การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์

1. การสร้างโปรแกรมด้วย
ภาษาคอมพิวเตอร์

2. สารบัญ
1.ความสาคัญของภาษาคอมพิวเตอร์
2.การพัฒนาระบบงานทางคอมพิวเตอร์
3.แนวทางสร้างโปรแกรมประยุกต์งาน
4.การลาดับขั้นตอนงานด้วยผังงาน
5.กรณีศึกษาการวิเคราะห์ระบบงานและผังงาน

3. ความสาคัญของภาษาคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันเทคโนโลยีและการสื่อสารได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ในการดาเนินชีวิตประจาวันของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาค้นคว้า
และการทาธุรกิจ ทาให้องค์กรต่างๆ นาเทคโนโลยีเหล่านี้ เข้ามาช่วยในการ
ดาเนินงานขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์
การทาธุรกิจและให้บริการบนอินเตอร์เน็ต ตลอดจนการใช้เป็นเครื่องมือ
ช่วยในการทางาน
คุณสมบัติพื้นฐานของคอมพิวเตอร์มีอยู่ 5 ประการที่สาคัญัังนี้

4. 1. ทางานั้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic machine)
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการบันทึกข้อมูล
ประมวลผล และแสดงผลลัพธ์ การจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกผ่านทางแป้ นพิมพ์
หรืออุปกรณ์อื่นๆ
2. การทางานั้วยความเร็วสูง (speed)
ดังนั้นการดาเนินงานต่างๆ กระทาได้อย่างรวดเร็ว (มากกว่า
พันล้านคาสั่งในหนึ่งวินาที)

5. 3. ความถูกต้องแม่นยาเชื่อถือไั้ (accuracy and reliability)
คอมพิวเตอร์จะทางานตามคาสั่งที่มนุษย์เขียนโปรแกรมหรือ
คาสั่งไว้ ถ้าผู้ใช้ป้ อนข้อมูลและชุดคาสั่งมีความถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการ
ประมวลผลก็จะมีความถูกต้องเชื่อถือได้
4. การเก็บข้อมูลไั้ในปริมาณมาก (storage)
คอมพิวเตอร์มีหน่วยความจาที่ทาหน้าที่เก็บ
ข้อมูลที่บันทึกเข้าไป
5. การสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูล (communication)
คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ
และสามารถทางานที่หลากหลายมากขึ้นกว่าการใช้คอมพิวเตอร์แบบ
ระบบเดี่ยว

6. 1.ขั้นกาหนัขอบเขตปัญหา (Problem Definition)
เริ่มต้นด้วยการศึกษาวิเคราะห์ระบบงานเดิม เพื่อพัฒนาระบบงานให้
อาจวิเคราะห์งานจากผลลัพธ์ กรณีเป็นระบบงานใหญ่ ความซับซ้อน
ของงานย่อมมากขึ้นอาจเริ่มจากสภาพปัญหา โดย รวบรวมข้อมูล
ปัญหาและ ความต้องการ ต่าง ๆ จากผู้เกี่ยวข้อง
การพัฒนาระบบงานทางคอมพิวเตอร์

7. 2. ขั้นวางแผนและการออกแบบ (Planning & Design)
ขั้นตอนการวางแผนวิเคราะลาดับการทางานมีหลายวิธีให้เลือกใช้ เช่น
วิธีอัลกอริทึม (Algorithm) วิธีซูโดโคด (Pseudocode Design)
วิธีผังงาน (Flowchart)ลาดับขั้นตอนการออกแบบ ระบบ เช่น การ
ออกแบบรูปแบบการแสดงผล (Output Design) การออกแบบ
รูปแบบการนาเข้า ข้อมูล (Input Design)

8. 3. ขั้นัาเนินการเขียนคาสั่งงาน (Coding)
เป็นขั้นตอนเขียนคาสั่งควบคุมงาน ด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ตาม
กฎเกณฑ์ไวยากรณ์ที่กาหนดไว้มีแนวทางดาเนินงาน ดังนี้
1.)จัดทีมงานในองค์กรวิเคราะห์และพัฒนาระบบงานเอง
2.)จัดซื้อโปรแกรมสาเร็จรูป
3.)จัดจ้างบริษัทพัฒนาระบบ
4. ขั้นทัสอบและแก้ไขโปรแกรม (Testing & Debugging)
การทดสอบการทางานของโปรแกรมแบงออกเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงแรก
ทดสอบโดยพัฒนา ระบบงานเองโดยใช้ข้อมูลสมมติ ทดสอบเพื่อหา
ข้อผิดพลาดจากการใช้ไวยากรณ์คาสั่ง และวิเคราะห์ เปรียบเทียบ
ผลลัพธ์การทางานกับจุดประสงค์ของงาน หากไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ
จึงสงมอบการทาสอบ อีกช่วงคือ ทดสอบโดยผู้ใช้ระบบงานจริง

9. 5. ขั้นจััทาคู่มือระบบ (Documentation)
ผู้พัฒนาระบบจะต้องรวบรวมเอกสารเพื่อจัดทาคู่มือการใช้ ระบบงาน
ให้ คู่มือระบบงานมีความสาคัญมาก เพราะเปรียบเสมือนกับพิมพ์เขียว
ของบาน คู่มือระบบ จึงถูกใช้เพื่อศึกษารูปแบบระบบงานเพื่อพัฒนา
ระบบในอนาคต
6. ขั้นการติัตั้ง (Implementation)
เป็นขั้นตอนนาระบบให้ที่ผ่านการทดสอบ และได้รับการยอมรับจาก
กลุ่มตัวแทนผู้ใช้ระบบว่า สามารถนามาทดแทนระบบงานเดิม

10. 7. ขั้นการบารุงรักษา (Maintenance)
เป็นการดูแลระบบงานหลังติดตั้งระบบ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้
ตลอดเวลา สาเหตุที่ต้อง บารุงรักษา มีดังนี้
1.) การบารุงรักษาด้วยการแก้ไขระบบให้ถูกต้อง
2.) การบารุงรักษาด้วยการปรับปรุงให้ดีขึ้น
3.) การบารุงรักษาด้วยการป้ องกัน

11. แนวทางสร้างโปรแกรมประยุกต์งาน
1. ขั้นวิเคราะห์ระบบงานเบื้ องต้น วิเคราะห์จากผลลัพธ์ หรือลักษณะ
รูปแบบรายงานของระบบงานนั้น เพื่อวิเคราะห์ย้อนกลับ ไปถึงที่มา
ของข้อมูลคือสมการคานวณ จนถึงข้อมูลที่ต้องป้ อนเข้าระบบเพื่อใช้ใน
สมการ
2. ขั้นวางแผนลาัับการทางาน มีหลายวิธี เช่น อัลกอริทึม ซูโดโค้ด
ผังงาน ต่างมีจุดประสงค์เพื่อแสดงลาดับขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์
ตามต้องการ ก่อนไปสู่ขั้นตอนการเขียนคาสั่งงาน

12. 3. ขั้นัาเนินการเขียนโปรแกรม เป็นการเขียนคาสั่งควบคุมตามลาดับ
การทางานที่ได้วิเคราะห์ไว้ในกระบวนการวางแผน ลาดับการทางาน
ขั้นตอนนี้ ต้องใช้คาสั่งให้ถูกต้องตามรูปแบบการใช้งานคาสั่ง ที่แต่ ละภาษา
ได้กาหนดไว้
4. ขั้นทัสอบและแก้ไขโปรแกรม กรณีผู้สร้างและผู้ใช้ระบบงานเป็นคน
เดียวกัน การทดสอบจึงมีขั้นตอนเดียวคือ ทดสอบไวยากรณ์คาสั่งงาน และ
ทดสอบโดยใช้ข้อมูลจริง
5. ขั้นเขียนเอกสารประกอบ เมื่อโปรแกรมผ่านการทดสอบการทางาน
ต้องจัดทาเอกสารประกอบการใช้โปรแกรมด้วย เช่น วิธีป้ อนข้อมูล

13. การลาดับขั้นตอนงานด้วยผังงาน ผังงานเป็นขั้นตอนวางแผนการ
ทางานของคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง มีจุดประสงค์เพื่อแสดงลาดับ การควบคุม
การทางาน โดยใช้สัญลักษณที่กาหนดความหมายใช้งานเป็นมาตรฐาน
เชื่อมโยงการทางาน ด้วยลูกศร ในที่นี้ กล่าวถึงการลาดับขั้นตอนการทางาน
ด้วยผังงานประเภทผังงานโปรแกรม ดังนี้
การลาัับขั้นตอนงานั้วยผังงาน

14. 1.สัญลักษณ์ของผังงาน ในที่นี้ กล่าวถึงเฉพาะสัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียนผัง
งานโปรแกรมเป็นส่วนใหญ่ ดังนี้

15. 2. หลักในการเขียนผังงาน ข้อแนะนาในการเขียนผังงานเพื่อให้ผู้
อานระบบงาน ใช้ศึกษา ตรวจสอบลาดับการทางานได้ง่าย ไม่สับสน มี
แนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1. ทิศทางการทางานต้องเรียงลาดับตามขั้นตอนที่ได้วิเคราะห์ไว้
2. ใช้ชื่อหนวยความจา เช่น ตัวแปร ให้ตรงกับขั้นตอนที่ได้วิเคราะห์ไว้
3. ลูกศรกากับทิศทางใช้หัวลูกศรตรงปลายทางเทานั้น
4. เส้นทางการทางานหามมีจุดตัดการทางาน
5. ต้องไม่มีลูกศรลอย ๆ โดยไม่มีการตอจุดการทางานใด ๆ
6. ใช้สัญลักษณ์ให้ตรงกับความหมายการใช้งาน
7. หากมีคาอธิบายเพิ่มเติมให้เขียนไว้ด้านขวาของสัญลักษณ์นั้น

16. 3. ประโยชน์ของผังงาน การเขียนผังงานโปรแกรมของคอมพิวเตอร์
นั้นมีประโยชน ดังนี้
1. ทาให้องเห็นรูปแบบของงานได้ทั้งหมด โดยใช้เวลาไม่มาก
2. การเขียนผังงานเป็นสากล สามารถนาไปเขียนคาสั่งได้ทุกภาษา
3. สามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว
4. รูปแบบการเขียนผังงาน การเขียนผังงานแสดงลาดับการทางานของ
ระบบงานไม่มีรูปแบบการเขียนตายตัว

17. กรณีศึกษาการวิเคราะห์ระบบงานและผังงาน
ในการวิเคราะห์งานให้ได้ผลดีนั้น มีผู้วิเคราะห์กันหลายแบบ แต่
หลักเกณฑ์ใหญ่ๆ ที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไปสามารถแยกเป็นข้อๆ ได้ตามลาดับ
ดังต่อไปนี้
1.สิ่งที่ต้องการ เป็นการพิจารณาอย่างกว้างๆ ถึงงานที่ต้องการให้
คอมพิวเตอร์ทา เช่น ต้องการให้คานวณคะแนนเฉลี่ย ซึ่งควรจะเขียนไว้เป็น
ข้อ ๆ ให้ชัดเจนโดยอ่านโจทย์หรือคาสั่งแล้วขีดเส้นใต้ประโยคที่เป็นคาสั่ง

18. 2.ผลลัพธ์ที่ต้องแสัง เป็นวิเคราะห์ถึงลักษณะของรายงาน หรือรูปแบบ
ผลลัพธ์ที่ต้องการให้คอมพิวเตอร์แสดงออกมาว่าควรจะมีลักษณะอย่างไร
มีรายละเอียดที่ต้องการในรายงานมากน้อยเพียงใด โจทย์หรืองาน
บางอย่างอาจจะกาหนดลักษณะของรายงานมาให้ชัดเจน
3.ข้อมูลที่ต้องการนาเข้า เป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องมาจากการวิเคราะห์
ลักษณะของผลลัพธ์คือ หลังจากที่ได้ลักษณะของรายงานที่ต้องการแน่นอน
แล้วซึ่งการพิจารณาข้อมูลที่จะนาเข้านอกจากจะดูลักษณะของผลลัพธ์แล้ว
อาจจะต้องนึกถึงขั้นตอน ในการประมวลผลด้วย

19. 4.ตัวแปรที่ใช้ เป็นการกาหนดชื่อแทนความหมายของข้อมูลต่าง ๆเพื่อ
ความสะดวกในการอ้างถึงข้อมูลนั้น และรวมถึงการเขียนโปรแกรมด้วย
5. วิธีการประมวลผล เป็นการบอกขั้นตอนของวิธีการ หรือการคานวณ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งการโดยเริ่มตั้งแต่การสั่งให้เครื่องรับข้อมูลแล้ว
นาไปประมวลผลและแสดงผลออกมา ขั้นตอนนี้ จะแสดงการทางานที่
ต่อเนื่องตามลาดับ จะต้องจัดลาดับก่อนหลังให้ถูกต้อง
โดยสรุป การวิเคราะห์จะเป็นการศึกษาผลลัพธ์ ( Output ) ข้อมูล
นาเข้า (Input) และวิธีการประมวลผล (Process) รวมทั้งการ
กาหนัชื่อตัวแปรที่จะใช้ในการเขียนโปรแกรม

20. ที่มา...
• https://sites.google.com/site/kanjanannui/home/kar-phathna-rabb-ngan-
thang-khxmphiwtexr เข้าถึงข้อมูล 28 พ.ค 58
• https://programsc.wordpress.com/ เข้าถึงข้อมูล 28 พ.ค 58
• http://www.tice.ac.th/division/website_c/about/page1.htm#3
• เข้าถึงข้อมูล วันที่28 พ.ค. พ.ศ. 2558
• https://programsc.wordpress.com เข้าถึงข้อมูล วันที่28 พ.ค. พ.ศ. 2558

21. นายสิรภพ สัมมาคุณ เลขที่ 6
นายวราเทพ แต้มเรืองอิฐ เลขที่ 10
นางสาวฉัตรชนก หงษาวัี เลขที่ 23
นางสาวธนัณญา เหลืองกัลยาณคุณ เลขที่ 24
นางสาวศิริพร สาราญวงษ์ เลขที่ 28
นางสาวสิรีธร ขวัญอ่อน เลขที่ 29
สมาชิก