SlideShare a Scribd company logo
1 of 19
Download to read offline
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โดยการทํางานเปนกลุม
ผูจัดทํา
นายอารมย อินทรประเสริฐ
กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ
ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2565
โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม อําเภอบานโปง จังหวัดราชบุรี
บทคัดยอ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงคเพื่อการศึกษาการพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาป
ที่ 4/1 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม จํานวน 32 คน โดยการทดลองใหนักเรียน ทํางานเปนกลุมสามารถพัฒนา
ทักษะการระบายสีอะคริลิค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ไดดีขึ้นและ มีการประเมินผลการระบายสี
อะคริลิค จากใบงานทั้งหมด 3 ครั้ง และเก็บรวบรวมขอมูลจากคะแนนของ นักเรียนแตละคนมาเปรียบเทียบ
กันทั้ง 3 ครั้ง จะเห็นไดวา นักเรียนมีทักษะในการระบายสีอะคริลิค สูงขึ้นตามลําดับ โดยครั้งที่ 1 อยูในระดับ
ดีมากรอยละ 14.50 ครั้งที่ 2 รอยละ 27.20 และครั้งที่ 3 รอยละ 56.30 ตามลําดับ ผลการวิจัยในชั้นเรียน
ครั้งนี้สงผลใหนักเรียนมีความรูและเกิดการพัฒนาทักษะการระบาย สีอะคริลิค ดีขึ้นและบรรลุวัตถุประสงค
เปนที่นาพึงพอใจ
นายอารมย อินทรประเสริฐ
คํานํา
ตามที่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดกําหนดมาตรฐานการเรียนรูชวงชั้นในกลุมสาระ
การเรียนรูศิลปะโดยมวัตถุประสงคใหผูเรียนรูไดพัฒนาดานสุนทรียภาพรางกาย จิตใจ สติปญญา อารมณและ
สังคม สงเสริมใหผูเรียน กลาคิด กลาทํา กลาแสดงออก ในเชิง สรางสรรคสามารถคนพบศักยภาพของตนเอง
อันเปนพื้นฐานในการศึกษาตอหรือประกอบอาชีพที่ สุจริตในอนาคตไดการทําวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประ
สงคเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการทํางานเปนกลุม ซึ่ง
ถือวาเปนวิธีการนํามาใชแกปญหาในการจัดการเรียน การสอนวิธีหนึ่ง เพื่อใหผูเรียนไดพัฒนาการเรียนรูดาน
ทัศนศิลปเกี่ยวกับการระบายสีอะคริลิคใหดีขึ้น ผูวิจัยขอขอบพระคุณบุคคลที่ใหการสนับสนุนสงเสริมในการ
วิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้
นายอารมย อินทรประเสริฐ
สารบัญ
บทคัดยอ หนา
คํานํา
บทที่ 1 บทนํา
-ความเปนมาและความสําคัญของปญหา
-วัตถุประสงค
-สมมุติฐาน
-นิยามศัพทเฉพาะ
- ประโยชนของการทําวิจัย
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวของ
เอกสารที่เกี่ยวของในการจัดการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค
บทที่ 3 วิธีการวิจัย
กลุมเปาหมาย
ตัวแปรที่ใชในการวิจัย
วิธีการหรือนวัตกรรมที่ใช
แผนภูมิการจัดกิจกรรมการเรียนรูพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค
วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล
วิธีการวิเคราะหขอมูล
บทที่ 4 ผลการวิเคราะหขอมูล
ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ
การระบายสีอะคริลิค จากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่ 1
ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ
การระบายสีอะคริลิคจากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่ 2
ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ
การระบายสีอะคริลิคจากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่ 3
สรุปแบบสังเกตพฤติกรรมกลุม
บทที่ 5 สรุปอภิปรายผลและขอเสนอแนะ
สรุปผล
อภิปรายผล
ขอเสนอแนะ
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ตัวอยางภาพครั้งที่ 1
ตัวอยางภาพครั้งที่ 2
ตัวอยางภาพครั้งที่ 3
ภาพนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ปฏิบัติงานกลุม
ใบความรูที่ 1
ใบความรูที่ 2
แบบสอบถามความคิดเห็น
ใบงานที่ 1
ใบความรูที่ 2
ใบงานที่ 3
แบบประเมินการทดสอบการระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 1
แบบประเมินการทดสอบการระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 2
แบบประเมินการทดสอบการระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 3
บทที่ 1
บทนํา
การวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โดยทํางานเปนกลุม
1. ความเปนมาและความสําคัญของปญหา
การจัดกระบวนการเรียนการสอนในรายวิชาศิลปะพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4
สวนหนึ่งของเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดกําหนดใหผูเรียนเกิด
การเรียนรูดานทัศนศิลปประเภทจิตรกรรมการวาดภาพระบายสีอะคริลิค โดยเนนเพื่อใหเกิดการเรียนรูทั้ง
ทฤษฎีและการปฏิบัติ จากการประเมินผลการจัดการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ซึ่งมี
นักเรียนทั้งหมดจํานวน 32 คนพบวานักเรียนจํานวน 32 คน ยังขาดทักษะในการระบายสีจะเห็น
ไดจากผลงานที่นักเรียนฝกปฏิบัติ ทั้งนี้เปนเพราะนักเรียนขาดกิจกรรมที่สงเสริมทักษะการระบาย
สี ซึ่งการระบายสีอะคริลิคเปนทักษะที่สําคัญและจําเปนในทางศิลปะ อันเปนทักษะพื้นฐานที่จะนําไปสู
งานศิลปะดานอื่น นอกจากนี้การวาดภาพระบายสีอะคริลิคยังเปนกิจกรรมที่สรางความสนุกสนาน
เพลิดเพลิน ทําใหนักเรียนไดผอนคลายอารมณ ทําใหนักเรียนมีจิตใจออนโยน และถาหาก
นักเรียนขาดทักษะการระบายสี จะสงผลตอการเรียนศิลปะดานอื่น ๆ ทําใหนักเรียนขาดแรงจูงใจ
ที่จะเรียนศิลปะดานอื่น ๆอีกดวย
ดังนั้นหากไดใหนักเรียนฝกระบายสีอะคริลิคเปนกลุมจะทําใหนักเรียนมีทักษะในการระบายสีดีขึ้น
ได ทั้งนี้เนื่องจากกระบวนการในการทํางานเปนกลุมไดชวยสนับสนุนใหนักเรียนเกิดจินตนาการ
และความคิดสรางสรรคมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมกันภายในกลุม และมีการยกยองชมเชย
สรางแรงจูงใจและกําลังใจใหเกิดขึ้นภายในกลุม ซึ่งจะชวยใหนักเรียนมีทักษะในการระบายสีอะคริลิค
ตลอดจนการไดเปนผูพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงคทางดานสุนทรียะ มีความพรอมที่จะเรียน
ในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะในระดับชั้นที่สูงขึ้นตอไป
2. วัตถุประสงค
เพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการทํางานเปนกลุม
3. สมมุติฐาน
การทํางานเปนกลุมสามารถพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ไดดีขึ้น
4. นิยามศัพทเฉพาะ
1.การทํางานเปนกลุม หมายถึง การทํางานรวมกันของนักเรียนโดยแบงเปนกลุม
กลุมละ 3 - 5 คน โดยมีการจัดระบบการทํางานรวมกัน สมาชิกในกลุมทุกคนมีสวนรวมในการ
แสดงความคิดเห็นในการปฏิบัติงานไดเรียนรูการทํางานรวมกับผูอื่น
2.ทักษะการระบายสีอะคริลิค หมายถึง ความสามารถในการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนประเมิน
ไดจากการฝกปฏิบัติการระบายสีอะคริลิคใหเกิดความชํานาญตามขั้นตอนของทฤษฎีสีและหลักการ
จัดองคประกอบของศิลปะ เพื่อใหไดภาพระบายสีอะคริลิค ที่มีความสวยงามสามารถนําไปใชสอย
ใหเกิดประโยชนในชีวิตประจําวันไดตามความเหมาะสม
5. ประโยชนของการทําวิจัย
1. นักเรียนไดพัฒนาทักษะดานการระบายสีอะคริลิค
2. นักเรียนไดฝกการทํางานเปนกลุม
3. นักเรียนมีความคิดริเริ่มสรางสรรคสามารถวาดภาพระบายสีอะคริลิคไดสวยงาม
4. นักเรียนมีความภูมิใจในผลงานของตนเองและไดรับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน
ในการทํางาน
5. นักเรียนมีความรักสามัคคีกันในการทํางานเปนกลุมและรูจักการเสียสละเพื่อ
ประโยชนของสวนรวม
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวของ
การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ผูวิจัยไดศึกษาเอกสารและงานวิจัยเพื่อเปนแนวทางในการ
ดําเนินการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีของนักเรียน โดยศึกษาเอกสาร
ตามลําดับดังนี้
1.โชดก เกงเขตรกิจ, ปญญา ทรงเสรีย , ยศนันท แยมเมือง และเศรษฐศิริ สายกระสุน
( 2548 ) สรุปไดวา สีสันกับโลกสวยงาม เกี่ยวกับกับทัศนธาตุ และองคประกอบศิลปะ คือผูที
สรางสรรคผลงานศิลปะจะใชเปนสื่อความหมายในการแสดงออกโดยองคประกอบพื้นฐานคือ
ทัศนธาตุตางๆ ไดแก จุด เสน น้ําหนัก(แสง - เงา ) ทีวาง ลักษณะผิว และสี เพื่อนํามาจัดรวมเขา
ดวยกันจะเกิดเปนรูปทรงของงานศิลปะขึ้น
แสดงใหเห็นวาการระบายสีเปนองคประกอบศิลปะที่ทําใหผลงานมีความนาสนใจแกผูพบ
เห็นโดยมีความสวยงามเกิดความรูสึกทางอารมณจิตใจไดหลากหลาย สภาพแวดลอมของมนุษย
ลวนแตประกอบดวยสีสันไมวาจะเปนสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติหรือสิ่งแวดลอมที่มนุษยสรางขึ้น
ถาขาดการตกแตงดวยสีสันยอมไมนาสนใจและจะไมมีความสวยงาม
2.วัชรพงษ หงษสุวรรณ ( 2548 ) สรุปไดวาการเขียนภาพสีอะคริลิค(Liquitex) เปนสีเคมีที่มีสวนผสมของ
พลาสติกโพลิเมอร (Polymer) โดยมีคุณสมบัติพิเศษ ที่แหงเร็ว ติดทนนาน ถึงขนาดเอาไปเพนทกับวัสดุอื่นๆ
ไดมากมาย ไมวาจะเปน ผาคานวาส จานเซรามิค รองเทาผา โลหะ พลาสติก และไม เปนตน ซึ่งดวยลักษณะที่
มีความทึบแสงของอะคริลิคนี่เอง
เขียนในกระดาษ สีอะคริลิคเปนสีทึบแสง (Opaque) ที่ใชผสมกับน้ําไดแลวใชพูกันระบายลงบนกระดาษ
การผสมสีเกิดจากการผสมระหวางสีหนึ่งกับอีกสีหนึ่ง หรือหลายสีผสมกัน เพื่อใหเกิดเปนการสรางสรรค
ตามตองการ
3. ประเทือง เอมเจริญ (2546) ไดกลาวถึงสิ่งที่ปรากฏเปนความงามของศิลปความชุม
นุมนวลเต็มพื้นที่ของภาพที่ดูกลมกลืนกัน การไหลอยางอิสระใชเทคนิคน้ําหนักเสน ความงามของ
สีที ทาของการขีดเขียนที่ดูเฉียบขาดเรียบงาย คาแตกตางของ สี น้ําหนัก รูปทรงที่ดูมีเอกภาพ
ในตัวเอง พลังกระตุนจินตนาการจากภาพสูผูชมงานที่มีสมาธิในการดู สิ่งที่กอใหเกิดความสําเร็จใน
งานคือสีทุกสีอะคริลิค บวกน้ําใจ
มิติแหงสีอะคริลิค
* แผซานไปทั่วแผนกระดาษเปยกฉ่ําดั่งมวลเมฆบนทองฟาคือ มิติแหงสีอะคริลิค
*เคลื่อนไหวอยางอิสระราเริงเพื่อเขารวมเปนหนึ่งเดียวกับความสงบ คือ มิติแหงสีอะคริลิค
*แทรกซึมสูใตผิวลื่นไหลอยูเบื้องบน มุงผสานความกลมกลืนคือ มิติแหงสีอะคริลิค
* แตกตัวเปนสีทุกสีดั่งดอกไมหลากสีบนพื้นพิภพคือ มิติแหงสีอะคริลิค
* ไมแยกตัวจากความดี หลีกหนีความชั่วคือ มิติแหงสีอะคริลิค
*เปดประตูแหงความไมรู ไปสูความรูแจงอันเบิกบานคือ มิติแหงสีอะคริลิค
แสดงใหเห็นวามิติแหงสีอะคริลิคเปนเอกลักษณเฉพาะตัวมีเสนหไมเหมือนสีอื่น ภาพที่เกิด
จากการระบายสีอะคริลิคดูชุมชื่น มีชีวิตชีวา มีความสวยงามนาสนใจแกผูพบเห็น
4. การทํางานกลุม
การทํางานกลุม หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนรู กิจกรรมในชมรมตาง ๆ เพื่อ
สงเสริมใหผูเรียนไดมีสวนรวมในการวางแผน ความรับผิดชอบและการบริหารเวลา
(http//:www.acp.assumption.ac.th/Homepage/self)
E-book หมายถึง หนังสืออิเล็กทรอนิกส จากเว็บไซตครู www.peterfineart.com
ดังนั้นการทํางานเปนกลุม จึงหมายถึง การรวมกันทํางานตั้งแต 3 - 5คนขึ้นไป สมาชิกใน
กลุมมีสวนรวมในการวางแผนทํางานและไดแสดงความคิดเห็นรวมกัน สงผลใหไดชิ้นงานที่สําเร็จ
เปนที่พึงพอใจรวมกัน
ประโยชนของการทํางานเปนกลุม
1. นักเรียนไดรูจักการวางแผนการจัดกิจกรรมรวมกัน
2. นักเรียนไดพัฒนาบุคลิกของตนเองใหปรับตัวเขากับผูอื่นได
3. นักเรียนไดรูจักการเสียสละเวลาและทุนทรัพยเพื่อใหเกิดประโยชนตอสวนรวม
4. นักเรียนมีความรักสามัคคีในหมูคณะและมีความภูมิใจในงานที่ทํารวมกัน
บทที่ 3
วิธีการวิจัย
การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ เปนการวิจัยเชิงทดลอง โดยผูวิจัยไดดําเนินการตามลําดับดังนี้
1. กลุมเปาหมาย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม
จํานวน 32 คน
2. ตัวแปรที่ใชในการวิจัย
2.1 ตัวแปรตน การทํางานเปนกลุม
2.2 ตัวแปรตาม การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค
3. วิธีการหรือนวัตกรรมที่ใช
1. แผนการเรียนรู เรื่อง ศิลปสมัยใหม
2. แผนการจัดกิจกรรมการทํางานเปนกลุม
2.1 นักเรียนแบงกลุมกันทํางานตามอัธยาศัย ใหมีจํานวนกลุมละ 3 - 4 คน เสร็จแลว
ใหประชุมสมาชิกกลุม แบงงานกันรับผิดชอบ โดยแตละกลุมนัดหมาย เรื่องการเตรียมอุปกรณ
สําหรับวาดภาพระบายสีอะคริลิค มาใหพรอมในชั่วโมงเรียน
2.2 ใหนักเรียนทดลองวาดภาพระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 1 ภาพนามธรรม(แอบสแตรค)
2.3 ครูจัดทําใบความรูที่ 1 เรื่อง ทฤษฎีสี และ ใบความรูที่ 2 เรื่อง การเขียนภาพสีอะคริลิค
ใหนักเรียนศึกษาใบความรู
2.4 นักเรียนแตละกลุมทุกคนทดลองวาดภาพระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 2 ภาพนามธรรม(แอบสแตรค)
2.5 เพื่อนในกลุมและครูรวมกันประเมินผลการทํางานครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
2.6 หลังการประเมินผลงานนักเรียนบางคนไดคะแนนไมผานเกณฑเพื่อนในกลุม
และครูชวยกันแนะนําเพิ่มเติมโดยการสาธิต
2.7 หลังประเมินผลงานนักเรียนครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่ไดคะแนนผานเกณฑใหทําใบ
งานที่ 3
2.8 นักเรียนแตละกลุมทุกคนทดลองวาดภาพระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 3 ภาพนามธรรม(แอบสแตรค)
2.9 สรุปผลการประเมินการทํางานจากใบงานทั้ง 3 ครั้ง ใหนักเรียนทุกกลุมทราบ
แผนภูมิการจัดกิจกรรมการเรียนรูพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค
ของนักเรียนชันมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการทํางานเปนกลุม
นักเรียนแบงกลุมทํางานตามอัธยาศัย กลุมละ 3-4
นักเรียนทําใบงานที่ 1
นักเรียนศึกษาใบความรู
นักเรียนทําใบงานที่ 2
นักเรียนและครูรวมกันประเมินผลงานครั้งที่ 1และครั้งที่2 ไมผานเกณฑ เพื่อนในกลุมและครู
ผานเกณฑ
นักเรียนทําใบงานที่ 3
สรุปการประเมินผลการทํางานจากใบงานทั้ง 3 ครั้ง
4. วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล
ผูวิจัยเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเอง ตามขั้นตอนดังนี้
1. ใหนักเรียนทํางานเปนกลุมทั้งหมด 3 ครั้ง เริ่มตั้งแตการประเมินผลกอนเรียน
โดยวาดภาพระบายสีอะคริลิคลัทธิแอบสแตรค
2. นักเรียนปฏิบัติงาน ตามใบงานที่ 1 , ใบงานที่ 2 , ใบงานที่ 3
3. ครูแจกแบบการประเมินผลการใหคะแนนทั้ง 3 ครั้ง
4. ครูกําหนดเวลาใหนักเรียนสงผลงานที่ทําเสร็จแลวใหครูตรวจประเมินผล
5. ครูสรุปผลการตรวจผลงาน ครั้งที่ 1 และดําเนินการตอดังนี้
5.1 ครูแจกใบงาน นักเรียนปฏิบัติตามใบงานครั้งที่ 2 วาดภาพระบายสีอะคริลิคเรื่องลัทธิแอบส
แตรค
และสงผลงานใหครูตรวจ ประเมินผล
5.2 ครูแจงผลคะแนนครั้งที่ 2
6. ครูแจกใบงานครั้งที่ 3 และดําเนินการตอดังนี้
6.1 นักเรียนปฏิบัติตามใบงานครั้งที่ 3 วาดภาพระบายสีอะคริลิค เรื่องลัทธิแอบสแตรค
สงผลงานที่เสร็จแลวใหครูตรวจประเมินผล
6.2 ครูแจงผลคะแนน จากการทํางานครั้งที่ 3 และแจงผลการประเมินทั้ง
3 ครั้งใหนักเรียนทราบ
7. วิธีการวิเคราะหขอมูล
7.1 เปรียบเทียบผลคะแนนกอนเรียนและหลังเรียน โดยใชคารอยละ
7.2 รวบรวมขอมูลจากแบบประเมินผลการใหคะแนนทั้ง 3 ครั้ง
5. วิธีการวิเคราะหขอมูล
- ผูทําวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ใชวิธีการวิเคราะหขอมูลโดยวิธีหาคาเฉลี่ยรอยละ
บทที่ 4
ผลการวิเคราะหขอมูล
ผลการวิเคราะหขอมูล ปรากฏดังตารางที่ 1 , 2 และ 3 ดังนี้
ตารางที่ 1 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสีอะคริลิค จากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม
จํานวนนักเรียน
มัธยมศึกษาปที่ 4/1
เกณฑการประเมิน ผล
การพัฒนาทักษะการ
ระบายสีอะคริลิค
ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ
32 ดีมาก
พอใช
ปรับปรุง
9.52
50
40.48
นร. 2 คน
นร. 15 คน
นร. 15 คน
ตารางที่ 2 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสีอะคริลิค จากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่
2
จํานวนนักเรียน
มัธยมศึกษาปที่ 4/1
เกณฑการประเมิน ผล
การพัฒนาทักษะการ
ระบายสีอะคริลิค
ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ
32 ดีมาก
พอใช
ปรับปรุง
38.10
52.38
9.52
นร. 12 คน
นร. 18 คน
นร. 2 คน
ตารางที่ 3 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสีอะคริลิค จากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม
ครั้งที่ 3
จํานวนนักเรียน
มัธยมศึกษาปที่ 4/1
เกณฑการประเมิน ผล
การพัฒนาทักษะการ
ระบายสีอะคริลิค
ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ
จากการเปรียบเทียบคะแนนทั้ง 3 ตาราง จะเห็นไดวานักเรียนมีทักษะในการระบายสีอะคริลิค สูงขึ้น
ตามลําดับ โดยครั้งที่ 1 อยูในระดับดีมาก รอยละ 64.28 ครั้งที่ 2 รอยละ 33.34 และ ครั้งที่ 3 รอย
ละ 2.38 ตามลําดับ และนักเรียนที่มีทักษะการระบายสีอะคริลิคอยูในระดับปรับปรุง
ตารางที่ 4 สรุปแบบสังเกตพฤติกรรมกลุม
จากการทําวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ พฤติกรรมกลุมที่สังเกตโดยเพื่อนในกลุม มี 4 ขอ คือ
1. ความรับผิดชอบตอหนาที่
2. การใหความรวมมือ
3. ความสนใจตอกิจกรรมกลุม
4. การแสดงความคิดเห็น
กลุมที่
คะแนนเฉลี่ย คาระดับคะแนน
ดาน 1 ดาน 2 ดาน 3 ดาน 4
กลุมที่ 1 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 2 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 3 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 4 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 6 3 3 3 3 พอใช
กลุมที่ 7 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 8 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 9 3 3 3 3 พอใช
กลุมที่ 10 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 11 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
32 ดีมาก
พอใช
ปรับปรุง
64.28
33.34
2.38
นร. 29 คน
นร. 2 คน
นร. 1 คน
บทที่ 5
สรุปอภิปรายผล และขอเสนอแนะ
การวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการ
ทํางานเปนกลุม ในครั้งนี้ คือ
1. สรุปผล
- จากตารางเปรียบเทียบคะแนนการทํางาน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการทํางานเปนกลุม จํานวน 3 ครั้ง พบวา จากการทํางาน
ครั้งที่ 1 มีนักเรียนจํานวน 2 คน ที่มีความสามารถในการระบายสีอะคริลิคไดถูกตองตามหลักการ อยูใน
ขั้นเกณฑดีมาก และมีนักเรียนจํานวน 15 คน ที่มีความสามารถในการระบายสีอะคริลิค อยูในเกณฑระดับ
พอใช นักเรียนจํานวน 15 คน มีความสามารถในการระบายสีอะคริลิค อยูในระดับปรับปรุง
- คะแนนการทํางานครั้งที่ 2 พบวา นักเรียนสวนใหญทํางานอยูในระดับดีมากจํานวน
12 คน และอยูในระดับพอใช 18 คน มีนักเรียนจํานวน 2 คน ที่อยูในระดับปรับปรุง
- คะแนนการทํางานครั้งที่ 3 พบวา นักเรียนจํานวน 1 คน ที่อยูในระดับปรับปรุง
ดังนั้นการพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4/1
โดยวิธีทํางานเปนกลุม ทําใหเกิดผลการเรียนรูที่ดีขึ้น และบรรลุวัตถุประสงคการทําวิจัยในชั้นเรียน
ครั้งนี้
2. อภิปรายผล
- จากการทําวิจัยในชั้นเรียนในครั้งนี้สงผลใหนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4/1 ไดพัฒนาทักษะการระบาย
สีอะคริลิคโดยการทํางานเปนกลุม คือ กระบวนการที่ทําใหการทํางานแตละครั้งของนักเรียนเกิดผลสําเร็จ
และไดผลงานเปนที่นาพึงพอใจเปนอยางยิ่ง ซึ่งผูทําวิจัยไดตรวจ ผลงานและประเมินผลการใหคะแนนตาม
ประเด็นและหลักเกณฑตามที่กําหนดไว ทําเปนขอมูล หลักฐานยืนยันไดวา การทํางานในครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2
และครั้งที่ 3 ทําใหนักเรียนมีการพัฒนาทักษะ การระบายสีอะคริลิค จากทํางานอยูในขั้นเกณฑปรับปรุง
พัฒนาเปนพอใชและดีมาก ขึ้นมาตามลําดับ และนักเรียนที่มีความสามารถทํางานจากครั้งที่ 1 ดีมาก ก็ได
รักษาระดับความสามารถของตนเองไว ตลอดทั้ง 3 ครั้ง
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงคเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียน ชั้น มัธยมศึกษาปที่
4/1 โดยวิธีการทํางานเปนกลุมซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการจัดการเรียนการสอนใน วิชาศิลปะพื้นฐาน
พบวา นักเรียนขาดทักษะในการระบายสีอะคริลิค ผูวิจัยจึงใชวิธีการทํางานเปนกลุม
สรุปไดวา การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ สงผลใหนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4/1 เกิดการพัฒนาการ
เรียนรูและประสบการณที่ใหมๆ ฝกใหนักเรียนเปนคนคิดริเริ่มสรางสรรค สามารถนําความรูที่ไดรับไปใชแก
ปญหาใหเกิดประโยชนในชีวิตประจําวันไดเหมาะสม การวิจัย ในชั้นเรียนเปนกระบวนการทํางานโดยมีวีธีการ
วางแผนจนเกิดผลสําเร็จที่ดีในการทํางาน เพื่อ สนองตอบนโยบายการปฏิรูปการศึกษา ตามพระราชบัญญัติ
การศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2542
ขอเสนอแนะ
ในการทําวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ผูวิจัยมีขอเสนอแนะแนวทางสําหรับผูสนใจ จะนําไป พัฒนาการเรียน
การสอนหรือ ศึกษาการวิจัยในชั้นเรียนในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ และกลุมสาระการเรียนรูอื่น ๆ ไดดังนี้
1. ผูทําวิจัยในชั้นเรียนควรศึกษาสภาพปญหาในหองเรียน ที่สมควรใหมีการแกไข และปรับปรุงเพื่อใหการ
เรียนการสอนดีขึ้น
2. นักเรียนตอบแบบสอบถาม ขอดี – ขอเสีย โดยการทํางานเปนกลุม มีความพึงพอใจมาก นอยอยางไร ครู
เก็บรวบรวมขอมูลและไดขอสรุป คือ รอยละ 95 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 เห็นดวยกับวิธีการเรียน
โดยการทํางานเปนกลุม
3. นักเรียนควรไดนําความรูและประสบการณที่ไดรับ ไปใชใหเกิดประโยชนทั้งตอตนเอง และครอบครัว
ตลอดจนในสังคมใหดีขึ้นตอไปในอนาคต
4. การจัดกระบวนการสอน โดยใหนักเรียนทํางานเปนกลุม ๆ ละ 3-5 คน เปนลักษณะ กลุมที่เหมาะสม
เพราะการแสดงความคิดเห็นรวมกันในกลุม หรือการนัดหมายแบงงานรับผิดชอบ แกสมาชิกในกลุมจะมีความ
คลองตัวงาย สะดวกตอการประสานงานกัน
บรรณานุกรม
โชดก เกงเขตรกิจ, ปญญา ทรงเสรี, ยศนันท แยมเมือง, เศรษฐศิริ สายกระสุน.(2548) ทัศนศิลป ชั้น
มัธยมศึกษาปที่ 4 บริษัทโรงพิมพไทยวัฒนาพาณิชย จํากัด. กรุงเทพมหานคร. วัชรพงศ หงสสุวรรณ.(2548) สี
อะคริลิคภาคปฏิบัติ บริษัทวาดศิลป จํากัด. กรุงเทพมาหานคร. ประเทือง เอมเจริญ.(2546) มิติแหงสีอะคริลิค
2003 บริษัทอัมรินทรพริ้นติ้ง แอนดพัลลิชชิ่งจํากัด. (มหาชน)
www.peterfineart.com E – book ทัศนศิลป
www.acp.assumpton.ac.th/Homepasge/self การทํางานกลุม
ภาคผนวก
ตัวอยางภาพครั้งที่ 1
ผลงานนักเรียน ม.4/1
ตัวอยางภาพครั้งที่ 2
ตัวอยางภาพครั้งที่ 3

More Related Content

Similar to research 653.pdf

ท่องสูตรคูณ
ท่องสูตรคูณท่องสูตรคูณ
ท่องสูตรคูณ
aapiaa
 
แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1
0871885581
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1
Apinun Nadee
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1
Apinun Nadee
 

Similar to research 653.pdf (20)

บทที่ 3.ใหม่
บทที่ 3.ใหม่บทที่ 3.ใหม่
บทที่ 3.ใหม่
 
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทย
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทยเค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทย
เค้าโครงการเขียนโครงงานวิชาภาษาไทย
 
Unit1
Unit1Unit1
Unit1
 
ท่องสูตรคูณ
ท่องสูตรคูณท่องสูตรคูณ
ท่องสูตรคูณ
 
Unit1
Unit1Unit1
Unit1
 
Unit1
Unit1Unit1
Unit1
 
Unit1
Unit1Unit1
Unit1
 
Plan
PlanPlan
Plan
 
Sci 2009 03
Sci 2009 03Sci 2009 03
Sci 2009 03
 
แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1
 
นำเสนอวิจัยวิทยฐานะ
นำเสนอวิจัยวิทยฐานะนำเสนอวิจัยวิทยฐานะ
นำเสนอวิจัยวิทยฐานะ
 
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง-แผนที่
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง-แผนที่บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง-แผนที่
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง-แผนที่
 
มาตราแม่ กน
มาตราแม่ กนมาตราแม่ กน
มาตราแม่ กน
 
Profile
ProfileProfile
Profile
 
Profile
ProfileProfile
Profile
 
Profile
ProfileProfile
Profile
 
Profile
ProfileProfile
Profile
 
Profile
ProfileProfile
Profile
 

More from peter dontoom

More from peter dontoom (20)

ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdf
 
portfolio 66.2.pdf
portfolio 66.2.pdfportfolio 66.2.pdf
portfolio 66.2.pdf
 
supervision 65.pdf
supervision 65.pdfsupervision 65.pdf
supervision 65.pdf
 
Instruction Supervision 66.pdf
Instruction Supervision 66.pdfInstruction Supervision 66.pdf
Instruction Supervision 66.pdf
 
portfolio 2022.pdf
portfolio 2022.pdfportfolio 2022.pdf
portfolio 2022.pdf
 
Supervision Report 65.pdf
Supervision Report 65.pdfSupervision Report 65.pdf
Supervision Report 65.pdf
 
4.3.pdf
4.3.pdf4.3.pdf
4.3.pdf
 
4.2.pdf
4.2.pdf4.2.pdf
4.2.pdf
 
3.4.pdf
3.4.pdf3.4.pdf
3.4.pdf
 

research 653.pdf

  • 1. เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โดยการทํางานเปนกลุม ผูจัดทํา นายอารมย อินทรประเสริฐ กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2565 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม อําเภอบานโปง จังหวัดราชบุรี
  • 2. บทคัดยอ การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงคเพื่อการศึกษาการพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาป ที่ 4/1 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม จํานวน 32 คน โดยการทดลองใหนักเรียน ทํางานเปนกลุมสามารถพัฒนา ทักษะการระบายสีอะคริลิค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ไดดีขึ้นและ มีการประเมินผลการระบายสี อะคริลิค จากใบงานทั้งหมด 3 ครั้ง และเก็บรวบรวมขอมูลจากคะแนนของ นักเรียนแตละคนมาเปรียบเทียบ กันทั้ง 3 ครั้ง จะเห็นไดวา นักเรียนมีทักษะในการระบายสีอะคริลิค สูงขึ้นตามลําดับ โดยครั้งที่ 1 อยูในระดับ ดีมากรอยละ 14.50 ครั้งที่ 2 รอยละ 27.20 และครั้งที่ 3 รอยละ 56.30 ตามลําดับ ผลการวิจัยในชั้นเรียน ครั้งนี้สงผลใหนักเรียนมีความรูและเกิดการพัฒนาทักษะการระบาย สีอะคริลิค ดีขึ้นและบรรลุวัตถุประสงค เปนที่นาพึงพอใจ นายอารมย อินทรประเสริฐ
  • 3. คํานํา ตามที่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดกําหนดมาตรฐานการเรียนรูชวงชั้นในกลุมสาระ การเรียนรูศิลปะโดยมวัตถุประสงคใหผูเรียนรูไดพัฒนาดานสุนทรียภาพรางกาย จิตใจ สติปญญา อารมณและ สังคม สงเสริมใหผูเรียน กลาคิด กลาทํา กลาแสดงออก ในเชิง สรางสรรคสามารถคนพบศักยภาพของตนเอง อันเปนพื้นฐานในการศึกษาตอหรือประกอบอาชีพที่ สุจริตในอนาคตไดการทําวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประ สงคเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการทํางานเปนกลุม ซึ่ง ถือวาเปนวิธีการนํามาใชแกปญหาในการจัดการเรียน การสอนวิธีหนึ่ง เพื่อใหผูเรียนไดพัฒนาการเรียนรูดาน ทัศนศิลปเกี่ยวกับการระบายสีอะคริลิคใหดีขึ้น ผูวิจัยขอขอบพระคุณบุคคลที่ใหการสนับสนุนสงเสริมในการ วิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ นายอารมย อินทรประเสริฐ
  • 4. สารบัญ บทคัดยอ หนา คํานํา บทที่ 1 บทนํา -ความเปนมาและความสําคัญของปญหา -วัตถุประสงค -สมมุติฐาน -นิยามศัพทเฉพาะ - ประโยชนของการทําวิจัย บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวของ เอกสารที่เกี่ยวของในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค บทที่ 3 วิธีการวิจัย กลุมเปาหมาย ตัวแปรที่ใชในการวิจัย วิธีการหรือนวัตกรรมที่ใช แผนภูมิการจัดกิจกรรมการเรียนรูพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล วิธีการวิเคราะหขอมูล บทที่ 4 ผลการวิเคราะหขอมูล ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ การระบายสีอะคริลิค จากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่ 1 ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ
  • 5. การระบายสีอะคริลิคจากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่ 2 ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ การระบายสีอะคริลิคจากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่ 3 สรุปแบบสังเกตพฤติกรรมกลุม บทที่ 5 สรุปอภิปรายผลและขอเสนอแนะ สรุปผล อภิปรายผล ขอเสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก ตัวอยางภาพครั้งที่ 1 ตัวอยางภาพครั้งที่ 2 ตัวอยางภาพครั้งที่ 3 ภาพนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ปฏิบัติงานกลุม ใบความรูที่ 1 ใบความรูที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็น ใบงานที่ 1 ใบความรูที่ 2 ใบงานที่ 3 แบบประเมินการทดสอบการระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 1 แบบประเมินการทดสอบการระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 2 แบบประเมินการทดสอบการระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 3
  • 6. บทที่ 1 บทนํา การวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โดยทํางานเปนกลุม 1. ความเปนมาและความสําคัญของปญหา การจัดกระบวนการเรียนการสอนในรายวิชาศิลปะพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 สวนหนึ่งของเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดกําหนดใหผูเรียนเกิด การเรียนรูดานทัศนศิลปประเภทจิตรกรรมการวาดภาพระบายสีอะคริลิค โดยเนนเพื่อใหเกิดการเรียนรูทั้ง ทฤษฎีและการปฏิบัติ จากการประเมินผลการจัดการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ซึ่งมี นักเรียนทั้งหมดจํานวน 32 คนพบวานักเรียนจํานวน 32 คน ยังขาดทักษะในการระบายสีจะเห็น ไดจากผลงานที่นักเรียนฝกปฏิบัติ ทั้งนี้เปนเพราะนักเรียนขาดกิจกรรมที่สงเสริมทักษะการระบาย สี ซึ่งการระบายสีอะคริลิคเปนทักษะที่สําคัญและจําเปนในทางศิลปะ อันเปนทักษะพื้นฐานที่จะนําไปสู งานศิลปะดานอื่น นอกจากนี้การวาดภาพระบายสีอะคริลิคยังเปนกิจกรรมที่สรางความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ทําใหนักเรียนไดผอนคลายอารมณ ทําใหนักเรียนมีจิตใจออนโยน และถาหาก นักเรียนขาดทักษะการระบายสี จะสงผลตอการเรียนศิลปะดานอื่น ๆ ทําใหนักเรียนขาดแรงจูงใจ ที่จะเรียนศิลปะดานอื่น ๆอีกดวย ดังนั้นหากไดใหนักเรียนฝกระบายสีอะคริลิคเปนกลุมจะทําใหนักเรียนมีทักษะในการระบายสีดีขึ้น ได ทั้งนี้เนื่องจากกระบวนการในการทํางานเปนกลุมไดชวยสนับสนุนใหนักเรียนเกิดจินตนาการ และความคิดสรางสรรคมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมกันภายในกลุม และมีการยกยองชมเชย
  • 7. สรางแรงจูงใจและกําลังใจใหเกิดขึ้นภายในกลุม ซึ่งจะชวยใหนักเรียนมีทักษะในการระบายสีอะคริลิค ตลอดจนการไดเปนผูพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงคทางดานสุนทรียะ มีความพรอมที่จะเรียน ในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะในระดับชั้นที่สูงขึ้นตอไป 2. วัตถุประสงค เพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการทํางานเปนกลุม 3. สมมุติฐาน การทํางานเปนกลุมสามารถพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ไดดีขึ้น 4. นิยามศัพทเฉพาะ 1.การทํางานเปนกลุม หมายถึง การทํางานรวมกันของนักเรียนโดยแบงเปนกลุม กลุมละ 3 - 5 คน โดยมีการจัดระบบการทํางานรวมกัน สมาชิกในกลุมทุกคนมีสวนรวมในการ แสดงความคิดเห็นในการปฏิบัติงานไดเรียนรูการทํางานรวมกับผูอื่น 2.ทักษะการระบายสีอะคริลิค หมายถึง ความสามารถในการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนประเมิน ไดจากการฝกปฏิบัติการระบายสีอะคริลิคใหเกิดความชํานาญตามขั้นตอนของทฤษฎีสีและหลักการ จัดองคประกอบของศิลปะ เพื่อใหไดภาพระบายสีอะคริลิค ที่มีความสวยงามสามารถนําไปใชสอย ใหเกิดประโยชนในชีวิตประจําวันไดตามความเหมาะสม 5. ประโยชนของการทําวิจัย 1. นักเรียนไดพัฒนาทักษะดานการระบายสีอะคริลิค 2. นักเรียนไดฝกการทํางานเปนกลุม 3. นักเรียนมีความคิดริเริ่มสรางสรรคสามารถวาดภาพระบายสีอะคริลิคไดสวยงาม 4. นักเรียนมีความภูมิใจในผลงานของตนเองและไดรับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ในการทํางาน 5. นักเรียนมีความรักสามัคคีกันในการทํางานเปนกลุมและรูจักการเสียสละเพื่อ ประโยชนของสวนรวม
  • 8. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวของ การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ผูวิจัยไดศึกษาเอกสารและงานวิจัยเพื่อเปนแนวทางในการ ดําเนินการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีของนักเรียน โดยศึกษาเอกสาร ตามลําดับดังนี้ 1.โชดก เกงเขตรกิจ, ปญญา ทรงเสรีย , ยศนันท แยมเมือง และเศรษฐศิริ สายกระสุน ( 2548 ) สรุปไดวา สีสันกับโลกสวยงาม เกี่ยวกับกับทัศนธาตุ และองคประกอบศิลปะ คือผูที สรางสรรคผลงานศิลปะจะใชเปนสื่อความหมายในการแสดงออกโดยองคประกอบพื้นฐานคือ ทัศนธาตุตางๆ ไดแก จุด เสน น้ําหนัก(แสง - เงา ) ทีวาง ลักษณะผิว และสี เพื่อนํามาจัดรวมเขา ดวยกันจะเกิดเปนรูปทรงของงานศิลปะขึ้น แสดงใหเห็นวาการระบายสีเปนองคประกอบศิลปะที่ทําใหผลงานมีความนาสนใจแกผูพบ เห็นโดยมีความสวยงามเกิดความรูสึกทางอารมณจิตใจไดหลากหลาย สภาพแวดลอมของมนุษย ลวนแตประกอบดวยสีสันไมวาจะเปนสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติหรือสิ่งแวดลอมที่มนุษยสรางขึ้น ถาขาดการตกแตงดวยสีสันยอมไมนาสนใจและจะไมมีความสวยงาม 2.วัชรพงษ หงษสุวรรณ ( 2548 ) สรุปไดวาการเขียนภาพสีอะคริลิค(Liquitex) เปนสีเคมีที่มีสวนผสมของ พลาสติกโพลิเมอร (Polymer) โดยมีคุณสมบัติพิเศษ ที่แหงเร็ว ติดทนนาน ถึงขนาดเอาไปเพนทกับวัสดุอื่นๆ ไดมากมาย ไมวาจะเปน ผาคานวาส จานเซรามิค รองเทาผา โลหะ พลาสติก และไม เปนตน ซึ่งดวยลักษณะที่ มีความทึบแสงของอะคริลิคนี่เอง เขียนในกระดาษ สีอะคริลิคเปนสีทึบแสง (Opaque) ที่ใชผสมกับน้ําไดแลวใชพูกันระบายลงบนกระดาษ การผสมสีเกิดจากการผสมระหวางสีหนึ่งกับอีกสีหนึ่ง หรือหลายสีผสมกัน เพื่อใหเกิดเปนการสรางสรรค ตามตองการ 3. ประเทือง เอมเจริญ (2546) ไดกลาวถึงสิ่งที่ปรากฏเปนความงามของศิลปความชุม
  • 9. นุมนวลเต็มพื้นที่ของภาพที่ดูกลมกลืนกัน การไหลอยางอิสระใชเทคนิคน้ําหนักเสน ความงามของ สีที ทาของการขีดเขียนที่ดูเฉียบขาดเรียบงาย คาแตกตางของ สี น้ําหนัก รูปทรงที่ดูมีเอกภาพ ในตัวเอง พลังกระตุนจินตนาการจากภาพสูผูชมงานที่มีสมาธิในการดู สิ่งที่กอใหเกิดความสําเร็จใน งานคือสีทุกสีอะคริลิค บวกน้ําใจ มิติแหงสีอะคริลิค * แผซานไปทั่วแผนกระดาษเปยกฉ่ําดั่งมวลเมฆบนทองฟาคือ มิติแหงสีอะคริลิค *เคลื่อนไหวอยางอิสระราเริงเพื่อเขารวมเปนหนึ่งเดียวกับความสงบ คือ มิติแหงสีอะคริลิค *แทรกซึมสูใตผิวลื่นไหลอยูเบื้องบน มุงผสานความกลมกลืนคือ มิติแหงสีอะคริลิค * แตกตัวเปนสีทุกสีดั่งดอกไมหลากสีบนพื้นพิภพคือ มิติแหงสีอะคริลิค * ไมแยกตัวจากความดี หลีกหนีความชั่วคือ มิติแหงสีอะคริลิค *เปดประตูแหงความไมรู ไปสูความรูแจงอันเบิกบานคือ มิติแหงสีอะคริลิค แสดงใหเห็นวามิติแหงสีอะคริลิคเปนเอกลักษณเฉพาะตัวมีเสนหไมเหมือนสีอื่น ภาพที่เกิด จากการระบายสีอะคริลิคดูชุมชื่น มีชีวิตชีวา มีความสวยงามนาสนใจแกผูพบเห็น 4. การทํางานกลุม การทํางานกลุม หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนรู กิจกรรมในชมรมตาง ๆ เพื่อ สงเสริมใหผูเรียนไดมีสวนรวมในการวางแผน ความรับผิดชอบและการบริหารเวลา (http//:www.acp.assumption.ac.th/Homepage/self) E-book หมายถึง หนังสืออิเล็กทรอนิกส จากเว็บไซตครู www.peterfineart.com ดังนั้นการทํางานเปนกลุม จึงหมายถึง การรวมกันทํางานตั้งแต 3 - 5คนขึ้นไป สมาชิกใน กลุมมีสวนรวมในการวางแผนทํางานและไดแสดงความคิดเห็นรวมกัน สงผลใหไดชิ้นงานที่สําเร็จ เปนที่พึงพอใจรวมกัน
  • 10. ประโยชนของการทํางานเปนกลุม 1. นักเรียนไดรูจักการวางแผนการจัดกิจกรรมรวมกัน 2. นักเรียนไดพัฒนาบุคลิกของตนเองใหปรับตัวเขากับผูอื่นได 3. นักเรียนไดรูจักการเสียสละเวลาและทุนทรัพยเพื่อใหเกิดประโยชนตอสวนรวม 4. นักเรียนมีความรักสามัคคีในหมูคณะและมีความภูมิใจในงานที่ทํารวมกัน บทที่ 3 วิธีการวิจัย การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ เปนการวิจัยเชิงทดลอง โดยผูวิจัยไดดําเนินการตามลําดับดังนี้ 1. กลุมเปาหมาย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม จํานวน 32 คน 2. ตัวแปรที่ใชในการวิจัย 2.1 ตัวแปรตน การทํางานเปนกลุม 2.2 ตัวแปรตาม การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค 3. วิธีการหรือนวัตกรรมที่ใช 1. แผนการเรียนรู เรื่อง ศิลปสมัยใหม 2. แผนการจัดกิจกรรมการทํางานเปนกลุม 2.1 นักเรียนแบงกลุมกันทํางานตามอัธยาศัย ใหมีจํานวนกลุมละ 3 - 4 คน เสร็จแลว ใหประชุมสมาชิกกลุม แบงงานกันรับผิดชอบ โดยแตละกลุมนัดหมาย เรื่องการเตรียมอุปกรณ
  • 11. สําหรับวาดภาพระบายสีอะคริลิค มาใหพรอมในชั่วโมงเรียน 2.2 ใหนักเรียนทดลองวาดภาพระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 1 ภาพนามธรรม(แอบสแตรค) 2.3 ครูจัดทําใบความรูที่ 1 เรื่อง ทฤษฎีสี และ ใบความรูที่ 2 เรื่อง การเขียนภาพสีอะคริลิค ใหนักเรียนศึกษาใบความรู 2.4 นักเรียนแตละกลุมทุกคนทดลองวาดภาพระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 2 ภาพนามธรรม(แอบสแตรค) 2.5 เพื่อนในกลุมและครูรวมกันประเมินผลการทํางานครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 2.6 หลังการประเมินผลงานนักเรียนบางคนไดคะแนนไมผานเกณฑเพื่อนในกลุม และครูชวยกันแนะนําเพิ่มเติมโดยการสาธิต 2.7 หลังประเมินผลงานนักเรียนครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่ไดคะแนนผานเกณฑใหทําใบ งานที่ 3 2.8 นักเรียนแตละกลุมทุกคนทดลองวาดภาพระบายสีอะคริลิค ครั้งที่ 3 ภาพนามธรรม(แอบสแตรค) 2.9 สรุปผลการประเมินการทํางานจากใบงานทั้ง 3 ครั้ง ใหนักเรียนทุกกลุมทราบ
  • 12. แผนภูมิการจัดกิจกรรมการเรียนรูพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค ของนักเรียนชันมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการทํางานเปนกลุม นักเรียนแบงกลุมทํางานตามอัธยาศัย กลุมละ 3-4 นักเรียนทําใบงานที่ 1 นักเรียนศึกษาใบความรู นักเรียนทําใบงานที่ 2 นักเรียนและครูรวมกันประเมินผลงานครั้งที่ 1และครั้งที่2 ไมผานเกณฑ เพื่อนในกลุมและครู ผานเกณฑ นักเรียนทําใบงานที่ 3 สรุปการประเมินผลการทํางานจากใบงานทั้ง 3 ครั้ง 4. วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล ผูวิจัยเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเอง ตามขั้นตอนดังนี้ 1. ใหนักเรียนทํางานเปนกลุมทั้งหมด 3 ครั้ง เริ่มตั้งแตการประเมินผลกอนเรียน โดยวาดภาพระบายสีอะคริลิคลัทธิแอบสแตรค 2. นักเรียนปฏิบัติงาน ตามใบงานที่ 1 , ใบงานที่ 2 , ใบงานที่ 3 3. ครูแจกแบบการประเมินผลการใหคะแนนทั้ง 3 ครั้ง
  • 13. 4. ครูกําหนดเวลาใหนักเรียนสงผลงานที่ทําเสร็จแลวใหครูตรวจประเมินผล 5. ครูสรุปผลการตรวจผลงาน ครั้งที่ 1 และดําเนินการตอดังนี้ 5.1 ครูแจกใบงาน นักเรียนปฏิบัติตามใบงานครั้งที่ 2 วาดภาพระบายสีอะคริลิคเรื่องลัทธิแอบส แตรค และสงผลงานใหครูตรวจ ประเมินผล 5.2 ครูแจงผลคะแนนครั้งที่ 2 6. ครูแจกใบงานครั้งที่ 3 และดําเนินการตอดังนี้ 6.1 นักเรียนปฏิบัติตามใบงานครั้งที่ 3 วาดภาพระบายสีอะคริลิค เรื่องลัทธิแอบสแตรค สงผลงานที่เสร็จแลวใหครูตรวจประเมินผล 6.2 ครูแจงผลคะแนน จากการทํางานครั้งที่ 3 และแจงผลการประเมินทั้ง 3 ครั้งใหนักเรียนทราบ 7. วิธีการวิเคราะหขอมูล 7.1 เปรียบเทียบผลคะแนนกอนเรียนและหลังเรียน โดยใชคารอยละ 7.2 รวบรวมขอมูลจากแบบประเมินผลการใหคะแนนทั้ง 3 ครั้ง 5. วิธีการวิเคราะหขอมูล - ผูทําวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ใชวิธีการวิเคราะหขอมูลโดยวิธีหาคาเฉลี่ยรอยละ
  • 14. บทที่ 4 ผลการวิเคราะหขอมูล ผลการวิเคราะหขอมูล ปรากฏดังตารางที่ 1 , 2 และ 3 ดังนี้ ตารางที่ 1 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสีอะคริลิค จากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม จํานวนนักเรียน มัธยมศึกษาปที่ 4/1 เกณฑการประเมิน ผล การพัฒนาทักษะการ ระบายสีอะคริลิค ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ 32 ดีมาก พอใช ปรับปรุง 9.52 50 40.48 นร. 2 คน นร. 15 คน นร. 15 คน ตารางที่ 2 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสีอะคริลิค จากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่ 2 จํานวนนักเรียน มัธยมศึกษาปที่ 4/1 เกณฑการประเมิน ผล การพัฒนาทักษะการ ระบายสีอะคริลิค ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ 32 ดีมาก พอใช ปรับปรุง 38.10 52.38 9.52 นร. 12 คน นร. 18 คน นร. 2 คน ตารางที่ 3 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสีอะคริลิค จากกิจกรรมการทํางานเปนกลุม ครั้งที่ 3 จํานวนนักเรียน มัธยมศึกษาปที่ 4/1 เกณฑการประเมิน ผล การพัฒนาทักษะการ ระบายสีอะคริลิค ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ
  • 15. จากการเปรียบเทียบคะแนนทั้ง 3 ตาราง จะเห็นไดวานักเรียนมีทักษะในการระบายสีอะคริลิค สูงขึ้น ตามลําดับ โดยครั้งที่ 1 อยูในระดับดีมาก รอยละ 64.28 ครั้งที่ 2 รอยละ 33.34 และ ครั้งที่ 3 รอย ละ 2.38 ตามลําดับ และนักเรียนที่มีทักษะการระบายสีอะคริลิคอยูในระดับปรับปรุง ตารางที่ 4 สรุปแบบสังเกตพฤติกรรมกลุม จากการทําวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ พฤติกรรมกลุมที่สังเกตโดยเพื่อนในกลุม มี 4 ขอ คือ 1. ความรับผิดชอบตอหนาที่ 2. การใหความรวมมือ 3. ความสนใจตอกิจกรรมกลุม 4. การแสดงความคิดเห็น กลุมที่ คะแนนเฉลี่ย คาระดับคะแนน ดาน 1 ดาน 2 ดาน 3 ดาน 4 กลุมที่ 1 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 2 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 3 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 4 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 6 3 3 3 3 พอใช กลุมที่ 7 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 8 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 9 3 3 3 3 พอใช กลุมที่ 10 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 11 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี 32 ดีมาก พอใช ปรับปรุง 64.28 33.34 2.38 นร. 29 คน นร. 2 คน นร. 1 คน
  • 16. บทที่ 5 สรุปอภิปรายผล และขอเสนอแนะ การวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการ ทํางานเปนกลุม ในครั้งนี้ คือ 1. สรุปผล - จากตารางเปรียบเทียบคะแนนการทํางาน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยการทํางานเปนกลุม จํานวน 3 ครั้ง พบวา จากการทํางาน ครั้งที่ 1 มีนักเรียนจํานวน 2 คน ที่มีความสามารถในการระบายสีอะคริลิคไดถูกตองตามหลักการ อยูใน ขั้นเกณฑดีมาก และมีนักเรียนจํานวน 15 คน ที่มีความสามารถในการระบายสีอะคริลิค อยูในเกณฑระดับ พอใช นักเรียนจํานวน 15 คน มีความสามารถในการระบายสีอะคริลิค อยูในระดับปรับปรุง - คะแนนการทํางานครั้งที่ 2 พบวา นักเรียนสวนใหญทํางานอยูในระดับดีมากจํานวน 12 คน และอยูในระดับพอใช 18 คน มีนักเรียนจํานวน 2 คน ที่อยูในระดับปรับปรุง - คะแนนการทํางานครั้งที่ 3 พบวา นักเรียนจํานวน 1 คน ที่อยูในระดับปรับปรุง ดังนั้นการพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยวิธีทํางานเปนกลุม ทําใหเกิดผลการเรียนรูที่ดีขึ้น และบรรลุวัตถุประสงคการทําวิจัยในชั้นเรียน ครั้งนี้ 2. อภิปรายผล - จากการทําวิจัยในชั้นเรียนในครั้งนี้สงผลใหนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4/1 ไดพัฒนาทักษะการระบาย สีอะคริลิคโดยการทํางานเปนกลุม คือ กระบวนการที่ทําใหการทํางานแตละครั้งของนักเรียนเกิดผลสําเร็จ และไดผลงานเปนที่นาพึงพอใจเปนอยางยิ่ง ซึ่งผูทําวิจัยไดตรวจ ผลงานและประเมินผลการใหคะแนนตาม ประเด็นและหลักเกณฑตามที่กําหนดไว ทําเปนขอมูล หลักฐานยืนยันไดวา การทํางานในครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ทําใหนักเรียนมีการพัฒนาทักษะ การระบายสีอะคริลิค จากทํางานอยูในขั้นเกณฑปรับปรุง
  • 17. พัฒนาเปนพอใชและดีมาก ขึ้นมาตามลําดับ และนักเรียนที่มีความสามารถทํางานจากครั้งที่ 1 ดีมาก ก็ได รักษาระดับความสามารถของตนเองไว ตลอดทั้ง 3 ครั้ง การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงคเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีอะคริลิคของนักเรียน ชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4/1 โดยวิธีการทํางานเปนกลุมซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการจัดการเรียนการสอนใน วิชาศิลปะพื้นฐาน พบวา นักเรียนขาดทักษะในการระบายสีอะคริลิค ผูวิจัยจึงใชวิธีการทํางานเปนกลุม สรุปไดวา การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ สงผลใหนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4/1 เกิดการพัฒนาการ เรียนรูและประสบการณที่ใหมๆ ฝกใหนักเรียนเปนคนคิดริเริ่มสรางสรรค สามารถนําความรูที่ไดรับไปใชแก ปญหาใหเกิดประโยชนในชีวิตประจําวันไดเหมาะสม การวิจัย ในชั้นเรียนเปนกระบวนการทํางานโดยมีวีธีการ วางแผนจนเกิดผลสําเร็จที่ดีในการทํางาน เพื่อ สนองตอบนโยบายการปฏิรูปการศึกษา ตามพระราชบัญญัติ การศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2542 ขอเสนอแนะ ในการทําวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ผูวิจัยมีขอเสนอแนะแนวทางสําหรับผูสนใจ จะนําไป พัฒนาการเรียน การสอนหรือ ศึกษาการวิจัยในชั้นเรียนในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ และกลุมสาระการเรียนรูอื่น ๆ ไดดังนี้ 1. ผูทําวิจัยในชั้นเรียนควรศึกษาสภาพปญหาในหองเรียน ที่สมควรใหมีการแกไข และปรับปรุงเพื่อใหการ เรียนการสอนดีขึ้น 2. นักเรียนตอบแบบสอบถาม ขอดี – ขอเสีย โดยการทํางานเปนกลุม มีความพึงพอใจมาก นอยอยางไร ครู เก็บรวบรวมขอมูลและไดขอสรุป คือ รอยละ 95 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 เห็นดวยกับวิธีการเรียน โดยการทํางานเปนกลุม 3. นักเรียนควรไดนําความรูและประสบการณที่ไดรับ ไปใชใหเกิดประโยชนทั้งตอตนเอง และครอบครัว ตลอดจนในสังคมใหดีขึ้นตอไปในอนาคต 4. การจัดกระบวนการสอน โดยใหนักเรียนทํางานเปนกลุม ๆ ละ 3-5 คน เปนลักษณะ กลุมที่เหมาะสม เพราะการแสดงความคิดเห็นรวมกันในกลุม หรือการนัดหมายแบงงานรับผิดชอบ แกสมาชิกในกลุมจะมีความ คลองตัวงาย สะดวกตอการประสานงานกัน
  • 18. บรรณานุกรม โชดก เกงเขตรกิจ, ปญญา ทรงเสรี, ยศนันท แยมเมือง, เศรษฐศิริ สายกระสุน.(2548) ทัศนศิลป ชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4 บริษัทโรงพิมพไทยวัฒนาพาณิชย จํากัด. กรุงเทพมหานคร. วัชรพงศ หงสสุวรรณ.(2548) สี อะคริลิคภาคปฏิบัติ บริษัทวาดศิลป จํากัด. กรุงเทพมาหานคร. ประเทือง เอมเจริญ.(2546) มิติแหงสีอะคริลิค 2003 บริษัทอัมรินทรพริ้นติ้ง แอนดพัลลิชชิ่งจํากัด. (มหาชน) www.peterfineart.com E – book ทัศนศิลป www.acp.assumpton.ac.th/Homepasge/self การทํางานกลุม