More Related Content
More from Puchida Saingchin (6)
Cell
- 20. 1. เยื่อหุ้มเซลล์
(cell membrane)
- เยื่อหุ้มเซลล์มีชื่อเรียกได้หลายอย่าง เช่น พลาสมา เมมเบรน
(plasma membrane) ไซโทพลาสมิก เมมเบรน (cytoplasmic
membrane)
- เยื่อหุ้มเซลล์มีความหนาประมาณ 8.5-10 นาโนเมตร
- ประกอบด้วยโปรตีน ลิพิด
- การเรียงตัวของโปรตีนและลิพิดจัดเรียงตัวเป็นสารประกอบ
เชิงซ้อน
-การเรียงตัวในลักษณะเช่นนี้เรียกว่า ยูนิต เมมเบรน (unit membrane)
- 21. 1. เยื่อหุ้มเซลล์
(cell membrane)
- ส่วนใหญ่ประกอบด้วย
1. Lipid bilayer 2 ชั้น โดยหันด้าน polar head ออกด้านนอก
และหันด้าน nonpolar tail มีโปรตีนแทรกอยู่
2. คอเรสเตอรอล
3. ไกลโคลิพิด
4. ไกลโคโปรตีน
** เรียกการจัดเรียงตัวแบบนี้ว่า ฟลูอิดโมเซอิกโมเดล
(fluid mosaic model) **
- 24. เยื่อหุ้มเซลล์มีหน้าที่
หลายประการคือ
3. ความต่างศักย์ทางไฟฟ้า (electrical potential) ของภายในและ
ภายนอกเซลล์เนื่องมาจากการกระจายของไอออนและโปรตีนไม่
เท่ากัน ซึ่งมีความสาคัญในการนาสารพวกไอออนเข้าหรือออกจาก
เซลล์ซึ่งมีความจาเป็นต่อการทางานของเซลล์ประสาทและเซลล์
กล้ามเนื้อมาก
4. เยื่อหุ้มเซลล์ทาหน้าที่รับสัมผัสสาร ทาให้เกิดการเร่งหรือลดการ
เกิดปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์นั้นๆ
- 26. ผนังเซลล์ พบได้ในสิ่งมีชีวิตหลากชนิด เช่น เซลล์พืช สาหร่าย
แบคทีเรีย และรา ผนังเซลล์ทาหน้าที่ป้องกันและให้ความแข็งแรงแก่
เซลล์โดยที่ผนังเซลล์เป็นส่วนที่ไม่มีชีวิตของเซลล์
ผนังเซลล์ (cell wall)
ผนังเซลล์บางแห่งมีช่องเล็กๆ ไซโทพลาสซึมสามารถติดต่อกับ
ไซโทพลาสซึมของเซลล์ข้างเคียงได้ เราเรียกว่า “พลาสโมเดสมาตา”
(plasmodesmata)
- 27. ผนังเซลล์พืช ประกอบด้วยชั้น
ต่างๆ 3 ชั้น คือ
1. ผนังเชื่อมยึดระหว่างเซลล์ (middle lamella) เป็นชั้นที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์
พืชแบ่งตัวและเป็นชั้นที่เชื่อมระหว่างเซลล์ให้อยู่ติดกัน
2. ผนังเซลล์ปฐมภูมิ(primary wall) เป็นชั้นที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์เริ่ม
เจริญเติบโต ประกอบด้วยสารพวก เซลลูโลส เป็นส่วนใหญ่
3. ผนังเซลล์ทุติยภูมิ (secondary wall) เป็นชั้นที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์หยุด
ขยายขนาดแล้ว โดยมีสารพวก เซลลูโลส คิวทิน ซูเบอริน ลิกนิน
และเพกทินมาเกาะ
- 28. ผนังเซลล์ปฐมภูมิ
(primary cell wall หรือ primary wall)
• เป็นชั้นที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์เริ่มเจริญเติบโต
• ประกอบด้วยสารพวกเซลลูโลส (cellulose) เป็นส่วนใหญ่
• ผนังเซลล์ยึดติดกันด้วยมิดเดิลลาเมลลา (middlelamella)
ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ตรงกลางระหว่างเซลล์ที่อยู่ติดกัน
• (middlelamella) ประกอบด้วยเพกทิน (pectin)
- 29. ผนังเซลล์ทุติยภูมิ
(secondary cell wall หรือ secondary wall)
• มีการสะสมแบบแทรกอยู่ในผนังเซลล์ปฐมภูมิ และ
สะสมซ้อนทับเป็นแนวอยู่ระหว่างเซลล์ ปฐมภูมิและ
เยื่อหุ้มเซลล์
• องค์ประกอบทางเคมีที่สาคัญคือลิกนิน (lignin)
• ทาให้ผนังเซลล์มีความหนาและแข็งแรงมากขึ้น
- 36. เอนโดพลาสมิก เรติคูลัมชนิดขรุขระ
(rough endoplasmic reticulum:RER)
เป็นชนิดที่มีไรโบโซม มีช่อง
ต่อจาก nuclear pore เพื่อนา RNA
และ Ribisome ออก มีหน้าที่สาคัญ
คือ การสังเคราะห์โปรตีนของไรโบ
โซมที่เกาะอยู่และลาเลียงสารซึ่ง
ได้แก่โปรตีนที่สร้างได้และสาร
อื่นๆ
- 38. เอนโดพลาสมิก เรติคูลัมชนิดเรียบ
(smooth endoplasmic reticulum:SER)
เป็นชนิดที่ไม่มีไรโบโซม มี
หน้าที่สาคัญคือ กาจัดสารพิษ แหล่ง
รวบรวมแคลเซียมไอออน (เซลล์
กล้ามเนื้อยึดกระดูก และกล้ามเนื้อ
หัวใจ) และลาเลียงสารต่างๆ เช่น
RNA ลิพิดโปรตีนสังเคราะห์สารพวก
ไขมันและสเตอรอยด์ฮอร์โมน
- 41. กอลจิบอดี (Golgi body)
- มีหน้าที่สาคัญคือ รับโปรตีนจาก RER เก็บสะสมสารที่
เซลล์สร้างขึ้นก่อนที่
จะปล่อยออกนอกเซลล์ ซึ่งจะบรรจุถุง vesicle
- ซึ่งสารส่วนใหญ่เป็นสารโปรตีน
- นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างนีมาโทซีส
(nematocyst) ของไฮดราอีกด้วย และการสร้างผนังเซลล์
เพิ่มเติมในพืช
- 43. ไลโซโซม (lysosome)
- รูปร่างกลมรี พบเฉพาะในเซลล์สัตว์เท่านั้น
- ทางานได้ดีในสภาพที่เป็นกรด
- มีหน้าที่ที่สาคัญคือ
1. ย่อยสลายอนุภาคและโมเลกุลของสารอาหารภายในเซลล์
2. ย่อยหรือทาลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่เข้าสู่
ร่างกายหรือเซลล์
3. ทาลายเซลล์ที่ตายแล้ว
4. ย่อยสลายโครงสร้างต่างๆ ของเซลล์ในระยะที่เซลล์มีการ
เปลี่ยนแปลง
- 46. แวคิวโอล (vacuole)
มีหน้าที่....
- food vacuole พบในรา โปรโตซัว ทาหน้าที่เก็บ
อาหารที่กินเข้ามา
- Sap vacuole พบในพืช ทาหน้าที่เก็บสารสี
- central vacuole พบในพืช ทาหน้าที่เก็บของเหลว
ช่วยให้เซลล์คงสภาพอยู่ได้
- contractile vacuole พบในโปรโตซัวน้าจืด ทา
หน้าที่กาจัดน้าส่วนเกิน
- 48. ไมโทคอนเดรีย (mitochondria)
- ประกอบด้วยสารโปรตีน ประมาณร้อยละ 60-65 และลิพิด
ประมาณร้อยละ 35-40
- ภายในไมโทคอนเดรียมีของเหลวซึ่งประกอบด้วยสารหลาย
ชนิดเรียกว่า เมทริกซ์ (matrix)
- เนื้อเยื่อที่พับทบเข้าไปเรียกว่า ครีสตี (cristae)
- มีเอนไซม์ที่สาคัญในการสร้างพลังงานจากการหายใจ
- นอกจากนี้ยังพบเอนไซม์ในการสังเคราะห์ DNA สังเคราะห์
RNA และโปรตีนด้วย
- ทาหน้าที่เป็นแหล่งสร้างพลังงานของเซลล์โดยการหายใจ
- 49. พลาสติด (plastid)
แบ่งเป็น 3 ชนิดคือ
1. ลิวโคพลาสต์ (leucoplast) เป็นพลาสติดที่ไม่มีสี สะสมเม็ดแป้ง
2. โครโมพลาสต์ (chromoplast) เป็นพลาสติดที่มีรงควัตถุสีอื่นๆ
นอกจากสีเขียว มีสารพวกแคโรทีนอยด์
- 50. พลาสติด (plastid)
3. คลอโรพลาสต์ (chloroplast) เป็นพลาสติดที่มีสีเขียว ซึ่งส่วนใหญ่
เป็นสารคลอโรฟีลล์ ภายในคลอโรพลาสต์
- ประกอบด้วยโครงสร้างที่มีลักษณะคล้ายถุงแบนๆ มีเยื่อหุ้ม
เรียกว่า ไทลาคอยด์ (thylakoid)
- ไทลาคอยด์ (thylakoid) เรียงซ้อนกันเรรียกว่า กรานุม (granum)
- ส่วนที่เป็นของเหลวเรียกว่า สโตรมา (stroma) อยู่รอบๆ
ไทลาคอยด์ มีเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วยแสง มี
DNA,RNA และไรโบโซม และเอนไซม์อีกหลายชนิดปะปนกัน
อยู่
- 54. ไรโบโซม (ribosome)
- เป็นออร์แกเนลล์ขนาดเล็ก พบได้ในสิ่งมีชีวิตทั่วไป
- ประกอบด้วยสารเคมี 2 ชนิด คือ กรดไรโบนิวคลีอิก
(ribonucleic acid:RNA) กับโปรตีน มีทั้งที่อยู่เป็นอิสระใน
ไซโทพลาซึม และเกาะอยู่บนเอนโดพลาสมิกเรติคูลัม
- พวกที่เกาะอยู่ที่เอนโดพลาสมิกเรติคูลัมจะพบมากในเซลล์
ต่อมที่สร้างเอนไซม์ต่างๆ
- พลาสมาเซลล์เหล่านี้จะสร้างโปรตีนที่นาไปใช้นอกเซลล์เป็น
สาคัญ
ไรโบโซม (ribosome)
- 56. เซนทริโอล (centriole)
- พบเฉพาะในสัตว์และโพรทิสต์บางชนิด
- มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งเซลล์การเคลื่อนที่ของเซลล์
- เซนทริโอลแต่ละอันจะประกอบด้วยชุดของไมโครทูบูล
(microtubule) ซึ่งเป็นหลอดเล็กๆ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการ
ลาเลียงสารในเซลล์ให้ความแข็งแรงแก่เซลล์และโครงสร้าง
อื่นๆ
- บริเวณรอบๆจะมีไซโทพลาสซึมล้อมรอบ เรียกว่า
เซนโทรโซม (centrosome)
- 60. ไมโครฟิลาเมนท์ (microfilament)
- อาจจะเรียกว่า แอคทินฟิลาเมนต์(actin filament)
- ประกอบเส้นใยโปรตีนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7
นาโนเมตร
- มีรูปร่างกลมต่อกันเป็นสาย 2 สายพันบิดเป็นเกลียว
- ทาหน้าที่ในการเคลื่อนที่ ค้าจุน และการแบ่ง
ไซโทพลาสซึม
- 63. 2. ไซโทซอล (cytosol)
- เป็นส่วนของไซโทพลาสซึมมีลักษณะเป็นสารกึ่งแข็งกึ่งเหลว
- มีอยู่ประมาณร้อยละ 50-60 ของปริมาตรเซลล์ทั้งหมด
- เซลล์ส่วนใหญ่มักมีปริมาตรของไซโทซอลประมาณ 3 เท่าของ
ปริมาตรนิวเคลียส
- บริเวณด้านนอกที่อยู่ติดกับเยื่อหุ้มเซลล์เรียกว่า เอกโทพลาซึม
(ectoplasm)
- บริเวณด้านในเรียกว่า เอนโดพลาสซึม (endoplasm)
- เซลล์บางเซลล์มีการไหลของไซโทพลาสซึมไปรอบ ๆ เซลล์เรียกว่า
ไซโคลซิส (cyclosis)
- 67. สารประกอบทางเคมีของ
นิวเคลียส ประกอบด้วย
1. ดีออกซีไรโบนิวคลีอิก แอซิด (deoxyribonucleic acid) หรือ DNA
เป็นส่วนประกอบของโครโมโซมนิวเคลียส
2. ไรโบนิวคลีอิก แอซิด (ribonucleic acid) หรือ RNA เป็นส่วนที่
พบในนิวเคลียสโดยเป็นส่วนประกอบของนิวคลีโอลัส
3. โปรตีน ที่สาคัญคือโปรตีนฮีสโตน (histone) โปรตีนโพรตามีน
(protamine) ทาหน้าที่เชื่อมเกาะอยู่กับ DNA ส่วนโปรตีนเอนไซม์
ส่วนใหญ่จะเป็นเอนไซม์ในกระบวนการสังเคราะห์กรดนิวคลีอิก
และเมแทบอลิซึมของกรดนิวคลีอิก
- 68. โครงสร้างของนิวเคลียส
ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
1. เยื่อหุ้มนิวเคลียส (nuclear membrane)
- เป็นเยื่อบางๆ 2 ชั้น เรียงซ้อนกัน
- ที่เยื่อนี้จะมีรู เรียกว่านิวเคลียร์ พอร์ (nuclear pore) หรือ
แอนนูลัส (annulus) มากมาย
- ทาหน้าที่เป็นทางผ่านของสารต่างๆ ระหว่างไซโทพลาซึม
และนิวเคลียส
- นอกจากนี้เยื่อหุ้มนิวเคลียสยังมีลักษณะเป็นเยื่อเลือกผ่าน
เช่นเดียวกับเยื่อหุ้มเซลล์
- 69. โครงสร้างของนิวเคลียส
ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
2. โครมาทิน (chromatin)
- เป็นส่วนของนิวเคลียสที่ย้อมติดสี
- เป็นเส้นใยเล็กๆ พันกันเป็นร่างแห
- ประกอบด้วย โปรตีนหลายชนิด และ DNA
- มีหน้าที่ควบคุมกิจกรรมต่างๆ ของเซลล์และควบคุมการ
ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทั่วไป
- 70. โครงสร้างของนิวเคลียส
ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
3. นิวคลีโอลัส (nucleolus)
- เป็นส่วนของนิวเคลียสที่มีลักษณะเป็นก้อนอนุภาคหนาทึบ
- ประกอบด้วย โปรตีน และ RNA
- โดยโปรตีนเป็นชนิดฟอสโฟโปรตีน (phosphoprotein) และไม่
พบโปรตีนฮีสโตนเลย
- มีหน้าที่ในการสังเคราะห์ RNA ชนิดต่างๆ
- ดังนั้นนิวคลีโอลัสจึงมีความสาคัญต่อการสร้างโปรตีนเป็น
อย่างมาก เนื่องจากไรโบโซมทาหน้าที่สร้างโปรตีน
- 73. ตารางเปรียบเทียบโครงสร้างสาคัญที่แตกต่างกันของเซลล์พืชและเซลล์ลัตว์
ออร์แกเนลล์ เซลล์พืช เซลล์สัตว์
ผนังเซลล์
(cell wall)
- มีความแข็งแรง ประกอบด้วยเซลล์ลูโลส
- เป็นส่วนที่ทาให้เซลล์คงขนาดและรูปร่างได้ ทาให้เซลล์
พืชแข็งแรง
ไม่มีผนังเซลล์มีแต่เยื้อ
หุ้มเซลล์
พลาสติด (plastid) - มีทั้งชนิดคลอโรพลาสต์ลิวโคพลาสต์ และ
โครโมพลาสต์
- คลอโรพลาสต์ประกอบด้วยคลอโรฟิลล์ ทาให้พืมีสีเขียว
- ลิวโคพลาสต์สะสมแป้ง ไขมัน โปรตีน
- โครโมพลาสต์ เป็นพลาสติดที่มีสีอื่นๆ นอกจากสีเขียว
ไม่พบในเซลล์สัตว์
แวคิวโอล
(vacuole)
- พบมาในเซลล์พืช มีขนาดใหญ่มากและมักอยู่
กลางเซลล์ เรียกว่า แซ็บแวคอวโอล (sap vacuole)
ภายในบรรจุของเหลวเรียกว่า เซลล์แซ็บ (cell sap)
พบได้น้อยหรือไม่
พบเลยในเซลล์สัตว์