Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
1
- 10. ➢ความสาคัญของการบริหารโครงการซอฟต์แวร์
➢โครงการซอฟต์แวร์ใช้งบประมาณในการดาเนินงานมาก
ข้อมูลจาก Business monitor international (BMI) พบว่า การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ของประเทศไทยมีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน และยังคาดการณ์ว่าตัวเลขประมาณการใช้จ่ายด้าน
เทคโนโลยีสารนเทศของประเทศไทยจะโตขึ้นเป็น 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2016 (ธนชาติ นุ่มนนท์.
ออนไลน์. 2556)
จะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ดังนั้นการบริหารจัดการโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะโครงการซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งจาเป็น หาก
ไม่มีการบริหารจัดการโครงการให้ดี อาจทาให้ไม่ได้ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ ส่วนงบประมาณที่ลงทุนไป
อาจใช้ไม่คุ้มค่า หรืองบประมาณไม่เพียงพอที่จะทาให้โครงการสาเร็จตามเป้าหมายได้
- 11. ➢ความสาคัญของการบริหารโครงการซอฟต์แวร์
➢การพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์ไม่ประสบความสาเร็จ
1 เป้าหมายและวิสัยทัศน์ (Goal and vision) การกาหนดเป้าหมายและวิสัยทัศน์หรือนโยบายในการ
ดาเนินงานที่ไม่ชัดเจน ทาให้ไม่ทราบว่าสิ่งที่เราต้องการบรรลุจริง ๆ แล้วคืออะไร วัตถุประสงค์ที่เขียนขึ้นมาตาม
ขอบเขตงานในเอกสารสัญญาว่าจ้างและที่เขียนขยายความในข้อเสนอไม่เป็นที่เข้าใจของทีมงานพัฒนาที่ตั้งขึ้นมา
ภายหลัง ทาให้ผู้บริหารโครงการควบคุมการดาเนินงานของทีมงานยาก ส่วนทีมงานอาจเข้าใจผิดหรือทางานเกิน
ขอบเขตที่กาหนดได้ ส่งผลให้โครงการไม่ประสบความสาเร็จในที่สุด
2 ภาวะผู้นาและการกากับดูแล (Leadership and governance) สาเหตุความล้มเหลวของ
โครงการจากโครงสร้างการบริหารจัดการงานโครงการ รวมทั้งผู้บริหารโครงการที่ตั้งขึ้นมาไม่มีความเหมาะสมกับงาน
โครงการ ผู้บริหารโครงการที่ขาดประสบการณ์ ขาดภาวะผู้นา ขาดทักษะความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ รวมทั้งขาด
ปฏิสัมพันธ์กับบุคลากรอื่น ๆ จะส่งผลให้การกากับดูแลรวมทั้งการบริหารจัดการโครงการไม่ประสบความสาเร็จ เกิด
ปัญหาต่าง ๆ ตามมาและทาให้ไม่สามารถดาเนินงานโครงการต่อไปได้
- 12. ➢ความสาคัญของการบริหารโครงการซอฟต์แวร์
➢การพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์ไม่ประสบความสาเร็จ
3 การมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder engagement issues) ในการดาเนินงานโครงการ
จาเป็นต้องมีการติดต่อประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับกลาง พนักงานระดับล่าง บุคคล
เหล่านั้นจะต้องเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลความต้องการของระบบงาน มีส่วนร่วมในการออกแบบ รวมทั้งการทดสอบระบบเพื่อให้ระบบงาน
ที่ได้มีความสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้การกาหนดให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนกระทั่งโครงการ
สาเร็จจะทาให้บุคคลเหล่านั้นมีความรู้สึกเป็นเจ้าของระบบงาน ซึ่งจะลดแรงต่อต้านในการนาระบบงานใหม่ไปติดตั้งใช้งานใน
อนาคต การขาดการมีส่วนร่วมอาจทาให้ไม่ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ ส่งผลให้การพัฒนาระบบงานหรือซอฟต์แวร์ไม่เป็นไปตามความ
ต้องการหรือทาให้ต้องมีการปรับแก้ไขในภายหลังซึ่งจะต้องเสียเวลาและงบประมาณเพิ่มขึ้น ทาให้โครงการไม่ประสบความสาเร็จ
ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
4 ทีมงาน (Team issues) ปัญหาทีมงานโครงการที่เกิดขึ้นซึ่งก่อให้เกิดความล้มเหลวของโครงการ คือ ทีมงาน
ขาดทักษะและความเชี่ยวชาญ ขาดความร่วมมือในการทางาน การกาหนดบทบาทหน้าที่ในการทางานของทีมงานไม่ชัดเจน
ทีมงานไม่เพียงพอและขาดแรงจูงใจในการทางาน
- 13. ➢ความสาคัญของการบริหารโครงการซอฟต์แวร์
➢การพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์ไม่ประสบความสาเร็จ
5 ความต้องการของระบบ (Requirements issues) การกาหนดขอบเขตความต้องการของระบบงานไม่
ชัดเจน รวมทั้งการเปลี่ยนความความต้องการของระบบหลังจากที่ได้ดาเนินการไปแล้ว เป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อยในการ
พัฒนาโครงการซอฟต์แวร์ ซึ่งผู้บริหารโครงการจะต้องคอยพิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงความต้องการนั้นเกินขอบเขตงาน
หรือไม่ หากเขียนขอบเขตความต้องการไม่ชัดเจนอาจทาให้เกิดการโต้แย้ง อาจมีส่วนงานที่ต้องทาเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทาให้ไม่
สามารถปิดโครงการได้
6 การประมาณการ (Estimation) ในการประมาณการโครงการ ทั้งเรื่องของงบประมาณ แรงงาน และ
ระยะเวลาการดาเนินงานของโครงการ หากมีการประมาณการที่ไม่สัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายหรือเนื้องาน อาจก่อให้เกิดปัญหาได้
การประมาณการโครงการที่กาหนดโดยฝ่ายจัดการที่ไม่มีประสบการณ์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นสิ่งที่องค์กรควรพิจารณา
เพราะการประมาณการโครงการซอฟต์แวร์มีความแตกต่างจากโครงการประเภทอื่น หากให้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการ
พัฒนาซอฟต์แวร์มาเป็นผู้ประมาณการอาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น งบประมาณไม่เพียงพอ หรือระยะเวลาในการดาเนินงาน
ไม่เหมาะสม ซึ่งทาให้ไม่สามารถปิดโครงการได้
- 14. ➢ความสาคัญของการบริหารโครงการซอฟต์แวร์
➢การพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์ไม่ประสบความสาเร็จ
7 การวางแผน (Planning) ความล้มเหลวของโครงการที่เกิดจากการวางแผนเป็นสาเหตุที่พบ
มากที่สุด ในการวางแผนจะทาให้ทราบว่าในโครงการประกอบด้วยงานย่อยอะไรบ้าง มีการใช้ทรัพยากร
อะไร จานวนเท่าไร ระยะเวลาเริ่มงาน ระยะเวลาที่งานต้องเสร็จ รวมทั้งผู้รับผิดชอบ การวางแผนที่ดีจะทา
ให้ผู้บริหารสามารถติดตามและควบคุมการดาเนินงานให้เป็นไปตามแผนที่กาหนด หากไม่มีการวางแผน
หรือวางแผนไม่ดีจะทาให้ไม่สามารถดาเนินการตามแผนได้ อาจส่งผลให้ต้องยุติโครงการก่อนกาหนด
8 การบริหารความเสี่ยง (Risk management) การดาเนินงานโครงการทุกโครงการมี
ความเสี่ยง การประเมินความเสี่ยง การกาหนดวิธีการควบคุมและแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่ควรดาเนินการ ความ
ล้มเหลวของโครงการที่เกิดขึ้นคือการละเลยในส่วนนี้
- 15. ➢ความสาคัญของการบริหารโครงการซอฟต์แวร์
➢การพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์ไม่ประสบความสาเร็จ
9 สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Architecture and design) ปัญหาการเริ่มพัฒนา
งานทีละส่วนของแต่ละบุคคลโดยมิได้คานึงถึงสถาปัตยกรรมในภาพรวมของระบบ อาจก่อให้เกิดปัญหา
ในการรวมระบบทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถทางานได้ ซึ่งอาจทาให้มีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นใน
ภายหลัง
10 การกาหนดค่าของระบบและการจัดการข้อมูล (Configuration and
information management) การละเลยการบันทึกรายละเอียดของระบบ
(Configuration) และการจัดการข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลรายละเอียดของระบบไว้ทั้งหมดทาให้
สามารถกลับมาทบทวนหรือเรียกดูร่องรอยเดิมหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิด
ขึ้นกับระบบ เช่น การเผลอไปลบฐานข้อมูล หรือฮาร์ดดิสก์ที่เก็บข้อมูลมีปัญหา เป็นต้น
- 16. ➢ความสาคัญของการบริหารโครงการซอฟต์แวร์
➢การพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์ไม่ประสบความสาเร็จ
11 คุณภาพ (Quality) ความล้มเหลวในการวางแผนเพื่อตรวจสอบคุณภาพของซอฟต์แวร์ ซึ่งส่วนใหญ่การ
ตรวจสอบคุณภาพซอฟต์แวร์จะถูกมองว่าเป็นเรื่องไม่จาเป็น ก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองและเสียเวลา แต่หากไม่มีการ
ตรวจสอบคุณภาพและพบปัญหาในภายหลัง อาจทาให้เสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่คาดคิด งบประมาณอาจบานปลาย
12 การติดตามและการจัดการ (Project tracking and management) การขาดการติดตาม
ความก้าวหน้าของงานทาให้ไม่ทราบความก้าวหน้าของโครงการ หากมีปัญหาเกิดขึ้นในระหว่างการดาเนินงานจะไม่
สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที นาไปสู่ปัญหาการส่งมอบงานไม่ทันตามระยะเวลาที่กาหนด
13 ปัญหาการตัดสินใจ (Decision making problems) ในกรณีที่ต้องมีการตัดสินใจการใช้ความรู้สึก
ในการตัดสินใจแทนการตัดสินใจอย่างเป็นเหตุเป็นผล และการขาดการตัดสินใจร่วมกันของคนในทีมงาน เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง
ที่ทาให้โครงการซอฟต์แวร์ล้มเหลวได้
- 17. ➢ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการ
➢ความหมายของโครงการ
โครงการ (Project) หมายถึง แผนงานที่จัดขึ้นอย่างมีระบบ ประกอบด้วยกิจกรรมย่อยหลายกิจกรรมที่
ต้องใช้ทรัพยากรในการดาเนินงานและคาดหวังผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า แผนงานต้องมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดใน
การดาเนินงาน มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน มีพื้นที่ดาเนินงาน มีบุคคลรับผิดชอบในการดาเนินงาน (ประชุม รอด
ประเสริฐ. 2547 : 4)
โครงการ หมายถึง กลุ่มของกิจกรรมที่มีความสัมพันธ์กัน เป็นความพยายามจัดกิจกรรมที่มีลักษณะ
พิเศษอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรอย่างฉลาดที่สุดในการดาเนินงาน ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้
กาหนดไว้ ได้แก่ ผลประโยชน์ตอบแทนหรือผลได้อย่างหนึ่งในอนาคต กิจกรรมดังกล่าวต้องมีจุดเริ่มต้นและ
จุดสิ้นสุด (มยุรี อนุมานราชธน. 2551 : 6)
- 18. ➢ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการ
➢ความหมายของโครงการ
โครงการ คือ งานที่ต้องมีคุณลักษณะต่าง ๆ ได้แก่ มีการกาหนดวัตถุประสงค์ชัดเจน มีการกาหนดวัน
เริ่มต้นและสิ้นสุด มีความเกี่ยวข้องกับแผนกต่าง ๆ เป็นงานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และต้องมีการ
กาหนดเวลา งบประมาณ และความต้องการหรือผลลัพธ์ของโครงการที่ชัดเจน (Erik W. Larson
and Clifford F. Gray. 2011 : 5)
สรุปได้ว่า โครงการ คือ กลุ่มกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง มีลักษณะเฉพาะ มีงาน
หรือกิจกรรม มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของเวลา รวมทั้งมีขอบเขตในการใช้ทรัพยากร โครงการแต่ละโครงการ
จะมีความแตกต่างกัน ตัวอย่างโครงการ เช่น โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ โครงการฝึกอบรม โครงการ
ออกแบบผลิตภัณฑ์ โครงการวิจัย โครงการก่อสร้าง โครงการจัดงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
- 19. ➢ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการ
➢ลักษณะของโครงการ
◦ มีการกาหนดวัตถุประสงค์ว่าเป็นโครงการที่สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ดาเนินโครงการเสร็จแล้วจะได้ผลลัพธ์อะไร รวมทั้งกาหนด
ขอบเขตการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ได้แก่ งบประมาณ ระยะเวลา โดยมีการกาหนดวันเริ่มต้นโครงการและวันแล้วเสร็จของ
โครงการอย่างชัดเจน
◦ มีลักษณะพิเศษ มีรายละเอียดของงานในโครงการที่มีความแตกต่างจากโครงการอื่นหรือโครงการที่เคยทามาแล้ว
◦ มีลักษณะชั่วคราว งานโครงการจะไม่ใช่งานประจา เมื่อดาเนินโครงการเสร็จสิ้นแล้วจะปิดโครงการและจะมีการคืน
ทรัพยากรทั้งหมด
◦ มีการข้ามสายงานการบริหารองค์กร การดาเนินงานโครงการจาเป็นต้องมีการติดต่อประสานงานกับฝ่ายอื่น ผู้ร่วมงาน
โครงการอาจมาจากฝ่ายต่าง ๆ ในองค์กร แต่การบริหารงานโครงการจะมีผู้บริหารโครงการเป็นผู้กากับดูแล
◦ มีความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยง โดยเฉพาะโครงการใหญ่ที่ประกอบด้วยกิจกรรมย่อยเป็นจานวนมาก
◦ องค์กรที่เป็นเจ้าของโครงการเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
◦ มีกระบวนการของการทางานที่ชัดเจนเป็นไปตามวงจรชีวิตของโครงการ
◦ มีผู้บริหารโครงการ ที่ทาหน้าที่กากับดูแลและรับผิดชอบโครงการ
- 22. ➢ความแตกต่างระหว่างโครงการซอฟต์แวร์และโครงการอื่นๆ
ความยากในการสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน
ในการพัฒนาโครงการอื่น ยกตัวอย่างโครงการสร้างตึก เราสามารถมองเห็นเป็นรูปธรรมได้ง่าย เช่น การกาหนดวัสดุ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ซึ่งทุกอย่างจะมีรายละเอียด มีกฎเกณฑ์ในการเลือกใช้ และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่การพัฒนาซอฟต์แวร์
จะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งผู้พัฒนาจะต้องสอบถามว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคืออะไร แล้วนามาพัฒนา จากนั้นจึง
นาเสนอลูกค้า แต่บางครั้งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า โดยผู้พัฒนาอาจมองเห็นว่าถูกต้องดีแล้ว แต่
ลูกค้าอาจไม่ได้คิดอย่างนั้น
ซอฟต์แวร์มีความยืดหยุ่น
ซอฟต์แวร์มีความยืดหยุ่น (Flexibility) มีโอกาสที่จะถูกปรับเปลี่ยนได้ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการใช้งานและ
ตรงตามความต้องการ โครงการซอฟต์แวร์จะมีระดับของการเปลี่ยนแปลงสูงกว่าโครงการประเภทอื่น ๆ การจัดการกับการ
เปลี่ยนแปลงความต้องการเป็นสิ่งที่ยากสาหรับผู้บริหารโครงการ
- 23. ➢การบริหารโครงการ
ความหมายของการบริหารโครงการ
การบริหารโครงการ หมายถึง การทาหน้าที่ต่าง ๆ ด้านการบริหาร ได้แก่ การวางแผน การจัด
องค์การ การบังคับบัญชา การประสานงาน การควบคุมการใช้ทรัพยากรของโครงการ เพื่อให้โครงการ
ดาเนินไปได้และบรรลุผลสาเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ (รัตนา สายคณิต. 2546 : 34)
การบริหารโครงการ หมายถึง การประยุกต์ความรู้ ทักษะ เครื่องมือ และเทคนิค เพื่อดาเนิน
กิจกรรมตามความต้องการของโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้ (กิตติ ภักดีวัฒนะกุล และพนิดา
พานิชกุล. 2550 : 68)
การบริหารโครงการ คือ การประยุกต์ความรู้ ทักษะ เครื่องมือ และเทคนิคเข้ากับกิจกรรมของ
โครงการเพื่อให้งานออกมาตรงตามความต้องการของโครงการ (วราภรณ์ จิรชีพพัฒนา.2551 : 1-4)
- 24. ➢การบริหารโครงการ
ความหมายของการบริหารโครงการ
การบริหารโครงการ หมายถึง การดาเนินการโดยอาศัย ทักษะ เครื่องมือ และกระบวนการจัดการ เพื่อที่จะนา
โครงการไปสู่ความสาเร็จ โดยทักษะหมายถึง ความรู้เฉพาะด้าน ความสามารถและประสบการณ์ เครื่องมือ คือ
อุปกรณ์ที่ผู้บริหารโครงการใช้ในการบริหารโครงการและในส่วนของกระบวนการจัดการ หมายถึง เทคนิคทางการ
บริหารที่จาเป็นสาหรับการติดตามงานรวมทั้งการควบคุมเวลา ต้นทุน คุณภาพและขอบเขตของโครงการ เช่น
เทคนิคการบริหารเวลา การบริหารต้นทุน การบริหารการเปลี่ยนแปลง การบริหารความเสี่ยง เป็นต้น
(Westland. 2006 : 2)
การบริหารโครงการในความหมายของผู้เรียบเรียง หมายถึง การใช้หลักการบริหารจัดการในการกาหนด
กิจกรรมและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัดให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
โดยทรัพยากรจะรวมถึงบุคลากร ทีมงาน งบประมาณ เครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุ อุปกรณ์อานวยความสะดวกต่าง ๆ
ตลอดจนข้อมูล ระบบงาน เทคนิคและเวลา การบริหารโครงการประกอบด้วยกิจกรรมหลัก ๆ ได้แก่ การวางแผน การ
ปฏิบัติงานตามแผน การติดตามและการประเมินผลโครงการ
- 25. ➢การบริหารโครงการ
ความเป็นมาของการบริหารโครงการ
เทคนิคการบริหารโครงการ เริ่มในช่วงปี พ.ศ. 2503 โดยองค์การด้านอวกาศของสหรัฐอเมริกาเริ่มจัดทาหลักสูตร
อบรมและแพร่สู่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตเป็นจานวนมาก โดยเรียกในชื่อต่าง ๆ เช่น การบริหารโปรแกรม
การบริหารการผลิต การบริหารงานก่อสร้าง เป็นต้น ในช่วงสิบปีต่อมา การบริหารองค์กรเน้นในเรื่องของคุณภาพ
ผลิตภัณฑ์และความหลากหลาย ในช่วงนี้ได้มีการนาหลักการบริหารโครงการมาใช้อย่างแพร่หลายเพื่อตอบสนองความ
ต้องการและแรงกดดันทางการแข่งขันที่มีมากขึ้น
- 26. ➢การบริหารโครงการ
ความเป็นมาของการบริหารโครงการ
วิวัฒนาการของการบริหารโครงการได้ 3 ระยะ
oการบริหารโครงการแบบเฉพาะกิจ (ad hoc project management) เป็นการบริหารงานโครงการที่ต้องการผลงานอย่าง
เร่งด่วน ผู้บริหารองค์กรจะตั้งทีมงานเฉพาะกิจ ให้ทางานโครงการ มีผู้รับผิดชอบโครงการ ทีมงานมาจากแผนกต่าง ๆ ในองค์กรซึ่ง
อาจต้องทางานประจาและทางานโครงการด้วย จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องการแบ่งเวลา ความขัดแย้งระหว่างผู้ร่วมทีมงาน ซึ่ง
อาจมีผลให้โครงการไม่เสร็จตามที่กาหนดได้
◦ การบริหารโครงการอย่างมีแบบแผน (formal project management) เป็นการนาโครงการมาใช้ในองค์กร
มากขึ้น ผู้บริหารระดับสูงให้ความสนใจต่อการบริหารโครงการมากขึ้น มีการฝึกอบรมด้านการบริหารโครงการทั้งทฤษฎี
และปฏิบัติ มีการลดอานาจของผู้บริหารตามสายงานปกติ ในการควบคุมทีมงานให้เข้ามามีอิทธิพลต่อการดาเนินงาน
โครงการ
◦ การบริหารโครงการอย่างเต็มรูปแบบ (project-driven organization) ในระยะนี้ผู้บริหารระดับสูงจะเข้ามา
มีบทบาทในการกาหนดกลยุทธ์ขององค์กร กระตุ้นให้มีการริเริ่มโครงการ จัดอันดับความสาคัญของโครงการให้
สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ มีระบบการติดตาม การประเมินผล การดาเนินงานโครงการและให้ความสาคัญกับผู้บริหาร
โครงการมากขึ้น
- 29. ความแตกต่างระหว่างการบริหารโครงการและการบริหารในสายงาน
ปกติ
การบริหารโครงการ การบริหารงานในสายงานปกติ
ระยะเวลา แน่นอน มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการชัดเจน ต่อเนื่อง ไม่ระบุจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
ทีมงาน ปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม ค่อนข้างคงตัว
ทักษะความเชี่ยวชาญ จาเป็นต้องมีทักษะความเชี่ยวชาญ สามารถพัฒนาเพิ่มได้สาหรับผู้ที่ไม่ชานาญ
การใช้ทรัพยากร ใช้จากัด ตามช่วงระยะเวลาที่ดาเนินงานโครงการ ใช้ทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง
โอกาสความขัดแย้ง มีโอกาสความขัดแย้งสูง โอกาสความขัดแย้งน้อย
การบังคับบัญชา ผู้บริหารโครงการเป็นผู้บังคับบัญชาหลัก ผู้บริหารตามสายงานปกติเป็นผู้บังคับบัญชา
ลักษณะงาน ลักษณะงานไม่ซ้า ลักษณะงานที่เป็นกิจวัตรประจาวัน
- 30. ประโยชน์ของการบริหารโครงการ
◦ สามารถระบุความรับผิดชอบตามหน้าที่ได้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าทุกกิจกรรมดาเนินไปด้วยดี
◦ ไม่ต้องมีการรายงานผลที่มากเกินไป เนื่องจากการบริหารโครงการจะมีระบบการติดตามและควบคุมการดาเนินงาน
อย่างต่อเนื่อง ทาให้ไม่ต้องรายงานผลทั้งหมดในครั้งเดียว
◦ สามารถระบุขอบเขตด้านเวลา ในตารางแผนการดาเนินงาน ทาให้สามารถติดตามควบคุมการดาเนินงานโครงการได้
◦ สามารถควบคุมการใช้ทรัพยากรโครงการได้
◦ สามารถกาหนดวิธีการวิเคราะห์ทางเลือก ทาให้ลดความเสี่ยงในการเลือกโครงการ
◦ สามารถวัดความสาเร็จของแผน ทาให้ทราบว่าโครงการสาเร็จมากน้อยเพียงใด
◦ มีการระบุปัญหาเพื่อให้มีการแก้ไขการทางาน รวมถึงการวางแผนในอนาคต
◦ มีระบบการติดตามการดาเนินงาน ทาให้ทราบทันที เมื่อการดาเนินงานไม่เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้
- 33. ➢กระบวนการบริหารโครงการซอฟต์แวร์และกระบวนการวิศวกรรม
ซอฟต์แวร์
เริ่มต้น
โครงการ
วางแผนโครงการ
(การพัฒนาความต้องการ,
การออกแบบซอฟต์แวร์,
การสร้างซอฟต์แวร์, การ
ทดสอบซอฟต์แวร์, การ
นาไปใช้, การบารุงรักษา)
ติดตามและควบคุมโครงการ
(การพัฒนาความต้องการ,
การออกแบบซอฟต์แวร์, การ
สร้างซอฟต์แวร์, การทดสอบ
ซอฟต์แวร์, การนาไปใช้, การ
บารุงรักษา)
ปิด
โครงการ
- 34. ความท้าทายของการบริหารโครงการซอฟต์แวร์
1.1 นวัตกรรมระดับสูง ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ จาเป็นต้องใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ เทคโนโลยีเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงไป
อย่างรวดเร็วและมีมูลค่าสูง การเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมโดยคานึงถึงแนวโน้มในอนาคต จะช่วยทาให้ได้ผลลัพธ์หรือ
ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพดีและเกิดความคุ้มค่าในการใช้งาน
1.2 กระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ยังไม่ชัดเจน ทาให้การผลิตซอฟต์แวร์ยังไม่มีคุณภาพ ไม่เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า ใช้
ระยะเวลาในการพัฒนานานเกินกาหนด งบประมาณบานปลาย เป็นต้น
1.3 ขาดทักษะที่เหมาะสม การขาดทักษะที่เหมาะสมในการดาเนินงานทั้งทักษะเฉพาะด้านและทักษะในการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ
ของผู้บริหารโครงการและทีมงานพัฒนาซอฟต์แวร์ อาจส่งผลให้การดาเนินงานโครงการล่าช้าหรือมีอุปสรรค
1.4 เครื่องมือและเทคนิคไม่เพียงพอ การขาดเครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสมในการพัฒนาซอฟต์แวร์ อาจทาให้การดาเนินงานพัฒนา
ซอฟต์แวร์ไม่ประสบความสาเร็จ ก่อให้เกิดปัญหาในภายหลังได้
1.5 ความซับซ้อน ของซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีขนาดใหญ่จะมีความซับซ้อนมาก หากมีการวิเคราะห์และ
ออกแบบโครงสร้างและระบบการทางานไม่ดี อาจส่งผลกระทบ เกิดปัญหาและอาจทาให้โครงการไม่เสร็จตามที่กาหนดได้
1.6 ความต้องการไม่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงความต้องการของลูกค้าในภายหลังทาให้เกิดความยากในการบริหารจัดการเพื่อให้
เป็นไปตามแผนงาน บางครั้งอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนงาน หากบริหารจัดการไม่ดีอาจทาให้โครงการล้มเหลวได้
- 36. ปัจจัยสู่ความสาเร็จในการบริหารโครงการ
1. การบริหารโครงการโดยรวม (Integration management) มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการโครงการในภาพรวมให้โครงการสาเร็จ
โดยจะเกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสาร การประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การประสานงานกับบุคลากรที่เป็นผู้บริหารระดับสูง
ระดับกลาง และระดับปฏิบัติการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความสะดวกในการดาเนินงานโครงการตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งโครงการสาเร็จ ซึ่ง
ผู้บริหารโครงการจะต้องบริหารจัดการการประสานงาน ต่าง ๆ โดยไม่ให้เกิดปัญหาตลอดระยะเวลาโครงการ
2. การบริหารขอบเขตของโครงการ (Scope management) เป็นการกาหนดขอบเขตของการดาเนินงานโครงการ เริ่มจากการวางแผน
การเก็บรวบรวมข้อมูลความต้องการ การกาหนดขอบเขตของงานว่ามีงานหลัก งานย่อยอะไรบ้างที่จาเป็นต้องทาในโครงการ อาจใช้เทคนิค
การแตกงาน WBS (Work breakdown structure) มาช่วยได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการตรวจสอบและควบคุมขอบเขตของงาน
3. การบริหารเวลาโครงการ (Time management) เป็นการบริหารจัดการโครงการให้เสร็จตามระยะเวลาที่กาหนด โดยต้องกาหนดแผน
หรือตารางการดาเนินงานโครงการ เช่น กาหนดงานหลัก และงานย่อยว่าแต่ละงานควรใช้เวลาในการดาเนินงานเท่าไร งานไหนควรเริ่มทา
ก่อนหรือทาทีหลัง ทรัพยากรที่ต้องใช้ในการดาเนินงานแต่ละงานใช้อะไรบ้าง การบริหารเวลาโครงการจาเป็นต้องมีการควบคุม การติดตาม
การดาเนินงาน ว่าเป็นไปตามแผนหรือไม่ และต้องแก้ปัญหาหากมีเหตุการณ์ที่ไม่สามารถดาเนินงานให้แล้วเสร็จตามแผนงานได้
4. การบริหารต้นทุนโครงการ (Cost management) เป็นการบริหารจัดการเพื่อใช้ต้นทุนไม่เกินงบประมาณที่ได้รับ เริ่มแรกอาจต้อง
วางแผนประมาณการต้นทุนทั้งหมด ซึ่งมาจากทรัพยากรทั้งหมดที่ต้องใช้และควบคุมการใช้ให้เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้การบริหารจัดการผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder management) หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานโครงการ มีการกาหนดผู้ที่เกี่ยวข้อง วางแผน
จัดการการประสานงาน การนัดหมายให้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาโครงการ มีการสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สามารถดาเนินงานโครงการต่อไปได้อย่างถูกต้อง
- 37. ปัจจัยสู่ความสาเร็จในการบริหารโครงการ
5. การบริหารคุณภาพโครงการ (Quality management) ผู้บริหารโครงการต้องควบคุมคุณภาพโครงการเพื่อให้การดาเนินงานมี
คุณภาพทุกกิจกรรมที่ทา มีการจัดระบบคุณภาพ ซึ่งประกอบด้วย การวางแผนงานคุณภาพ การรับประกันคุณภาพ การควบคุมคุณภาพ และ
การปรับปรุงคุณภาพ
6. การบริหารทรัพยากรบุคคลของโครงการ (Human resources management) เป็นการจัดหาทีมงานเพื่อมาดาเนินงานโครงการ
ให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด การคัดเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถ การมอบหมายงานที่ตรงกับความเชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถทางานโครงการ
ให้มีประสิทธิภาพที่สุด
7. การบริหารการสื่อสารในโครงการ (Communications management) เป็นการบริหารจัดการเพื่อให้การดาเนินงานต่าง ๆ เช่น
การจัดทารายงาน การเก็บข้อมูล การเผยแพร่ การประสานงาน การส่งข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทางเป็นไปได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว
8. การบริหารความเสี่ยงโครงการ (Risk management) เป็นการกาหนดปัจจัยเสี่ยง การวิเคราะห์วามเสี่ยง การวางแผนความเสี่ยง การ
ติดตามความเสี่ยงและการแก้ปัญหาความเสี่ยงของโครงการ
9. การบริหารการจัดซื้อของโครงการ (Procurement management) เป็นกระบวนการจัดซื้ออุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การว่าจ้าง
โดยมีการทาสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง มีกระบวนการในการจัดซื้อจัดจ้าง ได้แก่ การวางแผนจัดซื้อจัดจ้าง การดาเนินการจัดซื้อจัดจ้าง การทา
สัญญาและการยุติสัญญา
10.การบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder management) หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานโครงการ มีการกาหนดผู้ที่
เกี่ยวข้อง วางแผนจัดการการประสานงาน การนัดหมายให้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาโครงการ มีการสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน
ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถดาเนินงานโครงการต่อไปได้อย่างถูกต้อง