SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 301
พื้นฐานชีวิต 12
ผู้เรียบเรียงรุ่นหลัง65
19/08/2565
15.27น.
สารบัญ
คำศัพท์ที่ใช้ในดวงจีน 1
八字四柱 โป
๊ ยหยี่สี่เถียว (ตอนที่ 2)
92
การตั้งผังดวงจีน 145
กำรมรณกรรมของท่ำนหยำงกง 188
หมู่บ้ำนฮวงจุ้ย ซำนเหลียวชุน 206
จะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อควำมเอียงของแกนหมุนของโลกกำลัง
ลดลง
214
ตาราฝังเข็มฉบับสมบูรณ์ (針灸學)
ภาคทฤษฎี
บทที่ 4 ห ้าอวัยวะอิน (ตอนที่ 7) ไต
244
253
ทบทวน
หัวข ้อตามวิชาจีนโบราณ
(ตามความเข ้าใจของผู้เรียบเรียงฯ)
หยิน-หยำง
5ธาตุจีน
ฤดูกาล
ฟ้า
คน
ดิน
ปฏิกิริยำ5ธำตุกับดิถี
ปฏิกิริยานักษัตรกับดิถี
ปฏิกิริยาระหว่างนักษัตร
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
ลักษณะการผันแปร 1
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
ลักษณะการผันแปร 2
ลักษณะการผันแปร 3
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
https://bit.ly/3jQPFXA
ควำมสำมำรถของหน้ำที่ขึ้นกับ
อวัยวะตันที่สร้ำง
https://bit.ly/3jQPFXA
https://www.blockdit.com/posts/5d56d174a2e8811941ba9d78
อารมณ์สะท ้อนภาวะจิตใจของ
คนเรา
อารมณ์ 5
ธาตุ
ครุ่นคิด
เศร ้าวิตก
กลัว
โกรธ
ดีใจตกใจ
ทฤษฎีปัญจธาตุ
แผนผังสี่สัตว์เทพ
N
ทิศทาง方 ฮึง
• ธาตุไม ้木 ทิศตะวันออก 東方 ตังฮึง
ธาตุทอง 金 ทิศตะวันตก 西方 ไซ
ฮึง
ดอกไม ้เริ่มบาน
ดอกไม ้เริ่ม
หุบ
ธาตุไฟ 火 ทิศใต ้南方 นั้มฮึง
ดอกไม ้
บานเต็มที่
ธาตุน้า 水 ทิศเหนือ 北方 ปักฮึง
ฤดูกาลจีนทั้ง ๔
ฤดูร ้อน
จาแนกพลังตามลักษณะของการ
ทางาน
๑. พลังงานศักย์ (Potential Energy)
เป็นพลังงานที่เกิดขึ้น
เมื่อวัตถุถูกวางอยู่ในตาแหน่งที่สามารถเคลื่อนที่ได ้
ไม่ว่าจากแรงโน้มถ่วง
หรือแรงดึงดูดจำกแม่เหล็ก
เช่น ก ้อนหินที่วางอยู่บนขอบที่สูง
๒. พลังงานจลน์ (Kinetic Energy)
เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่
เช่น รถที่กาลังวิ่ง ธนูที่พุ่งออกจากแหล่ง
จักรยานที่กาลังเคลื่อนที่ เป็นต ้น
๓. พลังงานสะสม (Stored Energy)
เป็นพลังงานที่เก็บสะสมในวัสดุหรือสิ่งของต่างๆ
เช่น พลังงานเคมีที่เก็บสะสมไว ้ในอาหาร
ในก ้อนถ่านหิน น้ามัน หรือไม ้ฟืน
ซึ่งพลังงานดังกล่าว
จะถูกเก็บไว ้ในรูปขององค์ประกอบทางเคมีหรือของ
วัสดุหรือ สิ่งของนั้น ๆ
และจะถูกปล่อยออกมา
เมื่อวัสดุหรือสิ่งของดังกล่าวมีการเปลี่ยนรูป
เช่น การเผาไม ้ฟืนจะให ้พลังงานความร ้อน
ลักษณะอาการของพลัง องค์ประกอบข ้างในพลังมีดังนี้
๑. ถูกผลัก (ชง)
๒. ถูกดึง (ฮะ)
๓. ระเบิด ปะทะ เสียดสี (เฮ ้ง, ไห่, ผัวะ)
๔. กดดัน (คัก/ขัก/เก๋อ)
ฤดูใบไม ้ผลิ
ฤดูร ้อน
ฤดูใบไม ้ร่วง
ฤดูหนาว
3 หมวด 5 ธาตุ (12 นักษัตร)
พลังงำน หมวด นักษัตรจีน นักษัตรไทย
ศักย์ ความรัก,ของสวยงาม (แม่
ธาตุ)
子 午 卯 酉 ชวด มะเมีย เถาะ ระกา
จลน์ อานาจ (พาหะ) 寅 申 巳 亥 ขาล วอก มะเส็ง กุน
สะสม เงินทอง (คลังขุมทรัพย์) 辰 戌 丑 未 มะโรง จอ ฉลู มะแม
หญิงหงาย ชายคว่า
ฤดูกาล
เบ ้า (กระต่าย) นักษัตรเถาะธาตุไม ้เล็ก
กระต่ายคบกับหมา (ฮะ)
หมาก็คบกระต่าย (ผลประโยชน์
ร่วมกัน)
ชง - ฮะ
ไม ้
น้า
ฮะ
ฮะ
ช
ง
ช
ง
พาหะ ชงกัน
โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งใน 10 รอบอำยุ
ปี เกิดที่มีผลกระทบโดยตรงในปี
พ.ศ.2565 นี้ คือ
1. ท่านที่มีอายุ 93 ปี เกิดปี พ.ศ.2472 己巳 (ปี
มะเส็ง ราศีบนธาตุดิน)
2. ท่านที่มีอายุ 84 ปี เกิดปี พ.ศ.2481 戊寅 (ปี
ขาล ราศีบนธาตุดิน)
3. ท่านที่มีอายุ 75 ปี เกิดปี พ.ศ.2490 丁亥 (ปีกุน
ราศีบนธาตุไฟ)
4. ท่านที่มีอายุ 66 ปี เกิดปี พ.ศ.2499 丙申 (ปี
วอก ราศีบนธาตุไฟ)
5. ท่านที่มีอายุ 60 ปี เกิดปี พ.ศ.2505 壬寅 (ปี
ขาล ราศีบนธาตุน้า)
6. ท่านที่มีอายุ 51 ปี เกิดปี พ.ศ.2514 辛亥 (ปี
กุน ราศีบนธาตุทอง)
7. ท่านที่มีอายุ 42 ปี เกิดปี พ.ศ.2523 庚申 (ปี
วอก ราศีบนธาตุทอง)
8. ท่านที่มีอายุ 33 ปี เกิดปี พ.ศ.2532 己巳 (ปี
มะเส็ง ราศีบนธาตุดิน)
9. ท่านที่มีอายุ 24 ปี เกิดปี พ.ศ.2541 戊寅 (ปี
ขาล ราศีบนธาตุดิน)
10. ท่านที่มีอายุ 15 ปี เกิดปี พ.ศ.2550 丁亥 (ปี
กุน ราศีบนธาตุไฟ)
ย่อมจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ 4
นักษัตรดังต่อไปนี้
• เกิดปีวอก“申”(ซิม)
จะปะทะหรือ“沖”(ชง)
กับปีจรขาล“寅”(เอี๊ยง) โดยตรง
ส่งผลให ้ได ้รับบาปเคราะห์เต็มๆ
หากชะตาตก อาจถึงแก่ชีวิต
มีเกณฑ์ประสบอุบัติเหตุได ้รับบาดเจ็บ ถึงเลือดตก
ยางออก
ร่างกายจะเจ็บป่ วย ถูกคนปองร ้าย
จิตใจว ้าวุ่น กลุ้มวุ่นวาย
ธุรกิจมีอุปสรรค
เกิดปีขาล“寅”(เอี๊ยง)
จะทับซ ้อนหรือ“壓”(เอี๊ยบ)
กับปีจรขาล“寅”(เอี๊ยง)
• มีเกณฑ์เกิดเหตุประสบเภทภัย
จึงไม่ควรเดินทางไกล
มีโอกาสได ้ทุกขลาภ เสียทรัพย์ เงินทองรั่วไหล
เพื่อนฝูงคนสนิทจะเอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนให ้
เดือดร ้อน
อีกทั้งตัวเราเอง
จะสร ้างปัญหาให ้วุ่นวาย
เกิดปีกุน“亥”(ไห)
จะแตกหักหรือ“破”(ผั่ว)
กับปีจรขาล“寅”(เอี๊ยง)
• ส่งผลให ้มีแต่คนคอยกลั่นแกล ้ง
จนเกิดการแตกหัก
ทาให ้ชีวิต
พบแต่เรื่องวุ่นวายราคาญใจ
• อยู่ท่ามกลาง “ความขัดแย ้ง”
ปีมะเส็ง“巳”(จี้)
จะให ้ร ้ายหรือ“害”(ไห่)
กับปีจรขาล“寅”(เอี๊ยง)
• ระวังจะถูกคู่ศัตรูแทงหลัง
ส่งผลให ้ความมั่นคงในชีวิต
เริ่มมีความเปราะบางเพิ่มขึ้น
• ทะเลาะกับเพื่อนของศัตรู
ไตรภาคี (ครึ่งไตรภาคี)
http://tiantek.blogspot.com/p/blog-page_22.html
เดือนจีน
http://tiantek.blogspot.com/p/60-5-30.html
เดือน มกราคม – นักษัตร ฉลู
ม
ค.
เซียนเทียนปากว ้า (先天八卦)
และโฮ่วเทียนปากว ้า (后天八卦)
https://www.facebook.com/udeeland/posts/650998372005210/
แผนภูมิกาเนิดปากว ้า
ที่มา เครื่องหมาย และชื่อเรียก
ธาตุดิน 土 อยู่ศูนย์กลาง
ถิ่นที่เกิด 戊 己
ดาวเคราะห์ทุกดวงมีแกนเอียงต่าง
ๆ กัน
• ดาวเคราะห์ที่มีแกนเอียงคล ้ายโลกที่สุดคือ ดาว
อังคาร
ซึ่งมีแกนหมุนเอียง
จากแนวดิ่งของระนาบทางโคจรรอบดวงอาทิตย์
เป็นมุมประมาณ 25 องศา
http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/223/
http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/223/
มุมนี้จะลงไปต่าสุดที่ 22.6° ในอีก
10,200 ปี
ปัจจุบัน ε มีค่าประมาณ 23° 26′
23° 26′ 22.6°
ในระยะยาว
อีกประมาณ 12,000 ปีจากปัจจุบัน
• ขั้วโลกเหนือ
หันเข้ำหาดวงอาทิตย์ในเดือนธันวาคม
และหันออกในเดือนมิถุนายน
ดังนั้นฤดูกาลจึงกลับกันกับในปัจจุบัน
คือซีกโลกเหนือ เป็นฤดูร ้อนในเดือนธันวาคม
และเป็นฤดูหนาวในเดือนมิถุนายน
ปรำกฏกำรณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
เพรำะกำรส่ำยของแกนหมุนของโลก
รอบละ 25,800 ปี
องค์จักรพรรดิ อยู่ ณ ศูนย์กลาง
ของจักรวาล
ผังสี่เหลี่ยม จักรพรรดิและ
จักรวำล
• ชาวจีน
เชื่อว่าพระราชวังต ้องห ้าม
เป็นจุดที่อยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง
มีรูปลักษณ์เป็นสี่เหลี่ยม
ตามความเชื่อโบราณที่ว่า
“โลก มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม
ขณะที่สวรรค์ มีลักษณะเป็นวงกลม”
ผังก่อนฟ้า
ซึ่งสังเกต
ความแตกต่างจากการก่อสร ้าง
• สถานที่สาคัญของปักกิ่ง สองแห่ง
คือ เทียนถำน
(สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง)
มีรูปลักษณ์เป็นทรงกลม
และมีหลังคาเป็นสีฟ้าคราม
เทียนถาน
พระรำชวังต้องห้ำม (FORBIDDEN
CITY)
ขณะที่ พระราชวังต ้องห ้าม
• จะมีลักษณะของพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยม
และมีหลังคาเป็นสีเหลือง
คล ้ายกับสีของดิน
เป็นสัญลักษณ์
ระบุถึงความเชื่อว่า
องค์จักรพรรดิ อยู่ ณ ศูนย์กลางของจักรวาล
ผืนดินทั้งหมดในโลกนั้น เป็นของพระองค์
และผู้คนภายใต ้ท ้องฟ้า ก็เป็นสมบัติของพระองค์
ภูมิสถำปัตย์และหลักฮวงจุ้ย
โบรำณ
• การออกแบบและก่อสร ้างพระราชวังแห่งนี้
เป็นไปตามหลักฮวงจุ้ยของจีนโบราณ
นอกจากจะหันหน้า
ไปตามหลักฮวงจุ้ยของจีนโบรำณ
• นอกจากจะหันหน้าไปทางทิศใต ้
รับเอากระแสลมอุ่น
และหันหลังให ้กับทิศเหนือ
หันใต ้ แบบอุดมคติ
ในส่วนของด ้านหลังเป็นภูเขาจิ่ง
ซาน
• ที่ช่วยบังกระแสลมเย็นในฤดูหนาว
และยังเป็นไปตามหลักที่ว่า
“ที่ทางานอยู่ด ้านหน้า ที่พักอาศัยอยู่ด ้านหลัง
บรรพชนอยู่ทางซ ้าย และเทพอยู่ทางขวา”
ขณะที่อาคารด ้านหน้า
ทาเป็นสถานที่ให ้จักรพรรดิออกว่าราชการ
ให ้ข ้าราชบริพารเข ้าเฝ้า
• ส่วนด ้านหลัง
เปรียบเสมือนบ ้านของจักรพรรดิ
และเป็นที่อยู่พระมเหสี นางสนม ขันที และหญิงรับใช ้
สีเหลือง และสีแดง
สาหรับทางซ ้าย
เป็นวัดบรรพชน
• ที่ปัจจุบัน
ถูกดัดแปลงให ้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
• ทางขวา
เป็นแท่นบูชาเทพเจ ้าผืนดินและการเพาะปลูก
ซึ่งปัจจุบันนั้น
เรียกว่า เซ่อจี้ถำน
อันเป็นส่วนหนึ่งของสวนสำธำรณะจงซาน
โฮ่วเทียนปากว ้า (后天八卦)
ผังหลังฟ้า กับ บุคคล
ปา กว ้า - ซวิ่น
ฤดูกาลจีนทั้ง ๔
ฤดูกาลจีน
ทั้ง ๔
ไตรทิศไม ้(ซาหวย)
• ราศีล่างไม ้寅 เป็น ไม ้พลังหยาง ในฤดูกาลไม ้
ดังนั้นไม ้กะ 甲 ที่แฝงจึงเป็นพลังแท ้正气
• ไม ้卯 มี ไม ้อิก 乙 พลังหยิน เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ดินซิ้ง 辰 มี ดินโบ่ว 戊 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
ไตรทิศไฟ (ซาหวย)
• ไฟจี๋ 巳 มีไฟเปี้ย 丙 เป็นไฟหยางในฤดูกาลไฟ
ไฟเปี้ยจึงเป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ไฟโง่ว 午 มีไฟเต็ง 丁 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ดินบี่ 未 มีดินกี้ 己 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
ไตรทิศทอง (ซาหวย)
• ทองซิม 申 มีทองแก 庚 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ทองอิ้ว 酉 มีทองซิง 辛 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ดินสุก 戌 มีดินโบ่ว 戊 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
ไตรทิศน้า (ซาหวย)
• น้าไห 亥 มีน้ายิ้ม 壬 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• น้าจื้อ 子 มีน้ากุ่ย 癸 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ดินทิ่ว 丑 มีดินกี้ 己 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
กิ่งฟ้า - ราศีบน
ราศีบน
http://tiantek.blogspot.com/p/blog-page_22.html
ภาคีราศีบน
http://tiantek.blogspot.com/p/blog-page_22.html
ข ้อสังเกต
• ในแต่ละคู่จะเป็นธาตุที่พิฆาตกัน
ตัวหนึ่งจะเป็นพลัง เอี๊ยง และอีกตัวหนึ่งจะเป็น พลัง
อิม
อาจเรียกว่า เป็นคู่ ”พิฆาตต่างพลัง”
• ผลจากการรวมธาตุในแต่ละคู่
เราจะไม่สนใจว่า ธาตุใหม่ นั้นเป็น อิม หรือ เอี๊ยง
1,2
3,4
5,6
7,8
9,10
+ =
+ =
+ =
+ =
+ =
1+
2-
3+
4-
5+
6-
7+
8-
9+
10-
ดิ
น
ท
อง
น้า
ไม ้
ภาคีราศี
บน
五行 อู่ สิง - เบญจคุณะ
5 ธาตุใน
อายุรเวท
พลัง(ธาตุ)ทั้ง 5 ในแพทย์จีน
เตชะ - ธาตุ
ไฟ
ไฟ-ร ้อน,อุ่น,พุ่งไปข ้างบน,โชติช่วง
ชละ - ธาตุ
น้า
น้า-น้าคือการลื่นไหล,ความชื้น,
ไหลลงต่า,เหน็บหนาว,กักเก็บซ่อนไว ้
ปฐวี - ธาตุ
ดิน
ดิน-การเกิดและการแปรสภาพ, เกาะติด,
รับและเก็บเอาไว ้,ความชื้น
วายุ - ธาตุลม ไม ้-การเกิดขึ้นในแนวเส ้นตรง ,แสดงถึงการ
เติบโต ,
การลอยขึ้นไป,การพองออก ขยายออก ,
ความสุข ปลอดโปร่งโล่งสบาย, ลมในร่างกาย
อากาส - ทอง-การแปรสภาพ,
https://www.blockdit.com/posts/5d86b13bf1f1db0cd4587b19?id=5d86b13bf1f1db0cd4587b19&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378
五行 อู่ สิง - เบญจคุณะ
หลักธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ
• ทุกๆปี
ตามความเชื่อทางด ้านโหราศาสตร์จีนโบราณ
จะทาการฝากดวงชะตาต่อองค์เทพเจ ้า 太歲爺 (ไท ้
ส่วยเอี๊ย)
ผู้ซึ่งคุ้มครองดวงชะตา
ประจาในแต่ละปีจร
จะสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน
ลงมายังโลกมนุษย์
ภูมิสวรรค์ (60กะจื้อ)
โดยจะมี 60 องค์เทพเจ ้า 太歲爺
(ไท ้ส่วยเอี๊ย)
• ตามหลักวัฎจักรวงจร 六十甲子 (หลักจับกะจื้อ)
ประจาในแต่ละปี
จนครบ 1 รอบ 60 ปี
คาศัพท์ที่ใช ้ในดวงจีน 1
八字四柱 โป๊ ยหยี่สี่เถียว (ตอนที่
2)
หญิงหงาย ชายคว่า
ดาว 10 จับซิ้ง
การตั้งดวงชะตาตามวัน
• เดือน ปี เวลาเกิด รวมทั้งวัยจร และปีจร
กาหนดมาจากปฏิทินจีน 六十甲子 หลักจั๊บกะจื้อ
ที่เกิดจากการนาตัวอักษรของราศีบน 天干 10 ตัว
และราศีล่าง 地支 12 ตัว
มาจับคู่กัน
จะได ้ชื่อเรียกที่ไม่ซ้ากันถึง 60 คู่
https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/pfbid02yvre4AMVLjtCWHGab3Xh7xsPf7oqQNVNfwcmn6Zy4ZDcQnFPq7MDTjWznzyWdTcGl
六十甲子 หลักจั๊บกะจื้อ
การเรียงอักษรฟ้าดินแต่ละคู่
จะเรียงตามลาดับการก่อเกิดของห ้า
ธาตุหยินหยาง หมุนเวียนแปรเปลี่ยน
ไปตามกาลเวลา รอบละ 60 ปี
ดวงจีนประกอบด ้วย ราศีบนและ
ราศีล่าง
• มีความสัมพันธ์เสมือนฟ้าคู่กับดิน หยินคู่กับหยาง
รวมเป็น 4 คู่กะจื้อ
• แทนค่าปี เดือน วันและเวลาเกิด จานวน 8 ตัวอักษร 4
แถว
八字四柱 โป๊ ยหยี่สี่เถียว
1.ราศีบน 十天干 เทียงกัง
มีอักษร 10 ตัวได ้แก่
• 甲 乙 丙 丁 戊 己 庚 辛 壬 癸
• กะ อิก เปี้ย เต็ง โบ่ว กี้ แก ซิง ยิ้ม กุ่ย
1,2
3,4
5,6
7,8
9,10
ราศีบน-ราศีฟ้า-กิ่งฟ้า-เทียงกัง
https://medium.com/@QiMenAlchemy/bazi-8-palace-62a02bb9a063
ราศีบน天干 เทียงกัง
มีค่าเป็น พลังหยาง
• ต้นเรื่องกำหนดจำกรำศีบน
หมายถึง การขยับ กระทาการ
การเคลื่อนไหวแสดงบทบาทของเจ้าชะตา
มองเห็นเด่นชัด มีผลทันที ต่อเนื่อง
โดยมี รำศีบนหลักวัน เป็น ตัวแทนของดิถี
2.ราศีล่าง 十二地支 ตี่จี
มีอักษร 12 ตัวได ้แก่
• 子 丑 寅 卯 辰 巳 午 未 申 酉 戌 亥
• จื้อ ทิ่ว เอี้ยง เบ ้า ซิ้ง จี๋ โง่ว บี่ ซิม อิ้ว สุก ไห
ราศีล่าง地支 ตี่จี
เป็นภาคสนับสนุน
• มีราศีแฝงที่นิ่งสงบ รอเวลาใช ้ปรากฏได ้ยาก เห็นได ้
ช ้า
จึงมีค่าเป็น พลังหยิน
• เป็นฐานกาลังของราศีบน
ตัวแทนอุปนิสัย พฤติกรรมของดิถี
• เป็นสัญญลักษณ์ของกาลเวลา , เป็นฤดูกาล , และปี
นักษัตร
" ฟ้าทาให ้เกิดเหตุการณ์ ดินทาให ้
เกิดเรื่องราว "
https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/pfbid02yvre4AMVLjtCWHGab3Xh7xsPf7oqQNVNfwcmn6Zy4ZDcQnFPq7MDTjWznzyWdTcGl
จิตใต ้สานึกที่คอยสนับสนุน
ผลักดันดวงชะตา
3.ราศีแฝง 暗藏 อ้าชั้ง
• เป็นพลังแฝงของราศีบน
ที่ซ่อนอยู่ในราศีล่าง
• เป็นนิสัยแท ้จริงที่ดิถีซ่อนอยู่ มองไม่เห็น
• เป็นจิตใต ้สานึกที่คอยสนับสนุน ผลักดันดวงชะตา
หาก ราศีแฝง
ถูกกระตุ้นจากธาตุที่จรเข ้ามากระทบ
ธาตุที่ซ่อนอยู่ จะปรากฏออกมาใช ้งาน
https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/pfbid02yvre4AMVLjtCWHGab3Xh7xsPf7oqQNVNfwcmn6Zy4ZDcQnFPq7MDTjWznzyWdTcGl
ราศีแฝง暗藏
ประกอบด ้วยพลังปราณ 3 ส่วนคือ
(ก.) พลังปราณที่เหลือ 馀气 (อื่อขี่) มาจากเดือนก่อน
จะนับจากวันเปลี่ยนสารทใหญ่
ฤดูกาลจีน
ทั้ง ๔
ไตรทิศไม ้(ซาหวย)
• ราศีล่างไม ้寅 เป็น ไม ้พลังหยาง ในฤดูกาลไม ้
ดังนั้นไม ้กะ 甲 ที่แฝงจึงเป็นพลังแท ้正气
• ไม ้卯 มี ไม ้อิก 乙 พลังหยิน เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ดินซิ้ง 辰 มี ดินโบ่ว 戊 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
ไตรทิศไฟ (ซาหวย)
• ไฟจี๋ 巳 มีไฟเปี้ย 丙 เป็นไฟหยางในฤดูกาลไฟ
ไฟเปี้ยจึงเป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ไฟโง่ว 午 มีไฟเต็ง 丁 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ดินบี่ 未 มีดินกี้ 己 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
ไตรทิศทอง (ซาหวย)
• ทองซิม 申 มีทองแก 庚 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ทองอิ้ว 酉 มีทองซิง 辛 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ดินสุก 戌 มีดินโบ่ว 戊 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
ไตรทิศน้า (ซาหวย)
• น้าไห 亥 มีน้ายิ้ม 壬 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• น้าจื้อ 子 มีน้ากุ่ย 癸 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
• ดินทิ่ว 丑 มีดินกี้ 己 เป็นราศีแฝงพลังแท ้
ธาตุไฟโง่ว 午
ต ้นเดือนมิถุนายน
• อยู่กึ่งกลางทิศใต ้
ไฟเปี้ย 丙 มีกาลัง 10 วันแรก
ถัดมาดินกี้ 己 มีกาลัง 10 วัน
และปลายเดือน ไฟเต็ง 丁 มีกาลัง 11 วัน
ไตรภาคีไฟ
มีไฟ ย่อมมีดิน
ธาตุน้าไห 亥
ต ้นเดือนพฤศจิกายน
• ดินโบ่ว 戊 มีกาลัง 7 วันแรก
ถัดมาไม ้กะ 甲 มีกาลัง 7 วัน
และครึ่งเดือนหลังเข ้าสารทเล็ก
น้ายิ้ม 壬 มีกาลัง 16 วัน
น้าขุ่นใช ้การ
ต ้นเดือน ไห 亥
ปลายเดือน ไห
亥
กลางเดือน ไห
亥
ต ้นเดือน ไห 亥
ปลายเดือน ไห
亥
กลางเดือน ไห
亥
ต ้นเดือน โง่ว
午
ปลายเดือน โง่ว
午
กลางเดือน โง่ว
午
หมายเหตุ: เมื่อคานวณดวงจีนปาจื้อ “ตัวนึง เอาดิน
ต ้นเดือน ไห 亥
ปลายเดือน ไห
亥
กลางเดือน ไห
亥
(ข.) พลังกลาง 中气 ตงขี่
คานวณจากกลุ่มราศีไตรภาคี 三合
https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/pfbid02yvre4AMVLjtCWHGab3Xh7xsPf7oqQNVNfwcmn6Zy4ZDcQnFPq7MDTjWznzyWdTcGl
ซาฮะ
• พื้นดวงที่มีถ่อฮวยและเป็นไตรภาคี
และมีภำคีที่รำศีบน
จะเป็นคนปากหวาน เข ้ากับคนง่าย พูดเก่ง
มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข ้าม
ไตรภาคี (ครึ่งไตรภาคี)
http://tiantek.blogspot.com/p/blog-page_22.html
วงจรไฟฟ้า (อุดมคติ)
ต่อตรง
หรื
อ
(ค.) พลังแท ้ของราศีล่าง 正气 เจี่ย
ขี่
• จะนับจากครึ่งเดือนหลังเข ้าสารทเล็ก
เทียบจากฤดูกาล 三會
พลังแท ้
มีจานวนวันมากที่สุดในเดือน
https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/pfbid02yvre4AMVLjtCWHGab3Xh7xsPf7oqQNVNfwcmn6Zy4ZDcQnFPq7MDTjWznzyWdTcGl
ราศีบน 10 ตัว
ภาคีราศีบน
ภาคีราศีล่าง
การแบ่งกลุ่ม ราศีล่าง地支
แบ่งได ้เป็น 3 กลุ่มดังนี้
(ก.) กลุ่มพาหะ 四馬 สี่แบ ้
เกี่ยวกับการเดินทาง การเคลื่อนไหว
ใช ้พลังไปทาให ้เกิดการเปลี่ยนแปลง การพบปะผู้คน
คือราศี (นักษัตร) 寅巳申亥
เอี้ยง จี๋ ซิม ไห
https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/pfbid02yvre4AMVLjtCWHGab3Xh7xsPf7oqQNVNfwcmn6Zy4ZDcQnFPq7MDTjWznzyWdTcGl
ชง-ฮะ
ชง - ฮะ
ไม ้
น้า
ฮะ
ฮะ
ช
ง
ช
ง
พาหะ ชงกัน
(ข.) กลุ่มแม่ธาตุ 四正 สี่เจี่ย
เป็นศูนย์กลางของซาฮะ
• เป็นกลุ่มที่โดดเด่นในการประสานงาน
• มีจุดยืนที่มั่นคง ทางานใหญ่ ๆ เพื่อให ้เกิดผลสาเร็จ
คือราศี (นักษัตร) 子卯午酉
จื้อ เบ ้า โง่ว อิ้ว
https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/pfbid02yvre4AMVLjtCWHGab3Xh7xsPf7oqQNVNfwcmn6Zy4ZDcQnFPq7MDTjWznzyWdTcGl
ตัวอย่าง รูปดวง
เวลำเกิด
บน
ดิถี เดือนเกิด
บน
ปี เกิดบน
เวลำเกิด
ล่ำง
ลูก-บริวำร
วันเกิดล่ำง
คู่ครอง
เดือนเกิด
ล่ำง
เถ้ำแก่
ปี เกิดล่ำง
พ่อ-แม่
หมวดความรัก
การอ่านดวงหมวดความรัก
• หลักปีเกิดและหลักเดือนเกิด หมายถึงเรื่องส่วนรวม
หลักวันเกิดและหลักเวลาเกิด หมายถึงเรื่องส่วนตัว
จื้อ (ชวด) นักษัตรหนู ธาตุน้าเล็ก
หมายถึง อยู่ในหมวดของควำมรัก
(ควำมสุข, ควำมทุกข์)
พลังงำน หมวด นักษัตรจีน นักษัตรไทย
ศักย์ ความรัก,ของสวยงาม (แม่
ธาตุ)
子 午 卯 酉 ชวด มะเมีย เถาะ ระกา
จลน์ อานาจ (พาหะ) 寅 申 巳 亥 ขาล วอก มะเส็ง กุน
สะสม เงินทอง (คลังขุมทรัพย์) 辰 戌 丑 未 มะโรง จอ ฉลู มะแม
จื้อ (ชวด) นักษัตรหนู ธาตุน้าเล็ก
ชงกับ โง้ว (มะเมีย) นักษัตรม ้าธาตุไฟ
เล็ก
(ธาตุน้า ชนะ ธาตุไฟ)
ฤดูกาล
กลุ่มคลัง 四库 สี่โข่ว
• เป็นกลุ่มที่เก็บรักษา การสะสม ความต่อเนื่อง เป็น
คลัง
เช่นทาเอกสาร ทาบัญชี การเงิน สถิติ
คือราศี (นักษัตร) 丑辰未戌
ทิ่ว ซิ้ง บี่ สุก
https://www.facebook.com/Wattanaheng59/posts/pfbid02yvre4AMVLjtCWHGab3Xh7xsPf7oqQNVNfwcmn6Zy4ZDcQnFPq7MDTjWznzyWdTcGl
กลุ่มคลัง 四库 สี่โข่ว
กำรตั้งผังดวงจีน
• โดยปกติจะเรียงจากแถวขวามือไปซ ้ายมือ
หมายเหตุ: การคานวณใช ้หลักหญิง
http://tiantek.blogspot.com/p/blog-page_29.html
องค์ประกอบ
ใน 8 เรือนนั้น
• ด ้านบน จะเป็น 天干 (tiān gān, เทียน กาน) — กิ่งฟ้า,
ราศีบน; ด ้านล่างจะเป็น 地支 (dì zhī, ตี้ จือ) — ก ้าน
ดิน, ราศีล่าง;
นอกนั้นยังมี 藏干 (cáng gān, ฉัง
กาน) — กิ่งคลัง, ราศีแฝง; 藏
• สมัยโบราณ
จะหมายถึง การเก็บรักษาของมีค่าไว ้แอบ ๆ ลับ ๆ
ไม่ให ้ใครรู้
เช่น ท ้องพระคลัง, ห ้องลับ เป็นต ้น
ผมจึงตัดสินใจเรียกมันว่า กิ่งคลัง หละกันครับ
(นอกจากนี้ยังมีเหตุผลตามความหมายที่แท ้จริงของ
มันเอง
ซึ่งจะนาเสนอในโอกาสต่อไปครับ)
• https://medium.com/@QiMenAlchemy/bazi-8-palace-62a02bb9a063
แถวที่ 1 อ่านจากขวามือคือหลักปี
年柱 หนี่เถียว
หลักปี บนล่ำง
ด ้านบน หมายถึงมองเห็น
ถ ้ารวมกับปี ก็หมายถึง ไกล ๆ ที่หมองเห็นได ้
เช่น ถ ้าเปรียบเทียบกับสถานที่
• หลักปีบน → ไปเทียวต่างประเทศแบบสวยงาม
บันเทิง สนุกสนาน
ถ่ายรูปโชว์ลง Facebook
• หลักปีล่าง → ไปเทียวต่างประเทศเงียบ ๆ
เช่น ไป Spa ต่างประเทศ, ไปเทียวท ้องถิ่น, ไป
พักผ่อนปลีกวิเวก
ในสมัยโบราณ
• ผู้หญิงไม่ได้แสดงออก ไม่มีใครรู้ไม่มีใครพูดถึง ไม่มี
บทบาท
ไม่ออกไปข ้างนอกบ ้านมาก
ดังนั้น
ด ้านบน ก็จะหมายถึง ตระกูลฝ่ ายชาย
ด ้านล่าง คือ ตระกูลฝ่ ายหญิง
เป็นต ้น
แถวที่ 2 คือหลักเดือนเกิด 月柱
หง่วยเถียว
• หลักเดือน = นอกตัว ไม่ไกล ไม่ใกล ้มาก,
ไปบ่อย ๆ หรือสังคมรอบตัวเรา
• ถ ้าตามปกติก็จะแปลว่า พ่อแม่
เนื่องจาก ปกติสมัยก่อนสภาพสังคมเป็นแบบนั้น
และ คนจีนสมัยก่อน มักทางานกับพ่อแม่ ช่วยพ่อแม่
ทางาน
• https://medium.com/@QiMenAlchemy/bazi-8-palace-62a02bb9a063
แต่ปัจจุบัน
• เราก็จะหมายถึง เพื่อน, เพื่อนร่วมงาน
เนื่องจากปกติก็จะเจอหน้ากัน 8 ชม. ต่อวัน
และ 5 วันต่อสัปดาห์
บางคนเจอหน้าคนรัก, พ่อแม่ น้อยกว่าเจอเพื่อน
ร่วมงานอีก
แต่ก็เหมือนเดิมครับ → แล ้วแต่บุคคล
บางคนที่ทางานที่บ ้าน กับ พ่อแม่
วัน ๆ ก็เจอหน้าพ่อแม่ ไม่เจอเพื่อน
บางกรณี ก็จะหมายถึงพี่น้อง
ถ ้าเรามีอะไรทาร่วมกับพี่น้อง
ไปไหนมาไหนด ้วยกัน อยู่บ ้านเดียวกัน กินข ้าวด ้วยกัน
• ถ ้าเปรียบเทียบกับสถานที่
ก็เดาได ้ไม่ยากใช่ไหมครับว่า
คือ สถานที่ทางาน
หรือ สถานที่เราไปบ่อย ๆ
ถ ้าไปเที่ยวก็จัดว่าเป็นพวกห ้างแถวบ ้าน
หรือ ร ้านอาหารประจา
ฤดูกาล
นอกจากนี้
หลักเดือน ยังเป็นตัวแทนของฤดู
ซึ่งเป็นตัวกำหนด กำลัง (ควำมแข็ง/อ่อน)
ของตัวอื่น ๆ ในดวงเราอีกด ้วย
• จึงยังหมายถึง สภำพแวดล้อมที่เรำต้องเจอประจำ
หรือ กาหนดการดาเนินชีวิต
ซึ่งก็จะหมายถึงการเลี้ยงชีพ
หรือ อาชีพการงาน ธรุกิจที่ทา นั้นเอง
หลักเดือน เป็นตัวแทนของฤดู
หลักเดือนบนล่ำง
ด ้วยหลักการเดิม คือ ด้ำนบนคือสิ่งที่มองเห็น/หยาง/ที่
คนเข ้าใจ
ด้ำนล่ำงคือสิ่งที่มองไม่เห็น/หยิน/ที่เป็นจริง ๆ จะได ้
เป็น
• หลักเดือนบน → งานที่คนทั่วไปเข ้าใจว่าเราทา, ห ้าง
แถวบ ้านที่ไปบ่อย, สถานที่ ที่เราชอบถ่ายลง
Facebook, งานขาย, งานการตลาด, การเจรจา
• หลักเดือนล่าง → งานหลัก รายได ้หลักของเรา,
สถานที่เราไปทางานประจา, งานประจา, งานหลัก,
งานผลิต
ดิถี เปรียบเหมือนดวงอาทิตย์
แถวที่ 3 เป็นหลักดิถี หรือวันเกิด
เจ ้าชะตา
日柱 ยิกเถียว
หลักวัน = ตัวเราเอง
• ดังนั้น อะไรที่อยู่กับเราติดตัวประจา วันละหลายชม.
ก็จะหมายถึงหลักวัน
เช่น คู่ครอง บ ้านที่นอน เป็นต ้น
• ในวิชาโป๊ ยหยี่ ฐานวัน ถือเป็นจุดที่สาคัญที่สุดในดวง
ถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เป็ นตัวกำหนดชีวิต ของ
เจ้ำของดวงเลย
ถ ้ามีการชงที่ฐานวัน
อาจจะถึงขั้นชีวิตวิบัติ หาความเจริญในชีวิตได ้ยาก
หรือ ฆ่าตัวตายได ้
สมมติ ตัวอย่างการชงที่ฐานวัน
https://bit.ly/3Kabk8h
ฉลู ชง มะแม
https://www.mingli.info/bazi
ใช ้การอนุมานเวลาเกิด
จากเหตุการณ์
สมมติตัวอย่างการชงที่ฐานวัน
เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น ในช่วง
เวลา 01.15 น. ของคืนวัน
อังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.
2546
https://bit.ly/3Kabk8h
ใช ้การอนุมานเวลาเกิด
จากเหตุการณ์
ซึ่งก็เปรียบเทียบก็เหมือน
• ถ ้าคู่ครองเรา มีปัญหากับเรา
ได ้คู่ครองไม่ดี ชีวิตก็ถึงขั้นบัดซบ
หนักหน่อยก็ฆ่าตัวตาย
ดังที่เราจะเห็นได ้ว่า คนที่ฆ่าตัวตาย
สาเหตุหลักส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องความรัก
ทั้งนั้น
เรื่องเศรษฐกิจจะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้น
https://medium.com/@QiMenAlchemy/bazi-8-palace-62a02bb9a063
ชง ฐานคู่ครอง
ฐานวัน
แถวที่ 4 เป็นหลักยามหรือเวลาเกิด
时柱 ซี้เถียว
• หลักยาม = สิ่งที่อยู่ภายในตัวเรา, สิ่งที่เกิดมาจากเรา
โดยตรง,
สิ่งที่อยู่ภายใต ้การควบคุมของเรา → ซึ่งก็จะหมายถึง
ความคิด
→ เราคิดอย่างไร ก็เลี้ยงลูกแบบนั้น ปกครองลูกน้อง
แบบนั้น
→ ก็เลยหมายถึงลูก + ลูกน้องด ้วย
หลักยำม
หลักยำมบนล่ำง
ด ้วยหลักการเดียวกับหลักอื่น ๆ ก็จะได ้
• หลักยามบน → ลูกชำย, ลูกจ ้าง, บริวาร, นิสัยที่
แสดงออก
• หลักยามล่าง → ลูกสำว, ลูกในใส ้, หลาน, นิสัยที่
แท ้จริง, จิตใต ้สานึก
จิตใต ้สานึก
ธุรกิจ
• เมื่อนาหลักการของหยินหยาง และ ไท่จี๋ ดังที่ได ้
กล่าวไปข ้างต ้น
มาลองเปรียบเทียบกับธุรกิจ
ในแต่ละหลัก
เราก็จะสามารถกาหนดได ้เป็นตามรูป
• https://medium.com/@QiMenAlchemy/bazi-8-palace-62a02bb9a063
ในทานองเดียวกันแต่ละระดับ
(แถว)
ก็สามารถวิเคราะห์ได ้เป็น
ตัวอย่ำง
เราลองมายกตัวอย่าง การเอาไปใช ้งาน ให ้พอเห็นภาพ
ขึ้นครับ
สมมุติว่า มีคนถามว่า เค ้าทางานในธุรกิจไหนจะได ้เงิน
สมมุติว่า ดิถีเป็ น 癸 (น้ำกุ่ย)
ดังนั้น โชคลาภของเค ้า ต ้องเป็นไฟ 丙 (ไฟปิ่ง) หรือ
丁 (ไฟติง)
สมมุติว่า หลังจากดูตามดวงแล ้ว
พบว่า丙 (ไฟปิ่ง) อยู่ที่ กิ่งฟ้าหลักปี ตามรูป
น้ากุ่ย
ไฟปิ่ง
เราก็จะสามารถบอกได ้ว่า บุคคลนี้
เหมาะจะทางานกับ งานขาย + บริษัท
ใหญ่ หรือ งานตลาด + บริษัทข ้าม
ชาติ ฯลฯ เป็นต ้น
สรุป
• ถ ้าเข ้าใจหลักการและที่มา
ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับการนาไปประยุกต์เรื่องต่าง ๆ ตามที่
เราต ้องการ
โดยต ้องไม่ลืมว่า มันไม่ใช่หลักตายตัว เปลี่ยนแปลง
ได ้
• ขึ้นอยู่กับ คนผู้นั้น หรือ ขึ้นอยู่กับจุดอ้ำงอิง (ไท่จี๋ของ
เจ ้าของดวง)
เช่น หลักปี ปกติจะแปลว่าต่างประเทศ
ก็อาจจะเหมาะกับเฉพาะคนที่มีฐานะ
แต่คนทั่วไปอาจจะแปลแค่ต่างจังหวัด เป็นต ้น
(หรือแปลว่าเดินทางไกลไปเลย
https://medium.com/@QiMenAlchemy/bazi-8-palace-62a02bb9a063
ดาว 10 จับซิ้ง
• ประเภทเงิน → ก็อาจจะหมายถึง การเล่นหุ้นในตลาด
ต่างประเทศ
• การทาธุรกิจ → ก็อาจจะมายถึง สภาพตลาดที่
มองเห็นได ้ของธุรกิจ
• การศึกษา → ก็อาจจะหมายถึง ความรู้จาก
ต่างประเทศจากหนังสือ, ตารา
ซึ่งเมื่อนาไปผสม กับ หลักการอื่น ๆ (เช่น 十神 จับซิ้ง-
ดาว10)
ก็จะแปลความหมายได ้หลายหลายอีกมาก
ถ ้าเราเข ้าใจหลักการของ ไท่จี๋
หยินหยาง
ก็จะเข ้าใจที่ไป ที่มา ของวิชาอื่น ๆ อีกมาก
และสามารถนาไปประยุกต์ได ้เกือบทุกวิชา
• ขอให ้ทุกท่านจะได ้รับประโยชน์จากบทความนี้ครับ
• https://medium.com/@QiMenAlchemy/bazi-8-palace-62a02bb9a063
กำรมรณกรรมของท่ำนหยำงกง
ฮวงซุ้ยที่ท่านหยางกงคานวน
สถานที่ให ้ชาวบ ้าน
สืบเนื่องมาจาก
การหาตาแหน่ง โอรส สวรรค์ “天子地”
ให ้กับ พระเจ ้า หลู กวง โหว
• ต่อมาพระเจ ้า หลู กวง โหว 盧光稠
เกรงว่า คนอื่นๆจะได ้
ฮวงจุ้ยโอรสสวรรค์เหมือนกับตน
ก็เลยฆ่าท่านหยางกงเสีย
ในบันทึกของพงศาวดารของ
มณฑลกั้นโจว
• ได ้บันทึกเอาไว ้ว่า
“พระเจ ้า หลู กวงโหว
ได ้เชิญท่านหยางกง
มาหาตาแหน่งที่ดิน”โอรสสวรรค์”
ที่จะสร ้างฮวงซุ้ยให ้กับบิดา มารดาของตน
เพื่อตนจะได ้เป็นใหญ่ในแผ่นดินแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อได ้ตาแหน่งฮวงจุ้ย โอรส
สวรรค์ แล ้ว
ก็ย ้ายหลุมฝังศพ บิดามารดาไปฝังไว ้
•แล ้วถามท่าน หยางกง ว่า ฮวงจุ้ยโอรส
สวรรค์นี้
ยังมีที่อื่นอีกไหม
ท่านหยางกง
ตอบว่า “ยังมีอีก”
ท่านกล่าวอีกว่า
ทุกๆที่ล ้วนแบ่งออกเป็น 18 ทิศ
• หลู กวงโหว
จึงถามว่า”ทิศไหนเป็นทิศโอรสสวรรค์
ท่านจึงตอบว่า
“ทุกๆทิศล ้วนมีโอรสสวรรค์”
หลู กวง โหว
• เกรงว่าคนอื่นจะได ้ฮวงจุ้ยโอรสสวรรค์ไป
ก็เลยลอบวางยาพิษในสุราให ้ ท่านหยางกง ดื่ม
ท่านหยางกง
หลงดื่มเข ้าไปพิษกาเริบเสียชีวิต
ณ ปากน้าเอี้ยวโข่ว (ปากยา)
ก่อน หยางกง เสียชีวิต
เห็นว่า หลู กวง โหว ไม่มีคุณธรรม
หากปกครองบ ้านเมืองต่อไปประชาชนจะเดือดร ้อน
ก็เลยบอกลูกศิษย์ของท่านคือท่าน เจิงเหวินเชียน
ให ้ทาลายฮวงจุ้ย โอรสสวรรค์ นั้นเสีย
โดยให ้ขุดบ่อน้า
และใส่กังหันน้าที่ปำกน้ำ หมอเชอ 磨车湾
เพื่อทาลายชี่ของโอรสสวรรค์
• ท่าน เจิงเหวินเชียง สงสัย
จึงถามถึงเหตุผล
ท่านหยางกง
จึงตอบว่า บริเวณปากแม่น้าหมอเชอ
เป็นตาแหน่งแผ่นหลัง ของ หลู กวง โหว
และให ้ขุดบ่อน้า ก็เพื่อทาลายชี่ของโอรสสวรรค์
ลักษณะคลื่นของพลังทั้ง 5
ปา กว ้า
ตุ้ย ปาก ลิ้น ซ่างเจียว
หลี นัยตา หัวใจ
เจิ้น เท ้า ตับ ผม
ซวิ่น มือ ชี่
ขั่น หู เลือด ไต
เกิ้น จมูก นิ้วชี้ หลัง
คุน ท ้อง พุง
https://bit.ly/3Q3uVsI
เมื่อท่าน เจิงเหวินเชียน
ทาตามตามคาสั่งของท่าน หยาง
กง
• ไม่นาน
หลู กวง โหว
ก็เกิดอาหารปวดที่หลัง เป็นแผลลึกรุนแรง
จนทนความเจ็บปวดไม่ไหว
ก็เลยผูกคอตาย
ปา กว ้า - เกิ้น
• เกิ้น เป็นตัวแทนของ มือ
จาง่ายๆว่า กว ้านี้
คล ้ายลักษณะคนกาลังใช ้แขนสองข ้าง ดันพื้น
เพราะด ้านบนสุด เป็น หยางเหยา
สองเหยาล่าง เป็น ยินเหยา
ท่าน หยางกง
• ถึงแม ้ว่าจะไม่ได ้ถือกาเนิดในตระกูลที่มั่งคั่ง
แต่รับราชการด ้วยความซื่อสัตย์สุจริต
เห็นลาภยศสรรเสริญเป็นเพียงควันไฟที่ลอยผ่าน
มุ่งมั่นที่จะทางานด ้านภูมิพยากรณ์ด ้วยใจศรัทธา
ใช ้วิชาเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร ้บาบัดทุกข์ทางใจ
ให ้กับผู้คน
จนได ้รับความเคารพรักจากมหาชนทั้งหลาย
นอกจากนี้ท่านยังได ้แต่งคัมภีร์
เกี่ยวกับวิชาฮวงจุ้ยเอาไว ้มากมาย
• เช่น วิธีการหาชีพจรมังกร คัมภีร์เขย่ามังกร 《撼龍
經》、
คัมภีร์ซ่อนมังกร《疑龍經》、
คัมภีร์ความลึกซิ้งของวิชาฮวงจุ้ย《青囊奧語》、
คัมภีร์ฝังฮวงซุ้ย 24 วิธี《二十四砂葬法》、
คัมภีร์มังกร10คาถาม《疑龙十问》、
คัมภีร์บรรจุฮวงซุ้ย《葬法倒杖》、คัมภีร์หยกสวรรค์《
天玉經》、คัมภีร์ไม ้บรรทัดหยก《玉尺經》《文渊阁
四库全书》。และคัมภีร์อื่นๆอีกมากมาย
หมู่บ้ำนฮวงจุ้ย ซำนเหลียวชุน
หมู่บ ้านนี้ มีประชากรเพียง 4600
กว่าคน
แต่มีซินแสฮวงจุ้ยเลื่องชื่ออยู่ร ้อย
กว่าท่าน
ทางานด ้านฮวงจุ้ยและภูมิพยากรณ์อยู่ทั่วประเทศ
• โดยที่ท่าน หยางกง
ได ้เลือกหมู่บ ้านซานเหลียวชุน เป็นที่พานักอาศัย
ก็ด ้วยเห็นว่าตาแหน่งชัยภูมิแห่งนี้
มีรูปลักษณ์คล ้ายกับ “ปา-กว ้า” หรือยันต์แปดทิศ
เหมาะสาหรับทาการเผยแพร่และสืบทอดวิชาฮวงจุ้ย
ในระหว่างที่ท่านหยางกง
ได ้พักอาศัยอยู่ในหมู่บ ้านซานเหลียว
• ท่านก็ได ้ใช ้วิชาฮวงจุ้ย
ช่วยเหลือชาวบ ้าน ในการแก ้ไขฮวงจุ้ยที่อยู่อาศัย
และหาตาแหน่งฮวงซุ้ย
หรือหลุมฝังศพ
ให ้บรรพชนชาวซานเหลียว
ในช่วงเวลาที่ว่าง
ท่านก็ได ้เดินทางเยี่ยมชมทิวทัศน์เทือกเขาลาเนาไพร
ในมณฑลกั้นโจว
• และในหมู่บ ้านแห่งนี้
ท่านก็ได ้รับศิษย์ เพื่อถ่ายทอดวิชาฮวงจุ้ย
ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ถูกหวงแหนเก็บไว ้ในหอสมุดหลวง
ก็ได ้ถ่ายทอดลงมาสู่สาธารณะชน
เป็นครั้งแรก
โดยลูกศิษย์รุ่นแรกของท่าน
คือ ท่านเจิงเหวินเชียน 曾文辿
ท่านหลิวเจียงตง劉江東
ท่านหวงเมี่ยวอิง 黃妙應
ท่านลี่ป๋ อเซา厲伯紹
ท่านเย่ชี葉七 และท่านหลิวเหมี่ยว劉淼
• และนับจากนั้นมา
ศาสตร์ฮวงจุ้ยก็ได ้เผยแพร่ไปจนทั่วมณฑลกั้นโจว
ตอนใต้
และสืบทอดรุ่นต่อรุ่น
จนมาถึงทุกวันนี้.
ศาสตร์ฮวงจุ้ยของสานัก กั้นโจวใต ้
นี้
• สืบทอดทฤษฎีหลักของท่านหยางกง
ก็คือ เน้นรูปลักษณ์
และให ้ความสาคัญกับชีพจรมังกร
จนได ้ฉายาว่าเป็น ฮวงจุ้ยสานักรูปลักษณ์“山形派”
หรือ สานักกั้นโจวใต ้“贛南派
และท่านหยางกง
ก็ได ้รับการยกย่องว่าเป็น ปฐมบูรพาจารย์ของสานักนี้
ในการช่วยเหลือชาวเมืองกั้นโจว
• ด ้วยศาสตร์ฮวงจุ้ยของท่านหยางกง
จนทาให ้ศาสตร์นี้
ได ้รับการโจษขานกันไปทั่วมณฑลเจียงซี
อย่างรวดเร็ว
จะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อควำมเอียงของแกนหมุนของ
โลกกำลังลดลง
http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/223/
จะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อควำมเอียงของแกนหมุนของ
โลกกำลังลดลง
• แกนหมุนรอบตัวเองของโลก
เอียงจากแนวตั้งฉาก
ของระนาบทางโคจรรอบดวงอาทิตย์
เป็นมุม ε
• สันนิษฐานว่าเกิดขึ้น
เพราะดาวขนาดใหญ่เท่าดาวอังคาร
ชนโลก
จนทาให ้เกิดดวงจันทร์
ด ้วย ε มีค่าไม่คงที่
http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/223/
• เพราะแรงรบกวนจากภายนอก
โดยเฉพาะจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
ซึ่งทาให ้แกนโลก
ส่ายรอบละ 25,800 ปี
• ทั้งนี้เพราะโลกโป่ งออก
บริเวณแถบศูนย์สูตร
ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
จึงช่วยกันดึงให ้แกนโลกตั้งตรง
• นอกจากนี้
ยังมี แรงรบกวน
จากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ
ทาให ้วงโคจรของโลก
ส่ายรอบละ 71,000 ปี
https://pantip.com/topic/31134632
การส่ายของแกนหมุน
และการส่ายของวงโคจรของโลก
• คือสาเหตุที่ทาให ้ε มีคาบประมาณ 41,000 ปี
โดยมีค่าเฉลี่ย 23.3 องศา
ค่าต่าสุด 22.6 องศา
ค่าสูงสุด 24.2 องศา
ปัจจุบัน ε มีค่า 23.4 องศา
อยู่ในช่วงกาลังลดลงในอัตรา
0.475″ ต่อปี
• หากคิดเป็นระยะทางจะได ้14.7 เมตรต่อปี
หรือ 1.47 กิโลเมตรต่อศตวรรษ
• นั่นคือเส ้นที่แบ่งเขตร ้อน
กาลังเคลื่อนที่เข ้าหาเส้นศูนย์สูตรของโลกด ้วย
ความเร็วสูงอย่างไม่น่าเชื่อ 14.7
เมตรต่อปี
• สูงกว่า
อัตราการเลื่อนของเพลตเทคโทนิก
ซึ่งเลื่อนเพียงปีละ 13 เซนติเมตร
เป็นอย่างมาก
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/738
78
เมื่อเขตร ้อนลดลง
เขตหนาวก็ต ้องเพิ่มขึ้น
• นั่นคือแกนโลกเอียงลดลงกาลังพาโลกไปสู่ยุค
น้าแข็ง
และแกนโลกเอียงน้อยที่สุด 22.6 องศา
ในอีก 10,200 ปี
โลกไม่อยู่นิ่ง ๆ
http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/223/
โลกไม่อยู่นิ่ง ๆ
• แต่มีการเคลื่อนที่สาคัญ 2 ประการ
คือ หมุนรอบตัวเองรอบละ 1 วัน
และเคลื่อนรอบดวงอาทิตย์รอบละ 1 ปี
โดยพาดวงจันทร์ซึ่งเคลื่อนรอบโลกรอบละ 1 เดือน
ไปด ้วย
http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/223/
แกนที่โลกหมุนรอบ ไม่ตั้งฉาก
กับระนาบทางโคจรขอบโลกรอบ
ดวงอาทิตย์
• แต่เอียงจากแนวตั้งฉาก
เป็นมุมประมาณ 23.5 องศา
โลกจึงไม่อยู่โดดเดี่ยว
เพราะมีดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
อยู่ใกล ้ ๆ
• แม ้ว่าระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์
และระยะระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์
จะเปลี่ยนแปลงบ ้าง
แต่เปลี่ยนแปลงไม่มาก
ระยะห่างระหว่างดาวเคราะห์กับ
โลก
นอกจากนี้
ยังมีดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ที่โคจร
รอบดวงอาทิตย์
ระยะห่างระหว่างดาวเคราะห์กับโลก
เปลี่ยนแปลงค่อนข ้างมาก
• ดังนั้นจึงมีแรงโน้มถ่วงที่กระทาต่อโลก
ในสัดส่วนที่ค่อนข ้างมากตลอดเวลา
จากดวงจันทร ์และดวงอำทิตย์
• และแรงที่กระทำต่อโลก
ในสัดส่วนที่ค่อนข ้างน้อย
จากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ
ระยะห่างระหว่างดาวเคราะห์กับ
โลก
แรงโน้มถ่วงที่กระทาต่อโลกจาก
ดวงจันทร์
ดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ จึงไม่
คงที่
แรงเหล่านี้เอง
ที่ทาให ้ความเอียงของแกนหมุนของโลกเปลี่ยนแปลง
• โดยมีคาบของการเปลี่ยนแปลง
ประมาณ 41,000 ปี
ปัจจุบัน
ความเอียงของแกนหมุนของโลก
เท่ากับ 23 องศา 26 ลิปดา 11
พิลิปดา
• มุมนี้มีค่าน้อยลงเรื่อย ๆ
การลดลงหรือเพิ่มขึ้น
ของความเอียงของแกนหมุนของ
โลก
• ส่งผลกระทบมาถึง
ตาแหน่งของดวงอาทิตย์
ในวันที่อยู่เหนือสุด (21 มิถุนายน) และในวันที่อยู่ใต ้
สุด (22 ธันวาคม)
ปัจจุบัน ε มีค่าประมาณ 23° 26′
และกาลังอยู่ในช่วงลดลง
ด ้วยอัตราประมาณ 0.475″ ต่อปี
• มุมนี้จะลงไปต่าสุดที่ 22.6° ในอีก 10,200 ปี
• หลังจากนั้นจะเพิ่มขึ้นทีละน้อยอีกครั้งหนึ่ง
จนกระทั่งถึงค่าสูงสุด 24.2°
• ค่าสูงสุดนี้เกิดขึ้นมาแล ้วก่อนหน้าปัจจุบัน
ประมาณ 10,000 ปี
การเปลี่ยนแปลงของ ε
ในระยะเวลา 700,000 ปีที่ผ่านมา
ปรากฏดังรูป
ในเวลา 700,000 ปี ε
เปลี่ยนแปลงไป 17 รอบ
• ดังนั้น 1 รอบของการเปลี่ยน ε จะยาวนานประมาณ
41,000 ปี
ซึ่งเรียกว่า คำบของกำรเปลี่ยนแปลงของ ε
ค่าเฉลี่ยของ ε คือ 23.3°
• ในปัจจุบันโลกจึงอยู่ในจังหวะที่ ε ลดลงเข ้าใกล ้
ค่าเฉลี่ย
http://www.yclsakhon.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539364205
บทสรุป
• ความเอียงของแกนหมุนของโลก
เป็นสาเหตุสาคัญที่ทาให ้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ ขึ้นบน
โลก
• ความเอียงนี้ไม่คงที่
แต่เปลี่ยนแปลงเป็นรอบ ๆ
รอบละประมาณ 41,000 ปี
• สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง
เกิดจากการส่ายของแกนหมุนและการส่ายของวง
โคจรของโลก
• ปัจจุบันมุมเอียงของแกนโลกลดลง
ทาให ้เขตร ้อนลดลง
• เส ้นแบ่งเขตร ้อน
เคลื่อนที่เข ้าหาเส ้นศูนย์สูตร
ด ้วยความเร็วสูงอย่างไม่น่าเชื่อ 14.7 เมตรต่อปี
• เขตร ้อนลดลง เขตหนาวต ้องเพิ่มขึ้น
ดังนั้น
แกนโลกเอียงลดลง
กาลังพาโลกไปสู่ยุคน้าแข็ง
ตาราฝังเข็มฉบับสมบูรณ์ (針灸學)
ภาคทฤษฎี
บทที่ 4 ห ้าอวัยวะอิน (ตอนที่ 7)
ไต
• ไต มีตาแหน่งอยู่ที่เอวทั้งสองข ้าง
ดังนั้นจึงมีการกล่าวว่า “เอวเป็นเรือนแห่งไต”
• เส้นไตจะเชื่อมกับเส ้นกระเพาะปัสสาวะในลักษณะ
นอกใน (表裡)
เป็นธำตุน้ำ
https://www.blockdit.com/posts/5da654d2f5f84f5ec1682dca?series=5d7d9c0b39d2050
cb25c3378
• มีหน้าที่ในการเก็บสารจิง (主藏精)
• ควบคุมเรื่องการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ (主發育
與生殖)
• ดูแลน้า (主水液)
• ดูแลการรับลมปราณ (主納氣)
• ดูแลกระดูก (主骨) ให ้กาเนิดไขกระดูก (生髓)
เสริมสมอง (充腦)
• ความสมบูรณ์ปรากฏที่เส ้นผม (其華在發)
• มีทวารเปิดที่หู (開竅於耳)
และดูแลทวารทั้งสอง (二陰)
ความสมบูรณ์ปรากฏที่เส ้นผม (其
華在發)
ไต มีทวารเปิดที่หู (開竅於耳)
https://www.blockdit.com/posts/5da654d2f5f84f5ec1682dca?series=5d7d9c0b39d2050
cb25c3378
แม่น้ามีตลิ่งเหนือใต ้
ปา กว ้า - ขั่น
• ขั่น หมายถึงสายน้า หรือ ธาตุน้า
ธาตุน้าในร่างกายคนเราหมายถึง ไต และ หู
สองอวัยวะนี้มีความสัมพันธ์กัน
จากันง่ายๆว่า ลักษณะของ กว ้า นี้
เหยา ตรงกลาง เป็นหยาง
ขนาบ บนล่าง เป็น หยิน
เปรียบเหมือนความเคลื่อนไหวในที่สงบนิ่ง (ริมตลิ่ง)
ดังนั้น กว ้านี้จึงเปรียบได ้กับ ความฉลาดของธาตุน้า
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
แม่น้ามีตลิ่งเหนือใต ้
1.การเก็บสารจิง (主藏精)
• ควบคุมเรื่องการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ (主發育
與生殖)
สารจิง
เป็นสารพื้นฐานของร่างกายมนุษย์
• และก็เป็นสารพื้นฐานสาคัญ
ในการขับเคลื่อนการทางานต่าง ๆ ของร่างกาย
• สารจิงที่เก็บอยู่ที่ไต
จะประกอบด ้วยจิงที่มีมาแต่กาเนิด และจิงที่มีมาหลัง
กาเนิด
• จิง ที่มีมาแต่กาเนิด จะได ้รับจากบุพการี
ส่วนจิง ที่มีมาหลังกาเนิด จะได ้รับจากการทานอาหาร
สารจิงแต่กาเนิดและหลังกาเนิด
จะอยู่แบบอิงอาศัยซึ่งกันและกัน
จิ
งก่อน
กาเนิด
จิง
หลัง
กาเนิด
สารจิงแต่กาเนิดและหลังกาเนิด
จะอยู่แบบอิงอาศัยซึ่งกันและกัน
• ก่อนที่เรำจะกำเนิด
สารจิง ก่อนกาเนิด
จะเป็นเหมือนตัวตั้งต้นให ้กับ สารจิง หลังกาเนิด
และเมื่อเรำได้กำเนิดแล้ว
สารจิง หลังกาเนิด
ก็จะคอยเสริม สารจิง ก่อนกาเนิด
อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ไตมีความสามารถในการเสริมส่ง
ให ้ร่างกายเจริญเติบโต
ซึ่งทั้งหมดต ้องอาศัยสารจิง ที่เก็บซ่อนอยู่ในไตทั้งสิ้น
• ดังนั้นควำมเต็มเปี่ยมของสำรจิง
จึงเป็นปัจจัยสาคัญ
ในการกาหนดความสามารถในการเจริญเติบโตของ
ร่างกาย
คนเราตั้งแต่ยังเด็กยังเล็ก
สารจิงเริ่มค่อย ๆ บริบูรณ์
ในยามนั้น
จึงเริ่มมีผมและฟันค่อย ๆ งอกเงยออกมา
• กระทั่งเริ่มเข ้าสู่ วัยเจริญพันธุ์
สำรจิงในไต เปี่ยมล ้น
ผู้ชายก็จะเริ่มมีอสุจิ ส่วนผู้หญิงก็จะเริ่มมีประจาเดือน
ความสามารถในการสืบพันธุ์เริ่มเกิดขึ้น
ตราบกระทั่งเข ้าสู่วัยชรา
สารจิงในไต เริ่มโรยแรง
ความสามารถในการสืบพันธุ์ เริ่มอ่อนแรง
• รูปร่างลักษณะของร่างกาย
เริ่มเข ้าสู่ชราภาพ
ผิวหนังเส ้นขนผมเผ ้าต่าง ๆ เริ่มร่วงโรย
สิ่งเหล่านี้
จึงสะท ้อนว่า
สารจิง
มีความสาคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
• หาก กำรเก็บสำรจิงของไต มีปัญหา
แน่นอนว่า ย่อมจะกระทบ
ต่อกำรเจริญเติบโตที่เป็ นปกติของร่ำงกำย
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได ้
พลังจิง (精氣)
• จะประกอบด ้วย
หนึ่ง สารจิงของไต (腎精)
และสอง
พลังของไต (腎氣)
ที่ถูกแปรสภาพมาจากสารจิงของไต (腎精)
สารจิง
ของไต
พลัง
ของไต
ฯ
พลัง
จิง
(精氣)
พลังไต (腎氣)
ที่ถูกแปรสภาพมาจาก สารจิงของไต (
腎精)
มีกระบวนการที่เกิดจาก ไตอิน (腎陰)
ถูกอุ่นลอย (蒸化) จาก ไตหยาง (腎陽)
ไตอิน (腎陰)
ไตหยาง (腎陽)
สารจิงที่เก็บซ่อนไว ้ในไต
สารจิงของไต
โดยที่ ไตอิน (腎陰) และไตหยาง (
腎陽)
ต่างมี สำรพื้นฐำน
ที่มาจาก สารจิงที่เก็บซ่อนไว ้ในไต
• ดังนั้น
สำรจิงของไต
จึงประกอบด ้วยสองด ้าน
คือพลังอินของไต และพลังหยำงของไต
นั่นเอง
พลังไต (腎氣)
ไตอิน (腎陰)
ไตหยาง (腎陽)
สารจิงที่เก็บซ่อนไว ้ในไต
สารจิงของไต
พลังอิน
ของไต
พลังหยางของไต
ไตอิน
เป็นสำรเหลวที่อยู่ในไต
มีหน้าที่ในการหล่อเลี้ยงโครงสร ้างต่าง ๆ ภายในไต
• ส่วน ไตหยาง
คือพื้นฐำนของพลังหยำงของร่างกายมนุษย์ทั้งหมด
มีหน้าที่ในการผลักดัน
และอบอุ่น
อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
หากดูจากหลักการของ อินหยาง
แล ้ว
• จิง (精) คือ อิน
พลัง (氣) คือ หยาง
• ดังนั้น
จึงอาจเรียกได ้ว่า
สำรจิงของไต (腎精) ก็คือ ไต อิน
ส่วน พลังไต (腎氣) ก็คือ ไต หยำง
พลังไต
(腎氣)
สำรจิง
ของไต
(腎精)
ไต หยำง ไต อิน
ไตอินและไตหยาง
จะมีลักษณะของการดึงรั้งและอาศัยซึ่งกันและกัน
และจึงจะทาให ้เกิดความสมดุลของร่างกายขึ้น
ไตอิน
ไตหยาง
หาก ยามใดที่ความสมดุลนี้ถูก
ทาลาย
ก็จะทาให ้เกิดอาการผิดปกติ
ที่เกิดจากการเสียสมดุลทางอินหยางของไตขึ้น
• เป็นต ้นว่า หาก อินอ่อน หยำงแรง
ก็จะเกิดอาการอบร ้อนของห ้าใจ (五心煩熱)
อาการตัวร ้อนหลังเที่ยง (潮熱) และการมีเหงื่อหลัง
นอน (盜汗)
ฝันเปียกในชาย หรือการฝันว่าร่วมเพศในหญิง เป็น
ต ้น
ซึ่งอาการเหล่านี้
เกิดจากไตอินพร่อง
จนไม่สามารถคุม พลังหยางของไต นั่นเอง
ไตอินพร่อง พลังหยางของไต
แต่หากเป็นแบบ ไตหยางพร่อง
แล ้ว
• ก็จะเกิดอาการไร ้ชีวิตชีวา
เอวเข่าเหน็บปวด
ขี้หนาวและมีอาการแขนขาเย็น
หย่อนสมรรถภาพทางเพศในชาย
ไร ้บุตรและมดลูกเย็นในหญิง เป็นต ้น
• ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการที่ไตหยำง ไม่มีแรง
จึงขาดพลังในการอบอุ่นและผลักดัน
นั่นเอง
แต่สาหรับผู้ที่ไตพร่องแล ้ว
ยังไม่มีอาการหนาวเย็นอะไรเป็นที่
เด่นชัด
• โดยทั่วไป
จะเป็นเพราะ พลังไต ไม่พอ
หรือ สำรจิงในไต อ่อนแรง
นั่นเอง
2.ดูแลน้า (主水液)
กำรดูแลน้ำของร่ำงกำยของไต
โดยหลักแล ้ว
จะเกิดจากกระบวนกำรแปรสภำพ (氣化) ของไตเป็น
หลัก
• หาก พลังแห่งการแปรสภาพของไต มีความเป็นปกติ
การเปิดปิดของไต จึงจะมีความพอดี
น้าที่ได ้รับจากกระเพาะอาหาร
จะถูกลาเลียงจากม ้าม
และได ้รับการกระจายจากปอด
• น้ำส่วนที่เหลือก็จะลงไปที่ไต
กระเพาะ
อาหาร
• ม ้าม
• ปอด
ไต
หลังจากผ่านกระบวนการแปรสภาพจาก
ไตหยาง แล ้ว
ก็จะแบ่ง น้า ออกเป็น ขุ่นและใส
• ส่วนขุ่น
จะถูกขับลงสู่กระเพาะปัสสาวะ
แล ้วทาการขับถ่ายออกนอกร่างกายอีกที
• ในส่วนใส
ก็จะลอยขึ้นไปที่ปอด
แล ้วทาการกระจายไปทุกอวัยวะทั่วร่างกาย
หลังจากผ่านกระบวนการแปรสภาพจาก
ไตหยาง แล ้วก็จะแบ่ง น้า ออกเป็น ขุ่น
และใส
ไตห
ยาง
ขุ่น
ใส
ในกระบวนการทั้งหมดเหล่านี้
ล ้วนต ้องอาศัยการแปรสภาพของไต
ในการผลักดันให ้เกิดขึ้นทั้งหมด
• หาก พลังการแปรสภาพของไต
เกิดความผิดปกติ
การเปิดปิดของไต บกพร่อง
ยามนั้น
ก็จะเกิดอาการตัวบวมน้า
และปัสสาวะขัดข ้อง เกิดขึ้นได ้
3.ดูแลการรับลมปราณ (主納氣)
• การรับลมปราณของไต
หมายถึงว่า
ไต
มีความสามารถ
ในการช่วยให้ปอด
สูดลมหายใจลงล่างนั่นเอง
นั่นก็คือปอดดูแลเรื่องการหายใจ
แต่ไต
จะทาหน้าที่ในการรับลมปราณที่เกิดจาก
การหายใจนั้น
• ดังนั้นหาก พลังไตเปี่ยมล้น
กำรดึงรับ มีความเป็นปกติ
เช่นนี้
จึงจะทาให ้ช่องทางลมของปอด
มีความลื่นไหล
กำรหำยใจมีความสม่าเสมอ
แต่หาก พลังไต อ่อนแรง
จึงเสมือนว่ารากฐานคลอนแคลน
ไต จึงไร้แรงในการดึงรับ
• เมื่อนั้นก็จะเกิดอาการหายใจสั้นถี่ขึ้น
ซึ่งก็คือ หายใจเข้ำน้อย แต่หายใจออกเยอะ
โดยเฉพาะจะยิ่งมีอาการหนัก
เมื่อมีการเคลื่อนไหวนั่นเอง
โดยเฉพาะจะยิ่งมีอาการหนัก
เมื่อมี การเคลื่อนไหว นั่นเอง
4.ดูแลกระดูก (主骨)
ให ้กาเนิดไขกระดูก (生髓) เสริมสมอง (充
腦)
ความสมบูรณ์ปรากฏที่เส ้นผม (其華在發)
• ไตเป็นที่เก็บแห่งจิง
จิงให ้กาเนิดไขกระดูก
ไขกระดูก อยู่ในส่วนกลางของกระดูก
และกระดูกได ้รับการหล่อเลี้ยงจากไขกระดูก
https://www.trueplookpanya.com/blog/content/63566/-blo-scibio-sci-
ดังนั้น
เมื่อ พลังไต เปี่ยมล ้น
ไขกระดูก จึงสามารถก่อเกิดได ้อย่าง
ต่อเนื่อง
• กระดูก
เมื่อได ้รับการหล่อเลี้ยงจากไข
ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จึงจะทาให ้กระดูก
มีความแข็งแรง
ในส่วนของไข
จะประกอบด ้วย
ไขกระดูกและไขสันหลังสองส่วน
• ไขสันหลัง จะขึ้นสู่สมอง
สมองจึงเป็นที่รวมแห่งไขสันหลัง
ดังนั้น
ใน หลิงซู
จึงกล่าวว่า “สมองเป็นทะเลแห่งไขสันหลัง”
สารจิงและโลหิต
เป็นสิ่งที่ก่อเกิดซึ่งกันและกัน
• หาก จิง เปี่ยมล ้น
โลหิต ก็จะเหลือล ้น
จิง โลหิต
ในส่วนของเส ้นผมนั้น
เส ้นผม
จะมีส่วนสัมพันธ์
กับ โลหิต
จิง โลหิต เส ้นผม
ดังนั้นโบราณ
กล่าวว่า เส ้นผมเป็นส่วนเหลือของ
โลหิต
(發為血之餘)
• แม ้เส ้นผมจะมีต ้นกาเนิดมา
จากโลหิต
แต่โดยหลักนั้น
มีพื้นฐานมาจาก พลังไต
จิง โลหิต
เส ้นผม
ดังนั้นจึงกล่าวว่า
เส้นผมเป็ นส่วนเหลือของโลหิต
และไตมีควำมสมบูรณ์ปรำกฏที่เส้นผม
นั่นเอง
• ดังนั้นเส ้นผม
จะมีความเงางามหรือแห ้งกร ้าน
มีความแข็งแรงหรือหลุดร่วงง่าย
ก็ล ้วนมีความเกี่ยวข ้องกับควำมสมบูรณ์ของไต
ทั้งสิ้น
5.มีทวารเปิดที่หู (開竅於耳)
และดูแลทวารทั้งสอง (二陰)
• หูที่ดูแลเรื่องของกำรฟัง
โดยหลักแล ้ว
จะต ้องอาศัยการหล่อเลี้ยงจาก พลังจิง
ของไต
• หาก สารจิงในไต เปี่ยมล ้น
ความสามารถในการฟัง ก็
จะชัดเจน
• หาก สารจิงในไต พร่อง
ขาด
ยามนั้น
ก็จะเกิดอาการหูอื้อ
หรือความสามารถในการฟัง
เสื่อมถอยลง
สองทวาร ที่กล่าวถึงนี้
หมายถึง ทวารหนักและทวารเบา
• ทวารหนัก
หมายถึง รูก ้นที่ถ่ายอุจจาระ
ส่วน ทวารเบา
จะหมายรวมถึงอวัยวะที่ขับถ่าย
ปัสสาวะ
และระบบการสืบพันธุ์
พื้นฐานชีวิต 12.pptx
พื้นฐานชีวิต 12.pptx
พื้นฐานชีวิต 12.pptx

Más contenido relacionado

Similar a พื้นฐานชีวิต 12.pptx

Similar a พื้นฐานชีวิต 12.pptx (9)

พื้นฐานชีวิต 3.pptx
พื้นฐานชีวิต 3.pptxพื้นฐานชีวิต 3.pptx
พื้นฐานชีวิต 3.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 2.pptx
พื้นฐานชีวิต 2.pptxพื้นฐานชีวิต 2.pptx
พื้นฐานชีวิต 2.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 45.pptx
พื้นฐานชีวิต 45.pptxพื้นฐานชีวิต 45.pptx
พื้นฐานชีวิต 45.pptx
 
ฤกษ์งาม+ย..[1]
ฤกษ์งาม+ย..[1]ฤกษ์งาม+ย..[1]
ฤกษ์งาม+ย..[1]
 
พื้นฐานชีวิต 36.pptx
พื้นฐานชีวิต 36.pptxพื้นฐานชีวิต 36.pptx
พื้นฐานชีวิต 36.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 39.pptx
พื้นฐานชีวิต 39.pptxพื้นฐานชีวิต 39.pptx
พื้นฐานชีวิต 39.pptx
 
ใบกิจกรรม เรื่อง ศาสตร์
ใบกิจกรรม  เรื่อง ศาสตร์ใบกิจกรรม  เรื่อง ศาสตร์
ใบกิจกรรม เรื่อง ศาสตร์
 
ใบกิจกรรม เรื่อง ศาสตร์
ใบกิจกรรม  เรื่อง ศาสตร์ใบกิจกรรม  เรื่อง ศาสตร์
ใบกิจกรรม เรื่อง ศาสตร์
 

Más de SunnyStrong

How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
SunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
SunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
SunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
SunnyStrong
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptxพื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
SunnyStrong
 

Más de SunnyStrong (20)

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docx
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docx
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docx
 
Austria.docx
Austria.docxAustria.docx
Austria.docx
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docx
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docx
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptxพื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
 

พื้นฐานชีวิต 12.pptx