SlideShare a Scribd company logo
1 of 46
Download to read offline
หากพิจารณาเชิงระบบ การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศเป็นการเชือมโยง
                                                                  ่
  ระหว่างทรัพยากรสารสนเทศกับผู้ใช้ซึ่งมีความต้องการสารสนเทศ โดยมีฐานข้อมูล
  ในฐานะเป็นแหล่งที่รวบรวมสารสนเทศประเภทใดหนึ่ง

 1.   ทรัพยากรสารสนเทศ (information resources)

 2.   ฐานข้อมูล (database)

 3.   ผู้ใช้ (user)
1. ทรัพยากรสารสนเทศ   2. ฐานข้อมูล
                                     สารสนเทศที่ผู้ใช้ต้องการ   3. ผู้ใช้



                                       ความต้องการของผู้ใช้
 1.    ทรัพยากรสารสนเทศ (information resources)
         - คือ วัสดุที่บันทึกสารสนเทศ มีหลากหลายชนิด เช่น หนังสือ เอกสารเทปเสียง
  สารานุกรมบนแผ่นซีดี e-Journal สารสนเทศบน WWW ฯลฯ วัสดุเหล่านั้นถูก
  จัดเก็บและให้บริการในห้องสมุด เพื่อสนองความต้องการด้านต่าง ๆ ของผู้ใช้
         - การแบ่งประเภทของ IR ทาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง
                   1) แบ่งตามรูปลักษณ์ของสื่อที่ใช้จัดเก็บ คือ สื่อสิ่งพิมพ์
  สื่อโสตทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
                   2) แบ่งตามสาขาวิชา เป็น มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์
  และเทคโนโลยี
                   3) แบ่งตามการจัดการด้วยคอมพิวเตอร์ คือ แอนะล็อก และดิจิทัล
4) แบ่งตามแหล่งสารสนเทศ หรือ แหล่งที่มา/การผลิต หรือ ตามความใหม่
เก่าของตัวเนื้อหา แบ่งออกเป็นแหล่งปฐมภูมิ แหล่งทุติยภูมิ และแหล่งตติยภูมิ
1. แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Sources)
     = งานที่เขียนขึ้นเป็นครั้งแรก ข้อเขียนใหม่เฉพาะเรื่อง รายงานการค้นพบใหม่ๆ
   ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน เช่น รายงานการวิจัย/ทดลอง วิทยานิพนธ์          งานวิจัย
   บทความในวารสาร สิทธิบตร      ั    มาตรฐาน        ฯลฯ
2. แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Sources)
     = งานที่ผ่านกระบวนการคัดเลือก ขัดเกลา ย่อ/สรุป วิจารณ์ -------> เรียบเรียงใหม่
   จัดอยู่ในรูปแบบใหม่ เช่น บทความในวารสาร        บทคัดย่อ    พจนานุกรม      สารานุกรม
   ดรรชนีและสาระสังเขป      ฯลฯ
3. แหล่งข้อมูลตติยภูมิ (Tertiary Sources)
     = งานเขียนที่กลั่นกรอง และรวบรวมจาก 1 + 2        เช่น หนังสือตาราวิชาการ     เป็นต้น
 2.    ฐานข้อมูล (database)
         คือ แหล่งสะสมข้อเท็จจริงต่าง ๆ โดยมีการรวบรวมข้อมูลที่มีความสัมพันธ์
  กันไว้ด้วยกัน และมีโปรแกรมระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS -- Database
  Management System) มาช่วยในการจัดเก็บ จัดเรียง และสืบค้นได้

       ในระบบสารสนเทศและห้องสมุด ฐานข้อมูลเป็นที่รวมของระเบียนทรัพยากร
  สารสนเทศต่าง ๆ ที่มีในห้องสมุด ซึ่งก็คือ “ฐานข้อมูลทรัพยากรสารสนเทศของ
  ห้องสมุด” และหมายรวมถึง “ฐานข้อมูลเฉพาะสาขาวิชาที่ห้องสมุดพัฒนาขึ้นเอง”
  “ฐานข้อมูลซีดีรอม” และ”ฐานข้อมูลออนไลน์” ด้วย
ฐานข้อมูลทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุด   UTCC
ฐานข้อมูลที่ห้องสมุด   UTCC   พัฒนาขึ้นเอง
ฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุด   UTCC   บอกรับ
ฐานข้อมูลทีห้องสมุด
           ่          UTCC   เป็นสมาชิก
 3.    ผู้ใช้   (User)

         ประเภทของผู้ใช้สามารถแบ่งได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง
  โดยทั่วไปแบ่งผู้ใช้ออกเป็นดังนี้
        3.1 แบ่งตามหน้าที่ในหน่วยงานบริการสารสนเทศ
        3.2 แบ่งตามความชานาญ หรือประสบการณ์ในการค้นหาสารสนเทศ
 3.    ผู้ใช้   (User) (ต่อ)
          3.1 แบ่งตามหน้าที่ในหน่วยงานบริการสารสนเทศ คือ
                   3.1.1 ผู้ใช้ที่เป็นตัวกลาง (intermediary/ mediator) หมายถึง
  ผู้ให้บริการค้นคืนสารสนเทศ อาทิ บรรณารักษ์ นักเอกสารสนเทศ เป็นต้น ซึ่ง
  ทาหน้าที่ค้นคืนสารสนเทศให้แก่ผู้ใช้
                   3.1.2 ผู้ใช้ปลายทาง (end user) ได้แก่ ผู้ใช้ที่มีความต้องการ
  สารสนเทศของตนเอง อาจเป็นนักวิจัย ผู้บริหาร นักศึกษา อาจารย์ หรือ
  ประชาชนทั่วไป โดยมีการแสวงหาสารสนเทศด้วยตนเอง หรือขอความช่วยเหลือ
  จากผู้ให้บริการสารสนเทศ
 3.   ผู้ใช้   (User) (ต่อ)

        3.2 แบ่งตามความชานาญ หรือประสบการณ์ในการค้นหาสารสนเทศ
  เป็นการแบ่งผู้ใช้ที่เป็นตัวกลางและผู้ใช้ปลายทางออกเป็น
                   1) ผู้ใช้ที่มีความชานาญเป็นอย่างดี
                   2) ผู้ใช้ที่มีความชานาญระดับปานกลาง
                   3) ผู้ที่ไม่เคยใช้ระบบมาก่อน
 เป็นกระบวนการในการจับคูระหว่างทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่กับความต้องการ
                         ่
  สารสนเทศของผู้ใช้ หากจับคู่ได้ตรงกัน ย่อมได้ผลการค้นคืน หากจับคู่ไม่ตรงกัน
  ผลจะเป็นศูนย์
 องค์ประกอบของตัวแบบพื้นฐาน
   1.   เอกสารที่ได้คัดเลือก หรือเรียกว่า “เอกสาร (document)”
   2.   ตัวแทนเอกสาร (document surrogate/ representation)
   3.   ความต้องการสารสนเทศ (information need)
   4.    ตัวแทนความต้องการสารสนเทศ
   5.   การจับคู่ระหว่างตัวแทนความต้องการสารสนเทศกับตัวแทนเอกสาร
    (matching process)
1. เอกสารที่ได้คัดเลือก หรือเรียกว่า “เอกสาร (document)”
   คือ ทรัพยากรสารสนเทศ ที่ได้รับการคัดเลือก หรือคัดสรรตามนโยบายของหน่วยงานบริการ
   สารสนเทศแห่งนั้น

2. ตัวแทนเอกสาร (document surrogate/ representation)
   คือ การสร้างตัวแทนเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ อย่างมีมาตรฐาน แล้วจัดเก็บในรูปของฐานข้อมูล
   เช่น
          - การสร้างข้อมูลบรรณานุกรม เพื่อเป็นตัวแทนโครงสร้างเอกสาร เช่น ถ้าเป็น
   หนังสือ จะมีโครงสร้างของตัวแทนหนังสือ ประกอบด้วย ชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง สถานที่พิมพ์
   สานักพิมพ์ ปีพิมพ์ หัวเรื่อง คาสาคัญ เป็นต้น
          - การกาหนดตัวแทนสาระ หรือดรรชนี
          - การสรุปย่อเนื้อหาสาคัญในรูปของสาระสังเขป
                                       ฯลฯ
3. ความต้องการสารสนเทศ (information need)
   หรือบางครั้งเรียกว่า “ความต้องการของผู้ใช้”
   สารสนเทศที่ผู้ใช้ต้องการมีหลากหลายแตกต่างกันไป และเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัย
   และเวลา ไม่คงที่แน่นอน

4. ตัวแทนความต้องการสารสนเทศ
   หมายถึงการสร้าง หรือกาหนดตัวแทนความต้องการสารสนเทศในรูปแบบของ
   “คาศัพท์” หรือคาค้นที่คิดว่าสามารถแทนความต้องการสารสนเทศได้ตรงและถูกต้อง
   ที่สุด
5. การจับคู่ระหว่างตัวแทนความต้องการสารสนเทศกับตัวแทนเอกสาร             (matching
  process)
  กล่าวคือ กระบวนการจับคู่เป็นกลไกสาคัญในการค้นคืนสารสนเทศ
  หากจับคู่ได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้จะได้ผลการค้นคืนที่เข้าเรื่อง   (relevant)
        หรือ ตรงกับความต้องการสารสนเทศของตน (pertinent)
  “จานวนรายการที่ค้นคืนได้ (retrieved item)” เป็นประเด็นสาคัญที่ต้องพิจารณา
         เช่นกัน
  ดังนั้นจึงควรมีการจัดอันดับรายการที่ค้นคืนได้ (ranking) เพื่อให้เอกสารที่คาดว่า
         เข้าเรื่องที่สุดอยู่ในอันดับต้น และเอกสารเข้าเรื่องน้อยกว่าอยู่ในอันดับรองลง
         มาตามลาดับ
 เป็นกระบวนการในการจับคูระหว่างทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่กับความต้องการ
                         ่
  สารสนเทศของผู้ใช้
 เพื่อ
   ได้ผลการสืบค้นที่เข้าเรื่อง (ถูกต้องตรงตามความต้องการของผู้ใช้)
   สามารถจัดอันดับรายการที่ค้นคืนได้ (เอกสารที่เข้าเรื่องที่สุดอยู่ในอันดับต้น)
   สามารถค้นคืนได้อย่างรวดเร็ว
 ซึ่งการที่ระบบค้นคืนสารสนเทศจะมีประสิทธิภาพต้องมีการดาเนินการการจัดเก็บ
  เอกสาร (document)               การจัดทาระเบียนเอกสาร (โครงสร้างของเอกสาร)
  และ การจัดทาดรรชนี (เพื่อใช้เป็นตัวแทนเนื้อหาสาระของเอกสาร) อย่างมี
  ประสิทธิภาพเช่นกัน
 หมายรวมถึงผู้ใช้เองก็ต้องมีความสามารถในการกาหนดคาค้นได้ด้วยตนเอง
 ระบบค้นคืนสารสนเทศมีองค์ประกอบที่สาคัญ คือ

      1.   ข้อมูลนาเข้า (Input)
      2.   การประมวลผล (Processing)
      3.   ผลลัพธ์ (Output)
      4.   ผลป้อนกลับ (Feedback)
ข้อมูล            การ          ผลลัพธ์
 นาเข้า          ประมวล           หรือ            ผล
                   ผล          ผลการค้น        ป้อนกลับ
• เอกสาร
  หรือ          • การจัด         คืน           • ความ
  ตัวแทน          หมวดหมู่                       คิดเห็น
  เอกสาร        • การแยก     • เอกสาร หรือ       ของผู้ใช้
• ข้อคาถามของ     ประเภท       ตัวแทนเอกสาร      ต่อผลการ
  ผู้ใช้        • จัดเรียง     ที่เข้าเรื่อง     ค้นคืน
                  ฯลฯ                            และปัญหา
                                                 ที่พบ
                                                 ฯลฯ
ตามแนวคิดของรองศาสตราจารย์ ดร. สมพร พุทธาพิทักษ์ผล (2545:1: 44) กล่าวว่าระบบ
  ค้นคืนสารสนเทศมีหน้าที่สาคัญ 3 ประการ คือ

 1. การวิเคราะห์เนื้อหา หรือสาระของเอกสารที่ได้คัดเลือกมา

 2. การวิเคราะห์ข้อคาถาม หรือความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้

 3. การจับคูระหว่างข้อคาถาม หรือตัวแทนความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ กับเอกสาร
             ่
         และ/หรือตัวแทนเอกสาร
 1. การวิเคราะห์เนื้อหา หรือสาระของเอกสารที่ได้คัดเลือกมา
         เพื่อสร้างตัวแทนเอกสาร และ คาแทนสาระของเอกสาร
         บางระบบอาจมีสาระสังเขปของเอกสาร หรือเอกสารฉบับเต็มด้วย
 2. การวิเคราะห์ข้อคาถาม หรือความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้
       คือ การสร้างกลยุทธ์การสืบค้นเพื่อค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ โดยการใช้
                  - คาค้นเพียงคาเดียว
                  - ใช้คาสั่งระบุเขตข้อมูล (ให้ไปค้นหาคาค้นที่เขตข้อมูลหัวเรื่อง ผู้แต่ง ฯลฯ)
                  - ใช้ตรรกบูลเชื่อมคาค้นหลาย ๆ คา
                  - ระบุภาษา หรือ ปีค.ศ. ของเอกสาร
       โดยระบบค้นคืนสารสนเทศจะแปลงคาสั่งการสืบค้นของผู้ใช้ให้เป็นคาสั่ง หรือ
  ภาษาที่ระบบนั้น ๆ เข้าใจเพื่อดาเนินการสืบค้นต่อไป
 3. การจับคูระหว่างข้อคาถาม หรือตัวแทนความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ กับเอกสาร
             ่
        และ/หรือตัวแทนเอกสาร
        เพื่อดึงสารสนเทศเฉพาะรายการที่เข้าเรื่อง หรือตรงกับข้อคาถามของผู้ใช้ออกมา
                   เป็นผลการค้นคืน
 จากหนังสือการค้นคืนสารสนเทศ (Information Retrieval) ของอาจารย์เดชา
  นันทพิชัย (2546: 22-23) ได้อธิบายภารกิจและหน้าทีของระบบค้นคืนสารสนเทศว่าสรุป
                                                  ่
  ได้ ดังนี้
 1. การวิเคราะห์เอกสารและการจัดระบบสารสนเทศ คือ การสร้างฐานข้อมูลเอกสาร
         ได้แก่ การจัดทาโครงสร้างเอกสาร การวิเคราะห์เนื้อหา การจัดทาดรรชนี
 2. การวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ และเตรียมกลยุทธ์การสืบค้น

 3. การสืบค้น   (Searching)   และการเปรียบเทียบความต้องการผูใช้กับฐานข้อมูล
                                                             ้
 4. การประเมินผลลัพธ์ที่ได้
(เดชา นันทพิชัย, 2546: 23)

Information   Analysis and        Organized
Sources       Representation      Information



              Retrieval           Matching
              Information

Users         Query               Analyzed
              Analysis            Queries
                                  (search statement)
 จากภาพข้างต้นอาจารย์เดชา นันทพิชัย (2546: 23) สรุปว่าถ้าแบ่งภาระงาน (Task) ของ
  ระบบการค้นคืนสารสนเทศก็สามารถจาแนกออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ
  1. งานที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์เนื้อหา และหัวเรื่อง
        ได้แก่ งานวิเคราะห์ จัดระบบ และจัดเก็บสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง

  2. งานที่เกี่ยวกับการสืบค้น และค้นคืน
        ได้แก่ งานเกี่ยวกับกระบวนการค้นหา และค้นคืน รวมถึงงานวิเคราะห์คาร้อง
                    ของผู้ใช้ และสร้างสูตรการค้นคืน
 Lancaster   (อ้างถึงในสมพร พุทธาพิทักษ์ผล, 2545: 1: 44-47) อธิบายระบบค้น
 คืนสารสนเทศว่าประกอบด้วยระบบย่อย 6 ระบบ ได้แก่

 1. ระบบย่อยการคัดเลือกเอกสาร (Document Selection Subsystem)
 2. ระบบย่อยการจัดทาดรรชนี (Indexing Subsystem)
 3. ระบบย่อยคาศัพท์ (Vocabulary Subsystem)
 4. ระบบย่อยการสืบค้น (Searching Subsystem)
 5. ระบบย่อยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบค้นคืนสารสนเทศกับผู้ใช้ (Subsystem of
       Interaction Between the User and the System)
 6. ระบบย่อยการจับคู่ (Matching Subsystem)
 1. ระบบย่อยการคัดเลือกเอกสาร (Document Selection Subsystem)
        ทาหน้าที่ในการคัดเลือกเอกสารตามนโยบายของหน่วยงานบริการสารสนเทศนั้น ๆ

 2. ระบบย่อยการจัดทาดรรชนี (Indexing Subsystem)
        ทาหน้าทีวิเคราะห์เนื้อหาของเอกสาร และกาหนดคาศัพท์ที่เรียกว่า “ดรรชนี” ขึ้น
                ่
                  แทนเนื้อหาสาระของเอกสาร รวมถึงทาดรรชนีของคาที่ปรากฏใน
                  สาระสังเขป หรือเอกสารฉบับเต็มเพื่อให้สามารถค้นคืนได้ดวย 
                                                                        ้
                  ระเบียน (record) หรือ ตัวแทนเอกสาร
        ตัวแทนเอกสาร หรือ ระเบียน (record) เหล่านี้จะถูกจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล ซึ่ง
                  จานวนระเบียนจะใช้เป็นเกณฑ์ในการบอกขนาดของฐานข้อมูล
 3. ระบบย่อยคาศัพท์ (Vocabulary Subsystem)
        ทาหน้าทีเ่ ป็นคลังศัพท์ดรรชนี หรือศัพท์สาคัญที่ใช้ในการจัดทาดรรชนี
        ระบบย่อยนี้มีประโยชน์ทั้งในการจัดทาดรรชนี และการค้น เพราะหากผู้ใช้
                   กาหนดคาศัพท์ที่จะค้นได้ตรงกับศัพท์ที่ใช้ในการทาดรรชนี ย่อมได้ผล
                   การค้นคืนที่เข้าเรื่อง

 4. ระบบย่อยการสืบค้น (Searching Subsystem)
        เป็นการวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ และกาหนดกลยุทธ์การค้น
                  รวมถึงการแปลงกลยุทธ์การค้นให้อยู่ในรูปของคาสั่ง หรือภาษาที่ใช้ใน
                  ระบบค้นคืนสารสนเทศนั้น ๆ (มีการใช้เทคนิคการค้นคืนที่แตกต่างกัน)
        อาจใช้คลังศัพท์ดรรชนี หรือศัพท์สาคัญของระบบฯ นั้นช่วยในการค้นก็ได้
 5. ระบบย่อยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบค้นคืนสารสนเทศกับผู้ใช้ (Subsystem of
        Interaction Between the User and the System)
        เป็นการสื่อสารระหว่างผู้ใช้กับระบบค้นคืนสารสนเทศในขณะทาการค้น
        การปฏิสัมพันธ์อาจอยู่ในรูปแบบของการออกแบบหน้าจอ (Screen Design)
                  เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
        มีข้อความที่ช่วยแนะนาผู้ใช้หากกระทาผิดพลาด (Error Message)
        มีสารสนเทศที่ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ (Help Information)
        มีทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถออกคาสั่งได้ตามสะดวกด้วยตนเอง หรือด้วยการเลือก
                  ตัวเลือกที่หน้าจอ
 6. ระบบย่อยการจับคู่ (Matching Subsystem)
        คือ การจับคู่ระหว่างตัวแทนเอกสารกับตัวแทนความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้
        โดยการจับคู่ย่อมขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่ใช้กับโครงสร้างระบบฐานข้อมูลเป็นสาคัญ
        ผู้ใช้จะไม่เห็นการทางานของระบบย่อยนี้

 การทางานของระบบย่อยทั้ง 6 ในระบบค้นคืนสารสนเทศจะสัมพันธ์กับหน้าที่ของระบบ
  ค้นคืนสารสนเทศทั้ง 3 ประการคือ 1) การวิเคราะห์เนื้อหาของเอกสาร 2) การวิเคราะห์
  ข้อคาถามของผู้ใช้ และ 3) การจับคู่ระหว่างข้อคาถามกับเอกสาร หรือตัวแทนเอกสาร
จงวิเคราะห์
ความสัมพันธ์ระหว่างระบบย่อยของระบบค้นคืนสารสนเทศ
   ทั้ง 6 ระบบย่อยกับหน้าที่ของระบบค้นคืนสารสนเทศ
        โดยเขียนเป็นแผนภาพและมีคาอธิบายประกอบ
การวิเคราะห์เนื้อหา หรือสาระ   การจับคู่ระหว่างข้อคาถามกับ   การวิเคราะห์ข้อคาถาม
ของเอกสารที่ได้คัดเลือกมา       เอกสาร หรือตัวแทนเอกสาร      หรือ ความต้องการผู้ใช้

ระบบย่อยการคัดเลือกเอกสาร                                       ระบบย่อยการสืบค้น

ระบบย่อยการจัดทาดรรชนี                                           ระบบย่อยคาศัพท์

ระบบย่อยการปฏิสัมพันธ์

                                  ระบบย่อยการจับคู่
 ความหมายของพฤติกรรมสารสนเทศ
 ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมสารสนเทศกับพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง
 ตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศ
 ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศ
 แนวคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ
 คือ
  พฤติกรรมทั้งมวลของบุคคลหนึ่ง ซึ่งเชือมโยงบุคคลผู้นั้นให้เข้าถึงแหล่งสารสนเทศ
                                      ่
        ต่างๆ โดยใช้ช่องทางในการเผยแพร่และในการได้สารสนเทศมาโดยตรง หรือ
        ทางอ้อม
  พฤติกรรมสารสนเทศเป็นคาที่มีความหมายกว้าง ครอบคลุมพฤติกรรมการแสวงหา
        สารสนเทศ และพฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศ โดยลาดับ
 1. พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ (Information-seeking Behavior) แตกต่างจาก
         พฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศ (Information Search Behavior) อย่างไร

 2. จงอธิบายแผนภาพตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศในหน้า 54


 3. ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศ (หน้า55-57) มีลักษณะแตกต่างจากตัวแบบ
         พฤติกรรมสารสนเทศ (หน้า 53-54) อย่างไร

 4. สมมุติว่าท่านกาลังท่องเว็บเพื่อค้นหาสารสนเทศเกี่ยวกับ Google Desktop Search
         ให้ท่านใช้ตัวแบบพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศของวิลสันอธิบายขั้นตอนที่ท่านใช้ใน
         การแสวงหาสารสนเทศ (ดูที่ขอ 3 ของหน้า 59-60)
                                   ้
 1. พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ (Information-seeking Behavior) แตกต่างจาก
         พฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศ (Information Search Behavior) อย่างไร
 พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ (Information-seeking Behavior) เป็นพฤติกรรมที่
  เกิดจากผู้ใช้มีความต้องการสารสนเทศในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จึงเกิดการแสวงหา
  สารสนเทศอย่างมีวัตถุประสงค์ขึ้น ซึ่งพฤติกรรมข้างต้นกว้างกว่าและครอบคลุม
  พฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศด้วย เช่น...
 พฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศ (Information Search Behavior) เป็นพฤติกรรมที่ผู้ใช้
  มีปฏิสัมพันธ์กับระบบสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นในระดับปฏิบัติ (เช่น การใช้เม้าส์) หรือ
  ในระดับการใช้ความคิด สติปัญญาและความรู้ (เช่น การใช้ตรรกบูล) หรือ การ
  ตัดสินใจเลือกสารสนเทศที่ดีที่สุด หรือการพิจารณาว่าสารสนเทศที่ได้มาตรงกับความ
  ต้องการของตนหรือไม่ อย่างไร
 2. จงอธิบายแผนภาพตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศในหน้า 54

        เป็นตัวแบบแรกทีวิลสันพัฒนาขึ้นเพื่อใช้อธิบายพฤติกรรมสารสนเทศ (ดูหน้า 53
                          ่
  และแผนภาพหน้า 54)
        ต่อมาได้ศึกษาวิจัยและปรับปรุงจนได้ตัวแบบที่สองซึ่งเรียกว่า “ตัวแบบทั่วไปของ
  พฤติกรรมสารสนเทศ”
 3. ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศ (หน้า55-57) มีลักษณะแตกต่างจากตัวแบบ
         พฤติกรรมสารสนเทศ (หน้า 53-54) อย่างไร
ตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศ อธิบายพฤติกรรมสารสนเทศในด้านต่าง ๆ คือ ความต้องการ
   สารสนเทศ และกิจกรรมต่าง ๆ อันเป็นผลจากความต้องการนั้น โดยแสดงขั้นตอนของ
   กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในการค้นหา และการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ และการใช้สารสนเทศ
   ด้วย
ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศ อธิบาย พฤติกรรมสารสนเทศในเชิงมหภาค
   พฤติกรรมสารสนเทศเป็นผลมาจากความต้องการสารสนเทศ กลไก หรือภาวะที่
   สนับสนุน หรือเป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาสารสนเทศ การแสวงหาสารสนเทศทั้งที่
   ผู้ใช้ริเริ่มด้วยตนเอง หรือมิได้ริเริ่มด้วยตนเอง และการประมวล และการใช้สารสนเทศ
ครูต้องการสารสนเทศ เรื่อง ISAR

     กลไก หรือตัวแปรที่กระตุ้นให้เกิดการแสวงหาสารสนเทศ คือ
                       - เป็นครู จบปริญญาโท
            - มีความสามารถในการสืบค้นสารสนเทศในขั้นสูง
         - รู้จักแหล่งสารสนเทศทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
                  - ต้องหาสารสนเทศเพื่อใช้ในการสอน
                - ต้องการให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาที่เรียน



       เกิดพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศซึ่งริเริ่มด้วยตนเอง

พบสารสนเทศที่ต้องการก็คัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงเป็น PPT ใช้สอน
4. ตัวแบบพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศของวิลสันอธิบายขั้นตอนในการแสวงหา
สารสนเทศด้วยการท่องเว็บเพื่อค้นหาสารสนเทศเกี่ยวกับ Google Desktop Search ได้ดังนี้
 1.   การเริ่มต้น ด้วยการตัดสินใจท่อง WWW
 2.   การสารวจเลือกดู โดยการใช้เครื่องมือช่วยค้นประเภท Search Tools เพื่อค้นหา
      เว็บไซต์ที่มีสารสนเทศที่เกี่ยวกับ Google Desktop Search
 3.   การแยกแยะ ด้วยการพิจารณาว่าแหล่งใดจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า (โดยใช้
      เกณฑ์การประเมินค่า Internet Resources ช่วย)
 4.   การดึงสารสนเทศที่สามารถนาไปใช้ได้ทันทีออกมาจากตัวเอกสาร เช่น ความหมาย
      ลักษณะ ขั้นตอนการใช้ Google Desktop Search เป็นต้น
 5.   การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร โดยเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา
      เหมือนกัน หรือจากหนังสือวิชาการ หรือจากการสอบถามผู้รู้
 6.   การจบ เป็นการเก็บรวบรวมสารสนเทศที่แสวงหาทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพราะแน่ใจ
      ว่าได้สารสนเทศในระดับทีต้องการแล้ว
                                  ่
 ตัวแบบพื้นฐานในการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศมุ่งเน้นไปที่การจับคู่ระหว่าง
  ทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่กับความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ เพื่อบรรลุ
  วัตถุประสงค์ คือการค้นคืนสารสนเทศให้ได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
 แต่ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศอธิบายพฤติกรรมการแสวงหาและการใช้
  สารสนเทศโดยเน้นที่ผู้ใช้เป็นสาคัญ เพราะผู้ใช้มีพฤติกรรมสารสนเทศที่หลากหลาย
  ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะ หรือกลไกที่มีผลต่อพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ เช่น
  สภาวะทางอารมณ์- - ทางสติปัญญา ตัวแปรทางสังคมที่มีการแข่งขันในที่ทางานสูง
  หน้าที่การงาน ความสามารถในการสืบค้นสารสนเทศ ฯลฯ
 ดังนั้นระบบค้นคืนสารสนเทศควรให้ความสาคัญกับสภาวะ หรือกลไกที่มีผลต่อ
  พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศของผู้ใช้ด้วย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้สารสนเทศตามที่
  ต้องการอย่างแท้จริง
เดชา นันทพิชัย. 2546. การค้นคืนสารสนเทศ (Information Retrieval).
        พิมพ์ครั้งที่ 2. นครศรีธรรมราช: หลักสูตรการจัดการสารสนเทศ สานักวิชา
        สารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2545. แนวการศึกษาชุดวิชาการจัดเก็บและการค้นคืน
        สารสนเทศ (Information Storage and Retrieval) หน่วยที่ 1-15. นนทบุรี:
        สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สมพร พุทธาพิทักษ์ผล. 2545. “ทฤษฎีพนฐานเกี่ยวกับการจัดเก็บและการค้นคืน
                                      ื้
        สารสนเทศ.” ใน ประมวลสาระชุดวิชาการจัดเก็บและการค้นคืนสารสนเทศ
        (Information Storage and Retrieval), หน่วยที่ 1-4, หน้า 31-62.
        นนทบุรี: สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

More Related Content

What's hot

10บรรณานุกรม
10บรรณานุกรม10บรรณานุกรม
10บรรณานุกรมkrupornpana55
 
การสืบค้นสารสนเทศ
การสืบค้นสารสนเทศการสืบค้นสารสนเทศ
การสืบค้นสารสนเทศNittaya Wongyai
 
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่านวิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่านASI403 : Arsomsilp Institue of the Arts
 
สมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กสมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กGed Gis
 
โครงสร้างสังคม
โครงสร้างสังคมโครงสร้างสังคม
โครงสร้างสังคมthnaporn999
 
แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน
แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน
แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน Jariya Jaiyot
 
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์Padvee Academy
 
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศNuttaput Suriyakamonphat
 
ใบความรู้ เรื่อง ข้อดีและข้อเสียของอินเทอร์เน็ต
ใบความรู้ เรื่อง ข้อดีและข้อเสียของอินเทอร์เน็ตใบความรู้ เรื่อง ข้อดีและข้อเสียของอินเทอร์เน็ต
ใบความรู้ เรื่อง ข้อดีและข้อเสียของอินเทอร์เน็ตเทวัญ ภูพานทอง
 
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์koorimkhong
 
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่Apirak Potpipit
 
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของรากโครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของรากThanyamon Chat.
 
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง0804900158
 
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติโครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติbeauntp
 
2559 project ผ้าปักม้ง
2559 project ผ้าปักม้ง2559 project ผ้าปักม้ง
2559 project ผ้าปักม้งarisanoodee
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในamixdouble
 
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ม.๓ ชุด ๒
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ม.๓ ชุด ๒ข้อสอบ O net ภาษาไทย ม.๓ ชุด ๒
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ม.๓ ชุด ๒Manas Panjai
 
ข้อสอบอัตนัย
ข้อสอบอัตนัยข้อสอบอัตนัย
ข้อสอบอัตนัยNU
 

What's hot (20)

10บรรณานุกรม
10บรรณานุกรม10บรรณานุกรม
10บรรณานุกรม
 
การสืบค้นสารสนเทศ
การสืบค้นสารสนเทศการสืบค้นสารสนเทศ
การสืบค้นสารสนเทศ
 
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่านวิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
 
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
 
สมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กสมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็ก
 
โครงสร้างสังคม
โครงสร้างสังคมโครงสร้างสังคม
โครงสร้างสังคม
 
แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน
แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน
แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน
 
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
 
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
 
ใบความรู้ เรื่อง ข้อดีและข้อเสียของอินเทอร์เน็ต
ใบความรู้ เรื่อง ข้อดีและข้อเสียของอินเทอร์เน็ตใบความรู้ เรื่อง ข้อดีและข้อเสียของอินเทอร์เน็ต
ใบความรู้ เรื่อง ข้อดีและข้อเสียของอินเทอร์เน็ต
 
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์
 
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่
มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สมศ.รอบสี่
 
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของรากโครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
 
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
 
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติโครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
 
แบบสอบถามการใช้เทคโนโลยี
แบบสอบถามการใช้เทคโนโลยีแบบสอบถามการใช้เทคโนโลยี
แบบสอบถามการใช้เทคโนโลยี
 
2559 project ผ้าปักม้ง
2559 project ผ้าปักม้ง2559 project ผ้าปักม้ง
2559 project ผ้าปักม้ง
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกใน
 
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ม.๓ ชุด ๒
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ม.๓ ชุด ๒ข้อสอบ O net ภาษาไทย ม.๓ ชุด ๒
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ม.๓ ชุด ๒
 
ข้อสอบอัตนัย
ข้อสอบอัตนัยข้อสอบอัตนัย
ข้อสอบอัตนัย
 

Viewers also liked

หน่วยที่ 3 การวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
หน่วยที่ 3  การวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศหน่วยที่ 3  การวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
หน่วยที่ 3 การวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศSrion Janeprapapong
 
ทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงที่ให้คำตอบทันที (Ready-Reference Resources)
ทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงที่ให้คำตอบทันที (Ready-Reference Resources)ทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงที่ให้คำตอบทันที (Ready-Reference Resources)
ทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงที่ให้คำตอบทันที (Ready-Reference Resources)Srion Janeprapapong
 
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...Srion Janeprapapong
 
การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศSupaporn Khiewwan
 
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW
การค้นหาสารสนเทศจาก WWWการค้นหาสารสนเทศจาก WWW
การค้นหาสารสนเทศจาก WWWSrion Janeprapapong
 
บทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืน
บทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืนบทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืน
บทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืนSrion Janeprapapong
 
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืนวิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืนSrion Janeprapapong
 
การสำรวจและรวบรวม Internet Reference Resources
การสำรวจและรวบรวม Internet Reference Resourcesการสำรวจและรวบรวม Internet Reference Resources
การสำรวจและรวบรวม Internet Reference ResourcesSrion Janeprapapong
 
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาSrion Janeprapapong
 
หน่วยที่ 1 สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 1 สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหน่วยที่ 1 สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 1 สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาSrion Janeprapapong
 
บทที่ 1 สารสนเทศกับการเรียนรู้
บทที่ 1 สารสนเทศกับการเรียนรู้บทที่ 1 สารสนเทศกับการเรียนรู้
บทที่ 1 สารสนเทศกับการเรียนรู้Srion Janeprapapong
 
หน่วยที่ 4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่  4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศหน่วยที่  4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่ 4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศSrion Janeprapapong
 
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW
การค้นหาสารสนเทศจาก WWWการค้นหาสารสนเทศจาก WWW
การค้นหาสารสนเทศจาก WWWSrion Janeprapapong
 
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)Srion Janeprapapong
 
เกณฑ์การประเมินค่า Reference resources
เกณฑ์การประเมินค่า Reference resourcesเกณฑ์การประเมินค่า Reference resources
เกณฑ์การประเมินค่า Reference resourcesSrion Janeprapapong
 
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศบทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศSrion Janeprapapong
 

Viewers also liked (20)

หน่วยที่ 3 การวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
หน่วยที่ 3  การวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศหน่วยที่ 3  การวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
หน่วยที่ 3 การวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
 
ทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงที่ให้คำตอบทันที (Ready-Reference Resources)
ทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงที่ให้คำตอบทันที (Ready-Reference Resources)ทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงที่ให้คำตอบทันที (Ready-Reference Resources)
ทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงที่ให้คำตอบทันที (Ready-Reference Resources)
 
Reference resources
Reference resources Reference resources
Reference resources
 
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
 
การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
 
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW
การค้นหาสารสนเทศจาก WWWการค้นหาสารสนเทศจาก WWW
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW
 
บทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืน
บทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืนบทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืน
บทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืน
 
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืนวิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
 
การสำรวจและรวบรวม Internet Reference Resources
การสำรวจและรวบรวม Internet Reference Resourcesการสำรวจและรวบรวม Internet Reference Resources
การสำรวจและรวบรวม Internet Reference Resources
 
Dspace
DspaceDspace
Dspace
 
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
 
หน่วยที่ 1 สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 1 สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหน่วยที่ 1 สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 1 สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
 
บทที่ 1 สารสนเทศกับการเรียนรู้
บทที่ 1 สารสนเทศกับการเรียนรู้บทที่ 1 สารสนเทศกับการเรียนรู้
บทที่ 1 สารสนเทศกับการเรียนรู้
 
สารานุกรม
สารานุกรมสารานุกรม
สารานุกรม
 
หน่วยที่ 4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่  4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศหน่วยที่  4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่ 4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
 
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW
การค้นหาสารสนเทศจาก WWWการค้นหาสารสนเทศจาก WWW
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW
 
หน่วยที่ 3 การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่ 3 การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศหน่วยที่ 3 การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่ 3 การจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
 
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
 
เกณฑ์การประเมินค่า Reference resources
เกณฑ์การประเมินค่า Reference resourcesเกณฑ์การประเมินค่า Reference resources
เกณฑ์การประเมินค่า Reference resources
 
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศบทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
 

Similar to บทที่ 2 ทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ

Database
DatabaseDatabase
Databasepaween
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลYongyut Nintakan
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลYongyut Nintakan
 
การสำรวจและรวบรวม Reference Resources ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บริ...
การสำรวจและรวบรวม Reference Resources ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์   เพื่อให้บริ...การสำรวจและรวบรวม Reference Resources ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์   เพื่อให้บริ...
การสำรวจและรวบรวม Reference Resources ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บริ...Srion Janeprapapong
 
เทคโนโลยีการค้นคืนสารสนเทศ
เทคโนโลยีการค้นคืนสารสนเทศเทคโนโลยีการค้นคืนสารสนเทศ
เทคโนโลยีการค้นคืนสารสนเทศSrion Janeprapapong
 
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศกระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศsupimon1956
 
Reference and information services
Reference and information servicesReference and information services
Reference and information servicesKKU Library
 
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2Hitsuji12
 
นางสาว มลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาว มลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาว มลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาว มลทิรา เอกกุล ม.5miwmilk
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5miwmilk
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล
นางสาวมลทิรา  เอกกุลนางสาวมลทิรา  เอกกุล
นางสาวมลทิรา เอกกุลmiwmilk
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลOrapan Chamnan
 
Myun dao22
Myun dao22Myun dao22
Myun dao22MyunDao
 
Myun dao22
Myun dao22Myun dao22
Myun dao22MyunDao
 

Similar to บทที่ 2 ทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ (20)

Collection Development
Collection DevelopmentCollection Development
Collection Development
 
collection development
collection developmentcollection development
collection development
 
Database
DatabaseDatabase
Database
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
 
การสำรวจและรวบรวม Reference Resources ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บริ...
การสำรวจและรวบรวม Reference Resources ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์   เพื่อให้บริ...การสำรวจและรวบรวม Reference Resources ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์   เพื่อให้บริ...
การสำรวจและรวบรวม Reference Resources ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บริ...
 
เทคนิคและการทบทวนวรรณกรรมและการพัฒนากรอบแนวคิดงานวิจัย (ผศ.ดร.กชพร นำมาผล)
เทคนิคและการทบทวนวรรณกรรมและการพัฒนากรอบแนวคิดงานวิจัย (ผศ.ดร.กชพร นำมาผล)เทคนิคและการทบทวนวรรณกรรมและการพัฒนากรอบแนวคิดงานวิจัย (ผศ.ดร.กชพร นำมาผล)
เทคนิคและการทบทวนวรรณกรรมและการพัฒนากรอบแนวคิดงานวิจัย (ผศ.ดร.กชพร นำมาผล)
 
it-06-50
it-06-50it-06-50
it-06-50
 
เทคโนโลยีการค้นคืนสารสนเทศ
เทคโนโลยีการค้นคืนสารสนเทศเทคโนโลยีการค้นคืนสารสนเทศ
เทคโนโลยีการค้นคืนสารสนเทศ
 
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศกระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
 
Reference and information services
Reference and information servicesReference and information services
Reference and information services
 
Webopac
WebopacWebopac
Webopac
 
Lesson 1
Lesson 1Lesson 1
Lesson 1
 
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
 
นางสาว มลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาว มลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาว มลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาว มลทิรา เอกกุล ม.5
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล
นางสาวมลทิรา  เอกกุลนางสาวมลทิรา  เอกกุล
นางสาวมลทิรา เอกกุล
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
 
Myun dao22
Myun dao22Myun dao22
Myun dao22
 
Myun dao22
Myun dao22Myun dao22
Myun dao22
 

More from Srion Janeprapapong

เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศเอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศSrion Janeprapapong
 
รายงานการดำเนินงานวิชาทักษะการรู้สารสนเทศ (มคอ.5) ภาคปลาย ปีการศึกษา 2556
รายงานการดำเนินงานวิชาทักษะการรู้สารสนเทศ (มคอ.5) ภาคปลาย ปีการศึกษา 2556รายงานการดำเนินงานวิชาทักษะการรู้สารสนเทศ (มคอ.5) ภาคปลาย ปีการศึกษา 2556
รายงานการดำเนินงานวิชาทักษะการรู้สารสนเทศ (มคอ.5) ภาคปลาย ปีการศึกษา 2556Srion Janeprapapong
 
การวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศ
การวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศ การวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศ
การวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศ Srion Janeprapapong
 
เกณฑ์การประเมินค่าสารสนเทศเว็บ
เกณฑ์การประเมินค่าสารสนเทศเว็บเกณฑ์การประเมินค่าสารสนเทศเว็บ
เกณฑ์การประเมินค่าสารสนเทศเว็บSrion Janeprapapong
 
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)Srion Janeprapapong
 
สารานุกรม (Encyclopedias)
สารานุกรม  (Encyclopedias)สารานุกรม  (Encyclopedias)
สารานุกรม (Encyclopedias)Srion Janeprapapong
 
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW (ต่อ)
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW (ต่อ)การค้นหาสารสนเทศจาก WWW (ต่อ)
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW (ต่อ)Srion Janeprapapong
 
บทที่ 4 สารสนเทศทางบรรณานุกรม
บทที่ 4 สารสนเทศทางบรรณานุกรมบทที่ 4 สารสนเทศทางบรรณานุกรม
บทที่ 4 สารสนเทศทางบรรณานุกรมSrion Janeprapapong
 
พจนานุกรม (Dictionaries)
พจนานุกรม  (Dictionaries)พจนานุกรม  (Dictionaries)
พจนานุกรม (Dictionaries)Srion Janeprapapong
 
การประเมินค่าทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงบนอินเทอร์เน็ต
การประเมินค่าทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงบนอินเทอร์เน็ตการประเมินค่าทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงบนอินเทอร์เน็ต
การประเมินค่าทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงบนอินเทอร์เน็ตSrion Janeprapapong
 

More from Srion Janeprapapong (11)

เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศเอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ
 
รายงานการดำเนินงานวิชาทักษะการรู้สารสนเทศ (มคอ.5) ภาคปลาย ปีการศึกษา 2556
รายงานการดำเนินงานวิชาทักษะการรู้สารสนเทศ (มคอ.5) ภาคปลาย ปีการศึกษา 2556รายงานการดำเนินงานวิชาทักษะการรู้สารสนเทศ (มคอ.5) ภาคปลาย ปีการศึกษา 2556
รายงานการดำเนินงานวิชาทักษะการรู้สารสนเทศ (มคอ.5) ภาคปลาย ปีการศึกษา 2556
 
การวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศ
การวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศ การวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศ
การวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศ
 
เกณฑ์การประเมินค่าสารสนเทศเว็บ
เกณฑ์การประเมินค่าสารสนเทศเว็บเกณฑ์การประเมินค่าสารสนเทศเว็บ
เกณฑ์การประเมินค่าสารสนเทศเว็บ
 
พจนานุกรม
พจนานุกรมพจนานุกรม
พจนานุกรม
 
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
 
สารานุกรม (Encyclopedias)
สารานุกรม  (Encyclopedias)สารานุกรม  (Encyclopedias)
สารานุกรม (Encyclopedias)
 
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW (ต่อ)
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW (ต่อ)การค้นหาสารสนเทศจาก WWW (ต่อ)
การค้นหาสารสนเทศจาก WWW (ต่อ)
 
บทที่ 4 สารสนเทศทางบรรณานุกรม
บทที่ 4 สารสนเทศทางบรรณานุกรมบทที่ 4 สารสนเทศทางบรรณานุกรม
บทที่ 4 สารสนเทศทางบรรณานุกรม
 
พจนานุกรม (Dictionaries)
พจนานุกรม  (Dictionaries)พจนานุกรม  (Dictionaries)
พจนานุกรม (Dictionaries)
 
การประเมินค่าทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงบนอินเทอร์เน็ต
การประเมินค่าทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงบนอินเทอร์เน็ตการประเมินค่าทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงบนอินเทอร์เน็ต
การประเมินค่าทรัพยากรสารสนเทศประเภทอ้างอิงบนอินเทอร์เน็ต
 

บทที่ 2 ทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ

  • 1.
  • 2.
  • 3. หากพิจารณาเชิงระบบ การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศเป็นการเชือมโยง ่ ระหว่างทรัพยากรสารสนเทศกับผู้ใช้ซึ่งมีความต้องการสารสนเทศ โดยมีฐานข้อมูล ในฐานะเป็นแหล่งที่รวบรวมสารสนเทศประเภทใดหนึ่ง  1. ทรัพยากรสารสนเทศ (information resources)  2. ฐานข้อมูล (database)  3. ผู้ใช้ (user)
  • 4. 1. ทรัพยากรสารสนเทศ 2. ฐานข้อมูล สารสนเทศที่ผู้ใช้ต้องการ 3. ผู้ใช้ ความต้องการของผู้ใช้
  • 5.  1. ทรัพยากรสารสนเทศ (information resources) - คือ วัสดุที่บันทึกสารสนเทศ มีหลากหลายชนิด เช่น หนังสือ เอกสารเทปเสียง สารานุกรมบนแผ่นซีดี e-Journal สารสนเทศบน WWW ฯลฯ วัสดุเหล่านั้นถูก จัดเก็บและให้บริการในห้องสมุด เพื่อสนองความต้องการด้านต่าง ๆ ของผู้ใช้ - การแบ่งประเภทของ IR ทาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง 1) แบ่งตามรูปลักษณ์ของสื่อที่ใช้จัดเก็บ คือ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2) แบ่งตามสาขาวิชา เป็น มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 3) แบ่งตามการจัดการด้วยคอมพิวเตอร์ คือ แอนะล็อก และดิจิทัล
  • 6. 4) แบ่งตามแหล่งสารสนเทศ หรือ แหล่งที่มา/การผลิต หรือ ตามความใหม่ เก่าของตัวเนื้อหา แบ่งออกเป็นแหล่งปฐมภูมิ แหล่งทุติยภูมิ และแหล่งตติยภูมิ 1. แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Sources) = งานที่เขียนขึ้นเป็นครั้งแรก ข้อเขียนใหม่เฉพาะเรื่อง รายงานการค้นพบใหม่ๆ ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน เช่น รายงานการวิจัย/ทดลอง วิทยานิพนธ์ งานวิจัย บทความในวารสาร สิทธิบตร ั มาตรฐาน ฯลฯ 2. แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Sources) = งานที่ผ่านกระบวนการคัดเลือก ขัดเกลา ย่อ/สรุป วิจารณ์ -------> เรียบเรียงใหม่ จัดอยู่ในรูปแบบใหม่ เช่น บทความในวารสาร บทคัดย่อ พจนานุกรม สารานุกรม ดรรชนีและสาระสังเขป ฯลฯ 3. แหล่งข้อมูลตติยภูมิ (Tertiary Sources) = งานเขียนที่กลั่นกรอง และรวบรวมจาก 1 + 2 เช่น หนังสือตาราวิชาการ เป็นต้น
  • 7.  2. ฐานข้อมูล (database) คือ แหล่งสะสมข้อเท็จจริงต่าง ๆ โดยมีการรวบรวมข้อมูลที่มีความสัมพันธ์ กันไว้ด้วยกัน และมีโปรแกรมระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS -- Database Management System) มาช่วยในการจัดเก็บ จัดเรียง และสืบค้นได้ ในระบบสารสนเทศและห้องสมุด ฐานข้อมูลเป็นที่รวมของระเบียนทรัพยากร สารสนเทศต่าง ๆ ที่มีในห้องสมุด ซึ่งก็คือ “ฐานข้อมูลทรัพยากรสารสนเทศของ ห้องสมุด” และหมายรวมถึง “ฐานข้อมูลเฉพาะสาขาวิชาที่ห้องสมุดพัฒนาขึ้นเอง” “ฐานข้อมูลซีดีรอม” และ”ฐานข้อมูลออนไลน์” ด้วย
  • 9. ฐานข้อมูลที่ห้องสมุด UTCC พัฒนาขึ้นเอง
  • 11. ฐานข้อมูลทีห้องสมุด ่ UTCC เป็นสมาชิก
  • 12.  3. ผู้ใช้ (User) ประเภทของผู้ใช้สามารถแบ่งได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง โดยทั่วไปแบ่งผู้ใช้ออกเป็นดังนี้ 3.1 แบ่งตามหน้าที่ในหน่วยงานบริการสารสนเทศ 3.2 แบ่งตามความชานาญ หรือประสบการณ์ในการค้นหาสารสนเทศ
  • 13.  3. ผู้ใช้ (User) (ต่อ) 3.1 แบ่งตามหน้าที่ในหน่วยงานบริการสารสนเทศ คือ 3.1.1 ผู้ใช้ที่เป็นตัวกลาง (intermediary/ mediator) หมายถึง ผู้ให้บริการค้นคืนสารสนเทศ อาทิ บรรณารักษ์ นักเอกสารสนเทศ เป็นต้น ซึ่ง ทาหน้าที่ค้นคืนสารสนเทศให้แก่ผู้ใช้ 3.1.2 ผู้ใช้ปลายทาง (end user) ได้แก่ ผู้ใช้ที่มีความต้องการ สารสนเทศของตนเอง อาจเป็นนักวิจัย ผู้บริหาร นักศึกษา อาจารย์ หรือ ประชาชนทั่วไป โดยมีการแสวงหาสารสนเทศด้วยตนเอง หรือขอความช่วยเหลือ จากผู้ให้บริการสารสนเทศ
  • 14.  3. ผู้ใช้ (User) (ต่อ) 3.2 แบ่งตามความชานาญ หรือประสบการณ์ในการค้นหาสารสนเทศ เป็นการแบ่งผู้ใช้ที่เป็นตัวกลางและผู้ใช้ปลายทางออกเป็น 1) ผู้ใช้ที่มีความชานาญเป็นอย่างดี 2) ผู้ใช้ที่มีความชานาญระดับปานกลาง 3) ผู้ที่ไม่เคยใช้ระบบมาก่อน
  • 15.  เป็นกระบวนการในการจับคูระหว่างทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่กับความต้องการ ่ สารสนเทศของผู้ใช้ หากจับคู่ได้ตรงกัน ย่อมได้ผลการค้นคืน หากจับคู่ไม่ตรงกัน ผลจะเป็นศูนย์  องค์ประกอบของตัวแบบพื้นฐาน  1. เอกสารที่ได้คัดเลือก หรือเรียกว่า “เอกสาร (document)”  2. ตัวแทนเอกสาร (document surrogate/ representation)  3. ความต้องการสารสนเทศ (information need)  4. ตัวแทนความต้องการสารสนเทศ  5. การจับคู่ระหว่างตัวแทนความต้องการสารสนเทศกับตัวแทนเอกสาร (matching process)
  • 16. 1. เอกสารที่ได้คัดเลือก หรือเรียกว่า “เอกสาร (document)” คือ ทรัพยากรสารสนเทศ ที่ได้รับการคัดเลือก หรือคัดสรรตามนโยบายของหน่วยงานบริการ สารสนเทศแห่งนั้น 2. ตัวแทนเอกสาร (document surrogate/ representation) คือ การสร้างตัวแทนเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ อย่างมีมาตรฐาน แล้วจัดเก็บในรูปของฐานข้อมูล เช่น - การสร้างข้อมูลบรรณานุกรม เพื่อเป็นตัวแทนโครงสร้างเอกสาร เช่น ถ้าเป็น หนังสือ จะมีโครงสร้างของตัวแทนหนังสือ ประกอบด้วย ชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง สถานที่พิมพ์ สานักพิมพ์ ปีพิมพ์ หัวเรื่อง คาสาคัญ เป็นต้น - การกาหนดตัวแทนสาระ หรือดรรชนี - การสรุปย่อเนื้อหาสาคัญในรูปของสาระสังเขป ฯลฯ
  • 17. 3. ความต้องการสารสนเทศ (information need) หรือบางครั้งเรียกว่า “ความต้องการของผู้ใช้” สารสนเทศที่ผู้ใช้ต้องการมีหลากหลายแตกต่างกันไป และเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัย และเวลา ไม่คงที่แน่นอน 4. ตัวแทนความต้องการสารสนเทศ หมายถึงการสร้าง หรือกาหนดตัวแทนความต้องการสารสนเทศในรูปแบบของ “คาศัพท์” หรือคาค้นที่คิดว่าสามารถแทนความต้องการสารสนเทศได้ตรงและถูกต้อง ที่สุด
  • 18. 5. การจับคู่ระหว่างตัวแทนความต้องการสารสนเทศกับตัวแทนเอกสาร (matching process) กล่าวคือ กระบวนการจับคู่เป็นกลไกสาคัญในการค้นคืนสารสนเทศ หากจับคู่ได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้จะได้ผลการค้นคืนที่เข้าเรื่อง (relevant) หรือ ตรงกับความต้องการสารสนเทศของตน (pertinent) “จานวนรายการที่ค้นคืนได้ (retrieved item)” เป็นประเด็นสาคัญที่ต้องพิจารณา เช่นกัน ดังนั้นจึงควรมีการจัดอันดับรายการที่ค้นคืนได้ (ranking) เพื่อให้เอกสารที่คาดว่า เข้าเรื่องที่สุดอยู่ในอันดับต้น และเอกสารเข้าเรื่องน้อยกว่าอยู่ในอันดับรองลง มาตามลาดับ
  • 19.
  • 20.  เป็นกระบวนการในการจับคูระหว่างทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่กับความต้องการ ่ สารสนเทศของผู้ใช้  เพื่อ  ได้ผลการสืบค้นที่เข้าเรื่อง (ถูกต้องตรงตามความต้องการของผู้ใช้)  สามารถจัดอันดับรายการที่ค้นคืนได้ (เอกสารที่เข้าเรื่องที่สุดอยู่ในอันดับต้น)  สามารถค้นคืนได้อย่างรวดเร็ว  ซึ่งการที่ระบบค้นคืนสารสนเทศจะมีประสิทธิภาพต้องมีการดาเนินการการจัดเก็บ เอกสาร (document) การจัดทาระเบียนเอกสาร (โครงสร้างของเอกสาร) และ การจัดทาดรรชนี (เพื่อใช้เป็นตัวแทนเนื้อหาสาระของเอกสาร) อย่างมี ประสิทธิภาพเช่นกัน  หมายรวมถึงผู้ใช้เองก็ต้องมีความสามารถในการกาหนดคาค้นได้ด้วยตนเอง
  • 21.
  • 22.  ระบบค้นคืนสารสนเทศมีองค์ประกอบที่สาคัญ คือ 1. ข้อมูลนาเข้า (Input) 2. การประมวลผล (Processing) 3. ผลลัพธ์ (Output) 4. ผลป้อนกลับ (Feedback)
  • 23. ข้อมูล การ ผลลัพธ์ นาเข้า ประมวล หรือ ผล ผล ผลการค้น ป้อนกลับ • เอกสาร หรือ • การจัด คืน • ความ ตัวแทน หมวดหมู่ คิดเห็น เอกสาร • การแยก • เอกสาร หรือ ของผู้ใช้ • ข้อคาถามของ ประเภท ตัวแทนเอกสาร ต่อผลการ ผู้ใช้ • จัดเรียง ที่เข้าเรื่อง ค้นคืน ฯลฯ และปัญหา ที่พบ ฯลฯ
  • 24. ตามแนวคิดของรองศาสตราจารย์ ดร. สมพร พุทธาพิทักษ์ผล (2545:1: 44) กล่าวว่าระบบ ค้นคืนสารสนเทศมีหน้าที่สาคัญ 3 ประการ คือ  1. การวิเคราะห์เนื้อหา หรือสาระของเอกสารที่ได้คัดเลือกมา  2. การวิเคราะห์ข้อคาถาม หรือความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้  3. การจับคูระหว่างข้อคาถาม หรือตัวแทนความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ กับเอกสาร ่ และ/หรือตัวแทนเอกสาร
  • 25.  1. การวิเคราะห์เนื้อหา หรือสาระของเอกสารที่ได้คัดเลือกมา เพื่อสร้างตัวแทนเอกสาร และ คาแทนสาระของเอกสาร บางระบบอาจมีสาระสังเขปของเอกสาร หรือเอกสารฉบับเต็มด้วย  2. การวิเคราะห์ข้อคาถาม หรือความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ คือ การสร้างกลยุทธ์การสืบค้นเพื่อค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ โดยการใช้ - คาค้นเพียงคาเดียว - ใช้คาสั่งระบุเขตข้อมูล (ให้ไปค้นหาคาค้นที่เขตข้อมูลหัวเรื่อง ผู้แต่ง ฯลฯ) - ใช้ตรรกบูลเชื่อมคาค้นหลาย ๆ คา - ระบุภาษา หรือ ปีค.ศ. ของเอกสาร โดยระบบค้นคืนสารสนเทศจะแปลงคาสั่งการสืบค้นของผู้ใช้ให้เป็นคาสั่ง หรือ ภาษาที่ระบบนั้น ๆ เข้าใจเพื่อดาเนินการสืบค้นต่อไป
  • 26.  3. การจับคูระหว่างข้อคาถาม หรือตัวแทนความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ กับเอกสาร ่ และ/หรือตัวแทนเอกสาร เพื่อดึงสารสนเทศเฉพาะรายการที่เข้าเรื่อง หรือตรงกับข้อคาถามของผู้ใช้ออกมา เป็นผลการค้นคืน
  • 27.  จากหนังสือการค้นคืนสารสนเทศ (Information Retrieval) ของอาจารย์เดชา นันทพิชัย (2546: 22-23) ได้อธิบายภารกิจและหน้าทีของระบบค้นคืนสารสนเทศว่าสรุป ่ ได้ ดังนี้  1. การวิเคราะห์เอกสารและการจัดระบบสารสนเทศ คือ การสร้างฐานข้อมูลเอกสาร ได้แก่ การจัดทาโครงสร้างเอกสาร การวิเคราะห์เนื้อหา การจัดทาดรรชนี  2. การวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ และเตรียมกลยุทธ์การสืบค้น  3. การสืบค้น (Searching) และการเปรียบเทียบความต้องการผูใช้กับฐานข้อมูล ้  4. การประเมินผลลัพธ์ที่ได้
  • 28. (เดชา นันทพิชัย, 2546: 23) Information Analysis and Organized Sources Representation Information Retrieval Matching Information Users Query Analyzed Analysis Queries (search statement)
  • 29.  จากภาพข้างต้นอาจารย์เดชา นันทพิชัย (2546: 23) สรุปว่าถ้าแบ่งภาระงาน (Task) ของ ระบบการค้นคืนสารสนเทศก็สามารถจาแนกออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ 1. งานที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์เนื้อหา และหัวเรื่อง ได้แก่ งานวิเคราะห์ จัดระบบ และจัดเก็บสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง 2. งานที่เกี่ยวกับการสืบค้น และค้นคืน ได้แก่ งานเกี่ยวกับกระบวนการค้นหา และค้นคืน รวมถึงงานวิเคราะห์คาร้อง ของผู้ใช้ และสร้างสูตรการค้นคืน
  • 30.  Lancaster (อ้างถึงในสมพร พุทธาพิทักษ์ผล, 2545: 1: 44-47) อธิบายระบบค้น คืนสารสนเทศว่าประกอบด้วยระบบย่อย 6 ระบบ ได้แก่ 1. ระบบย่อยการคัดเลือกเอกสาร (Document Selection Subsystem) 2. ระบบย่อยการจัดทาดรรชนี (Indexing Subsystem) 3. ระบบย่อยคาศัพท์ (Vocabulary Subsystem) 4. ระบบย่อยการสืบค้น (Searching Subsystem) 5. ระบบย่อยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบค้นคืนสารสนเทศกับผู้ใช้ (Subsystem of Interaction Between the User and the System) 6. ระบบย่อยการจับคู่ (Matching Subsystem)
  • 31.  1. ระบบย่อยการคัดเลือกเอกสาร (Document Selection Subsystem) ทาหน้าที่ในการคัดเลือกเอกสารตามนโยบายของหน่วยงานบริการสารสนเทศนั้น ๆ  2. ระบบย่อยการจัดทาดรรชนี (Indexing Subsystem) ทาหน้าทีวิเคราะห์เนื้อหาของเอกสาร และกาหนดคาศัพท์ที่เรียกว่า “ดรรชนี” ขึ้น ่ แทนเนื้อหาสาระของเอกสาร รวมถึงทาดรรชนีของคาที่ปรากฏใน สาระสังเขป หรือเอกสารฉบับเต็มเพื่อให้สามารถค้นคืนได้ดวย  ้ ระเบียน (record) หรือ ตัวแทนเอกสาร ตัวแทนเอกสาร หรือ ระเบียน (record) เหล่านี้จะถูกจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล ซึ่ง จานวนระเบียนจะใช้เป็นเกณฑ์ในการบอกขนาดของฐานข้อมูล
  • 32.  3. ระบบย่อยคาศัพท์ (Vocabulary Subsystem) ทาหน้าทีเ่ ป็นคลังศัพท์ดรรชนี หรือศัพท์สาคัญที่ใช้ในการจัดทาดรรชนี ระบบย่อยนี้มีประโยชน์ทั้งในการจัดทาดรรชนี และการค้น เพราะหากผู้ใช้ กาหนดคาศัพท์ที่จะค้นได้ตรงกับศัพท์ที่ใช้ในการทาดรรชนี ย่อมได้ผล การค้นคืนที่เข้าเรื่อง  4. ระบบย่อยการสืบค้น (Searching Subsystem) เป็นการวิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ และกาหนดกลยุทธ์การค้น รวมถึงการแปลงกลยุทธ์การค้นให้อยู่ในรูปของคาสั่ง หรือภาษาที่ใช้ใน ระบบค้นคืนสารสนเทศนั้น ๆ (มีการใช้เทคนิคการค้นคืนที่แตกต่างกัน) อาจใช้คลังศัพท์ดรรชนี หรือศัพท์สาคัญของระบบฯ นั้นช่วยในการค้นก็ได้
  • 33.  5. ระบบย่อยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบค้นคืนสารสนเทศกับผู้ใช้ (Subsystem of Interaction Between the User and the System) เป็นการสื่อสารระหว่างผู้ใช้กับระบบค้นคืนสารสนเทศในขณะทาการค้น การปฏิสัมพันธ์อาจอยู่ในรูปแบบของการออกแบบหน้าจอ (Screen Design) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว มีข้อความที่ช่วยแนะนาผู้ใช้หากกระทาผิดพลาด (Error Message) มีสารสนเทศที่ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ (Help Information) มีทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถออกคาสั่งได้ตามสะดวกด้วยตนเอง หรือด้วยการเลือก ตัวเลือกที่หน้าจอ
  • 34.  6. ระบบย่อยการจับคู่ (Matching Subsystem) คือ การจับคู่ระหว่างตัวแทนเอกสารกับตัวแทนความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ โดยการจับคู่ย่อมขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่ใช้กับโครงสร้างระบบฐานข้อมูลเป็นสาคัญ ผู้ใช้จะไม่เห็นการทางานของระบบย่อยนี้  การทางานของระบบย่อยทั้ง 6 ในระบบค้นคืนสารสนเทศจะสัมพันธ์กับหน้าที่ของระบบ ค้นคืนสารสนเทศทั้ง 3 ประการคือ 1) การวิเคราะห์เนื้อหาของเอกสาร 2) การวิเคราะห์ ข้อคาถามของผู้ใช้ และ 3) การจับคู่ระหว่างข้อคาถามกับเอกสาร หรือตัวแทนเอกสาร
  • 35. จงวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ระหว่างระบบย่อยของระบบค้นคืนสารสนเทศ ทั้ง 6 ระบบย่อยกับหน้าที่ของระบบค้นคืนสารสนเทศ โดยเขียนเป็นแผนภาพและมีคาอธิบายประกอบ
  • 36. การวิเคราะห์เนื้อหา หรือสาระ การจับคู่ระหว่างข้อคาถามกับ การวิเคราะห์ข้อคาถาม ของเอกสารที่ได้คัดเลือกมา เอกสาร หรือตัวแทนเอกสาร หรือ ความต้องการผู้ใช้ ระบบย่อยการคัดเลือกเอกสาร ระบบย่อยการสืบค้น ระบบย่อยการจัดทาดรรชนี ระบบย่อยคาศัพท์ ระบบย่อยการปฏิสัมพันธ์ ระบบย่อยการจับคู่
  • 37.  ความหมายของพฤติกรรมสารสนเทศ  ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมสารสนเทศกับพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง  ตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศ  ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศ  แนวคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ
  • 38.  คือ พฤติกรรมทั้งมวลของบุคคลหนึ่ง ซึ่งเชือมโยงบุคคลผู้นั้นให้เข้าถึงแหล่งสารสนเทศ ่ ต่างๆ โดยใช้ช่องทางในการเผยแพร่และในการได้สารสนเทศมาโดยตรง หรือ ทางอ้อม พฤติกรรมสารสนเทศเป็นคาที่มีความหมายกว้าง ครอบคลุมพฤติกรรมการแสวงหา สารสนเทศ และพฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศ โดยลาดับ
  • 39.  1. พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ (Information-seeking Behavior) แตกต่างจาก พฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศ (Information Search Behavior) อย่างไร  2. จงอธิบายแผนภาพตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศในหน้า 54  3. ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศ (หน้า55-57) มีลักษณะแตกต่างจากตัวแบบ พฤติกรรมสารสนเทศ (หน้า 53-54) อย่างไร  4. สมมุติว่าท่านกาลังท่องเว็บเพื่อค้นหาสารสนเทศเกี่ยวกับ Google Desktop Search ให้ท่านใช้ตัวแบบพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศของวิลสันอธิบายขั้นตอนที่ท่านใช้ใน การแสวงหาสารสนเทศ (ดูที่ขอ 3 ของหน้า 59-60) ้
  • 40.  1. พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ (Information-seeking Behavior) แตกต่างจาก พฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศ (Information Search Behavior) อย่างไร  พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ (Information-seeking Behavior) เป็นพฤติกรรมที่ เกิดจากผู้ใช้มีความต้องการสารสนเทศในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จึงเกิดการแสวงหา สารสนเทศอย่างมีวัตถุประสงค์ขึ้น ซึ่งพฤติกรรมข้างต้นกว้างกว่าและครอบคลุม พฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศด้วย เช่น...  พฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศ (Information Search Behavior) เป็นพฤติกรรมที่ผู้ใช้ มีปฏิสัมพันธ์กับระบบสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นในระดับปฏิบัติ (เช่น การใช้เม้าส์) หรือ ในระดับการใช้ความคิด สติปัญญาและความรู้ (เช่น การใช้ตรรกบูล) หรือ การ ตัดสินใจเลือกสารสนเทศที่ดีที่สุด หรือการพิจารณาว่าสารสนเทศที่ได้มาตรงกับความ ต้องการของตนหรือไม่ อย่างไร
  • 41.  2. จงอธิบายแผนภาพตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศในหน้า 54 เป็นตัวแบบแรกทีวิลสันพัฒนาขึ้นเพื่อใช้อธิบายพฤติกรรมสารสนเทศ (ดูหน้า 53 ่ และแผนภาพหน้า 54) ต่อมาได้ศึกษาวิจัยและปรับปรุงจนได้ตัวแบบที่สองซึ่งเรียกว่า “ตัวแบบทั่วไปของ พฤติกรรมสารสนเทศ”
  • 42.  3. ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศ (หน้า55-57) มีลักษณะแตกต่างจากตัวแบบ พฤติกรรมสารสนเทศ (หน้า 53-54) อย่างไร ตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศ อธิบายพฤติกรรมสารสนเทศในด้านต่าง ๆ คือ ความต้องการ สารสนเทศ และกิจกรรมต่าง ๆ อันเป็นผลจากความต้องการนั้น โดยแสดงขั้นตอนของ กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในการค้นหา และการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ และการใช้สารสนเทศ ด้วย ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศ อธิบาย พฤติกรรมสารสนเทศในเชิงมหภาค พฤติกรรมสารสนเทศเป็นผลมาจากความต้องการสารสนเทศ กลไก หรือภาวะที่ สนับสนุน หรือเป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาสารสนเทศ การแสวงหาสารสนเทศทั้งที่ ผู้ใช้ริเริ่มด้วยตนเอง หรือมิได้ริเริ่มด้วยตนเอง และการประมวล และการใช้สารสนเทศ
  • 43. ครูต้องการสารสนเทศ เรื่อง ISAR กลไก หรือตัวแปรที่กระตุ้นให้เกิดการแสวงหาสารสนเทศ คือ - เป็นครู จบปริญญาโท - มีความสามารถในการสืบค้นสารสนเทศในขั้นสูง - รู้จักแหล่งสารสนเทศทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ - ต้องหาสารสนเทศเพื่อใช้ในการสอน - ต้องการให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาที่เรียน เกิดพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศซึ่งริเริ่มด้วยตนเอง พบสารสนเทศที่ต้องการก็คัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงเป็น PPT ใช้สอน
  • 44. 4. ตัวแบบพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศของวิลสันอธิบายขั้นตอนในการแสวงหา สารสนเทศด้วยการท่องเว็บเพื่อค้นหาสารสนเทศเกี่ยวกับ Google Desktop Search ได้ดังนี้ 1. การเริ่มต้น ด้วยการตัดสินใจท่อง WWW 2. การสารวจเลือกดู โดยการใช้เครื่องมือช่วยค้นประเภท Search Tools เพื่อค้นหา เว็บไซต์ที่มีสารสนเทศที่เกี่ยวกับ Google Desktop Search 3. การแยกแยะ ด้วยการพิจารณาว่าแหล่งใดจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า (โดยใช้ เกณฑ์การประเมินค่า Internet Resources ช่วย) 4. การดึงสารสนเทศที่สามารถนาไปใช้ได้ทันทีออกมาจากตัวเอกสาร เช่น ความหมาย ลักษณะ ขั้นตอนการใช้ Google Desktop Search เป็นต้น 5. การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร โดยเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา เหมือนกัน หรือจากหนังสือวิชาการ หรือจากการสอบถามผู้รู้ 6. การจบ เป็นการเก็บรวบรวมสารสนเทศที่แสวงหาทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพราะแน่ใจ ว่าได้สารสนเทศในระดับทีต้องการแล้ว ่
  • 45.  ตัวแบบพื้นฐานในการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศมุ่งเน้นไปที่การจับคู่ระหว่าง ทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่กับความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้ เพื่อบรรลุ วัตถุประสงค์ คือการค้นคืนสารสนเทศให้ได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด  แต่ตัวแบบทั่วไปของพฤติกรรมสารสนเทศอธิบายพฤติกรรมการแสวงหาและการใช้ สารสนเทศโดยเน้นที่ผู้ใช้เป็นสาคัญ เพราะผู้ใช้มีพฤติกรรมสารสนเทศที่หลากหลาย ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะ หรือกลไกที่มีผลต่อพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ เช่น สภาวะทางอารมณ์- - ทางสติปัญญา ตัวแปรทางสังคมที่มีการแข่งขันในที่ทางานสูง หน้าที่การงาน ความสามารถในการสืบค้นสารสนเทศ ฯลฯ  ดังนั้นระบบค้นคืนสารสนเทศควรให้ความสาคัญกับสภาวะ หรือกลไกที่มีผลต่อ พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศของผู้ใช้ด้วย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้สารสนเทศตามที่ ต้องการอย่างแท้จริง
  • 46. เดชา นันทพิชัย. 2546. การค้นคืนสารสนเทศ (Information Retrieval). พิมพ์ครั้งที่ 2. นครศรีธรรมราช: หลักสูตรการจัดการสารสนเทศ สานักวิชา สารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2545. แนวการศึกษาชุดวิชาการจัดเก็บและการค้นคืน สารสนเทศ (Information Storage and Retrieval) หน่วยที่ 1-15. นนทบุรี: สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สมพร พุทธาพิทักษ์ผล. 2545. “ทฤษฎีพนฐานเกี่ยวกับการจัดเก็บและการค้นคืน ื้ สารสนเทศ.” ใน ประมวลสาระชุดวิชาการจัดเก็บและการค้นคืนสารสนเทศ (Information Storage and Retrieval), หน่วยที่ 1-4, หน้า 31-62. นนทบุรี: สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.