Más contenido relacionado Más de Akarawat Thanachitnawarat (10) Chapter 3 ฝึกลากรูปแบบต่างๆ2. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
หลังจากที่ฝึกหัดการมองเทรนแนวโน้มให้ออกแล้ว ก็เริ่มไปฝึกการ
มองหาแนวรับ-แนวต้าน รู้จักกัน
ดีแล้วก็เริ่มมองหาจังหวะเข้าซื้อขาย ฝึกกันบ่อย ๆ ครับ มองหาให้เจอ
บ่อย ๆ นานๆไปจะทำาให้เรา
มองภาพได้เร็วขึ้นและมองหาจังหวะได้ดีกว่านักลงทุนคนอื่น
ต่อไปก็มารู้จักรูปแบบจากการใช้เส้น Trendline ในการลากรูปแบบ
ต่างๆที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า
Chart patterns
เราจะมาฝึกลากรูปแบบแรก คือ Symmetrical Triangle เป็นรูปแบบ
สามเหลี่ยมที่สมดุล
กัน ลักษณะจะลากเอียงขาขึ้นและขาลงได้เอียงพอๆกัน (ดูจากในรูป)
ในกรอบสามเหลี่ยมนั่นจะ
เห็นว่าเปิดกว้างแล้วค่อยๆ เล็กลงจนทำามุมเป็นสามเหลี่ยม เป็นการเล่น
ราคากันระหว่างแรงซื้อและ
แรงขายที่ค่อยๆ บีบตัวจนเกิดรูปแบบดังกล่าว จนกว่าการบีบตัวใน
กรอบสามเหลี่ยมแคบลงโอกาสที่
3. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
Symmetrical triangle มีแบบขาขึ้นและขาลง และยังสามารถหาเป้า
หมาย(target)
ของรูปแบบนี้ได้ เป็นเป้าหมายระยะสั้น (ใช้หลักความน่าจะเป็น) ดูจาก
รูป
พื้นฐานจากรูปแบบนี้มาจากการรู้จักเทรนขาขึ้น ขาลง ด้านข้าง ลาก
เป็นก็สามารถหารูปแบบนี้ได้
มักจะเกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ
6. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
รูปแบบต่อคือ DESCENDING
TRIANGLE
ขาลง เป็นรูปแบบสามเหลี่ยมที่สามารถ
ลาก
Trendline ได้เทรนขาลงหนึ่งเส้นแล้ว
ลากเส้นตรง
ในแนวนอนได้อีกหนึ่งเส้น เมื่อลากสอง
เส้นนี้ได้แล้วก็คือ
กรอบสามเหลี่ยมของขาลง
(descending
triangle downtrend) จากในรูปจะ
สังเกตุเห็นว่า
เมื่อลากกรอบสามเหลี่ยมขาลงได้แล้ว
จะมีการบีบตัวใน
กรอบยิ่งแคบมากโอกาสที่จะระเบิดตัว
ของราคาลงต่อยิ่ง
มีโอกาสสูงมากขึ้น
ส่วนในกรอบสามเหลี่ยมขาลงนั่น จะสังเกตุเห็นของการลากเส้นตรง
บางครั้งอาจจะการเกิด
double bottom or triple bottom (false) หลอกเกิดขึ้นแล้วราคาดีด
ตัวลงไป
ต่อ จะเห็นว่าไม่ว่ารูปแบบและระบบอะไรก็ตามมักมีหลอกให้เห็น
เสมอ ๆ เราควรใช้เครื่องมือ
กรองกราฟหลายๆชั้นเพื่อหาจังหวะที่ดีที่สุดและผิดทางต้องกล้าที่
stop loss
8. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ รูปแบบต่อคือ ASCENDING
TRIANGLE ขาขึ้น เป็นรูปแบบ
สามเหลี่ยมที่สามารถลาก Trendline
ได้เทรนขาขึ้นหนึ่งเส้นแล้วลากเส้น
ตรงในแนวนอน (ด้านบน) ได้อีกหนึ่ง
เส้น เมื่อลากสองเส้นนี้ได้แล้วก็คือ
กรอบสามเหลี่ยมของขา
ขึ้น(ascending triangle uptrend)
จากในรูปจะสังเกตุเห็นว่าเมื่อลาก
กรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นได้แล้วจะมี
การบีบตัว ในกรอบยิ่งแคบมาก
โอกาสที่จะระเบิดตัวของราคาขึ้นต่อ
ยิ่งมีโอกาสสูงมากขึ้น
ส่วนในกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นนั่น จะสังเกตุเห็นของการลากเส้นตรง
บางครั้งอาจจะการเกิด double top or triple top (false) หลอกเกิดขึ้น
แล้วราคาดีดตัวขึ้นไปต่อได้
10. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
รูปแบบ WEDGES มีด้วยกัน 2 แบบคือ
FALLING WEDGES (เกิด bullish)
แบ่งได้อีกสองรูปแบบคือ ในช่วงการเกิดของ
ขาขึ้นและขาลง
RISING WEDGES (เกิด bearish)
แบ่งได้อีกสองรูปแบบคือ ในช่วงการเกิดของ
ขาขึ้นและขาลง
11. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
FALLING WEDGES (เกิด bullish)
ของในช่วงขาลงจะสามารถลาก
กรอบสามเหลี่ยมได้ในช่วงเทรนขา
ลง (ช่วงพักตัวของปลายเทรนขา
ลง) เมื่อทะลุกรอบสามเหลี่ยมขึ้นไป
ต่อได้คือการเกิด break out ของ
FALLING WEDGE IN A
DOWNTREND (BULLISH) แล้วจะ
วิ่งเปลื่ยนทิศจากขาลงไปเป็นขา
FALLING WEDGES (เกิด
bullish)ของในช่วงขาขึ้นจะ
สามารถลากกรอบสามเหลี่ยมได้ใน
ช่วงเทรนขาขึ้น(ช่วงพักตัวของ
เทรนขาขึ้น)เมื่อทะลุกรอบ
สามเหลี่ยมขึ้นไปต่อได้คือการเกิด
break out ของ FALLING WEDGE
IN AN UPTREND (BULLISH) แล้ว
12. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
RISING WEDGES (เกิด bearish)
ของในช่วงขาขึ้นจะสามารถลากกรอบ
สามเหลี่ยมได้ในช่วงเทรนขาขึ้น(ช่วงพัก
ตัวของปลายเทรนขาขึ้น)เมื่อทะลุกรอบ
สามเหลี่ยมลงมาได้คือการเกิด break out
ของ RISING WEDGE IN AN UPTREND
(BEARISH) แล้วจะวิ่งเปลื่อนทิศจากขาขึ้น
RISING WEDGES (เกิด bearish)
ของในช่วงขาลงจะสามารถลากกรอบ
สามเหลี่ยมได้ในช่วงเทรนขาลง (ช่วงพัก
ตัวของเทรนขาลง) เมื่อทะลุกรอบ
สามเหลี่ยมลงไปต่อได้คือการเกิด break
out ของ RISING WEDGE IN A
DOWNTREND (BEARISH) แล้วจะวิ่งลงไป
13. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
RECTANGLE UPTREND (เกิด
bullish) เป็นรูปแบบเส้นขนาน
กันสองเส้นในแนวโน้มขา
ขึ้น(ช่วงพักตัว)เมื่อลากกรอบ
เส้นขนานได้แล้วหลุดกรอบได้
เกิด break out แล้วขึ้นต่อ
รูปแบบ RECTANGLES มีรูปแบบด้วยกัน 2 แบบ คือ
RECTANGLE DOWNTREND
(เกิด bearish) เป็นรูปแบบเส้น
ขนานกันสองเส้นในแนวโน้มขา
ลง (ช่วงพักตัว) เมื่อลากกรอบ
เส้นขนานได้แล้วหลุดกรอบได้
เกิด break out แล้วลงต่อ
15. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
รูปแบบ FLAGS AND PENNANTS
รูปแบบ FLAGS จะเป็นรูปแบบ ธง (ขนานด้านข้าง) จะเกิด
ช่วงพักตัวของแนวโน้ม มี 2 แบบคือ
• ขาขึ้น (uptrend) เมื่อเราลากเส้น trendline ได้รูปธง (แบบ
ขนานด้านข้าง) ทะลุขึ้นไปได้เรียกว่า break out วิ่งขึ้นไปต่อ
• ขาลง (downtrend) เมื่อเราลากเส้น trendline ได้รูป ธง(แบบ
ขนานด้านข้าง) ทะลุลงไปได้เรียกว่า break out วิ่งลงไปต่อ
17. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
รูปแบบ PENNANTS จะเป็นรูปแบบ ธงสามเหลี่ยม จะเกิดช่วง
พักตัวของแนวโน้ม มี 2 แบบคือ
• ขาขึ้น (uptrend) เมื่อเราลากเส้น trendline ได้รูป ธง
สามเหลี่ยม ทะลุขึ้นไปได้เรียกว่า break out วิ่งขึ้นไปต่อ
• ขาลง (downtrend) เมื่อเราลากเส้น trendline ได้รูป ธง
สามเหลี่ยม ทะลุลงไปได้เรียกว่า break out วิ่งลงไปต่อ
19. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆรูปแบบ HEAD AND SHOULDERS
Head and shoulders pattern นั่นจะมี หัวและไหล่ (ด้านซ้ายและ
ขวา) จะมี head and shoulders ของขาขึ้น และ ขาลง
ส่วนใหญ่จะเรียก head and shoulders ขาขึ้นว่า หัวตั้ง (ด้านบน) เมื่อ
เกิดแบบนี้แล้วจะเป็น
การกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลงแรงๆ เสมอ ลักษณะนี้จะมี หัวอยู่บนสุด
และไหล่ทั้งซ้ายและขวาต้องไม่สูงกว่าหัว ถึงจะเรียกว่า head and
shoulders (หัวตั้งด้านบน) เมื่อเกิดแล้วต้องสามารถลากเส้น neckline
ได้เพื่อ confirm การลง
20. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆส่วน head and shoulders ขาลง เรียกว่าหัวกลับ(ด้านล่าง) เมื่อเกิด
แบบนี้แล้วจะเป็นการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้นแรงๆเสมอ ลักษณะนี้
จะมี หัวอยู่ล่างสุด และไหล่ทั้งซ้ายและขวาต้องไม่สูงกว่าหัว ถึงจะเรียก
ว่า head and shoulders(หัวกลับด้านล่าง) เมื่อเกิดแล้วต้องสามารถ
ลากเส้น neckline ได้เพื่อ confirm การขึ้น
ที่สำาคัญ หัวต้องอยู่สุงและตำ่ากว่าไหล่เสมอๆ ไม่ว่าจะมีไหล่ขวากี่ครั้ง
ไหล่ซ้ายกี่ครั้ง แต่หัวต้องสูงกว่าและตำ่ากว่าเสมอ ๆ ถึงจะเรียกว่า head
and shoulders ของขาขึ้น ขาลงนั้น ๆ
21. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
รูปแบบ Triple top และ Triple bottom
Triple top ลักษณะจะเกิดการทำาราคาดีดตัว
ไปชนแนวต้านที่เดียวกันถึง 3 ครั้ง พยายามทะลุ
ขึ้นไปต่อไม่ได้ ก็จะเกิดการกลับตัวลงอย่างแรง
จนทะลุเส้น neckline ลงต่อไปได้ก็จะเป็นการ
เกิด Triple top เพื่อกลับตัวเป็นขาลง
22. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆTriple bottom ลักษณะจะเกิดการทำาราคาดีดตัวไปชน แนวต้านที่
เดียวกันถึง 3 ครั้ง พยายามทะลุลงไปต่อไม่ได้ก็จะเกิดการกลับตัวขึ้น
อย่างแรงจนทะลุเส้น neckline ขึ้นต่อไปได้ก็จะเป็นการเกิด Triple top
เพื่อกลับตัวเป็นขาขึ้น
หวังว่าคงจะทำาให้มองกราฟและลาก ๆ ขีด ๆ ได้ง่ายขึ้น หาจังหวะซื้อ
ขายได้จังหวะที่ดีขึ้นครับ
23. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
ถามตอบท้ายบทถามตอบท้ายบท
มีรูปแบบต่างๆเกิดได้ทุก TF เลยหรือเปล่าครับ แล้วมันมีโอกาสที่จะไม่
เป็นไปตามpatterns ไหมครับ
เกิดได้ทุก TF ครับ ถ้าไม่มีการเกิดรูปแบบพวกนี้ กราฟก็จะ
วิ่ง ขึ้นลงแบบ ง่ายๆ ครับ แต่ถ้ากราฟเกิดรูปแบบพวกนี้เมื่อ
ใดคือการสะสมแรง ทะลุรูปแบบพวกนี้ได้เมื่อใดเป็นการ
ยืนยันกลับมาวิ่งอีกครั้ง จะเห็นรูปแบบพวกนี้เสมอๆครับ
เหมาะสำาหรับหาจังหวะที่จะเข้าเทรด แต่เมื่ออยู่ในกรอบรูป
แบบพวกนี้ ควรรอก่อน
24. ขั้นที่ขั้นที่ 33:: ฝึกลากรูปแบบต่าง ๆฝึกลากรูปแบบต่าง ๆ
ถามตอบท้ายบทถามตอบท้ายบท
ผมมีข้อสงสัยอยู่นิดหน่อยอ่ะครับ คือว่าการฝึดขีดเส้นนี้อ่ะครับ คือผมอยากทราบว่าเรา
จะขีดเส้นตรงไหน ถึงจะมองแนวโน้มของปัจจุบันออกอ่ะครับ คือดูจากกราฟที่ท่าน
อาจารย์ the_greenday ให้มา เหมือนจะขีดเส้นของเก่าที่ผ่านมาแล้วอ่ะครับ แล้วถ้า
ผมอยากมองแนวโน้มของปัจจุบันนี้ ผมครวจะเริ่มตรงไหนเหรอครับ อืม..แล้วเล่นสั้น
กับยาวนี้ขีดเส้นเหมือนกันไหมครับ หรือว่าต่างกันยังไงอ่ะครับ เล่นสั้น เล่นยาว ลากได้เหมือนกันหมดครับ
ที่ขีดของเก่าเคยหลุดมาแล้วทั้งนั้นครับ เพราะว่ามันเคยเกิดขึ้น
จริง เดียวมองของปัจจุบันจากรูปของวันที่ 10-8-52 Gj 15m เชื่อ
ในกฏของกราฟ ต้องมีความเชื่อก่อนครับ เชื่อในกราฟ ขาดทุนก็
ยังต้องเชื่อ รักษาวินัยไว้ครับ เมื่อกำาไร กำาลังใจเราจะมาครับ
แล้วก็เชื่อว่า ยิ่งลากเส้นยิ่งเก่งขึ้น มาทันจังหวะก็จะเจอจังหวะ
ครับ รอและเชื่อในกราฟ แพ้ผิดทางก็ยอมครับ ต้องรอจังหวะให้
เป็นครับ สามเหลี่ยมรูปแบบต่างๆ มีให้เกิดให้เห็นเสมอ ๆ เมื่ออยู่
ในกรอบไม่มีให้รู้ครับว่าจะวิ่งทางไหนแต่ถ้าหลุดกรอบจะรู้ทันที
เดียวดูกราฟครับ GJ 15m วันนี้ เอารูปแบบที่เรียนรู้มานี้ไปต่อยอด
กับเครื่องมืออื่นๆ