Enviar búsqueda
Cargar
ชีวประวัตินบี(ปลาย).Pdf
•
0 recomendaciones
•
1,574 vistas
Muhammadrusdee Almaarify
Seguir
Denunciar
Compartir
Denunciar
Compartir
1 de 37
Recomendados
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ( Bumrungrad Hospital )
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ( Bumrungrad Hospital )
Chalachon Presentation Studio
อริยสัจ4และการปล่อยวาง
อริยสัจ4และการปล่อยวาง
สาวกปิศาจ Kudo
Chapter 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
Chapter 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
อรนุช เขตสูงเนิน
บริหารเชิงกลยุทธ์
บริหารเชิงกลยุทธ์
กรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์
หนังสือเพลงเพื่อชีวิตสร้างสรรค์ สลึง
หนังสือเพลงเพื่อชีวิตสร้างสรรค์ สลึง
Wasan Yodsanit
ความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวน
Joice Naka
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม2
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม2
ชิตชัย โพธิ์ประภา
MATERI AQIDAH Makna Rizki Dalam Pandangan Islam
MATERI AQIDAH Makna Rizki Dalam Pandangan Islam
Anas Wibowo
Recomendados
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ( Bumrungrad Hospital )
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ( Bumrungrad Hospital )
Chalachon Presentation Studio
อริยสัจ4และการปล่อยวาง
อริยสัจ4และการปล่อยวาง
สาวกปิศาจ Kudo
Chapter 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
Chapter 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
อรนุช เขตสูงเนิน
บริหารเชิงกลยุทธ์
บริหารเชิงกลยุทธ์
กรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์
หนังสือเพลงเพื่อชีวิตสร้างสรรค์ สลึง
หนังสือเพลงเพื่อชีวิตสร้างสรรค์ สลึง
Wasan Yodsanit
ความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวน
Joice Naka
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม2
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม2
ชิตชัย โพธิ์ประภา
MATERI AQIDAH Makna Rizki Dalam Pandangan Islam
MATERI AQIDAH Makna Rizki Dalam Pandangan Islam
Anas Wibowo
พุทธานุพุทธประวัติ
พุทธานุพุทธประวัติ
Onpa Akaradech
ปริเฉทที่ 2
ปริเฉทที่ 2
Onpa Akaradech
อีบุ๊ค เรียนรู้หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อีบุ๊ค เรียนรู้หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
Panda Jing
ศาสนาชินโต
ศาสนาชินโต
Padvee Academy
Materi i jalan menuju iman
Materi i jalan menuju iman
permadina
ศาสนาเชน
ศาสนาเชน
Padvee Academy
Spiritual power by @asepfakhri
Spiritual power by @asepfakhri
Asep Supriatna
Fluid
Fluid
pennipa
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
Padvee Academy
ผลกระทบทางจริยธรรม และประเด็นทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบทางจริยธรรม และประเด็นทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
Nawanan Theera-Ampornpunt
135 402 cross-cultural management11 การสื่อสารต่างวัฒนธรรม
135 402 cross-cultural management11 การสื่อสารต่างวัฒนธรรม
Wannarat Wattana
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
Nhui Srr
Chapter2 communication-v62 a
Chapter2 communication-v62 a
ธนาพัฒน์ ลิ้มสายพรหม
ศาสนาบาไฮ
ศาสนาบาไฮ
Padvee Academy
คู่มือเข้าค่ายจริยธรรมประถมศึกษา
คู่มือเข้าค่ายจริยธรรมประถมศึกษา
niralai
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
Padvee Academy
วิชาพุทธปรัชญา : พื้นฐานพุทธปรัชญา
วิชาพุทธปรัชญา : พื้นฐานพุทธปรัชญา
Padvee Academy
กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาและสารเสพติดแนวใหม่
กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาและสารเสพติดแนวใหม่
Isara Chiawiriyabunya
03ศาสนาเชน...ใหม่ 007
03ศาสนาเชน...ใหม่ 007
Dream'Es W.c.
การรายงานความเสี่ยงที่สร้างความปลอดภัยและยั่งยืน Suradet sriangkoon
การรายงานความเสี่ยงที่สร้างความปลอดภัยและยั่งยืน Suradet sriangkoon
Suradet Sriangkoon
คีตกวีเอกของไทย.pdf
คีตกวีเอกของไทย.pdf
pinglada
สงครามครูเสด
สงครามครูเสด
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
Más contenido relacionado
La actualidad más candente
พุทธานุพุทธประวัติ
พุทธานุพุทธประวัติ
Onpa Akaradech
ปริเฉทที่ 2
ปริเฉทที่ 2
Onpa Akaradech
อีบุ๊ค เรียนรู้หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อีบุ๊ค เรียนรู้หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
Panda Jing
ศาสนาชินโต
ศาสนาชินโต
Padvee Academy
Materi i jalan menuju iman
Materi i jalan menuju iman
permadina
ศาสนาเชน
ศาสนาเชน
Padvee Academy
Spiritual power by @asepfakhri
Spiritual power by @asepfakhri
Asep Supriatna
Fluid
Fluid
pennipa
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
Padvee Academy
ผลกระทบทางจริยธรรม และประเด็นทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบทางจริยธรรม และประเด็นทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
Nawanan Theera-Ampornpunt
135 402 cross-cultural management11 การสื่อสารต่างวัฒนธรรม
135 402 cross-cultural management11 การสื่อสารต่างวัฒนธรรม
Wannarat Wattana
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
Nhui Srr
Chapter2 communication-v62 a
Chapter2 communication-v62 a
ธนาพัฒน์ ลิ้มสายพรหม
ศาสนาบาไฮ
ศาสนาบาไฮ
Padvee Academy
คู่มือเข้าค่ายจริยธรรมประถมศึกษา
คู่มือเข้าค่ายจริยธรรมประถมศึกษา
niralai
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
Padvee Academy
วิชาพุทธปรัชญา : พื้นฐานพุทธปรัชญา
วิชาพุทธปรัชญา : พื้นฐานพุทธปรัชญา
Padvee Academy
กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาและสารเสพติดแนวใหม่
กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาและสารเสพติดแนวใหม่
Isara Chiawiriyabunya
03ศาสนาเชน...ใหม่ 007
03ศาสนาเชน...ใหม่ 007
Dream'Es W.c.
การรายงานความเสี่ยงที่สร้างความปลอดภัยและยั่งยืน Suradet sriangkoon
การรายงานความเสี่ยงที่สร้างความปลอดภัยและยั่งยืน Suradet sriangkoon
Suradet Sriangkoon
La actualidad más candente
(20)
พุทธานุพุทธประวัติ
พุทธานุพุทธประวัติ
ปริเฉทที่ 2
ปริเฉทที่ 2
อีบุ๊ค เรียนรู้หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อีบุ๊ค เรียนรู้หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ศาสนาชินโต
ศาสนาชินโต
Materi i jalan menuju iman
Materi i jalan menuju iman
ศาสนาเชน
ศาสนาเชน
Spiritual power by @asepfakhri
Spiritual power by @asepfakhri
Fluid
Fluid
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
วิชาพระพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายโยคาจาร
ผลกระทบทางจริยธรรม และประเด็นทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบทางจริยธรรม และประเด็นทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
135 402 cross-cultural management11 การสื่อสารต่างวัฒนธรรม
135 402 cross-cultural management11 การสื่อสารต่างวัฒนธรรม
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
Chapter2 communication-v62 a
Chapter2 communication-v62 a
ศาสนาบาไฮ
ศาสนาบาไฮ
คู่มือเข้าค่ายจริยธรรมประถมศึกษา
คู่มือเข้าค่ายจริยธรรมประถมศึกษา
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
วิชาพุทธปรัชญา : พื้นฐานพุทธปรัชญา
วิชาพุทธปรัชญา : พื้นฐานพุทธปรัชญา
กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาและสารเสพติดแนวใหม่
กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาและสารเสพติดแนวใหม่
03ศาสนาเชน...ใหม่ 007
03ศาสนาเชน...ใหม่ 007
การรายงานความเสี่ยงที่สร้างความปลอดภัยและยั่งยืน Suradet sriangkoon
การรายงานความเสี่ยงที่สร้างความปลอดภัยและยั่งยืน Suradet sriangkoon
Similar a ชีวประวัตินบี(ปลาย).Pdf
คีตกวีเอกของไทย.pdf
คีตกวีเอกของไทย.pdf
pinglada
สงครามครูเสด
สงครามครูเสด
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
พระราชประวัติของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า
พระราชประวัติของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
1 06+อุภัยพากยปริวัตน์+ภาค+1 2
1 06+อุภัยพากยปริวัตน์+ภาค+1 2
Tongsamut vorasan
บาลี 06 80
บาลี 06 80
Rose Banioki
1 06+อุภัยพากยปริวัตน์+ภาค+1 2
1 06+อุภัยพากยปริวัตน์+ภาค+1 2
Wataustin Austin
1 06 อุภัยพากย์ปริวัตน์ ภาค 1 2
1 06 อุภัยพากย์ปริวัตน์ ภาค 1 2
Tongsamut vorasan
มอญศึกษา
มอญศึกษา
Tivaporn Thongsong
Similar a ชีวประวัตินบี(ปลาย).Pdf
(8)
คีตกวีเอกของไทย.pdf
คีตกวีเอกของไทย.pdf
สงครามครูเสด
สงครามครูเสด
พระราชประวัติของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า
พระราชประวัติของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า
1 06+อุภัยพากยปริวัตน์+ภาค+1 2
1 06+อุภัยพากยปริวัตน์+ภาค+1 2
บาลี 06 80
บาลี 06 80
1 06+อุภัยพากยปริวัตน์+ภาค+1 2
1 06+อุภัยพากยปริวัตน์+ภาค+1 2
1 06 อุภัยพากย์ปริวัตน์ ภาค 1 2
1 06 อุภัยพากย์ปริวัตน์ ภาค 1 2
มอญศึกษา
มอญศึกษา
Más de Muhammadrusdee Almaarify
دعاء بدوح
دعاء بدوح
Muhammadrusdee Almaarify
ความร เก__ยวก_บรอมฎอน
ความร เก__ยวก_บรอมฎอน
Muhammadrusdee Almaarify
ความประเสริฐของ 10 คืนสุดท้ายเดือนเราะมะฎอน
ความประเสริฐของ 10 คืนสุดท้ายเดือนเราะมะฎอน
Muhammadrusdee Almaarify
30 หะดีษเฎาะอีฟและเมาฎุอฺเกี่ยวกับรอมดอนและการถือศีลอด
30 หะดีษเฎาะอีฟและเมาฎุอฺเกี่ยวกับรอมดอนและการถือศีลอด
Muhammadrusdee Almaarify
1 วันกับกิจวัตรในเดือนเราะมะฎอน
1 วันกับกิจวัตรในเดือนเราะมะฎอน
Muhammadrusdee Almaarify
รอมฎอน แผ่นพับ
รอมฎอน แผ่นพับ
Muhammadrusdee Almaarify
تذكرة الصيام
تذكرة الصيام
Muhammadrusdee Almaarify
أخطاؤنا في رمضان... 7ـ أخطاء عامة في شهر رمضان
أخطاؤنا في رمضان... 7ـ أخطاء عامة في شهر رمضان
Muhammadrusdee Almaarify
أخطاؤنا في رمضان... 5ـ الأخطاء الخاصة بالنساء
أخطاؤنا في رمضان... 5ـ الأخطاء الخاصة بالنساء
Muhammadrusdee Almaarify
أخطاؤنا في رمضان... 4ـ الأخطاء الخاصة بصلاة الوتر، ودعاء القنوت
أخطاؤنا في رمضان... 4ـ الأخطاء الخاصة بصلاة الوتر، ودعاء القنوت
Muhammadrusdee Almaarify
أخطاؤنا في رمضان... 3ـ الأخطاء التي يقع فيها الأئمة عند صلاة ال
أخطاؤنا في رمضان... 3ـ الأخطاء التي يقع فيها الأئمة عند صلاة ال
Muhammadrusdee Almaarify
أخطاؤنا في رمضان... 2ـ الأخطاء الخاصة بصلاة التراويح
أخطاؤنا في رمضان... 2ـ الأخطاء الخاصة بصلاة التراويح
Muhammadrusdee Almaarify
24 ساعة
24 ساعة
Muhammadrusdee Almaarify
في ظلال رمضان
في ظلال رمضان
Muhammadrusdee Almaarify
في رمضان
في رمضان
Muhammadrusdee Almaarify
فتح
فتح
Muhammadrusdee Almaarify
صفقات وفرص رمضانية
صفقات وفرص رمضانية
Muhammadrusdee Almaarify
جدول الصيام
جدول الصيام
Muhammadrusdee Almaarify
هدية
هدية
Muhammadrusdee Almaarify
หนังสือตัจวีด 1
หนังสือตัจวีด 1
Muhammadrusdee Almaarify
Más de Muhammadrusdee Almaarify
(20)
دعاء بدوح
دعاء بدوح
ความร เก__ยวก_บรอมฎอน
ความร เก__ยวก_บรอมฎอน
ความประเสริฐของ 10 คืนสุดท้ายเดือนเราะมะฎอน
ความประเสริฐของ 10 คืนสุดท้ายเดือนเราะมะฎอน
30 หะดีษเฎาะอีฟและเมาฎุอฺเกี่ยวกับรอมดอนและการถือศีลอด
30 หะดีษเฎาะอีฟและเมาฎุอฺเกี่ยวกับรอมดอนและการถือศีลอด
1 วันกับกิจวัตรในเดือนเราะมะฎอน
1 วันกับกิจวัตรในเดือนเราะมะฎอน
รอมฎอน แผ่นพับ
รอมฎอน แผ่นพับ
تذكرة الصيام
تذكرة الصيام
أخطاؤنا في رمضان... 7ـ أخطاء عامة في شهر رمضان
أخطاؤنا في رمضان... 7ـ أخطاء عامة في شهر رمضان
أخطاؤنا في رمضان... 5ـ الأخطاء الخاصة بالنساء
أخطاؤنا في رمضان... 5ـ الأخطاء الخاصة بالنساء
أخطاؤنا في رمضان... 4ـ الأخطاء الخاصة بصلاة الوتر، ودعاء القنوت
أخطاؤنا في رمضان... 4ـ الأخطاء الخاصة بصلاة الوتر، ودعاء القنوت
أخطاؤنا في رمضان... 3ـ الأخطاء التي يقع فيها الأئمة عند صلاة ال
أخطاؤنا في رمضان... 3ـ الأخطاء التي يقع فيها الأئمة عند صلاة ال
أخطاؤنا في رمضان... 2ـ الأخطاء الخاصة بصلاة التراويح
أخطاؤنا في رمضان... 2ـ الأخطاء الخاصة بصلاة التراويح
24 ساعة
24 ساعة
في ظلال رمضان
في ظلال رمضان
في رمضان
في رمضان
فتح
فتح
صفقات وفرص رمضانية
صفقات وفرص رمضانية
جدول الصيام
جدول الصيام
هدية
هدية
หนังสือตัจวีด 1
หนังสือตัจวีด 1
ชีวประวัตินบี(ปลาย).Pdf
1.
F 1 ทานศาสดามุหัมมัด (
ศ็อลฯ ) เกิดในเวลาเชาตรูของวันจันทร ที่ 12 เดือนรอบี อุลเอาวัล ปชางตรงกับวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 571 ณ นครมักกะฮฺ ทานเปนคนชาว อาหรับเผากุร็อยซฺ บิดาของทานชื่อวาอับดุลลอฮ บุตรอับดุลมุฏเฏาะลิบ บุตรฮาซิม บุตรอับดุลมะนาฟ บุตรซะหเราะห บุตรกิลาบ มารดาของทานชื่อวาอามีนะฮฺ บุตรวฮับ บุตรอับดุลมะนาฟ บุตรซะหเราะฮฺ บุตรกิลาบ ตนตระกูลฝายมารดาของทาน ไป รวมกับตระกูลฝายบิดาที่กิลาบ ซึ่งสายคนที่หาฝายบิดาและเปนทวดที่สี่ฝายมารดา และตนตระกูลของทานศาสดามุหัมมัดที่สูงขึ้นไปนั้นรวมสายจากทานนบีอิสมาอีล บุตร ของนบีอิบรอฮีม ( อะลัยฮิสสะลาม ) ปที่ประสูติศาสดามุหัมมัดรูจักกันอยางแพรหลายวา “ ปชาง ” ทั้งนี้เพราะวาใน ปนั้น แมทัพแหงเอธิโอเปยซึ่งเปนขาหลวงปกครองเมืองเยเมน มีชื่อวา " อับรอฮะหฺ " ได กรีฑาทัพชางมุงสูนครมักกะฮฺหวังที่จะทําลายวิหารกะบะฮฺ กองกําลังของนครมักกะฮฺไม มีกําลังพอที่จะตานกองทัพของอับรอฮะหฺอันมหึมานี้ได ชาวมักกะฮฺตางก็ทําไดเพียงแต เฝามองเหตุการณ และขอความคุมครองจากพระเจาเทานั้น พระองคอัลลอฮฺทรง ปกปองวิหารกะบะฮฺและยับยั้งแผนอันชั่วรายของกองทัพอับรอฮะหฺนี้โดยการสงฝูงนก ชนิดหนึ่งเรียกวา “ อะบาบีล ” นกแตละตัวคาบกอนกรวดชนิดหนึ่งที่มีเชื้อรายไปทิ้งที่ กองทัพของอับรอฮะหฺ และเชื้อรายนั้นไดแพรกระจายไปทั่วกองทัพ กองทัพของอับรอ ฮะหฺ ฺถึงกับราบพนาสูรทั้งคนทั้งชางและมา รางกายของคนและสัตวเหมือนกับธัญญา พืชที่ถูกแมลงกัดกิน ดังที่อัลกุรอานไดบันทึกไวในซูเราะฮฺอัล - ฟล พวกทหารของอับรอ ฮะหฺตางลาถอยหนีดวยความกลัว ที่หนีไมทันก็กลายเปนศพตายระเนระนาด อับรอ ฮะหฺตองถอนทัพกลับอยางระสําระสาย เขาเองก็ถูกพิษรายนั้นดวยและเสียชีวิตลงใน เวลาตอมา หลังจากเหตุการณอัศจรรยนี้เกิดขึ้นไมกี่เดือน มักกะฮฺก็ไดรับเกียรติตอนรับ การประสูติของศาสดามุหัมมัด (ศอลฯ) ดวยเหตุนี้จึงเรียกปที่ประสูติของศาสดามุหัม มัดวา ปชางปชางปชางปชาง
2.
F 2 ทานศาสดามุหัมมัด (
ศ็อลฯ ) กําพราบิดาตั้งแตยังอยูในครรภมารดา ซึ่งลมปวย และเสียชีวิตที่มะดีนะฮฺในขณะที่เดินทางกลับจากการคาที่ซีเรีย เมื่อศาสดามุหัมมัดได ประสูตินั้น อามีนะฮฺผูเปนมารดาไดแจงขาวไปยังทานอับดุลมุฏเฏาะลิบผูเปนปูของทาน ศาสดา ทานจึงสงคนมารับไป และทานไดพาเด็กนอยผูนี้ไปยังวิหารกะบะฮฺ และตั้งชื่อ วา “ มุหัมมัด ” ซึ่งชื่อนี้ไมเปนที่คุนเคยแกชาวอาหรับมากนัก ตามธรรมเนียมของชาว อาหรับในสมัยนั้นมักจะสงลูกนอยไปยังทะเลทรายหลังจากสัปดาหแรกที่เกิดมา และให อยูที่นั้นจนกระทั่งอายุได 5 หรือ 6 ขวบ ชวงแรกอามีนะฮฺไดมอบใหนางษุวัยบะฮฺซึ่งเปน คนใชของอบูละฮับ ลุงของทานนบี เปนแมนมทานนบีอยูสองสามวัน ตอมาทานอับดุล มุฏเฏาะลิบไดวาจางนางหะลีมะฮฺ จากเผาสะอฺดซึ่งเปนหญิงชนบทคนหนึ่งใหเปนแมนม ของทานนบีและนําทานไปเลี้ยงที่ชนบท เมื่อทานนบีมีอายุครบ 6 ขวบ นางไดสงทานน บีคืนแกมารดาของทานเลี้ยงดูตอไป ในชวงที่นางหะลีมะฮฺไดเลี้ยงดูทานนบีนั้น นาง ไดรับโชคผลและความจําเริญอยางมากมายผิดปกติ อามีนะฮฺ มีความสุขมากที่ลูกชายของเธอไดกลับมาสูออมอกของเธออีกครั้งหนึ่ง การไปอยูในชนบททําใหเขาเปนคนที่มีสุขภาพดีและรางกายแข็งแรง มีความ คลองแคลวและรูภาษาอาหรับแทๆ จากทะเลทราย ซึ่งเหลานี้เปนรากฐานที่จะกาวสู เปนบุคคลที่สําคัญในอนาคตตอไป อามีนะฮฺ ตองการพาบุตรชายใหไปรูจักญาติทาง มารดา และสรางความคุนเคยกับพวกลุงซึ่งเปนเผานัจญารในนครมะดีนะฮฺ โดยมีทาส หญิงของนางที่มีชื่อวา อุมมุอัยมัน ติดตามไปดวย ขากลับจากมะดีนะฮฺ ขณะเดินทาง มาถึงสถานที่หนึ่งมีชื่อวา อัล - อับวา นางอามีนะฮฺก็ลมปวยลงและเสียชีวิตอยูที่นั้น หลังจากนั้นทาสหญิงผูซื่อสัตยก็พาเด็กนอยกําพราบิดาและมารดากลับมายังนครมัก กะฮฺ มุหัมมัดก็อยูภายใตการอุปการะของปูคือ อับดุลมุฏเฏาะลิบ แตก็แคเพียง 2 ป เทานั้นปูก็ถึงแกกรรมอีก ซึ่งขณะนั้นมุหัมมัดอายุไดแคเพียง 8 ป เทานั้น ฉะนั้นมุหัมมัด จึงเปนเด็กกําพราทั้งพอแมและปูตั้งแตอายุยังนอย หลังจากนั้น หนาที่เลี้ยงดูมุหัมมัดก็ตกเปนของอบูฏอลิบผูเปนลุง ซึ่งรักเอ็นดู หลานชายอยางยิ่ง จนกระทั่งเติบใหญ เนื่องจากลุงของทานไมใชคนร่ํารวย มุหัมมัดจึง ตองทํางาน โดยพาฝูงแกะและอูฐตามเนินเขาและหุบเขาในทะเลทราย มุหัมมัดมีนิสัย
3.
F 3 กรุณาตอคนยากจน และผูมีทุกขมาตั้งแตเยาววัย
เปนคนที่ชอบอยูอยางสงบ รักการคิด ใครครวญ ผูคนในเผาเดียวกันตางก็รักใครและใหเกียรติเพราะทานมีนิสัยออนโยน มี อัธยาศัยไมตรี การที่ทานถือความซื่อสัตย ซื่อตรงตอหนาที่ เปนอยางยิ่งอยางไมสะทก สะทานนั้น ทําใหมมุหัมมัดไดรับการขนานนามวา ” อัลอมีน ” ซึ่งแปลวาผูควรแกการ เชื่อถือหรือผูที่ไดรับการไววางใจ เมื่ออายุไดสิบสองป มุหัมมัดไดเดินทางไปคาขายที่ ซีเรียกับลุง และที่ซีเรียนี้เองทานไดพบกับนักบวชชาวคริสเตียนคนหนึ่งมีชื่อวา “ บูฮัย รอ ” ซึ่งไดทํานายวามุหัมมัดจะเปนศาสดาองคสุดทายและไดกลาวไววา " หลานชาย ของทานมีลักษณะเปนมหาบุรุษแท ๆ ทานจงเลี้ยงดูเขาอยางดีเถิด ” หลังจากนั้นทา นอบูฏอลิบจึงนําหลานชายของทานกลับมายังมักกะฮฺและรักษาความลับนี้ไมใหใครรู ลุงของทานมีฐานะทางการเงินไมคอยจะดีนัก ประกอบกับเปนครอบครัวใหญ จะตองหาเลี้ยงดูลูกหลานหลายคน จึงเปนเรื่องธรรมดาที่จะตองหารายไดมาจุนเจือ ครอบครัวและสรางความมั่นคงใหแกลูกๆ หลานๆ ที่อยูในความดูแลใหไดรับความสุข วันหนึ่งทานไดทราบขาววาเศรษฐีนีเคาะดีญะฮฺซึ่งเปนบุตรสาวของคุวัยลิดตองการจาง คนเผากุร็อยซฺใหทําการคาขายใหแกเธอ และเธอพรอมที่จะแบงกําไรอยางงามแกผูที่มี ความสามารถ ทานจึงพามุหัมมัดไปสมัครงานกับเธอ ดวยกิตติศัพทแหงความซื่อสัตย ของมุหัมมัด เศรษฐีนีเคาะดีญะฮฺจึงตกลงรับมุหัมมัดเปนลูกจางควบคุมกองคาราวาน พาณิชยไปยังเมืองชีเรีย โดยเธอไดใหทาสของเธอที่มีชื่อวามัยสะเราะฮฺรวมเดินทางกับ มุหัมมัดดวย การเดินทางคาขายของมุหัมมัดในครั้งนี้ประสบความสําเร็จอยางงดงาม และไดกําไรอยางมหาศาลซึ่งสรางความประทับใจแกเคาะดีญะฮฺเปนอยางมาก ประกอบกับมัยสะเราะฮฺ ไดรายงานใหนางทราบถึงความขยันขันแข็งและความซื่อสัตย ของมุหัมมัดในระหวางปฏิบัติหนาที่อยางละเอียดถี่ถวน ซึ่งเพิ่มความสนใจของนางตอ มุหัมมัดมากขึ้น จนกระทั่งนางตัดสินใจตองการรวมชีวิตกับมุหัมมัด ผลจากการคาขายในครั้งนี้ ทําใหทานนบีไดมีโอกาสรูจักกับเศรษฐีนีเคาะดีญะฮฺ ซึ่งในเริ่มแรกรูจักในนามลูกจางกับนายจาง ตอมาดวยกิตติศัพทแหงความซื่อสัตยของ ทานนบี ประกอบกับความสามารถในเชิงธุรกิจที่สามารถนํากําไรอยางมหาศาลใหแก นาง ทําใหนางมีความสนใจในตัวทานนบีเปนอยางมาก และไดเสนอตัวขอรวมชีวิตกับ
4.
F 4 ทานนบี ในขณะนั้นนางเปนหญิงหมายมีอายุได
40 ป เคยแตงงานมาแลว 2 ครั้ง มีบุตร รวมทั้งหมด 3 คน หญิง 1 ชาย 2 คน นางเปนคนเผาอะสัด นางเปนหญิงที่มีเกียรติและ ร่ํารวยมากในนครมักกะฮฺ นางไดสงแมสื่อชื่อวา นุฟยซะฮฺ ซึ่งเปนเพื่อนของนางไปพูด เจรจากับทานนบี ทานนบีก็รับคําดวยเต็มใจ ซึ่งในขณะนั้นทานนบีมีอายุไดเพียง 25 ป ชีวิตใหมของทานนบีจึงเปดฉากขึ้น คือชีวิตของการแตงงานที่เต็มไปดวยความรัก และความสุข ความมั่งคั่งของนางบัดนี้ก็เปนของทานนบีดวย ถึงแมวาทานนบีเปน ผูรับผิดชอบในธุรกิจของนาง แตหัวใจของทานนั้นมิไดหมกมุนอยูกับงานอยางเดียว ความร่ํารวยมิไดมีความหมายสําหรับทานแตประการได ทานใชความมั่งคั่งซื้อและ ปลดปลอยทาสและหญิงรับใชหลายคนใหเปนอิสระ นอกจากนี้ทานยังไดปลดเปลื้อง หนี้สินแกผูที่ยากไรซึ่งไมสามารถที่จะชําระหนี้ของตนเองได ชีวิตการแตงงานของทั้ง สองดําเนินไปดวยความสุข นางเคาะดีญะฮฺนิยมชมชอบความปรีชาสามารถ และ บุคลิกภาพอันสงางามของทานนบีเปนอยางมาก นางปลอยใหทานมีเวลาเปนของตัวเอง ไดอยางอิสระโดยไมตองกังวลใดๆ เลย ยามที่ทานมีความเศราโศกและความทุกข นาง ก็คอยปลอบโยนและใหกําลังใจทานตลอดเวลา ทานนบีอยูรวมชีวิตกับนางดวยความ ซื่อสัตย รักใครและเอ็นดูจนถึงวาระสุดทายของนาง ทานนบีไดบุตรกับนางดวยกัน 6 คนเปนบุตรชาย 2 คน ซึ่งทั้งหมดไดเสียชีวิตตั้งแตยังเด็ก สวนบุตรสาว 4 คน คือ ซัยนับ รุก็อยยะฮฺ อุมมุกุลษูม และฟาตีมะฮฺ นอกจากนี้นางไดมอบทาสคนหนึ่งชื่อวา ซัยดฺ บิน หาริษะฮฺใหแกทานนบีและทานนบีไดใหอิสระภาพพรอมกับประกาศเปนลูกบุญธรรม ของทาน เมื่ออายุยางเขาปที่ 40 มุหัมมัดมักใชเวลาสวนใหญคํานึงใครครวญถึงเหตุการณ ตางๆ เพงพินิจถึงความจริงของชีวิตและความเปนไปของโลก ในขณะที่ชาวอาหรับมีชีวิต
5.
F 5 อยางปาเถื่อนและงมงายอยูกับรูปเคารพของแตละเผา มุหัมมัดมักจะไปที่ถ้ําในภูเขาฮิ รออฺซึ่งอยูทางเหนือของมักกะฮฺ
ประมาณสามไมล และใชเวลาอยูที่นั่นเดือนหนึ่งทุก ๆ ป เพื่อแสวงหาความสงบ นั่งสํารวมจิต โดยมีคนใชเอาอาหารและเสบียงไปสง อยูมา วันหนึ่งในขณะที่ทานกําลังนั่งอยางสงบในถ้ําฮิรออฺ ไดมีมะลาอิกะฮฺตนหนึ่งปรากฏตัว เขามาหาทาน ทานไดเลาเหตุการณในครั้งนั้นไววา : " ญิบริลไดมาหาฉัน แลวกลาววา “( มุหัมมัด ) จงอานเถิด ” ฉันก็ตอบวา " ฉันอานไม เปน " เขาไดกอดรัดฉันจนกระทั่งฉันคิดวาจะตาย หลังจากนั้นเขาก็คลายออก เขาทํา อยางนั้นสามครั้ง แลวในครั้งที่สี่เขาก็กลาววา “( มุหัมมัด ) จงอานเถิด ” ฉันไดตอบวา " ฉันอานไมเปน " แลวเขาก็กลาวนําโองการอัลกุรอานที่วา " จงอานเถิด ( มุหัมมัด ) ดวยพระนามแหงพระเจาของเจาผูทรงสราง พระองคทรงสรางมนุษยมาจากกอนเลือด จงอานเถิด และพระเจาของเจาผูทรงใจบุญยิ่ง ผูทรงสอนดวยปากกาทรงสอนมนุษยใน สิ่งที่เขาไมรู … ( อัลกุร อาน ซูเราะฮฺ อัลอะลัก อายะฮฺ 1-5 )” เมื่อทานนบีไดอานแลวมะ ลาอิกะฮฺตนนั้นก็ไดหายจากไป ทานนบีรูสึกตกใจกับเหตุการณที่เกิดขึ้น ทานรูสึกหวาดกลัวจึงรีบกลับบานเลา เหตุการณใหทานหญิงเคาะดีญะฮฺฟง ทานคิดวาถูกผีเขาสิงหรือมีจิตใจไมปกติ แตนาง เคาะดีญะฮฺผูมีจิตใจที่เขมแข็งยืนยันวา “ โอลูกของลุงเอย ทานจงดีใจและจงยืนหยัดตอไปเถิด ดิฉันขอสาบานตอผูซึ่งตัวของ ดิฉันอยูในอุงพระหัตถของพระองค ดิฉันหวังวาทานจะตองเปนนบีแหงประชาชาตินี้ ” และแลวนางก็พาสามีของนางไปหา “ วะเราะเกาะฮฺ ” บุตรของเนาฟล ผูเปน ลูกพี่ลูกนองคนหนึ่งของนาง ชายผูนี้เปนคนที่มีความรูในคัมภีรของชาวคริสเตียนและยิว เมื่อวะเราะเกาะฮฺฟงรายละเอียดตางๆ จากนางเคาะดีญะฮฺแลว ทานไดกลาวขึ้นวา “ ถาหากเรื่องที่เธอเลาทั้งหมดนั้นเปนความจริง นี่จะตองเปนพระประสงคของพระเจา อยางแนนอน พระเจาองคนี่แหละที่ทรงพูดกับโมเซสที่ภูเขาซีนาย มุหัมมัดจะเปน ศาสดาของชนชาตินี้ จงบอกเขาเถิดวา จงมีความเขมแข็ง “ ตอมาไมนานนัก มะลีกะฮฺญิบรีลไดเขามาหาทานนบีอีกพรอมนําโองการใหมมา โดยกลาววา “ โอผูอยูใตผาคลุม จงลุกขึ้นตักเตือนเถิด จงสรรเสริญพระผูเปนเจา จง ทําตัวของเจาใหบริสุทธิ์ จงหลีกเลี่ยงความไมสะอาดทั้งมวล จงอยาใหเพื่อที่จะได
6.
F 6 กลับคืนมา และเพื่อพระเจาจงอดทนเถิด
… ( อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัลมุดัซซิร อายะฮฺที่ 1- 7) ” ทานนบีไดเลาเรื่องโองการนี้ใหนางเคาะดีญะฮฺฟง ซึ่งโองการดังกลาวไดสั่งใหทาน ทําการเผยแพร แตทานไมรูวาจะไปเผยแพรใหกับใคร ทานเคาะดีญะฮฺพยายาม ปลอบโยน และยืนยันวาจะอยูเคียงขางทานตลอดไปไมวาจะเกิดอะไรขึ้น นางไดพา สามีของนางไปหาวะเราะเกาะฮฺอีกครั้งหนึ่ง และเลาเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับสามีของ นางใหแกวะเราะเกาะฮฺฟง ดวยความรอบรูของวะเราะเกาะฮฺ ทานไดกลาววา “ ขอสาบานวาทานคือศาสดาของชนชาตินี้ ทานจะถูกทําราย ทานจะถูกดา ถูกจองลาง จองผลาญ และถาฉันยังมีชีวิตอยูถึงวันนั้น ฉันจะชวยมุหัมมัดเผยแพรศาสนา จะ ชวยงานของพระเจาเคียงคูกับศาสดาของพระองค และพระเจาทรงทราบดีถึง เจตนารมณของฉัน “ จากคําเตือนของวะเราะเกาะฮฺทําใหทานนบีรูสึกหนักใจเปนอยางมาก เพราะการ เผยแพรสาสนของทานนั้นจะตองเผชิญหนากับชาวกุร็อยซฺอยางหลีกเลี่ยงไมได มุหัมมัดไดรับมอบหนาที่เปนศาสดาผูประกาศศาสนาเมื่ออายุไดสี่สิบป ทานเริ่ม เทศนาคําสอนของอิสลามในหมูประชาชนในเมืองมักกะฮฺโดยการเชิญชวนอยางลับ ๆ ทานเริ่มการชักชวนและเผยแพรสาสนอิสลามในหมูญาติพี่นองของทานกอน แลวสู เพื่อนสนิทมิตรสหาย ตลอดจนประชาชนชาวมักกะฮฺในภาพรวม คําสอนของทานเนนใน เรื่องความเปนหนึ่งของพระผูเปนเจา ( เตาฮีด ) อันเปนหลักสําคัญของศาสนาอิสลาม ทานตอตานและเรียกรองใหประชาชนเลิกบูชารูปปน รูปเคารพ และเจว็ดตางๆ ซึ่งใน สมัยนั้นชาวมักกะฮฺสวนใหญกราบไหวบูชารูปปนและเจว็ดตางๆ แมแตในรอบๆ วิหาร กะบะฮก็เต็มไปดวยรูปบูชามากกวา 300 องค ภรรยาของทานคือ นางเคาะดีญะฮ เปน คนแรกรับการชักชวนของทาน กลาวกันวานอกจากทานหญิงเคาะดีญะฮแลวบุคคลที่เขา รับอิสลามกอนใครอื่นมีดวยกัน 3 ทาน คนแรกคือ ทานอะลี บุตรอะบีฏอลิบ ซึ่งเปน บุตรลุงที่ทานนบีรับมาอุปการะ ทานอะลีถือวาเปนบุคคลแรกรับอิสลามในกลุมเยาวชน คนที่สองคือทานซัยด บุตรของฮาริษะฮ ซึ่งเปนบุตรบุญธรรมของทานนบี และถือวาเปน บุคคลแรกรับอิสลามในกลุมทาส สวนบุคคลที่สามคือ ทานอบูบักร บุตรของกุฮาฟะฮ ทานผูนี้มีสภาพแตกตางกับสองทานที่แลว เพราะทานมิไดเปนเครือญาติใกลชิดกับ
7.
F 7 ทานนบีและมิไดอยูในวัยเด็กเหมือนสองทานแรก หากแตทานเปนพอคาที่มีสติปญญา ความคิดที่หลักแหลม
ทานอบูบักรถือวาเปนบุคคลแรกรับอิสลามในกลุมผูใหญหรือ บุคคลทั่วไป หลังจากบุคคลทั้งสามแลว มีสาวกทานอื่นๆ ทยอยเขารับอิสลามกัน เชน ทานอุ สมาน อิบนุอัฟฟาน , อัซซุเบร อิบนุลเอาวาม , อับดุลเราะฮฺมาน อิบนุเอาฟฺ , สะอฺดุบ นุอะบีวักก็อส , ฏ็อลฮะ อิบนุอับดิลลาฮฺ , อะบูอุบัยดะฮฺ , อามิร อิบนุลญัรรอฮฺ , อัลอัร กอม อิบนุ อะบิล อัรกอม เปนตน ทานนบีและบรรดาสาวกไดรวมตัวกันอยางลับๆและ จัดทําศูนยเผยแพรศาสนาอิสลามที่บานของอัลอัรกอม อิบนุ อัรกอม เมื่อเวลาผานไป จํานวนผูเขารับอิสลามก็เพิ่มมากขึ้น ภายในเวลาสามหรือสี่ปก็ไดมีผูเขารับศาสนา อิสลามเกือบสี่สิบคน อยางไรก็ตาม ในชวง 3 ปแรกนั้นมุสลิมใหมทุกคนยังคงปกปด ตัวเองอยู หลังจากสามปผานพนไป ทานนบีไดรับคําสั่งจากพระเจาใหประกาศศาสนา อยางเปดเผย ทานนบีเริ่มกลาวโจมตีบรรดาเทวรูปและเจว็ดตางๆ อันเปนที่ สักการะบูชาของชาวมักกะฮฺ อยางตรงไปตรงมาและเปดเผย ซึ่งการกระทําเชนนี้ สําหรับชาวกุร็อยซฺแลวนับวารุนแรงมาก จนทําใหพวกเขาเกลียดชังและประกาศเปน ศัตรูกับทานนบีอยางเปดเผย กอนหนานี้ พวกกุร็อยซฺไมคอยถือเรื่องการเผยแพร ศาสนาของทานนบีเปนเรื่องจริงจังมากนัก นอกจากจะเยยหยันทานเลนเทานั้น แตเมื่อ เริ่มมีผูคนหันมานับถือมากขึ้น พวกกุร็อยซฺจึงคิดวางแผนการตอสูอยางจริงจัง เพราะ ชาวกุร็อยซฺเกรงกลัววา หากอิสลามไดรับการยอมรับ นั้นก็หมายความวา ศาสนาแหง บรรพบุรุษ ที่มีการกราบไหวบูชารูปเจว็ด ก็จะตองถูกทําลาย ดังนั้นพวกเขาจึงรวมตัว กันขัดขวางการเผยแพรสัจธรรมของทานนบีอยางสุดความสามารถ ในขณะที่ทานนบี เผยแพรศาสนานั้น ลุงของทานคือ อะบูฎอลิบ ถึงแมวามิไดเขารับศาสนาอิสลาม แตก็ ปกปองหลานรักของทานจากการถูกทํารายจากชาวกุร็อยซฺ การดื้อรั้นและการตอตานของพวกกุร็อยซไดทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อพวกเขา เห็นทานนบีและบรรดาสานุศิษยของทานยังเด็ดเดี่ยวในคําสอนศาสนาอิสลาม จนกระทั่งพวกเขาใชมารตร การเด็ดขาดโดยการจับกักขังและทรมานสานุศิษยของ ทานนบีที่เปนพวกทาส กลุมคนออนแอ และคนยากจนไรที่พึ่งพิง บุคคลเหลานี้ถูกจับไป ทรมานใหตากแดดอันรอนระอุและใหนอนบนผืนทรายหรือที่เนินหินที่รอนจัด ถูกสั่งให อดอาหาร และน้ําดื่ม ตลอดจนถูกทารุณกรรมอยางไรความเปนมนุษย ดังที่พวกเขา
8.
F 8 กระทําตอทานบิลาลและสาวกทานอื่นๆ จนกระทั่งสาวกบางทานทนตอการทารุณกรรม เหลานี้ไมไหวจนตองจบชีวิตไป
อยางเชนครอบครัวของอัมมาร บิน ยาสิร เปนตน เนื่องจากชาวมุสลิมถูกทํารายและประหัตประหารเชนนี้ ทานนบีจึงไดแนะนําให พวกเขาไปหาที่พึ่งในดินแดนอื่น ในสมัยนั้นอบิสสิเนียเปนที่รูจักดีของชาวมักกะฮฺใน ฐานะที่เปนตลาดสินคาของอารเบีย ในเดือนที่ 7 ของปที่ 5 ของการเผยแพรศาสนาของ ทานศาสดา ชาวมุสลิมผูชาย 11 คน และผูหญิง 4 คน รวมทั้งทานอุษมาน บุตรอัฟฟาน และภรรยาของทานไดเดินทางไปยังเมืองอบิสิเนีย ซึ่งในเวลานั้น กษัตริยแหงอบิสิเนีย คือ นะญาซี ไดตอนรับชนมุสลิมเหลานี้ดวยอัธยาศัยไมตรี เมื่อบรรดาหัวหนาชาวมักกะฮฺรูเรื่องถึงการอพยพของชาวมุสลิมนี้ พวกเขาไดสั่ง ใหเหลาทหารพวกเขาออกติดตามไป แตก็ไมทัน พวกเขาก็ไมละความพยายาม ในฐานะ ที่ประเทศอบิสิเนียมีมิตรไมตรีกับนครมักกะฮฺ พวกหัวหนาชาวมักกะฮฺจึงสงทูตไปเขา เฝากษัตริยอบิสิเนียเพื่อขอใหพระองคทรงขับพวกมุสลิมออกจากอาณาจักรของ พระองค พระองคทรงเรียกและฟงเหตุผลทั้งสองฝาย และในที่สุดพระองคทรง ประทับใจในอุดมการณของฝายชาวมุสลิมเปนอยางมาก จึงทรงอนุญาตใหชาวมุสลิม พํานักอยูในอาณาจักรของพระองคไดอยางสงบ ทูตของหัวหนาชาวมักกะฮฺจึงตอง กลับไปยังมักกะฮฺดวยมือเปลาอยางผิดหวัง ผลที่สําคัญที่ไดจากการอพยพในครั้งนี้ก็คือ ทําใหชาวมุสลิมในเมืองมักกะฮฺมี กําลังใจมากขึ้นเมื่อไดรูวา ขณะนี้ยังมีสถานที่อีกแหงหนึ่งที่พวกตนสามารถหลบไปพึ่ง อาศัยใหพนจากการประหัตประหารของชาวมักกะฮฺได ในที่สุดเหตุการณครั้งนี้ กอใหเกิดความคิดที่จะทําการอพพยโยกยายชาวมุสลิมจากมักกะฮฺไปยังเมืองมะดีนะฮ ในเวลาตอไป ในขณะเดียวกัน ชาวมุสลิมในมักกะฮฺเพิ่มความลําบากยากแคนยิ่งขึ้นอัน เนื่องมาจากชาวมักกะฮฺเสียหนาและไดรับความผิดหวังจากกษัตริยอบิสิเนีย จึงเพิ่ม ความโกรธแคนตอชาวมุสลิมมากขึ้นเปนทวีคูณ หลังจากที่ชาวมุสลิมพํานักอยูที่อบิสิเนียไดสองเดือนและทราบขาววาชาวมักกะฮฺ ไดยกเลิกการกดดันชาวมุสลิมแลว ผูอพยพจึงพากันกลับมายังมักกะฮฺ เมื่อชาวกุร็อยซ
9.
F 9 มักกะฮฺเห็นชาวมุสลิมก็ยิ่งรูสึกริษยาในความสําเร็จของอิสลามมากขึ้น จึงเริ่มทําการ ประหัตประหารพวกมุสลิมหนักมือยิ่งขึ้นอีก
ทานนบีจึงแนะนําใหบรรดาสาวกของทาน หลบภัยไปอยูที่อบิสิเนียอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้มีผูอพยพหลบหนีไปจํานวนถึง 101 คน เปน สตรี 10 คน ฝายกุร็อยซฺเริ่มตกใจในความสําเร็จอยางรวดเร็วของทานนบี พวกเขาไดสง ตัวแทนไปหาทานอบูฎอลิบซึ่งเปนลุงของทานนบี ขอใหทานเจรจากับทานนบีใหยอม ยกเลิกการเผยแพรศาสนาอิสลามนี้ โดยที่พวกเขายอมที่จะใหทุกสิ่งทุกอยางที่ทานนบี ตองการ ไมวาจะเปนในเรื่องอํานาจยศฐาบรรดาศักดิ์ เหลานารีที่แสนสวย หรือ ทรัพยสินเงินทอง ทานนบีไดตอบแกทานอบูฎอลิบดวยเสียงที่หนักแนนไววา “ โอทานลุงของฉัน … ถึงแมจะเอาดวงอาทิตยมาวางในมือขวาของฉัน และเอาดวงจันทร มาวางบนมือซายก็ตาม ฉันก็จะไมขอเลิกภารกิจของฉันอันนี้ ” ในปที่หกแหงการเผยแพรศาสนาของทานนบี ทานฮัมซะฮซึ่งเปนลุงของทานนบี และเคยดื่มนมรวมแมเดียวกันกับทานนบีเขารับอิสลาม และทานอุมัร บุตรค็อฎฎอบ ก็ เขารับอิสลาม ซึ่งนับเปนชัยชนะที่ยิ่งใหญของทานนบี เพราะทั้งสองเปนคนที่กลาหาญ และมีอิทธิพลในมักกะฮฺพอสมควร เมื่อคําสอนของทานนบีไดแพรขยายและมีผูเขารับ อิสลามมากขึ้นทุกวัน ชาวกุร็อยซมักกะฮฺจึงรวมตัวกันตอตานเผาฮาซิม ซึ่งเปนฝายของ ทานนบีโดยการคว่ําบาตรและตัดความสัมพันธกับเผาอื่นๆ พวกเขาไดหามทําการซื้อ ขายปจจัยยังชีพกับเผาฮาซิม ทําใหทานนบีและเผาฮาซิมตกอยูในสภาพที่ขาดแคลน ปจจัยที่จําเปนในการดํารงชีวิตและตกอยูในสภาพเชนนี้นานถึงสามป ทานนบีถูก ทดสอบอยางหนักหนวง แตทานก็ไมเคยทอและไมเคยหมดความไววางใจในพระเจา เลย และในเวลานี้เองทานก็ไดรับขาวราย ขาวการสิ้นชีวิตของนางเคาะดีญะฮฺ และ ทานอบูฏอลิบอันเปนปที่สิบแหงการเผยแพรศาสนาของทานศาสดา และถือวาเปนป แหงความโศกเศรา นางเคาะดีญะฮฺภรรยาผูประเสริฐของทาน ซึ่งเปนผูสนับสนุนให กําลังใจดวยความรักความเห็นใจ เคยเปนเพื่อนที่คอยปลอบประโลมใจในยามมีทุกขกับ
10.
F 10 ทานรวมถึงยี่สิบหาป บัดนี้นางก็ลาจากทานไปแลว
และการสูญเสียอบูฏอลิบไปก็ เทากับทานเสียผูปกปองคุมครองไปเสียแลว อบูฎอลิบเสียชีวิตอายุไดประมาณ 80 ป การสูญเสียทั้งสองทําใหสถานการณระหวางพวกมุสลิมกับพวกกุร็อยซฺเลวรายยิ่งขึ้น การจอมผลาญ ประหัตประหารของพวกศัตรูก็รุนแรงขึ้นทุกวัน แมกระนั้นทานก็ยังไม ทอและไมเคยคิดที่จะละทิ้งความพยายาม ศาสดามุหัมมัดตระหนักดีวา ทานไมอาจจะทนอยูในมักกะฮฺตอไปได หลังจากอบูฏอลิบซึ่งเปนลุงและเคาะดีญะฮฺภรรยาของทานไดสิ้นชีวิตไปแลว และ หลังจากที่พวกกุร็อยชมักกะฮไดบีบคั้นทานอยางหนักหนวง พวกกุร็อยชฺจะทําทุกวิถีทาง เพื่อจะหยุดการเผยแพรศาสนาของทานใหได ทานจึงคิดจะเดินทางออกไปเผยแพร ศาสนาอิสลามนอกนครมักกกะฮฺ ทานเริ่มตนดวยการไปเยือนชนเผาตาง ๆ ทาน พยายามเทศนาหลักคําสอนของศาสนาใหมใหแกชนเหลานั้นไดรับทราบ ซึ่งบางเผาก็ สนใจในคําสอนของทาน บางเผาก็หาวาทานเสียสติ ระยะนั้นทานตองเหน็ดเหนื่อยมาก แตทานยังมีความมั่นคงในอุดมการณไมเปลี่ยนแปลงระยะนี้จะมีเสียงวิพากวิจารณถึง ตัวทานในทางไมดีอยูตลอด แตทานก็อดทนไมโตตอบกับเสียงวิจารณเหลานั้น ศาสดามุหัมมัดตองเผชิญกับเหตุการณครั้งสําคัญที่สุด และถูกกลั่นแกลงอยาง หนักหนวงในขณะที่ทานเดินทางไปเผยแพรศาสนาที่เมืองฏออีฟเพื่อเชิญชวนใหชนชั้น ปกครองของเมืองนี้ศรัทธาตอเอกภาพของพระเจา เรียกรองใหพวกเขาเชื่อในพระเจา องคเดียว พวกเขามิใชเพียงไมยอมรับ ยังพูดจาถากถางทานดวยคําพูดที่หยาบคาย พรอมทั้งโหไลทานใหพนจากที่นั่น ประชาชนบางกลุมขวางปาทานดวยกอนหิน จน ศีรษะแตกเลือดโทรมกาย ทานยืนทอดอาลัยตอความหยาบคายของพวกฏออีฟดวย หัวใจที่ออนระโหยพรอมทั้งขอใหพระเจายกโทษใหชนกลุมนี้จากความโงเขลาที่ได ปฏิบัติตอทาน หลังจากทานกลับมาจากฏออีฟแลว ก็ไดเริ่มสั่งสอนเทศนาแกผูที่เดินทางมา แสวงบุญ ณ วิหารกะอบะฮฺ ซึ่งสวนมากเปนผูแทนจากเผาตาง ๆ ของชาวอาหรับ ทาน ไดอธิบายถึงหลักการของศาสนาอิสลามใหทราบวา ขอเท็จจริงศาสนานี้เกี่ยวของกับ ศาสนาของศาสดาอิสมาอีล ซึ่งเปนบรรพบุรุษของพวกอาหรับ หลายเผารับฟงดวย
11.
F 11 ความสนใจตอคําสอนของทาน แตขอศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมอีก
มีอยูหลายครั้งที่ พวกกุร็อยชไดแอบสงผูแทนของตนเขาปะปนไปอยูรวมพิธีกับผูแสวงบุญ และคอยเตือน ใหสติผูนําเผาเหลานั้นไมใหเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับคําเชิญชวนของมุหัมมัด พวกเขา พยายามใสไคลวามุหัมมัดเปนคนเสียสติ เปนนักมายากลใชเวทยมนตคาถา เพื่อ หลอกลวงชาวอาหรับ เปนเรื่องนาแปลกใจที่วา เมื่อพวกกุร็อยชฺยุยงใสไคลหนักหนวง เทาใด อาหรับเ ผ าตาง ๆ และผูแสวงบุญก็ยิ่งอยากรูจักมุหัมมัดมากขึ้น เพื่อตองการ พิสูจนคํากลาวหาของพวกกุร็อยชฺวามีความจริงเพียงใด ดังนั้นแทนที่มุหัมมัดจะไปหา พวกเขา พวกนั้นกลับขวนขวาย อยากพบทานศาสดามากขึ้น และเมื่อมาไดยิน ไดฟง แลว พวกยัษริบบางกลุมไดเกิดความเลื่อมใสขึ้นมาทันที โดยเฉพาะอยางยิ่งในปที่ 11 ของการเผยแพรศาสนาของทานนบี นักแสวงบุญจากเมืองยัษริบ ( มะดีนะฮฺ ) จาก เผาค็อซร็อจญจํานวน 6 คน ตอบรับการเชิญชวนของทาน ความหวังในการเผยแพร ศาสนาเริ่มมีความหวังขึ้นมาบาง ในขณะที่หนึ่งปผานไป ตรงกับปที่ 12 แหงการเผยแพรศาสนาของทานนบี เดือน อันศักดิ์สิทธิ์และฤดูกาลแหงการแสวงบุญกลับมาถึง ผูแสวงบุญจากเมืองยัษริบจํานวน 12 เขาพบทานศาสดาที่ภูเขาอัลอะเกาะบะฮฺ และไดเขารวมเปนพันธมิตรกับทานดวย สนธิสัญญาที่เรียกวา “ สนธิสัญญาอัลอะเกาะบะฮฺฉบับแรก ” ในสนธิสัญญานี้พวกเขา ตกลงกันที่จะยึดมั่นในเรื่องเอกภาพของพระเจาโดยไมกราบไหวรูปเคารพ จะไมลัก ขโมย หรือลวงประเวณี จะไมฆาลูกๆ ของตน หรือไมทําความชั่วทั้ง ๆ ที่รู และจะตอง ยอมรับคําบัญชาของพระเจาอยางไมมีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น พวกผูแทนจากเมืองยัษริบ เหลานี้ก็ยินดีรับฟงตามเงื่อนไขดังกลาว ในตอนขากลับไปยังเมืองยัษริบนั้น ศาสดา มุหัมมัดไดสงมุสอับ อิบนุ อุมัยรฺ ไปกับพวกเขาดวย เพื่อสอนกุรฺอานและหลักคําสอน ของอิสลามใหคนเหลานั้น หลังจากสนธิสัญญานี้แลว อิสลามจึงไดเริ่มแพรหลายไปใน เมืองยัษริบอยางรวดเร็ว มุสอับอาศัยอยูกับบรรดามุสลิมของเผาเอาสฺ และค็อซร็อจญ และไดสอนศาสนาแหงพระผูเปนเจาและการเปดเผยสัจธรรมใหพวกเขา จํานวนมุสลิม ในเมืองยัษริบไดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเดือนศักดิ์สิทธิ์หวนกลับมา มุสอับก็เดินทางมายัง นครมักกะฮฺและรายงานผลความกาวหนาในเรื่องพลังอํานาจและการผนึกกําลังของ
12.
F 12 มุสลิมในเมืองมะดีนะฮฺใหทานศาสดาฟงและไดแจงแกทานดวยวาคนเหลานั้นจะมาทํา การแสวงบุญในฤดูกาลนี้เปนจํานวนมากกวาที่เคยเปนมา ป ค.ศ.
622 ไดมีจํานวนผูแสวงบุญจากเมืองยัษริบจํานวนมาก คือบุรุษเจ็ดสิบ สามคนและสตรีสองคน เมื่อศาสดามุหัมมัดไดทราบขาวนี้ ทานก็คิดจะทําสนธิสัญญา อีกฉบับหนึ่งกับพวกเขาซึ่งนอกจากคําสั่งสอนของอิสลามอยางสุภาพออนโยนและสอน ใหอดทนแลว ทานตองการทําสัญญาเรียกรองใหพวกเขาพรอมที่จะเสียสละในการ ปกปองภยันตรายตางๆ และโตตอบการประทุษรายและการรุกรานที่อาจเกิดขึ้นแก ทานนบีและชาวมุสลิม ศาสดามุหัมมัดจึงไดติดตออยางลับ ๆ กับพวกหัวหนากลุมนั้น และไดทราบวาพวกเขาก็เตรียมตัวไวอยางดีแลวที่จะทํางานเชนนั้น พวกเขาตกลงที่จะ ไปพบกันที่เขาอัลอะเกาะบะฮฺในตอนกลางคืนของวันที่สองแหงการแสวงบุญ มุสลิมจาก เมืองยัษริบเก็บการนัดพบนั้นไวเปนความลับ มิใหแพรงพรายใหแกผูไมศรัทธาในเผา ของพวกเขาเอง และชาวกุร็อยซฺทราบ เมื่อถึงเวลาพวกเขาก็มาพบกับทานศาสดาตามที่ นัดไวโดยลอบมาในความมืดยามค่ําคืน เมื่อพวกเขามาถึงอัลอะเกาะบะฮฺทั้งชายและ หญิงก็ขึ้นไปบนภูเขาและรอทานศาสดาอยูที่นั่น ศาสดามุหัมมัดมาถึงพรอมดวยลุงของทานคืออัลอับบาส บุตร อับดุลมุฏเฏาะลิบ อัลอับบาส ซึ่งตอนนั้นยังมิไดเปลี่ยนมารับอิสลาม แตดวยความเปนหวงหลานชายจึง ติดตามมาดวย สัญญาอัลอะเกาะบะฮฺครั้งนี้เรียกวา “ สนธิสัญญาอัลอะเกะบะฮฺครั้งที่ สอง ” ขอความที่สําคัญในสัญญาครั้งนี้คือ กลุมตัวแทนจากเมืองยัษริบนี้ สัญญาที่ ปกปองศาสดามุหัมมัด และจะกระทําทุกสิ่งทุกอยางเหมือนกับการปกปองภรรยาและ ลูกๆ ของพวกเขาเอง การทําสัญญาของพวกยัษริบในครั้งนี้มี อัลบารออฺ อิบนุ มุอฺรูร เปนหัวหนาของกลุมนี้ อัลบารออฺ อิบนุ มุอฺรูร เขารับอิสลามหลังจากที่มีการทํา สนธิสัญญาอะเกาะบะฮฺฉบับแรก ขาวนี้เมื่อทราบถึงพวกกุร็อยซฺมักกะฮฺ พวกเขารูสึกไมพอใจทันที่ พวกเขาไดพา กันมาหาหัวหนาของเผาค็อซร็อจญ ณ ที่พัก แตฝายมุสลิมก็เงียบเสีย ทําใหพวกกุร็อยซฺ ไมสามารถที่จะจับผิดได เพราะไมมีหลักฐานที่ชัดเจน ดังนั้นพวกยัษริบจึงรีบกลับเมือง กอนที่พวกกุร็อยซฺจะหาหลักฐานได เมื่อพวกกุร็อยซฺรูความจริง พวกเขาจึงรีบตามไป
13.
F 13 แตก็ไมทัน คงจับไดชาวยัษริบเพียงคนเดียว
คือ สะอฺด อิบนุ อุบาดะฮฺ เขาถูกใสโซ ตรวนและทรมาน จนกระทั่ง จูเบร อิบนุ มุตอัม อิบนุ อดียะฮฺ และฮารีษ อิบนุ อุมัยยะฮฺ ตองไปขอถายตัวเขาดวยเงินจํานวนหนึ่งเพื่อใหพนโทษ สนธิสัญญาทําใหทานนบีมีความหวังและเปนการเปดประตูสูชัยชนะ สวนพวก กุร็อยซฺมีความกลัวและวิตกกังวลเปนอยางมาก พวกเขาคิดวาถาขบวนการนี้ยังไมถูก ทําลายอยางถอนรากถอนโคน อนาคตของพวกเขาจะตกอยูในอันตราย ชัยชนะของ มุหัมมัดอาจเกิดขึ้น พวกเจาจึงวางแผนใชมารตราการขั้นเด็ดขาดกับมุหัมมัดและชาว มุสลิม ทานนบีก็รูดีวาการนองเลือดระหวางพวกกุร็อยซฺกับชาวมุสลิมเห็นที่จะไมมีทาง หลีกพน ทานจึงสั่งใหมิตรสหายตลอดจนสาวกของทานอพยพไปยังเมืองยัษริบ มุสลิม จึงเริ่มอพยพไปทีละคนทีละกลุม บางครั้งก็เปนกลุมเล็กๆ ทั้งนี้เพื่อไมใหพวกกุร็อยซเกิด ความสงสัย อยางไรก็ตามบางคนที่จับได ก็ถูกทรมานไป มักกะฮฺเปนสถานที่แหงแลงเต็มไปดวยเนินเขา สภาพทางภูมิศาสตรนับวามี อิทธิพลตอผูคนในเมืองเปนอยางมากทีเดียว ชาวมักกะฮฺมักเปนคนอารมณรายและไม คอยมีความคิดที่ลึกซึ้ง ตรงกันขามยัษริบเปนเมืองที่อุดมสมบูรณมีพืชผลไมมากชนิด ดินฟาอากาศ ก็ไมทารุณเหมือนมักกะฮฺ ผูคนจึงมีจิตใจออนโยน มีความเกรงใจและชาง คิด เพราะฉะนั้นในระยะตนของการเผยแพรอิสลามเมืองมะดีนะฮฺจึงเปนที่ ๆ เหมาะสม มากกวามักกะฮฺมาก ในมะดีนะฮฺไมมีพวกนักบวชคอยตอตานความเจริญเติบโตของ อิสลามเหมือนในมักกะฮฺ ฉะนั้นจึงเปนการงายที่จะเผยแพรคําสอนศาสนาอิสลาม มากกวาที่อื่น นอกจากนี้ในเมืองนี้ยังมีชาวยิวอาศัยอยูดวย พวกยิวถือวามุหัมมัดเปน ผูสนับสนุนคัมภีรของพวกตน ฉะนั้นพวกเขาจึงรอตอนรับทานศาสดาดวยความ กระตือรือรน หลังจากที่ทานศาสดาไดสั่งสานุศิษยของทานใหโยกยาย อพยพไปอยูที่เมืองยัษ ริบแลว ประกอบกับทราบขาววาพวกกุร็อยซฺกําลังวางแผนจะสังหารทานนบีอยาง แนนอน และในเวลาเดียวกันนั้น ทานนบีไดรับคําบัญชาจากพระเจาใหเดินทางไปพรอม กับทานอบูบักรฺ ทานนบีไดหลบออกจากบานในเวลากลางคืน โดยใหทานอาลี บุตร อบูฎอลิบ นอนอยูบนเตียงของทาน ภายใตสถานการณที่คนหนุมจากเผาตางๆ ได
14.
F 14 ลอมรอบบานทานเพื่อรอการสังหารทาน ทานไดหลบหนีออกไปกับอบูบักรโดยไปหลบ อยูในถ้ําแหงหนึ่ง
ซึ่งอยูไมไกลจากเมืองมักกะฮฺนัก โดยไมมีใครเห็น นอกจากอับดุลลอ ฮฺ ลูกของอบูบักรฺ กับนองสาวสองคนของทาน คือ อาอิชะฮฺ และอัสมา ทั้งสองไดซอน อยูในถ้ําเปนเวลาสามวัน ดวยความชวยเหลือจากพระเจา พวกกุร็อยซฺตามตัวไมพบ ถึงแมวาพวกเขาไดมาถึงปากถ้ําแลวก็ตาม เพราะวาหนาปากถ้ํามีใยแมงมุมและมี นกพิราบมาสรางรังอยู โดยที่พวกเขานึกไมถึงวาทานนบีอยูในถ้ํานั้น เมื่อเห็นวาปลอดภัยดีแลว ทานนบีและอบูบักรฺจึงออกเดินทางตอไป โดยมีคนใช ชื่อวา อับดุลลอฮฺ อินุ อุรัยกิต เปนผูนําทาง ซึ่งไดนําทางสองไปทางตอนใตของมักกะฮฺ แลวออกเดินทางไปอยางระมัดระวังตามเสนทางที่ไมมีผูคนใช เพื่อหลีกเลี่ยงไมใหพบ กับพวกกุร็อยซฺ ในวันที่ 2 เดือนร็อบบิลอุลอัววัล ตรงกับเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 622 ทานนบีมาถึงที่เมืองกุบาอฺ ซึ่งอยูหางจากเมืองยัษริบประมาณ 6 ไมล ณ ที่นั้นทานนบีได สรางมัสยิด ซึ่งมีชื่อวา มัสยิดกุบาอฺ และถือวาเปนมัสยิดแหงแรกในอิสลาม ทานนบีได พักที่นั้นเปนเวลาประมาณสองอาทิตย จึงเดินทางเขาเมืองยัษริบในวันศุกรโดยมี ชาวเมืองยัษริบออกมาตอนรับเปนจํานวนมาก เหตุการณครั้งนี้เรียกวาการอพยพหรือ ฮิจญเราะฮฺอันเปนการเริ่มตนศักราชของ ชาวมุสลิม นับแตนั้นมา เวลาแหงการประหัตประหารชาวมุสลิมในเมืองมักกะฮฺก็เปนอัน สิ้นสุดลง และยุคแหงเมืองมะดีนะฮฺก็เริ่มตนขึ้น ภาระกิจของทานศาสดายังไมสําเร็จ เสร็จสิ้นแตความสําเร็จก็เริ่มขึ้นแลวที่มะดีนะฮฺ ทานศาสดาไมเพียงแตไดรับการตอนรับ อยางมีเกียรติเทานั้น แตยังไดรับการแตงตั้งใหเปนประธานของชุมชนอีกดวย สถานะ และอํานาจของทานศาสดาก็เพิ่มขึ้น และอิสลามก็ไดตั้งหลักปกฐานมั่นคงขึ้นทุกวัน ณ เมืองนี้ทานศาสดามีอิสรภาพที่จะเทศนาคําสอนของพระผูเปนเจา ทามกลางผูหลงผิด ในที่สุดก็หันมามีศรัทธาในศาสนาใหมนี้มากขึ้นและไดแผขยายออกไปเรื่อย ๆ
15.
F 15 เมื่อทานศาสดาไดมาอยูที่เมืองยัษริบแลว เมืองนั้นก็ไดรับขนานนามใหมเปนมะ ดีนะตุนนะบี
หรือเมืองแหงศาสดา ภาระกิจแรกที่ทานศาสดาทําที่เมืองนี้ก็คือสราง มัสญิดขึ้นหนึ่งหลังซึ่งทานไดลงมือทํางานเองเหมือนกรรมกรคนหนึ่ง มัสญิดหลังนี้เปน สถานที่ทําการละหมาดและศูนยรวมการเผยแพรศาสนาอิสลาม ในสมัยนั้น มะดีนะฮฺประกอบดวยกลุมคน เผาพันธหลายกลุมดวยกัน นอกจาก เผาเอาสฺ และค็อซร็อจญแลว ยังมีเผาพันธพวกยิวจํานวนหนึ่ง เชน เผาก็อยนุกออฺ เผากู รอยเซาะฮฺ เผานะฎีร และเผาค็อยบัร ทานนบีรูดีวาความหลากหลายในเผาพันธนั้น อาจสรางความวุนวายเกิดขึ้นได โดยเฉพาะอยางชาวยิวคงไมยิ่งดีนักที่เห็นความสําเร็จ ของศาสนาอิสลาม เพราะชาวยิวมักจะพูดเสมอวาตนเปนประชาชาติที่พระเจาทรง คัดเลือกและมีความประเสริฐกวาประชาชาติอื่นๆ ในโลก ดวยเหตุดังกลาวนี้ ทานนบีได รีบสรางความเปนปกแผนเปนอันหนึ่งเดียวกันในหมูมุสลิม โดยใชศาสนาเปนตัวกระตุน สรางความเปนเอกภาพและภารดรภาพเกิดขึ้นในสังคมมุสลิมมะดีนะฮฺ โดยเฉพาะอยาง ยิ่งระหวางชาวมุสลิมที่อพยพมากมักกะฮฺ หรือที่เรียกวา กลุมมุฮาญิรีน ซึ่งเปนผูลี้ภัย และชาวมุสลิมพื้นเมือง หรือที่เรียกวา กลุมอันศอร ซึ่งเปนผูใหความชวยเหลือ ชาวอันศอรนอกจากชวยเหลือในยามคับขันแลว คนเหลานี้ยังเสียสละเงินทอง จัดหาบานเรือนและทรัพยสมบัติใหแกชาวมุฮาญิรีน ความเปนพี่นองระหวางชาวมุฮาญิ รีนกับชาวอันศอรนั้นไดเปนไปอยางลึกซึ้ง กระทั่งยอมหยาภรรยาตนเองเพื่อมอบใหแก ชาวมุฮาญิรีน และสามารถรับมรดกของกันและกันไดเวลาคนหนึ่งคนใดสิ้นชีวิตไป เมื่อ อิสลามเจริญรุงเรืองขึ้นจนเปนกลุมอํานาจที่เปนเอกเทศแยกออกไป บรรดาผูที่ถือรูป เคารพทั้งหลายที่ยังไมรับอิสลามตางก็พากันอิจฉาริษยา มีบางคนที่ทําที่เปนเขารับ อิสลามแตภายในนั้นตั้งใจที่จะตอตานทานศาสดาอยูอยางลับ ๆ พวกนี้เรียกวาพวกมุ นาฟกูน หรือพวกหนาไหวหลังหลอก ขาดความจริงใจ คนเหลานี้เปนคนที่มีอันตราย
16.
F 16 มากยิ่งกวาศัตรูที่เปดเผยเสียอีก สวนชาวยิวในมะดีนะฮฺนั้นเปนอีกรูปแบบหนึ่ง กลาวคือตอนแรกพวกเขารวมกันกับชาวมะดีนะฮฺในการตอนรับทานศาสดาเปนอันดี ทั้งนี้พวกเขาหวังที่จะชักชวนทานศาสดามาเขาเปนพวกของตน
แตเมื่อภายหลังไดพบวา พวกเขาไมอาจจะทําได พวกเขาจึงคอย ๆ ถอนความชวยเหลือออกไปทีละนอย ๆ และ ไดกลายเปนศัตรูของอิสลามไปในที่สุด ทานศาสดาพยายามสรางความรูสึกความเปนพี่นองขึ้นระหวางคนเหลานั้นให มากที่สุด เพราะทานแลเห็นความจริงที่วาอาณาจักรอิสลามจะมีรากฐานที่แข็งแรงไมได หากไมไดรับการค้ําจุนจากประชาชนทุกฝาย ความมีขันติตอศาสนาอื่น ๆ นั้นเปนสิ่งที่ จําเปนในเมื่อมีคนหลายเผาหลายชาติอาศัยอยูรวมกัน ดวยวัตถุประสงคนี้ทานศาสดา จึงไดจัดตั้งระเบียบขึ้นเรียกวา ” ธรรมนูญแหงมะดีนะฮฺ “ ซึ่งเปนระเบียบเพื่อการเลิก ลมการอาฆาตพยาบาทกันระหวางเผาและเพื่อใหสิทธิ์ตางแกประชาชนทุกกลุม โดยเฉพาะชาวยิวที่อาศัยอยูในมะดีนะฮฺและรอบ ๆ มะดีนะฮฺ เนื้อความสําคัญใน ธรรมนูญนั้นมีอยูดังนี้ 1) ชุมชนทั้งหลายที่ลงนามในพันธะสัญญา นี้จักเปนชาติเดียวกัน 2) ถากลุมชนใดที่ลงนามในพันธะสัญญานี้ถูกขาศึกศัตรูรุกรานชนกลุมอื่นจะรวมกําลัง กันชวย ทําการปกปอง 3) จักไมมีกลุมชนใดในชาติเดียวกันนี้ไปทําสนธิสัญญาอยางลับ ๆ กับพวกกุร็อยช หรือ ให ที่พึ่งพาอาศัยแกคนเหลานั้นหรือชวยเหลือคนเหลานั้นใหตอตานชาวมะดีนะฮฺ 4) ชาวมุสลิม ชาวยิวและชุมชนอื่น ๆ ของสาธารณรัฐนี้ยอมมีอิสระที่จะนับถือศาสนา ของตนไดและปฏิบัติกิจตามศาสนาของตนไดโดยไมมีใครขัดขวาง 5) การการะทําผิดสวนตัวเล็ก ๆ นอย ๆ ของผูที่ไมใชมุสลิมจะตองถือวาเปนความผิด สวนตัวไมเกี่ยวของกับชุมชนที่บุคคลนั้นอยู
17.
F 17 6) ผูที่ถูกกดขี่จะตองไดรับการปกปอง 7)
นับตั้งแตนี้ไปการทําใหเลือดตกยางออก การฆาและความรุนแรงตาง ๆ ถือวาเปน สิ่งหะ รอม ( นารังเกียจ ) ในมะดีนะฮฺ 8) ศาสดามุหัมมัด ( ศ็อลฯ ) ศาสดาแหงพระผูเปนเจาจะเปนประธานของสาธารณรัฐ และ จะเปนศาลอุทธรณสูงสุดในดินแดนนี้ ความสําคัญของธรรมนูญนี้อยูตรงที่วาเปนธรรมนูญฉบับแรกในโลกที่เขียนไว เปนลายลักษณอักษร กอนหนาที่ทานศาสดาไดมีผูปกครอง แตก็ไมมีใครเคยให รัฐธรรมนูญที่เขียนเปนลายลักษณอักษรแกประชาชนของตน ทานศาสดามุหัมมัดเปนคนแรกที่ประจักษถึงความสําคัญของความรวมมือและ การใหความสําคัญตอประชาชนในการบริหารรัฐและการรักษาสัญญานี้ยังไดแสดงให เห็นดวยวาทานศาสดามุหัมมัดมิใชเปนแตนักสั่งสอนศาสนาเทานั้นแตยังเปนรัฐบุรุษที่ เปนนักปกครองที่ดีดวย เมื่อศาสนาอิสลามไดกอตัวเปนรัฐแลว มีความจําเปนอยางยิ่งที่จะตองมีความ พรอมในดานกําลังทหาร การเมืองและเศรษฐกิจ มิฉะนั้นแลวรัฐอิสลามแหงมะดีนะฮฺจะ ถูกโจมตี และรุกรานจากพวกกุร็อยซฺ และเหลาศัตรูรอบๆ มะดีนะฮฺไดงาย นัก ประวัติศาสตรที่ไมหวังดีตออิสลามหลายทานกลาวหาศาสนาอิสลามวาชอบทําสงคราม และเผยแพรศาสนาดวยคมดาบ อันที่จริงแลวอิสลามเปนศาสนาสันติ ที่จําเปนตองทํา สงครามนั้นก็เพราะวาเพื่อปกปองศาสนาและอธิปไตยของรัฐเทานั้น ในสมัยของทานน บีเองหลังจากอพยพมายังมะดีนะฮฺแลวมีสงครามเกิดขึ้นระหวางชาวมุสลิมกับศัตรูตางๆ ถึง 47 ครั้ง และในจํานวนนั้นทานนบีเขารวมสงครามดวยตนเองถึง 27 ครั้ง ในบรรดา สงครามตางๆ เหลานี้ มีสงครามที่สําคัญดังนี้
18.
F 18 สงครามบัดรฺเปนสงครามครั้งแรก และเปนสงครามที่สําคัญที่สุดที่เกิดขึ้น ระหวางชาวมุสลิมกับพวกกุร็อยซฺ
เกิดขึ้นในเดือนรอมฏอนปที่ 2 หลังจากอพยพ หรือ ค.ศ. 624 ณ บอบัดรฺ ซึ่งกองทัพมุสลิมมีจํานวนพล 313 คน สวนกองทัพกุร็อยซฺมีจํานวน ผลประมาณหนึ่งพันคน โดยมีอบูญะฮัลเปนแมทัพ สาเหตุของสงคราม สาเหตุของสงครามบัดรในครั้งนี้กลาวคือ ทานศาสดามุหัมมัด ( ศ็อลฯ ) ทราบ ขาววากองคาราวานพาณิชยของพวกกุร็อยซฺ ซึ่งนําโดยอบูซุฟยานกลับมาจากซีเรีย ทาน นบบีไดปรึกษาหารือกับเหลาสาวกของทาน และตัดสินใจที่จะสงทหารไปโจมตีกอง คาราวานของอบูซุฟยานนี้ อบูซุฟยานไหวตัวกอน จึงเปลี่ยนเสนทาง พรอมกับขอกําลัง ชวยเหลือจากมักกะฮฺ ฝายกุร็อยซฺมักกะฮฺจึงยกกองทัพมาเพื่อที่จะบดขยี้ฝายมุสลิม กองทัพทั้งสองฝายไดประจัญบานกัน ณ บอบัดรฺ ซึ่งอยูหางจากมะดีนะฮฺเพียงไมกี่ไมล ทานศาสดาสั่งใหตั้งทัพอยูใกลกับเนินเขาอัล อาริช และเพื่อจะตัดน้ําจากฝายขาศึกซึ่ง ตั้งทัพอยูทางดานใตของหุบเขา ทานจึงไดสั่งขุดบอขนาดใหญขึ้นหลายบอใหน้ําไหล กลับเขามาในบอเหลานั้น ทั้งนี้มิใชเพียงเพื่อกันไมใหสายน้ําไหลเขาสูคายพักของพวก ขาศึกเทานั้น แตเพื่อเก็บน้ําไวใหฝายมุสลิมใชดวย ตอนเชาตรูของวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 624 ทานไดจัดทัพและใหคําแนะนําแกพวกทหารของทานกอนจะเคลื่อนทัพไป ทานไดวิงวอนขอตอพระเจา ขอใหทหารของทานมีชัยชนะตอกองทัพของขาศึกที่มี จํานวนมากกวาหลายเทา ตามธรรมเนียมของอาหรับ นายทัพของทั้งสองฝายจะตองตอสูกันตัวตอตัว นาย ทัพของฝายกุร็อยชมีชัยบะฮ อุตบะฮและวะลีด บิน อุตบะฮไดทาทายนายทัพฝาย มุสลิม ซึ่งมีอุบัยดะฮฺ ฮัมซะฮฺและอะลีออกไปสูกันตัวตอตัว นายทัพฝายกุร็อยชตอสู อยางกลาหาญแตก็แพและถูกฆาตายเกือบหมด กองทัพทั้งสองจึงเขาประจัญบานกัน
19.
F 19 ดวยขวัญและกําลังใจที่เหนือกวา ประกอบกับความชวยเหลือจากพระเจา
ในที่สุด กองทัพมักกะฮฺก็พายแพ พวกทหารที่เหลือตางก็แตกทัพและหนีออกจากสนามรบ ทหารที่เหลือถูกจับเปนเชลยเปนจํานวนมาก อบูญะฮัล ผูเปนปรปกษที่รายกาจที่สุดของ ทานศาสดาก็ถูกฆาตายในสนามรบดวย ผลของสงคราม ผลของสงครามในครั้งนี้ฝายมุสลิมไดรับชัยชนะ ทหารของกุร็อยซฺถูกฆาตาย 70 คน และถูกจับเปนเชลยเปนจํานวนมาก สวนฝายมุสลิมเปนซะฮีดแค 14 คนเทานั้น ทานศาสดาไดสั่งใหสานุศิษยของทานปฏิบัติตอเชลยศึกที่ไมมีเสื้อผาใสก็รับแจกเสื้อผา และพวกเขาไดรับการเลี้ยงดูดวยอาหารเชนเดียวกับฝายมุสลิม มุสลิมบางคนถึงกับ สละขนมปงใหเชลยศึกกินสวนตัวเองกินเพียงอินทผลัม ตอมาทานศาสดาก็ตัดสินใจที่ จะปลอยเชลยศึกไปโดยใหมีการเสียคาไถ แมแตญาติของทานเองก็ใหสอนหนังสือ ใหแกเด็กชายมุสลิมสิบคนแทนการเสียคาไถ สวนพวกที่ยากจนไมมีเงินคาไถก็ไดรับ การปลอยตัวไปโดยใหสัญญาวาจะไมตอสูกับมุสลิมอีกในภายหนา การปฏิบัติของ มุสลิมตอเชลยศึกอยางโอบออมอารีเชนนี้เปนสิ่งที่ไมเคยมีมากอนเลยในประวัติศาสตร ผลของสงครามบัดรฺเปนเหตุการณที่มีความหมายตอชะตากรรมขอลงอิสลาม อยางมากที่สุดในประวัติศาสตรของอิสลาม เพราะหากฝายมุสลิมไมสามารถเอาชนะ สงครามครั้งนี้ได อิสลามก็อาจจะถูกกวาดลางใหสูญไปจากโลกนี้เลยก็ได ชัยชนะใน สงครามครั้งนี้ไดใหความหวังใหมแกชาวมุสลิมและเปนกําลังใจแกพวกเขาเปนอยาง มาก ในสงครามนี้อํานาจของพวกกุร็อยชก็ถูกทําลายลงและความหยิ่งผยองของพวก เขาก็ลดลงไปดวย ในขณะที่อิทธิพลของทานศาสดามุหัมมัด ( ศ็อลฯ ) และอํานาจของ อิสลามเริ่มมีมากขึ้นตลอดไปถึงอาณาบริเวณนอกเมืองมะดีนะฮฺดวย สงครามครั้งนี้ยังมี ผลกระทบกระเทือนอยางหนักตอชาวยิวและชนเผาใกลเคียงคือ เบดูอินพวกเขาไดรูวา บัดนี้ไดมีพลังอันไมอาจจะเอาชนะไดเกิดขึ้นแลวในอารเบีย แตกอนนี้พวกยิวไมไดให ความสําคัญอันใดแกชาวมุสลิมนักแตเดี๋ยวนี้พวกเขาเริ่มรูถึงความเขมแข็งของมุสลิม สงครามบัดรชวยใหฝายมุสลิมผนึกกําลังของอิสลามในมะดีนะฮฺ และทําใหพวกเขาตอสู กับผูคนที่มีทิฐิในเมืองนั้น ไดอยางไมหวั่นหวาด