมาก ปากใบจะเปิดได้กว้าง พืชจะคายน้ำได้มาก 2.) อุณหภูมิ ถ้าอุณหภูมิในบรรยากาศสูง พืชจะคายน้ำได้มากและรวดเร็ว 3.) ความชื้นในบรรยากาศ ถ้าบรรยากาศมีความชื้นสูงจะคายน้ำได้น้อย 4.) ลม ลมพัดแรงมากพืชจะปิดหรือแคบหรี่ลง ทำให้การคายน้ำลดลง 5.) ปริมาณน้ำในดิน ถ้าสภาพดินขาดน้ำ หรือปริมาณน้ำในดินน้อย พืชไม่สามารถนำไปใช้ได้เพียงพอ ปากใบของพืชจะปิด หรือแคบหรี่ลง มีผลทำให้การคายน้ำลดลง 6.) โครงสร้างของใบ ตำแหน่ง จำนวน และการกระจายของปากใบ รวมถึงความหนาของคิวติเคิล ( สารเคลือบผิวใบ )
- 20. 1 . ร่างกายต้องการในปริมาณมาก ไม่ตํ่ากว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน ได้แก่ โซเดียม ( Na ) โพแทสเซียม ( K ) คลอรีน ( Cl ) แคลเซียม ( Ca ) ฟอสฟอรัส ( P ) และ แมกนีเซียม ( Mg ) 2. ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย ได้แก่ เหล็ก ( Fe ) ไอโอดีน ( I ) ฟลูออรีน ( F ) กำมะถัน ( S ) ทองแดง ( Cu ) และ สังกะสี ( Zn )
- 21. ชื่อแร่ธาตุ ความสำคัญของแร่ธาตุ โซเดียม ( Na ) รักษาสมดุลของความเป็นกรด - เบสของร่างกาย และทำหน้าที่ถ่ายทอดกระแสประสาท โพแทสเซียม ( K) รักษาสมดุลของแรงดันออสโมซิสภายในเซลล์ และทำหน้าที่ถ่ายทอดกระแสประสาท คลอรีน ( CI ) รักษาสมดุลของความเป็นกรด - เบสของร่างกาย และ เป็น ส่วนประกอบของกรดเกลือ ( HCl ) ในกระเพาะอาหาร แคลเซียม ( Ca ) เป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน ฟอสฟอรัส ( P) เป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน แมกนีเซียม ( Mg) เป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน ช่วยในการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อ
- 22. ชื่อแร่ธาตุ ความสำคัญของแร่ธาตุ เหล็ก ( Fe ) เป็นส่วนประกอบของเฮโมโกลบิน ไอโอดีน ( I ) ป้องกันโรคคอพอก ฟลูออรีน ( F ) ทำให้ฟันแข็งแรง กำมะถัน ( S ) เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ทองแดง ( Cu ) ช่วยในการสร้างเฮโมโกลบิน สังกะสี ( Zn ) มีความสำคัญต่อกระบวนการเมแทบอลิซึม ( Metabolism ) ของโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต
- 29. ความเป็นกรด - เบส ( pH ) ปกติ 7.0-7.8 ในร่างกายจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับปริมาณของไฮโดรเจนอิออน ( H + ) ถ้ามี H + มากสภาพความเป็นกรดสูง ถ้ามี H + น้อยสภาพความเป็นกรดจะน้อย ความสำคัญของสภาพกรด - เบสในร่างกาย 1. มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์ ( enzyme ) 2. มีผลต่อปฏิกิริยาเคมีการสลายสาร ( catabolism ) และการสังเคราะห์สาร ( anabolism ) 3. มีผลต่อการทำงานของเลือดในร่างกาย
- 32. 1. สัตว์เลือดอุ่น ( Homeothermic animal ) หมายถึง สัตว์ที่อุณหภูมิของร่างกายคงที่ถึงแม้อุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป ตัวอย่างได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม และ สัตว์ปีก 2. สัตว์เลือดเย็น ( Poikiothermic animal ) หมายถึง สัตว์ที่มีอุณหภูมิของร่างกายเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม แต่อยู่ในช่วงจำกัด ได้แก่ ปลา สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และสัตว์เลื้อยคลาน
- 34. สัตว์เลือดอุ่นต่าง ๆ มีการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ มีพฤติกรรมดังนี้ 1. เลียอุ้งเท้า เพื่อระบายความร้อน เช่น แมว กระต่าย จิงโจ้ 2. การหอบ เช่น สุนัข 3. การขุดรู ขุดโพรงไม้ แช่ในปลัก 4. เลือกเวลาออกหากิน 5. หาเครื่องป้องกันการสูญเสียความร้อนของร่างกาย 6. การจำศีล การหนีหนาว ( hibernation ) การหนีร้อน ( estivation )