หัวข้อที่ 9 เรื่อง "การแต่งงานในอิสลาม"
•Descargar como PPTX, PDF•
0 recomendaciones•2,155 vistas
หัวข้อที่ 9 เรื่อง "การแต่งงานในอิสลาม" บรรยายโดย อาจารย์บรรจง บินกาซัน
Recomendados
Más contenido relacionado
Destacado
Destacado (20)
หัวข้อที่ 9 เรื่อง "การแต่งงานในอิสลาม"
- 4. การเลือกคู่ครองที่อิสลามแนะนา “ผู้หญิงถูกแต่งงานด้วยสี่อย่างด้วยกัน นั่นคือ หน้าตา ฐานะ วงศ์ตระกูล และศาสนา ถ้าจะเลือกให้เลือกหญิงที่มีศาสนาก่อน”
- 5. “และจงอย่าแต่งงานกับหญิงผู้ตั้งภาคีจนกว่านางจะศรัทธา แท้จริง บ่าวหญิงผู้มีความศรัทธานั้นดีกว่าหญิงผู้ตั้งภาคีถึงแม้ว่านางจะเป็น ที่ต้องใจสูเจ้าก็ตาม ในทานองเดียวกัน จงอย่ายกผู้หญิงของสูเจ้าให้ แต่งงานกับชายผู้ตั้งภาคีจนกว่าเขาจะศรัทธา แท้จริง บ่าวชายผู้มี ความศรัทธานั้นดีกว่าชายผู้ตั้งภาคีแม้ว่าเขาจะเป็นที่ต้องใจสูเจ้าก็ตาม ผู้ตั้งภาคีเหล่านี้เรียกร้องสูเจ้าไปสู่ไฟนรกขณะที่อัลลอฮฺทรงเรียกร้อง สูเจ้าไปสู่สวนสวรรค์และการอภัยโทษโดยอนุมัติของพระองค์ และ พระองค์ได้ทรงทาให้อายะฮฺทั้งหลายของพระองค์เป็นที่แจ่มแจ้ง สาหรับมนุษย์ ทั้งนี้เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ระลึก” (กุรอาน 2:221)
- 6. เงื่อนไขจาเป็นสาหรับการแต่งงานในอิสลาม 1. เจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องเป็นผู้ศรัทธาในพระเจ้า 2. มีผู้ปกครอง (วะลี) ของฝ่ ายหญิง 3. มีของขวัญแต่งงานให้เจ้าสาว 4. มีพยานที่เป็นมุสลิมอย่างน้อยสองคนรู้เห็น 5. มีคาเสนอ (อิญาบ) จากฝ่ ายหญิงและคาตอบรับ (กอบูล) จากเจ้าบ่าว
- 8. หน้าที่ของสามี = สิทธิของภรรยา 1. ซื่อสัตย์ต่อภรรยา 2. รับผิดชอบเลี้ยงดูครอบครัว 3. ให้ความรักแก่ครอบครัว 4. ปกป้องคุ้มครองครอบครัว 5. รักษาความสัมพันธ์กับเครือญาติของภรรยา
- 9. หน้าที่ของภรรยา = สิทธิของสามี 1. ซื่อสัตย์ต่อสามี 2. เชื่อฟังสามีในสิ่งที่ไม่ขัดต่อศาสนา 3. รับผิดชอบงานบ้านและการเลี้ยงลูก 4. รักษาความลับ เกียรติและทรัพย์สินของสามี 5. รักษาความสัมพันธ์กับเครือญาติของสามี
- 10. บุคคลที่อิสลามห้ามแต่งงานด้วย (incest taboo) 1. หญิงที่พ่อของเจ้าแต่งงานมาแล้ว 2. แม่ของตัวเอง 3. ลูกสาวของตัวเอง 4. พี่สาวและน้องสาวของตัวเอง 5. พี่สาว/น้องสาวของพ่อและแม่ 6. ลูกสาวของพี่ชาย/น้องชายและของพี่สาว/น้องสาว 7. แม่นม 8. แม่, พี่สาวและน้องสาวของภรรยา 9. ภรรยาของลูกชาย 10. ลูกที่ติดมากับภรรยา
- 11. วัตถุประสงค์ของการแต่งงาน 1. เพื่อยกระดับศีลธรรมของมนุษย์ 2. เพื่อสร้างครอบครัวและวางรากฐานอารยธรรม 3. เพื่อรักษาและขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์
- 12. “ถ้าหากสูเจ้าเกรงว่าไม่สามารถที่จะให้ความเป็นธรรม แก่เด็กกาพร้า ดังนั้น จงแต่งงานกับผู้หญิงสอง หรือสาม หรือสี่ที่สูเจ้าสบใจ แต่ถ้าหากสูเจ้าเกรงว่าจะไม่สามารถให้ความยุติธรรม ก็จงแต่งงานกับผู้หญิงเพียงคนเดียวหรือแต่งงาน กับหญิงที่อยู่ในความครอบครองของสูเจ้า นั่นเป็นการดีกว่าที่สูเจ้าจะได้ไม่ลาเอียง” (กุรอาน 4:3) บทบัญญัติเรื่องการมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน แต่ไม่เกินสี่
- 13. ช. ผมจะทาทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด เพื่ออนาคตของเราทั้งสอง ญ. คุณอยากไปจดทะเบียนกับฉันที่อาเภอไหมคะ ? ช. แน่นอนที่สุด ผมภาวนาให้ได้ยินคานี้จากปากของคุณมานานแล้ว ญ. แล้วคุณจะเลิกกับฉันไหมนี่ ? ช. ไม่มีทางเด็ดขาด ต่อให้ผมตายก็เถอะ ญ. ถ้าฉันงอนคุณขึ้นมา คุณจะง้อฉันไหม ? ช. สาหรับคุณแล้ว ผมจะทาทุกวิธีที่คิดได้เลยเลยเชียวแหละ ญ. แล้วคุณคิดจะทาร้ายฉันบ้างไหม ? ช. ผมคงต้องตายแน่ๆถ้าทาอย่างนั้นกับคุณ ญ. จูบฉันสักครั้งสิคะ คำพูดก่อนแต่งและหลังแต่งสำหรับบำงคู่
- 14. การสิ้นสุดการสมรสในลักษณะต่างๆ 1. ตาย 2. หย่า (เฏาะลาก) 2.1 ภรรยาขอให้ศาลสั่งหย่า (ฟะซัก) 2.2 ภรรยาซื้อหย่า (คุลุอฺ) 2.3 กล่าวหาต่อหน้าศาลว่ามีชู้ (ลิอาน) 3. สามีหรือภรรยาพ้นสภาพเป็นมุสลิม หรือตกศาสนา
- 15. อ อิดด๊ะฮฺ คือ ช่วงระยะเวลาแห่งการรอคอยของผู้หญิง หลังจากแยกกับสามีในกรณีสามีหย่าหรือตาย กรณีหย่า คือ ครบรอบเดือน 3 ครั้ง กรณีสามีเสียชีวิต คือ 4 เดือนกับ 10 วัน
- 18. เมื่อหญิงนั้นเห็นว่าต้นไม้นั้นน่ากินและน่าดูด้วย ทั้งเป็ นต้นไม้ที่มุ่งหมายจะให้เกิดปัญญา จึงเก็บผลไม้นั้นมากิน แล้วส่งให้สามีกินด้วย เขาก็กิน (ปฐมกาล 3:6) ชายนั้น (อาดัม)ทูลว่า “หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กินกับ ข้าพระองค์นั้นส่งผลไม้นั้นให้ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงรับประทาน” (ปฐมกาล 3:12) คัมภีร์ไบเบิลของแคธอลิกกล่าวว่า : “ไม่มีความชั่วร้ายจากที่ไหนใกล้เคียงความชั่วของผู้หญิง … บาปเริ่มต้นกับผู้หญิง และเพราะเธอที่เราทั้งหมดต้องตาย” (Ecclesasticus 25:19,24)
- 19. “จงให้พวกผู้หญิงนิ่งเสียในที่ประชุม เพราะนางไม่ได้รับอนุญาตให้พูด แต่ให้เขาอยู่ใต้บังคับบัญชาเหมือนที่ธรรมบัญญัติสั่งไว้นั้น ถ้านางอยากรู้สิ่งใดก็ให้เขาถามสามีที่บ้าน เพราะว่าการที่ผู้หญิงจะพูดในที่ประชุมนั้นก็เป็นสิ่งที่น่าอาย” (๑ โครินธ์ 14:34-35) “ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ผู้หญิงสั่งสอนหรือใช้อานาจเหนือผู้ชาย แต่ให้เขานิ่งๆอยู่ ด้วยว่าพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างอาดัมขึ้นก่อนแล้ว จึงถึงเอวา และอาดัมไม่ได้ถูกหลอกลวง แต่ผู้หญิงนั้นได้ถูกหลอกลวง จึงได้กระทาบาป” (๑ ทิโมธี 2:12-14)
- 20. จากอิบนุอุมัรฺ : ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “พวกท่านอย่าตัดราคาเมื่อมีคนเสนอราคาไปแล้ว ในทานองเดียวกัน พวกท่านอย่าสู่ขอใครแต่งงานในขณะที่ พี่น้องของเขา(คนอื่น)กาลังสู่ขออยู่ยกเว้นจะได้รับอนุญาต จากคนที่ขออยู่ก่อนแล้ว” (บันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม)
- 23. มุอาวิยะฮฺ อิบนุฮัยด๊ะฮฺเล่าว่า “ฉันได้ถามท่านรอซูลุลลอฮฺถึงเรื่องที่ว่าภรรยามีสิทธิ์อะไร เหนือสามีของนาง” ท่านได้ตอบว่า “จงให้อาหารนางเมื่อท่านกิน จงให้เสื้อผ้านางเมื่อท่านสวมใส่เสื้อผ้า จงอย่าตบหน้านาง จงอย่ากล่าวร้าย(หรือสาปแช่ง)นาง และจงอย่าแยกตัวของท่านออกจากนางนอกจากในบ้าน” (บันทึกโดยอบูดาวูด) สิทธิของภรรยา
- 24. จากอบูอะลี ฏ็อลก์ อิบนุอะลี : ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า “เมื่อผู้ชายคนหนึ่งเรียกภรรยาของเขาเพื่อตอบสนองความต้องการของเขา นางจะต้องไปหาเขาแม้ว่านางอาจจะกาลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารก็ตาม” (บันทึกโดยติรฺมีซีและนะซาอี) จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ : ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า “เมื่อสามีเรียกภรรยาของเขามายังที่นอนและนางไม่เชื่อฟัง แต่ปล่อยให้เขาโกรธนางตลอดทั้งคืน มลาอิก๊ะฮฺจะสาปแช่งนางจึงถึงเช้า” (บันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม) สิทธิของสามี
- 25. ในคาปราศรัยอาลาในการทาฮัจญ์ครั้งสุดท้ายของท่านนบี ท่านได้เตือนบรรดาสาวกว่า “จงฟังให้ดี จงปฏิบัติต่อภรรยาของท่านด้วยดี พวกนางเหมือนกับนักโทษในมือของพวกท่าน นอกจากนี้ พวกท่านไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งใดจากพวกนาง ถ้าหากพวกนางทาสิ่งไม่ดีงามที่เห็นได้ชัดๆ พวกท่านอาจให้พวกนาง ออกห่างจากที่นอนของพวกท่านก็ได้ และจงตีนาง แต่อย่าลงโทษนาง อย่างรุนแรงจนนางได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้น ถ้าพวกนางเชื่อฟัง พวกท่านแล้วก็จงอย่านาสิ่งใดอื่นมาหาเรื่องพวกนางอีก ต่อ
- 28. จากอิบนุมัสอูด อัลอันซอรี : ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า “เมื่อมุสลิมใช้จ่ายสิ่งใดในครอบครัวของเขาโดยมีเจตนา ที่จะได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ นั่นก็ถือเป็นการเศาะดะเก๊าะฮฺสาหรับเขา” (บันทึกโดยบุคอรี) จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ : ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า โอ้ลูกลานของอาดัม จงเลี้ยงดูครอบครัว และฉันจะเลี้ยงดูเจ้า” (บันทึกโดยบุคอรี)
- 29. ท่านหญิงอาอิชะฮฺเล่าว่าฮินด์ บินตุอุตบ๊ะฮฺได้มาหาท่านนบีและบ่นว่า “ท่านรอซูลุลลอฮฺ อบูซุฟยาน(สามีของนาง)เป็นคนขี้เหนียว จะเป็นการเสียหายอะไรไหมถ้าฉันจะใช้ทรัพย์สินบางส่วนของเขา ให้แก่ลูกๆของเรา ?” ท่านรอซูลุลลอฮฺตอบว่า “ไม่ ถ้าเธอใช้จ่ายตามความจาเป็นของเธอและใช้อย่างมีเหตุผล พอเหมาะพอควร” (บันทึกโดยบุคอรี)
- 30. จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ : ท่านนบีได้กล่าวว่า “ถ้าภรรยาเอา(บางสิ่งบางอย่าง)จากทรัพย์สินของสามีมาให้ทาน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี นางก็ได้รับผลตอบแทนครึ่งหนึ่ง” (บันทึกโดยบุคอรี)
- 31. จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ : ท่านนบีกล่าวว่า “เมื่อชายคนหนึ่งมีภรรยาสองคนและลาเอียงไปทางฝ่ ายหนึ่งฝ่ ายใด (คิดจะทอดทิ้งอีกคนหนึ่ง) เขาจะมาในวันฟื้นคืนชีพด้วยสภาพพิการข้างหนึ่ง” (บันทึกโดยอบูดาวูด) อยากพิการข้างใดในโลกหน้า เชิญ
- 32. จากมุอาซ บินญะบัล : ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า “เมื่อใดก็ตามที่ผู้หญิงเป็นสาเหตุนาความเดือดร้อนราคาญมาให้ แก่สามีของนางในโลกนี้คู่ครองของเขาจากหญิงสาวสวยแห่งสวรรค์ จะพูดกับนางว่า “ขออัลลอฮฺทรงลงโทษพวกเธอ จงอย่าทาให้สามี ของพวกเธอต้องเดือดร้อนราคาญเลย เพราะเขาเป็นแขกคนเดียว ของเธอและไม่ช้าเขาก็จะจากพวกเธอมาอยู่ร่วมกับเราในสวรรค์” (บันทึกโดยติรฺมีซี)
- 33. จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ : ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “จงปฏิบัติต่อผู้หญิงด้วยดี พราะผู้หญิงถูกสร้างมาจากกระดูกซี่โครง และส่วนที่โค้งงอที่สุดของซี่โครงคือส่วนบนของมัน ดังนั้น ถ้าท่านพยายามจะดัดมันให้ตรง มันจะหัก แต่ถ้าท่านปล่อยมันไว้อย่างนั้น มันจะยังงอเหมือนเดิม ดังนั้น จงปฏิบัติต่อผู้หญิงด้วยดี” (บันทึกโดยบุคอรี)
- 34. ท่านหญิงอาอิชะฮฺรายงานว่า “วันหนึ่ง ท่านนบีได้กลับมาจาก สุสานอัลบะกีอฺหลังจากเข้าร่วมงานศพของคนผู้หนึ่ง ตอนนั้น ฉันปวดหัวและพูดว่า ‘โอย ปวดหัวอะไรเช่นนี้’ ท่านนบีกล่าวว่า ‘ฉันต่างหากที่น่าจะพูดว่า ‘ปวดหัวอะไรเช่นนี้’ แล้วท่านได้กล่าวว่า ‘อะไรจะเกิดขึ้นซิ ถ้าเธอตายก่อนฉันและฉันอาบน้าศพให้แก่เธอ ห่อผ้าให้เธอ นานมาซศพให้เธอและฝังเธอ?’ นางตอบว่า “ฉันคิดว่าถ้าฉันตาย ท่านก็จะไปยังบ้านภรรยา ของท่านบางคนและอยู่กับภรรยาเหล่านั้น’ ท่านยิ้มและเริ่มรู้สึกป่ วย มันเป็นการป่ วยที่ทาให้ท่านเสียชีวิต” (บันทึกโดยอิบนุฮิบบาน)