บทที่3
- 2. ความหมายของการจัดองค์ การและการบริหาร
ความหมายของการจัดองค์ การ
การจั ด องค์ ก าร คื อ การจั ด ระเบี ย บ
กิจกรรมในองค์ การ โดยการแบ่ งกิจกรรมภายใน
องค์ การออกเป็ นกลุ่ม ๆ พร้ อมทั้งกาหนดอานาจ
หน้ าที่ ความรั บผิดชอบ และความสั มพันธ์ ของ
แต่ ละกลุ่มไว้ อย่ างชั ดเจน เพื่อให้ การดาเนินงาน
ขององค์ การบรรลุเป้ าหมายทีวางไว้
่
- 3. ความหมายของการบริหาร
คาว่ า “การบริ หาร หรื อ การจัดการ” นั้นมีคาที่ใช้ ในภาษาอังกฤษ
อยู่ 2 คา คือ ADMINISTRATION และ MANAGEMENT นักวิชาการบาง
ท่ า นมี ค วามเห็ น ว่ า ทั้ ง สองค ามี ค วามหมายแตกต่ า งกั น คื อ จะใช้ ค าว่ า
Administration กับการบริ หารซึ่ งเป็ นกระบวนการที่ผู้บริ หารระดับสู ง
กาหนดนโยบายและแผน ตลอดจนการก ากับดู แ ลเพื่อ ให้ แ น่ ใ จว่ า การน า
นโยบายหรือแผนไปทานั้นเกิดผลสาเร็จสอดคล้ องกับนโยบายและแผนที่วาง
ไว้ ส่ วนคาว่ า Management จะใช้ กับการจัดการ ซึ่งเป็ นประบวนการของ
ผู้บริ หารในระดับล่ างนานโยบายและแผนที่ถูกวางไว้ โดยผู้บริ หารระดับสู ง
ไปปฏิบตให้ บรรลุตามเปาหมายทีกาหนดไว้
ั ิ ้ ่
- 4. 1. ความสาคัญของการจัดองค์ การ
องค์ ก ารเป็ นที่รวมของคนและเป็ นที่รวมของงานต่ าง ๆ เพื่อ ให้
พนั กงานขององค์ การปฏิบัติง านได้ อ ย่ างเต็มที่และเต็มความสามารถจึ ง
จ าเป็ นต้ องจั ด แบ่ ง หน้ าที่ กั น ท า และมอบอ านาจให้ รั บ ผิ ด ชอบตาม
ความสามารถและความถนัด ดังนั้นจะเห็นได้ ว่าการจัดตั้งองค์ การมีความ
จาเป็ นและก่ อให้ เกิดประโยชน์ หลายด้ าน ดังนี้
- 5. 1.1 ประโยชน์ ต่อองค์ การ
ทาให้ องค์ การบรรลุวตถุประสงค์ และเจริญก้ าวหน้ าขึนเรื่อย ๆ อีก
ั ้
ทั้ ง ยั ง ท าให้ ง านไม่ ซั บ ซ้ อนและองค์ ก ารก็ ยั ง สามารถปรั บ ตั ว เข้ า กั บ
สภาพแวดล้ อมทีเ่ ปลียนไปได้ ง่ายอีกด้ วย
่
1.2 ประโยชน์ ต่อผู้บริหาร
การบริ หารง่ ายทาได้ สะดวก รู้ ว่าใครทาอะไรและมีหน้ าที่ท า
อะไร แก้ ปัญหาการทางานที่ซ้าซ้ อนได้ ง่ายขึน ติดตามแกไขได้ ง่าย การ
้
มอบอ านาจก็ ท าได้ ง่ า ยขจั ด ปั ญ หาการเกี่ย วกั น ท างานหรื อ ปั ด ความ
รับผิดชอบ
- 6. 1.3 ประโยชน์ ต่อผู้ปฏิบัติงาน
ทาให้ ร้ ู อานาจและหน้ าที่ขอบข่ ายการทางานของตนเอง การแบ่ งงานให้
พนักงานได้ อย่ างเหมาะสม ช่ วยให้ พนักงานมีความพึงพอใจ และเกิดความคิด
ริเริ่มสร้ างสรรค์ เมือพนักงานรู้ อานาจหน้ าทีของตนเอง
่ ่
- 7. 2. ความสาคัญของการบริหาร
2.1 ช่ วยให้ องค์ การบรรลุเป้ าหมายนั่นคือผลกาไร
2.2 การบริหารช่ วยให้ เกิดประสิ ทธิภาพและประสิ ทธิผล
2.3 ช่ วยพยุงและส่ งเสริมฐานะทางเศรษฐกิจของชาติ
2.4 เป็ นเครื่องชี้ถึงความเสื่ อมหรือความเจริญขององค์ การและ
ของสั งคมในอนาคต
2.5 เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่ งขันมากขึนจึงต้ องอาศัยหลักการ
้
บริหารใช้ ปรับปรุ งงานให้ มประสิ ทธิภาพมากทีสุด
ี ่
- 8. หลักการบริหาร
1. หลักการประหยัด (Economy)
การประหยัดมิใช่ ม่ ุงแต่ เพียงการระมัดระวังในการใช้ สอยเงินทองเท่ านั้น
แต่ หมายความรวมถึงการแสวงหาวิธีการทีจะใช้ จ่ายเงินด้ วยความรอบคอบ โดย
่
พยายามใช้ ทรัพยากรให้ น้อยทีสุด แต่ ให้ เกิดประโยชน์ หรือผลตอบแทนสู งสุ ด
่
2. ประสิ ทธิภาพ (Efficiency)
หมายถึง การทางานทีให้ ได้ รับผลประโยชน์ ตอบแทนสู งสุ ด ประสิ ทธิภาพ
่
ของการบริหารงานยังมีส่วนสั มพันธ์ กบเงิน แรงงาน กาลังใจ ซึ่งจะก่ อให้ เกิดมูลค่ า
ั
เป็ นความพึงพอใจตลอดจนมีการส่ งเสริมให้ เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ
- 9. 3. ประสิ ทธิผล (Effectively)
หมายถึง ผลการท างานที่สาเร็ จลุล่ วงตามวัต ถุ ป ระสงค์ หรื อ
เป้ าหมายที่ได้ ทาการกาหนดไว้ เป็ นการพิจารณาผลของการทางานที่
สาเร็จตามเปาหมายทีคาดหวังไว้ งานที่สาเร็จอย่ างมีประสิ ทธิภาพนี้ อาจ
้ ่
เกิดจากการปฏิบัติงานที่ไม่ ได้ ประหยัด และเป็ นงานที่ไม่ มีประสิ ทธิภาพ
ก็ ไ ด้ ดั ง นั้ น ผลงานที่ ส าเร็ จ ลุ ล่ ว งไปด้ ว ยดี น้ั น ควรเป็ นผลงานที่ มี
ประสิ ทธิผลทีเ่ กิดจากการประหยัดและมีประสิ ทธิภาพด้ วย
- 10. 4 . ความเป็ นธรรม (Equity)
การทางานร่ วมกันอย่ างมีความสุ ขและงานทีออกมามีประสิ ทธิภาพ
่
นั้นจะต้ องยึดหลักความเป็ นธรรม คือ ผู้ใหญ่ จะต้ องยึดหลักความเป็ นธรรมต่ อ
ผู้น้อย เพือไม่ ให้ เกิดความเหลือมลาตาสู งในการทางาน และงานก็จะบรรลุ
่ ่ ้ ่
ประสิ ทธิผลทีดด้วย
่ ี
5. ความซื่อสั ตย์ (Honesty)
หลักข้ อนีมีความสาคัญมาก การทางานด้ วยความซื่อสั ตย์จริงใจจ่ อ
้
กันจะส่ งผลถึงการสร้ างมิตรไมตรีอนดี และมีระเบียบแบบแผนในการทางาน
ั
เป็ นการปฏิบัตในสิ่ งทีถูกทีชอบ และความมีเกียรติกจะเป็ นผลตามมา
ิ ่ ่ ็
- 13. การกาหนดอานาจหน้ าที่และความรับผิดชอบ
1. อานาจหน้ าที่ หมายถึง สิ ทธิที่จะบัญชาหรื ออานาจที่จะสั่ ง
ให้ ผู้ อื่นปฏิบัติตามเป็ นอานาจที่เกิดจากตาแหน่ งหน้ าที่ตามกฎหมาย
หรือระเบียบแบบแผน
2. การจัดแผนกงาน เป็ นการจุ ดหมวดหมู่ ของงานออกเป็ น
ประเภทเพือแบ่ งงานกันทาตามความเหมาะสม
่
- 14. 3. การแบ่ งประเภทหน่ วยงาน บางหน่ วยงานก็ทาหน้ าที่ตรงกับ
วัตถุประสงค์ แต่ บางหน่ วยงานก็ทาหน้ าที่ปรึ กษาให้ คาแนะนา เพื่อให้ งาน
ต่ าง ๆ ในองค์ การดาเนินไปได้ ด้วยสะดวก งานต่ าง ๆ ในองค์ การแบ่ งเป็ น 3
ลักษณะ คือ
3.1 หน่ วยงานหลัก คือหน่ วยงานทีขนตรงต่ อวัตถุประสงค์
่ ึ้
3.2 หน่ วยงานที่ปรึ กษา เป็ นหน่ วยงานที่คอยให้ คาแนะนาในการ
วางแผนการกาหนดนโยบาย
3.3 หน่ วยงานช่ วยเหลือ เป็ นหน่ ว ยงานที่ใ ห้ ค วามช่ วยเหลือ ต่ อ
หน่ วยงานหลักและหน่ วยงานทีปรึกษาให้ ดาเนินงานไปได้ ด้วยดี
่
- 16. ลาดับขั้นของการบริหาร (Level of Management)
1. การบริหารระดับสู ง (Top Management) ทาหน้ าทีในการ
่
กาหนดนโยบายและการวางแผนในการดาเนินงานของธุรกิจ
2. การบริหารระดับกลาง (Top Management) ทาหน้ าทีในการ
่
กาหนดวิธีการปฏิบัตงานขององค์ การ
ิ
3. การบริหารระดับต้ น (Supervisory Management) ทาหน้ าทีใน
่
การปฏิบตงานตามทีผู้บริหารระดับกลางกาหนดขึน
ั ิ ่ ้
- 17. หน้ าทีการบริหารธุรกิจ
่
หน้ าทีเ่ บืองต้ นทีสาคัญของผู้บริหาร 5 ประการ คือ
้ ่
1. การวางแผน (Planning)
2. การจัดองค์ การ (Organizing)
3. การจัดคนเข้ าทางาน (Staffing)
4. การสั่ งการ (Directing)
5. การควบคุม (Controlling)
- 18. การวางแผน
ธุ ร กิ จ จ ะ ป ร ะ ส บ
ความส าเร็ จ ได้ น้ั น จะต้ อ งมี ก าร
วางแผนเพื่อ เป็ นแนวทางในการ
ดาเนินงานสู่ เปาหมายขององค์ การ
้
เช่ น การวางแผนนโยบาย การ
วางแผนกาลังคน การวางแผนทาง
การเงิน การวางแผนการผลิต เป็ น
ต้ น
- 19. การจัดองค์ การ
องค์ ก ารถื อ ได้ ว่ า มี ค วามส าคั ญ เป็ นอย่ า งมากวั น หนึ่ ง ๆ
บุคคลต้ องใช้ ชีวตในองค์ การที่ตนสั งกัดอยู่ตามกฎหมายไม่ ต่ากว่ า
ิ
8 ชั่ ว โมง ดั ง นั้ นบุ ค คลในองค์ การจึ ง จ าเป็ นที่ จ ะต้ องให้
ความสาคัญต่ อองค์ การ
การจัดองค์ การ คือ การกาหนดโครงสร้ างขององค์ การ การ
กาหนดอานาจหน้ าที่ ความรั บผิดชอบ ตลอดจนสายการบังคับ
บัญชา เพือให้ ดาเนินงานเกิดประโยชน์ สูงสุ ด
่
- 20. การจัดคนเข้ าทางาน
การจั ด การงานบุ ค คลหรื อ การบริ ห าร
ทรั พยากรมนุ ษย์ เป็ นหน้ าที่ส่วนหนึ่งที่สาคัญ
ของผู้ จั ด การ คื อ จะท าอย่ า งไรจึ ง จะจั ด หา
บุคคลที่เหมาะสมกับงาน ( PUT THE
RIGHT MAN ON THE RIGHT JOB )
และรั ก ษาบุ ค คลเหล่ า นั้ นให้ ท างานอยู่ กั บ
องค์ การให้ นานทีสุด
่
- 21. การสั่ งการ
ภายหลังจากที่ผู้บริ หารได้ ใช้ สติปัญญาในการวางแผนและ
การจัดองค์ การแล้ วนั้นจะต้ องมีการสั่ งการให้ เกิดเป็ นรู ปธรรมในทาง
ปฏิบตเิ พือให้ บรรลุวตถุประสงค์ ขององค์ การทีได้ มีการตั้งเปาหมายไว้
ั ่ ั ่ ้
การสั่ งการ หมายถึง การที่ผู้บริ หารระดับสู งใช้ อานาจห้ าที่
ตามสายการบังคับบัญชาให้ ผู้ ที่อยู่ ในระดับต่ากว่ าปฏิบัติตามคาสั่ ง
หรือคาชี้แนะ เพือให้ การดาเนินงานบรรลุวตถุประสงค์ ขององค์ การ
่ ั
- 22. การควบคุม
ผู้บริ หารนอกจากจะมีหน้ าที่วางแผน การจัดองค์ การ และ
การสั่ งการแล้ ว จะต้ องมีหน้ าที่ในการควบคุมเพือให้ ผลงานที่ออกมา
่
มีคุณภาพและค้ นหาจุดบกพร่ องเพื่อนาไปแก้ ไขให้ ดียิ่งขึนโดยมีการ
้
กาหนดมาตรฐานของการทางานในแต่ ละด้ านไว้ อย่ างชัดเจน
การควบคุมงาน หมายถึง การตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน
ให้ เป็ นไปตามมาตรฐานที่กาหนดไว้ เพื่อให้ บรรลุวัตถุประสงค์ ของ
องค์ การ
- 23. ทักษะของผู้บริหาร
1. ทักษะทางด้ านเทคนิค (Technical Skills) คือ ความสามารถใน
การใช้ วิธีการอุปกรณ์ และเทคนิคต่ าง ๆ สาหรั บการปฏิบัติงานอย่ างใดอย่ าง
หนึ่ง
2. ทักษะทางด้ านมนุษย์ (Human Skills) คือ ความสามารถ
เกียวพันกับคนอย่ างมีประสิ ทธิภาพ นับได้ ว่าเป็ นทักษะที่มีความสาคัญมาก
่
ทีสุดอย่ างหนึ่งของผู้บริหาร
่
- 24. 3. ทักษะทางด้ า นความคิด (Conceptual Skills) คือ
ความสามารถของผู้ บริ หารในการมองเห็นองค์ การธุ รกิจโดยส่ วนรวม
ส่ วนต่ าง ๆ ขององค์ การธุรกิจขึนอยู่ระหว่ างกันอย่ างไร
้
- 25. สรุป
องค์ การจะประสบความสาเร็จหรือบรรลุวัตถุประสงค์ ได้ น้ัน
จะต้ องมีการบริหารและการจัดองค์ การที่ดี ตลอดจนผู้บริหารเองต้ อง
มีหน้ าที่ในการบริ หารงานอย่ างมีประสิ ทธิภาพ ดาเนินงานให้ บรรลุ
วัตถุประสงค์ ขององค์ การไม่ ว่าจะเป็ นการวางแผน การจัดองค์ การ
การจัดบุคคลเข้ าทางาน การสั่ งการ และการควบคุม นอกจากนี้ยัง
จะต้ อ งค านึ ง ถึ ง ทรั พ ยากรพื้น ฐาน 4 ประการอั น ส าคัญ ได้ แ ก่ คน
เงินทุน วัสดุอุปกรณ์ และการจัดการ