Enviar búsqueda
Cargar
9789740328049
•
1 recomendación
•
2,281 vistas
C
Chirawat Wangka
Seguir
แต่งหน้าพัฒนาบุคลิก
Leer menos
Leer más
Educación
Denunciar
Compartir
Denunciar
Compartir
1 de 10
Descargar ahora
Descargar para leer sin conexión
Recomendados
โครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง
โครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง
Kang ZenEasy
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบห่อหุ้มร่ากาย 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบห่อหุ้มร่ากาย 2
Yottapum
5ทฤษฎีผิว
5ทฤษฎีผิว
Kang ZenEasy
Body
Body
beer04875
เนื้อเยื่อสัตว์
เนื้อเยื่อสัตว์
zidane36
ระบบผิวหนัง
ระบบผิวหนัง
พัฒนพงษ์ พิมพ์ทอง
Tissue oui
Tissue oui
Oui Nuchanart
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
ฟลุ๊ค ลำพูน
Recomendados
โครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง
โครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง
Kang ZenEasy
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบห่อหุ้มร่ากาย 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบห่อหุ้มร่ากาย 2
Yottapum
5ทฤษฎีผิว
5ทฤษฎีผิว
Kang ZenEasy
Body
Body
beer04875
เนื้อเยื่อสัตว์
เนื้อเยื่อสัตว์
zidane36
ระบบผิวหนัง
ระบบผิวหนัง
พัฒนพงษ์ พิมพ์ทอง
Tissue oui
Tissue oui
Oui Nuchanart
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
ฟลุ๊ค ลำพูน
Animal tissue
Animal tissue
Namthip Theangtrong
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
สุข
สุข
Kratainoi Pukpui
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
Wichai Likitponrak
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
พัน พัน
โครงสร้างหน้าที่พืช
โครงสร้างหน้าที่พืช
Wichai Likitponrak
ชีววิทยา
ชีววิทยา
Darika Kanhala
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช 2557
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช 2557
Pinutchaya Nakchumroon
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
เข็มชาติ วรนุช
Cartilage
Cartilage
Yasin Gada
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Jaratpong Moonjai
เซลล์พืช 1
เซลล์พืช 1
กมลรัตน์ ฉิมพาลี
Tissue1
Tissue1
Kanrawee Tongsongkeaw
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
Nokko Bio
Body system
Body system
pimpa181130
Kingdom Animalia
Kingdom Animalia
Thanyamon Chat.
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
Pinutchaya Nakchumroon
พืช
พืช
Chamaiporn
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
Issara Mo
Movement
Movement
Namthip Theangtrong
Directory moodle folders revised by dale
Directory moodle folders revised by dale
The City of Liverpool College
Historia de puebla
Historia de puebla
maricelarp1972
Más contenido relacionado
La actualidad más candente
Animal tissue
Animal tissue
Namthip Theangtrong
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
สุข
สุข
Kratainoi Pukpui
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
Wichai Likitponrak
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
พัน พัน
โครงสร้างหน้าที่พืช
โครงสร้างหน้าที่พืช
Wichai Likitponrak
ชีววิทยา
ชีววิทยา
Darika Kanhala
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช 2557
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช 2557
Pinutchaya Nakchumroon
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
เข็มชาติ วรนุช
Cartilage
Cartilage
Yasin Gada
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Jaratpong Moonjai
เซลล์พืช 1
เซลล์พืช 1
กมลรัตน์ ฉิมพาลี
Tissue1
Tissue1
Kanrawee Tongsongkeaw
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
Nokko Bio
Body system
Body system
pimpa181130
Kingdom Animalia
Kingdom Animalia
Thanyamon Chat.
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
Pinutchaya Nakchumroon
พืช
พืช
Chamaiporn
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
Issara Mo
Movement
Movement
Namthip Theangtrong
La actualidad más candente
(20)
Animal tissue
Animal tissue
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
สุข
สุข
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างหน้าที่พืช
โครงสร้างหน้าที่พืช
ชีววิทยา
ชีววิทยา
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช 2557
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช 2557
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
Cartilage
Cartilage
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
เซลล์พืช 1
เซลล์พืช 1
Tissue1
Tissue1
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
Body system
Body system
Kingdom Animalia
Kingdom Animalia
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
พืช
พืช
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
Movement
Movement
Destacado
Directory moodle folders revised by dale
Directory moodle folders revised by dale
The City of Liverpool College
Historia de puebla
Historia de puebla
maricelarp1972
Luke Sanford " A Closer Look In How Luke Communication" 2010
Luke Sanford " A Closer Look In How Luke Communication" 2010
LukeFinlaySanford
Lexus RX450h
Lexus RX450h
The University of Queensland
CLU New Graduate Student Orientation
CLU New Graduate Student Orientation
callutheran
The Baker Family of Cambridgeshire.
The Baker Family of Cambridgeshire.
rekab20
강의자료8
강의자료8
Young Wook Kim
My Resume
My Resume
MGJParker
X第4章 struts2入门
X第4章 struts2入门
shmily7788
Ciao
Ciao
agnespina
Rail Transportation Of Ethanol: Will There Be Enough Capacity?
Rail Transportation Of Ethanol: Will There Be Enough Capacity?
John Schmitter
Libros que leemos este año 3 er año
Libros que leemos este año 3 er año
Pilar Cortés
Cute baby animals of all kindz
Cute baby animals of all kindz
SpartaKiss
Drinking ageeeeee
Drinking ageeeeee
tamarayousif
Summer Peak Meeting 2011
Summer Peak Meeting 2011
Nathan Maltba
Dad 3
Dad 3
Maruthappan Arivazhagan
B2B seo ian miller
B2B seo ian miller
CIM East of England
company overview
company overview
nikumoni
Scout Powerpoint
Scout Powerpoint
Michael Loomis
Osos en el frio
Osos en el frio
Felix Alberto Moreno Venegas
Destacado
(20)
Directory moodle folders revised by dale
Directory moodle folders revised by dale
Historia de puebla
Historia de puebla
Luke Sanford " A Closer Look In How Luke Communication" 2010
Luke Sanford " A Closer Look In How Luke Communication" 2010
Lexus RX450h
Lexus RX450h
CLU New Graduate Student Orientation
CLU New Graduate Student Orientation
The Baker Family of Cambridgeshire.
The Baker Family of Cambridgeshire.
강의자료8
강의자료8
My Resume
My Resume
X第4章 struts2入门
X第4章 struts2入门
Ciao
Ciao
Rail Transportation Of Ethanol: Will There Be Enough Capacity?
Rail Transportation Of Ethanol: Will There Be Enough Capacity?
Libros que leemos este año 3 er año
Libros que leemos este año 3 er año
Cute baby animals of all kindz
Cute baby animals of all kindz
Drinking ageeeeee
Drinking ageeeeee
Summer Peak Meeting 2011
Summer Peak Meeting 2011
Dad 3
Dad 3
B2B seo ian miller
B2B seo ian miller
company overview
company overview
Scout Powerpoint
Scout Powerpoint
Osos en el frio
Osos en el frio
Similar a 9789740328049
อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์
tarcharee1980
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
kasidid20309
โอลิมปิก สอวน.
โอลิมปิก สอวน.
itualeksuriya
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
หลักพยาธิบ.7ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
หลักพยาธิบ.7ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
pop Jaturong
Plant tissue
Plant tissue
sukanya petin
Presentation1คิมส่ง
Presentation1คิมส่ง
kimkim2535
Biocontest2014 kitty
Biocontest2014 kitty
Wichai Likitponrak
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 10
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 10
Chok Ke
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
Wichai Likitponrak
Unit 7
Unit 7
putpittaya
ความหลากหลายของชีวิต
ความหลากหลายของชีวิต
น๊อต เอกลักษณ์
ความหลากหลายของชีวิต
ความหลากหลายของชีวิต
น๊อต เอกลักษณ์
Taxonomy(อนุกรมวิทฐาน)
Taxonomy(อนุกรมวิทฐาน)
firstnarak
เนี้อเยื่อ
เนี้อเยื่อ
มัทนา อานามนารถ
B06
B06
kookoon11
งาน1
งาน1
kookoon11
B06
B06
kookoon11
งาน1
งาน1
kookoon11
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
Thitaree Samphao
Similar a 9789740328049
(20)
อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
โอลิมปิก สอวน.
โอลิมปิก สอวน.
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
หลักพยาธิบ.7ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
หลักพยาธิบ.7ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
Plant tissue
Plant tissue
Presentation1คิมส่ง
Presentation1คิมส่ง
Biocontest2014 kitty
Biocontest2014 kitty
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 10
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 10
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
Unit 7
Unit 7
ความหลากหลายของชีวิต
ความหลากหลายของชีวิต
ความหลากหลายของชีวิต
ความหลากหลายของชีวิต
Taxonomy(อนุกรมวิทฐาน)
Taxonomy(อนุกรมวิทฐาน)
เนี้อเยื่อ
เนี้อเยื่อ
B06
B06
งาน1
งาน1
B06
B06
งาน1
งาน1
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
Más de Chirawat Wangka
9789740328766
9789740328766
Chirawat Wangka
9789740328735
9789740328735
Chirawat Wangka
9789740328698
9789740328698
Chirawat Wangka
9789740328698
9789740328698
Chirawat Wangka
9789740328681
9789740328681
Chirawat Wangka
9789740328667
9789740328667
Chirawat Wangka
9789740328018
9789740328018
Chirawat Wangka
Más de Chirawat Wangka
(7)
9789740328766
9789740328766
9789740328735
9789740328735
9789740328698
9789740328698
9789740328698
9789740328698
9789740328681
9789740328681
9789740328667
9789740328667
9789740328018
9789740328018
9789740328049
1.
ผิวพรรณ
1 1. ผิวพรรณ (skin) ผิวหนังที่ปกคลุมร่างกาย หมายถึงระบบที่ประกอบด้วยผิวหนัง (skin) และอวัยวะที่ ก�าเนิดมาจากผิวหนัง (skin appendages) ซึ่งได้แก่ ขน ผม เล็บ ต่อมไขมัน และต่อมเหงื่อ ผิวหนังซึ่งเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีพื้นที่ผิวประมาณ 1.8 ตารางเมตรในผู้ชายและ 1.5 ตารางเมตรในผู้หญิง ความหนาของผิวหนังอยู่ระหว่าง 0.5-6 มิลลิเมตร ผิวหนังที่บางอยู่ บริเวณหนังตาและเยือแก้วหู ผิวหนังทีหนาอยูบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ผิวพรรณทีดดมสขภาพดี ่ ่ ่ ่ ู ี ีุ เป็นจุดแรกของคนเราทีเป็นทีดงดูดความสนใจของผูทพบเห็น ผิวทีมสขภาพดีจะดูเปล่งประกาย ่ ่ ึ ้ ี่ ่ ีุ สดใสมีเลือดฝาด สีผิวออกชมพูระเรื่อ ดูมีน�้ามีนวล ดูอ่อนวัย ผิวพรรณนอกจากจะให้ความงาม กับร่างกายแล้วยังมีหน้าที่ป้องกันอวัยวะที่อยู่ภายในร่างกายของเราดังนี้
2.
2
แต่งหน้าพัฒนาบุคลิก หน้าที่และความสำาคัญของผิวหนัง 1. การปองกัน (protection) ผิวหนังช่วยป้องกันอันตรายจากรังสีอลตราไวโอเลต ั และความร้อนไม่ให้ผานเข้าสูรางกายมากเกินไป และช่วย ่ ่่ ป้องกันไม่ให้มการระเหยของน�าออกจากร่างกายมากเกิน ี ้ ไป นอกจากนี้ ผิวหนังยังเป็นด่านป้องกันเชื้อโรคชนิด ต่างๆ ไม่ให้ผ่านเข้าสู่ร่างกายอีกด้วย 2. การรับความรู้สึก (sensation) ผิวหนังประกอบด้วยอวัยวะรับความรูสกมากมาย ้ึ หลายชนิด เช่น อวัยวะรับความรู้สึกเกี่ยวกับการสัมผัส (touch), ความเจ็บปวด (pain), ความร้อน-เย็น (tem- perature) 3. ควบคุมอุณหภูมของร่างกาย (thermoregulator) ิ โดยการท�างานของต่อมเหงื่อกลุ่มร่างแหของ หลอดเลือดฝอยและไขมันที่อยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง ท�าให้ อุ ณ หภู มิ ข องร่ า งกายคงที่ ไ ม่ เ ปลี่ ย นแปลงตามสภาพ แวดล้อม 4. ควบคุมเมแทบอลิซม (metabolism) ของร่างกาย ึ โดยเป็นแหล่งเก็บสะสมพลังงานไว้ในรูปของชั้น ไขมันใต้ผิวหนัง และเซลล์ในชั้นหนังก�าพร้ายังช่วยสร้าง วิตามินดีให้กับร่างกายอีกด้วย 5. ความสวยงาม (beauty appearance) มนุษย์เราในสังคมต้องมีการอยู่ร่วมกัน ความ สวยงามของผิวพรรณย่อมมีส่วนท�าให้มนุษย์เรามีความ ประทับใจซึ่งกันและกันเป็นอีกจุดหนึ่งที่ท�าให้มนุษย์เรา อยู่ด้วยกันเข้าใจกันอย่างมีความสุข
3.
ผิวพรรณ
3 โครงสร้างของผิวหนัง ผิวหนังมีสวนประกอบหลายชัน หากเราดูดวยกล้องจุลทรรศน์จะพบว่าผิวหนังประกอบด้วย ่ ้ ้ เซลล์เล็กๆ มากมายซึ่งประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชั้น คือ 1. หนังกำาพร้า (epidermis) เป็นผิวหนังที่อยู่ชั้นนอกสุดของผิวหนัง ประกอบด้วยเซลล์เล็กๆ มากมายซ้อนกันอยู่เป็นชั้นๆ 2. หนังแท้ (dermis) อยู่ชั้นล่าง เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิด dense irregular connective tissue ซึ่งเจริญมาจากชั้นเมโซเดิร์ม (mesoderm) ในระยะตัวอ่อน 3. อวัยวะที่กำาเนิดมาจากผิวหนัง (skin appendages) อวัยวะเหล่านี้ ได้แก่ ขน (hair), ต่อมไขมัน (sebaceous glands), ต่อมเหงื่อ (sweat glands) และเล็บ (nails) 1. หนังกำาพร้า (epidermis) เป็นเนือเยือบุผวชนิด stratified squamous epithelium keratinized type หนังก�าพร้า ้ ่ ิ แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ 1.1 หนังกำาพร้าชนิดหนา (thick epidermis) เราพบได้บริเวณฝ่ามือ (palm) และ ฝ่าเท้า (sole) 1.2 หนังกำาพร้าชนิดบาง (thin epidermis) พบบริเวณส่วนอืน ๆ ของร่างกาย อย่าง ่ เช่น ตามล�าตัว แขน ขา ใบหน้า เป็นต้น
4.
4
แต่งหน้าพัฒนาบุคลิก หนังก�าพร้าประกอบด้วยเซลล์ชนิดต่าง ๆ สามารถแบ่งออกเป็นชั้นย่อยๆ ได้เป็น 4 ชั้น เรียง จากชั้นล่างขึ้นมาชั้นบน ได้แก่ 1. stratum basale (stratum geminativum) เป็นชั้นล่างสุดของหนังก�าพร้าประกอบด้วยเซลล์ทรงเหลี่ยมลูกบาศก์ เรียกว่า basal cell เรียงตัวกันชั้นเดียววางตัวอยู่บน basement membrane เซลล์ในชั้นนี้มีการเจริญแบ่งตัว มากเพื่อเพิ่มจ�านวนและเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ในชั้นบนต่อไป 2. stratum spinosum ประกอบด้วยเซลล์เรียงตัวซ้อนกัน 5-10 ชัน เซลล์มลกษณะเป็นรูปหลายเหลียม เรียก ้ ีั ่ เซลล์ในชั้นนี้ว่า prickle cell (spinous cell) เนื่องจากในระดับกล้องจุลทรรศน์ธรรมดาพบว่า ตามขอบของเซลล์มีลักษณะคล้ายหนามยื่นไปยึดกับเซลล์ข้างเคียง เรียกส่วนที่ยึดระหว่างเซลล์นี้ ว่า intercellular bridges ซึ่งเมื่อศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนพบว่า intercellular bridges นี้คือ desmosome นั้นเอง เซลล์ในชั้นนี้มีการเคลื่อนตัวขึ้นบนเพื่อทดแทนเซลล์ชั้นบน ที่เคลื่อนขึ้นและลอกหลุดออกกลายเป็นขี้ไคล 3. stratum granulosum ชั้นนี้จะประกอบด้วยเซลล์ค่อนข้างแบน ขนาดและรูปร่างไม่แน่นอน เรียงตัวกัน 3-5 ชั้น เรียกว่า granular cell เนื่องจากภายในไซโทพลาซึม (cytoplasm) ของเซลล์บรรจุแกรนูล (granules) จ�านวนมาก เรียกว่า keratohyalin granules ซึงแกรนูลเหล่านียอมติดสีดางและไม่มี ่ ้้ ่ unit membrane ล้อมรอบ keratohyalin granule เกียวข้องในกระบวนการสร้างเคราทิน (keratin) ่ หรือ (ชันขีไคล) นอกจากนี เซลล์ในชันนียงสร้างแกรนูลทีเรียกว่า membrane coating granules ้ ้ ้ ้ ้ั ่ (odland bodies) ซึ่งบรรจุสารที่จะปล่อยออกมานอกเซลล์เพื่อท�าหน้าที่เคลื่อนระหว่างเซลล์ ท�าให้เซลล์ยึดติดกันได้ดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยป้องกันการเสียน�้าของเซลล์ผิวหนังด้วย 4. stratum corneum เป็นชันบนสุดของหนังก�าพร้า ประกอบด้วยเซลล์ทมลกษณะเป็นแผ่นบางๆ จ�านวนชัน ้ ี่ ี ั ้ ของเซลล์แตกต่างกันตั้งแต่ 5-10 ชั้นจนถึงหลายร้อยชั้น ขึ้นอยู่กับบริเวณต่าง ๆ ของผิวหนัง เช่น บริเวณหลังมือและเปลือกตา stratum corneum จะค่อนข้างบาง และจะหนามากบริเวณฝ่าเท้า ในระดับกล้องจุลทรรศน์ธรรมดาจะเห็นเซลล์ในชั้นนี้มีลักษณะเหมือนเซลล์ตายหรือเซลล์ที่เสื่อม โดยเฉพาะเซลล์ที่อยู่ชั้นบนสุดนั้นองค์ประกอบอื่นๆ ภายในเซลล์แตกสลายไปหมด เรียกว่าเกิด desquamation เซลล์เหล่านีเมือลอกหลุดเป็นขีไคลจะถูกเซลล์ทอยูใต้ถดลงไปแบ่งตัวขึนมาแทนที่ ้ ่ ้ ี่ ่ ั ้ ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งของการเกิด keratinization ผิวหนังที่มีชั้น stratum corneum หนา จะมีชั้นใสโปร่งแสงเห็นเป็นแถบสีชมพูจางอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างชั้น stratum granulosum และ stratum corneum เรียกว่าชั้น stratum lucidum ซึ่งเป็นชั้นของสารที่ถูกปล่อยออกมา จาก membrane coating granules (odland bodies) ชั้นนี้ไม่พบในหนังก�าพร้าชนิดบาง
5.
ผิวพรรณ
5 เซลล์ของหนังกำาพร้า เนื้อเยื่อบุผิวของหนังกำาพร้าประกอบด้วยเซลล์ 4 ชนิด ได้แก่ 1. kerationocyte เป็นเซลล์ที่พบมากที่สุดของหนังก�าพร้า เซลล์ชนิดนี้มีความสามารถในการสร้างเคราทิน กระบวนการทีเซลล์ในชั้น stratum basale มีการแบ่งตัวและเปลี่ยนแปลงไปจนกลายเป็นเซลล์ ่ ตายที่บรรจุเคราทิน ในชั้น stratum corneum เรียกว่า keratinization 2. melanocyte เป็นเซลล์รูปแฉกดาวท�าหน้าที่สร้างเมลานิน ซึ่งเป็นสารที่ท�าให้เกิดสีที่ผิวหนัง ผมและ ม่านตา เซลล์เหล่านี้ก�าเนิดมาจาก neural crest ectoderm พบเมลาโนไซต์ (melanocyte) กระจายแทรกระหว่าง keratinocytes ในชั้น stratum geminativum และ stratum spino- sum นอกจากนี้ยังพบใน hair follicles และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของหนังแท้ด้วย เมลานินถูกสร้าง ขึ้นใน membrane bound granules เรียกว่า melanosome ซึ่งจะถูกส่งออกนอกเซลล์เข้าไป อยู่ในไซโทพลาซึมของ keratinocytes epidermal–melanin unit หมายถึง melanocyte หนึ่งเซลล์ที่ท�าหน้าที่สร้างสีผิว ของผิวหนังบริเวณนั้น จ�านวนของ melanocyte ต่อหน่วยพื้นที่ผิวของผิวหนังไม่มีความแตกต่าง กันในเพศหรือเชื้อชาติ แต่ความแตกต่างของสีผิวในแต่ละเชื้อชาติขึ้นอยู่กับจ�านวนและชนิดของ melanosome ที่บรรจุในไซโทพลาซึมของ keratinocyte บริเวณที่พบ melanocyte หนาแน่น มากที่สุด ได้แก่ บริเวณใบหน้าและระบบสืบพันธุ์เพศชาย 3. langerhans cell เป็นเซลล์รูปแฉกดาว ขอบของนิวเคลียสมีลักษณะหยักลึกล้อมรอบด้วยไซโทพลาซึมที่ ใส แยกออกจากเซลล์ของหนังก�าพร้าชนิดอื่นได้จากการที่เซลล์นี้ไม่มี desmosome และ me- lanosome นอกจากนี้ยังพบแกรนูลทรงแท่งที่มี unit membrane ล้อมรอบเรียกว่า Birbeck granules ภายในไซโทพลาซึมของเซลล์ชนิดนี้อีกด้วย langerhans cell เป็นเซลล์ทเกียวข้องกับระบบภูมคมกันของร่างกาย พบได้ทวไปในชัน ี่ ่ ิ ุ้ ั่ ้ หนังก�าพร้า หนังแท้ และต่อมน�้าเหลืองบริเวณใกล้เคียง 4. merkel cell เป็นเซลล์ที่มีลักษณะคล้าย keratinocyte ซึ่งจะแยกออกจากกันได้ในระดับกล้อง จุลทรรศน์อเล็กตรอน นิวเคลียสของเซลล์ชนิดนีมลกษณะเป็นกลีบ (lobulated nucleus) รูปร่าง ิ ้ ีั ไม่สม�่าเสมอ มีลักษณะส�าคัญคือ ภายในไซโทพลาซึมของเซลล์จะพบ electrondense, mem- brane–bound granules ที่เหมือนกับที่พบในเซลล์ของต่อมหมวกไต (adrenal medulla) merkel cell พบเป็นจ�านวนมากในผิวหนังบริเวณที่มีความไวต่อความรู้สึกสัมผัสมาก เช่น บริเวณปลายนิว และมักพบ unmyelinated axon ใกล้กบเซลล์เหล่านี เข้าใจว่าเซลล์เหล่านี้ ้ ั ้ เกี่ยวข้องกับปลายประสาทรับความรู้สึก (sensory receptor)
6.
6
แต่งหน้าพัฒนาบุคลิก 2. หนังแท้ (dermis) เป็นชั้นของเนื้อยึดต่อชนิด dense irregular connective tissue อยู่ลึกถัดลงมาจากชั้น หนังก�าพร้า ตรงบริเวณรอยต่อของทั้ง 2 ชั้นจะมีส่วนของชั้นหนังก�าพร้าที่ยื่นลงไปในชั้นหนังแท้ เรียกว่า epidermal ridge และเรียกส่วนของหนังแท้ที่แทรกอยู่ระหว่างหนังก�าพร้าว่า dermal papillae ซึ่งเป็นการเพิ่มผิวสัมผัสระหว่างหนังก�าพร้ากับหนังแท้ ท�าให้ทั้ง 2 ชั้นยึดติดกันได้แข็ง แรงมากขึ้น หนังแท้แบ่งออกได้เป็น 2 ชั้น คือ 1. papillary layer อยูชนบนประกอบด้วยส่วนของ dermal papillae ทีแทรกอยูระหว่าง ่ ั้ ่ ่ epidermal ridge ในชันนีจะพบหลอดเลือดจ�านวนมาก ส่วนใหญ่บรรจุอยูใน dermal papillae ้ ้ ่ 2. reticular layer ประกอบด้วยเส้นใยคอลลาเจนเรียงตัวประสานกันอย่างหยาบ ๆ อาจ พบเส้นใยอิลาสติกแทรกอยู่ด้วย ชั้นนี้มีหลอดเลือดน้อยกว่าชั้นแรก ต่อจากชั้นหนังแท้จะเป็นชั้นของ loose connective tissue ประกอบด้วย adipose tis- sue เรียกว่า subcutaneous tissue ซึ่งไม่นับรวมเป็นชั้นของผิวหนัง 3. อวัยวะที่กำาเนิดมาจากผิวหนัง (skin sppendages) 3.1 cutaneous glands 1. ต่อมเหงื่อ (sweat glands) เป็นต่อมชนิด simple coiled tubular gland พบกระจายทั่วไปตามส่วนต่าง ๆ ของ ร่างกาย ต่อมเหงื่อแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ 1.1 Eccrine sweat gland เป็นต่อมเหงือชนิดทีพบได้ทวไปตามผิวของร่างกายยกเว้นบริเวณริมฝปาก อวัยวะ ่ ่ ั่ เพศชาย ปุ่มกระสัน (clitoris) และ labia minora เหงื่อที่สร้างขึ้นจากต่อมชนิดนี้มีลักษณะเป็น น�้าใสและถูกส่งผ่านทางท่อออกสู่ผิวหนังโดยตรง หน้าที่ของต่อมเหงื่อชนิดนี้เกี่ยวกับการควบคุม อุณหภูมิของร่างกายภายใต้การควบคุมของระบบประสาทอัตโนมัติ 1.2 Apocrine sweat gland เป็นต่อมเหงื่อชนิดที่พบบริเวณรักแร้ (axilla), อวัยวะสืบพันธุ์ (genitalia) และ รอบ ๆ หัวนม (nipple) ต่อมชนิดนี้สร้างสารที่มีลักษณะเหนียวข้น ขุ่นขาวคล้ายน�้านม ไม่มีกลิ่น แต่เมื่อท�าปฏิกิริยากับแบคทีเรียที่ผิวหนังจะกลายเป็นสารที่มีกลิ่น ท่อของต่อมชนิดนี้มักเปดเข้าสู่ โคนขน (hair follicle) การท�างานของต่อมชนิดนี้ถูกควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติ ในสัตว์ จะพบต่อมชนิดนี้กระจายอยู่ทั่วไปตามร่างกาย มีความส�าคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศและการ แสดงอาณาเขต
7.
ผิวพรรณ
7 2. ต่อมไขมัน (sebaceous gland) ต่อมไขมันเป็นต่อมทีมความสัมพันธ์กบขน โดยมีทอสันๆ ไปเปดทีโคนของขนหรือผม ่ ี ั ่ ้ ่ ท่อที่เปดออกสู่ผิวหนังโดยตรงมักยาวกว่าต่อมไขมัน พบได้ทั่วไปตามร่างกาย ลักษณะโครงสร้าง ของต่อมเป็นชนิด alveolar gland ไขมันที่สร้างเรียกว่า sebum เมื่อหลั่งออกมาจะเคลือบขน และผิวหนังบริเวณนั้นป้องกันไม่ให้เปยกน้�า การท�างานของต่อมไขมันถูกควบคุมโดยฮอร์โมน เพศ ก่อนวัยรุ่นต่อมไขมันจะมีขนาดเล็กมาก เมื่อถึงวัยรุ่นการท�างานและขนาดของต่อมไขมัน จะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศโดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย (androgen) 3.2 ขน (hair) ขนก�าเนิดมาจากต่อมขน (hair follicles) ซึ่งเกิดจากชั้นหนังก�าพร้าที่เว้าลึกลงไปในชั้น หนังแท้ ส่วนโคนของต่อมขนมีลักษณะเป็นกระเปาะ มีชั้นหนังแท้เรียกว่า hair papilla เป็นแกน และมีชั้นหนังก�าพร้าหุ้มล้อมรอบเป็นส่วนของ hair matrix รูปร่างลักษณะของต่อมขนนั้นแตก ต่างกันไปในแต่ละบริเวณซึงท�าให้ขนทีสร้างนันมีลกษณะต่างกันด้วย เช่น ต่อมขนบริเวณหนังศีรษะ ่ ่ ้ ั มีลักษณะเป็นทรงกระบอกยาวตั้งตรงซึ่งสร้างผมยาว ส่วนต่อมขนบริเวณล�าตัวมีลักษณะค่อนข้าง สั้นและอ้วนกว่าซึ่งจะสร้างขนที่สั้นและละเอียด เส้นบางนุ่ม ขนแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. vellus hair เป็นขนละเอียด สั้น สีอ่อน 2. terminal hair เป็นขนหยาบ ยาว สีเข้ม การเจริญเติบโตของขนเริมจากโคนของต่อมขน (hair follicle) ทีมลกษณะเป็นกระเปาะ ่ ่ ีั เรียกว่า hair bulb โดยเซลล์ของหนังก�าพร้าตรงส่วนของ hair matrix จะแบ่งตัวเพิ่มขึ้นและ เกิดการ keratinization กลายเป็นขนงอกยาวออกพ้นชั้นหนังก�าพร้า โครงสร้างของขน ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้ 1. Outer cuticle เป็นชันนอกสุด มีองค์ประกอบเป็น hard keratin มีลกษณะเป็นเกล็ด ้ ั บาง ๆ 2. Cortex ประกอบด้วยเซลล์แบนหลายชัน ภายในเซลล์เหล่านีบรรจุพวก hard keratin ้ ้ และ pigment granules 3. Medulla ประกอบด้วยเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนเซลล์ที่เสื่อม เห็นเป็นถุงน�้ามากมาย อยู่ภายในเซลล์ เซลล์เหล่านี้บรรจุ soft keratin สีของขนเกิดจาก melanocytes บริเวณ hair matrix สร้างเม็ดสีส่งไปไว้ในชั้น cortex และ medulla ของขน บริเวณชั้นนอกสุดของ hair follicle จะมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหุ้มล้อมรอบและมีกล้ามเนื้อ เรียบเกาะจากเนื้อยึดต่อไปยัง dermal papillae เรียกว่ากล้ามเนื้อ arrector pili เมื่อกล้ามเนื้อ นีหดตัวจะท�าให้ขนตังชันและผิวหนังบุมลงไปเกิดอาการทีเรียกว่าขนลุก การท�างานของกล้ามเนือนี้ ้ ้ ่ ้ ถูกควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติ (sympathetic nervous system) ซึ่งจะถูกกระตุ้นด้วย ความเย็นหรือความกลัว
8.
8
แต่งหน้าพัฒนาบุคลิก 3.3 เล็บ (nail) แผ่นเล็บ (nail plate) เป็นแผ่น keratin ที่คลุมอยู่บนผิวหนังบริเวณปลายนิ้วมือและ นิ้วเท้า เรียกส่วนของ stratified squamous epithelium ทีรองรับแผ่นเล็บนีวา nail bed ตรง ่ ้่ โคนของแผ่นเล็บจะมีลักษณะเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เรียกว่า lunula เซลล์เนื้อเยื่อบุผิวที่อยู่ใต้ ต่อจาก lunula เป็นส่วนที่ท�าหน้าที่สร้างแผ่นเล็บ เรียกเนื้อเยื่อบุผิวบริเวณนี้ว่า nail matrix จากแผ่นเล็บจะเจริญงอกยาวไปจาก nail matrix โดยค่อย ๆ ยื่นยาวออกไปทางปลายนิ้ว ส่วน nail bed นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างเล็บ แต่มีหน้าที่รองรับแผ่นเล็บ ลักษณะของผิว ลักษณะผิวโดยทั่วไปแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท 1. ผิวมัน (oily skin) เป็นลักษณะผิวที่มีต่อมไขมันจ�านวนมากขับไขมันออกมาเกินความต้องการของผิว 2. ผิวแห้ง (dry skin) เป็นลักษณะผิวที่ต่อมไขมันท�างานน้อย ขับไขมันออกมาไม่เพียงพอในการหล่อเลี้ยงผิว 3. ผิวธรรมดา (normal skin) เป็นลักษณะผิวที่มีความสมดุล ต่อมไขมันขับไขมันพอดีกับความต้องการของผิว ท�าให้ ผิวอยู่ในสภาพสวยงาม 4. ผิวผสม (combination skin) เป็นลักษณะผิวที่ต่อมไขมันบนใบหน้าท�างานไม่สม�่าเสมอบริเวณรูปตัว “ที” บนใบหน้า จะมันมาก ส่วนบริเวณข้างแก้มจะแห้ง ผิวมัน มีไขมันบนผิวมาก รูขุมขนกว้าง ผิวค่อนข้างหนา มักจะมีสิวเสี้ยนหรือสิวหนอง ผิวจะแลดูหยาบแต่ไม่กร้าน ผิวจะดูตึงแต่หยาบ
9.
ผิวพรรณ
9 ผิวแห้ง ผิวจะแห้งเป็นขุย ผิวกร้าน ผิวมีรอยย่น ฝ้า ช่วงจมูกไม่มีความมัน รูขุมขนเล็ก ผิวจะดูบางเห็นเส้นเลือด ผิวธรรมดา ผิวละเอียด รูขุมขนเล็ก ผิวไม่มัน ไม่แห้ง ผิวจะดูเปล่งปลั่งสดใส บริเวณจมูกมันเล็กน้อย ผิวผสม จะมันและแห้งเป็นหย่อม ส่วนใหญ่บริเวณจมูกจะมันมาก ด้านข้างแก้มจะแห้งเป็นขุย ลักษณะผิวต่างๆ จะมีความสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว หากเราดูแลผิวไม่ถูกต้องก็จะเกิด ปัญหาที่ผิวได้ง่าย ปัญหาที่เกิดคือ 1. การไม่ระวังเรื่องความสะอาดบนใบหน้า คนเราโดยทั่วไปมักจะใช้มือจับใบหน้าและมือของเรานี่แหละที่จับต้องสิ่งต่างๆ ที่อยู่ รอบๆ ตัวเราตลอดเวลา มือจึงสกปรก พอเผลอมาจับหน้า สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ที่มือก็เปลี่ยนมาอยู่ ที่หน้าด้วย ดังนั้น จึงควรฝกไม่จับต้องหรือแกะเกาใบหน้าเพราะจะท�าให้เกิดปัญหาผิวได้ 2. การไม่ทำาความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องสำาอางที่ใช้ ต้องหมันดูแลอุปกรณ์ของเครืองส�าอาง ควรล้างมือให้สะอาดก่อนใช้เครืองส�าอาง เมือ ่ ่ ่ ่ เปดฝากระปุกเครืองส�าอางควรกะให้พอดี หากเหลือใช้กไม่ควรเทกลับลงในภาชนะเพราะจะท�าให้ ่ ็ เครื่องส�าอางเสื่อมลงได้ง่าย
10.
10
แต่งหน้าพัฒนาบุคลิก สภาพผิวแต่ละวัย ผิวอ่อนเยาว์ ผิวละเอียด เปล่งปลั่ง ซึ่งบ่งบอก สุขภาพผิวดี * ผิวชุ่มชื้น เนียนเรียบ * ผิวตึงและนุ่ม * การไหลเวียนโลหิตดี * ผิวหนังไม่หย่อนยาน สภาพผิวเมื่ออายุสูงขึ้น ผิวค่อนข้างแห้ง แลเห็นความ ขรุขระ * ผิวแห้ง * ผิวมีริ้วรอย * ผิวไม่เรียบเนียน * มีฝ้า ผิวที่ขาดการดูแล ผิวแห้ง หยาบกร้าน * มีริ้วรอย * มีสิว * มีฝ้า * สภาพผิวไม่สมดุล
Descargar ahora