Thai Emergency Medicine Journal 4

taem
taemThai Association for Emergency Medicine
สารบัญ
ข้อมูลเกี่ยวกับ วารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉินไทย..................................................................................................................2
Editorial / บทบรรณาธิการ.................................................................................................................................................5
Original Articles / นิ พนธ์ตันฉบับ........................................................................................................................................6
   เรื่อง ดัชนี เอ็ดวินและการดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินเพื่อวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน โรง
   พยาบาลราชวิถ..............................................................................................................................................................6
                          ี
   ผลการใช้รูปแบบการเสริมสร้างพลังอำานาจของพยาบาลวิชาชีพในห้องฉุกเฉินต่อการปฏิบัติการพยาบาลที่
   สมบูรณ์ ........................................................................................................................................................................32
Review Articles / บทฟื้ นฟูวชาการ....................................................................................................................................40
                                      ิ
   ภาวะฉุกเฉินในผู้ป่วยสูงอายุ.......................................................................................................................................40
   Sepsis ...........................................................................................................................................................................51
Doctor Corner / มุมแพทย์..................................................................................................................................................56
   เคยมีคนบอกไว้ว่า........................................................................................................................................................56
Nurse Corner / มุมพยาบาล...............................................................................................................................................58
   เรื่องจริงในสาธารณสุขไทย .......................................................................................................................................58
ข้อแนะนำาสำาหรับผู้ส่งบทความเพื่อลงพิมพ์.....................................................................................................................61
ข้อมูลเกียวกับ วารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉิ นไทย
         ่
เจ้าของ          สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉิ นแห่งประเทศไทย
สำานั กงาน       สำานั กงานชัวคราว เลขที่ 2 อาคารศูนย์กูชพ “นเรนทร” โรงพยาบาลราชวิถี
                             ่                           ี
                 ถนนพญาไท ตำาบลทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
                 โทรศัพท์.0-2354-8223       โทรสาร.0-2354-8224


วัตถุประสงค์
   1. เพื่อเผยแพร่ความรูู ส่งเสริมการศึกษา และการวิจัยดูานเวชศาสตร์ฉกเฉิ น
                                                                    ุ
   2. เพื่อแลกเปลี่ยนขูอคิดเห็นดูานเวชศาสตร์ฉกเฉิ น และวิชาการที่เกี่ยวขูอง
                                             ุ
   3. เพื่อเป็ นสื่อกลางระหว่างสมาชิกของสมาคมเวชศาสตร์ฉกเฉิ นแห่งประเทศไทย และผููสนใจ
                                                       ุ
   4. เพื่อแจูงข่าวสารต่าง ๆ และกิจกรรมของสมาคมเวชศาสตร์ฉกเฉิ นแห่งประเทศไทย
                                                         ุ


ที่ปรึกษา ( Advisory Board )
   1. ศาสตราจารย์เกียรติคณนายแพทย์สันต์ หัตถีรัตน์
                         ุ
   2. พลอากาศตรีนายแพทย์บญเลิศ จุลเกียรติ
                         ุ
คณะที่ปรึกษา
   •      ศาสตราจารย์นายแพทย์ไพบูลย์ สุรยะวงศ์ไพศาล
                                        ิ
   •      ศาสตราจารย์นายแพทย์วชิร คชการ
   •      ศาสตราจารย์นายแพทย์อภิชาต จิตต์เจริญ
   •      รองศาสตราจารย์นายแพทย์ภาณุวฒน์ เลิศสิทธิชัย
                                     ั
   •      ผููชวยศาสตราจารย์นายแพทย์ชศักดิ ์ โอกาศเจริญ
              ่                     ู
   •      ผููชวยศาสตราจารย์เล็ก รุ่งเรืองยิ่งยศ
              ่
   •      นาวาอากาศเอกนายแพทย์อภิชาติ พลอยสังวาลย์


บรรณาธิการ ( Editor in Chief )
   แพทย์หญิงรพีพร         โรจน์แสงเรือง


บรรณาธิการร่วม ( Associate Editors )
   •      นาวาอากาศเอกนายแพทย์เฉลิมพร บุญสิริ
   •      แพทย์หญิงยุวเรศมคฐ์ สิทธิชาญบัญชา
   •      นางสาวอุบล ยี่เฮ็ง
   •      นายจักรี กัวกำาจัด
                     ้
กองบรรณาธิการ ( Editorial Board )
   1. นายแพทย์สมชาย กาญจนสุต
   2. นายแพทย์วทยา ศรีดามา
               ิ
3. พันเอกนายแพทย์ดาบศักดิ ์ กองสมุทร
   4. นายแพทย์ไพโรจน์ เครือกาญจนา
   5. แพทย์หญิงจิตรลดา ลิมจินดาพร
                         ้
   6. แพทย์หญิงทิพา ชาคร
   7. นายแพทย์ครองวงศ์ มุสิกถาวร
   1. นายแพทย์บริบรณ์ เชนธนากิจ
                  ู
   2. นาวาอากาศเอกนายแพทย์ไกรสร วรดิถี
   3. นาวาอากาศโทแพทย์หญิงกรรณยิการ์ วรรณวิมลสุข
   4. นายแพทย์ประสิทธิ ์ วุฒสุทธิเมธาวี
                            ิ
   5. แพทย์หญิงวรณิ สร์ อมรทรงชัย
   6. นายแพทย์พรเลิศ ปลื้มจิตต์มงคล
   7. พันเอกนายแพทย์สรจิต สุนทรธรรม
                     ุ
   8. แพทย์หญิงนฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ
   9. นายแพทย์จิรพงษ์ ศุภเสาวภาคย์
   10. รศ.สุดาพรรณ ธัญจิรา
   11. ผศ.ดร.วงจันทร์ เพชรพิเชฐเชียร
   12. นาวาอากาศโทหญิง ดร.โสพรรณ โพทะยะ
   13. คุณหญิงเดือนเพ็ญ พึ่งพระเกียรติ
   14. อาจารย์เรวดี ลือพงศ์ลคณา
                            ั
   15. อาจารย์รัชณี วรรณ ดารารัตน์ศิลป์
   16. อาจารย์นิตยา ภูริพนธ์
                         ั
   17. อาจารย์ชลาริน ลิมสกุล
                       ่
   18. อาจารย์กานดา ตุลาธร
   19. อาจารย์วไลพรรณ ชลสุข
   20. อาจารย์นิพา ศรีชูาง
   21. อาจารย์ลดดา ตันเจริญ
               ั
   22. อาจารย์มทนา ศิริโชคปรีชา
               ั
   23. อาจารย์นิรัชรา ก่อกุลดิลก
   24. อาจารย์สุรธร คูมสุภา
                 ี    ุ
   25. อาจารย์ธรพงศ์ กรฤทธิ ์
               ี
   26. นายแพทย์พงศกร อธิกเศวตพฤทธิ ์
แบบปก
       นายแพทย์วนชนะ ศรีวิไลทนต์
                ิ
ผููดูแลเวบ http://www.taem.or.th
       นายแพทย์จิรพงษ์ ศุภเสาวภาคย์
ผ้้ประสานงาน
   1. นางสาวโสฬสสิริ เทศนะโยธิน สมาคมเวชศาสตร์ฉกเฉิ น
                                               ุ
   2. นางเยาวลักษณ์ คงมาก       สมาคมเวชศาสตร์ฉกเฉิ น
                                               ุ


กำาหนดออก ปี ละ 4 ฉบับ
   1. มกราคม-มีนาคม
   2. เมษายน-มิถนายน
                ุ
   3. กรกฎาคม-กันยายน
   4. ตุลาคม-ธันวาคม
Editorial / บทบรรณาธิการ
สวัสดีค่ะท่านสมาชิกและผููท่สนใจทุกท่าน
                           ี
       วารสารเวชศาสตร์ฉกเฉิ นไทยฉบับนี้กนับว่าเป็ นฉบับที่4 แลูวนะคะ การจัดทำาวารสารก็สามารถจัด
                       ุ                ็
ทำาไดูสำาเร็จลุล่วงเป็ นอย่างดีจนครบ 1 ปี แลูว หวังว่าเนื้ อหาในวารสารจะสามารถสรรสรูางความรููและความ
เพลิดเพลินใหูแก่ผสนใจไม่มากก็นูอย ทางคณะผููจัดทำาหวังว่าวารสารเวชศาสตร์ฉกเฉิ นไทยจะมีส่วนช่วยใน
                 ู                                                      ุ
การพัฒนาองค์ความรููทางดูานสาขาวิชานี้ไดูในบางส่วน อย่างไรก็ตามวารสารยังคงขาดเนื้ อหาและเรื่องราว
อีกมากมายที่จะมาเติมเต็มใหูเป็ นวารสารที่มีความสมบูรณ์แบบและสามารถสรรสรูางความสัมพันธ์ร่วมกัน
ระหว่างสมาชิกอย่อกมาก หวังว่าท่านสมาชิกและผููสนใจทุกท่านจะช่วยกันส่งขูอแนะนำ าในการปรับปรุง
                ู ี
วารสารและเนื้ อหาต่างๆมาช่วยกันสานต่อใหูกับวารสารกันมากยิ่งขึน
                                                             ้
       ถูาท่านใดสนใจขอความกรุณาติดต่อส่งเนื้ อหามาที่
1.พ.ญ.รพีพร โรจน์แสงเรือง , phone call 0813789818, e-mail:dr_rapeepron@yahoo.com
2.คุณโสฬสสิริ เทศนะโยธิน โทรศัพท์ 02-354-8223 โทรสาร 02-354-8224
e-mail: sorossiri_109@hotmail.com
       ในเวลาไม่นานก็จะเริ่มเขูาส่เทศกาลปี ใหม่แลูวนะคะ เริ่มมีกลิ่นอายของปลายฝนตูนหนาวโชยมาไม่
                                  ู
ไกลเลย ทางคณะผููจดทำาขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดดลบันดาลใหูสมาชิกและผููท่ีสนใจทุกท่านจงมี
                 ั
แต่ความสุขสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาตลอดทังปี หนู าและตลอดไปนะคะ
                                         ้
                                                                                    ดูวยความปรารถนาดี
                                                                              พ.ญ.รพีพร โรจน์แสงเรือง
                                                                                           บรรณาธิการ
Original Articles / นิ พนธ์ตันฉบับ

เรื่อง ดัชนีเอ็ดวินและการดัดแปลงดัชนีเอ็ดวินเพื่อวัดระดับความหนา
      แน่นของจำานวนผู้ป่วยในหูองฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชวิถี
                     ปิ ยวดี ชัยชาญพิมล ,พบ., ไพโรจน์ เครือกาญจนา, พบ., นลินาสน์ ขุนคล้าย, พบ.
                                                            ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิ น โรงพยาบาลราชวิถี
วัตถุประสงค์ : เพื่อสรูางเครื่องมือวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยในหูองฉุกเฉิ นโรงพยาบาล
ราชวิถในเชิงปริมาณคือ ค่าดัชนี เอ็ดวิน (EDWIN : Emergency Department Work Index) และค่า
      ี
ดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน(Modified EDWIN) เพื่อเป็ นแนวทางในการแกูไขปั ญหาผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น
ระเบียบวิธีวิจัย : เป็ นงานวิจัยประเภท prospective observational analytical study โดยเก็บขูอมูลจำานวน
ผููป่วยแบ่งตามระบบการแยกประเภทผููป่วยฉุกเฉิ นราชวิถี 3 ประเภท ณ จุดเวลาต่างๆกันรวม 6 จุดเวลาคือ
01.00 น, 05.00 น, 9.00 น, 13.00 น, 17.00 น และ 21.00 น ตังแต่วนที่ 1 ถึง 30 กันยายน 2551 รวม
                                                         ้    ั
180 จุดเวลา ที่หองฉุกเฉิ น โรงพยาบาลราชวิถี นำ ามาเปรียบเทียบกับความคิดเห็นเรื่องความหนาแน่ นของ
                ู
จำานวนผููป่วย ณ จุดเวลาดังกล่าว ของแพทย์และพยาบาลที่ขนปฏิบัติงาน สถิติท่ีใชูวิเคราะห์ความสอดคลูอง
                                                     ึ้
เกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยระหว่างแพทย์และพยาบาลจะนำ ามาวิเคราะห์โดย
อาศัย weighted kappa statistic ความสัมพันธ์ของค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินกับความเห็น
ของแพทย์และพยาบาลต่อความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยใชู Kruskal-Wallis chi-square test ความ
สอดคลูองของค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินใชู Pearson and Spearman’s rho Correlation
และเปรียบเทียบความสามารถของการวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่า
ดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินโดยอาศัยพื้นที่ใตูกราฟ ROC ใชูโปรแกรม SPSS เวอร์ชน 17 ในการประมวลผลขูอมูล
                                                                     ั่
ทังหมด
  ้
ผลการวิจัย : สามารถเก็บขูอมูลไดู 178 จากทังหมด 180 จุดเวลา ค่าเฉลี่ยของค่าดัชนี เอ็ดวินเท่ากับ 0.21
                                          ้
(SD 0.09) และค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินเท่ากับ 0.04 (SD 0.018) การเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของค่าดัชนี
ทังสองดูวยวิธี Pearson Correlation และ Spearman’s rho พบว่ามีความสอดคลูองกันอย่างมีนัยสำาคัญ
  ้
(p < 0.001) ความสอดคลูองเรื่องความความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยระหว่างแพทย์และพยาบาลเมื่อนำ ามา
วิเคราะห์ดูวย weighted kappa statistic พบว่ามีความสัมพันธ์กนอย่างมีนัยสำาคัญ (weighted K 0.556,
                                                           ั
p<0.001) ค่าคะแนนที่แพทย์ประเมินใหูและค่าดัชนี เอ็ดวินเมื่อนำ ามาเปรียบเทียบโดยแบ่งระดับความยุ่งที่
แพทย์ใหูออกเป็ น 3 ระดับพบว่า ระดับไม่ยุ่ง มีคาเฉลี่ย0.17 ค่ามัธยฐาน 0.15 (IQR = 0.11-0.22), ระดับ
                                              ่
ย่งปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 0.21 ค่ามัธยฐาน 0.2 (IQR = 0.16-0.27) และระดับยุ่งที่สุด มีค่าเฉลี่ย 0.26 ค่า
  ุ
มัธยฐาน 0.25 (IQR = 0.19-0.32) ค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ระดับไม่ยง มีค่าเฉลี่ย 0.04 ค่ามัธยฐาน 0.03
                                                                ุ่
(IQR = 0.02-0.04) ระดับย่งปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 0.05 ค่ามัธยฐาน 0.04 (IQR = 0.04-0.06) และระดับ
                         ุ
ย่งที่สุดมีค่าเฉลี่ย 0.06 ค่ามัธยฐาน 0.05 (IQR = 0.04-0.07) หลังการดัดแปลงค่าดัชนี เอ็ดวินสามารถ
  ุ
ทำานายภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นไดูมากขึนเล็กนู อย (AROC modified EDWIN = 0.76
                                        ้
(95%CI 0.68-0.84), AROC EDWIN = 0.71 (95%CI 0.63-0.8), p<0.01) ค่าคะแนนสูงสุดที่เวลา1.00
น จากดัชนี เอ็ดวิน และ 17.00 น จากค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน
ข้อสรุป : ค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินสามารถนำ ามาใชูวัดเชิงปริมาณกับภาวะผููป่วยลูนหูอง
ฉุกเฉิ นโรงพยาบาลราชวิถีไดูจริง สรุปไดูวาหากค่าดัชนี เอ็ดวิน(EDWIN score) <0.15 คือ ระดับไม่ยง ,
                                        ่                                                    ุ่
0.15-0.2 คือ ระดับยุ่งปานกลาง และ >0.2 คือระดับยุ่งมากที่สด หรือเกิดภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นขึน ค่า
                                                          ุ                                     ้
ดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน (Modified EDWIN score) <0.03 คือ ระดับไม่ยุ่ง, 0.03-0.06 คือระดับปานกลาง
และ >0.06 คือระดับย่งที่สด มีภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น
                    ุ    ุ
คำาค้นหา : ED Overcrowding, ED Crowding, Emergency Department Work Index, Scores,
Scales
Abstract
Validation of EDWIN and Modified EDWIN in Emergency Room of Rajavithi Hospital.
Piyawadee Chaichanpimol, MD; Pairoj Khruekarnchana, MD; Nalinas Khunkhlai, MD
Emergency Department, Rajavithi Hospital
Objectives : To validate EDWIN and modified EDWIN score for measuring the size of crowd
in quantitative term in emergency room of Rajavithi Hospital.
                                                                                    st      th
Methods : Prospective observational analytical study was done during September 1 -30 ,2008
by collecting the data of patients under 3-grouped triage system in emergency room of Rajavithi
hospital at 6 points of time which were 1am, 5am, 9am, 1pm, 5pm and 9pm. The opinions
about level of workload in ED at each point of times of emergency physicians and nurses on
duty were compared and measured by the Single-question Likert-type instrument. On the
analytical process, we used the weighted kappa statistics in the test of the agreement of
measurement between emergency physicians and nurses, the Kruskal-Wallis chi-square test in
measuring the association between EDWIN and modified EDWIN and the Pearson and
Spearman’s rho in comparing the correlation of both scores. The AROC (Area under the
Receiver Operating characteristic Curve) was used to compare the efficiency of detecting the
ED overcrowding between EDWIN and modified EDWIN. The statistical computer software
was SPSS v.17.0.
Results : The overall data was collected in 178 points of time with 2 missings. The mean of
EDWIN was 0.21 (SD 0.09) and modified EDWIN was 0.04 (SD 0.018). The Pearson
Correlation and Spearman’s rho proved the association of both scores (p < 0.001). There was a
fair agreement about the degree of crowding in ED between emergency physicians and nurses
(weighted K 0.556, p<0.001). The descriptive statistics of EDWIN were categorized into three
levels by the doctor’s opinion: “not busy or crowded” (score 1-2) giving the mean 0.17 ,and
median 0.15 (IQR = 0.11-0.22), “average”(score 3) giving the mean 0.21, and median 0.2 (IQR
= 0.16-0.27) and “busy, crowded”(score 4-5) giving the mean 0.26 and median 0.25 (IQR =
0.19-0.32). In the modified EDWIN, the mean of the “not busy or crowded” group was 0.04
and the median was 0.03 (IQR = 0.02-0.04), for the “average” group, the mean was 0.05 and
the median was 0.04 (IQR = 0.04-0.06).In the last group, “busy, crowded”, the mean was 0.06
and the median was 0.05 (IQR = 0.04-0.07). The modified EDWIN can slightly improve the
prediction of the ED overcrowding compared with the EDWIN. (AROC modified EDWIN =
0.76 (95%CI 0.68-0.84); AROC EDWIN = 0.71 (95%CI 0.63-0.8), p<0.001). The maximum
score of EDWIN and modified EDWIN are at 1 am and 5 pm in order.
Conclusions : The EDWIN and modified EDWIN could be used as tools to measure the
quantitative data of the size of crowd in emergency room of Rajavithi hospital. The “not busy
or crowded” group has the EDWIN <0.15, the modified EDWIN <0.03, the “average” group has
the EDWIN 0.15-0.2, the modified EDWIN 0.03-0.06 and the “busy, crowded” group has the
EDWIN > 0.2, the modified EDWIN > 0.06.
Keywords : ED Overcrowding, ED Crowding, Emergency Department Work Index, Scores,
Scales
บทนำา (Introduction)                                    ทดสอบความแม่นยำาในการวัดความหนาแน่ นของ
        ภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นเป็ นปั ญหาที่สำาคัญ จำานวนผููป่วยจากเครื่องมือที่เรียกว่า “ค่าดัชนี เอ็ดวิน
สำาหรับโรงพยาบาลทุกแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรง             (EDWIN : Emergency Department Work
พยาบาลใหญ่ในตัวเมือง เช่น โรงพยาบาลราชวิถี              Index)” เพื่อนำ าไปใชูประโยชน์ตอไป
                                                                                       ่
ปั จจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาไดูมการสรูางเครื่องมือ
                               ี
                                                        การทบทวนวรรณกรรม
สำาหรับวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผูป่วยเพื่อ
                                      ู
                                                                ในช่วงระยะเวลา 15 ปี ท่ีผ่านมาไดูมีงานวิจัย
ใชูในการศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับปั ญหาผููป่วยลูนหูอง
                                                        เกี่ยวกับภาวะผูป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นมากขึนเรื่อยๆ
                                                                       ู                       ้
ฉุกเฉิ น และเปรียบเทียบความหนาแน่ นของจำานวนผูู
                                                        งานวิจยแรกๆมักจะเนู นในดูานการใหูคำาอธิบายและ
                                                              ั
ป่ วยที่มารับบริการหูองฉุกเฉิ นในแต่ละโรงพยาบาล
                                                        ความหมายเชิงคุณภาพของภาวะความหนาแน่ นของผูู
อย่างเป็ นมาตรฐาน อาทิเช่น ค่าดัชนี เอ็ดวิน
                                                        ป่ วยมากกว่า ส่วนงานวิจัยในระยะหลังจะเป็ นการ
(Emergency Department Work Index :
                                                        ศึกษาหาวิธการวัดเชิงปริมาณของภาวะความหนา
                                                                  ี
EDWIN), นี ดอกซ์ (National Emergency
            ็
                                                        แน่ นของผูป่วย การเชื่อมโยงของภาวะผููป่วยหนา
                                                                  ู
Department Overcrowding Scale : NEDOCS),
                                                        แน่ นกับคุณภาพงานบริการที่แย่ลง และ การนำ าเสนอ
เรดี้ (Real-time Emergency Analysis of Demand
                                                        นโยบายและการบริหารเพื่อลดภาวะผููป่วยหนาแน่ นที่
Indicators : READI), อีดซเอส(Emergency
                        ี ี                                            1
                                                        หูองฉุกเฉิ น
Department Crowding Scale : EDCS) ฯลฯ ใน
                                                                วิธในการวัดเชิงปริมาณของภาวะผููป่วยลูน
                                                                   ี
ขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการวัด
                                                        หูองฉุกเฉิ นในปั จจุบนมีอยู่มากมายหลายวิธี การ
                                                                             ั
ระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยและการใชู
                                                        สรูางวิธคำานวณจะตูองทำาความเขูาใจกับสาเหตุของ
                                                                ี
เครื่องมือวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยใน
                                                        การเกิดภาวะผููป่วยหนาแน่ นจนลูนหูองฉุกเฉิ นว่าเกิด
หูองฉุกเฉิ นอย่างเป็ นระบบ ทังยังไม่มีแนวทางการ
                             ้
                                                        ไดูจากปั จจัยใดบูางเสียก่อน
จัดการกับปั ญหาผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นที่แน่ ชัด
                                                                Asplin BR และคณะไดูเขียนรูปแบบแนวคิด
นอกจากนี้สาเหตุความแตกต่างกันในดูานโครงสรูาง
                                                        ของการเกิดภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นโดยใชูทฤษฎี
ของระบบการคัดแยกผููป่วยและการปฏิบัติงานในหูอง
                                                        การรับเขูา การผ่านกระบวนการในหูองฉุกเฉิ น และ
ฉุกเฉิ นในแต่ละประเทศทำาใหูยังไม่สามารถพิสูจน์ว่า
                                                        การไหลออกของผููป่วยที่มารับบริการหูองฉุกเฉิ น
ตัวชีวัดเหล่านี้สามารถนำ ามาใชูร่วมกันในประเทศไทย
     ้
                                                        (input-throughput-output conceptual model of
ไดูอย่างเที่ยงตรง งานวิจยฉบับนี้จึงเกิดขึนเพื่อ
                        ั                ้                                 2
                                                        ED crowding) ไวูดงรูป
                                                                         ั
แสดงใหูเห็นว่ามีหลายปั จจัยที่ทำาใหูเกิดภาวะ     ฉุกเฉิ น, ระยะเวลาออกจากหูองฉุกเฉิ น, ผูป่วยที่
                                                                                                 ู
ผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นเริ่มจากจำานวนผููป่วยที่มีปริมาณ กลับโดยไม่รอตรวจ และการยูายที่สงผููป่วยของรถ
                                                                                      ่
                                                                 1
มากทำาใหูความตูองการรับบริการฉุกเฉิ นมีมาก               พยาบาล , นี ดอกซ์ (National Emergency
                                                                      ็
บุคลากรที่อย่ในกระบวนการรักษาในหูองฉุกเฉิ น
             ู                                           Department Overcrowding Scale : NEDOCS)
ตูองรับภาระงานที่หนั กขึน จำานวนของบุคลากร
                        ้                                ใชูปัจจัย 5 อย่างไดูแก่
ทางการแพทย์ในหูองฉุกเฉิ นจึงเป็ นอีกหนึ่ งปั จจัยที่มี       1. จำานวนผููป่วยหูองฉุกเฉิ น(ดัชนี ชวัดเตียงใน
                                                                                                 ี้
ผล ถึงแมูผูป่วยมีปริมาณนู อยแต่สามารถถือเป็ น                    หูองฉุกเฉิ น)
ภาวะผููป่วยหนาแน่ นไดูหากมีสัดส่วนของบุคลากรที่              2. จำานวนเครื่องช่วยหายใจที่กำาลังใชูงานในหูอง
ปฏิบัตงานลดนู อยลง นอกจากนี้ปริมาณเตียงที่รับไดู
      ิ                                                          ฉุกเฉิ น
ในหูองฉุกเฉิ นก็มีผลเช่นกัน โดยเมื่อมีผูป่วยที่              3. ระยะเวลารอรับเขูาโรงพยาบาลที่นานที่สด
                                                                                                    ุ
ตูองการการนอนโรงพยาบาลมากขึนขณะที่เตียงที่จะ
                           ้                                 4. ระยะเวลารอตรวจของผูป่วยคิวสุดทูาย และ
                                                                                   ู
รับผููป่วยในเต็มทำาใหูมีผูป่วยรอรับการนอนโรง                 5. ดัชนี การรับเขูานอนในโรงพยาบาล (ดัชนี ชีวัด
                                                                                                        ้
                                                                                   9
พยาบาลที่หองฉุกเฉิ นมากขึน การระบายผููป่วยออก
          ู              ้                                       เตียงผูป่วยใน) , เรดี้ (Real-time
                                                                        ู
ทำาไดูลดลง ส่งผลใหูเตียงที่รับไดูในหูองฉุกเฉิ นลดลง              Emergency Analysis of Demand
ผููป่วยฉุกเฉิ นรายใหม่ไม่สามารถเขูารับบริการในหูอง               Indicators : READI) ใชูการวัดหลายวิธี
ฉุกเฉิ นไดู และตูองมีระยะเวลารอตรวจนานขึน
                                        ้                        ไดูแก่ Bed ratio, Acuity ratio, Provider
                                                                                           1
ทังหมดนี้เป็ นผลใหูเกิดภาวะผููป่วยหนาแน่ นจนลูน
  ้                                                              ratio และ Demand value และค่าดัชนี เอ็ด
หูองฉุกเฉิ นขึน จึงเป็ นที่มาของวิธการคำานวณต่างๆ
              ้                    ี                             วิน (Emergency Department Work
โดยอาศัยปั จจัยขูางตูนเป็ นตัวแปรในการหาค่าเชิง                  Index: EDWIN) ซึ่งใชูปริมาณผูป่วย
                                                                                              ู
ปริมาณที่จะใชูชีวัดภาวะผููป่วยหนาแน่ น อาทิ วิธอีดซี
                ้                              ี ี               ประเภทต่างๆแบ่งตามระบบการคัดแยก
เอส (Emergency Department Crowding Scale :                       จำานวนแพทย์เวร และจำานวนเตียงว่างในหูอง
                                                                                                4
EDCS) ซึ่งเกี่ยวขูองกับระยะเวลาการอย่ในหูอง
                                     ู                           ฉุกเฉิ นเป็ นปั จจัยในการคำานวณ
งานวิจยของ Kamini Raj และคณะ จาก
                ั                                         ประสิทธิภาพในการวัดระดับความหนาแน่ นของ
ออสเตรเลียไดูศึกษาถึงการนำ าไปใชูของนี ดอกซ์และ
                                        ็                 จำานวนผููป่วยระหว่างเครื่องมือทังสองแบบคือ ค่า
                                                                                          ้
สรุปว่าวิธนี้ไม่สามารถใชูไดูในหูองฉุกเฉิ นของ
          ี                                               ดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ว่ามีความ
                      6
ประเทศออสเตรเลีย งานวิจัยของ Spencer S.                   แตกต่างกันหรือไม่
Jones และคณะจากสหรัฐอเมริกาไดูทำาการเปรียบ
                                                          วัตถุประสงค์งานวิจัย (Objectives)
เทียบวิธการวัดเชิงปริมาณของคะแนนความหนาแน่ น
        ี
                                                                  วัตถุประสงค์ทวไป : เพื่อสรูางเครื่องมือวัด
                                                                               ั่
ผููป่วยฉุกเฉิ น 4 วิธี และพบว่าวิธเอ็ดวินและนี ด็อกซ์
                                  ี
                                                          ระดับความหนาแน่ นของจำานวนผูป่วยในเชิงปริมาณ
                                                                                      ู
ใหูค่า sensitivity สูงสุดเท่ากันคือ 0.81 และ นี ด็
                                                          สำาหรับหูองฉุกเฉิ น โรงพยาบาลราชวิถีเพื่อนำ ามาใชู
อกซ์ใหูค่า specificity สูงสุดคือ 0.87 นอกจากนี้ยัง
                                                          รองรับกับการจัดการปั ญหาผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น
ใหูค่า PPV สูงสุดเท่ากับ 0.62 อีกดูวย การหา
                                                                  วัตถุประสงค์จำาเพาะ : เพื่อทดสอบความ
AROC มีค่าเท่ากับ 0.92, 0.86, 0.84, 0.66, 0.64
                                                          แม่นยำาของดัชนี เอ็ดวิน (EDWIN : Emergency
จากวิธีต่างๆคือ NEDOCS, BR(Bed ratio),
                                                          Department Work Index) และค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ด
EDWIN, DV(Demand value)และ EDCS ตาม
      7                                                   วิน(Modified EDWIN) โดยเปรียบเทียบกับความ
ลำาดับ แสดงใหูเห็นถึงความแตกต่างของความ
                                                          รูสึกหนาแน่ นของจำานวนผูป่วยที่แพทย์และพยาบาล
                                                            ู                     ู
สามารถในการนำ าไปใชูประโยชน์ในประเทศต่างๆของ
                                                          ที่ปฏิบัติงานในหูองฉุกเฉิ น ณ จุดเวลานั ้น
เครื่องมือเหล่านี้ เนื่ องจากในแต่ละที่อาจมีโครงสรูาง
                                                          ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รับ (Expected benefits and
และระบบการทำางานที่แตกต่างกัน จึงจำาเป็ นตูองมี
                                                          application)
การทดสอบความแม่นยำาของเครื่องมือในที่ๆจะนำ าไป
                                                                  สามารถรับรูภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นโดยใชู
                                                                             ู
ใชูก่อน
                                                          ค่าดัชนี ชีวัดเป็ นตัวเลขอูางอิง ทำาใหูเขูาใจภาวะผููป่วย
                                                                     ้
          งานวิจยฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อพิสูจน์ดชนี
                ั                                   ั
                                                          ลูนหูองฉุกเฉิ นไดูตรงกัน สามารถเตรียมหาแนวทาง
เอ็ดวินว่าสามารถใชูวัดเชิงปริมาณกับภาวะผููป่วยหนา
                                                          การจัดการกับปั ญหาไดูต่อไป เช่น การเพิ่มแพทย์เวร
แน่ นหูองฉุกเฉิ นในโรงพยาบาลราชวิถีไดูจริงหรือไม่
                                                          ประจำาหูองฉุกเฉิ นในขณะนั ้นๆ หรือการเร่งการ
และดัดแปลงโดยเพิ่มการนั บจำานวนนั กศึกษาแพทย์ปี
                                                          ระบายผููป่วยออกจากหูองฉุกเฉิ น ทังนี้อาจพัฒนา
                                                                                           ้
ที่หกและพยาบาลที่ขนปฏิบัติงานร่วมดูวย เพราะถือ
                  ึ้
                                                          เพื่อสรูางเป็ นโปรแกรมการเตือนเมื่อเกิดภาวะผูป่วย
                                                                                                       ู
เป็ นอีกปั จจัยดูานบุคลากรที่ดัชนี เอ็ดวินเดิมไม่ไดู
                                                          ลูนหูองฉุกเฉิ น (real time alert of ED crowding)
กล่าวถึง
                                                          ไดูตอไปในอนาคต
                                                              ่
          สาเหตุท่ีผูวิจยเลือกดัชนี เอ็ดวินในการศึกษา
                        ั
                                                          วิธีการดำาเนิ นการวิจัย (Research Methodology)
วิจัยครังนี้เนื่ องจากเป็ นค่าที่น่าจะดำาเนิ นการไดูใน
        ้
                                                          วิธีวิจัยและสถิติท่เกี่ยวข้อง :
                                                                             ี
สถาบันของผููวิจย เพราะตัวแปรในการคำานวณเป็ น
               ั
                                                                  เป็ นงานวิจัยประเภท prospective
ตัวแปรที่อย่ภายในหูองฉุกเฉิ นเองทังสิน นอกจากนี้
            ู                     ้ ้
                                                          observational analytical study ไม่มีการใชู
ผููวิจยยังไดูทำาการดัดแปลงค่าดัชนี เอ็ดวินเพื่อใหู
      ั
                                                          informed consent ไม่มีการสัมภาษณ์ผป่วย และไม่มี
                                                                                            ู
เหมาะสมกับสภาพการทำางานจริงในหูองฉุกเฉิ นโรง
                                                          การเก็บขูอมูลจำาเพาะของผููป่วย การเก็บขูอมูลจะ
พยาบาลราชวิถีโดยการเพิ่มการนั บจำานวนนั กศึกษา
                                                          อาศัยนั กศึกษาแพทย์ปีหกที่ขนปฏิบัตงาน ณ จุด
                                                                                     ึ้     ิ
แพทย์ปีท่ีหก และจำานวนพยาบาลที่ขึ้นปฏิบัตงาน ณ
                                         ิ
                                                          เวลานั ้นเป็ นผูนับจำานวนผููป่วยประเภทต่างๆแบ่งตาม
                                                                          ู
จุดเวลานั ้นๆร่วมในการคำานวณเพื่อเปรียบเทียบ
ระบบการแยกประเภทผููป่วยฉุกเฉิ นราชวิถี 3             consent
ประเภทคือ สีแดง หมายถึงผููป่วยฉุกเฉิ น สีเหลือง              คำานิ ยามเชิงปฏิบัติการ (Operational
หมายถึง ผููป่วยเร่งด่วน และ สีเขียวหมายถึงผููป่วยไม่ Definition)
ฉุกเฉิ น ณ จุดเวลาต่างๆกันรวม 6 จุดเวลาคือ           - ภาวะผ้้ป่วยล้นห้องฉุกเฉิ น ( Emergency
01.00 น, 05.00 น, 9.00 น, 13.00 น, 17.00 น           Department Overcrowding) บางครังใชูร่วมกับ
                                                                                    ้
และ 21.00 น ตังแต่วนที่ 1 กันยายน 2551 ถึง 30
              ้    ั                                 คำาว่าผููป่วยหนาแน่ น (Crowding) หมายความถึง
กันยายน 2551 รวม 180 จุดเวลา ที่หองฉุกเฉิ น โรง ภาวะที่ความตูองการรับบริการของผููป่วยในหูอง
                                 ู
พยาบาลราชวิถี นำ ามาเปรียบเทียบกับความคิดเห็น        ฉุกเฉิ น(รวมถึงผูป่วยที่รอรับบริการหนู าหูองฉุกเฉิ น)
                                                                      ู
เรื่องความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วย ณ จุดเวลาดัง      มากเกินกว่าที่ความสามารถของแผนกฉุกเฉิ นจะ
กล่าว ของแพทย์และพยาบาลที่ขึ้นปฏิบัติงาน             สามารถตอบสนองไดู
        ความคิดเห็นเรื่องความหนาแน่ นของจำานวน               ในปั จจุบนไดูมีการกำาหนดตัวชีวัดมากมายใน
                                                                      ั                   ้
ผููป่วยของแพทย์และพยาบาลจะนำ ามาวิเคราะห์ความ        การแสดงถึงภาวะผูป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น โดยอาศัย
                                                                     ู
                                                                                         1
สอดคลูอง (agreement of measurement) ระหว่าง          ปั จจัยต่างๆที่ทำาใหูเกิดภาวะนี้ขน ไดูแก่
                                                                                      ึ้
กันโดยอาศัย weighted kappa (K) statistic ความ                1. ปั จจัยจากหูองฉุกเฉิ น
สัมพันธ์ของค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ด   - ระยะเวลารอแพทย์ ระยะเวลารอรับการรักษา
วินกับความเห็นของแพทย์และพยาบาลต่อความหนา            - จำานวนครังของการใชูบริการหูองฉุกเฉิ นมากกว่า
                                                                ้
แน่ นของจำานวนผููป่วยจะใชู Kruskal-Wallis chi-       120 ครังต่อวัน
                                                            ้
square test ในการเปรียบเทียบ ความสอดคลูองของ         - หูองสังเกตอาการเต็ม
ค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินนำ ามา     - ความคิดเห็นของแพทย์และพยาบาลที่ขึ้นปฏิบัตงาน
                                                                                                ิ
เปรียบเทียบโดยใชู Pearson Correlation และเปรียบ เกี่ยวกับความเร่งรีบในการใหูการบริการ
เทียบความสามารถของการวัดระดับความหนาแน่ น            - อัตราเตียงว่างในหูองฉุกเฉิ น (ED bed ratio),
ของจำานวนผููป่วยระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่า        สัดส่วนจำานวนเตียงที่รับไดู (acuity ratio, provider
ดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินโดยใชูพ้ืนที่ใตูกราฟ ROC         ratio), ค่าอุปสงค์ในการรับบริการ (demand value)
(AROC: Area under the Receiver Operating             - เวลารอแพทย์นานมากกว่า 30 นาที หรือ 60 นาที,
characteristic Curve) ซึ่งใชูคาความเห็นของแพทย์
                              ่                      เตียงผูป่วยในหูองฉุกเฉิ นเต็มมากกว่า 6 ชัวโมงต่อ
                                                            ู                                 ่
ที่ระดับมากกว่า 3 เป็ น gold standard ของการบอก วัน, มีเตียงผูป่วยลูนจนตูองเรียงอยู่บริเวณริมทาง
                                                              ู
ภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น (หมายถึง ค่าความเห็นที่   เดิน
เท่ากับ 4 และ 5 คือค่าที่บงบอกถึงภาวะผููป่วยลูน
                          ่                                  2. ปั จจัยจากโรงพยาบาล
หูองฉุกเฉิ น)                                        - เตียงนอนในโรงพยาบาลเต็ม
        ข้อพิจารณาด้านจริยธรรม (Ethics               - มีผูป่วยที่พรูอมจะนอนในโรงพยาบาลแต่ยงไม่
                                                                                           ั
Approval)                                            สามารถรับเขูาในโรงพยาบาลไดูจนตูองรอที่หอง
                                                                                            ู
        งานวิจัยนี้เป็ นการศึกษาประเภท               ฉุกเฉิ น รวมถึงความสามารถในการรับส่งต่อจากโรง
Observational study ไม่มีผลต่อการรักษาผููป่วยแต่     พยาบาลอื่นลดลง
อย่างใด ไม่มการสัมภาษณ์ผป่วย ไม่มการบันทึก
            ี           ู        ี                   - การลดลงของจำานวนเตียงผููป่วยในและการ
ขูอมูลจำาเพาะของผููป่วย และไม่มการขอ informed
                               ี                     ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ขนวิกฤต
                                                                               ั้
- เมื่อผููป่วยฉุกเฉิ นมีปริมาณมากขึน
                                   ้                 ขา หรือการมองเห็น เช่น หัวใจหยุดเตูน หยุดหายใจ
- เมื่อระยะเวลาการรับยูายผููป่วยเขูานอนในโรง         ผูป่วยขันวิกฤตซึ่งไม่ตอบสนอง กินยาเกินขนาดร่วม
                                                       ู     ้
พยาบาลนานมากกว่า 4 ชัวโมง
                     ่                               กับมีการหายใจที่ชูาลง ภาวะเลือดออกที่ยังไม่สามารถ
- มีผป่วยมาใชูบริการมากเกินไป และมีผูป่วยที่ตอง
     ู                                       ู       ควบคุมไดู หรือ ผููป่วยแพูยาแบบรุนแรงแบบ อนาไฟ
รับเขูานอนในโรงพยาบาลมากเกินไป                       แลกซิส
         3. ปั จจัยภายนอก                                     ระดับที่ 2 เร่งด่วน หมายถึง ผูป่วยที่ควรไดู
                                                                                            ู
- จำานวนครังของการยูายที่สงผููป่วยของรถพยาบาล
           ้              ่                          รับการดูแลจากแพทย์เนื่ องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะแย่
         4. ปั จจัยผสม                               ลงอย่างรวดเร็ว อาจเสียชีวิต แขนขา หรือการมอง
- การมีผูป่วยที่ไม่รอรับการตรวจ และการยูายที่สงผูู
                                              ่      เห็นถูาการรักษาล่าชูา เช่น เจ็บหนู าอกที่สงสัยภาวะ
ป่ วยของรถพยาบาล                                     เสูนเลือดเลียงหัวใจตีบ อาการแสดงของเสูนเลือด
                                                                 ้
- ภาวะขาดแคลนบุคลากร ขาดเตียง ระบบปฏิบัติการ เลียงสมองตีบ ผููป่วยภูมคูุมกันบกพร่องที่มาดูวยไขู
                                                ้                   ิ
ไม่มประสิทธิภาพ จำานวนผูป่วยเพิ่มมากขึน มีการปิ ด เด็กแรกเกิดอายุนูอยกว่า 8 สัปดาห์ท่มาดูวยไขูสูง
    ี                   ู             ้                                              ี
โรงพยาบาล                                            กว่า 100.4 ฟาเรนไฮต์โดยวัดผ่านรูทวาร
         5. การวัดโดยตัวชีวัดต่างๆ เช่น
                          ้                                   ระดับที่ 3 ป่ วยเฉี ยบพลัน หมายถึง ผูป่วยที่
                                                                                                   ู
- Emergency Department Crowding Score                ความเจ็บป่ วยเพิ่งเกิดขึนภายใน 24-48 ชัวโมง
                                                                             ้              ่
(EDCS)                                               อาการและปั จจัยเสี่ยงต่อโรครูายแรงไม่บ่งชีถงความ
                                                                                               ้ ึ
- Emergency Department Work Index                    น่ าจะเป็ นที่โรคจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว เช่น ปวดทูอง
(EDWIN)                                              เล็กนู อย คลื่นไสูอาเจียนจนขาดนำ้ าเล็กนู อย
- National Emergency Department                               ระดับที่ 4 ป่ วยประจำำ หมายถึง ผููป่วยที่มา
Overcrowding Score (NEDOCS)                          ดูวยอาการป่ วยเรื้อรัง การรักษาหรือภาวะทางการ
- Real-time Emergency Analysis of Demand             แพทย์ไม่แสดงถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิต แขน
Indicators Scores (READI)                            ขา หรือการมองเห็น เช่น ติดเชื้อทางเดินปั สสาวะ
                                                     บาดแผลฉี กขาดเล็กนู อย และกระดูกหักเล็กนู อยที่
- ค่าดัชนี เอ็ดวิน (EDWIN : Emergency                อาจตูองทำาการเอ็กซ์เรย์
Department Work Index) หมายถึง ดัชนี ชีวัด
                                       ้                      ระดับที่ 5 หมายถึง ผููป่วยที่เป็ นปกติ และไม่
ระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยโดยใชูสูตร          ตูองทำาการเจาะเลือดหรือการเอ็กซ์เรย์
คำานวณ                                                        แต่เนื่ องจากความแตกต่างในระบบคัดแยกผูู
             EDWIN = ∑ ni ti/Na(BT-BA)               ป่ วย งานวิจยฉบับนี้จะขอแบ่งผููป่วยออกเป็ น 3 ระดับ
                                                                 ั
โดย ni = จำานวนผููป่วยในหูองฉุกเฉิ นประเภท i         ตามระบบการคัดแยกผููป่วยฉุกเฉิ นของโรงพยาบาล
         ในงานวิจยเดิมค่า i แบ่งตามระบบของ
                 ั                                   ราชวิถี ไดูแก่
สหรัฐอเมริกาโดย Emergency Severity Index                      สีแดง คือ ผูป่วยฉุกเฉิ นที่ตูองรีบรักษาทันที
                                                                          ู
(ESI) ซึ่งแบ่งผููป่วยออกเป็ น 5 ระดับตามความเร่ง     มิเช่นนั ้นอาจเป็ นอันตรายถึงชีวิต เช่น หัวใจหยุดเตูน
ด่วนไดูแก่                                           หยุดหายใจ หอบอย่างรุนแรงจนมีภาวะเขียวจากการ
         ระดับที่ 1 ฉุกเฉิ น หมายถึง ผูป่วยที่
                                       ู             ขาดออกซิเจน เจ็บหนู าอกที่สงสัยภาวะเสูนเลือด
ตูองการการรักษาทันทีเพื่อปู องกันการเสียชีวิต แขน    เลียงหัวใจตีบ ภาวะช็อคต่างๆ ฯลฯ
                                                        ้
สีเหลือง คือผููป่วยฉุกเฉิ นที่สามารถรอไดู        เวลานั ้น
ภายในระยะเวลา 30 นาที เช่น ภาวะปวดทูองที่
สงสัยจากสาเหตุทางศัลยกรรม ปวดศีรษะรุนแรง                 - จำานวนแพทย์เวรห้องฉุกเฉิ นที่ปฏิบัติงาน ณ จุด
หอบเหนื่ อยแต่ไม่จำาเป็ นตูองใส่ทอช่วยหายใจ ไขูสูง
                                 ่                       เวลานั ้น หมายถึง จำานวนอาจารย์แพทย์รวมถึง
มากกว่า 39 องศาเซลเซียส ฯลฯ                              แพทย์ประจำาบูานที่ขนปฏิบัติงานในหูองฉุกเฉิ น ณ
                                                                            ึ้
        และ สีเขียวคือ ผูป่วยไม่ฉกเฉิ น เช่น ไขูหวัด จุดเวลาที่ทำาการเก็บขูอมูล
                         ู       ุ
โรคผิวหนั ง ขอรับยาเดิม ฯลฯ
        ti   = ค่าประเภทการแยกผููป่วย (งานวิจย
                                             ั           - ระดับความหนาแน่ นของผ้้ป่วยที่แพทย์และ
เดิมแบ่งเป็ น 1-5 โดย 5 คือผูป่วยฉุกเฉิ นที่สุดที่ตูอง
                             ู                           พยาบาลประจำาห้องฉุกเฉิ นร้้สึก หมายถึง ค่าความ
รีบรักษา ในงานวิจัยฉบับนี้แบ่งเป็ น 1-3 โดย 3 คือผูู รูสึกหนาแน่ นของจำานวนผูป่วยในหูองฉุกเฉิ นที่รับรูู
                                                       ู                     ู
ป่ วยฉุกเฉิ นที่สุดที่ตูองรีบรักษา)                      โดยแพทย์และพยาบาลเวรประจำาหูองฉุกเฉิ นในขณะ
        Na = จำานวนแพทย์เวรหูองฉุกเฉิ นที่ปฏิบัติ        ที่ทำาการเก็บขูอมูลโดยใชูเครื่องมือเป็ นแบบสอบถาม
งาน ณ จุดเวลานั ้น                                       ชนิ ดคำาถามโดดแบบไลค์เคิร์ด (Single-question
        BT = จำานวนเตียงว่างในหูองฉุกเฉิ น               Likert-type instrument) ซึ่งเป็ นแบบสอบถามที่เคย
ทังหมดที่สามารถรับผููป่วยไดู (เป็ นค่าคงที่ ในงาน
  ้                                                      ไดูรบการวัดความเที่ยงตรงจากงานวิจัยก่อนหนู านี้
                                                             ั
วิจัยนี้ไดูประมาณปริมาณเตียงสูงสุดที่บรรจุไดูในหูอง และเป็ นที่ยอมรับแลูว มีลักษณะเป็ นการใหูคะแนน
ฉุกเฉิ นโรงพยาบาลราชวิถีไวูเท่ากับ 65 เตียง)             5 ระดับตามความรููสกหนาแน่ นของจำานวนผููป่วย คือ
                                                                           ึ
        BA = จำานวนผููป่วยในหูองฉุกเฉิ นที่ไดูรับ        1 ไม่ยุ่งเลย 2 คงที่ สามารถจัดการไดูโดยง่าย
การอนุญาตใหูนอนโรงพยาบาลแลูว กำาลังรอยูายเขูา            3 ย่งปานกลาง งานหนั กแต่ยังพอจัดการไดู 4 ผูู
                                                             ุ
แผนก (Admitted patients holded in ED)                    ป่ วยเริ่มลูนและยุ่งเกินความตูองการและ 5 ย่งมาก
                                                                                                    ุ
        หรืออาจใชูคำาจำากัดความว่า ค่าดัชนี เอ็ดวิน      ที่สุด ผููป่วยหนาแน่ นมากที่สด โดยทังแพทย์และ
                                                                                      ุ      ้
คือ จำานวนผููป่วยแยกตามประเภทความเร่งด่วนใน              พยาบาลจะไดูรับแบบสอบถามดังกล่าวตามจุดเวลา
การรักษา ต่อจำานวนแพทย์เวร ต่อจำานวนเตียงที่รับ          ต่างๆ รวมหกจุดเวลาในหนึ่ งวัน และทำาการประเมิน
ไดูในหูองฉุกเฉิ น                                        ระดับความหนาแน่ นตามความรููสึก
                                                         ผลการวิจัย (Results)
- ค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน (Modified EDWIN)                           จากการศึกษาเก็บขูอมูลผููป่วยที่มารับบริการ
หมายถึง การดัดแปลงค่า EDWIN โดยเพิ่มการนั บ              หูองฉุกเฉิ นโรงพยาบาลราชวิถี ตังแต่ 1 กันยายน –
                                                                                        ้
จำานวนนั กศึกษาแพทย์ปีท่ีหก และพยาบาลที่ปฏิบัติ          30 กันยายน 2551 สามารถเก็บขูอมูลไดูทงหมด
                                                                                             ั้
งานในหูองฉุกเฉิ น ณ เวลานั ้นร่วมดูวย โดยนำ าไป          178 จุดเวลา มีขอมูลขาดหาย 2 จุดเวลา
                                                                        ู
รวมกับจำานวนแพทย์ท่ีขนปฏิบัติงาน ดังนี้
                     ึ้                                  มีผูป่วยมารับบริการที่หองฉุกเฉิ นรวมทังสิน 6,055
                                                                                ู              ้ ้
    Modified EDWIN = ∑ ni ti/(Na+Ne+Nn)(BT-BA)           ราย แบ่งเป็ นผููป่วยทัวไปจำานวน 5,088 ราย และผูู
                                                                               ่
โดย Ne = จำานวนนั กศึกษาแพทย์ปีท่ีหก หรือเอ็กซ์          ป่ วยอุบัติเหตุ 967 คน ค่าเฉลี่ยของค่าดัชนี เอ็ดวิน
เทอร์นที่ขนปฏิบัติงาน ณ จุดเวลานั ้น
          ึ้                                             เท่ากับ 0.21 (SD 0.09) และค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน
        Nn = จำานวนพยาบาลที่ขนปฏิบัติงาน ณ จุด
                             ึ้                          เท่ากับ 0.04 (SD 0.018) ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 คะแนนที่นูอยที่สุด(minimum), มากที่สุด (maximum), ค่าเฉลี่ย (mean) และค่าเบี่ยง
เบนมาตรฐาน (STD) ของดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน


       การเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของค่าดัชนี ทงสองพบว่ามีความสอดคลูองกันอย่างมีนัยสำาคัญ (p <
                                              ั้
0.001) ทัง Pearson Correlation และ Spearman’s rho
         ้




       ตารางที่ 2   ความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินโดยใชู Pearson
Correlation




       ตารางที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินโดยใชู Spearman’s rho
รูปที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน


       ความสอดคลูองเรื่องความความหนาแน่ น            measurement) ดูวย weighted kappa (K) statistic
ของจำานวนผููป่วยระหว่างแพทย์และพยาบาลเมื่อนำ า       พบว่ามีความสัมพันธ์กนอย่างมีนัยสำาคัญ
                                                                         ั
มาวิเคราะห์ความสอดคลูอง (agreement of                (weighted K 0.556, p<0.001)


                                    Case Processing Summary

                                                            Cases
                                   Valid                   Missing               Total

                              N       Percent         N        Percent      N          Percent

              nurse *        178       98.9%          2         1.1%       180         100.0%
              doctor
   ตารางที่ 4 แสดงจำานวนขูอมูลของความเห็นของแพทย์และพยาบาลต่อปริมาณความหนาแน่ นของจำานวน
                                                 ผููป่วย
Nurse * Doctor Rating Crosstabulation
                                           Count

                                          Doctor rating

                      1.00         2.00        3.00           4.00       5.00      Total

   Nurse    1.00       14           3             3            0          0         20
   rating   2.00        8          31             3            1          0         43

            3.00        2          11             44           5          0         62

            4.00        1           4             9           18          2         34

            5.00        0           0             2            6         11         19
       Total           25          49             61          30         13        178
ตารางที่ 5 แสดงความเห็นเปรียบเทียบระหว่างแพทย์และพยาบาลเกี่ยวกับความหนาแน่ นของจำานวน
                                           ผููป่วย


                                   Chi-Square Tests

                                                                     Asymp. Sig.
                                           Value         df           (2-sided)
                                                     a
               Pearson Chi-Square         254.392        16             .000
                Likelihood Ratio          202.317        16             .000
                Linear-by-Linear          108.613         1             .000
                   Association
            McNemar-Bowker Test           14.987          8             .059
               N of Valid Cases             178

            a. 10 cells (40.0%) have expected count less than 5. The
                            minimum expected count is 1.39.
     ตารางที่ 6 แสดงการทดสอบไคสแควร์ของความเห็นระหว่างแพทย์และพยาบาล
                                 เกี่ยวกับความหนาแน่ นของผููป่วย
Symmetric Measures

                                                          Asymp. Std.                    Approx.
                                                                     a               b
                                                Value        Error       Approx. T          Sig.

          Measure of              Kappa          .556         .047          13.787         .000
          Agreement
                N of Valid Cases                 178

    a. Not assuming the null hypothesis.
    b. Using the asymptotic standard error assuming the null hypothesis.
 ตารางที่ 7 แสดงค่าคะแนนแคปปา (Kappa value) และผลความเห็นที่ตรงกันอย่างมีนัยสำาคัญ (p<0.01)
       เมื่อนำ าค่าคะแนนหูาระดับที่แพทย์ประเมินใหู 4-5 = ย่งที่สุด มี
                                                           ุ
และค่าดัชนี เอ็ดวินมาสรูางเป็ นกราฟแบบกล่อง         ค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.26
(Boxplot) (รูปที่ 2 และ 3) โดยแบ่งระดับความย่งที่
                                             ุ      ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.25
แพทย์ใหูออกเป็ น 3 ระดับ คือ                        (IQR = 0.19-0.32)
1-2 = ไม่ยง (Not busy or crowded) มี
          ุ่                                                ค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ระดับไม่ยง มีค่า
                                                                                             ุ่
ค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.17                       เฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.04 ค่ามัธยฐาน (median)
ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.15                    เท่ากับ 0.03 (IQR = 0.02-0.04) ระดับยุ่งปานกลาง
(IQR = 0.11-0.22),                                  มีค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.05 ค่ามัธยฐาน
3 = ย่งปานกลาง มี
      ุ                                             (median) เท่ากับ 0.04 (IQR = 0.04-0.06) และ
ค่าเฉลี่ย(mean) เท่ากับ 0.21                        ระดับย่งที่สุดมีค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.06 ค่า
                                                           ุ
ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.2                     มัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.05 (IQR =0.04-0.07)
(IQR = 0.16-0.27) และ
Statistics

                            Modified EDWIN                               EDWIN

                  Not busy      Average        Busy        Not busy      Average        Busy

 N      Valid        74            61            43           74            61           43
     Mean        .03641829     .04521795    .05706123     .17106667     .21325590    .26422864
     Median      .03354119     .04440790    .05494506     .14618429     .20081967    .24609375
Std. Deviation .015273703 .015102687 .017949622 .084496364 .075681429 .105607924
     Range        .083847       .079867       .077828      .471763       .393713      .408876
  Minimum         .008065       .016865       .028054      .018433       .089947      .120536
  Maximum         .091912       .096732       .105882      .490196       .483660      .529412
Percentiles 25 .02490385       .03505648    .04285714     .11011905     .15769581    .19047619

              50 .03354119     .04440790    .05494506     .14618429     .20081967    .24609375

              75 .04344758     .05525064    .06618241     .22636983     .26675390    .32352941
   ตารางที่ 8 แสดงค่าเฉลี่ย (Mean), ค่ามัธยฐาน (Median), ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD), ค่านู อยที่สุด
       (Minimum), ค่ามากที่สุด (Maximum) และ Interquartile range (IQR; percentile 25-75)




       รูปที่ 2 กราฟแบบกล่อง (Boxplot) โดยแบ่งระดับความยุ่งที่แพทย์ใหูออกเป็ น 3 ระดับ คือ
1-2 = ไม่ยง (Not busy or crowded) มีค่าเฉลี่ย(mean) เท่ากับ 0.17 ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.15
          ุ่
(IQR = 0.11-0.22), 3 = ย่งปานกลาง มีคาเฉลี่ย(mean) เท่ากับ 0.21 ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.2
                         ุ           ่
(IQR = 0.16-0.27) และ 4-5 = ย่งที่สุด มีค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.26 ค่ามัธยฐาน(median)
                              ุ
เท่ากับ 0.25 (IQR = 0.19-0.32)




                                                       Descriptives

                                                          EDWIN

                                                                  95% Confidence Interval for Mean

                   N      Mean      Std. Deviation   Std. Error    Lower Bound      Upper Bound       Minimum Maximum

Not busy or        74   .17106667    .084496364      .009822503     .15149045         .19064289       .018433   .490196
  crowded

  Average          61   .21325590    .075681429      .009690014     .19387299         .23263882       .089947   .483660

   Busy            43   .26422864    .105607924      .016105057     .23172732         .29672996       .120536   .529412

   Total       178      .20803020    .094236721      .007063341     .19409100         .22196940       .018433   .529412

                                 ตารางที่ 9 แสดงสถิติเชิงพรรณนาของค่าดัชนี เอ็ดวิน




                                                          ANOVA

                                                          EDWIN

                                 Sum of Squares            df           Mean Square               F             Sig.

    Between Groups                    .239                 2                .119             15.657             .000

     Within Groups                   1.333                175               .008

           Total                     1.572                177

              ตารางที่ 10 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างกลุ่มและในกล่มของดัชนี เอ็ดวิน
                                                                         ุ
รูปที่ 3 กราฟแบบกล่อง (Boxplot) ของค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ระดับไม่ยุ่ง มีคาเฉลี่ย (mean)
                                                                                       ่
   เท่ากับ 0.04 ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.03 (IQR = 0.02-0.04) ระดับย่งปานกลาง มีค่าเฉลี่ย
                                                                          ุ
(mean) เท่ากับ 0.05 ค่ามัธยฐาน(median) เท่ากับ 0.04 (IQR = 0.04-0.06) และระดับยุ่งที่สุดมีค่าเฉลี่ย
                (mean) เท่ากับ 0.06 ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.05 (IQR = 0.04-0.07)


                                               Descriptives

                                             Modified EDWIN
    Level
                                   Std.                  95% Confidence Interval for Mean

                 N      Mean    Deviation   Std. Error    Lower Bound      Upper Bound      Minimum Maximum

 Not busy or     74   .03641829 .015273703 .001775532      .03287966        .03995692       .008065   .091912
  crowded

  Average        61   .04521795 .015102687 .001933701      .04134997        .04908593       .016865   .096732

Busy, crowded    43   .05706123 .017949622 .002737292      .05153715        .06258531       .028054   .105882

    Total       178 .04442068 .017770600 .001331963        .04179211        .04704925       .008065   .105882

                       ตารางที่ 11 แสดงสถิติเชิงพรรณนาของค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน
ANOVA
           Modified EDWIN

                                     Sum of
                                 Squares             df    Mean Square      F         Sig.

           Between Groups             .012           2        .006        23.035      .000
            Within Groups             .044          175       .000
                 Total                .056          177
       ตารางที่ 12 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างกล่มและในกล่มของค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน
                                                        ุ        ุ


       การเปรียบเทียบระหว่างกล่มของค่าระดับความยุ่งทังสามระดับพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัย
                               ุ                     ้
สำาคัญ ดังตารางต่อไปนี้


                                             Multiple Comparisons
        EDWIN, Tukey HSD

                              Mean                                   95% Confidence Interval

           (I)    (J)     Difference (I-                               Lower
        degree degree           J)            Std. Error   Sig.        Bound       Upper Bound
                                         *
          1.00    2.00    -.042189231         .015094823   .016      -.07787078    -.00650768
                                         *
                  3.00    -.093161964         .016737275   .000      -.13272599    -.05359794
                                        *
          2.00    1.00    .042189231          .015094823   .016      .00650768      .07787078
                                         *
                  3.00    -.050972734         .017380387   .011      -.09205696    -.00988851
                                        *
          3.00    1.00    .093161964          .016737275   .000      .05359794      .13272599
                                        *
                  2.00    .050972734          .017380387   .011      .00988851      .09205696

        *. The mean difference is significant at the 0.05 level.
       ตารางที่ 13 แสดงการเปรียบเทียบระหว่างกล่มของค่าคะแนนทังสามกล่มจากดัชนี เอ็ดวิน กล่มที่ 1
                                               ุ             ้      ุ                    ุ
คือ ระดับไม่ยง กล่มที่ 2 คือ ระดับย่งปานกลาง และกล่มที่ 3 คือระดับยุ่งมาก
             ุ่   ุ                 ุ              ุ
EDWIN
                                                                        a,,b
                                                        Tukey HSD

                                                              Subset for alpha = 0.05

                         degree       N            1             2                  3

                          1.00        74     .17106667
                          2.00        61                      .21325590
                          3.00        43                                       .26422864
                          Sig.                 1.000            1.000             1.000

                         Means for groups in homogeneous subsets are displayed.
                         a. Uses Harmonic Mean Sample Size = 56.430.
                         b. The group sizes are unequal. The harmonic mean of the
                         group sizes is used. Type I error levels are not guaranteed.
                    ตารางที่ 14 ค่าเฉลี่ยของระดับคะแนนทังสามกลุ่มของดัชนี เอ็ดวิน
                                                        ้
                                 Multiple Comparisons
                                     Modified EDWIN
                                       Tukey HSD

  (I)     (J)         Mean                                           95% Confidence Interval

degree degree Difference (I-J)        Std. Error       Sig.      Lower Bound       Upper Bound
                                 *
 1.00    2.00    -.008799665         .002749859        .005       -.01529986        -.00229947
                                 *
         3.00    -.020642941         .003049068        .000       -.02785041        -.01343547
                                 *
 2.00    1.00     .008799665         .002749859        .005       .00229947             .01529986
                                 *
         3.00    -.011843276         .003166225        .001       -.01932769        -.00435887
                                 *
 3.00    1.00     .020642941         .003049068        .000       .01343547             .02785041
                                 *
         2.00     .011843276         .003166225        .001       .00435887             .01932769

*. The mean difference is significant at the 0.05 level.
        ตารางที่ 15 แสดงการเปรียบเทียบระหว่างกล่มของค่าคะแนนทังสามกล่มจากค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน
                                                ุ             ้      ุ
กล่มที่ 1 คือ ระดับไม่ยุ่ง กล่มที่ 2 คือ ระดับยุ่งปานกลาง และกล่มที่ 3 คือระดับย่งมาก
   ุ                          ุ                                 ุ                ุ
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4
Thai Emergency Medicine Journal 4

Recomendados

สมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุ por
สมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุสมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุ
สมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุUtai Sukviwatsirikul
18.5K vistas76 diapositivas
Rehabilitabtion for Elderly por
Rehabilitabtion for ElderlyRehabilitabtion for Elderly
Rehabilitabtion for Elderlytaem
2.7K vistas91 diapositivas
แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557 por
แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557
แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557Utai Sukviwatsirikul
11.2K vistas58 diapositivas
แนวทางดำเนินงานเพื่อลดโรคไตเรื้อรัง por
แนวทางดำเนินงานเพื่อลดโรคไตเรื้อรัง แนวทางดำเนินงานเพื่อลดโรคไตเรื้อรัง
แนวทางดำเนินงานเพื่อลดโรคไตเรื้อรัง Tuang Thidarat Apinya
2.2K vistas32 diapositivas
Clinical practice guidelines for epilepsy por
Clinical practice guidelines for epilepsy Clinical practice guidelines for epilepsy
Clinical practice guidelines for epilepsy Utai Sukviwatsirikul
3.4K vistas114 diapositivas
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน por
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอนกลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอนda priyada
162.3K vistas14 diapositivas

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

Clinical case emergency contraceptives por
Clinical case emergency contraceptivesClinical case emergency contraceptives
Clinical case emergency contraceptivesUtai Sukviwatsirikul
1.1K vistas7 diapositivas
Thai nihss por
Thai nihssThai nihss
Thai nihssNawee Naowaprateep
42.7K vistas3 diapositivas
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1 por
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1ประกายทิพย์ แซ่กี่
22.7K vistas16 diapositivas
27การตรวจครรภ์ por
27การตรวจครรภ์27การตรวจครรภ์
27การตรวจครรภ์Papawee Laonoi
93K vistas11 diapositivas
Warning sign iicp por
Warning sign iicpWarning sign iicp
Warning sign iicpNirun Nayokchon
6.8K vistas19 diapositivas
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ por
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อการประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อUtai Sukviwatsirikul
18.6K vistas58 diapositivas

La actualidad más candente(20)

27การตรวจครรภ์ por Papawee Laonoi
27การตรวจครรภ์27การตรวจครรภ์
27การตรวจครรภ์
Papawee Laonoi93K vistas
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ por Utai Sukviwatsirikul
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อการประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
Utai Sukviwatsirikul18.6K vistas
ภาษาเกาหลี (เบื้องต้น) por Naunghwa
ภาษาเกาหลี (เบื้องต้น)ภาษาเกาหลี (เบื้องต้น)
ภาษาเกาหลี (เบื้องต้น)
Naunghwa10.8K vistas
แนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 2007 por Utai Sukviwatsirikul
แนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง  2007แนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง  2007
แนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 2007
Utai Sukviwatsirikul15.9K vistas
ประวัติ ศ.(พิเศษ)สุชาติ ธรรมาพิทักษ์กุล por Nanthapong Sornkaew
ประวัติ ศ.(พิเศษ)สุชาติ ธรรมาพิทักษ์กุลประวัติ ศ.(พิเศษ)สุชาติ ธรรมาพิทักษ์กุล
ประวัติ ศ.(พิเศษ)สุชาติ ธรรมาพิทักษ์กุล
Nanthapong Sornkaew5.5K vistas
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน... por Dr.Suradet Chawadet
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
Dr.Suradet Chawadet6.5K vistas
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ) por sarawu5
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)
sarawu516.5K vistas
11แผน por Fmz Npaz
11แผน11แผน
11แผน
Fmz Npaz46.6K vistas
คู่มือการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะฟื้นฟู por Utai Sukviwatsirikul
คู่มือการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะฟื้นฟูคู่มือการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะฟื้นฟู
คู่มือการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะฟื้นฟู
Utai Sukviwatsirikul45.1K vistas
คู่มือสำหรับเภสัชกรในการดำเนินงานเภสัชกรรมในหน่วยบริการปฐมภูมิ por Utai Sukviwatsirikul
คู่มือสำหรับเภสัชกรในการดำเนินงานเภสัชกรรมในหน่วยบริการปฐมภูมิคู่มือสำหรับเภสัชกรในการดำเนินงานเภสัชกรรมในหน่วยบริการปฐมภูมิ
คู่มือสำหรับเภสัชกรในการดำเนินงานเภสัชกรรมในหน่วยบริการปฐมภูมิ
Utai Sukviwatsirikul7.6K vistas
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New por Nickson Butsriwong
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา Newพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
Nickson Butsriwong22.6K vistas

Similar a Thai Emergency Medicine Journal 4

Thai Emergency Medicine Journal 5 por
Thai Emergency Medicine Journal 5Thai Emergency Medicine Journal 5
Thai Emergency Medicine Journal 5taem
1.8K vistas46 diapositivas
Epilepsy por
EpilepsyEpilepsy
EpilepsyLoveis1able Khumpuangdee
3.9K vistas114 diapositivas
Thai Emergency Medicine Journal no. 1 por
Thai Emergency Medicine Journal no. 1Thai Emergency Medicine Journal no. 1
Thai Emergency Medicine Journal no. 1taem
3.8K vistas82 diapositivas
แนวเวชปฏิบัติ เพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด 2557 por
แนวเวชปฏิบัติ เพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด 2557แนวเวชปฏิบัติ เพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด 2557
แนวเวชปฏิบัติ เพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด 2557Utai Sukviwatsirikul
1.4K vistas56 diapositivas
การขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศ por
การขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศการขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศ
การขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศUtai Sukviwatsirikul
3.1K vistas76 diapositivas
แนวทางการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตด้วยการแพทย์ผสมผสาน por
แนวทางการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตด้วยการแพทย์ผสมผสานแนวทางการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตด้วยการแพทย์ผสมผสาน
แนวทางการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตด้วยการแพทย์ผสมผสานVorawut Wongumpornpinit
1.7K vistas218 diapositivas

Similar a Thai Emergency Medicine Journal 4(20)

Thai Emergency Medicine Journal 5 por taem
Thai Emergency Medicine Journal 5Thai Emergency Medicine Journal 5
Thai Emergency Medicine Journal 5
taem1.8K vistas
Thai Emergency Medicine Journal no. 1 por taem
Thai Emergency Medicine Journal no. 1Thai Emergency Medicine Journal no. 1
Thai Emergency Medicine Journal no. 1
taem3.8K vistas
แนวเวชปฏิบัติ เพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด 2557 por Utai Sukviwatsirikul
แนวเวชปฏิบัติ เพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด 2557แนวเวชปฏิบัติ เพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด 2557
แนวเวชปฏิบัติ เพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด 2557
Utai Sukviwatsirikul1.4K vistas
การขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศ por Utai Sukviwatsirikul
การขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศการขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศ
การขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศ
Utai Sukviwatsirikul3.1K vistas
แนวทางการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตด้วยการแพทย์ผสมผสาน por Vorawut Wongumpornpinit
แนวทางการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตด้วยการแพทย์ผสมผสานแนวทางการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตด้วยการแพทย์ผสมผสาน
แนวทางการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตด้วยการแพทย์ผสมผสาน
ประชุมวิชาการครั้งที่14 por karan boobpahom
ประชุมวิชาการครั้งที่14ประชุมวิชาการครั้งที่14
ประชุมวิชาการครั้งที่14
karan boobpahom715 vistas
Thai Emergency Medicine Journal no. 3 por taem
Thai Emergency Medicine Journal no. 3Thai Emergency Medicine Journal no. 3
Thai Emergency Medicine Journal no. 3
taem2.3K vistas
Heritage ok 05-01-54science por faiiz011132
Heritage ok 05-01-54scienceHeritage ok 05-01-54science
Heritage ok 05-01-54science
faiiz0111321.5K vistas
ความรู้การตรวจสุขภาพ por Utai Sukviwatsirikul
ความรู้การตรวจสุขภาพความรู้การตรวจสุขภาพ
ความรู้การตรวจสุขภาพ
Utai Sukviwatsirikul1.8K vistas
Clinical practice guidelines for hemorrhagic stroke por Utai Sukviwatsirikul
Clinical practice guidelines for hemorrhagic strokeClinical practice guidelines for hemorrhagic stroke
Clinical practice guidelines for hemorrhagic stroke
Utai Sukviwatsirikul3.2K vistas
Clinical Practice Guidelines for Hemorrhagic Stroke 2013 por Utai Sukviwatsirikul
Clinical Practice Guidelines for Hemorrhagic Stroke 2013Clinical Practice Guidelines for Hemorrhagic Stroke 2013
Clinical Practice Guidelines for Hemorrhagic Stroke 2013
Utai Sukviwatsirikul12.9K vistas
โครงการและกำหนดการ15กพ56 por Met Namchu
โครงการและกำหนดการ15กพ56โครงการและกำหนดการ15กพ56
โครงการและกำหนดการ15กพ56
Met Namchu1.1K vistas
Hemodialysis Clinical Practice Recommendation 2014 por Utai Sukviwatsirikul
Hemodialysis Clinical Practice Recommendation 2014Hemodialysis Clinical Practice Recommendation 2014
Hemodialysis Clinical Practice Recommendation 2014
Utai Sukviwatsirikul2.7K vistas
Simenar Project por codexstudio
Simenar ProjectSimenar Project
Simenar Project
codexstudio244 vistas
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย por DMS Library
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัยพัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
DMS Library1.1K vistas
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย por guestd1493f
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัยพัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
พัฒนาระบบดูแลผู้สูงวัย
guestd1493f4.4K vistas

Más de taem

ประชุมใหญ่สามัญประจำปี วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 2562-2563 por
ประชุมใหญ่สามัญประจำปี วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 2562-2563ประชุมใหญ่สามัญประจำปี วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 2562-2563
ประชุมใหญ่สามัญประจำปี วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 2562-2563taem
1.1K vistas34 diapositivas
Thai EMS legislation por
Thai EMS legislationThai EMS legislation
Thai EMS legislationtaem
397 vistas120 diapositivas
ACTEP2014 Agenda por
ACTEP2014 AgendaACTEP2014 Agenda
ACTEP2014 Agendataem
3.4K vistas1 diapositiva
ACTEP2014: What's new in endocrine emergency por
ACTEP2014: What's new in endocrine emergencyACTEP2014: What's new in endocrine emergency
ACTEP2014: What's new in endocrine emergencytaem
4.7K vistas53 diapositivas
ACTEP2014: What is simulation por
ACTEP2014: What is simulationACTEP2014: What is simulation
ACTEP2014: What is simulationtaem
3.1K vistas36 diapositivas
ACTEP2014: Upcoming trend of lung ultrasound por
ACTEP2014: Upcoming trend of lung ultrasoundACTEP2014: Upcoming trend of lung ultrasound
ACTEP2014: Upcoming trend of lung ultrasoundtaem
4.9K vistas55 diapositivas

Más de taem(20)

ประชุมใหญ่สามัญประจำปี วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 2562-2563 por taem
ประชุมใหญ่สามัญประจำปี วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 2562-2563ประชุมใหญ่สามัญประจำปี วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 2562-2563
ประชุมใหญ่สามัญประจำปี วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 2562-2563
taem1.1K vistas
Thai EMS legislation por taem
Thai EMS legislationThai EMS legislation
Thai EMS legislation
taem397 vistas
ACTEP2014 Agenda por taem
ACTEP2014 AgendaACTEP2014 Agenda
ACTEP2014 Agenda
taem3.4K vistas
ACTEP2014: What's new in endocrine emergency por taem
ACTEP2014: What's new in endocrine emergencyACTEP2014: What's new in endocrine emergency
ACTEP2014: What's new in endocrine emergency
taem4.7K vistas
ACTEP2014: What is simulation por taem
ACTEP2014: What is simulationACTEP2014: What is simulation
ACTEP2014: What is simulation
taem3.1K vistas
ACTEP2014: Upcoming trend of lung ultrasound por taem
ACTEP2014: Upcoming trend of lung ultrasoundACTEP2014: Upcoming trend of lung ultrasound
ACTEP2014: Upcoming trend of lung ultrasound
taem4.9K vistas
ACTEP2014: The routine to research R2R concept your way out of a research dea... por taem
ACTEP2014: The routine to research R2R concept your way out of a research dea...ACTEP2014: The routine to research R2R concept your way out of a research dea...
ACTEP2014: The routine to research R2R concept your way out of a research dea...
taem1.4K vistas
ACTEP2014: Therapeutic hypothermia for ACTEP 2014 por taem
ACTEP2014: Therapeutic hypothermia for ACTEP 2014ACTEP2014: Therapeutic hypothermia for ACTEP 2014
ACTEP2014: Therapeutic hypothermia for ACTEP 2014
taem2.6K vistas
ACTEP2014: Sepsis marker in clinical use por taem
ACTEP2014: Sepsis marker in clinical useACTEP2014: Sepsis marker in clinical use
ACTEP2014: Sepsis marker in clinical use
taem2.5K vistas
ACTEP2014: Symp Experience in STEMI & NSTEMI & UA ACS cases in ED Ramathibodi... por taem
ACTEP2014: Symp Experience in STEMI & NSTEMI & UA ACS cases in ED Ramathibodi...ACTEP2014: Symp Experience in STEMI & NSTEMI & UA ACS cases in ED Ramathibodi...
ACTEP2014: Symp Experience in STEMI & NSTEMI & UA ACS cases in ED Ramathibodi...
taem3.1K vistas
ACTEP2014: Sepsis management has anything change por taem
ACTEP2014: Sepsis management has anything change ACTEP2014: Sepsis management has anything change
ACTEP2014: Sepsis management has anything change
taem3.5K vistas
ACTEP2014: Patient safety & risk management por taem
ACTEP2014: Patient safety & risk managementACTEP2014: Patient safety & risk management
ACTEP2014: Patient safety & risk management
taem2.3K vistas
ACTEP2014: How to set up guideline for MCI por taem
ACTEP2014: How to set up guideline for MCIACTEP2014: How to set up guideline for MCI
ACTEP2014: How to set up guideline for MCI
taem2.7K vistas
ACTEP2014: How to maximise resuscitation in trauma 2014 por taem
ACTEP2014: How to maximise resuscitation in trauma 2014ACTEP2014: How to maximise resuscitation in trauma 2014
ACTEP2014: How to maximise resuscitation in trauma 2014
taem2K vistas
ACTEP2014: Hot zone por taem
ACTEP2014: Hot zoneACTEP2014: Hot zone
ACTEP2014: Hot zone
taem4.3K vistas
ACTEP2014: Hemodynamic US in critical care por taem
ACTEP2014: Hemodynamic US in critical careACTEP2014: Hemodynamic US in critical care
ACTEP2014: Hemodynamic US in critical care
taem2.1K vistas
ACTEP2014: Fast track por taem
ACTEP2014: Fast trackACTEP2014: Fast track
ACTEP2014: Fast track
taem6.6K vistas
ACTEP2014 ED director por taem
ACTEP2014 ED directorACTEP2014 ED director
ACTEP2014 ED director
taem1.1K vistas
ACTEP2014: ED design por taem
ACTEP2014: ED designACTEP2014: ED design
ACTEP2014: ED design
taem3.2K vistas
ACTEP2014: ED accreditation HA JCI TQA por taem
ACTEP2014: ED accreditation HA JCI TQAACTEP2014: ED accreditation HA JCI TQA
ACTEP2014: ED accreditation HA JCI TQA
taem7.7K vistas

Thai Emergency Medicine Journal 4

  • 1. สารบัญ ข้อมูลเกี่ยวกับ วารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉินไทย..................................................................................................................2 Editorial / บทบรรณาธิการ.................................................................................................................................................5 Original Articles / นิ พนธ์ตันฉบับ........................................................................................................................................6 เรื่อง ดัชนี เอ็ดวินและการดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินเพื่อวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน โรง พยาบาลราชวิถ..............................................................................................................................................................6 ี ผลการใช้รูปแบบการเสริมสร้างพลังอำานาจของพยาบาลวิชาชีพในห้องฉุกเฉินต่อการปฏิบัติการพยาบาลที่ สมบูรณ์ ........................................................................................................................................................................32 Review Articles / บทฟื้ นฟูวชาการ....................................................................................................................................40 ิ ภาวะฉุกเฉินในผู้ป่วยสูงอายุ.......................................................................................................................................40 Sepsis ...........................................................................................................................................................................51 Doctor Corner / มุมแพทย์..................................................................................................................................................56 เคยมีคนบอกไว้ว่า........................................................................................................................................................56 Nurse Corner / มุมพยาบาล...............................................................................................................................................58 เรื่องจริงในสาธารณสุขไทย .......................................................................................................................................58 ข้อแนะนำาสำาหรับผู้ส่งบทความเพื่อลงพิมพ์.....................................................................................................................61
  • 2. ข้อมูลเกียวกับ วารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉิ นไทย ่ เจ้าของ สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉิ นแห่งประเทศไทย สำานั กงาน สำานั กงานชัวคราว เลขที่ 2 อาคารศูนย์กูชพ “นเรนทร” โรงพยาบาลราชวิถี ่ ี ถนนพญาไท ตำาบลทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์.0-2354-8223 โทรสาร.0-2354-8224 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเผยแพร่ความรูู ส่งเสริมการศึกษา และการวิจัยดูานเวชศาสตร์ฉกเฉิ น ุ 2. เพื่อแลกเปลี่ยนขูอคิดเห็นดูานเวชศาสตร์ฉกเฉิ น และวิชาการที่เกี่ยวขูอง ุ 3. เพื่อเป็ นสื่อกลางระหว่างสมาชิกของสมาคมเวชศาสตร์ฉกเฉิ นแห่งประเทศไทย และผููสนใจ ุ 4. เพื่อแจูงข่าวสารต่าง ๆ และกิจกรรมของสมาคมเวชศาสตร์ฉกเฉิ นแห่งประเทศไทย ุ ที่ปรึกษา ( Advisory Board ) 1. ศาสตราจารย์เกียรติคณนายแพทย์สันต์ หัตถีรัตน์ ุ 2. พลอากาศตรีนายแพทย์บญเลิศ จุลเกียรติ ุ คณะที่ปรึกษา • ศาสตราจารย์นายแพทย์ไพบูลย์ สุรยะวงศ์ไพศาล ิ • ศาสตราจารย์นายแพทย์วชิร คชการ • ศาสตราจารย์นายแพทย์อภิชาต จิตต์เจริญ • รองศาสตราจารย์นายแพทย์ภาณุวฒน์ เลิศสิทธิชัย ั • ผููชวยศาสตราจารย์นายแพทย์ชศักดิ ์ โอกาศเจริญ ่ ู • ผููชวยศาสตราจารย์เล็ก รุ่งเรืองยิ่งยศ ่ • นาวาอากาศเอกนายแพทย์อภิชาติ พลอยสังวาลย์ บรรณาธิการ ( Editor in Chief ) แพทย์หญิงรพีพร โรจน์แสงเรือง บรรณาธิการร่วม ( Associate Editors ) • นาวาอากาศเอกนายแพทย์เฉลิมพร บุญสิริ • แพทย์หญิงยุวเรศมคฐ์ สิทธิชาญบัญชา • นางสาวอุบล ยี่เฮ็ง • นายจักรี กัวกำาจัด ้ กองบรรณาธิการ ( Editorial Board ) 1. นายแพทย์สมชาย กาญจนสุต 2. นายแพทย์วทยา ศรีดามา ิ
  • 3. 3. พันเอกนายแพทย์ดาบศักดิ ์ กองสมุทร 4. นายแพทย์ไพโรจน์ เครือกาญจนา 5. แพทย์หญิงจิตรลดา ลิมจินดาพร ้ 6. แพทย์หญิงทิพา ชาคร 7. นายแพทย์ครองวงศ์ มุสิกถาวร 1. นายแพทย์บริบรณ์ เชนธนากิจ ู 2. นาวาอากาศเอกนายแพทย์ไกรสร วรดิถี 3. นาวาอากาศโทแพทย์หญิงกรรณยิการ์ วรรณวิมลสุข 4. นายแพทย์ประสิทธิ ์ วุฒสุทธิเมธาวี ิ 5. แพทย์หญิงวรณิ สร์ อมรทรงชัย 6. นายแพทย์พรเลิศ ปลื้มจิตต์มงคล 7. พันเอกนายแพทย์สรจิต สุนทรธรรม ุ 8. แพทย์หญิงนฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ 9. นายแพทย์จิรพงษ์ ศุภเสาวภาคย์ 10. รศ.สุดาพรรณ ธัญจิรา 11. ผศ.ดร.วงจันทร์ เพชรพิเชฐเชียร 12. นาวาอากาศโทหญิง ดร.โสพรรณ โพทะยะ 13. คุณหญิงเดือนเพ็ญ พึ่งพระเกียรติ 14. อาจารย์เรวดี ลือพงศ์ลคณา ั 15. อาจารย์รัชณี วรรณ ดารารัตน์ศิลป์ 16. อาจารย์นิตยา ภูริพนธ์ ั 17. อาจารย์ชลาริน ลิมสกุล ่ 18. อาจารย์กานดา ตุลาธร 19. อาจารย์วไลพรรณ ชลสุข 20. อาจารย์นิพา ศรีชูาง 21. อาจารย์ลดดา ตันเจริญ ั 22. อาจารย์มทนา ศิริโชคปรีชา ั 23. อาจารย์นิรัชรา ก่อกุลดิลก 24. อาจารย์สุรธร คูมสุภา ี ุ 25. อาจารย์ธรพงศ์ กรฤทธิ ์ ี 26. นายแพทย์พงศกร อธิกเศวตพฤทธิ ์ แบบปก นายแพทย์วนชนะ ศรีวิไลทนต์ ิ ผููดูแลเวบ http://www.taem.or.th นายแพทย์จิรพงษ์ ศุภเสาวภาคย์
  • 4. ผ้้ประสานงาน 1. นางสาวโสฬสสิริ เทศนะโยธิน สมาคมเวชศาสตร์ฉกเฉิ น ุ 2. นางเยาวลักษณ์ คงมาก สมาคมเวชศาสตร์ฉกเฉิ น ุ กำาหนดออก ปี ละ 4 ฉบับ 1. มกราคม-มีนาคม 2. เมษายน-มิถนายน ุ 3. กรกฎาคม-กันยายน 4. ตุลาคม-ธันวาคม
  • 5. Editorial / บทบรรณาธิการ สวัสดีค่ะท่านสมาชิกและผููท่สนใจทุกท่าน ี วารสารเวชศาสตร์ฉกเฉิ นไทยฉบับนี้กนับว่าเป็ นฉบับที่4 แลูวนะคะ การจัดทำาวารสารก็สามารถจัด ุ ็ ทำาไดูสำาเร็จลุล่วงเป็ นอย่างดีจนครบ 1 ปี แลูว หวังว่าเนื้ อหาในวารสารจะสามารถสรรสรูางความรููและความ เพลิดเพลินใหูแก่ผสนใจไม่มากก็นูอย ทางคณะผููจัดทำาหวังว่าวารสารเวชศาสตร์ฉกเฉิ นไทยจะมีส่วนช่วยใน ู ุ การพัฒนาองค์ความรููทางดูานสาขาวิชานี้ไดูในบางส่วน อย่างไรก็ตามวารสารยังคงขาดเนื้ อหาและเรื่องราว อีกมากมายที่จะมาเติมเต็มใหูเป็ นวารสารที่มีความสมบูรณ์แบบและสามารถสรรสรูางความสัมพันธ์ร่วมกัน ระหว่างสมาชิกอย่อกมาก หวังว่าท่านสมาชิกและผููสนใจทุกท่านจะช่วยกันส่งขูอแนะนำ าในการปรับปรุง ู ี วารสารและเนื้ อหาต่างๆมาช่วยกันสานต่อใหูกับวารสารกันมากยิ่งขึน ้ ถูาท่านใดสนใจขอความกรุณาติดต่อส่งเนื้ อหามาที่ 1.พ.ญ.รพีพร โรจน์แสงเรือง , phone call 0813789818, e-mail:dr_rapeepron@yahoo.com 2.คุณโสฬสสิริ เทศนะโยธิน โทรศัพท์ 02-354-8223 โทรสาร 02-354-8224 e-mail: sorossiri_109@hotmail.com ในเวลาไม่นานก็จะเริ่มเขูาส่เทศกาลปี ใหม่แลูวนะคะ เริ่มมีกลิ่นอายของปลายฝนตูนหนาวโชยมาไม่ ู ไกลเลย ทางคณะผููจดทำาขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดดลบันดาลใหูสมาชิกและผููท่ีสนใจทุกท่านจงมี ั แต่ความสุขสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาตลอดทังปี หนู าและตลอดไปนะคะ ้ ดูวยความปรารถนาดี พ.ญ.รพีพร โรจน์แสงเรือง บรรณาธิการ
  • 6. Original Articles / นิ พนธ์ตันฉบับ เรื่อง ดัชนีเอ็ดวินและการดัดแปลงดัชนีเอ็ดวินเพื่อวัดระดับความหนา แน่นของจำานวนผู้ป่วยในหูองฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชวิถี ปิ ยวดี ชัยชาญพิมล ,พบ., ไพโรจน์ เครือกาญจนา, พบ., นลินาสน์ ขุนคล้าย, พบ. ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิ น โรงพยาบาลราชวิถี วัตถุประสงค์ : เพื่อสรูางเครื่องมือวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยในหูองฉุกเฉิ นโรงพยาบาล ราชวิถในเชิงปริมาณคือ ค่าดัชนี เอ็ดวิน (EDWIN : Emergency Department Work Index) และค่า ี ดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน(Modified EDWIN) เพื่อเป็ นแนวทางในการแกูไขปั ญหาผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น ระเบียบวิธีวิจัย : เป็ นงานวิจัยประเภท prospective observational analytical study โดยเก็บขูอมูลจำานวน ผููป่วยแบ่งตามระบบการแยกประเภทผููป่วยฉุกเฉิ นราชวิถี 3 ประเภท ณ จุดเวลาต่างๆกันรวม 6 จุดเวลาคือ 01.00 น, 05.00 น, 9.00 น, 13.00 น, 17.00 น และ 21.00 น ตังแต่วนที่ 1 ถึง 30 กันยายน 2551 รวม ้ ั 180 จุดเวลา ที่หองฉุกเฉิ น โรงพยาบาลราชวิถี นำ ามาเปรียบเทียบกับความคิดเห็นเรื่องความหนาแน่ นของ ู จำานวนผููป่วย ณ จุดเวลาดังกล่าว ของแพทย์และพยาบาลที่ขนปฏิบัติงาน สถิติท่ีใชูวิเคราะห์ความสอดคลูอง ึ้ เกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยระหว่างแพทย์และพยาบาลจะนำ ามาวิเคราะห์โดย อาศัย weighted kappa statistic ความสัมพันธ์ของค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินกับความเห็น ของแพทย์และพยาบาลต่อความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยใชู Kruskal-Wallis chi-square test ความ สอดคลูองของค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินใชู Pearson and Spearman’s rho Correlation และเปรียบเทียบความสามารถของการวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่า ดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินโดยอาศัยพื้นที่ใตูกราฟ ROC ใชูโปรแกรม SPSS เวอร์ชน 17 ในการประมวลผลขูอมูล ั่ ทังหมด ้ ผลการวิจัย : สามารถเก็บขูอมูลไดู 178 จากทังหมด 180 จุดเวลา ค่าเฉลี่ยของค่าดัชนี เอ็ดวินเท่ากับ 0.21 ้ (SD 0.09) และค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินเท่ากับ 0.04 (SD 0.018) การเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของค่าดัชนี ทังสองดูวยวิธี Pearson Correlation และ Spearman’s rho พบว่ามีความสอดคลูองกันอย่างมีนัยสำาคัญ ้ (p < 0.001) ความสอดคลูองเรื่องความความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยระหว่างแพทย์และพยาบาลเมื่อนำ ามา วิเคราะห์ดูวย weighted kappa statistic พบว่ามีความสัมพันธ์กนอย่างมีนัยสำาคัญ (weighted K 0.556, ั p<0.001) ค่าคะแนนที่แพทย์ประเมินใหูและค่าดัชนี เอ็ดวินเมื่อนำ ามาเปรียบเทียบโดยแบ่งระดับความยุ่งที่ แพทย์ใหูออกเป็ น 3 ระดับพบว่า ระดับไม่ยุ่ง มีคาเฉลี่ย0.17 ค่ามัธยฐาน 0.15 (IQR = 0.11-0.22), ระดับ ่ ย่งปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 0.21 ค่ามัธยฐาน 0.2 (IQR = 0.16-0.27) และระดับยุ่งที่สุด มีค่าเฉลี่ย 0.26 ค่า ุ มัธยฐาน 0.25 (IQR = 0.19-0.32) ค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ระดับไม่ยง มีค่าเฉลี่ย 0.04 ค่ามัธยฐาน 0.03 ุ่ (IQR = 0.02-0.04) ระดับย่งปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 0.05 ค่ามัธยฐาน 0.04 (IQR = 0.04-0.06) และระดับ ุ ย่งที่สุดมีค่าเฉลี่ย 0.06 ค่ามัธยฐาน 0.05 (IQR = 0.04-0.07) หลังการดัดแปลงค่าดัชนี เอ็ดวินสามารถ ุ ทำานายภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นไดูมากขึนเล็กนู อย (AROC modified EDWIN = 0.76 ้ (95%CI 0.68-0.84), AROC EDWIN = 0.71 (95%CI 0.63-0.8), p<0.01) ค่าคะแนนสูงสุดที่เวลา1.00 น จากดัชนี เอ็ดวิน และ 17.00 น จากค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน
  • 7. ข้อสรุป : ค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินสามารถนำ ามาใชูวัดเชิงปริมาณกับภาวะผููป่วยลูนหูอง ฉุกเฉิ นโรงพยาบาลราชวิถีไดูจริง สรุปไดูวาหากค่าดัชนี เอ็ดวิน(EDWIN score) <0.15 คือ ระดับไม่ยง , ่ ุ่ 0.15-0.2 คือ ระดับยุ่งปานกลาง และ >0.2 คือระดับยุ่งมากที่สด หรือเกิดภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นขึน ค่า ุ ้ ดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน (Modified EDWIN score) <0.03 คือ ระดับไม่ยุ่ง, 0.03-0.06 คือระดับปานกลาง และ >0.06 คือระดับย่งที่สด มีภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น ุ ุ คำาค้นหา : ED Overcrowding, ED Crowding, Emergency Department Work Index, Scores, Scales
  • 8. Abstract Validation of EDWIN and Modified EDWIN in Emergency Room of Rajavithi Hospital. Piyawadee Chaichanpimol, MD; Pairoj Khruekarnchana, MD; Nalinas Khunkhlai, MD Emergency Department, Rajavithi Hospital Objectives : To validate EDWIN and modified EDWIN score for measuring the size of crowd in quantitative term in emergency room of Rajavithi Hospital. st th Methods : Prospective observational analytical study was done during September 1 -30 ,2008 by collecting the data of patients under 3-grouped triage system in emergency room of Rajavithi hospital at 6 points of time which were 1am, 5am, 9am, 1pm, 5pm and 9pm. The opinions about level of workload in ED at each point of times of emergency physicians and nurses on duty were compared and measured by the Single-question Likert-type instrument. On the analytical process, we used the weighted kappa statistics in the test of the agreement of measurement between emergency physicians and nurses, the Kruskal-Wallis chi-square test in measuring the association between EDWIN and modified EDWIN and the Pearson and Spearman’s rho in comparing the correlation of both scores. The AROC (Area under the Receiver Operating characteristic Curve) was used to compare the efficiency of detecting the ED overcrowding between EDWIN and modified EDWIN. The statistical computer software was SPSS v.17.0. Results : The overall data was collected in 178 points of time with 2 missings. The mean of EDWIN was 0.21 (SD 0.09) and modified EDWIN was 0.04 (SD 0.018). The Pearson Correlation and Spearman’s rho proved the association of both scores (p < 0.001). There was a fair agreement about the degree of crowding in ED between emergency physicians and nurses (weighted K 0.556, p<0.001). The descriptive statistics of EDWIN were categorized into three levels by the doctor’s opinion: “not busy or crowded” (score 1-2) giving the mean 0.17 ,and median 0.15 (IQR = 0.11-0.22), “average”(score 3) giving the mean 0.21, and median 0.2 (IQR = 0.16-0.27) and “busy, crowded”(score 4-5) giving the mean 0.26 and median 0.25 (IQR = 0.19-0.32). In the modified EDWIN, the mean of the “not busy or crowded” group was 0.04 and the median was 0.03 (IQR = 0.02-0.04), for the “average” group, the mean was 0.05 and the median was 0.04 (IQR = 0.04-0.06).In the last group, “busy, crowded”, the mean was 0.06 and the median was 0.05 (IQR = 0.04-0.07). The modified EDWIN can slightly improve the prediction of the ED overcrowding compared with the EDWIN. (AROC modified EDWIN = 0.76 (95%CI 0.68-0.84); AROC EDWIN = 0.71 (95%CI 0.63-0.8), p<0.001). The maximum score of EDWIN and modified EDWIN are at 1 am and 5 pm in order. Conclusions : The EDWIN and modified EDWIN could be used as tools to measure the
  • 9. quantitative data of the size of crowd in emergency room of Rajavithi hospital. The “not busy or crowded” group has the EDWIN <0.15, the modified EDWIN <0.03, the “average” group has the EDWIN 0.15-0.2, the modified EDWIN 0.03-0.06 and the “busy, crowded” group has the EDWIN > 0.2, the modified EDWIN > 0.06. Keywords : ED Overcrowding, ED Crowding, Emergency Department Work Index, Scores, Scales
  • 10. บทนำา (Introduction) ทดสอบความแม่นยำาในการวัดความหนาแน่ นของ ภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นเป็ นปั ญหาที่สำาคัญ จำานวนผููป่วยจากเครื่องมือที่เรียกว่า “ค่าดัชนี เอ็ดวิน สำาหรับโรงพยาบาลทุกแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรง (EDWIN : Emergency Department Work พยาบาลใหญ่ในตัวเมือง เช่น โรงพยาบาลราชวิถี Index)” เพื่อนำ าไปใชูประโยชน์ตอไป ่ ปั จจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาไดูมการสรูางเครื่องมือ ี การทบทวนวรรณกรรม สำาหรับวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผูป่วยเพื่อ ู ในช่วงระยะเวลา 15 ปี ท่ีผ่านมาไดูมีงานวิจัย ใชูในการศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับปั ญหาผููป่วยลูนหูอง เกี่ยวกับภาวะผูป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นมากขึนเรื่อยๆ ู ้ ฉุกเฉิ น และเปรียบเทียบความหนาแน่ นของจำานวนผูู งานวิจยแรกๆมักจะเนู นในดูานการใหูคำาอธิบายและ ั ป่ วยที่มารับบริการหูองฉุกเฉิ นในแต่ละโรงพยาบาล ความหมายเชิงคุณภาพของภาวะความหนาแน่ นของผูู อย่างเป็ นมาตรฐาน อาทิเช่น ค่าดัชนี เอ็ดวิน ป่ วยมากกว่า ส่วนงานวิจัยในระยะหลังจะเป็ นการ (Emergency Department Work Index : ศึกษาหาวิธการวัดเชิงปริมาณของภาวะความหนา ี EDWIN), นี ดอกซ์ (National Emergency ็ แน่ นของผูป่วย การเชื่อมโยงของภาวะผููป่วยหนา ู Department Overcrowding Scale : NEDOCS), แน่ นกับคุณภาพงานบริการที่แย่ลง และ การนำ าเสนอ เรดี้ (Real-time Emergency Analysis of Demand นโยบายและการบริหารเพื่อลดภาวะผููป่วยหนาแน่ นที่ Indicators : READI), อีดซเอส(Emergency ี ี 1 หูองฉุกเฉิ น Department Crowding Scale : EDCS) ฯลฯ ใน วิธในการวัดเชิงปริมาณของภาวะผููป่วยลูน ี ขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการวัด หูองฉุกเฉิ นในปั จจุบนมีอยู่มากมายหลายวิธี การ ั ระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยและการใชู สรูางวิธคำานวณจะตูองทำาความเขูาใจกับสาเหตุของ ี เครื่องมือวัดระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยใน การเกิดภาวะผููป่วยหนาแน่ นจนลูนหูองฉุกเฉิ นว่าเกิด หูองฉุกเฉิ นอย่างเป็ นระบบ ทังยังไม่มีแนวทางการ ้ ไดูจากปั จจัยใดบูางเสียก่อน จัดการกับปั ญหาผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นที่แน่ ชัด Asplin BR และคณะไดูเขียนรูปแบบแนวคิด นอกจากนี้สาเหตุความแตกต่างกันในดูานโครงสรูาง ของการเกิดภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นโดยใชูทฤษฎี ของระบบการคัดแยกผููป่วยและการปฏิบัติงานในหูอง การรับเขูา การผ่านกระบวนการในหูองฉุกเฉิ น และ ฉุกเฉิ นในแต่ละประเทศทำาใหูยังไม่สามารถพิสูจน์ว่า การไหลออกของผููป่วยที่มารับบริการหูองฉุกเฉิ น ตัวชีวัดเหล่านี้สามารถนำ ามาใชูร่วมกันในประเทศไทย ้ (input-throughput-output conceptual model of ไดูอย่างเที่ยงตรง งานวิจยฉบับนี้จึงเกิดขึนเพื่อ ั ้ 2 ED crowding) ไวูดงรูป ั
  • 11. แสดงใหูเห็นว่ามีหลายปั จจัยที่ทำาใหูเกิดภาวะ ฉุกเฉิ น, ระยะเวลาออกจากหูองฉุกเฉิ น, ผูป่วยที่ ู ผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นเริ่มจากจำานวนผููป่วยที่มีปริมาณ กลับโดยไม่รอตรวจ และการยูายที่สงผููป่วยของรถ ่ 1 มากทำาใหูความตูองการรับบริการฉุกเฉิ นมีมาก พยาบาล , นี ดอกซ์ (National Emergency ็ บุคลากรที่อย่ในกระบวนการรักษาในหูองฉุกเฉิ น ู Department Overcrowding Scale : NEDOCS) ตูองรับภาระงานที่หนั กขึน จำานวนของบุคลากร ้ ใชูปัจจัย 5 อย่างไดูแก่ ทางการแพทย์ในหูองฉุกเฉิ นจึงเป็ นอีกหนึ่ งปั จจัยที่มี 1. จำานวนผููป่วยหูองฉุกเฉิ น(ดัชนี ชวัดเตียงใน ี้ ผล ถึงแมูผูป่วยมีปริมาณนู อยแต่สามารถถือเป็ น หูองฉุกเฉิ น) ภาวะผููป่วยหนาแน่ นไดูหากมีสัดส่วนของบุคลากรที่ 2. จำานวนเครื่องช่วยหายใจที่กำาลังใชูงานในหูอง ปฏิบัตงานลดนู อยลง นอกจากนี้ปริมาณเตียงที่รับไดู ิ ฉุกเฉิ น ในหูองฉุกเฉิ นก็มีผลเช่นกัน โดยเมื่อมีผูป่วยที่ 3. ระยะเวลารอรับเขูาโรงพยาบาลที่นานที่สด ุ ตูองการการนอนโรงพยาบาลมากขึนขณะที่เตียงที่จะ ้ 4. ระยะเวลารอตรวจของผูป่วยคิวสุดทูาย และ ู รับผููป่วยในเต็มทำาใหูมีผูป่วยรอรับการนอนโรง 5. ดัชนี การรับเขูานอนในโรงพยาบาล (ดัชนี ชีวัด ้ 9 พยาบาลที่หองฉุกเฉิ นมากขึน การระบายผููป่วยออก ู ้ เตียงผูป่วยใน) , เรดี้ (Real-time ู ทำาไดูลดลง ส่งผลใหูเตียงที่รับไดูในหูองฉุกเฉิ นลดลง Emergency Analysis of Demand ผููป่วยฉุกเฉิ นรายใหม่ไม่สามารถเขูารับบริการในหูอง Indicators : READI) ใชูการวัดหลายวิธี ฉุกเฉิ นไดู และตูองมีระยะเวลารอตรวจนานขึน ้ ไดูแก่ Bed ratio, Acuity ratio, Provider 1 ทังหมดนี้เป็ นผลใหูเกิดภาวะผููป่วยหนาแน่ นจนลูน ้ ratio และ Demand value และค่าดัชนี เอ็ด หูองฉุกเฉิ นขึน จึงเป็ นที่มาของวิธการคำานวณต่างๆ ้ ี วิน (Emergency Department Work โดยอาศัยปั จจัยขูางตูนเป็ นตัวแปรในการหาค่าเชิง Index: EDWIN) ซึ่งใชูปริมาณผูป่วย ู ปริมาณที่จะใชูชีวัดภาวะผููป่วยหนาแน่ น อาทิ วิธอีดซี ้ ี ี ประเภทต่างๆแบ่งตามระบบการคัดแยก เอส (Emergency Department Crowding Scale : จำานวนแพทย์เวร และจำานวนเตียงว่างในหูอง 4 EDCS) ซึ่งเกี่ยวขูองกับระยะเวลาการอย่ในหูอง ู ฉุกเฉิ นเป็ นปั จจัยในการคำานวณ
  • 12. งานวิจยของ Kamini Raj และคณะ จาก ั ประสิทธิภาพในการวัดระดับความหนาแน่ นของ ออสเตรเลียไดูศึกษาถึงการนำ าไปใชูของนี ดอกซ์และ ็ จำานวนผููป่วยระหว่างเครื่องมือทังสองแบบคือ ค่า ้ สรุปว่าวิธนี้ไม่สามารถใชูไดูในหูองฉุกเฉิ นของ ี ดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ว่ามีความ 6 ประเทศออสเตรเลีย งานวิจัยของ Spencer S. แตกต่างกันหรือไม่ Jones และคณะจากสหรัฐอเมริกาไดูทำาการเปรียบ วัตถุประสงค์งานวิจัย (Objectives) เทียบวิธการวัดเชิงปริมาณของคะแนนความหนาแน่ น ี วัตถุประสงค์ทวไป : เพื่อสรูางเครื่องมือวัด ั่ ผููป่วยฉุกเฉิ น 4 วิธี และพบว่าวิธเอ็ดวินและนี ด็อกซ์ ี ระดับความหนาแน่ นของจำานวนผูป่วยในเชิงปริมาณ ู ใหูค่า sensitivity สูงสุดเท่ากันคือ 0.81 และ นี ด็ สำาหรับหูองฉุกเฉิ น โรงพยาบาลราชวิถีเพื่อนำ ามาใชู อกซ์ใหูค่า specificity สูงสุดคือ 0.87 นอกจากนี้ยัง รองรับกับการจัดการปั ญหาผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น ใหูค่า PPV สูงสุดเท่ากับ 0.62 อีกดูวย การหา วัตถุประสงค์จำาเพาะ : เพื่อทดสอบความ AROC มีค่าเท่ากับ 0.92, 0.86, 0.84, 0.66, 0.64 แม่นยำาของดัชนี เอ็ดวิน (EDWIN : Emergency จากวิธีต่างๆคือ NEDOCS, BR(Bed ratio), Department Work Index) และค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ด EDWIN, DV(Demand value)และ EDCS ตาม 7 วิน(Modified EDWIN) โดยเปรียบเทียบกับความ ลำาดับ แสดงใหูเห็นถึงความแตกต่างของความ รูสึกหนาแน่ นของจำานวนผูป่วยที่แพทย์และพยาบาล ู ู สามารถในการนำ าไปใชูประโยชน์ในประเทศต่างๆของ ที่ปฏิบัติงานในหูองฉุกเฉิ น ณ จุดเวลานั ้น เครื่องมือเหล่านี้ เนื่ องจากในแต่ละที่อาจมีโครงสรูาง ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รับ (Expected benefits and และระบบการทำางานที่แตกต่างกัน จึงจำาเป็ นตูองมี application) การทดสอบความแม่นยำาของเครื่องมือในที่ๆจะนำ าไป สามารถรับรูภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ นโดยใชู ู ใชูก่อน ค่าดัชนี ชีวัดเป็ นตัวเลขอูางอิง ทำาใหูเขูาใจภาวะผููป่วย ้ งานวิจยฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อพิสูจน์ดชนี ั ั ลูนหูองฉุกเฉิ นไดูตรงกัน สามารถเตรียมหาแนวทาง เอ็ดวินว่าสามารถใชูวัดเชิงปริมาณกับภาวะผููป่วยหนา การจัดการกับปั ญหาไดูต่อไป เช่น การเพิ่มแพทย์เวร แน่ นหูองฉุกเฉิ นในโรงพยาบาลราชวิถีไดูจริงหรือไม่ ประจำาหูองฉุกเฉิ นในขณะนั ้นๆ หรือการเร่งการ และดัดแปลงโดยเพิ่มการนั บจำานวนนั กศึกษาแพทย์ปี ระบายผููป่วยออกจากหูองฉุกเฉิ น ทังนี้อาจพัฒนา ้ ที่หกและพยาบาลที่ขนปฏิบัติงานร่วมดูวย เพราะถือ ึ้ เพื่อสรูางเป็ นโปรแกรมการเตือนเมื่อเกิดภาวะผูป่วย ู เป็ นอีกปั จจัยดูานบุคลากรที่ดัชนี เอ็ดวินเดิมไม่ไดู ลูนหูองฉุกเฉิ น (real time alert of ED crowding) กล่าวถึง ไดูตอไปในอนาคต ่ สาเหตุท่ีผูวิจยเลือกดัชนี เอ็ดวินในการศึกษา ั วิธีการดำาเนิ นการวิจัย (Research Methodology) วิจัยครังนี้เนื่ องจากเป็ นค่าที่น่าจะดำาเนิ นการไดูใน ้ วิธีวิจัยและสถิติท่เกี่ยวข้อง : ี สถาบันของผููวิจย เพราะตัวแปรในการคำานวณเป็ น ั เป็ นงานวิจัยประเภท prospective ตัวแปรที่อย่ภายในหูองฉุกเฉิ นเองทังสิน นอกจากนี้ ู ้ ้ observational analytical study ไม่มีการใชู ผููวิจยยังไดูทำาการดัดแปลงค่าดัชนี เอ็ดวินเพื่อใหู ั informed consent ไม่มีการสัมภาษณ์ผป่วย และไม่มี ู เหมาะสมกับสภาพการทำางานจริงในหูองฉุกเฉิ นโรง การเก็บขูอมูลจำาเพาะของผููป่วย การเก็บขูอมูลจะ พยาบาลราชวิถีโดยการเพิ่มการนั บจำานวนนั กศึกษา อาศัยนั กศึกษาแพทย์ปีหกที่ขนปฏิบัตงาน ณ จุด ึ้ ิ แพทย์ปีท่ีหก และจำานวนพยาบาลที่ขึ้นปฏิบัตงาน ณ ิ เวลานั ้นเป็ นผูนับจำานวนผููป่วยประเภทต่างๆแบ่งตาม ู จุดเวลานั ้นๆร่วมในการคำานวณเพื่อเปรียบเทียบ
  • 13. ระบบการแยกประเภทผููป่วยฉุกเฉิ นราชวิถี 3 consent ประเภทคือ สีแดง หมายถึงผููป่วยฉุกเฉิ น สีเหลือง คำานิ ยามเชิงปฏิบัติการ (Operational หมายถึง ผููป่วยเร่งด่วน และ สีเขียวหมายถึงผููป่วยไม่ Definition) ฉุกเฉิ น ณ จุดเวลาต่างๆกันรวม 6 จุดเวลาคือ - ภาวะผ้้ป่วยล้นห้องฉุกเฉิ น ( Emergency 01.00 น, 05.00 น, 9.00 น, 13.00 น, 17.00 น Department Overcrowding) บางครังใชูร่วมกับ ้ และ 21.00 น ตังแต่วนที่ 1 กันยายน 2551 ถึง 30 ้ ั คำาว่าผููป่วยหนาแน่ น (Crowding) หมายความถึง กันยายน 2551 รวม 180 จุดเวลา ที่หองฉุกเฉิ น โรง ภาวะที่ความตูองการรับบริการของผููป่วยในหูอง ู พยาบาลราชวิถี นำ ามาเปรียบเทียบกับความคิดเห็น ฉุกเฉิ น(รวมถึงผูป่วยที่รอรับบริการหนู าหูองฉุกเฉิ น) ู เรื่องความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วย ณ จุดเวลาดัง มากเกินกว่าที่ความสามารถของแผนกฉุกเฉิ นจะ กล่าว ของแพทย์และพยาบาลที่ขึ้นปฏิบัติงาน สามารถตอบสนองไดู ความคิดเห็นเรื่องความหนาแน่ นของจำานวน ในปั จจุบนไดูมีการกำาหนดตัวชีวัดมากมายใน ั ้ ผููป่วยของแพทย์และพยาบาลจะนำ ามาวิเคราะห์ความ การแสดงถึงภาวะผูป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น โดยอาศัย ู 1 สอดคลูอง (agreement of measurement) ระหว่าง ปั จจัยต่างๆที่ทำาใหูเกิดภาวะนี้ขน ไดูแก่ ึ้ กันโดยอาศัย weighted kappa (K) statistic ความ 1. ปั จจัยจากหูองฉุกเฉิ น สัมพันธ์ของค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ด - ระยะเวลารอแพทย์ ระยะเวลารอรับการรักษา วินกับความเห็นของแพทย์และพยาบาลต่อความหนา - จำานวนครังของการใชูบริการหูองฉุกเฉิ นมากกว่า ้ แน่ นของจำานวนผููป่วยจะใชู Kruskal-Wallis chi- 120 ครังต่อวัน ้ square test ในการเปรียบเทียบ ความสอดคลูองของ - หูองสังเกตอาการเต็ม ค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินนำ ามา - ความคิดเห็นของแพทย์และพยาบาลที่ขึ้นปฏิบัตงาน ิ เปรียบเทียบโดยใชู Pearson Correlation และเปรียบ เกี่ยวกับความเร่งรีบในการใหูการบริการ เทียบความสามารถของการวัดระดับความหนาแน่ น - อัตราเตียงว่างในหูองฉุกเฉิ น (ED bed ratio), ของจำานวนผููป่วยระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่า สัดส่วนจำานวนเตียงที่รับไดู (acuity ratio, provider ดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินโดยใชูพ้ืนที่ใตูกราฟ ROC ratio), ค่าอุปสงค์ในการรับบริการ (demand value) (AROC: Area under the Receiver Operating - เวลารอแพทย์นานมากกว่า 30 นาที หรือ 60 นาที, characteristic Curve) ซึ่งใชูคาความเห็นของแพทย์ ่ เตียงผูป่วยในหูองฉุกเฉิ นเต็มมากกว่า 6 ชัวโมงต่อ ู ่ ที่ระดับมากกว่า 3 เป็ น gold standard ของการบอก วัน, มีเตียงผูป่วยลูนจนตูองเรียงอยู่บริเวณริมทาง ู ภาวะผููป่วยลูนหูองฉุกเฉิ น (หมายถึง ค่าความเห็นที่ เดิน เท่ากับ 4 และ 5 คือค่าที่บงบอกถึงภาวะผููป่วยลูน ่ 2. ปั จจัยจากโรงพยาบาล หูองฉุกเฉิ น) - เตียงนอนในโรงพยาบาลเต็ม ข้อพิจารณาด้านจริยธรรม (Ethics - มีผูป่วยที่พรูอมจะนอนในโรงพยาบาลแต่ยงไม่ ั Approval) สามารถรับเขูาในโรงพยาบาลไดูจนตูองรอที่หอง ู งานวิจัยนี้เป็ นการศึกษาประเภท ฉุกเฉิ น รวมถึงความสามารถในการรับส่งต่อจากโรง Observational study ไม่มีผลต่อการรักษาผููป่วยแต่ พยาบาลอื่นลดลง อย่างใด ไม่มการสัมภาษณ์ผป่วย ไม่มการบันทึก ี ู ี - การลดลงของจำานวนเตียงผููป่วยในและการ ขูอมูลจำาเพาะของผููป่วย และไม่มการขอ informed ี ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ขนวิกฤต ั้
  • 14. - เมื่อผููป่วยฉุกเฉิ นมีปริมาณมากขึน ้ ขา หรือการมองเห็น เช่น หัวใจหยุดเตูน หยุดหายใจ - เมื่อระยะเวลาการรับยูายผููป่วยเขูานอนในโรง ผูป่วยขันวิกฤตซึ่งไม่ตอบสนอง กินยาเกินขนาดร่วม ู ้ พยาบาลนานมากกว่า 4 ชัวโมง ่ กับมีการหายใจที่ชูาลง ภาวะเลือดออกที่ยังไม่สามารถ - มีผป่วยมาใชูบริการมากเกินไป และมีผูป่วยที่ตอง ู ู ควบคุมไดู หรือ ผููป่วยแพูยาแบบรุนแรงแบบ อนาไฟ รับเขูานอนในโรงพยาบาลมากเกินไป แลกซิส 3. ปั จจัยภายนอก ระดับที่ 2 เร่งด่วน หมายถึง ผูป่วยที่ควรไดู ู - จำานวนครังของการยูายที่สงผููป่วยของรถพยาบาล ้ ่ รับการดูแลจากแพทย์เนื่ องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะแย่ 4. ปั จจัยผสม ลงอย่างรวดเร็ว อาจเสียชีวิต แขนขา หรือการมอง - การมีผูป่วยที่ไม่รอรับการตรวจ และการยูายที่สงผูู ่ เห็นถูาการรักษาล่าชูา เช่น เจ็บหนู าอกที่สงสัยภาวะ ป่ วยของรถพยาบาล เสูนเลือดเลียงหัวใจตีบ อาการแสดงของเสูนเลือด ้ - ภาวะขาดแคลนบุคลากร ขาดเตียง ระบบปฏิบัติการ เลียงสมองตีบ ผููป่วยภูมคูุมกันบกพร่องที่มาดูวยไขู ้ ิ ไม่มประสิทธิภาพ จำานวนผูป่วยเพิ่มมากขึน มีการปิ ด เด็กแรกเกิดอายุนูอยกว่า 8 สัปดาห์ท่มาดูวยไขูสูง ี ู ้ ี โรงพยาบาล กว่า 100.4 ฟาเรนไฮต์โดยวัดผ่านรูทวาร 5. การวัดโดยตัวชีวัดต่างๆ เช่น ้ ระดับที่ 3 ป่ วยเฉี ยบพลัน หมายถึง ผูป่วยที่ ู - Emergency Department Crowding Score ความเจ็บป่ วยเพิ่งเกิดขึนภายใน 24-48 ชัวโมง ้ ่ (EDCS) อาการและปั จจัยเสี่ยงต่อโรครูายแรงไม่บ่งชีถงความ ้ ึ - Emergency Department Work Index น่ าจะเป็ นที่โรคจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว เช่น ปวดทูอง (EDWIN) เล็กนู อย คลื่นไสูอาเจียนจนขาดนำ้ าเล็กนู อย - National Emergency Department ระดับที่ 4 ป่ วยประจำำ หมายถึง ผููป่วยที่มา Overcrowding Score (NEDOCS) ดูวยอาการป่ วยเรื้อรัง การรักษาหรือภาวะทางการ - Real-time Emergency Analysis of Demand แพทย์ไม่แสดงถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิต แขน Indicators Scores (READI) ขา หรือการมองเห็น เช่น ติดเชื้อทางเดินปั สสาวะ บาดแผลฉี กขาดเล็กนู อย และกระดูกหักเล็กนู อยที่ - ค่าดัชนี เอ็ดวิน (EDWIN : Emergency อาจตูองทำาการเอ็กซ์เรย์ Department Work Index) หมายถึง ดัชนี ชีวัด ้ ระดับที่ 5 หมายถึง ผููป่วยที่เป็ นปกติ และไม่ ระดับความหนาแน่ นของจำานวนผููป่วยโดยใชูสูตร ตูองทำาการเจาะเลือดหรือการเอ็กซ์เรย์ คำานวณ แต่เนื่ องจากความแตกต่างในระบบคัดแยกผูู EDWIN = ∑ ni ti/Na(BT-BA) ป่ วย งานวิจยฉบับนี้จะขอแบ่งผููป่วยออกเป็ น 3 ระดับ ั โดย ni = จำานวนผููป่วยในหูองฉุกเฉิ นประเภท i ตามระบบการคัดแยกผููป่วยฉุกเฉิ นของโรงพยาบาล ในงานวิจยเดิมค่า i แบ่งตามระบบของ ั ราชวิถี ไดูแก่ สหรัฐอเมริกาโดย Emergency Severity Index สีแดง คือ ผูป่วยฉุกเฉิ นที่ตูองรีบรักษาทันที ู (ESI) ซึ่งแบ่งผููป่วยออกเป็ น 5 ระดับตามความเร่ง มิเช่นนั ้นอาจเป็ นอันตรายถึงชีวิต เช่น หัวใจหยุดเตูน ด่วนไดูแก่ หยุดหายใจ หอบอย่างรุนแรงจนมีภาวะเขียวจากการ ระดับที่ 1 ฉุกเฉิ น หมายถึง ผูป่วยที่ ู ขาดออกซิเจน เจ็บหนู าอกที่สงสัยภาวะเสูนเลือด ตูองการการรักษาทันทีเพื่อปู องกันการเสียชีวิต แขน เลียงหัวใจตีบ ภาวะช็อคต่างๆ ฯลฯ ้
  • 15. สีเหลือง คือผููป่วยฉุกเฉิ นที่สามารถรอไดู เวลานั ้น ภายในระยะเวลา 30 นาที เช่น ภาวะปวดทูองที่ สงสัยจากสาเหตุทางศัลยกรรม ปวดศีรษะรุนแรง - จำานวนแพทย์เวรห้องฉุกเฉิ นที่ปฏิบัติงาน ณ จุด หอบเหนื่ อยแต่ไม่จำาเป็ นตูองใส่ทอช่วยหายใจ ไขูสูง ่ เวลานั ้น หมายถึง จำานวนอาจารย์แพทย์รวมถึง มากกว่า 39 องศาเซลเซียส ฯลฯ แพทย์ประจำาบูานที่ขนปฏิบัติงานในหูองฉุกเฉิ น ณ ึ้ และ สีเขียวคือ ผูป่วยไม่ฉกเฉิ น เช่น ไขูหวัด จุดเวลาที่ทำาการเก็บขูอมูล ู ุ โรคผิวหนั ง ขอรับยาเดิม ฯลฯ ti = ค่าประเภทการแยกผููป่วย (งานวิจย ั - ระดับความหนาแน่ นของผ้้ป่วยที่แพทย์และ เดิมแบ่งเป็ น 1-5 โดย 5 คือผูป่วยฉุกเฉิ นที่สุดที่ตูอง ู พยาบาลประจำาห้องฉุกเฉิ นร้้สึก หมายถึง ค่าความ รีบรักษา ในงานวิจัยฉบับนี้แบ่งเป็ น 1-3 โดย 3 คือผูู รูสึกหนาแน่ นของจำานวนผูป่วยในหูองฉุกเฉิ นที่รับรูู ู ู ป่ วยฉุกเฉิ นที่สุดที่ตูองรีบรักษา) โดยแพทย์และพยาบาลเวรประจำาหูองฉุกเฉิ นในขณะ Na = จำานวนแพทย์เวรหูองฉุกเฉิ นที่ปฏิบัติ ที่ทำาการเก็บขูอมูลโดยใชูเครื่องมือเป็ นแบบสอบถาม งาน ณ จุดเวลานั ้น ชนิ ดคำาถามโดดแบบไลค์เคิร์ด (Single-question BT = จำานวนเตียงว่างในหูองฉุกเฉิ น Likert-type instrument) ซึ่งเป็ นแบบสอบถามที่เคย ทังหมดที่สามารถรับผููป่วยไดู (เป็ นค่าคงที่ ในงาน ้ ไดูรบการวัดความเที่ยงตรงจากงานวิจัยก่อนหนู านี้ ั วิจัยนี้ไดูประมาณปริมาณเตียงสูงสุดที่บรรจุไดูในหูอง และเป็ นที่ยอมรับแลูว มีลักษณะเป็ นการใหูคะแนน ฉุกเฉิ นโรงพยาบาลราชวิถีไวูเท่ากับ 65 เตียง) 5 ระดับตามความรููสกหนาแน่ นของจำานวนผููป่วย คือ ึ BA = จำานวนผููป่วยในหูองฉุกเฉิ นที่ไดูรับ 1 ไม่ยุ่งเลย 2 คงที่ สามารถจัดการไดูโดยง่าย การอนุญาตใหูนอนโรงพยาบาลแลูว กำาลังรอยูายเขูา 3 ย่งปานกลาง งานหนั กแต่ยังพอจัดการไดู 4 ผูู ุ แผนก (Admitted patients holded in ED) ป่ วยเริ่มลูนและยุ่งเกินความตูองการและ 5 ย่งมาก ุ หรืออาจใชูคำาจำากัดความว่า ค่าดัชนี เอ็ดวิน ที่สุด ผููป่วยหนาแน่ นมากที่สด โดยทังแพทย์และ ุ ้ คือ จำานวนผููป่วยแยกตามประเภทความเร่งด่วนใน พยาบาลจะไดูรับแบบสอบถามดังกล่าวตามจุดเวลา การรักษา ต่อจำานวนแพทย์เวร ต่อจำานวนเตียงที่รับ ต่างๆ รวมหกจุดเวลาในหนึ่ งวัน และทำาการประเมิน ไดูในหูองฉุกเฉิ น ระดับความหนาแน่ นตามความรููสึก ผลการวิจัย (Results) - ค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน (Modified EDWIN) จากการศึกษาเก็บขูอมูลผููป่วยที่มารับบริการ หมายถึง การดัดแปลงค่า EDWIN โดยเพิ่มการนั บ หูองฉุกเฉิ นโรงพยาบาลราชวิถี ตังแต่ 1 กันยายน – ้ จำานวนนั กศึกษาแพทย์ปีท่ีหก และพยาบาลที่ปฏิบัติ 30 กันยายน 2551 สามารถเก็บขูอมูลไดูทงหมด ั้ งานในหูองฉุกเฉิ น ณ เวลานั ้นร่วมดูวย โดยนำ าไป 178 จุดเวลา มีขอมูลขาดหาย 2 จุดเวลา ู รวมกับจำานวนแพทย์ท่ีขนปฏิบัติงาน ดังนี้ ึ้ มีผูป่วยมารับบริการที่หองฉุกเฉิ นรวมทังสิน 6,055 ู ้ ้ Modified EDWIN = ∑ ni ti/(Na+Ne+Nn)(BT-BA) ราย แบ่งเป็ นผููป่วยทัวไปจำานวน 5,088 ราย และผูู ่ โดย Ne = จำานวนนั กศึกษาแพทย์ปีท่ีหก หรือเอ็กซ์ ป่ วยอุบัติเหตุ 967 คน ค่าเฉลี่ยของค่าดัชนี เอ็ดวิน เทอร์นที่ขนปฏิบัติงาน ณ จุดเวลานั ้น ึ้ เท่ากับ 0.21 (SD 0.09) และค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน Nn = จำานวนพยาบาลที่ขนปฏิบัติงาน ณ จุด ึ้ เท่ากับ 0.04 (SD 0.018) ดังตารางที่ 1
  • 16. ตารางที่ 1 คะแนนที่นูอยที่สุด(minimum), มากที่สุด (maximum), ค่าเฉลี่ย (mean) และค่าเบี่ยง เบนมาตรฐาน (STD) ของดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน การเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของค่าดัชนี ทงสองพบว่ามีความสอดคลูองกันอย่างมีนัยสำาคัญ (p < ั้ 0.001) ทัง Pearson Correlation และ Spearman’s rho ้ ตารางที่ 2 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินโดยใชู Pearson Correlation ตารางที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวินโดยใชู Spearman’s rho
  • 17. รูปที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนี เอ็ดวินและค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ความสอดคลูองเรื่องความความหนาแน่ น measurement) ดูวย weighted kappa (K) statistic ของจำานวนผููป่วยระหว่างแพทย์และพยาบาลเมื่อนำ า พบว่ามีความสัมพันธ์กนอย่างมีนัยสำาคัญ ั มาวิเคราะห์ความสอดคลูอง (agreement of (weighted K 0.556, p<0.001) Case Processing Summary Cases Valid Missing Total N Percent N Percent N Percent nurse * 178 98.9% 2 1.1% 180 100.0% doctor ตารางที่ 4 แสดงจำานวนขูอมูลของความเห็นของแพทย์และพยาบาลต่อปริมาณความหนาแน่ นของจำานวน ผููป่วย
  • 18. Nurse * Doctor Rating Crosstabulation Count Doctor rating 1.00 2.00 3.00 4.00 5.00 Total Nurse 1.00 14 3 3 0 0 20 rating 2.00 8 31 3 1 0 43 3.00 2 11 44 5 0 62 4.00 1 4 9 18 2 34 5.00 0 0 2 6 11 19 Total 25 49 61 30 13 178 ตารางที่ 5 แสดงความเห็นเปรียบเทียบระหว่างแพทย์และพยาบาลเกี่ยวกับความหนาแน่ นของจำานวน ผููป่วย Chi-Square Tests Asymp. Sig. Value df (2-sided) a Pearson Chi-Square 254.392 16 .000 Likelihood Ratio 202.317 16 .000 Linear-by-Linear 108.613 1 .000 Association McNemar-Bowker Test 14.987 8 .059 N of Valid Cases 178 a. 10 cells (40.0%) have expected count less than 5. The minimum expected count is 1.39. ตารางที่ 6 แสดงการทดสอบไคสแควร์ของความเห็นระหว่างแพทย์และพยาบาล เกี่ยวกับความหนาแน่ นของผููป่วย
  • 19. Symmetric Measures Asymp. Std. Approx. a b Value Error Approx. T Sig. Measure of Kappa .556 .047 13.787 .000 Agreement N of Valid Cases 178 a. Not assuming the null hypothesis. b. Using the asymptotic standard error assuming the null hypothesis. ตารางที่ 7 แสดงค่าคะแนนแคปปา (Kappa value) และผลความเห็นที่ตรงกันอย่างมีนัยสำาคัญ (p<0.01) เมื่อนำ าค่าคะแนนหูาระดับที่แพทย์ประเมินใหู 4-5 = ย่งที่สุด มี ุ และค่าดัชนี เอ็ดวินมาสรูางเป็ นกราฟแบบกล่อง ค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.26 (Boxplot) (รูปที่ 2 และ 3) โดยแบ่งระดับความย่งที่ ุ ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.25 แพทย์ใหูออกเป็ น 3 ระดับ คือ (IQR = 0.19-0.32) 1-2 = ไม่ยง (Not busy or crowded) มี ุ่ ค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ระดับไม่ยง มีค่า ุ่ ค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.17 เฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.04 ค่ามัธยฐาน (median) ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.15 เท่ากับ 0.03 (IQR = 0.02-0.04) ระดับยุ่งปานกลาง (IQR = 0.11-0.22), มีค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.05 ค่ามัธยฐาน 3 = ย่งปานกลาง มี ุ (median) เท่ากับ 0.04 (IQR = 0.04-0.06) และ ค่าเฉลี่ย(mean) เท่ากับ 0.21 ระดับย่งที่สุดมีค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.06 ค่า ุ ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.2 มัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.05 (IQR =0.04-0.07) (IQR = 0.16-0.27) และ
  • 20. Statistics Modified EDWIN EDWIN Not busy Average Busy Not busy Average Busy N Valid 74 61 43 74 61 43 Mean .03641829 .04521795 .05706123 .17106667 .21325590 .26422864 Median .03354119 .04440790 .05494506 .14618429 .20081967 .24609375 Std. Deviation .015273703 .015102687 .017949622 .084496364 .075681429 .105607924 Range .083847 .079867 .077828 .471763 .393713 .408876 Minimum .008065 .016865 .028054 .018433 .089947 .120536 Maximum .091912 .096732 .105882 .490196 .483660 .529412 Percentiles 25 .02490385 .03505648 .04285714 .11011905 .15769581 .19047619 50 .03354119 .04440790 .05494506 .14618429 .20081967 .24609375 75 .04344758 .05525064 .06618241 .22636983 .26675390 .32352941 ตารางที่ 8 แสดงค่าเฉลี่ย (Mean), ค่ามัธยฐาน (Median), ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD), ค่านู อยที่สุด (Minimum), ค่ามากที่สุด (Maximum) และ Interquartile range (IQR; percentile 25-75) รูปที่ 2 กราฟแบบกล่อง (Boxplot) โดยแบ่งระดับความยุ่งที่แพทย์ใหูออกเป็ น 3 ระดับ คือ 1-2 = ไม่ยง (Not busy or crowded) มีค่าเฉลี่ย(mean) เท่ากับ 0.17 ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.15 ุ่ (IQR = 0.11-0.22), 3 = ย่งปานกลาง มีคาเฉลี่ย(mean) เท่ากับ 0.21 ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.2 ุ ่
  • 21. (IQR = 0.16-0.27) และ 4-5 = ย่งที่สุด มีค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.26 ค่ามัธยฐาน(median) ุ เท่ากับ 0.25 (IQR = 0.19-0.32) Descriptives EDWIN 95% Confidence Interval for Mean N Mean Std. Deviation Std. Error Lower Bound Upper Bound Minimum Maximum Not busy or 74 .17106667 .084496364 .009822503 .15149045 .19064289 .018433 .490196 crowded Average 61 .21325590 .075681429 .009690014 .19387299 .23263882 .089947 .483660 Busy 43 .26422864 .105607924 .016105057 .23172732 .29672996 .120536 .529412 Total 178 .20803020 .094236721 .007063341 .19409100 .22196940 .018433 .529412 ตารางที่ 9 แสดงสถิติเชิงพรรณนาของค่าดัชนี เอ็ดวิน ANOVA EDWIN Sum of Squares df Mean Square F Sig. Between Groups .239 2 .119 15.657 .000 Within Groups 1.333 175 .008 Total 1.572 177 ตารางที่ 10 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างกลุ่มและในกล่มของดัชนี เอ็ดวิน ุ
  • 22. รูปที่ 3 กราฟแบบกล่อง (Boxplot) ของค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ระดับไม่ยุ่ง มีคาเฉลี่ย (mean) ่ เท่ากับ 0.04 ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.03 (IQR = 0.02-0.04) ระดับย่งปานกลาง มีค่าเฉลี่ย ุ (mean) เท่ากับ 0.05 ค่ามัธยฐาน(median) เท่ากับ 0.04 (IQR = 0.04-0.06) และระดับยุ่งที่สุดมีค่าเฉลี่ย (mean) เท่ากับ 0.06 ค่ามัธยฐาน (median) เท่ากับ 0.05 (IQR = 0.04-0.07) Descriptives Modified EDWIN Level Std. 95% Confidence Interval for Mean N Mean Deviation Std. Error Lower Bound Upper Bound Minimum Maximum Not busy or 74 .03641829 .015273703 .001775532 .03287966 .03995692 .008065 .091912 crowded Average 61 .04521795 .015102687 .001933701 .04134997 .04908593 .016865 .096732 Busy, crowded 43 .05706123 .017949622 .002737292 .05153715 .06258531 .028054 .105882 Total 178 .04442068 .017770600 .001331963 .04179211 .04704925 .008065 .105882 ตารางที่ 11 แสดงสถิติเชิงพรรณนาของค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน
  • 23. ANOVA Modified EDWIN Sum of Squares df Mean Square F Sig. Between Groups .012 2 .006 23.035 .000 Within Groups .044 175 .000 Total .056 177 ตารางที่ 12 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างกล่มและในกล่มของค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ุ ุ การเปรียบเทียบระหว่างกล่มของค่าระดับความยุ่งทังสามระดับพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัย ุ ้ สำาคัญ ดังตารางต่อไปนี้ Multiple Comparisons EDWIN, Tukey HSD Mean 95% Confidence Interval (I) (J) Difference (I- Lower degree degree J) Std. Error Sig. Bound Upper Bound * 1.00 2.00 -.042189231 .015094823 .016 -.07787078 -.00650768 * 3.00 -.093161964 .016737275 .000 -.13272599 -.05359794 * 2.00 1.00 .042189231 .015094823 .016 .00650768 .07787078 * 3.00 -.050972734 .017380387 .011 -.09205696 -.00988851 * 3.00 1.00 .093161964 .016737275 .000 .05359794 .13272599 * 2.00 .050972734 .017380387 .011 .00988851 .09205696 *. The mean difference is significant at the 0.05 level. ตารางที่ 13 แสดงการเปรียบเทียบระหว่างกล่มของค่าคะแนนทังสามกล่มจากดัชนี เอ็ดวิน กล่มที่ 1 ุ ้ ุ ุ คือ ระดับไม่ยง กล่มที่ 2 คือ ระดับย่งปานกลาง และกล่มที่ 3 คือระดับยุ่งมาก ุ่ ุ ุ ุ
  • 24. EDWIN a,,b Tukey HSD Subset for alpha = 0.05 degree N 1 2 3 1.00 74 .17106667 2.00 61 .21325590 3.00 43 .26422864 Sig. 1.000 1.000 1.000 Means for groups in homogeneous subsets are displayed. a. Uses Harmonic Mean Sample Size = 56.430. b. The group sizes are unequal. The harmonic mean of the group sizes is used. Type I error levels are not guaranteed. ตารางที่ 14 ค่าเฉลี่ยของระดับคะแนนทังสามกลุ่มของดัชนี เอ็ดวิน ้ Multiple Comparisons Modified EDWIN Tukey HSD (I) (J) Mean 95% Confidence Interval degree degree Difference (I-J) Std. Error Sig. Lower Bound Upper Bound * 1.00 2.00 -.008799665 .002749859 .005 -.01529986 -.00229947 * 3.00 -.020642941 .003049068 .000 -.02785041 -.01343547 * 2.00 1.00 .008799665 .002749859 .005 .00229947 .01529986 * 3.00 -.011843276 .003166225 .001 -.01932769 -.00435887 * 3.00 1.00 .020642941 .003049068 .000 .01343547 .02785041 * 2.00 .011843276 .003166225 .001 .00435887 .01932769 *. The mean difference is significant at the 0.05 level. ตารางที่ 15 แสดงการเปรียบเทียบระหว่างกล่มของค่าคะแนนทังสามกล่มจากค่าดัดแปลงดัชนี เอ็ดวิน ุ ้ ุ กล่มที่ 1 คือ ระดับไม่ยุ่ง กล่มที่ 2 คือ ระดับยุ่งปานกลาง และกล่มที่ 3 คือระดับย่งมาก ุ ุ ุ ุ