SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 49
191

พระราชบัญ ญัต ิ
การเลือ กตั้ง สมาชิก สภาท้อ งถิ่น หรือ ผู้บ ริห ารท้อ ง
ถิ่น
พ.ศ. ๒๕๔๕
[แก้ไ ขเพิ่ม เติม ถึง (ฉบับ ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๖]
ภูม ิพ ลอดุล ยเดช ปร.
ให้ไ ว้ ณ วัน ที่ ๑๑ ตุล าคม พ.ศ.๒๕๔๕
เป็น ปีท ี่ ๕๗ ในรัช กาลปัจ จุบ ัน
พระบาทสมเด็ จพระปรมิ นทรมหาภู มิ พลอดุ ลยเดช มี พระบรม
ราชโองการโปรดเกล้ าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มี
กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำากัด
สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำาได้ โดยอาศัย
อำานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้
ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำาแนะนำาและยินยอมของรัฐสภา ดัง
ต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการ
เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๕”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป แต่จะใช้บังคับแก่การเลือก
ตังสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วน
้
ท้องถิ่นประเภทใดและเมื่อใด ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
การดำาเนินการตราพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่ง ให้นายก
รัฐมนตรีรับฟังข้อเสนอแนะของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
มาตรา ๓ เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับพระราช
บัญญัตินี้แก่การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ของ
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
192
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทใดแล้ว ให้ยกเลิกกฎหมายว่าด้วย
การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทนั้น ดังต่อไปนี้
(๑) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร
และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๓๑
(๒) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด
พุทธศักราช ๒๔๘๒
(๓) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๔๘๕
(๔) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๔๙๘
(๕) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๑๗
(๖) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๕)
พ.ศ. ๒๕๒๓
(๗) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๖)
พ.ศ. ๒๕๓๘
(๘) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
พุทธศักราช ๒๔๘๒
(๙) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่
๒) พ.ศ. ๒๔๘๕
(๑๐) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๖
(๑๑) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๑
(๑๒) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
(ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๑
(๑๓) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๑๗
(๑๔) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
(ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๑๗
(๑๕) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๒๓
(๑๖) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๓๘
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
193
(๑๗) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๔๑
ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น กำาหนดให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้
บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทอื่น เมื่อมีพระ
ราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้แก่การเลือกตั้งสมาชิกสภา
ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภท
อืนนั้นก่อน ให้กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้
่
บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทอื่น ซึ่งถูก
ยกเลิกไปตามวรรคหนึ่งยังคงให้ใช้บังคับแก่การเลือกตั้งสมาชิกสภา
ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งยัง
มิได้มีพระราชกฤษฎีกา ให้ใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้
เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้ แก่การ
เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นประเภทใดแล้ว บรรดาบทกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ
ประกาศหรือคำาสั่งใด ที่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ
นี้ให้ใช้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้แทน
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำาบล กรุงเทพมหานคร
เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง
“สภาท้องถิ่น” หมายความว่า สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด
สภาเทศบาล สภาองค์การบริหารส่วนตำาบล สภากรุงเทพมหานคร
สภาเมืองพัทยา และสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น
“ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความรวมถึง คณะผู้บริหารท้องถิ่น
“หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิน” หมายความว่า ปลัดองค์การ
่
บริหารส่วนจังหวัด ปลัดเทศบาล ปลัดองค์การบริหารส่วนตำาบล ปลัด
กรุงเทพมหานคร ปลัดเมืองพัทยา และหัวหน้าพนักงานหรือหัวหน้า
ข้าราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น
“คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หมายความว่า คณะกรรมการ
การเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการ
การเลือกตั้ง

สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
194
“คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด” หมายความว่า
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด ตามกฎหมายประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
“นายอำาเภอ” หมายความรวมถึง ผู้อำานวยการเขตและปลัด
อำาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำากิ่งอำาเภอ
“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย” หมายความว่า ข้าราชการ
ตำารวจหรือข้าราชการพลเรือน หรือข้าราชการทหาร หรือพนักงาน
ฝ่ายปกครอง หรือสมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
ที่ได้รับแต่งตั้ง ให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้ง
“ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภา
ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
“ผู้สมัคร” หมายความว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา
ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
“ผู้ได้รับเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิก
สภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
“การเลือกตั้ง” หมายความว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น
หรือผู้บริหารท้องถิ่น
“วันเลือกตั้ง” หมายความว่า วันที่กำาหนดให้เป็นวันเลือกตั้ง
สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
“เขตเลือกตั้ง” หมายความว่า ท้องที่ที่กำาหนดเป็นเขตเลือกตั้ง
สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
“หน่วยเลือกตั้ง” หมายความว่า ท้องถิ่นที่กำาหนดให้ผู้มีสิทธิ
เลือกตั้งทำาการลงคะแนนเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งใด ที่เลือกตั้งหนึ่ง
“ที่เลือกตั้ง” หมายความว่า สถานที่ที่กำาหนดให้ทำาการลง
คะแนนเลือกตั้ง และให้หมายความรวมถึงบริเวณที่กำาหนดขึ้นโดยรอบ
ที่เลือกตั้ง
“จังหวัด” หมายความรวมถึง กรุงเทพมหานคร
“อำาเภอ” หมายความรวมถึง เขตและกิ่งอำาเภอ
“ตำาบล” หมายความรวมถึง แขวง
“ศาลากลางจังหวัด” หมายความรวมถึง ศาลาว่าการ
กรุงเทพมหานคร
“ที่ว่าการอำาเภอ” หมายความรวมถึง สำานักงานเขตและที่
ว่าการกิ่งอำาเภอ

สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
195
“เทศบาล” หมายความรวมถึงเมืองพัทยาและองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นอืนที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
่
รูปแบบพิเศษ
มาตรา ๕ ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระ
ราชบัญญัตินี้และให้มีอำานาจออกประกาศ ระเบียบ ข้อกำาหนด หรือคำา
สั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
หมวด ๑
บททัว ไป
่
มาตรา ๖ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือก
ตังผู้สมัครได้ไม่เกินจำานวนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่
้
จะพึงมีในเขตเลือกตั้งการเลือกตั้ง ให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนน
โดยตรงและลับ
มาตรา ๗ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้ง
ภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
ดำารงตำาแหน่งครบวาระ หรือภายในหกสิบวันนับแต่วันที่สมาชิกสภา
ท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตำาแหน่งเพราะเหตุอื่นใด
นอกจากครบวาระ เว้นแต่วาระการดำารงตำาแหน่งของสมาชิกสภาท้อง
ถิ่นจะเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
คณะกรรมการการเลือกตั้ง อาจมีคำาสั่งขยายหรือย่นระยะเวลา
ให้มีการเลือกตั้งตามวรรคหนึ่งได้ตามความจำาเป็นเมื่อมีพฤติการณ์
พิเศษ โดยต้องระบุเหตุผลการมีคำาสั่งดังกล่าวด้วยในการจัดให้มีการ
เลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วย
เหลือและอำานวยความสะดวกในการจัดการเลือกตั้ง
มาตรา ๘ เมื่อมีกรณีที่ต้องมีการเลือกตั้ง ให้ผู้อำานวยการการ
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามมาตรา ๑๙ ประกาศ
ให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งอย่างน้อยต้องมีเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) วันเลือกตั้ง
(๒) วันรับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งต้องให้มีการเริ่มรับสมัครไม่เกินสิบ
วันนับแต่วันประกาศให้มีการเลือกตั้ง และต้องกำาหนดวันรับสมัครไม่
น้อยกว่าห้าวัน
(๓) สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง
(๔) จำานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้งในแต่ละเขต
เลือกตั้ง
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
196
(๕) จำานวนเขตเลือกตั้ง ซึ่งต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับอำาเภอ
หรือตำาบลหรือเขตท้องที่ที่อยู่ภายในเขตเลือกตั้ง
(๖) หลักฐานการสมัครรับเลือกตั้ง
การกำาหนดตาม (๑) (๒) (๔) และ (๕) ต้องได้รับความเห็นชอบ
จากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัดก่อน
ประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ปิดไว้ ณ ที่ทำาการองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นนั้น และสถานที่อื่นตามที่ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำา
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควร
มาตรา ๙ ให้ผู้อำานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วย
การทะเบียนราษฎร มีหน้าที่จัดทำาบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของ
แต่ละหน่วยเลือกตั้ง จากทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตามกฎหมาย
ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ถูกต้องตาม
ความจริง
มาตรา ๑๐ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบในค่าใช้
จ่ายในการเลือกตั้งทั้งหมด เว้นแต่ค่าใช้จ่ายของคณะกรรมการการ
เลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด
ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมีรายได้ไม่เพียงพอ
สำาหรับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้คณะรัฐมนตรี
พิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นตาม
ความจำาเป็น
มาตรา ๑๑ เพื่อให้การดำาเนินการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ
นี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรม นอกจากอำานาจ
หน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามที่กำาหนดไว้ในกฎหมาย
ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้คณะ
กรรมการการเลือกตั้ง มีอำานาจออกระเบียบเกี่ยวกับ วิธีการและระยะ
เวลาในการดำาเนินการในเรื่องใดๆ ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราช
บัญญัตินี้ ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวต้องไม่มีผลเป็นการตัดสิทธิหรือลงโทษ
บุคคลใด และเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
มาตรา ๑๒ ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง สั่งให้มีการ
เลือกตั้งใหม่ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำานาจออกประกาศให้ย่น
หรือขยายระยะเวลา หรืองดเว้นการดำาเนินการที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัตินี้ เฉพาะในการเลือกตั้งนั้นเพื่อให้
เหมาะสมแก่การดำาเนินการเลือกตั้งใหม่ให้เป็นไปโดยรวดเร็ว สุจริต
และเที่ยงธรรมได้
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
197
หมวด ๒
เขตเลือ กตัง หน่ว ยเลือ กตัง และที่เ ลือ กตั้ง
้
้
มาตรา ๑๓ การกำาหนดเขตเลือกตั้งสำาหรับการเลือกตั้งสมาชิก
สภาท้องถิ่น ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(๑) การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ให้ถือเขตเป็น
เขตเลือกตั้ง ถ้าเขตใดมีจำานวนราษฎร ตามหลักฐานการทะเบียน
ราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง เกินหนึ่งแสนคน
ให้แบ่งเขตนั้นออกเป็นเขตเลือกตั้ง โดยถือเกณฑ์จำานวนราษฎรหนึ่ง
แสนคน เศษของหนึ่งแสนถ้าเกินห้าหมื่น ให้เพิ่มเขตเลือกตั้งในเขต
นันได้อีกหนึ่งเขตเลือกตั้ง
้
(๒) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้ถือ
เขตอำาเภอเป็นเขตเลือกตั้ง ในกรณีที่อำาเภอใดมีสมาชิกได้เกินกว่า
หนึงคนให้แบ่งเขตอำาเภอเป็นเขตเลือกตั้งเท่ากับจำานวนสมาชิกที่จะ
่
พึงมีในอำาเภอนั้น
(๓) การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำาบล ให้แบ่งเขตเทศบาล
เป็นสองเขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมือง ให้แบ่งเขต
เทศบาลเป็นสามเขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนคร
หรือการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยา ให้แบ่งเขตเทศบาลหรือเขต
เมืองพัทยาเป็นสี่เขตเลือกตั้ง และต้องมีจำานวนสมาชิกสภาเทศบาลเท่า
กันทุกเขตเลือกตั้ง
(๔) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล ให้ถือ
เขตหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง
(๕) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ให้
ถือเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเป็นเขตเลือกตั้ง เว้นแต่
กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นจะกำาหนดไว้
เป็นอย่างอื่น
มาตรา ๑๔ ในการแบ่งเขตเลือกตั้งต้องพยายามจัดให้มีจำานวน
ราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ใกล้เคียงกันมากที่สุดและต้องแบ่งพื้นที่
ของแต่ละเขตเลือกตั้งให้ติดต่อกัน ในเขตเทศบาลหรือเขตชุมชนหนา
แน่นอาจกำาหนดให้ใช้แนวถนน ตรอกหรือซอย คลอง หรือแม่นำ้าเป็น
แนวเขตของเขตเลือกตั้งได้ สำาหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภา
กรุงเทพมหานคร มิให้นำาพื้นที่เพียงบางส่วนของเขตหนึ่งไปรวมกับ
เขตอื่น
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
198
มาตรา ๑๕ เพื่อประโยชน์ในการแบ่งเขตเลือกตั้งตามมาตรา
๑๔ ให้ผู้อำานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียน
ราษฎร มีหน้าที่แจ้งรายละเอียดของจำานวนราษฎรเป็นรายจังหวัด
รายอำาเภอ รายเทศบาล รายองค์การบริหารส่วนตำาบล รายตำาบล และ
รายหมู่บ้าน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบภายในยี่สิบวันนับแต่
วันที่ผู้อำานวยการทะเบียนกลางประกาศจำานวนราษฎรทั้งประเทศ
ในกรณีทมการเปลียนแปลงเขตจังหวัด เขตอำาเภอ เขตเทศบาล
ี่ ี
่
เขตองค์การบริหารส่วนตำาบล เขตตำาบล หรือเขตหมู่บ้าน ให้ปลัด
กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่แจ้งการเปลี่ยนแปลงให้คณะกรรมการ
การเลือกตั้งทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วนที่มีการเปลี่ยนแปลง
ั
มาตรา ๑๖ การกำาหนดเขตเลือกตั้งสำาหรับการเลือกตั้งผู้บริหาร
ท้องถิ่น ให้ใช้เขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเป็นเขตเลือกตั้ง
มาตรา ๑๗
ให้ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น กำาหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งที่จะพึงมีใน
แต่ละเขตเลือกตั้ง
การกำาหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้
กระทำาก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่ายี่สิบวัน โดยให้ทำาเป็นประกาศปิด
ไว้ ณ ที่ทำาการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น และสถานที่อื่นที่เห็น
สมควรรวมทั้งให้จัดทำาแผนที่สังเขปแสดงเขตของหน่วยเลือกตั้งและที่
เลือกตั้งไว้ด้วย
การเปลี่ยนแปลงเขตของหน่วยเลือกตั้งหรือที่เลือกตั้ง ให้
กระทำาได้โดยประกาศก่อนวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่าสิบวัน เว้นแต่ใน
กรณีฉุกเฉินจะประกาศเปลี่ยนแปลงก่อนวันเลือกตั้งน้อยกว่าสิบวัน
ก็ได้ และ ให้นำาความในวรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๑๘ การกำาหนดหน่วยเลือกตั้งตามมาตรา ๑๗ ให้คำานึง
ถึงความสะดวกในการเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งของราษฎร ตามหลัก
เกณฑ์ดังต่อไปนี้
(๑) ให้ใช้เขตหมู่บ้านเป็นเขตของหน่วยเลือกตั้ง ในกรณีที่
หมู่บ้านใดมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำานวนน้อยจะให้รวมหมู่บ้าน ตั้งแต่สอง
หมู่บ้านขึ้นไป เป็นหน่วยเลือกตั้งเดียวกันก็ได้ สำาหรับในเขตเทศบาล
เขตกรุงเทพมหานคร หรือเขตชุมชนหนาแน่น อาจกำาหนดให้ใช้แนว
ถนน ตรอกหรือซอย คลอง หรือแม่นำ้าเป็นแนวเขตของหน่วยเลือกตั้ง
ก็ได้
(๒) ให้ถือเกณฑ์จำานวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งละแปด
ร้อยคนเป็นประมาณ แต่ถ้าเห็นว่าไม่เป็นการสะดวก หรือไม่ปลอดภัย
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
199
ในการไปลงคะแนนเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จะกำาหนดหน่วย
เลือกตั้งเพิ่มขึ้น โดยให้มีจำานวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าจำานวนดัง
กล่าวก็ได้
ที่เลือกตั้งตามมาตรา ๑๗ ต้องเป็นสถานที่ที่ประชาชนเข้าออก
ได้สะดวกและมีป้ายหรือเครื่องหมายอื่นใดเพื่อแสดงขอบเขตบริเวณ
ของที่เลือกตั้งตามลักษณะของท้องที่และภูมิประเทศไว้ด้วยและเพื่อ
ประโยชน์ในการอำานวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือเพื่อความ
ปลอดภัยของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้อำานวยการเลือกตั้งประจำาองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น จะกำาหนดที่เลือกตั้งนอกเขตของหน่วยเลือกตั้ง
ก็ได้แต่ต้องอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับหน่วยเลือกตั้งนั้น
หมวด ๓
การดำา เนิน การเลือ กตัง
้
มาตรา ๑๙เมื่อมีกรณีที่ต้องมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น
หรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้คณะ
กรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัดแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานส่วนท้อง
ถิ่น เป็นผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น ประกอบด้วยหัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่นนั้น และกรรมการอื่นอีก
ไม่น้อยกว่าสี่คนแต่ไม่เกินหกคน เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดให้มีการ
เลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องปฏิบัติตามประกาศ ระเบียบ
ข้อกำาหนด คำาสั่ง หรือการมอบหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด
การสรรหา การแต่งตั้ง ระยะเวลาการดำารงตำาแหน่ง และการ
พ้นจากตำาแหน่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการการ
เลือกตั้งกำาหนด
มาตรา ๒๐ ให้ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นมีอำานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) รับสมัครเลือกตั้ง
(๒) กำาหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง
(๓) แต่งตั้งและจัดอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำาเนินการเลือกตั้ง
(๔) ตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และดำาเนินการเพิ่ม
ชือ หรือถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
่
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
200
(๕) ดำาเนินการเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง การนับคะแนน
เลือกตั้ง และการประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง
(๖) จัดให้มีหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการเลือก
ตัง
้
(๗) ดำาเนินการอื่นอันจำาเป็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ใดตามวรรคหนึ่ง คณะ
กรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด อาจแต่งตั้ง หรือมอบหมายให้
คณะบุคคล หรือบุคคลใดเป็นผู้ช่วยเหลือ ในการปฏิบัติหน้าที่ได้ตาม
ระเบียบ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำาหนด
มาตรา ๒๑ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นมีอำานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) เสนอแนะและให้ความเห็นชอบในการกำาหนดหน่วยเลือก
ตัง ที่เลือกตั้ง และการแต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ดำาเนินการเลือกตั้งของผู้
้
อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(๒) ตรวจสอบและให้ความเห็นชอบในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ
เลือกตั้ง และการเพิ่มชื่อหรือถอนชื่อ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
(๓) กำากับดูแล และอำานวยการการเลือกตั้ง การลงคะแนนเลือก
ตัง การนับคะแนนเลือกตั้ง และการประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง
้
(๔) กำาหนดสถานที่รวบรวมผลคะแนน และรวบรวมผลคะแนน
ของทุกหน่วยเลือกตั้งและรายงานผลการเลือกตั้งต่อคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจำาจังหวัด
(๕) ปฏิบัติการใดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือ
กฎหมายอื่น หรือตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจำาจังหวัดมอบหมาย
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะ
กรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด มีอำานาจแต่งตัง หรือมอบหมาย
้
ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ง
ตังคณะอนุกรรมการ หรือคณะบุคคลหรือบุคคลใดเป็นผู้ช่วยเหลือใน
้
การปฏิบัติงานในการเลือกตั้งได้ตามสมควร
มาตรา ๒๒เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น
หรือผู้บริหารท้องถิ่น คณะกรรมการการเลือกตั้งอาจมีคำาสั่งให้นาย
อำาเภอดำาเนินการในเรื่องใดที่เป็นอำานาจหน้าที่ของผู้อำานวยการการ
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัตินี้ได้
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
201
ในกรณีที่นายอำาเภอได้รับคำาสั่งให้ดำาเนินการในเรื่องใดตาม
วรรคหนึ่ง ให้บรรดาอำานาจหน้าที่ของผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำา
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัตินี้ในเรื่องนั้นเป็น
อำานาจหน้าที่ของนายอำาเภอ
มาตรา ๒๓ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่ายี่สิบวัน ให้ผู้อำานวยการ
การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของ
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่งตังผู้
้
มีสิทธิเลือกตั้งเป็นเจ้าพนักงานผู้ดำาเนินการเลือกตั้ง ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้อำานวยการประจำาหน่วยเลือกตั้งหนึ่งคน
(๒) คณะกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งจำานวนเจ็ดคน
ประกอบด้วยประธานกรรมการหนึ่งคน และกรรมการอีกหกคน มี
อำานาจหน้าที่เกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้งในที่เลือกตั้งของแต่ละ
หน่วยเลือกตั้ง
ในการประชุมเพื่อวินิจฉัยปัญหาในการปฏิบัติตามอำานาจ
หน้าที่ของคณะกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้ง ต้องมีกรรมการอยู่ใน
การประชุมนั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่
และการลงมติให้ใช้เสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ ในกรณีที่คะแนนเสียง
เท่ากันให้ประธานออกเสียงชี้ขาดให้ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำา
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ประจำาที่เลือกตั้ง อย่างน้อยที่เลือกตั้งละสองคน
หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง รวมทั้งอำานาจหน้าที่ของผู้
อำานวยการประจำาหน่วยเลือกตั้ง คณะกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้ง
และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้งให้เป็นไปตาม
ระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำาหนด
[อนุ (๒) ของมาตรา ๒๓ แก้ไขโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๖]

มาตรา ๒๔ในวันเลือกตั้ง ถ้าถึงเวลาเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง
แล้วมีกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบเจ็ดคน ให้
กรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้นแต่งตังผู้มีสิทธิ
้
เลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น เป็นกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้ง จนครบ
เจ็ดคนไปพลางก่อน จนกว่ากรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งที่ได้รับแต่ง
ตังไว้แล้วจะมาปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการ
้
ประจำาหน่วยเลือกตั้งสำารองไว้ ให้ผู้นั้นเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน
มาตรา ๒๕เมื่อมีการเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด
ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นจัดให้พนักงานส่วนท้องถิ่นช่วย
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
202
เหลือและอำานวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำานวยการ
การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและคณะกรรมการการ
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมีพนักงานส่วนท้องถิ่น
ไม่เพียงพอใน การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ผู้
อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือคณะ
กรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจร้องขอต่อ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อมีคำาสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้าง
ของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วน
ท้องถิ่น ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจังหวัดนั้นให้ช่วยเหลือในการปฏิบัติ
งานเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้
ให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างซึ่งได้รับคำาสั่งตามวรรค
สอง มีหน้าที่ปฏิบัติตามที่ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมอบหมาย
มาตรา ๒๖ นอกจากหน้าที่ตามที่กำาหนดไว้ในพระราชบัญญัติ
นี้ หรือตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมายหรือสั่งการ ให้ผู้ว่า
ราชการจังหวัด นายอำาเภอ และพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำารวจตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีหน้าที่รักษาความสงบ
เรียบร้อยและความปลอดภัย ในการเลือกตั้ง
ให้ผู้บัญชาการตำารวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนาย
อำาเภอ จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาทีเลือกตัง ตามทีผู้
่
้
่
อำานวยการการเลือกตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถินร้องขอ
้
่
มาตรา ๒๗
ในกรณีที่มีการกระทำาความผิดตามพระราช
บัญญัตินี้ ให้ผู้พบการกระทำาความผิดแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครอง
หรือตำารวจหรือเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง
หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้ง
ถ้าผู้พบการกระทำาความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นเจ้าพนักงานผู้
ดำาเนินการเลือกตั้ง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการ
เลือกตั้ง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้งให้ดำาเนิน
การกล่าวโทษหรือดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่
ในกรณีที่เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง
หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้ง พบการกระ
ทำาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ในวันเลือกตั้ง หรือได้รับแจ้งโดยมี
พยานหลักฐานอันน่าเชื่อถือ และผู้กระทำาความผิดยังปรากฏตัวอยู่ใน
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
203
บริเวณที่เลือกตั้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย หรือเจ้าหน้าที่
รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้งมีอำานาจจับกุมและควบคุมตัวผู้
กระทำาความผิดส่งพนักงานสอบสวนดำาเนินการต่อไป โดยให้ถือว่า
เป็นกรณีพบการกระทำาความผิดซึ่งหน้า
มาตรา ๒๘ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจำาจังหวัด ผู้สมัคร ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือผู้มีหน้าที่
รักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยในการเลือกตั้ง ตาม
มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่ามีการกระทำาความ
ผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือในกรณีที่พนักงานสอบสวนทราบถึง
การกระทำาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ให้พนักงานสอบสวนดำาเนิน
การสอบสวนทันที โดยไม่ต้องมีผู้มาร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ
มาตรา ๒๙
ในกรณีที่มีข้อเท็จจริงปรากฏแก่คณะ
กรรมการการเลือกตั้งว่าข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผูแทนราษฎร
้
สมาชิกวุฒสภา ผูบริหารท้องถิน สมาชิกสภาท้องถิน หรือเจ้าหน้าทีอน
ิ
้
่
่
่ ื่
ของรัฐ กระทำาการใดๆ โดยมิชอบด้วยอำานาจหน้าที่อันเป็นการกลั่น
แกล้งผู้สมัครใด ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำานาจ หรือมอบ
หมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด หรือคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสั่งให้ยุติหรือระงับ
การกระทำานั้นได้
มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้
อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการ
การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำานวยการประจำา
หน่วยเลือกตั้ง กรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งและผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้
ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล
กฎหมายอาญา
มาตรา ๓๑ ค่าตอบแทนของกรรมการการเลือกตั้งประจำา
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น นายอำาเภอ กรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งและผู้
ซึ่งได้รับแต่งตังให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นไปตามที่
้
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำาหนดตามบัญชีค่าตอบแทน หรือ
มาตรฐานกลางในการจ่ายค่าตอบแทน ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง
กำาหนดไว้ โดยคำานึงถึงอำานาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความแตก
ต่างของปริมาณงานในการดำาเนินการเลือกตั้งขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทหรือแต่ละแห่ง
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
204
มาตรา ๓๒ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รับผิดชอบใน
การจัดพิมพ์ ควบคุมการพิมพ์ และจัดส่งบัตรเลือกตั้งและให้องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์บัตรเลือก
ตัง
้
หมวด ๔
ผู้ม ีส ิท ธิเ ลือ กตัง และบัญ ชีร ายชือ ผู้ม ส ิท ธิเ ลือ กตั้ง
้
่
ี
มาตรา ๓๓บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
(๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลง
สัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
(๒) มีอายุไม่ตำ่ากว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ ๑ มกราคมของปี
ที่มีการเลือกตั้ง
(๓) มีชื่ ออยู่ ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ งมาแล้ว เป็นเวลา
ติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่ งปี นับถึงวันเลือกตั้ง และ
(๔) คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นกำาหนด
ในกรณีที่มีการย้ายทะเบียนบ้านออกจากเขตเลือกตั้งหนึ่ง ไป
ยังอีกเขตเลือกตั้งหนึ่งภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกัน อัน
ทำาให้บุคคลมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกัน
น้อยกว่าหนึ่งปี นับถึงวันเลือกตั้ง ให้บุคคลนั้นมีสิทธิออกเสียงลง
คะแนนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านครั้ง
สุดท้าย เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
มาตรา ๓๔บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้งเป็นบุคคล
ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
(๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(๒) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
(๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำาสั่งที่ชอบด้วย
กฎหมาย
(๔) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
(๕) มีลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นกำาหนด
มาตรา ๓๕ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๓ และไม่มีลักษณะต้อง
ห้ามตามมาตรา ๓๔ มีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เว้นแต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
205
ซึ่งได้แจ้งเหตุ ดังต่อไปนี้ต่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น จะไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็ได้
(๑) เจ็บป่วย ไม่ว่าถึงขนาดต้องเข้ารับการรักษาในโรง
พยาบาลหรือไม่
(๒) มีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สะดวกในการไปใช้สิทธิเลือก
ตัง
้
(๓) มีอายุเกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
(๔) ไม่อยู่ในภูมิลำาเนาในเวลาเลือกตั้ง
(๕) เหตุอื่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำาหนดโดยประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา
การแจ้งเหตุตามวรรคหนึ่ง ให้ทำาเป็นหนังสือยื่นต่อผู้อำานวย
การการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งรับผิดชอบใน
การจัดให้มีการเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน โดยจะจัด
ส่งหนังสือแจ้งเหตุนนทางไปรษณีย์ก็ได้ ในการนี้ให้ผู้อำานวยการการ
ั้
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บันทึกเหตุที่ไม่อาจไปใช้
สิทธิเลือกตั้ง ไว้ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเก็บหนังสือแจ้ง
เหตุนนไว้เป็นหลักฐาน
ั้
การแจ้งเหตุตามวรรคสอง ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้
นัน ที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง
้
มาตรา ๓๖ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
โดยมิได้แจ้งเหตุตามมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง ให้ผู้นั้นทำาหนังสือแจ้งเหตุ
ดังกล่าวต่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่นภายในเจ็ดวันนับแต่วันเลือกตั้ง และให้นำาความในมาตรา ๓๕
วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
เมื่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น ได้รับหนังสือแจ้งเหตุตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ทำาการตรวจสอบหลัก
ฐานการลงคะแนนเลือกตั้ง ถ้าพบว่ามีผู้มาแสดงตนและลงคะแนนเลือก
ตังแทนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้ผู้อำานวยการการ
้
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายงานต่อคณะกรรมการ
การเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะสมควรมีคำาสั่งให้เพิกถอนผลการเลือก
ตังหรือไม่
้
มาตรา ๓๗
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
โดยมิได้แจ้งเหตุตามมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๓๖ วรรคหนึ่ง
ให้ผู้นั้นเสียสิทธิดังต่อไปนี้
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
206
(๑) สิทธิยื่นคำาร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและ
ผู้บริหารท้องถิ่น
(๒) สิทธิร้องคัดค้านการเลือกกำานันและผู้ใหญ่บ้านตาม
กฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่
(๓) สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหาร
ท้องถิ่น
(๔) สิทธิสมัครรับเลือกเป็นกำานันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมาย
ว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่
(๕) สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติ
ท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น
(๖) สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้
บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอน
สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
การเสียสิทธิตามวรรคหนึ่ง ให้มีกำาหนดเวลาตั้งแต่วันเลือกตั้ง
ครั้งที่ผู้นั้นไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้งครั้งที่ผู้นั้นไปใช้
สิทธิเลือกตั้ง
มาตรา ๓๘เมื่อได้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว ให้ผู้อำานวย
การการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบบัญชี
รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของแต่ละหน่วยเลือกตั้งจากบัญชีรายชื่อผู้มี
สิทธิเลือกตั้ง ตามมาตรา ๙ ให้ถูกต้องตามความจริง และประกาศบัญชี
รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้โดยเปิดเผย ณ ศาลากลางจังหวัด หรือที่
ว่าการอำาเภอที่ตั้งอยู่ในเขตเลือกตั้งนั้น ที่ทำาการองค์กรปกครองส่วน
ท้องถินนัน ทีเลือกตังหรือบริเวณใกล้เคียงกับทีเลือกตังและสถานทีอนที่
่ ้
่
้
่
้
่ ื่
เห็นสมควรก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่ายี่สิบวันและแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิ
เลือกตั้งให้เจ้าบ้านทราบก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
ในกรณีที่ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น พบว่าการจัดทำาบัญชีรายชือผูมสทธิเลือกตัง มีความผิดพลาด
่ ้ ี ิ
้
หรือมีเหตุอนควรเชือได้วามีการย้ายบุคคลใดเข้ามาในทะเบียนบ้าน เพื่อ
ั
่
่
ประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบ ไม่ว่าจะพบเหตุดังกล่าวก่อนหรือ
หลังการประกาศบัญชีรายชื่อผู้มสทธิเลือกตัง ให้ผอำานวยการการเลือก
ี ิ
้
ู้
ตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน รายงานต่อคณะกรรมการ การ
้
่
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเร็ว ถ้าคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เห็นว่ากรณีดังกล่าว
เป็นความจริง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
207
ส่วนท้องถิ่น มีคำาสั่งให้แก้ไขหรือถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีราย
ชือผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้
่
มาตรา ๓๙
ผูมสทธิเลือกตังหรือเจ้าบ้านผูใดเห็นว่าตนหรือ
้ ี ิ
้
้
ผูมชออยูในทะเบียนบ้านของตนไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ
้ ี ื่
่
เลือกตั้ง ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบวัน
เมือผูอำานวยการการเลือกตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน
่ ้
้
่
ได้รบหนังสือตามวรรคหนึงแล้ว ให้รบตรวจสอบหลักฐาน ถ้าเห็นว่าผูแจ้ง
ั
่
ี
้
หรือผูมชออยูในทะเบียนบ้านเป็นผูมสทธิเลือกตัง ให้ผอำานวยการการ
้ ี ื่
่
้ ี ิ
้
ู้
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำาเนินการเพิ่มชื่อผู้นั้นลง
ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยเร็วและแจ้งให้ผู้แจ้งและเจ้าบ้าน
ทราบ แต่ถ้าเห็นว่าบุคคลผู้แจ้งหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นผู้ไม่มี
สิทธิเลือกตัง ให้ผอำานวยการการเลือกตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง
้
ู้
้
ถิน รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วน
่
ท้องถิ่น พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้แจ้งหรือเจ้าบ้านทราบภายในสามวันนับแต่
วันที่ได้รับหนังสือ
ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น เห็นว่าผู้แจ้งหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นผู้มีสิทธิ
เลือกตั้ง ให้มีคำาสั่งเพิ่มชื่อผู้นั้นลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและ
ให้แจ้งไปยังผูอำานวยการการเลือกตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน
้
้
่
โดยเร็ว ในการนีให้ผอำานวยการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วน
้
ู้
ท้องถิ่น ปฏิบัติตามคำาสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นและแจ้งให้ผู้แจ้งและเจ้าบ้านทราบโดยเร็ว
มาตรา ๔๐ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดเห็นว่าผู้มีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชี
รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้ประกาศตามมาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง เป็นผู้
ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้มีสิทธิยื่นคำาร้องต่อผู้อำานวยการการเลือกตั้ง
ประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบวัน
เพื่อให้ถอนชื่อผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ
เลือกตั้ง
เมื่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้
ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้มีคำาสั่งถอนชื่อผู้นั้น ออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ
เลือกตั้ง และแจ้งให้ผู้ยื่นคำาร้องและเจ้าบ้านทราบ ถ้าผู้อำานวยการการ
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นว่าผู้มีชื่ออยู่ในบัญชี
รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้รายงานต่อคณะ
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
208
กรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมทั้งแจ้ง
ให้ผู้ยื่นคำาร้องทราบภายในสามวันนับแต่วันได้รับคำาร้อง ในกรณีที่
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เห็นว่าผู้
มีชออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้มีคำา
ื่
สั่งถอนชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและให้นำาความ
ในมาตรา ๓๙ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ถ้าเจ้าบ้านผู้ใดเห็นว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ปรากฏชื่อ
บุคคลอื่นซึ่งมิได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของตน เมื่อเจ้าบ้านหรือผู้ซึ่ง
เจ้าบ้านมอบหมายนำาหลักฐานทะเบียนบ้านมาแสดงให้เห็นว่าไม่มีชื่อ
บุคคลนั้นอยู่ในทะเบียนบ้าน ให้ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำา
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือคณะกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้ง
แล้วแต่กรณี มีคำาสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ
เลือกตั้ง และแจ้งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายทราบโดยเร็ว
กรณีตามวรรคสองหรือวรรคสาม ถ้าผู้ที่ถูกถอนชื่อออกจาก
บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
และยืนคำาร้องคัดค้านการถูกถอนชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตัง
่
้
ประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน ให้คณะกรรมการการเลือกตังประจำา
่
้
องค์กรปกครองส่วนท้องถิน ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยโดยเร็ว
่
คำาวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นให้เป็นที่สุด
มาตรา ๔๑ ในกรณีที่ศาลมีคำาพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนสิทธิ
เลือกตั้งของบุคคลใด และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับแจ้งคำา
พิพากษานั้นแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งผู้อำานวยการการ
เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้บันทึกไว้ในบัญชี
รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
มาตรา ๔๒ในกรณีที่มีการถอนชื่อบุคคลใดออกจากบัญชีราย
ชือผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามมาตรา ๓๘ วรรคสอง หรือมาตรา ๔๐ วรรค
่
สองหรือวรรคสาม หรือเพิ่มชื่อบุคคลใดลงในบัญชีรายชื่อ ผู้มีสิทธิ
เลือกตั้งตามมาตรา ๓๙ วรรคสอง หรือในกรณีที่ศาลมีคำาพิพากษา
ถึงที่สุดให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลใดตามมาตรา ๔๑ ให้ผู้
อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งต่อผู้
อำานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร เพื่อ
แก้ไขบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามมาตรา ๙ ให้ถูกต้องด้วย
มาตรา ๔๓ห้ามมิให้ผู้ใดดำาเนินการย้ายบุคคลเข้ามาใน
ทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบ
สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
209
กรณีดังต่อไปนี้ให้สันนิษฐานว่าเป็นการย้ายบุคคลเข้ามาใน
ทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบด้วย เว้นแต่คณะ
กรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัดพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการย้าย
โดยมีเหตุผลอันสมควร
(๑) การย้ายบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปซึ่งไม่มีชื่อสกุลเดียวกับ
เจ้าบ้านเข้ามาในทะเบียนบ้าน เพื่อให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิเลือกตั้ง ที่
จะมีขึ้นภายในสองปีนับแต่วนที่ย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้าน
ั
(๒) การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยบุคคลนั้นมิได้อยู่
อาศัยจริง
(๓) การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยมิได้รับความ
ยินยอมจากเจ้าบ้าน
หมวด ๕
ผูส มัค ร การสมัค รรับ เลือ กตัง และตัว แทนผู้ส มัค ร
้
้
มาตรา ๔๔ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับ
เลือกตั้ง
(๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
(๒) มีอายุไม่ตำ่ากว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
(๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันสมัคร
รับเลือกตั้ง หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือน และ
ที่ดินหรือกฎหมายว่าด้วยภาษีบำารุงท้องที่ให้กับองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นนันเป็นเวลาติดต่อกันสามปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง และ
้
(๔) คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นกำาหนด
มาตรา ๔๕ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้
ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
(๑) ติดยาเสพติดให้โทษ
(๒) เป็นบุคคลล้มละลาย
(๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตาม
มาตรา ๓๔ (๑) (๒) หรือ (๔)
(๔) ต้องคำาพิพากษาให้จำาคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล

สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ
9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

แนวข้อสอบพรบ.เทศบาล 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
แนวข้อสอบพรบ.เทศบาล 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแนวข้อสอบพรบ.เทศบาล 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
แนวข้อสอบพรบ.เทศบาล 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมsasithorn pachareon
 
ระเบียบ ข้อบังคับ นิติบุคลหมู่บ้านปาริชาต 345
ระเบียบ ข้อบังคับ นิติบุคลหมู่บ้านปาริชาต 345ระเบียบ ข้อบังคับ นิติบุคลหมู่บ้านปาริชาต 345
ระเบียบ ข้อบังคับ นิติบุคลหมู่บ้านปาริชาต 345STOU e-Library
 
ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติมwasanyen
 
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...ประพันธ์ เวารัมย์
 
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน25502 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550สายฝน ต๊ะวันนา
 
ล03 20-9999-update
ล03 20-9999-updateล03 20-9999-update
ล03 20-9999-updateMoo Moomoom
 
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 SakaeoPlan
 
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ถึง ฉบ...
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ถึง ฉบ...สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ถึง ฉบ...
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ถึง ฉบ...ประพันธ์ เวารัมย์
 

La actualidad más candente (15)

สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 8 พ...
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 8 พ...สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 8 พ...
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 8 พ...
 
T 0164
T 0164T 0164
T 0164
 
1
11
1
 
แนวข้อสอบพรบ.เทศบาล 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
แนวข้อสอบพรบ.เทศบาล 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแนวข้อสอบพรบ.เทศบาล 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
แนวข้อสอบพรบ.เทศบาล 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
 
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่...
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่...สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่...
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่...
 
ระเบียบ ข้อบังคับ นิติบุคลหมู่บ้านปาริชาต 345
ระเบียบ ข้อบังคับ นิติบุคลหมู่บ้านปาริชาต 345ระเบียบ ข้อบังคับ นิติบุคลหมู่บ้านปาริชาต 345
ระเบียบ ข้อบังคับ นิติบุคลหมู่บ้านปาริชาต 345
 
Political Official Ethics
Political Official EthicsPolitical Official Ethics
Political Official Ethics
 
8 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒
8 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒8 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒
8 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒
 
ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
 
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...
 
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน25502 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
 
รวมข้อบังคับการประชุม
รวมข้อบังคับการประชุมรวมข้อบังคับการประชุม
รวมข้อบังคับการประชุม
 
ล03 20-9999-update
ล03 20-9999-updateล03 20-9999-update
ล03 20-9999-update
 
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550
 
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ถึง ฉบ...
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ถึง ฉบ...สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ถึง ฉบ...
สรุปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ถึง ฉบ...
 

Más de ประพันธ์ เวารัมย์ แบ่งปันความรู้ส่ความก้าวหน้า

Más de ประพันธ์ เวารัมย์ แบ่งปันความรู้ส่ความก้าวหน้า (20)

แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
 
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
 
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการตรวจสอบภายในขององค์กรปกครองส่วนท้องถ...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการตรวจสอบภายในขององค์กรปกครองส่วนท้องถ...แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการตรวจสอบภายในขององค์กรปกครองส่วนท้องถ...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการตรวจสอบภายในขององค์กรปกครองส่วนท้องถ...
 
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุ 2535...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุ 2535...แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุ 2535...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุ 2535...
 
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
 
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
 
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 254...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 254...แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 254...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 254...
 
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้อ...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้อ...แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้อ...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้อ...
 
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเต...
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเต...แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเต...
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเต...
 
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 2
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 2แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 2
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 2
 
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1) 2
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1) 2แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1) 2
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1) 2
 
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1)
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1)แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1)
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1)
 
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
 
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 แก้ไขถึงฉบับที่ 10 ...
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 แก้ไขถึงฉบับที่ 10 ...แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 แก้ไขถึงฉบับที่ 10 ...
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 แก้ไขถึงฉบับที่ 10 ...
 
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ...
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ...แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ...
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ...
 
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารแนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร
 
แนวข้อสอบ พรบ. กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจ พ.ศ. 2542 แก้ไข ถึง 2549 4...
แนวข้อสอบ พรบ. กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจ พ.ศ. 2542 แก้ไข ถึง 2549  4...แนวข้อสอบ พรบ. กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจ พ.ศ. 2542 แก้ไข ถึง 2549  4...
แนวข้อสอบ พรบ. กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจ พ.ศ. 2542 แก้ไข ถึง 2549 4...
 
แนวข้อสอบ ตำแหน่งบุคลากร นักทรัพยากรบุคคล
แนวข้อสอบ ตำแหน่งบุคลากร นักทรัพยากรบุคคลแนวข้อสอบ ตำแหน่งบุคลากร นักทรัพยากรบุคคล
แนวข้อสอบ ตำแหน่งบุคลากร นักทรัพยากรบุคคล
 
แนวข้อสอบ ด้านการเงินหรือการคลังของท้องถิ่น (เจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงาน-นักวิชาก...
แนวข้อสอบ ด้านการเงินหรือการคลังของท้องถิ่น (เจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงาน-นักวิชาก...แนวข้อสอบ ด้านการเงินหรือการคลังของท้องถิ่น (เจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงาน-นักวิชาก...
แนวข้อสอบ ด้านการเงินหรือการคลังของท้องถิ่น (เจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงาน-นักวิชาก...
 
แนวข้อสอบ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 2
แนวข้อสอบ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 2แนวข้อสอบ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 2
แนวข้อสอบ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 2
 

9 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อ

  • 1. 191 พระราชบัญ ญัต ิ การเลือ กตั้ง สมาชิก สภาท้อ งถิ่น หรือ ผู้บ ริห ารท้อ ง ถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๕ [แก้ไ ขเพิ่ม เติม ถึง (ฉบับ ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๖] ภูม ิพ ลอดุล ยเดช ปร. ให้ไ ว้ ณ วัน ที่ ๑๑ ตุล าคม พ.ศ.๒๕๔๕ เป็น ปีท ี่ ๕๗ ในรัช กาลปัจ จุบ ัน พระบาทสมเด็ จพระปรมิ นทรมหาภู มิ พลอดุ ลยเดช มี พระบรม ราชโองการโปรดเกล้ าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มี กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำากัด สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำาได้ โดยอาศัย อำานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำาแนะนำาและยินยอมของรัฐสภา ดัง ต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการ เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๕” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวัน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป แต่จะใช้บังคับแก่การเลือก ตังสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วน ้ ท้องถิ่นประเภทใดและเมื่อใด ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา การดำาเนินการตราพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่ง ให้นายก รัฐมนตรีรับฟังข้อเสนอแนะของคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา ๓ เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับพระราช บัญญัตินี้แก่การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ของ สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 2. 192 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทใดแล้ว ให้ยกเลิกกฎหมายว่าด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทนั้น ดังต่อไปนี้ (๑) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๓๑ (๒) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช ๒๔๘๒ (๓) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๕ (๔) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๘ (๕) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๗ (๖) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๓ (๗) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๓๘ (๘) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ (๙) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๕ (๑๐) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๖ (๑๑) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๑ (๑๒) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๑ (๑๓) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๑๗ (๑๔) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๑๗ (๑๕) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๒๓ (๑๖) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๓๘ สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 3. 193 (๑๗) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๔๑ ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น กำาหนดให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้ บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทอื่น เมื่อมีพระ ราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้แก่การเลือกตั้งสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภท อืนนั้นก่อน ให้กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้ ่ บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทอื่น ซึ่งถูก ยกเลิกไปตามวรรคหนึ่งยังคงให้ใช้บังคับแก่การเลือกตั้งสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งยัง มิได้มีพระราชกฤษฎีกา ให้ใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้ เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้ แก่การ เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นประเภทใดแล้ว บรรดาบทกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศหรือคำาสั่งใด ที่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ นี้ให้ใช้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้แทน มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์การบริหาร ส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำาบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง “สภาท้องถิ่น” หมายความว่า สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สภาเทศบาล สภาองค์การบริหารส่วนตำาบล สภากรุงเทพมหานคร สภาเมืองพัทยา และสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น “ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความรวมถึง คณะผู้บริหารท้องถิ่น “หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิน” หมายความว่า ปลัดองค์การ ่ บริหารส่วนจังหวัด ปลัดเทศบาล ปลัดองค์การบริหารส่วนตำาบล ปลัด กรุงเทพมหานคร ปลัดเมืองพัทยา และหัวหน้าพนักงานหรือหัวหน้า ข้าราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หมายความว่า คณะกรรมการ การเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการ การเลือกตั้ง สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 4. 194 “คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด” หมายความว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด ตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง “นายอำาเภอ” หมายความรวมถึง ผู้อำานวยการเขตและปลัด อำาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำากิ่งอำาเภอ “เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย” หมายความว่า ข้าราชการ ตำารวจหรือข้าราชการพลเรือน หรือข้าราชการทหาร หรือพนักงาน ฝ่ายปกครอง หรือสมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ที่ได้รับแต่งตั้ง ให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้ง “ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น “ผู้สมัคร” หมายความว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น “ผู้ได้รับเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิก สภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น “การเลือกตั้ง” หมายความว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น “วันเลือกตั้ง” หมายความว่า วันที่กำาหนดให้เป็นวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น “เขตเลือกตั้ง” หมายความว่า ท้องที่ที่กำาหนดเป็นเขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น “หน่วยเลือกตั้ง” หมายความว่า ท้องถิ่นที่กำาหนดให้ผู้มีสิทธิ เลือกตั้งทำาการลงคะแนนเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งใด ที่เลือกตั้งหนึ่ง “ที่เลือกตั้ง” หมายความว่า สถานที่ที่กำาหนดให้ทำาการลง คะแนนเลือกตั้ง และให้หมายความรวมถึงบริเวณที่กำาหนดขึ้นโดยรอบ ที่เลือกตั้ง “จังหวัด” หมายความรวมถึง กรุงเทพมหานคร “อำาเภอ” หมายความรวมถึง เขตและกิ่งอำาเภอ “ตำาบล” หมายความรวมถึง แขวง “ศาลากลางจังหวัด” หมายความรวมถึง ศาลาว่าการ กรุงเทพมหานคร “ที่ว่าการอำาเภอ” หมายความรวมถึง สำานักงานเขตและที่ ว่าการกิ่งอำาเภอ สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 5. 195 “เทศบาล” หมายความรวมถึงเมืองพัทยาและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นอืนที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ่ รูปแบบพิเศษ มาตรา ๕ ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระ ราชบัญญัตินี้และให้มีอำานาจออกประกาศ ระเบียบ ข้อกำาหนด หรือคำา สั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ หมวด ๑ บททัว ไป ่ มาตรา ๖ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือก ตังผู้สมัครได้ไม่เกินจำานวนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ ้ จะพึงมีในเขตเลือกตั้งการเลือกตั้ง ให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนน โดยตรงและลับ มาตรา ๗ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้ง ภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ดำารงตำาแหน่งครบวาระ หรือภายในหกสิบวันนับแต่วันที่สมาชิกสภา ท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตำาแหน่งเพราะเหตุอื่นใด นอกจากครบวาระ เว้นแต่วาระการดำารงตำาแหน่งของสมาชิกสภาท้อง ถิ่นจะเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งร้อยแปดสิบวัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง อาจมีคำาสั่งขยายหรือย่นระยะเวลา ให้มีการเลือกตั้งตามวรรคหนึ่งได้ตามความจำาเป็นเมื่อมีพฤติการณ์ พิเศษ โดยต้องระบุเหตุผลการมีคำาสั่งดังกล่าวด้วยในการจัดให้มีการ เลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วย เหลือและอำานวยความสะดวกในการจัดการเลือกตั้ง มาตรา ๘ เมื่อมีกรณีที่ต้องมีการเลือกตั้ง ให้ผู้อำานวยการการ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามมาตรา ๑๙ ประกาศ ให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งอย่างน้อยต้องมีเรื่องดังต่อไปนี้ (๑) วันเลือกตั้ง (๒) วันรับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งต้องให้มีการเริ่มรับสมัครไม่เกินสิบ วันนับแต่วันประกาศให้มีการเลือกตั้ง และต้องกำาหนดวันรับสมัครไม่ น้อยกว่าห้าวัน (๓) สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง (๔) จำานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้งในแต่ละเขต เลือกตั้ง สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 6. 196 (๕) จำานวนเขตเลือกตั้ง ซึ่งต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับอำาเภอ หรือตำาบลหรือเขตท้องที่ที่อยู่ภายในเขตเลือกตั้ง (๖) หลักฐานการสมัครรับเลือกตั้ง การกำาหนดตาม (๑) (๒) (๔) และ (๕) ต้องได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัดก่อน ประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ปิดไว้ ณ ที่ทำาการองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นนั้น และสถานที่อื่นตามที่ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควร มาตรา ๙ ให้ผู้อำานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วย การทะเบียนราษฎร มีหน้าที่จัดทำาบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของ แต่ละหน่วยเลือกตั้ง จากทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ถูกต้องตาม ความจริง มาตรา ๑๐ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบในค่าใช้ จ่ายในการเลือกตั้งทั้งหมด เว้นแต่ค่าใช้จ่ายของคณะกรรมการการ เลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมีรายได้ไม่เพียงพอ สำาหรับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นตาม ความจำาเป็น มาตรา ๑๑ เพื่อให้การดำาเนินการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ นี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรม นอกจากอำานาจ หน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามที่กำาหนดไว้ในกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้คณะ กรรมการการเลือกตั้ง มีอำานาจออกระเบียบเกี่ยวกับ วิธีการและระยะ เวลาในการดำาเนินการในเรื่องใดๆ ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราช บัญญัตินี้ ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวต้องไม่มีผลเป็นการตัดสิทธิหรือลงโทษ บุคคลใด และเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ มาตรา ๑๒ ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง สั่งให้มีการ เลือกตั้งใหม่ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำานาจออกประกาศให้ย่น หรือขยายระยะเวลา หรืองดเว้นการดำาเนินการที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัตินี้ เฉพาะในการเลือกตั้งนั้นเพื่อให้ เหมาะสมแก่การดำาเนินการเลือกตั้งใหม่ให้เป็นไปโดยรวดเร็ว สุจริต และเที่ยงธรรมได้ สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 7. 197 หมวด ๒ เขตเลือ กตัง หน่ว ยเลือ กตัง และที่เ ลือ กตั้ง ้ ้ มาตรา ๑๓ การกำาหนดเขตเลือกตั้งสำาหรับการเลือกตั้งสมาชิก สภาท้องถิ่น ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (๑) การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ให้ถือเขตเป็น เขตเลือกตั้ง ถ้าเขตใดมีจำานวนราษฎร ตามหลักฐานการทะเบียน ราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง เกินหนึ่งแสนคน ให้แบ่งเขตนั้นออกเป็นเขตเลือกตั้ง โดยถือเกณฑ์จำานวนราษฎรหนึ่ง แสนคน เศษของหนึ่งแสนถ้าเกินห้าหมื่น ให้เพิ่มเขตเลือกตั้งในเขต นันได้อีกหนึ่งเขตเลือกตั้ง ้ (๒) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้ถือ เขตอำาเภอเป็นเขตเลือกตั้ง ในกรณีที่อำาเภอใดมีสมาชิกได้เกินกว่า หนึงคนให้แบ่งเขตอำาเภอเป็นเขตเลือกตั้งเท่ากับจำานวนสมาชิกที่จะ ่ พึงมีในอำาเภอนั้น (๓) การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำาบล ให้แบ่งเขตเทศบาล เป็นสองเขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมือง ให้แบ่งเขต เทศบาลเป็นสามเขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนคร หรือการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยา ให้แบ่งเขตเทศบาลหรือเขต เมืองพัทยาเป็นสี่เขตเลือกตั้ง และต้องมีจำานวนสมาชิกสภาเทศบาลเท่า กันทุกเขตเลือกตั้ง (๔) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำาบล ให้ถือ เขตหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง (๕) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ให้ ถือเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเป็นเขตเลือกตั้ง เว้นแต่ กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นจะกำาหนดไว้ เป็นอย่างอื่น มาตรา ๑๔ ในการแบ่งเขตเลือกตั้งต้องพยายามจัดให้มีจำานวน ราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ใกล้เคียงกันมากที่สุดและต้องแบ่งพื้นที่ ของแต่ละเขตเลือกตั้งให้ติดต่อกัน ในเขตเทศบาลหรือเขตชุมชนหนา แน่นอาจกำาหนดให้ใช้แนวถนน ตรอกหรือซอย คลอง หรือแม่นำ้าเป็น แนวเขตของเขตเลือกตั้งได้ สำาหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภา กรุงเทพมหานคร มิให้นำาพื้นที่เพียงบางส่วนของเขตหนึ่งไปรวมกับ เขตอื่น สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 8. 198 มาตรา ๑๕ เพื่อประโยชน์ในการแบ่งเขตเลือกตั้งตามมาตรา ๑๔ ให้ผู้อำานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียน ราษฎร มีหน้าที่แจ้งรายละเอียดของจำานวนราษฎรเป็นรายจังหวัด รายอำาเภอ รายเทศบาล รายองค์การบริหารส่วนตำาบล รายตำาบล และ รายหมู่บ้าน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบภายในยี่สิบวันนับแต่ วันที่ผู้อำานวยการทะเบียนกลางประกาศจำานวนราษฎรทั้งประเทศ ในกรณีทมการเปลียนแปลงเขตจังหวัด เขตอำาเภอ เขตเทศบาล ี่ ี ่ เขตองค์การบริหารส่วนตำาบล เขตตำาบล หรือเขตหมู่บ้าน ให้ปลัด กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่แจ้งการเปลี่ยนแปลงให้คณะกรรมการ การเลือกตั้งทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วนที่มีการเปลี่ยนแปลง ั มาตรา ๑๖ การกำาหนดเขตเลือกตั้งสำาหรับการเลือกตั้งผู้บริหาร ท้องถิ่น ให้ใช้เขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเป็นเขตเลือกตั้ง มาตรา ๑๗ ให้ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น กำาหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งที่จะพึงมีใน แต่ละเขตเลือกตั้ง การกำาหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้ กระทำาก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่ายี่สิบวัน โดยให้ทำาเป็นประกาศปิด ไว้ ณ ที่ทำาการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น และสถานที่อื่นที่เห็น สมควรรวมทั้งให้จัดทำาแผนที่สังเขปแสดงเขตของหน่วยเลือกตั้งและที่ เลือกตั้งไว้ด้วย การเปลี่ยนแปลงเขตของหน่วยเลือกตั้งหรือที่เลือกตั้ง ให้ กระทำาได้โดยประกาศก่อนวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่าสิบวัน เว้นแต่ใน กรณีฉุกเฉินจะประกาศเปลี่ยนแปลงก่อนวันเลือกตั้งน้อยกว่าสิบวัน ก็ได้ และ ให้นำาความในวรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม มาตรา ๑๘ การกำาหนดหน่วยเลือกตั้งตามมาตรา ๑๗ ให้คำานึง ถึงความสะดวกในการเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งของราษฎร ตามหลัก เกณฑ์ดังต่อไปนี้ (๑) ให้ใช้เขตหมู่บ้านเป็นเขตของหน่วยเลือกตั้ง ในกรณีที่ หมู่บ้านใดมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำานวนน้อยจะให้รวมหมู่บ้าน ตั้งแต่สอง หมู่บ้านขึ้นไป เป็นหน่วยเลือกตั้งเดียวกันก็ได้ สำาหรับในเขตเทศบาล เขตกรุงเทพมหานคร หรือเขตชุมชนหนาแน่น อาจกำาหนดให้ใช้แนว ถนน ตรอกหรือซอย คลอง หรือแม่นำ้าเป็นแนวเขตของหน่วยเลือกตั้ง ก็ได้ (๒) ให้ถือเกณฑ์จำานวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งละแปด ร้อยคนเป็นประมาณ แต่ถ้าเห็นว่าไม่เป็นการสะดวก หรือไม่ปลอดภัย สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 9. 199 ในการไปลงคะแนนเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จะกำาหนดหน่วย เลือกตั้งเพิ่มขึ้น โดยให้มีจำานวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าจำานวนดัง กล่าวก็ได้ ที่เลือกตั้งตามมาตรา ๑๗ ต้องเป็นสถานที่ที่ประชาชนเข้าออก ได้สะดวกและมีป้ายหรือเครื่องหมายอื่นใดเพื่อแสดงขอบเขตบริเวณ ของที่เลือกตั้งตามลักษณะของท้องที่และภูมิประเทศไว้ด้วยและเพื่อ ประโยชน์ในการอำานวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือเพื่อความ ปลอดภัยของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้อำานวยการเลือกตั้งประจำาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น จะกำาหนดที่เลือกตั้งนอกเขตของหน่วยเลือกตั้ง ก็ได้แต่ต้องอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับหน่วยเลือกตั้งนั้น หมวด ๓ การดำา เนิน การเลือ กตัง ้ มาตรา ๑๙เมื่อมีกรณีที่ต้องมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้คณะ กรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัดแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานส่วนท้อง ถิ่น เป็นผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น ประกอบด้วยหัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่นนั้น และกรรมการอื่นอีก ไม่น้อยกว่าสี่คนแต่ไม่เกินหกคน เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดให้มีการ เลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องปฏิบัติตามประกาศ ระเบียบ ข้อกำาหนด คำาสั่ง หรือการมอบหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด การสรรหา การแต่งตั้ง ระยะเวลาการดำารงตำาแหน่ง และการ พ้นจากตำาแหน่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการการ เลือกตั้งกำาหนด มาตรา ๒๐ ให้ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นมีอำานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) รับสมัครเลือกตั้ง (๒) กำาหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง (๓) แต่งตั้งและจัดอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำาเนินการเลือกตั้ง (๔) ตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และดำาเนินการเพิ่ม ชือ หรือถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ่ สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 10. 200 (๕) ดำาเนินการเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง การนับคะแนน เลือกตั้ง และการประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง (๖) จัดให้มีหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการเลือก ตัง ้ (๗) ดำาเนินการอื่นอันจำาเป็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ใดตามวรรคหนึ่ง คณะ กรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด อาจแต่งตั้ง หรือมอบหมายให้ คณะบุคคล หรือบุคคลใดเป็นผู้ช่วยเหลือ ในการปฏิบัติหน้าที่ได้ตาม ระเบียบ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำาหนด มาตรา ๒๑ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นมีอำานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) เสนอแนะและให้ความเห็นชอบในการกำาหนดหน่วยเลือก ตัง ที่เลือกตั้ง และการแต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ดำาเนินการเลือกตั้งของผู้ ้ อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๒) ตรวจสอบและให้ความเห็นชอบในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง และการเพิ่มชื่อหรือถอนชื่อ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (๓) กำากับดูแล และอำานวยการการเลือกตั้ง การลงคะแนนเลือก ตัง การนับคะแนนเลือกตั้ง และการประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ้ (๔) กำาหนดสถานที่รวบรวมผลคะแนน และรวบรวมผลคะแนน ของทุกหน่วยเลือกตั้งและรายงานผลการเลือกตั้งต่อคณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำาจังหวัด (๕) ปฏิบัติการใดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือ กฎหมายอื่น หรือตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือคณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำาจังหวัดมอบหมาย เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะ กรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด มีอำานาจแต่งตัง หรือมอบหมาย ้ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ง ตังคณะอนุกรรมการ หรือคณะบุคคลหรือบุคคลใดเป็นผู้ช่วยเหลือใน ้ การปฏิบัติงานในการเลือกตั้งได้ตามสมควร มาตรา ๒๒เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น คณะกรรมการการเลือกตั้งอาจมีคำาสั่งให้นาย อำาเภอดำาเนินการในเรื่องใดที่เป็นอำานาจหน้าที่ของผู้อำานวยการการ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัตินี้ได้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 11. 201 ในกรณีที่นายอำาเภอได้รับคำาสั่งให้ดำาเนินการในเรื่องใดตาม วรรคหนึ่ง ให้บรรดาอำานาจหน้าที่ของผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัตินี้ในเรื่องนั้นเป็น อำานาจหน้าที่ของนายอำาเภอ มาตรา ๒๓ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่ายี่สิบวัน ให้ผู้อำานวยการ การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่งตังผู้ ้ มีสิทธิเลือกตั้งเป็นเจ้าพนักงานผู้ดำาเนินการเลือกตั้ง ดังต่อไปนี้ (๑) ผู้อำานวยการประจำาหน่วยเลือกตั้งหนึ่งคน (๒) คณะกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งจำานวนเจ็ดคน ประกอบด้วยประธานกรรมการหนึ่งคน และกรรมการอีกหกคน มี อำานาจหน้าที่เกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้งในที่เลือกตั้งของแต่ละ หน่วยเลือกตั้ง ในการประชุมเพื่อวินิจฉัยปัญหาในการปฏิบัติตามอำานาจ หน้าที่ของคณะกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้ง ต้องมีกรรมการอยู่ใน การประชุมนั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ และการลงมติให้ใช้เสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ ในกรณีที่คะแนนเสียง เท่ากันให้ประธานออกเสียงชี้ขาดให้ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประจำาที่เลือกตั้ง อย่างน้อยที่เลือกตั้งละสองคน หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง รวมทั้งอำานาจหน้าที่ของผู้ อำานวยการประจำาหน่วยเลือกตั้ง คณะกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้งให้เป็นไปตาม ระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำาหนด [อนุ (๒) ของมาตรา ๒๓ แก้ไขโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๖] มาตรา ๒๔ในวันเลือกตั้ง ถ้าถึงเวลาเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง แล้วมีกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบเจ็ดคน ให้ กรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้นแต่งตังผู้มีสิทธิ ้ เลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น เป็นกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้ง จนครบ เจ็ดคนไปพลางก่อน จนกว่ากรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งที่ได้รับแต่ง ตังไว้แล้วจะมาปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการ ้ ประจำาหน่วยเลือกตั้งสำารองไว้ ให้ผู้นั้นเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน มาตรา ๒๕เมื่อมีการเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นจัดให้พนักงานส่วนท้องถิ่นช่วย สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 12. 202 เหลือและอำานวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำานวยการ การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและคณะกรรมการการ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมีพนักงานส่วนท้องถิ่น ไม่เพียงพอใน การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ผู้ อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือคณะ กรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจร้องขอต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อมีคำาสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้าง ของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วน ท้องถิ่น ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจังหวัดนั้นให้ช่วยเหลือในการปฏิบัติ งานเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้ ให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างซึ่งได้รับคำาสั่งตามวรรค สอง มีหน้าที่ปฏิบัติตามที่ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นมอบหมาย มาตรา ๒๖ นอกจากหน้าที่ตามที่กำาหนดไว้ในพระราชบัญญัติ นี้ หรือตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมายหรือสั่งการ ให้ผู้ว่า ราชการจังหวัด นายอำาเภอ และพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำารวจตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีหน้าที่รักษาความสงบ เรียบร้อยและความปลอดภัย ในการเลือกตั้ง ให้ผู้บัญชาการตำารวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนาย อำาเภอ จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาทีเลือกตัง ตามทีผู้ ่ ้ ่ อำานวยการการเลือกตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถินร้องขอ ้ ่ มาตรา ๒๗ ในกรณีที่มีการกระทำาความผิดตามพระราช บัญญัตินี้ ให้ผู้พบการกระทำาความผิดแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำารวจหรือเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้ง ถ้าผู้พบการกระทำาความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นเจ้าพนักงานผู้ ดำาเนินการเลือกตั้ง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการ เลือกตั้ง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้งให้ดำาเนิน การกล่าวโทษหรือดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้ง พบการกระ ทำาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ในวันเลือกตั้ง หรือได้รับแจ้งโดยมี พยานหลักฐานอันน่าเชื่อถือ และผู้กระทำาความผิดยังปรากฏตัวอยู่ใน สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 13. 203 บริเวณที่เลือกตั้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย หรือเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยประจำาที่เลือกตั้งมีอำานาจจับกุมและควบคุมตัวผู้ กระทำาความผิดส่งพนักงานสอบสวนดำาเนินการต่อไป โดยให้ถือว่า เป็นกรณีพบการกระทำาความผิดซึ่งหน้า มาตรา ๒๘ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำาจังหวัด ผู้สมัคร ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือผู้มีหน้าที่ รักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยในการเลือกตั้ง ตาม มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่ามีการกระทำาความ ผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือในกรณีที่พนักงานสอบสวนทราบถึง การกระทำาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ให้พนักงานสอบสวนดำาเนิน การสอบสวนทันที โดยไม่ต้องมีผู้มาร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ มาตรา ๒๙ ในกรณีที่มีข้อเท็จจริงปรากฏแก่คณะ กรรมการการเลือกตั้งว่าข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผูแทนราษฎร ้ สมาชิกวุฒสภา ผูบริหารท้องถิน สมาชิกสภาท้องถิน หรือเจ้าหน้าทีอน ิ ้ ่ ่ ่ ื่ ของรัฐ กระทำาการใดๆ โดยมิชอบด้วยอำานาจหน้าที่อันเป็นการกลั่น แกล้งผู้สมัครใด ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำานาจ หรือมอบ หมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด หรือคณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสั่งให้ยุติหรือระงับ การกระทำานั้นได้ มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้ อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการ การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำานวยการประจำา หน่วยเลือกตั้ง กรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งและผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๓๑ ค่าตอบแทนของกรรมการการเลือกตั้งประจำา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น นายอำาเภอ กรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้งและผู้ ซึ่งได้รับแต่งตังให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นไปตามที่ ้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำาหนดตามบัญชีค่าตอบแทน หรือ มาตรฐานกลางในการจ่ายค่าตอบแทน ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำาหนดไว้ โดยคำานึงถึงอำานาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความแตก ต่างของปริมาณงานในการดำาเนินการเลือกตั้งขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทหรือแต่ละแห่ง สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 14. 204 มาตรา ๓๒ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รับผิดชอบใน การจัดพิมพ์ ควบคุมการพิมพ์ และจัดส่งบัตรเลือกตั้งและให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์บัตรเลือก ตัง ้ หมวด ๔ ผู้ม ีส ิท ธิเ ลือ กตัง และบัญ ชีร ายชือ ผู้ม ส ิท ธิเ ลือ กตั้ง ้ ่ ี มาตรา ๓๓บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลง สัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี (๒) มีอายุไม่ตำ่ากว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ ๑ มกราคมของปี ที่มีการเลือกตั้ง (๓) มีชื่ ออยู่ ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ งมาแล้ว เป็นเวลา ติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่ งปี นับถึงวันเลือกตั้ง และ (๔) คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นกำาหนด ในกรณีที่มีการย้ายทะเบียนบ้านออกจากเขตเลือกตั้งหนึ่ง ไป ยังอีกเขตเลือกตั้งหนึ่งภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกัน อัน ทำาให้บุคคลมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกัน น้อยกว่าหนึ่งปี นับถึงวันเลือกตั้ง ให้บุคคลนั้นมีสิทธิออกเสียงลง คะแนนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านครั้ง สุดท้าย เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปี มาตรา ๓๔บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้งเป็นบุคคล ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง (๑) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (๒) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช (๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำาสั่งที่ชอบด้วย กฎหมาย (๔) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (๕) มีลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นกำาหนด มาตรา ๓๕ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๓ และไม่มีลักษณะต้อง ห้ามตามมาตรา ๓๔ มีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เว้นแต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 15. 205 ซึ่งได้แจ้งเหตุ ดังต่อไปนี้ต่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น จะไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็ได้ (๑) เจ็บป่วย ไม่ว่าถึงขนาดต้องเข้ารับการรักษาในโรง พยาบาลหรือไม่ (๒) มีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สะดวกในการไปใช้สิทธิเลือก ตัง ้ (๓) มีอายุเกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง (๔) ไม่อยู่ในภูมิลำาเนาในเวลาเลือกตั้ง (๕) เหตุอื่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำาหนดโดยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา การแจ้งเหตุตามวรรคหนึ่ง ให้ทำาเป็นหนังสือยื่นต่อผู้อำานวย การการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งรับผิดชอบใน การจัดให้มีการเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน โดยจะจัด ส่งหนังสือแจ้งเหตุนนทางไปรษณีย์ก็ได้ ในการนี้ให้ผู้อำานวยการการ ั้ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บันทึกเหตุที่ไม่อาจไปใช้ สิทธิเลือกตั้ง ไว้ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเก็บหนังสือแจ้ง เหตุนนไว้เป็นหลักฐาน ั้ การแจ้งเหตุตามวรรคสอง ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ นัน ที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง ้ มาตรา ๓๖ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยมิได้แจ้งเหตุตามมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง ให้ผู้นั้นทำาหนังสือแจ้งเหตุ ดังกล่าวต่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่นภายในเจ็ดวันนับแต่วันเลือกตั้ง และให้นำาความในมาตรา ๓๕ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม เมื่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น ได้รับหนังสือแจ้งเหตุตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ทำาการตรวจสอบหลัก ฐานการลงคะแนนเลือกตั้ง ถ้าพบว่ามีผู้มาแสดงตนและลงคะแนนเลือก ตังแทนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้ผู้อำานวยการการ ้ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายงานต่อคณะกรรมการ การเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะสมควรมีคำาสั่งให้เพิกถอนผลการเลือก ตังหรือไม่ ้ มาตรา ๓๗ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยมิได้แจ้งเหตุตามมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๓๖ วรรคหนึ่ง ให้ผู้นั้นเสียสิทธิดังต่อไปนี้ สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 16. 206 (๑) สิทธิยื่นคำาร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและ ผู้บริหารท้องถิ่น (๒) สิทธิร้องคัดค้านการเลือกกำานันและผู้ใหญ่บ้านตาม กฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ (๓) สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหาร ท้องถิ่น (๔) สิทธิสมัครรับเลือกเป็นกำานันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมาย ว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ (๕) สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติ ท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น (๖) สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้ บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอน สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น การเสียสิทธิตามวรรคหนึ่ง ให้มีกำาหนดเวลาตั้งแต่วันเลือกตั้ง ครั้งที่ผู้นั้นไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้งครั้งที่ผู้นั้นไปใช้ สิทธิเลือกตั้ง มาตรา ๓๘เมื่อได้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว ให้ผู้อำานวย การการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบบัญชี รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของแต่ละหน่วยเลือกตั้งจากบัญชีรายชื่อผู้มี สิทธิเลือกตั้ง ตามมาตรา ๙ ให้ถูกต้องตามความจริง และประกาศบัญชี รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้โดยเปิดเผย ณ ศาลากลางจังหวัด หรือที่ ว่าการอำาเภอที่ตั้งอยู่ในเขตเลือกตั้งนั้น ที่ทำาการองค์กรปกครองส่วน ท้องถินนัน ทีเลือกตังหรือบริเวณใกล้เคียงกับทีเลือกตังและสถานทีอนที่ ่ ้ ่ ้ ่ ้ ่ ื่ เห็นสมควรก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่ายี่สิบวันและแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิ เลือกตั้งให้เจ้าบ้านทราบก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ในกรณีที่ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น พบว่าการจัดทำาบัญชีรายชือผูมสทธิเลือกตัง มีความผิดพลาด ่ ้ ี ิ ้ หรือมีเหตุอนควรเชือได้วามีการย้ายบุคคลใดเข้ามาในทะเบียนบ้าน เพื่อ ั ่ ่ ประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบ ไม่ว่าจะพบเหตุดังกล่าวก่อนหรือ หลังการประกาศบัญชีรายชื่อผู้มสทธิเลือกตัง ให้ผอำานวยการการเลือก ี ิ ้ ู้ ตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน รายงานต่อคณะกรรมการ การ ้ ่ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเร็ว ถ้าคณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เห็นว่ากรณีดังกล่าว เป็นความจริง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 17. 207 ส่วนท้องถิ่น มีคำาสั่งให้แก้ไขหรือถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีราย ชือผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ ่ มาตรา ๓๙ ผูมสทธิเลือกตังหรือเจ้าบ้านผูใดเห็นว่าตนหรือ ้ ี ิ ้ ้ ผูมชออยูในทะเบียนบ้านของตนไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ ้ ี ื่ ่ เลือกตั้ง ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบวัน เมือผูอำานวยการการเลือกตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน ่ ้ ้ ่ ได้รบหนังสือตามวรรคหนึงแล้ว ให้รบตรวจสอบหลักฐาน ถ้าเห็นว่าผูแจ้ง ั ่ ี ้ หรือผูมชออยูในทะเบียนบ้านเป็นผูมสทธิเลือกตัง ให้ผอำานวยการการ ้ ี ื่ ่ ้ ี ิ ้ ู้ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำาเนินการเพิ่มชื่อผู้นั้นลง ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยเร็วและแจ้งให้ผู้แจ้งและเจ้าบ้าน ทราบ แต่ถ้าเห็นว่าบุคคลผู้แจ้งหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นผู้ไม่มี สิทธิเลือกตัง ให้ผอำานวยการการเลือกตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง ้ ู้ ้ ถิน รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วน ่ ท้องถิ่น พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้แจ้งหรือเจ้าบ้านทราบภายในสามวันนับแต่ วันที่ได้รับหนังสือ ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เห็นว่าผู้แจ้งหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง ให้มีคำาสั่งเพิ่มชื่อผู้นั้นลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและ ให้แจ้งไปยังผูอำานวยการการเลือกตังประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน ้ ้ ่ โดยเร็ว ในการนีให้ผอำานวยการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วน ้ ู้ ท้องถิ่น ปฏิบัติตามคำาสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นและแจ้งให้ผู้แจ้งและเจ้าบ้านทราบโดยเร็ว มาตรา ๔๐ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดเห็นว่าผู้มีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชี รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้ประกาศตามมาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง เป็นผู้ ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้มีสิทธิยื่นคำาร้องต่อผู้อำานวยการการเลือกตั้ง ประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบวัน เพื่อให้ถอนชื่อผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง เมื่อผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้ ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้มีคำาสั่งถอนชื่อผู้นั้น ออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง และแจ้งให้ผู้ยื่นคำาร้องและเจ้าบ้านทราบ ถ้าผู้อำานวยการการ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นว่าผู้มีชื่ออยู่ในบัญชี รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้รายงานต่อคณะ สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 18. 208 กรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมทั้งแจ้ง ให้ผู้ยื่นคำาร้องทราบภายในสามวันนับแต่วันได้รับคำาร้อง ในกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เห็นว่าผู้ มีชออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้มีคำา ื่ สั่งถอนชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและให้นำาความ ในมาตรา ๓๙ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าเจ้าบ้านผู้ใดเห็นว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ปรากฏชื่อ บุคคลอื่นซึ่งมิได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของตน เมื่อเจ้าบ้านหรือผู้ซึ่ง เจ้าบ้านมอบหมายนำาหลักฐานทะเบียนบ้านมาแสดงให้เห็นว่าไม่มีชื่อ บุคคลนั้นอยู่ในทะเบียนบ้าน ให้ผู้อำานวยการการเลือกตั้งประจำา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือคณะกรรมการประจำาหน่วยเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี มีคำาสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง และแจ้งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายทราบโดยเร็ว กรณีตามวรรคสองหรือวรรคสาม ถ้าผู้ที่ถูกถอนชื่อออกจาก บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และยืนคำาร้องคัดค้านการถูกถอนชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตัง ่ ้ ประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน ให้คณะกรรมการการเลือกตังประจำา ่ ้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิน ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยโดยเร็ว ่ คำาวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นให้เป็นที่สุด มาตรา ๔๑ ในกรณีที่ศาลมีคำาพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนสิทธิ เลือกตั้งของบุคคลใด และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับแจ้งคำา พิพากษานั้นแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งผู้อำานวยการการ เลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้บันทึกไว้ในบัญชี รายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มาตรา ๔๒ในกรณีที่มีการถอนชื่อบุคคลใดออกจากบัญชีราย ชือผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามมาตรา ๓๘ วรรคสอง หรือมาตรา ๔๐ วรรค ่ สองหรือวรรคสาม หรือเพิ่มชื่อบุคคลใดลงในบัญชีรายชื่อ ผู้มีสิทธิ เลือกตั้งตามมาตรา ๓๙ วรรคสอง หรือในกรณีที่ศาลมีคำาพิพากษา ถึงที่สุดให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลใดตามมาตรา ๔๑ ให้ผู้ อำานวยการการเลือกตั้งประจำาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งต่อผู้ อำานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร เพื่อ แก้ไขบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามมาตรา ๙ ให้ถูกต้องด้วย มาตรา ๔๓ห้ามมิให้ผู้ใดดำาเนินการย้ายบุคคลเข้ามาใน ทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบ สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)
  • 19. 209 กรณีดังต่อไปนี้ให้สันนิษฐานว่าเป็นการย้ายบุคคลเข้ามาใน ทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบด้วย เว้นแต่คณะ กรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัดพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการย้าย โดยมีเหตุผลอันสมควร (๑) การย้ายบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปซึ่งไม่มีชื่อสกุลเดียวกับ เจ้าบ้านเข้ามาในทะเบียนบ้าน เพื่อให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิเลือกตั้ง ที่ จะมีขึ้นภายในสองปีนับแต่วนที่ย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้าน ั (๒) การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยบุคคลนั้นมิได้อยู่ อาศัยจริง (๓) การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยมิได้รับความ ยินยอมจากเจ้าบ้าน หมวด ๕ ผูส มัค ร การสมัค รรับ เลือ กตัง และตัว แทนผู้ส มัค ร ้ ้ มาตรา ๔๔ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับ เลือกตั้ง (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด (๒) มีอายุไม่ตำ่ากว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันสมัคร รับเลือกตั้ง หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือน และ ที่ดินหรือกฎหมายว่าด้วยภาษีบำารุงท้องที่ให้กับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นนันเป็นเวลาติดต่อกันสามปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง และ ้ (๔) คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นกำาหนด มาตรา ๔๕ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (๑) ติดยาเสพติดให้โทษ (๒) เป็นบุคคลล้มละลาย (๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตาม มาตรา ๓๔ (๑) (๒) หรือ (๔) (๔) ต้องคำาพิพากษาให้จำาคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล สำานักพัฒนาระบบ รูปแบบและโครงสร้าง (สพร.)