SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
บทที่ 2

                                       เอกสารทีเ่ กียวข้ อง
                                                    ่

         ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่ อง.โทรศัพท์มือถือปัจจัย 5 นี้ ผูจดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
                                     ้ั
ดังต่อไปนี้

         2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอิน เทอร์เน็ต
         2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่ อสังคม Social Media
         2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)


(*****ข้อมูลตั้งแต่ส่วนนี้ให้นกเรี ยนไปสื บค้น ค้นหาในอินเทอร์เน็ต และสรุ ป
                              ั
สาระสาคัญลงไปตามหัวข้อที่ครู ทาตัวอย่างไว้ให้ค่ะ อย่าลืม copy ชื่อเว็บไซต์ที่นา
ข้อมูลมาอ้างอิงไว้ในหน้าบรรณานุกรมด้วยค่ะ เด๋ วจะลืมว่าเอามาจากเว็บไซต์
ไหน*****)

2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต

      ปั จจุบนเป็ นที่ยอมรับแล้วว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology หรื อ IT) ได้
             ั
เจริ ญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ ว และมีบทบาทสาคัญในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งทางด้าน
เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การบริ การสังคม สาธารณสุ ข สิ่ งแวดล้อม รวมทั้งด้านการศึกษา ซึ่งการมี
                                 ่
บทบาทสาคัญนี้อาจกล่าวได้วา เทคโนโลยีสารสนเทศ หรื อไอทีน้ นเปรี ยบเหมือนเครื่ องจักรที่
                                                                 ั
สามารถรองรับข้อมูลข่าวสารมาทาการประมวลผล และการแสดงผลตามที่ตองการได้รวดเร็ ว โดย
                                                                          ้
อาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ช่วยในการจัดการ ได้แก่ โปรแกรมปฏิบติการ โปรแกรมชุดคาสั่งต่างๆ
                                                               ั
และที่สาคัญคือ ผูที่จะตัดสิ นใจหรื อสั่งการให้ทางานได้ถูกต้องตามเป้ าหมาย ซึ่ งได้แก่ บุคคลที่
                    ้
เกี่ยวข้อง เช่น ผูใช้ ผูบริ หาร และผูชานาญการ หรื อนักเทคโนโลยีสารสนเทศโดยตรง
                   ้ ้               ้
2.2 ข้ อมูลเกียวกับสื่ อสั งคม Social Media
              ่
        2.2.1 ความหมายของ Social Media
        SMO คือ แนวทางเกี่ยวกับ social media ที่ต้ งใจจะดึงดูดความสนใจผูที่มาชมเว็บไซต์ ไม่
                                                   ั                    ้
                                                                 ั
ว่าจะเป็ นการไป Bookmark เอาไว้, Share Link หรื อว่าส่ งลิงค์ให้กบเพื่อนๆ, การเพิม RSS Feeds
                                                                                 ่
การเข้าไปคอมเม้นต์ในบล็อกของคนอื่นๆ หรื อว่า เขียนบทความในบล็อกต่างๆ ของตัวเอง (ทั้ งสิ่ งที่
เห็นด้วย หรื อไม่เห็นด้วย) เพื่อที่จะนาไปต่อยอดทางความคิด จากบทความของเรา โดยที่คนเขียน
บทความต่างๆ ในกลุ่มพวกนี้ ก็มกจะมีพวกแฟนพันธุ์แท้ หรื อที่เรี ยกว่า Followers ที่มกจะเข้ามา
                             ั                                                    ั
ตามอ่านบทความในสิ่ งที่คนเหล่านี้เขียนถึงอยูเ่ สมอๆ ทาให้เว็บไซต์ของเรา สร้างลิงค์เชื่อมกับ
Social network ได้ง่ายขึ้น, ถูกค้นเจอง่ายขึ้นใน Search engine ที่เจาะจงใช้เพื่อค้นหา Social media
(เช่น Technorati) และเพื่อให้บล็อกเกอร์ อื่นๆ อ้างถึงบ่อยขึ้นในบล็อก, พอดคาสท์ หรื อ วิดีโอบล็อก
                                    ่
(vlogs) ของเขา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้วา บทความหรือว่าเรื่องทีจะเขียนถึง นั้น ถือว่าเป็ น
                                                           ่
ส่ วนประกอบทีสาคัญมากทีสุดในเรื่องของ SMO
             ่         ่


        2.2.2 ประวัติความเป็ นมาและพัฒนาการของ Social Media

         เมื่อวันที่ 4 กุมภ าพันธ์ 2548 Mark Zuckerburg ได้เปิ ดตัวเว็บไซต์ facebook ซึ่งเป็ นเว็บ
ประเภ ท social network ที่ตอนนั้น เปิ ดให้เข้าใช้เฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์ เวิร์ดเท่านั้น
และเว็บนี้ก็ดงขึ้นมาในชัวพริ บตา เพราะแค่เพียงเปิ ดตัวได้สองสัปดาห์ ครึ่ งหนึ่งของนักศึกษาที่เรี ยน
              ั            ่
   ่
อยูที่มหาวิทยาลัยฮาร์ เวิร์ด ก็สมัครเป็ นสมาชิก facebook เพื่อเข้าใช้งานกันอย่างล้นหลาม และเมื่อ
ทราบข่าวนี้ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในเขตบอสตั้นก็เริ่ มมีความต้องการ และอยากขอเข้าใช้งาน
facebook บ้างเหมือนกัน มาร์คจึงได้ชกชวนเพื่อของเค้าที่ชื่อ Dustin Moskowitz และ Christ
                                         ั
Hughes เพื่อช่วยกันสร้าง facebook และเพียงระยะเวลา 4 เดือนหลังจากนั้น facebook จึงได้เพิ่ม
รายชื่อและสมาชิกของมหาวิทยาลัยอีก 30 กว่าแห่ง
2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ ทให้ บริการ Social Media
                       ี่
(1) Blog

(2) Twitter และ Microblog

(3) Social Networking

(4) Media Sharing

(5) Social News and Bookmarking

(6) Online Forums

2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
          2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog)
                  บล็อก (blog) เป็ นคารวมมาจากคาว่า เว็บล็อก (weblog) เป็ นรู ปแบบเว็บไซต์
ประเภทหนึ่ง ซึ่ งถูกเขียนขึ้นในลาดับที่เรี ยงตามเวลาในการเขียน ซึ่ งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุ ดไว้
                                                                                         ่
แรกสุ ด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่ งบางครั้งจะรวมสื่ อต่างๆ ไม่วา เพลง
หรื อวิดีโอในหลายรู ปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิ ดให้ผเู ้ ข้า
มาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็ นคนเขียน ซึ่งทาให้
ผูเ้ ขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คาว่า "บล็อก" ยังใช้เป็ นคากริ ยาได้ซ่ ึงหมายถึง การเขียน
บล็อก และนอกจากนี้ผที่เขียนบล็อกเป็ นอาชีพก็จะถูกเรี ยกว่า "บล็อกเกอร์ "
                        ู้
                                               ่ ั
บล็อกเป็ นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยูกบเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็ นเครื่ องมือ
สื่ อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ ผลงาน ในหลายด้านไม่วา อาหาร     ่
การเมือง เทคโนโลยี หรื อข่าวปั จจุบน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่ องส่ วนตัวหรื อจะเรี ยกว่า
                                   ั
ไดอารี ออนไลน์ ซึ่ งไดอารี ออนไลน์นี่เองเป็ นจุดเริ่ มต้นของการใช้บล็อกในปั จจุบน นอกจากนี้ตาม
                                                                                ั
บริ ษทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทาบล็อกของทางบริ ษทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักบ
      ั                                                    ั                                   ั
ลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่
แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
                            ้     ่
เว็บค้นหาบล็อกเทคโนราตี ได้อางไว้วาปั จจุบนในอินเทอร์เน็ต มีบล็อกมีมากกว่า 94 ล้านบล็อกทัว
                                          ั                                              ่
โลก [1](ข้อมูล ส.ค. 2550)
2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก

                                   ่
                 บล็อกที่เราเห็นอยูในปั จจุบนนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็ นตัวหนังสื อและรู ปภาพ
                                            ั
เท่านั้น หรื อ มีแค่ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้
1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็ นบล็อกรุ่ นแรก ๆ
เป็ นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ท่ีเจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจาผูให้กาเนิดคาว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น
                                                            ้
               ่                                                         ่        ่
บาจเจอร์ ได้ นันแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นันเอง แม้วาจะ
บล็อกแบบนี้จะเป็ นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรี ยงเหมือนว็บไดเร็ กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะ
โพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็ นของตนเองแต่ยงนึกไม่
                                                                                     ั
ออกว่าจะทาบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็ นการเริ่ มต้นการทาบล็อกได้เป็ นอย่างดี 1.2 Photoblog
            ่
ชื่อก็บอกอยูแล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนาเสนอ
                                                         ่
และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรี ยกได้วาภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลย
ครับ1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็ นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็ นบล็อกที่เรี ยก
    ่
ได้วาเป็ นบล็อกที่นิยมทากันมากในอนาคต เพราะการเจริ ญเติบโตของไฮสปี ด อินเตอร์เน็ต หรื อ
อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทาให้การถ่ายทอดเสี ยง ภาพเคลื่อนไหว movie […]
2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่ 2.1 บล็อกส่ วนตัว(Personal Blog) นาแสนอความคิดเห็น กิจวัตร
ประจาวันของเจ้าของบล็อกเป็ นหลัก 2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็ นหลัก2.3
บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็ นบล็อกที่เขียนกันเป็ นกลุ่ม เช่น blognone.com2.4 บล็อก
การเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่ องการเมืองล้วน ๆ2.5 บล็อกเพื่อสิ่ งแวดล้อม(Environment Blog)
พูดถึงเรื่ องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่ งแวดล้อม2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็ นบล็อกที่
วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่ งที่เกี่ยวกับสื่ อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุ ทธิ ชย หยุน2.7
                                                                                           ั ่
บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นาเสนอเรื่ องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่ อง
ซุ บซุ ดารา กองถ่าย ฯลฯ2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรี ยน หรื อมหาวิทยาลัย
ในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็ นสื่ อในการสอนหรื อ แลกเปลี่ยนความคิดกัน2.9 ติวเตอร์บล็อก
(Tutorial Blog) เป็ นบล็อกที่นาเสนอวิธีการต่าง
http://witwang.blogspot.com/2007_07_01_archive.html
2.3.3 เว็บไซต์ ทให้ บริการเว็บบล็อก
                        ี่

www.blogger.com                                     www.diaryi.net

www.exteen.com                                      www.istoreblog.com

www.mapandy.com                                     www.skypream.com

www.buddythai.com                                   www.thailandspace.com

www.imigg.com                                       www.sungson.com

www.5iam.com                                        www.gujaba.com

www.blogprathai.com                                 www.sabuyblog.com

www.ndesignsblog.com                                www.ugetblog.com

www.idatablog.com                                   www.jaideespace.com

www.inewblog.com                                    www.maxsiteth.com

www.onblogme.com                                    www.my2blog.com

www.freeseoblogs.com

www.sumhua.com



2.3.4 ประวัติของเว็บไซต์ Wordpress
        (wordpress หลายคนรู ้จกกันดีและบางคนก็อาจจะกาลังใช้งานอยูก็ได้แต่จะมีสกกี่คนที่รู้วา
                               ั                                        ่          ั           ่
                                                  ั
wordpress มีประวัติความเป็ นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้กนครับ
ความเป็ นมาของ wordpres เริ่ มจาก B2 หรื อ cafelog คือผูที่ให้กาเนิดการทางานของเว็บบล๊อกที่ชื่อ
                                                        ้
ว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ข้ ึนครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมีบล็อก wordpress
่                                                                               ั
อยูประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กบ MySQL
โดยผูเ้ ขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighi เป็ นผูร่วมพัฒนา wordpress ตอนนั้น wordpress ยัง
                                                     ้
     ่
อยูใน B2evolution
wordpress ได้ปรากฏสู่ โลกในปี 2003 โดยเป็ นความพยายามของ Matt Mullenweg และ Mike little
ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทาให้มีผงาน wordpress จานวนมากขึ้น และเริ่ มก่อเกิด
                                                       ู้
แบรนด์ wp หรื อ wordpress ขึ้นมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึง
ปัจจุบน ั
ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัลชนะเลิศในเรื่ องของ Packt open source CMS award
 และ
http://www.nampheung.com/1032/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E
0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%8
2%E0%B8%AD%E0%B8%87-wordpress.html

More Related Content

More from ทำยังไงถึงจะลืม เธอละคับ (7)

ส่วนนำ1
ส่วนนำ1ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
 
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงานบทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 
ส่วนนำ1
ส่วนนำ1ส่วนนำ1
ส่วนนำ1
 

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง

  • 1. บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กียวข้ อง ่ ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ อง.โทรศัพท์มือถือปัจจัย 5 นี้ ผูจดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ้ั ดังต่อไปนี้ 2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอิน เทอร์เน็ต 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่ อสังคม Social Media 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) (*****ข้อมูลตั้งแต่ส่วนนี้ให้นกเรี ยนไปสื บค้น ค้นหาในอินเทอร์เน็ต และสรุ ป ั สาระสาคัญลงไปตามหัวข้อที่ครู ทาตัวอย่างไว้ให้ค่ะ อย่าลืม copy ชื่อเว็บไซต์ที่นา ข้อมูลมาอ้างอิงไว้ในหน้าบรรณานุกรมด้วยค่ะ เด๋ วจะลืมว่าเอามาจากเว็บไซต์ ไหน*****) 2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต ปั จจุบนเป็ นที่ยอมรับแล้วว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology หรื อ IT) ได้ ั เจริ ญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ ว และมีบทบาทสาคัญในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การบริ การสังคม สาธารณสุ ข สิ่ งแวดล้อม รวมทั้งด้านการศึกษา ซึ่งการมี ่ บทบาทสาคัญนี้อาจกล่าวได้วา เทคโนโลยีสารสนเทศ หรื อไอทีน้ นเปรี ยบเหมือนเครื่ องจักรที่ ั สามารถรองรับข้อมูลข่าวสารมาทาการประมวลผล และการแสดงผลตามที่ตองการได้รวดเร็ ว โดย ้ อาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ช่วยในการจัดการ ได้แก่ โปรแกรมปฏิบติการ โปรแกรมชุดคาสั่งต่างๆ ั และที่สาคัญคือ ผูที่จะตัดสิ นใจหรื อสั่งการให้ทางานได้ถูกต้องตามเป้ าหมาย ซึ่ งได้แก่ บุคคลที่ ้ เกี่ยวข้อง เช่น ผูใช้ ผูบริ หาร และผูชานาญการ หรื อนักเทคโนโลยีสารสนเทศโดยตรง ้ ้ ้
  • 2. 2.2 ข้ อมูลเกียวกับสื่ อสั งคม Social Media ่ 2.2.1 ความหมายของ Social Media SMO คือ แนวทางเกี่ยวกับ social media ที่ต้ งใจจะดึงดูดความสนใจผูที่มาชมเว็บไซต์ ไม่ ั ้ ั ว่าจะเป็ นการไป Bookmark เอาไว้, Share Link หรื อว่าส่ งลิงค์ให้กบเพื่อนๆ, การเพิม RSS Feeds ่ การเข้าไปคอมเม้นต์ในบล็อกของคนอื่นๆ หรื อว่า เขียนบทความในบล็อกต่างๆ ของตัวเอง (ทั้ งสิ่ งที่ เห็นด้วย หรื อไม่เห็นด้วย) เพื่อที่จะนาไปต่อยอดทางความคิด จากบทความของเรา โดยที่คนเขียน บทความต่างๆ ในกลุ่มพวกนี้ ก็มกจะมีพวกแฟนพันธุ์แท้ หรื อที่เรี ยกว่า Followers ที่มกจะเข้ามา ั ั ตามอ่านบทความในสิ่ งที่คนเหล่านี้เขียนถึงอยูเ่ สมอๆ ทาให้เว็บไซต์ของเรา สร้างลิงค์เชื่อมกับ Social network ได้ง่ายขึ้น, ถูกค้นเจอง่ายขึ้นใน Search engine ที่เจาะจงใช้เพื่อค้นหา Social media (เช่น Technorati) และเพื่อให้บล็อกเกอร์ อื่นๆ อ้างถึงบ่อยขึ้นในบล็อก, พอดคาสท์ หรื อ วิดีโอบล็อก ่ (vlogs) ของเขา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้วา บทความหรือว่าเรื่องทีจะเขียนถึง นั้น ถือว่าเป็ น ่ ส่ วนประกอบทีสาคัญมากทีสุดในเรื่องของ SMO ่ ่ 2.2.2 ประวัติความเป็ นมาและพัฒนาการของ Social Media เมื่อวันที่ 4 กุมภ าพันธ์ 2548 Mark Zuckerburg ได้เปิ ดตัวเว็บไซต์ facebook ซึ่งเป็ นเว็บ ประเภ ท social network ที่ตอนนั้น เปิ ดให้เข้าใช้เฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์ เวิร์ดเท่านั้น และเว็บนี้ก็ดงขึ้นมาในชัวพริ บตา เพราะแค่เพียงเปิ ดตัวได้สองสัปดาห์ ครึ่ งหนึ่งของนักศึกษาที่เรี ยน ั ่ ่ อยูที่มหาวิทยาลัยฮาร์ เวิร์ด ก็สมัครเป็ นสมาชิก facebook เพื่อเข้าใช้งานกันอย่างล้นหลาม และเมื่อ ทราบข่าวนี้ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในเขตบอสตั้นก็เริ่ มมีความต้องการ และอยากขอเข้าใช้งาน facebook บ้างเหมือนกัน มาร์คจึงได้ชกชวนเพื่อของเค้าที่ชื่อ Dustin Moskowitz และ Christ ั Hughes เพื่อช่วยกันสร้าง facebook และเพียงระยะเวลา 4 เดือนหลังจากนั้น facebook จึงได้เพิ่ม รายชื่อและสมาชิกของมหาวิทยาลัยอีก 30 กว่าแห่ง
  • 3. 2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ ทให้ บริการ Social Media ี่ (1) Blog (2) Twitter และ Microblog (3) Social Networking (4) Media Sharing (5) Social News and Bookmarking (6) Online Forums 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog) บล็อก (blog) เป็ นคารวมมาจากคาว่า เว็บล็อก (weblog) เป็ นรู ปแบบเว็บไซต์ ประเภทหนึ่ง ซึ่ งถูกเขียนขึ้นในลาดับที่เรี ยงตามเวลาในการเขียน ซึ่ งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุ ดไว้ ่ แรกสุ ด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่ งบางครั้งจะรวมสื่ อต่างๆ ไม่วา เพลง หรื อวิดีโอในหลายรู ปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิ ดให้ผเู ้ ข้า มาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็ นคนเขียน ซึ่งทาให้ ผูเ้ ขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คาว่า "บล็อก" ยังใช้เป็ นคากริ ยาได้ซ่ ึงหมายถึง การเขียน บล็อก และนอกจากนี้ผที่เขียนบล็อกเป็ นอาชีพก็จะถูกเรี ยกว่า "บล็อกเกอร์ " ู้ ่ ั บล็อกเป็ นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยูกบเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็ นเครื่ องมือ สื่ อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ ผลงาน ในหลายด้านไม่วา อาหาร ่ การเมือง เทคโนโลยี หรื อข่าวปั จจุบน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่ องส่ วนตัวหรื อจะเรี ยกว่า ั ไดอารี ออนไลน์ ซึ่ งไดอารี ออนไลน์นี่เองเป็ นจุดเริ่ มต้นของการใช้บล็อกในปั จจุบน นอกจากนี้ตาม ั บริ ษทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทาบล็อกของทางบริ ษทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักบ ั ั ั ลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่ แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ้ ่ เว็บค้นหาบล็อกเทคโนราตี ได้อางไว้วาปั จจุบนในอินเทอร์เน็ต มีบล็อกมีมากกว่า 94 ล้านบล็อกทัว ั ่ โลก [1](ข้อมูล ส.ค. 2550)
  • 4. 2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก ่ บล็อกที่เราเห็นอยูในปั จจุบนนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็ นตัวหนังสื อและรู ปภาพ ั เท่านั้น หรื อ มีแค่ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้ 1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็ นบล็อกรุ่ นแรก ๆ เป็ นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ท่ีเจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจาผูให้กาเนิดคาว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น ้ ่ ่ ่ บาจเจอร์ ได้ นันแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นันเอง แม้วาจะ บล็อกแบบนี้จะเป็ นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรี ยงเหมือนว็บไดเร็ กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะ โพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็ นของตนเองแต่ยงนึกไม่ ั ออกว่าจะทาบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็ นการเริ่ มต้นการทาบล็อกได้เป็ นอย่างดี 1.2 Photoblog ่ ชื่อก็บอกอยูแล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนาเสนอ ่ และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรี ยกได้วาภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลย ครับ1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็ นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็ นบล็อกที่เรี ยก ่ ได้วาเป็ นบล็อกที่นิยมทากันมากในอนาคต เพราะการเจริ ญเติบโตของไฮสปี ด อินเตอร์เน็ต หรื อ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทาให้การถ่ายทอดเสี ยง ภาพเคลื่อนไหว movie […] 2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่ 2.1 บล็อกส่ วนตัว(Personal Blog) นาแสนอความคิดเห็น กิจวัตร ประจาวันของเจ้าของบล็อกเป็ นหลัก 2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็ นหลัก2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็ นบล็อกที่เขียนกันเป็ นกลุ่ม เช่น blognone.com2.4 บล็อก การเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่ องการเมืองล้วน ๆ2.5 บล็อกเพื่อสิ่ งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่ องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่ งแวดล้อม2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็ นบล็อกที่ วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่ งที่เกี่ยวกับสื่ อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุ ทธิ ชย หยุน2.7 ั ่ บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นาเสนอเรื่ องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่ อง ซุ บซุ ดารา กองถ่าย ฯลฯ2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรี ยน หรื อมหาวิทยาลัย ในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็ นสื่ อในการสอนหรื อ แลกเปลี่ยนความคิดกัน2.9 ติวเตอร์บล็อก (Tutorial Blog) เป็ นบล็อกที่นาเสนอวิธีการต่าง http://witwang.blogspot.com/2007_07_01_archive.html
  • 5. 2.3.3 เว็บไซต์ ทให้ บริการเว็บบล็อก ี่ www.blogger.com www.diaryi.net www.exteen.com www.istoreblog.com www.mapandy.com www.skypream.com www.buddythai.com www.thailandspace.com www.imigg.com www.sungson.com www.5iam.com www.gujaba.com www.blogprathai.com www.sabuyblog.com www.ndesignsblog.com www.ugetblog.com www.idatablog.com www.jaideespace.com www.inewblog.com www.maxsiteth.com www.onblogme.com www.my2blog.com www.freeseoblogs.com www.sumhua.com 2.3.4 ประวัติของเว็บไซต์ Wordpress (wordpress หลายคนรู ้จกกันดีและบางคนก็อาจจะกาลังใช้งานอยูก็ได้แต่จะมีสกกี่คนที่รู้วา ั ่ ั ่ ั wordpress มีประวัติความเป็ นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้กนครับ ความเป็ นมาของ wordpres เริ่ มจาก B2 หรื อ cafelog คือผูที่ให้กาเนิดการทางานของเว็บบล๊อกที่ชื่อ ้ ว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ข้ ึนครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมีบล็อก wordpress
  • 6. ั อยูประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กบ MySQL โดยผูเ้ ขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighi เป็ นผูร่วมพัฒนา wordpress ตอนนั้น wordpress ยัง ้ ่ อยูใน B2evolution wordpress ได้ปรากฏสู่ โลกในปี 2003 โดยเป็ นความพยายามของ Matt Mullenweg และ Mike little ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทาให้มีผงาน wordpress จานวนมากขึ้น และเริ่ มก่อเกิด ู้ แบรนด์ wp หรื อ wordpress ขึ้นมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึง ปัจจุบน ั ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัลชนะเลิศในเรื่ องของ Packt open source CMS award และ http://www.nampheung.com/1032/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E 0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%8 2%E0%B8%AD%E0%B8%87-wordpress.html