Enviar búsqueda
Cargar
9789740328667
•
0 recomendaciones
•
734 vistas
C
Chirawat Wangka
Seguir
Denunciar
Compartir
Denunciar
Compartir
1 de 11
Descargar ahora
Descargar para leer sin conexión
Recomendados
เวสสันดรวิเคราะห์
เวสสันดรวิเคราะห์
Tongsamut vorasan
บทบาทของมหาวิทยาลัยสงฆ์ในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง
บทบาทของมหาวิทยาลัยสงฆ์ในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง
pentanino
วัฒนธรรมไทย
วัฒนธรรมไทย
babyoam
งาน
งาน
zone22410
หลักสูตรสังคม
หลักสูตรสังคม
korakate
พระพุทธศาสนากับสถานการณ์ปัจจุบัน
พระพุทธศาสนากับสถานการณ์ปัจจุบัน
leemeanshun minzstar
ติวศาสนา55
ติวศาสนา55
Kwandjit Boonmak
หลักสูตรสังคมศึกษา
หลักสูตรสังคมศึกษา
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
Recomendados
เวสสันดรวิเคราะห์
เวสสันดรวิเคราะห์
Tongsamut vorasan
บทบาทของมหาวิทยาลัยสงฆ์ในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง
บทบาทของมหาวิทยาลัยสงฆ์ในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง
pentanino
วัฒนธรรมไทย
วัฒนธรรมไทย
babyoam
งาน
งาน
zone22410
หลักสูตรสังคม
หลักสูตรสังคม
korakate
พระพุทธศาสนากับสถานการณ์ปัจจุบัน
พระพุทธศาสนากับสถานการณ์ปัจจุบัน
leemeanshun minzstar
ติวศาสนา55
ติวศาสนา55
Kwandjit Boonmak
หลักสูตรสังคมศึกษา
หลักสูตรสังคมศึกษา
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
038พระพุทธศาสนากับการเมืองไทย
038พระพุทธศาสนากับการเมืองไทย
niralai
งานนำเสนอท่าทีการเปลี่ยนศาสนา2
งานนำเสนอท่าทีการเปลี่ยนศาสนา2
Satheinna Khetmanedaja
แนวข้อสอบ วิชา พระพุทธศาสนา
แนวข้อสอบ วิชา พระพุทธศาสนา
Oppo Optioniez
การบริหารจัดการในการปกครองคนตามแนวทางคุณธรรม
การบริหารจัดการในการปกครองคนตามแนวทางคุณธรรม
pentanino
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
ธรรมะอินเทรนด์ ธรรมะออนไลน์
Chapter2
Chapter2
Garsiet Creus
พระสงฆ์กับการเมือง
พระสงฆ์กับการเมือง
Padvee Academy
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
pentanino
อาณาจักรตามพรลิงค์
อาณาจักรตามพรลิงค์
sangworn
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
pentanino
หน้าที่ของชาวพุทธ
หน้าที่ของชาวพุทธ
primpatcha
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
pentanino
พระพุทธศาสนากับสังคมสงเคราะห์ ตอน พระพยอม พ่อพระของผู้ยากจน
พระพุทธศาสนากับสังคมสงเคราะห์ ตอน พระพยอม พ่อพระของผู้ยากจน
Padvee Academy
สุขอนามัยตามหลักพุทธปรัชญา
สุขอนามัยตามหลักพุทธปรัชญา
pentanino
ศึกษาเรื่องหนี้ตามทัศนะทางพระพุทธศาสนา
ศึกษาเรื่องหนี้ตามทัศนะทางพระพุทธศาสนา
pentanino
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
hadradchai7515
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
niralai
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
pentanino
วิเคราะห์วิจารณ์
วิเคราะห์วิจารณ์
Tongsamut vorasan
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
Boonlert Aroonpiboon
輔導傳統產業
輔導傳統產業
twnewone1
Storyboard haastattelu 1
Storyboard haastattelu 1
Marjo Jussila
Más contenido relacionado
La actualidad más candente
038พระพุทธศาสนากับการเมืองไทย
038พระพุทธศาสนากับการเมืองไทย
niralai
งานนำเสนอท่าทีการเปลี่ยนศาสนา2
งานนำเสนอท่าทีการเปลี่ยนศาสนา2
Satheinna Khetmanedaja
แนวข้อสอบ วิชา พระพุทธศาสนา
แนวข้อสอบ วิชา พระพุทธศาสนา
Oppo Optioniez
การบริหารจัดการในการปกครองคนตามแนวทางคุณธรรม
การบริหารจัดการในการปกครองคนตามแนวทางคุณธรรม
pentanino
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
ธรรมะอินเทรนด์ ธรรมะออนไลน์
Chapter2
Chapter2
Garsiet Creus
พระสงฆ์กับการเมือง
พระสงฆ์กับการเมือง
Padvee Academy
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
pentanino
อาณาจักรตามพรลิงค์
อาณาจักรตามพรลิงค์
sangworn
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
pentanino
หน้าที่ของชาวพุทธ
หน้าที่ของชาวพุทธ
primpatcha
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
pentanino
พระพุทธศาสนากับสังคมสงเคราะห์ ตอน พระพยอม พ่อพระของผู้ยากจน
พระพุทธศาสนากับสังคมสงเคราะห์ ตอน พระพยอม พ่อพระของผู้ยากจน
Padvee Academy
สุขอนามัยตามหลักพุทธปรัชญา
สุขอนามัยตามหลักพุทธปรัชญา
pentanino
ศึกษาเรื่องหนี้ตามทัศนะทางพระพุทธศาสนา
ศึกษาเรื่องหนี้ตามทัศนะทางพระพุทธศาสนา
pentanino
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
hadradchai7515
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
niralai
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
pentanino
วิเคราะห์วิจารณ์
วิเคราะห์วิจารณ์
Tongsamut vorasan
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
Boonlert Aroonpiboon
La actualidad más candente
(20)
038พระพุทธศาสนากับการเมืองไทย
038พระพุทธศาสนากับการเมืองไทย
งานนำเสนอท่าทีการเปลี่ยนศาสนา2
งานนำเสนอท่าทีการเปลี่ยนศาสนา2
แนวข้อสอบ วิชา พระพุทธศาสนา
แนวข้อสอบ วิชา พระพุทธศาสนา
การบริหารจัดการในการปกครองคนตามแนวทางคุณธรรม
การบริหารจัดการในการปกครองคนตามแนวทางคุณธรรม
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
Chapter2
Chapter2
พระสงฆ์กับการเมือง
พระสงฆ์กับการเมือง
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
อาณาจักรตามพรลิงค์
อาณาจักรตามพรลิงค์
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
หน้าที่ของชาวพุทธ
หน้าที่ของชาวพุทธ
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
พระพุทธศาสนากับสังคมสงเคราะห์ ตอน พระพยอม พ่อพระของผู้ยากจน
พระพุทธศาสนากับสังคมสงเคราะห์ ตอน พระพยอม พ่อพระของผู้ยากจน
สุขอนามัยตามหลักพุทธปรัชญา
สุขอนามัยตามหลักพุทธปรัชญา
ศึกษาเรื่องหนี้ตามทัศนะทางพระพุทธศาสนา
ศึกษาเรื่องหนี้ตามทัศนะทางพระพุทธศาสนา
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
วิเคราะห์วิจารณ์
วิเคราะห์วิจารณ์
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
Destacado
輔導傳統產業
輔導傳統產業
twnewone1
Storyboard haastattelu 1
Storyboard haastattelu 1
Marjo Jussila
Verbala stigar - föreläsning medalgon 15 juni 2011
Verbala stigar - föreläsning medalgon 15 juni 2011
Verbala Stigar
Presentation3
Presentation3
Ioana Stanescu
1推動節約用水
1推動節約用水
twnewone1
Dr neha surana on scope&limitationofhomeopathyforneurologicaldisorders
Dr neha surana on scope&limitationofhomeopathyforneurologicaldisorders
Dr Neha Surana
emabjadas de mexico en mundo
emabjadas de mexico en mundo
Octavio RmxCls
Green enviornment
Green enviornment
Razib M
Calendario matemático
Calendario matemático
Anqie Ayala Gónqora
Elearning
Elearning
candaceberes
Iab Privacy door Auke van den Hout
Iab Privacy door Auke van den Hout
Affiliate Dag
Lab16
Lab16
Haliuka Ganbold
Travelape
Travelape
Anders Kofoed Pedersen
Deber ecuaciones de valor
Deber ecuaciones de valor
Yaja V. Yepez
Procedure
Procedure
mrswato
Step up your social game-Women of the Channel
Step up your social game-Women of the Channel
Jackie Funk
My Midsummer Mission
My Midsummer Mission
Elin Amberg
5數位內容
5數位內容
twnewone1
Olive Branch Health & Wellness
Olive Branch Health & Wellness
Portfolio
Corascent presentation5
Corascent presentation5
Mirra Aggarwal
Destacado
(20)
輔導傳統產業
輔導傳統產業
Storyboard haastattelu 1
Storyboard haastattelu 1
Verbala stigar - föreläsning medalgon 15 juni 2011
Verbala stigar - föreläsning medalgon 15 juni 2011
Presentation3
Presentation3
1推動節約用水
1推動節約用水
Dr neha surana on scope&limitationofhomeopathyforneurologicaldisorders
Dr neha surana on scope&limitationofhomeopathyforneurologicaldisorders
emabjadas de mexico en mundo
emabjadas de mexico en mundo
Green enviornment
Green enviornment
Calendario matemático
Calendario matemático
Elearning
Elearning
Iab Privacy door Auke van den Hout
Iab Privacy door Auke van den Hout
Lab16
Lab16
Travelape
Travelape
Deber ecuaciones de valor
Deber ecuaciones de valor
Procedure
Procedure
Step up your social game-Women of the Channel
Step up your social game-Women of the Channel
My Midsummer Mission
My Midsummer Mission
5數位內容
5數位內容
Olive Branch Health & Wellness
Olive Branch Health & Wellness
Corascent presentation5
Corascent presentation5
Similar a 9789740328667
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
hadradchai
San
San
สันติภาพ ย่องเหล่ายูง
01_พุทธประวัติ พระสาวก.pdf
01_พุทธประวัติ พระสาวก.pdf
IntelligentChannel
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
korakate
กิจกรรม สาระสังคม
กิจกรรม สาระสังคม
kruarada
ม.2 ภาคเรียนที่ 1
ม.2 ภาคเรียนที่ 1
นายสมหมาย ฉิมมาลี
ความหมายและประเภทของศาสนา
ความหมายและประเภทของศาสนา
นายวินิตย์ ศรีทวี
Buddhajayanti2,600
Buddhajayanti2,600
หนุ่มน้อย ดาร์จีลิ่ง
การศึกษาไทยในสมัยโบราณ
การศึกษาไทยในสมัยโบราณ
ssuser930700
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
Panda Jing
จริยศาสตร์ประเมินบทที่555 3-ปี
จริยศาสตร์ประเมินบทที่555 3-ปี
Pa'rig Prig
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย
วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
สังคมศึกษา ต้น
สังคมศึกษา ต้น
กลุ่มงาน วิชาการ
สังคมศึกษา
สังคมศึกษา
กลุ่มงาน วิชาการ
อังกฤษ ต้น
อังกฤษ ต้น
กลุ่มงาน วิชาการ
มาตรฐานตัวชี้วัดสังคมศึกษา
มาตรฐานตัวชี้วัดสังคมศึกษา
korakate
มาตรฐานตัวชี้วัดสังคมศึกษา
มาตรฐานตัวชี้วัดสังคมศึกษา
korakate
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
suchinmam
บทความวิชาการ โยนิโสมนสิการ
บทความวิชาการ โยนิโสมนสิการ
นางจำเรียง กอมพนม
สังคมศึกษา ปลาย
สังคมศึกษา ปลาย
กลุ่มงาน วิชาการ
Similar a 9789740328667
(20)
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
13. ม.๓ เทอม ๑ สาระพื้นฐาน วิชาสังคมศึกษา๕ 2
San
San
01_พุทธประวัติ พระสาวก.pdf
01_พุทธประวัติ พระสาวก.pdf
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
กิจกรรม สาระสังคม
กิจกรรม สาระสังคม
ม.2 ภาคเรียนที่ 1
ม.2 ภาคเรียนที่ 1
ความหมายและประเภทของศาสนา
ความหมายและประเภทของศาสนา
Buddhajayanti2,600
Buddhajayanti2,600
การศึกษาไทยในสมัยโบราณ
การศึกษาไทยในสมัยโบราณ
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
จริยศาสตร์ประเมินบทที่555 3-ปี
จริยศาสตร์ประเมินบทที่555 3-ปี
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย
สังคมศึกษา ต้น
สังคมศึกษา ต้น
สังคมศึกษา
สังคมศึกษา
อังกฤษ ต้น
อังกฤษ ต้น
มาตรฐานตัวชี้วัดสังคมศึกษา
มาตรฐานตัวชี้วัดสังคมศึกษา
มาตรฐานตัวชี้วัดสังคมศึกษา
มาตรฐานตัวชี้วัดสังคมศึกษา
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
บทความวิชาการ โยนิโสมนสิการ
บทความวิชาการ โยนิโสมนสิการ
สังคมศึกษา ปลาย
สังคมศึกษา ปลาย
Más de Chirawat Wangka
9789740328766
9789740328766
Chirawat Wangka
9789740328735
9789740328735
Chirawat Wangka
9789740328698
9789740328698
Chirawat Wangka
9789740328698
9789740328698
Chirawat Wangka
9789740328681
9789740328681
Chirawat Wangka
9789740328018
9789740328018
Chirawat Wangka
9789740328049
9789740328049
Chirawat Wangka
Más de Chirawat Wangka
(7)
9789740328766
9789740328766
9789740328735
9789740328735
9789740328698
9789740328698
9789740328698
9789740328698
9789740328681
9789740328681
9789740328018
9789740328018
9789740328049
9789740328049
9789740328667
1.
บทที่ 1
1 บทที่ 1 ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒÇѲ¹¸ÃÃÁ¾Ø·¸ÈÒÊ¹Ò à¶ÃÇÒ·ã¹»ÃÐà·Èä·Â
2.
ความสําคัญของการศึกษาพุทธศาสนาเชิงปฏิบัติ 2
หนังสือเลมนี้ใชแนวทางการศึกษาชาติพันธุวรรณนา เพื่ออธิบายถึงพลวัตของวิถี ปฏิบัติทางพุทธศาสนาในกลุมคนชาติพันธุไทย-ลาวที่มีถิ่นฐานอยูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย (หรอททราบกนโดยทวไปวา “คนไทยอสาน”) โดยใหความสาคญกบขอมลเชง ื ี่ ั ั่ ี ํ ั ั ู ิ ประวัติศาสตรของการกอตั้งชุมชนและกระบวนการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจสังคมภายในชุมชน รวมถึงสภาพแวดลอมวิถีชีวิตของชาวบานในชุมชน การศึกษาวิเคราะหไดใชขอมูลจากการ ศึกษาทางมานุษยวิทยาอยางเขมขนในหลายหมูบานของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หรือภาค อีสาน) ตั้งแต พ.ศ. 2526 จนถึง พ.ศ. 2542 รวมถึงขอมูลบางสวนจากการศึกษาภาคสนาม เปนระยะ ๆ ในสาธารณรฐประชาธปไตยประชาชนลาว ตงแต พ.ศ. 2532 ซงเปนขอมลทนามา ั ิ ั้ ึ่ ู ี่ ํ ใชวเคราะหเปรียบเทียบวิถชวตของกลุมคนชาติพนธุไทย-ลาว รวมถึงวิถปฏิบตทางพุทธศาสนา ิ ีีิ ั ี ั ิ และความเชื่อตาง ๆ ในภูมิภาคนี้ กลุมคนชาติพันธุไทย-ลาวในภาคอีสาน เปนกลุมคนไทยพุทธที่ไดสรางอาณาจักร ทางศาสนาอยางเปนพลวัต ศาสนาที่พวกเขายึดถือปฏิบัติไดผานกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่ เกยวของกบการบกเบกผนปาเพอการเพาะปลกขาวและการตงชมชนหมบาน รวมถงเกยวพนกบ ี่ ั ุ ิ ื ื่ ู ั้ ุ ู ึ ี่ ั ั วิถีการดําเนินชีวิตของชาวบานอยางใกลชิด ทามกลางความตื่นตัวของกระแสการเปลี่ยนแปลง แบบโลกาภิวัตนที่รุกลํ้าเขามาในวิถีชีวิตแบบชุมชนหมูบาน ความเชื่อทางศาสนาในวิถีชีวิต ประจําวันของชาวบานหลายประการไดถูกกลืนและสูญหายไปจากที่เคยเปนวิถีปฏิบัติของ ชาวบานมาแตอดีต ทั้งนี้วิถีปฏิบัติทางศาสนาของชาวบานมีรากฐานสําคัญมาจากความรูและ ประสบการณที่ไดรับจากวิถีการดําเนินชีวิตทางโลกแบบทองถิ่น ยิ่งไปกวานั้นพุทธศาสนาใน ฐานะที่เปนศาสนาหนึ่งในโลกที่มีขอบขายกวางกวาความเปนชาติพันธุและเชื้อชาติ ไมไดเพียง ประกอบขึ้นจากความรูหรือการตีความจากตําราคําสอนทางศาสนา แตไดประกอบขึ้นจากวิถี ปฏิบัติที่เปนอยูในแตละพื้นที่และแตละชวงเวลา ซึ่งสอดคลองกับความเชื่อในเรื่องจิตวิญญาณ ของสรรพสิ่งที่มีชีวิตอยูและตายไปในผืนปาและสังคมหมูบาน ในบริบทที่กลาวถึงนี้ผืนปาที่อยู รายลอมชุมชนหมูบานถูกมองเสมือนตัวแทนของปรโลก (หรือโลกแหงวิญญาณ) ที่มีอํานาจ และมอทธพลเหนอวถชวตของชาวบานในชมชน ซงรวมถงอทธพลจากสภาพแวดลอมทางสงคม ีิ ิ ื ิีีิ ุ ึ่ ึ ิ ิ ั การเมือง และเศรษฐกิจของทั้งระบบเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก หนงสอนพยายามจะศกษาตรวจสอบขอเทจจรงในวถปฏบตทางศาสนา โดยใหความ ั ื ี้ ึ ็ ิ ิี ิ ั ิ สาคญกบเงอนไขทางสงคมของวถปฏบตและวถชวตของคนในชมชน มากกวาประเดนแนวคดที่ ํ ั ั ื่ ั ิี ิ ั ิ ิีีิ ุ ็ ิ
3.
นําเสนอในตําราคําสอนทางศาสนา ดังเชนทีมการศึกษาเกียวกับศาสนาฮินดูในภูมภาคเอเชียใต
่ ี ่ ิ แนวทางการศกษานตองการนาเสนอใหเหนความแตกตางทชดเจนระหวางตาราคาสอนศาสนา ึ ี้ ํ ็ ี่ ั ํ ํ 3 กับวิถีปฏิบัติในชีวิตประจําวัน ดวยการใชแนวทางการศึกษาทางมานุษยวิทยาและสังคมวิทยา ที่ศึกษาเกี่ยวกับพุทธศาสนาเถรวาทในภูมิภาคเอเชียอาคเนยในชวงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งการศึกษาเหลานี้สวนใหญมีเปาหมายที่จะบูรณาการประเด็นความเชื่อทางพุทธศาสนาที่มี วัดเปนศูนยกลางผสมผสานกับความเชื่อทองถิ่น ที่มักจะเกี่ยวของกับความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทังหลายในหมูบานชนบท อยางไรก็ตาม เราตองรับรูและเขาใจในเบืองตนวาวาทกรรมสวนใหญ ้ ้ ในการศึกษาเหลานี้ ไมวาจะเปนการศึกษาทางมานุษยวิทยาหรือสังคมวิทยาชนบทลวนอยูบน สมมุติฐานเบื้องตนของ “ศาสนา” หรือ “พุทธศาสนา” ในลักษณะที่เปนแนวคิดการวิเคราะห ทั่วไปจากความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาของผูเขียนเอง พวกเขามักจะเริ่มจากการจําแนกศาสนา วาเปนพทธศาสนาหรอไมใชพทธศาสนา เราสามารถกลาวไดวาการศกษาเชนนไมไดตความผด ุ ื ุ ึ ี้ ี ิ จากความเปนจริง ซึ่งคนทองถิ่นสวนหนึ่งก็จําแนกในลักษณะเชนเดียวกันนี้ ในการศึกษานี้ผูเขียนยึดถือแนวทางหลักที่วา วาทกรรมและการจําแนกทางศาสนา ตองขนอยกบคนทองถน ซงเปนการจาแนกตามวถชวตและประสบการณของคนทองถนภายใต ึ้ ู ั ิ่ ึ่ ํ ิีีิ ิ่ บรบทของความเปนทองถน เนองจากคนทองถนเปนทงผสรางและผปฏบตตามแนวทางศาสนา ิ ิ่ ื่ ิ่ ั้ ู ู ิ ั ิ ดงกลาว ทประกอบขนจากวถชวตทางโลกทมความหลากหลาย แนวทางนเี้ ปนประโยชนอยางมาก ั ี่ ึ้ ิีีิ ี่ ี ตอการจาแนกแยกแยะขอเทจจรงของศาสนาทปฏบตกนอยในกลมคนทองถน โดยไมจาเปนตอง ํ ็ ิ ี่ ิ ั ิ ั ู ุ ิ่ ํ ยึดถือแนวทางการจําแนกในลักษณะที่วา “ศาสนา” คือธรรมเนียมปฏิบัติตามตําราหรือคําสอน ทางศาสนา ในขณะที่ “ความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์” เปนการปฏิบัติที่ไมไดเปนไปตามตําราคําสอน อันเปนแนวคิดที่อนุมานขอเท็จจริงภายใตวาทกรรมของมานุษยวิทยาและสังคมวิทยาที่มีตอ วิถีปฏิบัติหรือปรากฏการณที่ผานการสังเกตในระเบียบวิธีเฉพาะสาขาวิชา ซึ่งมักจะละเลย บรบทความเปนทองถน ทจรงแลวแนวคดการวเคราะหทางมานษยวทยาและสงคมวทยาเหลานี้ ิ ิ่ ี่ ิ ิ ิ ุ ิ ั ิ ไดชวยใหเราเขาใจในระดับหนึ่งถึงวิถีปฏิบัติในสังคมที่แตกตางจากสังคมของเรา แตอยางไร ก็ตาม คําอธิบายและความเขาใจนันอาจจะไมสอดคลองกับวิถปฏิบตทเี่ ปนจริงในทองถิน ขอบเขต ้ ี ั ิ ่ ระหวางการปฏิบัติทางศาสนาตามตําราและไมใชตามตําราที่ใชในกลุมนักวิชาการตะวันตกนั้น ยงมนยทไมชดเจนในการอธบายวถปฏบตทางศาสนาซงไมยดตดกบแนวคดเชงสถาบน แตเนน ั ี ั ี่ ั ิ ิี ิ ั ิ ึ่ ึ ิ ั ิ ิ ั ถึงความสัมพันธสวนบุคคลระหวางผูนําศาสนากับสาวก ที่จริงแลวบริบทของวิถีปฏิบัติทางศาสนาไดพัฒนาขึ้นภายในวิถีชีวิตของประชาชน ไมใชสิ่งที่จะสามารถคนหาไดจากตําราทางศาสนา รวมทั้งขอบัญญัติหรือระเบียบขอบังคับทาง ศาสนาที่ประกาศใชโดยรัฐก็มีสวนเกี่ยวของเพียงสวนนอยตอสภาวะที่เปนจริงในวิถีปฏิบัติทาง
4.
ศาสนา ถาหากเราคิดวาขอกําหนดเชิงสถาบันสามารถนํามาใชไดทั่วไป โดยปราศจากความ 4
พยายามเขาใจความเปนทองถิ่นถึงการพัฒนาแบบแผนตาง ๆ ในวิถีปฏิบัติของชาวบานแลว จะไมสามารถเขาใจถึงลักษณะของวิถีปฏิบัติทางศาสนาในพื้นที่นั้นได แนวคิดเชิงวิเคราะห โดยทั่วไปที่ใชฝกฝนผูเชี่ยวชาญทั้งหลายในลักษณะที่เปนสากล และสามารถประยุกตไดกับ ทุกวัฒนธรรม เปนสิงทีไมสาคัญอะไรมากไปกวาเปนเพียงการคิดคนหลักเกณฑโดยนักวิชาการ ่ ่ ํ สาขาวิชาหนึ่งในชวงเวลาหนึ่งของอดีต แนวคิดในประเด็น “ศาสนา” และ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” หรือ ในประเด็น “วัดทางพุทธศาสนา” โดยความเปนจริงแลวควรเกิดขึ้นภายใตบริบทที่ผานคําบอก เลาของชาวบานที่ใชชีวิตอยูในวัฒนธรรมหรือทองถิ่นหนึ่ง ๆ ขอเท็จจริงนี้ควรนํามาใชเปนจุดเริ่มตนของการศึกษาวิถีปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่ ไมใชวัฒนธรรมของผูเขียนเอง ที่จะทําใหผูเขียนสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งที่เขาไดพบเห็น เพื่อให สอดคลองกับกรอบการวิเคราะหหรือระบบการใหความหมายไดงายขึน ดังนัน จึงเปนความจําเปน ้ ้ ที่จะพิจารณาถึงบริบทที่เชื่อมตอกับบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมของทองถิ่น แนวทางนี้ดูเหมือน เปนการศกษาสงทเปนวถปฏบตทแตกตางจากทฤษฎี ดวยการศกษามมมองและขอกาหนดทาง ึ ิ่ ี่ ิ ี ิ ั ิ ี่ ึ ุ ํ สังคมและประวัตศาสตรในวิถชวตของคนทองถิน เชนเดียวกันเมือศึกษาพุทธศาสนาเชิงปฏิบติ ิ ีีิ ่ ่ ั ของสังคมไทย-ลาว สถานะของวิถีปฏิบัติทางพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ ภายใตบริบทของ สังคมทองถินนันตองนํามารวมพิจารณาใหชดเจนดวย กระบวนการเปลียนแปลงและผสมผสาน ่ ้ ั ่ ความรูทางศาสนาเขากับระบบความเชื่อของคนทองถิ่นสามารถที่จะศึกษาได เมื่อเราตระหนัก วาความรทางศาสนาสามารถพฒนาไปตามพลวตการเปลยนแปลงสภาพแวดลอมของทองถนใน ู ั ั ี่ ิ่ แตละยุคสมัย นี่คือสิ่งที่เปนสวนประกอบของการขยายหรือปรับเปลี่ยนวิถีปฏิบัติทางศาสนาใน ปจจุบันของคนทองถิ่น ซึ่งรวมถึงพุทธศาสนาดวย พุทธศาสนาในเชิงสถาบัน ประเทศไทยซึ่งเปนพื้นที่ศึกษาหลักของการศึกษานี้ เปนศูนยกลางของพุทธศาสนา เถรวาทของโลก และมีประชากรประมาณ 95% ที่นับถือพุทธศาสนาเถรวาท ทุกเชาจะมีพระ ภกษและสามเณรออกเดนบณฑบาตไปตามถนนโดยมพทธศาสนกชนรอใสบาตร นอกจากนในวด ิ ุ ิ ิ ี ุ ิ ี้ ั ก็ยังมีประเพณีการบวชและการทําบุญในรูปแบบตาง ๆ ซึ่งลวนแตเปนภาพที่ดูแปลกตาสําหรับ คนตางชาติ พุทธศาสนาไดสรางสีสันในแงมุมตาง ๆ ใหแกประเทศไทย ซึ่งรวมถึงประเด็นใน เรองการเมอง สงคม และวฒนธรรมดวย คาอธบายของพทธศาสนาทมงอธบายใหชาวตางชาติ ื่ ื ั ั ํ ิ ุ ี่ ุ ิ เขาใจจงดกลายเปนสงทไรความหมาย สาหรบชาวพทธสวนใหญในสงคมไทยพทธศาสนาไมได ึ ู ิ่ ี่ ํ ั ุ ั ุ
5.
จํากัดอยูเฉพาะความรูในตําราคําสอนหรือเทศกาลตาง ๆ แตเปนวิถปฏิบตทกลายเปนสวนหนึง
ี ั ิ ี่ ่ ในวิถีชีวิตประจําวันของพุทธศาสนิกชน 5 ดังนั้น อะไรคือจุดเดน หรือลักษณะพิเศษของพัฒนาการทางประวัติศาสตร ของพุทธศาสนาเถรวาท พุทธศาสนาในฐานะที่เปนศาสนาหนึ่งในโลกเปนแหลงที่มาของ คําสอนและนิกายตาง ๆ มากมาย ทั้งนี้ตามเสนทางความเปนมาของการเผยแพรพุทธ- ศาสนา ไดมีการปรับเปลี่ยนคําสอนที่แตกตางกัน เนื่องจากการคัดลอกและแปลคําสอน ของพุทธศาสนา ซึ่งรวมถึงพุทธศาสนามหายานที่มีจํานวนพุทธศาสนิกชนมากที่สุดในโลก และพุทธศาสนาเถรวาทซึ่งมีอิทธิพลมากในเอเชียอาคเนย โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนใน ประเทศไทย ศรีลังกา พมา ลาว กัมพูชา จีนตะวันตกเฉียงใต และเวียดนามตอนใต ลวนแต เปนผูที่นับถือพุทธศาสนาเถรวาท ซึ่งอาจกลาวโดยรวมไดวา มีพุทธศาสนิกชนในสังกัดราว 100 ลานคนในปจจุบัน1 เมื่อเปรียบเทียบกับพุทธศาสนามหายานซึ่งใชคําสอนที่แตกตางกัน พทธศาสนาเถรวาทในแตละประเทศมระเบยบประเพณและพระธรรมวนยทมลกษณะคลายคลง ุ ี ี ี ิ ั ี่ ี ั ึ กันมาก เพราะใชคาสอน คําอรรถาธิบาย หรือบันทึกขอวิจารณตาง ๆ จากพระไตรปฎกภาษาบาลี ํ เชนเดียวกัน แตเนื่องจากภาษาบาลีไมมีตัวอักษรเปนของตนเอง ทําใหการบันทึกคําสอน ตาง ๆ ถูกเขียนในภาษาที่แตกตางกันไปในแตละประเทศ ทั้งในภาษาศรีลังกา ภาษามอญ ภาษาพมา ภาษาเขมร และภาษาไทย ดงนน นกายตาง ๆ ในพทธศาสนาเถรวาทจงไมไดอยบน ั ั้ ิ ุ ึ ู พืนฐานความแตกตางในพระธรรมวินย แตเปนความแตกตางของกระบวนการทางประวัตศาสตร ้ ั ิ ความเปนมาของทองถิ่น ยิ่งไปกวานั้น พุทธศาสนาเถรวาทในทุกประเทศถูกกําหนดคุณลักษณะโดยการบวช และการมีสวนรวมในคณะสงฆของพุทธศาสนิกชน คณะสงฆเปนสถาบันหนึ่งที่กําหนดวิถีการ ปฏิบตของพระสงฆแยกออกมาจากโลกียวิสยและอุทศตนเองหรือบําเพ็ญเพียรเพือใหหลุดพนจาก ั ิ ั ิ ่ วัฏสงสาร อันเปนจุดหมายสูงสุดของพุทธศาสนา การศึกษาแนวปฏิบัติในพุทธศาสนาเถรวาท ถูกกําหนดโดยการปฏิบัติตามศีล ซึ่งถือเสมือนเปนคําสั่งสอนของพระพุทธเจาที่ลวงละเมิดมิได เนืองจากการปฏิบตทมงบรรลุการหลุดพนดวยตนเอง และมีระเบียบประเพณีทกดกันผูหญิงจาก ่ ั ิ ี่ ุ ี่ ี การบวชเปนพระภิกษุ พุทธศาสนาเถรวาทจึงถูกตังชือในเชิงเสียหายวาเปนพุทธศาสนาหินยาน ้ ่ ในความหมายเชิงตรงขามกับพุทธศาสนามหายาน ซึ่งเปนนิกายที่เกิดขึ้นในภายหลัง กษตรยของแตละกลมชาตพนธทปกครองประเทศตาง ๆ ในภมภาคเอเชยอาคเนยและ ั ิ ุ ิ ั ุ ี่ ู ิ ี ทางตะวันตกเฉียงใตของจีน ซึงประกอบดวยดินแดนทีเ่ รียกวาสิบสองปนนาและไตคง (Dehong) ่ ยอมรับเอาพุทธศาสนาเถรวาททีเผยแพรจากอินเดียผานมาทางศรีลงกาในชวงระหวางศตวรรษ ่ ั ที่ 12 ถึง 14 นอกจากนี้ในชวงระหวางศตวรรษที่ 15 ถึง 17 บรรดาผูปกครองในภูมิภาคเหลา
6.
นียงคงสืบทอดประเพณีเพือสรางความชอบธรรมในอํานาจทางการเมืองของตนในลักษณะทีเ่ ปน
้ั ่ 6 ผูนาทีมคณธรรม ดวยการปรับคําสอนของศาสนาพุทธทีรบมาจากศรีลงกา (Lieberman, 1993: ํ ่ ี ุ ่ั ั 242) ซึ่ง Max Weber อธิบายเสริมวา เนื่องจากความจําเปนของพุทธศาสนาเถรวาทภายใต อุดมการณเพื่อการหลุดพนนั้นไมสามารถบรรลุไดโดยปราศจาการชี้นําของพระสงฆ (Weber, 1976: 329) โดยนัยนี้พุทธศาสนาถูกปฏิบัติโดยพระสงฆที่นาเลื่อมใสศรัทธา และภายใตการนํา ของกษตรยและราชสานก จงเปนศนยกลางของอานาจทางการเมองแบบดงเดมในภมภาคเอเชย ั ิ ํ ั ึ ู ํ ื ั้ ิ ู ิ ี อาคเนย อยางไรก็ตาม พุทธศาสนาเถรวาทยังคงสืบทอดเปนศาสนาในวิถชวตของคนในภูมภาค ีีิ ิ นี้ ซงสามารถสะทอนใหเ หนไดจากธรรมเนยมปฏบตของการทาบญถวายของใหพระสงฆหรอวด ึ่ ็ ี ิ ั ิ ํ ุ ื ั โดยประชาชนสวนใหญยึดถือปฏิบัติจนกลายเปนสวนหนึ่งในชีวิตประจําวัน ประเด็นคําถามวิจยของการศึกษานีคอ กลุมคนชาติพนธุไทย-ลาวในภาคอีสานของไทย ั ้ ื ั หรอทเี่ รยกวาคนไทยอสาน มวถปฏบตทางศาสนาในลกษณะทสอดคลองกบพทธศาสนาเถรวาท ื ี ี ีิี ิ ั ิ ั ี่ ั ุ อยางไร มรปแบบอะไรบางทางพทธศาสนาทถกนาไปปฏบตโดยพทธศาสนกชนทไมสามารถจะ ีู ุ ี่ ู ํ ิ ั ิ ุ ิ ี่ อานคําสอนทางศาสนาได เพื่อที่จะตอบคําถามเหลานี้ เราตองจําแนกแยกแยะกระบวนการ ทางประวัตศาสตรเกียวกับการกอตัวของวิถการดําเนินชีวตทางโลกและรูปแบบของพุทธศาสนา ิ ่ ี ิ เชิงปฏิบัติในทองถิ่น ซึ่งประเด็นดังกลาวนี้เปนวัตถุประสงคหลักของหนังสือนี้ ในเบื้องแรก ควรเริ่มจากการพิจารณาถึงสถานะของภาคอีสาน อันเปนที่อยูอาศัย ของคนกลุมชาติพันธุไทย-ลาว ภายใตสถาบันพุทธศาสนาของไทยที่เนนการประกอบกิจกรรม ตาง ๆ ภายในวัด ใน พ.ศ. 2540 ในประเทศไทยมีวัดที่จดทะเบียนจํานวน 30,377 วัด (กรม การศาสนา, 2542 : 46) อยางไรก็ตาม ใน พ.ศ. 2526 เมื่อผูเขียนเริ่มเขาไปทํางานสนามใน หมูบานแหงหนึ่งของภาคอีสาน ขอมูลของวัดที่จดทะเบียนในประเทศไทยมีจํานวน 31,267 วัด2 ซึ่งในจํานวนนี้มีเพียง 1,767 วัด หรือ 5.7% ที่เปนวัดในเมือง ซึ่งหมายถึงวัดที่ตั้งอยู ในกรุงเทพมหานครและเขตเทศบาลเมืองหรือเทศบาลตําบล ที่มีประชากรมากกวา 10,000 คน ที่เหลือ 94.3% หรือ 29,500 วัด เปนวัดที่ตั้งอยูในหมูบานชนบท โดยเปรียบเทียบกับวัด ในประเทศญี่ปุน การกระจายตัวของวัดในประเทศญี่ปุนจะถูกกําหนดโดยจํานวน 1 วัดตอ 1 หมูบาน ขณะที่อัตราสวนในประเทศไทยใน พ.ศ. 2526 มีประมาณ 1 วัดตอ 2 หมูบาน3 ในปเดียวกันประมาณครึ่งหนึ่งของวัดในประเทศไทยคือ 15,705 วัด หรือ 50.2% ตั้งอยูใน ภาคอีสาน ซึ่งเปนภูมิภาคที่มีพื้นที่มากกวา 1 ใน 3 ของทั้งประเทศ และเปนที่อยูอาศัยของ ประชาชนมากกวา 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ4 ภาคอีสานซึ่งเปนพื้นที่ศึกษาวิจัยของ การศึกษานี้จึงเปนภูมิภาคที่มีความมั่นคงมากที่สุดของการนับถือพุทธศาสนาในประเทศไทย (cf. Tambiah, 1976: 275)
7.
พระราชบัญญัติคณะสงฆ พ.ศ. 2505
ไดจําแนกวัดเปน 2 แบบ คือ วัดที่ไดรับ พระราชทานวิสุงคามสีมา ซึ่งถือเปนเขตสําคัญทางศาสนาเพื่อประกอบพิธีกรรมการบวชพระ 7 และสํานักสงฆที่ไมมีวิสุงคามสีมา5 พิธีกรรมบวชพระซึ่งถือเปนกาวแรกของการเขาเปนสมาชิก ในคณะสงฆสามารถดําเนินการไดเฉพาะในวัดแบบแรก เมื่อชาวบานมีความปรารถนาที่จะ กอตั้งวัดขึ้นใหม มักจะเริ่มจากการไดรับอนุมัติใหสรางสํานักสงฆขึ้นกอน และเพื่อที่จะสราง วิสุงคามสีมา ชาวบานตองยื่นเรื่องขออนุญาตจากนายอําเภอ การตัดสินใจสุดทายจะอยูที่กรม การศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ6 (ในขณะนั้น) ดังนั้น ในพื้นที่ชนบทสวนมากจึงมีสํานักสงฆ ในสดสวนทสงกวาวดทมวสงคามสมา ในชมชนทมสานกสงฆผทตองการจะบวชพระจาเปนตอง ั ี่ ู ั ี่ ี ิ ุ ี ุ ี่ ี ํ ั ู ี่ ํ ไปบวชที่วัดอื่นที่มีวิสุงคามสีมา หลังจากบวชเปนพระภิกษุแลวก็สามารถกลับมาจําพรรษาอยูที่ สํานักสงฆในหมูบานของตนได แมวาจํานวนสํานักสงฆของทั้งประเทศจะไมชัดเจน แตเฉพาะในภาคอีสานใน พ.ศ. 2526 มีศาสนสถานที่จดทะเบียนเปนสํานักสงฆจํานวน 10,077 แหง ยิ่งไปกวานันยังมีพระสงฆ ้ ในภูมภาคนีอกสวนหนึงทีจาพรรษาอยูในทีพกสงฆชวคราว ทีไมไดอยูในขายการจัดเปนสํานักสงฆ ิ ้ี ่ ่ํ ่ ั ั่ ่ หรือวัดและไมปรากฏอยูในสถิติของกรมการศาสนาอีกดวย ประเด็นสําคัญที่ควรพิจารณา ในที่นี้คือ ถาหากไมพิจารณาในประเด็นความแตกตางทางกฎหมาย ประชาชนในภูมิภาคนี้ มักจะเรียกศาสนสถานทั้ง 3 แบบนี้วา “วัด” เชนเดียวกันหมด ยิ่งไปกวานั้นในศาสนสถาน ประเภทวัดยังมีการจําแนกประเภทของวัดเปนวัดอารามหลวงและวัดราษฎร ในขอมูลสถิติ ตั้งแตประกาศใชพระราชบัญญัติคณะสงฆ พ.ศ. 2505 แมวาการจําแนกดังกลาวนี้จะไมไดใช จาแนกอยางเปนทางการและเครงครด แตโดยทวไปแลวในประเภทวดอารามหลวงนน ประกอบ ํ ั ั่ ั ั้ ดวยวัดที่สรางโดยพระมหากษัตริยหรือจดทะเบียนภายใตการอนุมัติของราชสํานัก สวนวัด อื่น ๆ ทั้งหมดนอกจากนี้ถือเปนวัดราษฎร7 ใน พ.ศ. 2526 ทั้งประเทศมีวัดอารามหลวงเพียง 202 วัด หรือ 0.65% เทานั้น และในจํานวนนี้เปนวัดอารามหลวงที่ตั้งอยูในเขตเมืองจํานวน 83 วัด8 กลาวไดวาวัดเกือบทั้งหมดในภาคอีสานเปนวัดราษฎร ซึ่งที่จริงแลวถือเปนธรรมเนียม ปฏิบตของคนทองถินทีจะสรางและพัฒนาวัดขึนเอง อันเปนลักษณะแตกตางจากวัดในประเทศ ั ิ ่ ่ ้ ญี่ปุนที่ไมเปนสถาบันหรือองคกรที่จัดตั้งขึ้นโดยประชาชนที่อาศัยอยูในเขตศาสนสถานหนึ่ง ๆ และไมไดเปนสถานที่ที่เปดเผยตอบุคคลภายนอกในลักษณะทั่วไป ความแตกตางทีเดนชัดอีกประการหนึ่งของคณะสงฆไทยในปจจุบัน คือการแบงเปน ่ 2 นกาย คอ มหานกายและธรรมยตกนกาย ธรรมยตกนกายไดรบการกอตงโดยพระบาทสมเดจ ิ ื ิ ุ ิ ิ ุ ิ ิ ั ั้ ็ พระจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ 4 (ครองราชยระหวาง พ.ศ. 2394-2411) ใน พ.ศ. 2379 โดยมุงเนนสนับสนุนการกลับไปใชตําราหรือหนังสือพระธรรมที่เปนภาษาบาลี โดยมีจุดเริ่มตน
8.
ในลักษณะทีเ่ ปนปฏิกรยาตอความเสือมของพุทธศาสนาในสังคมไทยในขณะนัน รวมทังเปนการ
ิิ ่ ้ ้ 8 สืบทอดมาจากประเพณีปฏิบัติของคณะสงฆมอญและพมา การกําหนดเรียกมหานิกายสําหรับ นิกายที่มีอยูแลวเกิดขึ้นในลักษณะคูขนานกับธรรมยุติกนิกาย ซึ่งมีวิถีปฏิบัติที่แตกตางเดนชัด จากมหานิกาย คือมีความแตกตางกันในการออกเสียงสวดมนตภาษาบาลี วิธีการถือบาตรของ พระสงฆ และวิธีการสวมจีวร สัดสวนของวัดธรรมยุตในประเทศไทยมีเพียงประมาณ 5% ใน พ.ศ. 25269 แตแมวาจะเปนพระสงฆสวนนอย ธรรมยุติกนิกายถูกพิจารณาวามีอํานาจและ อิทธิพลทางสังคมสูงกวามหานิกาย ทั้งนี้ไมใชเพียงเพราะวามีวิถีปฏิบัติที่เครงครัด แตยังรวม ถึงการมีสัมพันธภาพที่ใกลชิดกับราชสํานัก ซึ่งเปนผลใหมีการแพรขยายแนวปฏิบัติของธรรม- ยุติกนิกายผานทางราชสํานักไปยังประเทศเพื่อนบานที่นับถือพุทธศาสนาเถรวาท คือ กัมพูชา และลาว และภายหลังยังไดเผยแพรไปยังประเทศอินโดนีเซียอีกดวย อยางไรก็ตาม ความ แตกตางระหวางธรรมยุตกนิกายและมหานิกายไมปรากฏในพระธรรมวินย แตปรากฏในวิถการ ิ ั ี ปฏิบัติและพิธีกรรมดังที่ไดกลาวแลวขางตน ดังนั้น ทั้ง 2 นิกายจึงไมไดถูกพิจารณาวาแยก จากกันโดยเด็ดขาด ในทางกฎหมายแลวทั้ง 2 นิกายเปนของคณะสงฆไทยเชนเดียวกัน และ พทธศาสนกชนกไมมความรสกวาตนเองตองเลอกสงกดอยในนกายใดนกายหนงเปนการเฉพาะ ุ ิ ็ ี ู ึ ื ั ั ู ิ ิ ึ่ แมวาธรรมยุติกนิกายไดถูกกอตั้งขึ้นจากราชสํานัก และวัดของฝายธรรมยุตสวน ใหญตงอยในเขตเมอง แตวดทเี่ ปนสาขาแรกของธรรมยตกนกายถกตงขนในจงหวดอบลราชธานี ั้ ู ื ั ุ ิ ิ ู ั้ ึ้ ั ั ุ ของภาคอีสานในราวกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งในขณะนั้นยังไมมีการเคลื่อนไหวปฏิรูปทางศาสนา ทีชดเจน รายละเอียดทางประวัตศาสตรทอยูเบืองหลังการพัฒนานีจะนําเสนออีกครังในบทที่ 5 ่ั ิ ี่ ้ ้ ้ แตควรจะบันทึกไว ณ ที่นี้วาพุทธศาสนาในภาคอีสานไดเริ่มเปดชองทางเชื่อมตอกับศูนยกลาง ระดับชาติตงแตในชวงกอนทีพทธศาสนาจะถูกยอมรับในเชิงปฏิบตใหเปนศาสนาประจําชาติไทย ั้ ่ ุ ั ิ การเขาถึงความเปนทองถิ่น หนังสือเลมนี้พยายามที่จะนําเสนอประวัติศาสตรชาติพันธุทองถิ่นของศาสนาและ สังคมไทย-ลาว ในรูปแบบที่สะทอนใหเห็นพลวัตของการเปลี่ยนแปลงในสังคมปจจุบัน แทนที่ จะเนนการศึกษาเพือคนหาแหลงกําเนิดของคนชาติพนธุไทย-ลาว หนังสือนีนาเสนอขอมูลสังคม ่ ั ้ ํ ไทย-ลาวในเชิงประวัติศาสตรที่ชี้ใหเห็นถึงความสัมพันธระหวางกลุมชาติพันธุในภูมิภาคและ ระหวางชาติ ในขณะเดยวกนหนงสอนยงพยายามสะทอนภาพการเปลยนแปลงทปรากฏภายใน ี ั ั ื ี้ ั ี่ ี่ กลมชาตพนธหนงในผนแผนดนเอเชยอาคเนย ดวยการอธบายผานลกษณะชาตพนธตลอดชวง ุ ิ ั ุ ึ่ ื ิ ี ิ ั ิ ั ุ เวลาที่ผานมา
9.
ผูเขียนพยายามคนหาแนวคิดทฤษฎีที่เชื่อมโยงกลุมชาติพันธุกับความเปนภูมิภาค วิถชวตประจําวัน และความเปนชาติ ผานมุมมองพุทธศาสนาเชิงปฏิบตและการเปลียนแปลงของ
ีีิ ั ิ ่ 9 ความเลือมใสศรัทธาในเรืองผี แนวทางนีมสวนสัมพันธกบกรอบแนวคิดการศึกษาทีพฒนาขึนมา ่ ่ ้ ี ั ่ ั ้ จากทงแนวคดชาตพนธวทยาทางศาสนาและแนวคดสงคมวทยาเปรยบเทยบ งานศกษานไดขยาย ั้ ิ ิ ั ุ ิ ิ ั ิ ี ี ึ ี้ แนวคดจากการศกษาเรองศาสนาเชงปฏบตของ Stanley J. Tambiah ซงไดนาเสนอการตความ ิ ึ ื่ ิ ิ ั ิ ึ่ ํ ี ในเชงโครงสรางหนาทของการบรณาการระบบศาสนาทแตกตางกนในภาพรวม โดยเนนในเรอง ิ ี่ ู ี่ ั ื่ ชาติพันธุวิทยาทางศาสนาและเนนบริบทของศาสนาหนึ่งมากกวาบริบทของหมูบาน เพื่อที่จะ จําแนกแบบแผนใหมสําหรับการศึกษาศาสนาและสังคม แนวความคดทนาเสนอในแตละบท เปนการนาเสนอถงรปแบบการกอตวของวถปฏบติ ิ ี่ ํ ํ ึ ู ั ิี ิ ั ในศาสนาหมูบาน (village religion) จากมุมมองของปฏิสัมพันธระหวางกันของคนกับโลกของ ปา สังคมไทย-ลาวสะทอนใหเห็นถึงลักษณะเฉพาะของสังคมที่บุกเบิกตั้งถิ่นฐานชุมชนจากการ ยายถิ่น ซึ่งมักจะเปนการขยับขยายเขาไปบุกเบิกพื้นที่รกรางวางเปลา และโดยเงื่อนไขดังกลาว นมกจะถกมองโดยนกวชาการบางกลมวาเปนกลไกหนงของการเชอมตอทางสงคมกบความเปน ี้ ั ู ั ิ ุ ึ่ ื่ ั ั เมืองหรือรัฐชาติ (cf. Condominas, 1970, 1990) เบื้องหลังของมุมมองนี้อยูบนพื้นฐานขอเท็จ จริงที่วา การคงอยูของผืนปาเปนสิ่งตรงขามกับวิถีชีวิตทางสังคมของประชาชน คําวา “ปา” ที่ ถูกใชในที่นี้มีนัยที่อยูเหนือกวาความหมายสมัยใหมของรูปแบบที่เปนสิ่งแวดลอมทางกายภาพ ของปาไม แตเปนคําอุปมาทีชวยอธิบายถึงความเปนมาและการตอรองแลกเปลียนระหวางกลุม ่ ่ ชนพื้นเมืองและกลุมคนที่อพยพมาทีหลัง ซึ่งเปนปรากฏการณที่เห็นไดทั่วไปในภูมิภาคเอเชีย อาคเนย ลักษณะเชนนี้เปนเงื่อนไขสําคัญที่มีผลใหเกิดสภาพที่หลากหลายของการจําแนกวิถี ปฏิบัติทางศาสนา แมแตภายในภูมิภาคเดียวกันประชาชนที่อยูในแตละภูมิภาคไดขัดเกลา มมมองทเี่ ปน “ปรชญาชวต” ของพวกเขา ซงรวมถงจตสานกทางโลกทไรขอบเขตกบจตสานกทาง ุ ั ีิ ึ่ ึ ิ ํ ึ ี่ ั ิ ํ ึ สังคมทีมขอบเขตจํากัด ในทางกลับกันปรัชญานีในปจจุบนกําลังแตกทําลายไปภายใตอทธิพลของ ่ ี ้ ั ิ โลกาภิวัตน ซึ่งสงผลกระทบตอจิตสํานึกทางสังคม ในสถานการณเชนนี้เปนความไมเหมาะสม ที่จะพยายามตีความประเด็นนี้ในลักษณะที่เปนความกาวหนาหรือเปนการพัฒนาเชิงเดี่ยว ผูเขียนพยายามอยางยิ่งที่จะนําเสนอประสบการณของชาวบาน ในลักษณะที่เปนสวนหนึ่งของ สภาพแวดลอมและความสัมพันธที่ซับซอนและหลากหลายมิติที่เกี่ยวกับปา ในลักษณะที่เปน สวนประกอบสําคัญของการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเขา จากความพยายามที่จะอธิบายให ชัดเจนถึงขอบเขตทางศาสนาที่ปรากฏและการเปลี่ยนแปลงภายในสังคมหมูบานในภาคอีสาน ของไทย งานศึกษานี้จึงเปนงานที่มุงนําเสนอภาพทางสังคมของวิถีปฏิบัติทางศาสนาในพื้นที่ ศึกษาหนึ่ง เนื่องจากแนวคิดที่ใชในการศึกษาจํากัดที่หมูบานของกลุมชาติพันธุไทย-ลาว ซึ่ง
10.
เปนสวนหนงของกลมชาตพนธไท (Tai) การศกษานจงมลกษณะเปนชาตพนธวทยาทางศาสนา
ึ่ ุ ิ ั ุ ึ ี้ ึ ี ั ิ ั ุ ิ 10 ในพื้นที่เปาหมายเฉพาะ โดยความเปนจริงแลว ยิงคนคนหนึงถูกดูดกลืนเขาเปนสวนหนึงในวิถชวตประจําวัน ่ ่ ่ ีีิ ของคนในชมชนหนงมากเทาไร คนคนนนกจะยงมคณลกษณะเฉพาะทางชาตพนธนอยลง และ ุ ึ่ ั้ ็ ิ่ ี ุ ั ิ ั ุ จะเริ่มรูสึกวาแนวคิดเกี่ยวกับโลกและพฤติกรรมทางสังคมของตนมีความสมบูรณ และสามารถ อธบายไดชดเจนในชมชนนนเอง ทงนกลาวไดวาในการศกษาสงคมหนง ๆ คาอธบายของผคน ิ ั ุ ั้ ั้ ี้ ึ ั ึ่ ํ ิ ู ที่อพยพเขาไปอยูในพื้นที่นั้นมักจะมีความแตกตางเมื่อเปรียบเทียบกับคําอธิบายที่บันทึกอยาง เปนทางการโดยผูปกครอง ไมวาจะเปนในประเด็นลักษณะทางภูมิศาสตรของภูมิภาค ความ เปนสถาบันตาง ๆ อยางเชน “กลุมชาติพันธุ” หรือ “รัฐ” ซึ่งเปนเงื่อนไขที่ตองเผชิญหนาซึ่งกัน และกน รวมถงองคประกอบของวถการปฏบตทางศาสนากปรากฏในหลายรปแบบตามความคด ั ึ ิี ิ ั ิ ็ ู ิ และมมมองของแตละฝาย ดวยเหตผลเหลานงานศกษานจงพยายามทจะอธบายการปฏบตทาง ุ ุ ี้ ึ ี้ ึ ี่ ิ ิ ั ิ ศาสนาของประชาชน จากมุมมองของคนทองถิ่นตามวิถีปฏิบัติจริงของพวกเขา ในขณะทีกลุมคนทีถกศึกษาในครังนี้ ถูกเรียกทังโดยนักภาษาศาสตรและกลุมคนภาษา ่ ู่ ้ ้ อืน ๆ ในภาคอีสานวาเปน “คนลาว” ในทางตรงขามกับคนกรุงเทพฯ และคนลาวในประเทศลาว ่ ที่มักเรียกคนกลุมนี้วา “คนอีสาน” คําวา “ลาว” นั้นไมไดหมายถึงเฉพาะเอกลักษณของคนใน ชมชนหมบาน แตยงหมายรวมถงความสมพนธระหวางภมภาคตาง ๆ และระหวางชนชาตตาง ๆ ุ ู ั ึ ั ั ู ิ ิ ที่รวมกันอยูในหมูบาน และภายในกลุมชาติพันธุที่แตกตางกันทางประวัติศาสตร ประเด็น นี้สะทอนใหเห็นไดจากประสบการณสนามของผูเขียนเอง ซึ่งผูเขียนเพิ่งเริ่มสังเกตเห็นไดถึง ความสัมพันธของชุมชนที่มีตอความเปนภูมิภาคและรัฐชาติก็ตอเมื่อหลังจากที่ไดออกมาจาก ชมชนทศกษาแลว รวมถงการไดออกจากเครอขายความสมพนธของหมบานไทย-ลาวในภาคอสาน ุ ี่ ึ ึ ื ั ั ู ี และไดขามพื้นที่ไปศึกษาสังคมลาวที่แตกตางกันในประเทศลาว10 ทั้งนี้คําวา “สังคมลาว” ที่ใช ในการศกษานไดตงใจทจะอธบายปรากฏการณทางสงคมและศาสนาทปรากฏภายในกรอบเวลา ึ ี้ ั้ ี่ ิ ั ี่ ทางประวตศาสตรของทองถนแหงหนงในภมภาคเอเชยอาคเนย และยงเปนการจาแนกลกษณะ ั ิ ิ่ ึ่ ู ิ ี ั ํ ั ทั่วไปของกลุมสังคมหนึ่งที่ใชในการอธิบายและทําความเขาใจถึงแบบแผนรวมกันทางภาษา และระเบียบประเพณีทางศาสนาภายในภูมิภาคที่พวกเขามีปฏิสัมพันธใกลชิดกัน หรือกลาวอีก นัยหนึ่งคํานี้เปนกรอบแนวคิดที่อธิบายโดยศึกษาจากปรากฏการณสังคมตาง ๆ ประเด็นหนึ่งที่ จะเหนไดในบทตอไปคอ คนรนใหมจากภาคอสานซงเปนแหลงทอยอาศยของกลมคนทใชภาษา ็ ื ุ ี ึ่ ี่ ู ั ุ ี่ ไทย-ลาวนั้น เกือบจะไมยินยอมเรียกตนเองวาเปน “คนลาว” อีกตอไป คาวา “ไทย-ลาว” ไมเ พยงแตถกใชจาแนกเพอเปรยบเทยบกบกลมคนทไมใชชาตพนธุ ํ ี ู ํ ื่ ี ี ั ุ ี่ ิ ั ลาวโดยคนลาวในประเทศลาว แตยงรวมถงความหมายทเปนชาตนยมลาวซงมงใชเพอการผสม ั ึ ี่ ิ ิ ึ่ ุ ื่
11.
กลมกลืนชนพืนเมืองอืน ๆ ใหเปน
“ลาว” ทังนีคนลาวมีประมาณครึงหนึงของประชากรหลากหลาย ้ ่ ้ ้ ่ ่ ชาติพันธุในประเทศลาว ถาเรามีสมมุติฐานวาไมเคยมีการจําแนกกลุมชาติพันธุใดมากอนใน 11 ทุกยุคทุกสมัยหรือในที่อื่นใด (นอกจากการจําแนกที่กําหนดขึ้นมาโดยนักวิชาการ) ดังนั้น คําวา “สังคมลาว” จึงไมไดเพียงแสดงนัยทางดานพันธุกรรม แตคานีมความหมายในนัยทีสะทอน ํ ้ ี ่ ถึงขอเท็จจริงทางประวัติศาสตรของประชาชนที่ปจจุบันอาศัยอยูใน 2 ประเทศตางกัน ซึ่งใน อดีตเคยถูกพิจารณาวาเปนกลุมชาติพนธุเ ดียวกัน อยางนอยทีสดก็อยูภายใตการปกครองเดียวกัน ั ุ่ ในชวงระหวางศตวรรษที่ 19 และ 20 ยิ่งไปกวานั้นคําวา “สังคมลาว” ยังมีนัยสําคัญในบริบท ของชนกลุมนอยอื่น ๆ ทีอาศัยอยูรวมกับคนลาว มีตัวอยางมากมายในปจจุบันที่ประชาชนของ ่ กลุมชาติพนธุเ ดียวกันทีมลกษณะรวมทางภาษาและประเพณี ไดมการพัฒนาไปสูความเปนสังคม ั ่ ีั ี ทแตกตางกน คนลาวในปจจบนจงประกอบดวย 2 สงคมดงทกลาวมาแลว โดยการพจารณาถง ี่ ั ุ ั ึ ั ั ี่ ิ ึ ขอเทจจรงทางประวตศาสตร กระบวนการเปลยนแปลงทางสงคมและวฒนธรรมในสงคมทงสอง ็ ิ ั ิ ี่ ั ั ั ั้ และพลวัตของกลุมชาติพันธุตาง ๆ ยังสามารถศึกษาวิเคราะหใหชัดเจนยิ่งขึ้นได โดยทั่วไปแลวมักจะเปนคนนอกที่อธิบายกลุมชาติพันธุหนึ่ง ๆ ดวยการจําแนกทาง วฒนธรรมแลวจงกาหนดชอให คาเรยก “สงคมลาว” กเ็ ปนเชนเดยวกนถกกาหนดขนโดยคนนอก ั ึ ํ ื่ ํ ี ั ี ั ู ํ ึ้ ทั้งโดยกลุมคนที่เปนเพื่อนบานและคนตางชาติ จริง ๆ แลวการจําแนกไมควรพิจารณาที่ภาษา หรือชื่อที่ถูกกําหนดขึ้น แตควรจะพิจารณาถึงความเปนจริงในชีวิตประจําวันของกลุมคนที่พูด ภาษานั้น แนวคิดและความเขาใจที่ใชในหนังสือเลมนี้ลวนมีพื้นฐานมาจากคําทั้งหลายที่ใช โดยคนทองถิ่นและคนนอก ทุกครั้งที่ผูเขียนไดมีโอกาสเขาไปเยี่ยมเยียนกลุมชาติพันธุตาง ๆ ความรูสึกของการพบกับกลุมชาติพันธุเฉพาะคอย ๆ เลือนหายไป กลายเปนความรูสึกของ การเยี่ยมเยียนหมูบานหนึ่งและทองถิ่นหนึ่ง กลุมคนที่ผูเขียนไดพบและไดรวมแบงปนเวลาและ สถานทีรวมกันนัน ลวนเปนกลุมคนทีมประสบการณและแบบแผนทางประวัตศาสตรของตนเอง ่ ้ ่ ี ิ พวกเขาใหคําอธิบายไวอยางนาประทับใจวาศาสนาที่พวกเขาปฏิบัติไมสามารถแยกออกจาก แบบแผนชีวิตของคนทองถิ่นที่อาศัยอยูที่นั่นได ขอมูลที่จะนําเสนอในบทตอ ๆ ไปนี้ เปนผลของการศึกษาเชิงประจักษในหมูบาน ไทย-ลาวหลายแหง11 การอภิปรายในสวนตาง ๆ ที่เหลือของบทแรกนี้เปนการสรุปถึงการศึกษา ที่ผานมาเกี่ยวกับวิถีการปฏิบัติทางศาสนาในประเทศไทย เพื่อที่จะแนะนําคําสําคัญตาง ๆ ที่ ใชในหนังสือเลมนี้ ซึ่งใชอธิบายถึงความเปนจริงที่เปนพลวัตของวิถีการปฏิบัติ ในลักษณะที่ มักจะถูกกําหนดลวงหนาวาเปนพุทธศาสนาหรือไมใชพุทธศาสนาจากระบบเหตุผลที่สืบทอด มา เราจําเปนตองศึกษาใหเขาใจจากบริบทของภูมิภาคนั้น ๆ ในบทที่ 2 และบทที่ 3 เปน ความพยายามจะอธิบายใหชัดเจนถึงสถานะของความเปนไทย-ลาวและความสัมพันธที่มีตอ
Descargar ahora