SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 200
พื้นฐานชีวิต 15
ผู้เรียบเรียงรุ่นหลัง65
27/08/2565
16.13น.
สารบัญ
บทที่ 2: พลังชีวิตมาจากไหน ? 3
ชี่ทั้งสองประเภท 60
พลังชี่ ตามหลักฮวงจุ้ย คืออะไร 67
แหล่งกาเนิดพลังชี่ อยู่ที่ไหน? 72
การโอบอุ้มพลังชี่ 94
อมตะสถาปัตยกรรมจีน ซื่อเหอย่วน 104
ซื่อเหอย่วน 112
คนธาตุใด ทางานอะไรแล ้วรวย 123
Covid-19 166
คุณคือคนมีพลังธาตุใดตามหลักฮวงจุ้ย? 187
พลังชีวิตมาจากไหน
• คัมภีร์อี้จิง
ซึ่งเป็นพื้นฐานของการแพทย์จีนแผนโบราณและ
ตาราทางชี่กง
ถือว่า ที่มาของพลังชีวิต หรือพลังชี่ที่สัมพันธ์กับ
คนเรา
มาจาก 2 แหล่งหลักๆ คือ
1.พลังชีวิตก่อนกาเนิด หรือ ชี่ดั้งเดิม
2.พลังชีวิตหลังกาเนิด หรือชี่หลังฟ
้ า
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-health-
02/
1.พลังชีวิตก่อนกาเนิด หรือ ชี่
ดั้งเดิม
• เป็นพลังธรรมชาติพื้นฐานของชีวิต
ที่เราได ้มาจากพ่อ (พลังหยาง)
รวมกับพลังจากแม่ (พลังอิน)
ระหว่างที่ปฏิสนธิและเติบโตอยู่ใน
ครรภ์มารดา
ภาษาจีนเรียกว่า เจินชี่ หรือ จิงชี่
บางตาราก็เรียกว่า หยวนชี่
หรือ เซียนเทียนชี่ แปลว่า ชี่ก่อนฟ้า
หมายถึง พลังชีวิตต ้นทุนที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด
• และมีคุณภาพแตกต่างกันไปในแต่ละคน
ขึ้นกับปัจจัยทางพันธุกรรม
หรือชี่บรรพบุรุษ ของทั้งฝ่ ายพ่อและฝ่ ายแม่
ถ ้าร่างกายของพ่อแม่แข็งแรง
พลังดั้งเดิมของลูกที่คลอดออกมา
ก็ย่อมแข็งแรงสมบูรณ์ อวัยวะครบ 32
• แต่หากร่างกายของพ่อแม่อ่อนแอ มีโรคที่เป็น
กรรมพันธุ์
พลังดั้งเดิมของลูกก็มักจะไม่สมบูรณ์
เพราะอาจติดโรคของพ่อแม่มาได ้
ใน ชี่กง สายศาสนา ยังเชื่อว่า ชี่ดั้งเดิมนี้
ขึ้นอยู่กับบารมีทางจิตวิญญาณ
หรือบุญกรรมเก่าจากชาติภพก่อนๆ ของเจ ้าตัวอีกด ้วย
พลังชีวิตก่อนกาเนิด หรือพลังชี่
ดั้งเดิม
จะเป็นชี่พื้นฐาน
ที่บ่งชี้คุณภาพชีวิตและสุขภาพของเรา
ไปตลอดชีวิต
• ไม่สามารถแก ้ไขเปลี่ยนแปลงปริมาณหรือสร ้าง
เพิ่มเติมขึ้นได ้
เพราะการรับและพัฒนาพลังชีวิตก่อนกาเนิดนี้
จะจบสิ้นลงเมื่อสายรก
หรือสายที่เชื่อมต่อชีวิตของเรากับแม่ระหว่างที่อยู่ใน
ครรภ์
ถูกตัดขาด หลังจากคลอดออกมาสู่โลกภายนอก
สายที่เชื่อมต่อชีวิตของเรากับแม่
ระหว่างที่อยู่ในครรภ์
ถูกตัดขาด หลังจากคลอดออกมาสู่
โลกภายนอก
ชี่ดั้งเดิมนี้
มีแต่จะถูกใช ้หมดไปเรื่อยๆ ตาม
อายุ
คนเราจะแก่และอ่อนแอลงไป
ตามการลดน้อยลงของชี่ดั้งเดิม
• วันใดที่ชี่ดั้งเดิมหมด
ก็หมายความว่า พลังชีวิตของเรา ก็หมดลงด ้วย
ซึ่งหมายถึง การสิ้นอายุขัย นั่นเอง
ดังนั้นคนที่ใช ้พลังชีวิตดั้งเดิม
อย่างฟุ่ มเฟือยโดยไม่ระมัดระวัง
หรือด ้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ
ก็เท่ากับเป็นการผลาญชี่ดั้งเดิมที่มีอยู่จากัด
ให ้หมดไปเร็วยิ่งขึ้น
• เป้ าหมายของสุขภาพ
ตามหลักการแพทย์จีนโบราณ
จึงหมายถึง การออมและถนอมชี่ดั้งเดิมนี้
ให้คงอยู่มากและนานที่สุดเท่าที่จะทาได้
ศูนย์พลังของชี่ดั้งเดิม
จะอยู่ที่ไตและบริเวณท ้องน้อย
ที่เรียกว่า ตันเถียนล่าง (เซี่ยตันเถียน)
• ซึ่งจะเกี่ยวข ้องโดยตรงกับ สารจิง
ซึ่งเป็นสารจาเป็น
เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต
ที่เก็บอยู่ในไตทั้ง 2 ข้าง
• ชี่ดั้งเดิมนี้ จัดเป็นชี่ฝ
่ ายเย็น หรือพลังอิน
และถือเป็น ชี่น้า (สุ่ยชี่)
เก็บสะสมไว ้ในไต
2.พลังชีวิตหลังกาเนิด หรือชี่หลัง
ฟ
้ า
ภาษาจีนเรียกว่า โฮ่ว เทียนชี่
ชี่ประเภทนี้
เป็นชี่ที่เรารับเข ้าสู่ร่างกายจาก
ภายนอก
หลังจากสายชีวิตที่เชื่อมต่อเรา
กับมารดา
ระหว่างที่อยู่ในครรภ์
ถูกตัดขาดหลังจากคลอด
พลังชีวิต
• ไม่สามารถสร ้างใหม่
ได ้
ชี่ก่อน
คลอด
• สามารถสร ้างใหม่ได ้
ชี่หลัง
คลอด
พลังชีวิตหลังกาเนิด
จะไปช่วยเสริมพละกาลัง
ให ้กับพลังชี่ก่อนกาเนิด ในร่างกาย
ซึ่งมีที่มาจาก 3 แหล่งหลัก คือ
-อากาศที่เราหายใจ เป็นพลังชีวิต
จากฟ
้ า (ชี่ฟ้า)
-อาหารที่เราทาน เป็นพลังชีวิต
จากดิน (ชี่ดิน)
-ธรรมชาติแวดล้อม เป็นพลังชี่
ดั้งเดิมของทุกสิ่งในธรรมชาติ หรือ
หยวนชี่ของจักรวาล (ชี่สวรรค์)
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-health-
02/
หัวข ้อตามวิชาจีนโบราณ
(ตามความเข ้าใจของผู้เรียบเรียงฯ)
หยิน-หยาง
5ธาตุจีน
ฤดูกาล
ฟ้า
คน
ดิน
ปฏิกิริยา5ธาตุกับดิถี
ปฏิกิริยานักษัตรกับดิถี
ปฏิกิริยาระหว่างนักษัตร
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
อากาศที่เราหายใจ เป็นพลังชีวิต
จากฟ
้ า (ชี่ฟ้า)
• คนเราเมื่อคลอดออกจากครรภ์มารดา
จะถูกตัดสายรก
ที่เชื่อมต่อเพื่อรับพลังชีวิตจากแม่ให ้ขาด
กลายเป็นร่างที่เป็นอิสระ
จากนั้น
• เราก็จะต ้องเริ่มหายใจ
รับเอาอากาศภายนอกเข ้าสู่ร่างกาย
ด ้วยตัวเองตลอดเวลา
ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงวันตาย
• มนุษย์เรารับพลังชีวิต
จากอากาศในธรรมชาติรอบตัว
ผ่านการหายใจของปอด
แต่จะสามารถรับได ้มากน้อย
แตกต่างกัน
ขึ้นกับหลายปัจจัย
ซึ่งรวมถึง
• ขนาดของปอด
• วิธีการหายใจลึกหรือตื้น, ยาวหรือสั้น
• และคุณภาพของอากาศที่หายใจเข ้าไป ฯลฯ
• ถ ้าสภาพแวดล ้อมในชีวิตประจาวันของเราดี
ได ้รับอากาศบริสุทธิ์ ร่างกายก็จะได ้พลังชี่ที่ดี
ช่วยให ้ร่างกายเติบโตแบบมีสุขภาพที่แข็งแรง
• แต่ถ ้าอากาศแวดล ้อมมีมลพิษ
พลังชี่ที่ดีในอากาศก็ย่อมน้อย
เมื่อสูดรับอากาศไม่บริสุทธิ์เหล่านั้นเข ้าสู่ร่างกาย
ก็จะส่งผลต่อสุขภาพได ้
การฝึกหายใจให ้เป็นระบบ
• หายใจให ้เต็มปอด ด ้วยอากาศบริสุทธิ์
จึงสามารถเพิ่มพลังชีวิตหลังกาเนิด
ให ้ร่างกายได ้
อาหารที่เราทาน เป็นพลังชีวิต
จากดิน (ชี่ดิน)
เมื่อคนเราคลอดออกจากครรภ์มารดา
และมีชีวิตอยู่รอดหายใจเองได ้แล ้ว
ก็ต ้องทานอาหารเองด ้วย
• เพราะไม่มีสายรก
ที่ส่งสารอาหารจากร่างกายของแม่
มาให ้อีกต่อไป
อาหารที่เราทานในที่นี้
จะหมายถึงทุกสิ่งที่เรารับเข ้าสู่ร่างกาย
ทางปากและผ่านระบบการย่อยของร่างกาย
ตั้งแต่ในปากไปถึงกระเพาะอาหารและม ้าม
ซึ่งรวมถึง น้า อาหาร พืช ผัก ผลไม ้เนื้อสัตว์
และยารักษาโรค ฯลฯ
มนุษย์รับพลังธรรมชาติชนิดนี้
ได ้มากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นกับ
หลายปัจจัย
รวมถึงประสิทธิภาพของระบบการย่อย
และการดูดซึมอาหารของร่างกายแต่ละคน
• ความครบถ ้วนของสารอาหาร
และคุณภาพของอาหาร
หรือระดับพลังชีวิตในอาหารที่รับประทานเข ้าไป
ฯลฯ
อาหารต่างๆ ทั้งพืช ผัก ผลไม ้
เนื้อสัตว์
ล ้วนมีพลังชีวิตหรือปราณของ
ตัวเองเช่นกัน
• พืชและสัตว์
ที่เติบโตจากอาหารและสภาพแวดล ้อมที่มีพลังชีวิตที่
ดี
ก็สามารถส่งต่อพลังชีวิตที่เก็บสะสมไว ้
มาให ้เราได ้
แก่นแท ้ของอาหาร
จะอยู่ที่พลังชีวิต หรือ ปราณใน
อาหาร
• แต่พลังชีวิตในอาหาร
ไม่สามารถตรวจวัดได ้ด ้วยหลอดทดลอง
จึงเป็นเรื่องที่คนเรา
ยังไม่อาจเข ้าใจได ้
ด ้วยระดับความรู้เชิงโภชนาการในปัจจุบัน
สารอาหารต่างๆ ในเชิงโภชนาการ
ไม่ว่าจะเป็นแคลอรี่ของคาร์โบไฮเครต หรือโปรตีน
หรือแม ้แต่วิตามิน
• ตามหลักการนี้
ล ้วนถือเป็นกากที่แยกพลังชีวิตออกไปแล ้ว
• สารอาหารต่างๆ จะไปบารุงเลี้ยงกายภาพของร่างกาย
แต่พลังชีวิตหรือปราณในอาหารจะไปบารุงเลี้ยงจิตใจ
และมีความสาคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิต
• เพราะจิตเป็นตัวสั่งงานร่างกาย
ไม่ใช่ร่างกายสั่งงานจิต
ตามคากล่าวที่ว่า จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
กระหายเสียงเคี้ยว
แบบสังคมนายพราน
อาหารที่มีพลังชีวิตมาก
คือ อาหารที่คงความเป็นธรรมชาติ (ไม่สาเร็จรูป)
• มีรสและกลิ่นที่แท ้จริงของอาหารตามธรรมชาติอยู่
มาก
• ผลิตตามฤดูกาล
หรือเป็นผลผลิตจากธรรมชาติ และมีความสดใหม่
• อาหารแต่ละชนิด
จะมีระยะเวลาที่พลังชีวิตคงอยู่สั้นยาวแตกต่างกัน
สังเกตได ้จากเวลาการเน่าเสียตามธรรมชาติ
การอาศัยอาหารช่วยเสริมพลังชีวิต
จะมีข ้อจากัดสาคัญสองประการ
• ประการแรก
เราไม่สามารถดื่มกินอาหารเข ้าสู่
ร่างกาย
ครั้งละมากๆ
เพราะกระเพาะอาหารและลาไส ้
มีขีดจากัดในการดูดซึม
ทั้งยังเป็นอันตรายต่อระบบการ
ทางาน
ของอวัยวะเหล่านี้ด ้วย
คนที่มีระบบการทางานของกระเพาะ
อาหารและลาไส ้ผิดปกติ
• เมื่อกินอาหารบารุงราคาแพงๆ เข ้าไป
ไม่เพียงร่างกายจะไม่สามารถดูดซึม
ไปใช ้ประโยชน์ได ้ทั้งหมดแล ้ว
แต่ยังอาจเกิดผลเสีย
เป็นอาการร ้อนในได ้อีกด ้วย
ประการที่สอง
• ในปัจจุบันอาหารทั่วไป
ส่วนใหญ่ไม่ได ้ผลิตตามหลักหรือ
วิธีการตามธรมชาติ
มีการใช ้สารเคมี
ที่ไปทาลายพลังชีวิต
ทาให ้หลงเหลือพลังชีวิตอยู่น้อย
โดยเฉพาะคนเมืองที่นิยมกิน
อาหารขยะ ราคาแพง
นอกจากจะให ้พลังชีวิตต่าแล ้ว ยังไม่เป็นประโยชน์ต่อ
สุขภาพนัก
• เพราะมักปนเปื้อนสารเคมี
ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
จากกระบวนการผลิต
ตั้งแต่การปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ที่ใช ้สารเคมีผสมเป็น
อาหาร
หรือเป็นยาเพื่อป้องกันและกาจัดโรค
รวมทั้งเสริมฮอร์โมนสังเคราะห์
เพื่อเร่งการเจริญเติบโต
ไปจนถึงการแปรรูปที่ใช ้สารเคมี
เพื่อถนอมอาหารให ้ดูสวยงาม
และ/หรือให ้เก็บได ้นาน
ซึ่งล ้วนเป็นการทาลายคุณภาพของ
สารอาหาร
และพลังชีวิตตามธรรมชาติของ
อาหาร (ชี่ดิน)
ให ้เหลือน้อยลง
ดังนั้น เราต ้องรู้จักกินดี เพื่อให ้ได ้
พลังชี่จากอาหาร
• การกินดีในที่นี้ไม่ใช่กินของแพง
แต่กินของดีที่มีพลังชีวิต
มีคุณค่าอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย
อย่างแท ้จริง
คือการรู้จักเลือกกินอย่างฉลาด นั่นเอง
ธรรมชาติแวดล้อม
เป็นพลังชี่ดั้งเดิมของทุกสิ่งในธรรมชาติ
หรือ หยวนชี่ของจักรวาล (ชี่สวรรค์)
• วิชาชี่กง ในอดีต
เรียกพลังนี้ว่า พลังชี่แท ้(เจินชี่ หรือ จิงชี่)
แต่ยุคปัจจุบันจะเรียกพลังนี้ว่า พลังชี่ดั้งเดิม (หยวน
ชี่)
ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่จะเรียกพลังนี้ว่า พลัง
จักรวาล
(Primordial Energy)
พลังจักรวาล
ทั้งบนโลกและทั่วจักรวาล
มีพลังงานที่เรามองไม่เห็นนี้
อยู่ทั่วไปทุกหนแห่ง
มากน้อยต่างกันไปตามสถานที่
ซึ่งวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน
พิสูจน์พบว่าพลังเหล่านี้
• บางส่วนมีลักษณะเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
บางแห่งที่เป็นจุดรวมหรือจุดตัด (Node) ของคลื่น
สนามพลัง
ก็จะมีพลังงานนี้อยู่หนาแน่น
พลังงานนี้
มีผลต่อทุกสรรพสิ่งบนโลกและทั่วทั้งจักรวาล
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด ้า
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด ้าแห่งเอเชีย
เราสามารถรับพลังงานนี้
ได ้จากหลายทาง
• ทั้งจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
ทะเล แม่น้า ภูเขา อากาศ ก ้อน
หินต ้นไม ้
ฯลฯ
• มนุษย์เรา
มีประตูสาหรับรับพลังงานนี้
หรือที่เรียกกันว่า จักระ
รวมทั้งสิ้น 360 จุด
ซึ่งเป็นจักระหลัก 36 จักระ
อย่างไรก็ตามจักระเหล่านี้
มักปิดอยู่
ทาให ้รับพลังงานดั้งเดิมของจักรวาล
ไม่ได ้
• การฝึกชี่จะช่วยเปิดจักระ
เพื่อสามารถรับพลังที่ดีจากจักรวาล
เข ้าสู่ร่างกาย
และขับพลังที่ไม่ดีออกจากร่างกาย
ได ้
พลังชีวิต
• ไม่สามารถสร ้างใหม่
ได ้
ชี่ก่อน
คลอด
• สามารถสร ้างใหม่ได ้
ชี่หลัง
คลอด
พลังชีวิตหลังกาเนิดนี้
สามารถสร ้างเสริมและชดเชยส่วนที่ใช ้
ไปได ้
• ดังนั้นชี่หลังกาเนิด
จึงมีความสาคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพ
ชีวิตของเรา
• เพราะหากเราสามารถ
สร ้างเสริมเพิ่มพลังชี่หลังกาเนิด
ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
ให ้กับร่างกาย
• รวมทั้งสามารถชดเชยส่วนที่สูญเสียไป
ในการดาเนินชีวิตได ้ยิ่งมาก
เราก็จะสามารถรักษาระดับพลังชี่ดั้งเดิม
ไว ้ได ้ยิ่งมากด ้วย
คนเราเอาหัวออกมาก่อน
ดังนั้น พลังชี่หลังกาเนิด
• จึงเป็นปัจจัยที่สามารถกาหนดคุณภาพชีวิต
และสุขภาวะของเราได ้
เปรียบได ้กับเป็นหางเสือ
ที่จะช่วยให ้เราสามารถ
เลือกทิศทางคุณภาพชีวิตของเราเองได ้นั่นเอง
ศูนย์พลังของชี่หลังกาเนิด
• จะอยู่บริเวณกลางหน้าอก
ที่เรียกว่า ตันเถียนกลาง (จงตันเถียน)
จัดเป็นชี่ฝ่ ายร ้อน หรือพลังหยาง
และถือเป็น ชี่ไฟ (ฮั่วชี่)
• ส่วนที่เหลือจากการไปหล่อเลี้ยง
อวัยวะภายใน
จะถูกนาไปเก็บสะสมไว้ในไต
และจะถูกนามาใช ้อีกเมื่อร่างกาย
ต ้องการ
จึงต ้องมีการสะสมให ้มีความเพียงพอ
สาหรับการใช ้งานเมื่อต ้องการ
พลังชีวิต
• ไม่สามารถสร ้างใหม่ได ้
• ตันเถียนล่าง (หยิน)
• น้า (ไตและบริเวณท ้องน้อย )
ชี่ก่อน
คลอด
• สามารถสร ้างใหม่ได ้
• ตันเถียนกลาง (หยาง)
• ไฟ (กลางหน้าอก)
ชี่หลัง
คลอด
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-
health-02/
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-
health-02/
ทั้งพลังชี่ดั้งเดิมและพลังชี่หลัง
กาเนิด
• ไม่ได ้ต่างฝ่ ายต่างอยู่แยกขาดจากกันในร่างกายของ
เรา
ชี่ก่อน
คลอด
ชี่หลัง
คลอด
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-
health-02/
ชี่ทั้งสองประเภท
• จะไหลมาประสานรวมกันเป็นพลังชี่ที่มี
ประสิทธิภาพ
ที่เรียกว่า พลังชี่แท ้(เจินชี่ หรือ จิงชี่)
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-
health-02/
ลักษณะการผันแปร
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
ชี่ทั้งสองประเภท
• จะเก็บสะสมอยู่ที่ไตและใน
เส ้นชี่พิเศษ
ในร่างกายที่ชื่อว่า ตูม่อ หรือ
ต๊กแม๊ะ
(เส ้นกลางลาตัวด ้านหลัง)
ที่อยู่ตามแนวกระดูกสันหลัง
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-
health-02/
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-
หรือบริเวณเดียวกับ
• ระบบประสาทอัตโนมัติส่วนกลาง
ซิมพาเธติกและพาราซิมพาเธติก
ที่ควบคุมการทางานของอวัยวะสาคัญต่างๆ ภายใน
ร่างกาย
ที่เป็นกล ้ามเนื้อเรียบ
ซึ่งสมองควบคุมสั่งงานโดยตรงไม่ได้
เช่น หัวใจ ตับ ไต กระเพาะอาหาร ปอด เป็นต ้น
ระบบพลังชี่ของร่างกาย
จะค่อยๆ แจกจ่ายพลังชี่ภายใน
ไปตามส่วนต่างๆ ทั่วร่างกายตามที่จาเป็น
• การแพทย์จีนแผนโบราณ
เชื่อว่าการจะมีสุขภาพที่ดี
ต้องถนอมชี่ดั้งเดิมไว้
พร ้อมกับสร ้างเสริมชี่หลังกาเนิด
ให้แข็งแรงและเพียงพออยู่เสมอ
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-
พลังชี่ ตามหลักฮวงจุ้ย คืออะไร
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=133
• หากใครมีโอกาสได ้ศึกษาหรือปรึกษากับซินแสเรื่องฮ
วงจุ้ย
คงจะคุ้นหูกับคาว่า “พลังชี่” ใช่ไหมคะ
แท ้จริงแล ้วพลังชี่คืออะไร
เราขอนาข ้อมูลมาฝากกันค่ะ
ชี่ ก็คือ
สภาพแวดล ้อมโดยรวม
ที่ส่งผลกระทบต่อการดาเนิน
ชีวิต
ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ของผู้อยู่อาศัย และ
ผู้เกี่ยวข ้องทุกคน
“ชี่” (Chi)
เปรียบได ้กับ “พลังงานแห่งชีวิต”
(Energy of life)
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=133
Chi ชี่เป็นสถานะของคลื่นที่ให ้
พลังงาน
พลังงานนี้
เป็นตัวสาคัญที่มีอิทธิพลโดยตรงและทางอ้อม
ต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล ้อมทั้งปวงในโลกนี้
• จะวิเคราะห์ฮวงจุ้ยก็ต ้องคิดถึงชี่
• พลังงานชี่ คือ พลังงานที่ใช ้อธิบายเรื่องฮวงจุ้ย
ทั้งหมด
ซึ่งการวิเคราะห์ฮวงจุ้ยก็คือ การวิเคราะห์หาชี่
นั่นเอง
แหล่งกาเนิดพลังชี่ อยู่ที่ไหน?
แหล่งที่มาของพลังงานชี่
ยังไม่มีพื้นฐานของวิทยาศาสตร์อธิบายไว ้
• จึงขออาศัยทฤษฏี
ของการหมุนของโลกรอบดวงอาทิตย์
และโลกหมุนรอบตัวเอง
จากทิศตะวันตกยังทิศตะวันออก
แรงหนีศูนย์กลาง
(CENTRIFUGAL FORCE)
• จะทาให ้เกิดแรงเหวี่ยง
มหาศาล
ที่ทาให ้เกิดน้าขึ้น-น้าลง
หมุนทวนเข็มนาฬิกา
แรงหนีศูนย์กลาง
(CENTRIFUGAL FORCE)
แรงหนีศูนย์กลาง
(CENTRIFUGAL FORCE)
แรงหนีศูนย์กลาง
(CENTRIFUGAL FORCE)
แรงหนีศูนย์กลาง
(CENTRIFUGAL FORCE)
http://tumsikwae.blogspot.com/2015/01/tide.html
http://tumsikwae.blogspot.com/2015/01/tide.html
สิ่งปลูกสร ้างใดที่อยู่ด ้านขวาของแม่น้าทะเล
จะได ้รับแรงหนีศูนย์กลาง มากกว่า
สิ่งปลูกสร ้างที่อยู่ด ้านซ ้ายของแม่น้าทะเล
https://www.facebook.com/knowatlas/photos/a.1450814111785473/1450806221786262/?ty
ฝั่งขวาแม่น้าโขง (เล่ม 1 )/ เติม-สิง
หัษฐิต
• ...ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล ้า
เจ ้าอยู่หัวใน พ.ศ. ๒๔๓๖
(ค.ศ. ๑๘๙๓) ฝรั่งเศสกดดันให ้สยาม (ไทย) ต ้อง
ยอมทาหนังสือสัญญาลงวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๖
ยกดินแดนฝั่งซ้ายฟากตะวันออกของแม่น้าโขง
รวมทั้งเกาะทุกเกาะในแม่น้าโขงให ้แก่ฝรั่งเศส
สัญญานี้ได ้ให ้สัตยาบันกัน
เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๖...
แรงกดดันนี้
น่าจะทาให ้อาคารที่อยู่ด ้านขวาของ
แม่น้า
เกิดพลังงานชี่มากกว่า ด ้านซ ้าย
เนื่องจากแรงกดดันนี้
• พัดพาเอาพลังงานเหนือน้า
ไปให ้อาคารดังกล่าว
จึงบอกต่อๆ กันมาว่า
อาคารที่อยู่ด้านขวาจะมีชี่มากกว่าด้านซ้าย
• ดังเช่นการเลือกบ ้านหรือตาแหน่งอาคาร
ตามทิศของที่ตั้งของน้า
จึงน่าจะอธิบายได ้โดยหลักของฟิสิกส์นี้
โลกรอบดวงอาทิตย์
และโลกหมุนรอบตัวเอง
จากทิศตะวันตกยังทิศตะวันออก
• เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองเพื่อไป หมุนรอบดวงอาทิตย์
อีกหนึ่งโคจร
ซึ่งหมุนจากขวาไปซ ้าย หรือจากทิศตะวันตกไปทิศ
ตะวันออก
จึงเป็นสาเหตุทาให ้เกิดแรงเหวี่ยงมหาศาล
และเป็นแหล่งกาเนิดพลังงานชี่
https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/34007
โลกมีการหมุนรอบตัวเอง
และโคจรรอบดวงอาทิตย์ไป
ในทิศทางเดียวกัน
ดวงจันทร์ก็มีการหมุนรอบ
ตัวเองและโคจรรอบโลกไป
ในทิศทางเดียวกันกับโลก
ด ้วย
แรงเหวี่ยงที่ทาให ้เกิดพลังงานชี่
และแรงดึงดูดของโลกใน
ขณะเดียวกัน
จึงมีผลต่อสิ่งมีชีวิต
และสิ่งปลูกสร ้างบน
พื้นผิวโลก
โดยทฤษฎีนี้จึงได ้ข ้อสรุปว่า
• ตึกที่อยู่ด ้านขวาของน้าจะมีพลังงานชี่มากกว่าตึก
ด ้านซ ้ายของน้า
และตรงกับหลักของฮวงจุ้ยที่สอนไว ้ว่า ขวาเสือขาว
ซ ้ายมังกรเขียว
นั่นคือตึกที่มีน้าอยู่ด ้านซ ้ายเป็น
มังกรเขียว
• เป็นที่มาของหลักที่ว่า ขวานิ่ง ซ ้ายเคลื่อนไหว จะมี
พลังงานชี่สูงนั่นเอง
ขณะเดียวกันหากด ้านขวาของตึก
มีน้าผ่าน
• ก็จะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นมังกรเขียว มาอยู่
ด ้านขวาของตึก
• ตึกดังกล่าวน้าก็จะขาดพลังชี่
เป็นตึกที่ไม่ดีตามหลักของฮวงจุ้ยทั่ว ๆ ไป
แต่บางครั้งตึกที่มีน้าไหลผ่าน
ด ้านขวาหรือด ้านหลัง
ก็อาจจะดีได ้โดยอาศัยทิศ ทางเข ้า
มาประกอบ
เนื่องจากบางครั้ง
ตัวตึกอาจหันทิศไปทางเหนือ
แทนที่จะหันไปทิศใต้
• ทั้งนี้หลักอันซับซ ้อนนี้
ต ้องอาศัยการวิเคราะห์วิจัยต่อไป
เพื่อใช ้อธิบายถึง แหล่งกาเนิดของพลังงานชี่
ต่อไป
การโอบอุ้มพลังชี่
เสือขาว มังกรเขียว คือ ขวานิ่ง ซ ้ายเคลื่อนไหว
• ทาให ้มีพลังชี่ขั้นพื้นฐานที่เกิดจากการหมุนของโลก
โดยมี เต่าดา เป็นกาแพงยึด
• ให ้เกิดความมั่นคง ปลอดภัย
หลักการคือความต่อเนื่องของ
เสือขาว มังกรเขียว และเต่าดา
• ทาให ้เกิดการโอบอุ้ม
ในลักษณะที่เต่าดาเป็นกาแพงหรือภูเขา
คอยรองรับ ปกป้องให ้พลังชี่อยู่ในวงโอบอุ้มนี้
• พลังชี่ในวงโอบอุ้มนี้
ก็จะก่อให ้เกิดความเจริญรุ่งเรืองความงอกงาม
ก่อให ้เกิดทาเลที่ดี
ดังเช่น แหล่งกาเนิดอารยธรรมของโลก
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=133
ฮวงจุ้ยดีแบบมาตรฐาน
ลักษณะชัยภูมิแบบต่างๆ
เส ้นประคือทางน
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=42
ลักษณะชัยภูมิแบบต่างๆ
เส ้นประคือทางน้า
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=42
ลักษณะชัยภูมิแบบต่างๆ
เส ้นประคือทางน้า
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=42
ลักษณะชัยภูมิแบบต่างๆ
เส ้นประคือทางน้า
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=42
ลักษณะชัยภูมิแบบต่างๆ
เส ้นประคือทางน้า
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=42
อมตะสถาปัตยกรรมจีน ซื่อเหอย่
วน
https://www.bareo-isyss.com/service/architecture/siheyuan/
จีน เป็นชนชาติที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
ต่อเนื่องกันมามากกว่า 4,000 ปี
ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวจีนจะมีศิลปวัฒนธรรม
องค์ความรู้และความเชื่อต่างๆ ที่สืบทอดในหมู่ชาวจีน
และสะสมกันมามากมาย
• ในบรรดาองค์ความรู้และความเชื่อที่สาคัญของคนจีน
คงหนีไม่พ ้นเรื่องของ ฮวงจุ้ยกับสถาปัตยกรรม
ที่ทาให ้งานสถาปัตยกรรมของจีนมี ความโดดเด่น
และแตกต่างจากวัฒนธรรมอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง หรือวัด
ตลอดจนอาคารบ ้านเรือนต่างๆ
ซึ่งความแตกต่างนี้
สามารถมองเห็นได ้ตั้งแต่รูปแบบอาคาร รายละเอียด
ไปจนถึงการวางผังบ ้านของคนจีนเลยทีเดียว
• โดยในวันนี้ เราจะพาทุกท่านไ
ปทาความรู้จักกับอาคารพื้นฐานของงาน
สถาปัตยกรรมจีน
อันได ้แก่ บ ้านพักอาศัยของคนจีนแบบดั้งเดิม
กันครับ
บ ้านของคนจีนโดยทั่วไป
• มักจะมีลักษณะเป็นอาคารสี่เหลี่ยมหลายหลัง
ประกอบกันภายในรั้ว
• ซึ่งอาคารแต่ละหลัง
ก็จะมีจุดประสงค์และการใช ้สอยที่แตกต่างอย่าง
ชัดเจน
เช่น เรือนนอน เรือนรับรอง หรือเรือนบริวาร เป็นต ้น
โดยลักษณะเด่นของบ ้านจีน
โบราณนี้
จะอยู่ที่รูปแบบการวางผังบ ้าน
• ที่มักจะวางอาคารต่างๆ
ให ้ติดกับรั้วบ ้านทั้งสี่ทิศ
และปล่อยลานตรงกลางบ ้านให ้
โล่ง
ในลักษณะของ Courtyard
ซึ่งลานกลางบ ้านนี้
ก็จะใช ้ทากิจกรรมต่างๆ
มากมาย
สาเหตุที่บ ้านของชาวจีน จะต ้อง
สร ้างอาคารชิดรั้วและมีลาน
กลางบ ้าน
จนทาให ้เกิดลักษณะของบ ้านล ้อมสวนนั้น
• เนื่องมาจากสภาพอากาศที่ค่อนข ้างโหดร ้าย
เช่น พายุทะเลทราย พายุหิมะ หรือลมมรสุมต่างๆ ที่มี
ตลอดทั้งปี
ดังนั้น วัฒนธรรมการสร ้างบ ้านล ้อมสวน
จึงเป็นทางเลือกหลัก
ที่ช่วยป้องกันผู้อยู่อาศัยภายในบ ้าน
จากภัยธรรมชาติต่างๆ
และยังทาให ้ลานกลางบ ้าน
สามารถใช ้ทากิจกรรมได ้สะดวก
เกือบตลอดทั้งปีอีกด ้วย
ทั้งนี้ บ ้านจีนโบราณที่พบเห็นได ้
ทั่วไป
มักจะเป็นอาคารที่ล ้อมลานทั้งสี่ทิศ
หรือที่เรียกว่า “ซื่อเหอย่วน”
ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบบ ้านพื้นฐานของชาวจีนเลยก็ว่าได ้
• โดยในวันนี้
เราจะพาทุกท่านมารู้จักบ ้านจีนแบบซื่อเหอย่วน
ว่ามีรูปแบบและเอกลักษณ์ของบ ้าน
เป็นเช่นไรกันครับ
ซื่อเหอย่วน
ซื่อเหอย่วน หรือที่ชาวไทยรู้จักกันดีในชื่อ เรือนสี่
ประสาน
เป็นรูปแบบของบ ้านที่มีอาคารล ้อมลานกลางบ ้านทั้งสี่
ทิศ
• ซึ่งรูปแบบของบ ้านแบบนี้
ได ้พัฒนาเพิ่มเติมมาจากบ ้านแบบ ซานเหอย่วน
ที่เดิมสร ้างอาคารล ้อมบ ้านไว ้3 ทิศเป็นรูปทรงเกือก
ม ้า
และเว ้นด ้านหน้าเอาไว ้
• โดยในภายหลัง บ ้านแบบซานเหอย่วน
จึงได ้เพิ่มเรือนด ้านหน้ามา
จนเกิดเป็นบ ้านแบบ ซื่อเหอย่วน จนถึงปัจจุบัน
การวางอาคารล ้อมลานในลักษณะ
นี้
• ช่วยให ้อากาศในบ ้านไม่ร ้อนจนเกินไปในฤดูร ้อน
เนื่องจากมีพื้นที่กลางบ ้านที่เปิดโล่ง
ทาให ้ลมพัดผ่านอาคารได ้เต็มที่ทุกหลัง
รวมทั้งยังช่วยลดความหนาวรุนแรง
จากพายุหิมะในฤดูหนาว
ได ้เป็นอย่างดีอีกด ้วย
โดยปกติ บ ้านแบบซื่อเหอย่วน
จะวางบ ้านในแนวเหนือใต ้
โดยกาหนดให ้หน้าบ ้าน
หรือประตูทางเข้าหลัก
ก็จะอยู่ทางทิศใต ้
• ซึ่งจะเรียกประตูนี้ว่า ประตูต ้าเหมิน
สาเหตุที่ต ้องหันหน้าบ ้านไปทางทิศใต ้นั้น
เพื่อให ้รับลมที่พัดเข ้าบ ้านในฤดูร ้อน
และป้องกันลมหนาวจากทิศเหนือในฤดูหนาว
https://www.bareo-isyss.com/service/architecture/siheyuan/
ประตูต ้าเหมิน
ในการออกแบบบ ้านของคนจีน
จะนิยมวางอาคารหลัก
หรือเรือนประธานไว ้ด ้านหลังบ ้าน
หรือทางทิศเหนือของพื้นที่
• โดยเรือนประธานนี้
จะใช ้เป็นที่พักอาศัยของ
เจ ้าของบ ้าน
ในขณะที่เรือนด ้านซ ้าย (ทิศ
ตะวันตก)
และขวาของบ ้าน (ทิศตะวันออก)
จะทาหน้าที่เป็นเรือนกิจกรรมอื่นๆ
เช่น เรือนพักอาศัยรอง หรือเรือนรับรองแขก หออ่าน
หนังสือ
• โดยเรือนทั้งสองนี้ จะหันหน้าเข ้าหากัน
ส่วนด ้านหน้าของตัวบ ้าน
• มักจะตั้งอาคารที่เป็นเรือนบริวาร
คอยดูแลแขกเหรื่อที่จะผ่านเข ้าออก
ทาให ้พื้นที่มีลักษณะเป็นวงแหวนสี่เหลี่ยม ที่มีบ ้าน
ล ้อมสวน
อันเป็นเอกลักษณ์ของบ ้านจีน
ในบ ้านของชาวจีนที่มีฐานะ
อาจจะเพิ่มเรือนขวาง
ซ ้อนอยู่หลังเรือนบริวาร หรือเรือน
หน้าบ ้าน
• ทาให ้เกิดลานเล็กช่วงหน้าบ ้าน
เพิ่มขึ้นอีก 1 ลาน
โดยเรือนขวางนี้ จะทาหน้าที่เป็น
เรือนกิจกรรมต่างๆ
และมีประโยชน์ในการกันสายตาของ
คนนอก
ไม่ให ้มองผ่านเข ้าไปเห็นเรือน
ประธาน
ประตูต ้าเหมิน
ในกรณีที่มีเรือนขวางหน้าบ ้านแบบ
นี้
ชาวจีนจะนิยมวางประตูใหญ่หน้าบ ้านให ้เยื้องไปฝั่งใด
ฝั่งหนึ่ง
• และจะวางประตูชั้นในให ้เยื้องไปฝั่งตรงข ้าม
เช่น หากวางประตูใหญ่ เยื้องไปทางทิศ
ตะวันออก
ก็จะวางประตูชั้นใน ไปฝั่งตะวันตก
ประตูต ้าเหมิน
ประตูที่
สอง
https://www.bareo-isyss.com/service/architecture/siheyuan/
คนธาตุใด ทางานอะไรแล ้วรวย
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=73
ตามหลักฮวงจุ้ย จะแบ่งคน
ออกเป็น 5 ธาตุ
ได ้แก่ น้า ไฟ ทอง ไม ้ และดิน
โดยสามารถคานวณ
ตามหลักโหราศาสตร์จีน
ได ้ว่าใครเป็นธาตุอะไร
• ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัน เดือน ปี และเวลาตกฟากของแต่ละ
คน
• ทาให ้ได ้ทราบว่าเราเป็นคนธาตุไหน
และเหมาะกับอาชีพใดที่ส่งเสริมให ้รวยได ้
วันนี้เรานามาฝาก ตามไปดูกันเลย
5 ธาตุใน
อายุรเวท
พลัง(ธาตุ)ทั้ง 5 ในแพทย์จีน
เตชะ - ธาตุ
ไฟ
ไฟ-ร ้อน,อุ่น,พุ่งไปข ้างบน,โชติช่วง
ชละ - ธาตุ
น้า
น้า-น้าคือการลื่นไหล,ความชื้น,
ไหลลงต่า,เหน็บหนาว,กักเก็บซ่อนไว ้
ปฐวี - ธาตุ
ดิน
ดิน-การเกิดและการแปรสภาพ, เกาะติด,
รับและเก็บเอาไว ้,ความชื้น
วายุ - ธาตุลม ไม ้-การเกิดขึ้นในแนวเส ้นตรง ,แสดงถึงการ
เติบโต ,
การลอยขึ้นไป,การพองออก ขยายออก ,
ความสุข ปลอดโปร่งโล่งสบาย, ลมในร่างกาย
อากาส - ทอง-การแปรสภาพ,
https://www.blockdit.com/posts/5d86b13bf1f1db0cd4587b19?id=5d86b13bf1f1db0cd4587b19&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378
ธาตุไม ้
ธาตุไม ้
• คนธาตุไม้
มีลักษณะนิสัยใจดีแต่ก็แอบโกรธง่าย
ไม่ชอบระเบียบแบบแผน
มีเสน่ห์ มีเมตตา ขี้สงสาร
ขยัน มุ่งมั่น กระตือรือร ้น
หนักแน่น รักศักดิ์ศรี (ออกแนวดื้อ เชื่อมั่นใน
ตัวเองพอควร)
มีคุณธรรมศีลธรรม รักสงบ
ไม่ชอบทะเลาะกับใคร
งานที่เหมาะสม: งานที่มี
บรรยากาศเป็นอิสระ
• ได ้แสดงความคิดเห็นแบบไม่ถูกตีกรอบ
• ค ้นคว ้าหาสิ่งใหม่หรือนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ
อาทิ อาชีพทางวิชาการอย่างนักการศึกษา
นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์,
• อาชีพด ้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรมหรือโบราณคดี
ใจดีแต่ก็แอบโกรธง่าย
https://www.blockdit.com/posts/5d56d174a2e8811941ba9d78
ไม่ชอบระเบียบแบบแผน
มีเสน่ห์ มีเมตตา ขี้สงสาร
หนักแน่น รักศักดิ์ศรี มีจุดยืน
(ออกแนวดื้อ เชื่อมั่นในตัวเองพอควร)
งานที่มีบรรยากาศเป็นอิสระ
ได ้แสดงความคิดเห็นแบบไม่ถูกตี
กรอบ
องค์ความรู้
ตรัสรู้
นวัตกรรมใหม่
โตทุกวัน เรียนรู้ไม่หยุด
อาชีพด ้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรม
หรือโบราณคดี
อาชีพด ้านจิตรกรรม
อาชีพด ้านโบราณคดี
ธาตุไฟ
ธาตุไฟ
• คนธาตุไฟ มีลักษณะนิสัยใจร ้อน
แต่โดยทั่วไปแล ้วมักเฉลียวฉลาด
• มีความเป็นผู้นาและความสามารถสูง
• พูดเร็วทาอะไรเร็ว กระตือรือร ้น มีน้าใจ
• ซื่อสัตย์ มีคุณธรรม
• เป็นคนรักเพื่อน และจริงจังกับการเคารพผู้ที่อาวุโส
กว่า
งานที่เหมาะสม: งานที่ได ้รับความ
สนใจ
จากคนรอบข ้าง
อาทิ งานในวงการบันเทิง งานโฆษณา
• งานการเมือง ครูอาจารย์ วิทยากร
https://bit.ly/3jQPFXA
คนธาตุไฟที่แข็ง
ควรเสริมธาตุดินรอบๆ ตัว
เช่น นารูปปั้นแกะสลักมาไว ้ที่ออฟฟิศ
พกหินสีน้าตาลติดตัว
ถ ้าเป็นคนธาตุไฟที่อ่อน
ควรเสริมธาตุไม ้และธาตุไฟ
• อย่างการนาต ้นไม ้โทนสีแดง
มาตกแต่งบ ้านหรือออฟฟิศ
• รวมถึงพกหินสีเขียวเข ้ม
อย่างมรกตหรือหยก
ควรเลี่ยงการทางานใกล ้แหล่งน้า
หรืออยู่ใกล ้คนธาตุดิน
• เพราะจะโดนดูดพลังงานไป
ทาให ้คนธาตุไฟมีอารมณ์รุนแรงและโมโหง่าย
คนธาตุไฟ มีลักษณะนิสัยใจร ้อน
แต่โดยทั่วไปแล ้วมักเฉลียวฉลาด
อารยะธรรมที่มนุษย์ใช ้ไฟเป็นครั้ง
แรก
• ในโลกทุกวันนี้ เราอาจจินตนาการไม่ออกว่า “ไฟ”
สาคัญแค่ไหน
• และมนุษย์ ที่มี ไฟ กับ ไม่มี นั้นแตกต่างกันอย่างไร
• เป็นเวลาหลายแสนปีที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ใช ้ชีวิตดิ้นรนใน
ธรรมชาติ
เช่นเดียวกับสัตว์ป่ าทุกชนิด
เราอยู่กันเป็นกลุ่ม เก็บของป่ าตามแต่จะเจออะไร
ผลไม ้ ขุดหัวพืช
ล่าและดักจับสัตว์เล็กๆ และถ ้าโชคดี
อาจได ้เจอซากสัตว์ที่ถูกสัตว์อื่นล่าทิ้งไว ้
เนื้อสัตว์ใหญ่เป็นของหายาก ที่ต ้องอาศัยโชคชะตา
และแม ้จะเจอซากสัตว์ก็ยังต ้องเสี่ยงชีวิตแย่งชิงจาก
สัตว์กินซากอื่นๆ เช่นกัน
• แต่ละวันผ่านไปอย่างยากลาบาก
วงจรธรรมชาติที่ดูเป็นเรื่องเรียบง่ายและธรรมดาในยุค
นี้
เช่น กลางวัน กลางคืน ฤดูกาล ฝนตก ฟ้าผ่า
ในยุคนั้น ล ้วนคือปัจจัยที่ควบคุมไม่ได ้
จนกระทั่งราว 2 แสนปีก่อน
มนุษย์โบราณสายพันธุ์หนึ่ง (หรือตัวหนึ่ง)
ได ้ค ้นพบวิธีการจุดไฟขึ้น
• นับจากนั้น
บทบาทของสัตว์สายพันธุ์นี้ที่มีต่อโลกใบนี้
ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล
และไม่ว่าโลกทุกวันนี้ สถานการณ์จะดีหรือไม่ก็ตาม
ปฏิเสธไม่ได ้เลยว่า “ไฟ” เป็นรากฐานสาคัญ
ที่ทาให ้มนุษยชาติพัฒนามาจนเป็นเช่นทุกวันนี้
ทาไมไฟจึงสาคัญนัก?
1. ทาและถนอมอาหาร
2. ให้ความอบอุ่น
3. แสงสว่างยามค่าคืน
4. เป็ นอาวุธและป้ องกันภัย
5. แปรรูปวัสดุ สร้างเครื่องมือ
https://www.pathwild.com/blog/human_with_fire/
6. เผาทาลายป่ า เปิ ดพื้นที่ใหม่ๆ
• นับจากค ้นพบและควบคุมไฟได ้มนุษย์ใช ้ประโยชน์
จากไฟมากมาย
เวลาดาเนินเนิ่นนานนับแสนปี
• ไฟได ้กลายเป็นสิ่งจาเป็นในวิถีชีวิตมนุษย์ในระดับที่
ขาดไม่ได ้
และเราใช ้ประโยชน์จากไฟมากกว่า 6 ข ้อพื้นฐาน
ดั้งเดิมไปมาก
• ไฟเป็นองค์ประกอบสาคัญในพิธีกรรมต่างๆ
เป็นตัวแทนเทพเจ ้าในหลายความเชื่อ
เป็นรากฐานสาคัญของทุกอารยธรรม
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่า
ทาไมเราจึงรู้สึก อบอุ่น และผ่อน
คลาย
เมื่ออยู่ใกล ้กองไฟกับแสงสีเหลืองนวลตาของมัน
• จนอาจกล่าวได ้ว่า
กิจกรรมกลางแจ ้งต่างๆ จะไม่สมบูรณ์ไปได ้เลย
ถ ้าขาดกองไฟ
ลองหาโอกาสอยู่คนเดียวใน
ธรรมชาติ
ก่อกองไฟเล็กๆ ซักกอง
• มองเข ้าไปในท่อนฟืนที่กาลังลุกไหม ้
ได ้กลิ่นควันแสบจมูก
มองให ้ลึกไปกว่านั้น
สารวจลงไปในจิตใต ้สานึกของเรา
ที่นั่น เราจะพบ รากฐานและหลักฐานของ ไฟ
ที่มีบทบาทสาคัญ
ตลอดช่วงระยะเวลาวิวัฒนาการอันยาวนานของสาย
พันธุ์มนุษย์
และไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต
ไฟยังคงเป็นสิ่งที่เราต ้องการเสมอ
https://www.pathwild.com/blog/human_with_fire/
ไฟยังคงเป็นสิ่งที่เราต ้องการเสมอ
Covid-19
• จะทาให ้คาทานายของปรมาจารย์อสังหาริมทรัพย์
เป็นจริงขึ้นทุกวัน
เพราะธุรกิจอื่นอาจฟื้นตัวได ้เร็ว
แต่อสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวหลังสุด
คือจะเดี้ยงจนอาจถึงขั้นพิการได ้ตั้งแต่ปี 2563,
2564, 2565 และ 2566 และหวังกันว่าจะฟื้นตัวในปี
2567
อ่านเนื้อหาต ้นฉบับได ้ที่ : TerraBKK.com -
https://www.terrabkk.com/articles/197472
ถึงเวลานั้น มุมมองเฟิงสุ่ยหรือฮวง
จุ้ยจะเป็นอย่างไร
เฟิงสุ่ยหรือฮวงจุ้ย
มี “ทฤษฎี หรือสานักดาวเหิน”
พูดถึงพลังธรรมชาติจาก ดาว 9 ดวง
ที่ส่งพลังต่างกันมายังโลกมนุษย์
• โดยดาวแต่ละดวงจะมีอิทธิพลเป็ นยุค ๆ ละ 20 ปี
โดยเริ่มจากยุค 1 ของดาวดวงที่ 1
จนถึงยุค 9 ของดาวดวงที่ 9
ต่อเนื่องเป็ นวัฏจักรเป็ นเวลา 180 ปี ต่อรอบ
ก่อนจะเริ่มวัฏจักรรอบใหม่
โฮ่วเทียนปากว ้า (后天八卦)
ผังหลังฟ้า กับ บุคคล
ปา กว ้า - เกิ้น
แต่ละยุคจะมีดาวประจาทิศ
และธาตุประจาทิศของตัวเอง
• ยุคปัจจุบันคือยุค 8 (ปี 2547 – 2566)
เป็นยุคของดาวที่มีชื่อว่า Prosperity Star
หรือดาวแห่งความรุ่งเรือง
เป็นดาวประจาทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ทาให ้ประเทศจีน ญี่ปุ่ น เกาหลี และไต ้หวัน
ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอาเซีย
• มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง และกลายเป็น
ประเทศร่ารวยมั่งคั่ง
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
ปา กว ้า ที่ เจ็ด เกิ้น
• เกิ้น เป็นตัวแทนของ มือ
จาง่ายๆว่า กว ้านี้
คล ้ายลักษณะคนกาลังใช ้แขนสองข ้าง ดันพื้น
เพราะด ้านบนสุด เป็น หยางเหยา
สองเหยาล่าง เป็น ยินเหยา
เกิ้น-สะสมเพิ่มพูน
ทวีปอเมริกาเหนือ
• มีรัฐนิวยอร์คที่อยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
• มีวอลล์สตรีทเป็นศูนย์การเงิน และตลาดหลักทรัพย์ที่
ดัชนีหุ้นพุ่งทะยาน
• บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ทากาไรเป็นกอบเป็นกา
• และแม ้แต่ประธานาธิบดีทรัมพ์ ก็มาจากรัฐนิวยอร์ค
ดาวประจาทิศ (สหรัฐอเมริกา)
ดาวประจาทิศ (ประเทศไทย)
ส่วนประเทศไทย
จะเห็นความเจริญทางเศรษฐกิจใน
ภาคอีสาน
บริเวณที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
มีความเจริญมากว่าภาคอื่น ๆ
• ยุค 8 ยังมีธาตุดินเป็นธาตุประจาทิศ
ธาตุดินหมายถึงความหนักแน่น มั่นคง จับต ้องได ้
• เอื้อต่อธุรกิจที่มาจากดิน
ได ้แก่อสังหาริมทรัพย์ที่ถือเป็น Real Estate
หรือทรัพย์ที่เป็นรูปธรรม มีอยู่จริงจับต ้องได ้
ท่านผู้อ่านลองย ้อนไปดูผล
ประกอบการ
ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี
2547 ดู
จะเห็นว่าโตก ้าวกระโดด
จากรายได ้ไม่ถึงหมื่นล ้านบาท
กลายมาเป็นหลายหมื่นล ้านบาท
ในมุมมองของเฟิงสุ่ย
หรือ ฮวงจุ้ย
ปี 2567 จะเป็นการสิ้นสุดของยุค 8
และเริ่มเข ้าสู่ยุค 9 อีก 20 ปี จากนี้ไปอีก 4 ปีข ้างหน้า
(จากปี 2563)
คือปลายยุค 8
ที่ความเจริญรุ่งเรืองจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะ
ย ้ายไปทิศใต ้
ที่เป็นทิศของดาวยุค 9
ที่มีชื่อว่า Future Prosperity
หรือดาวแห่งความรุ่งเรืองในอนาคต
• ธาตุประจายุค 9 คือธาตุไฟ
https://www.terrabkk.com/articles/197472
แม ้ดาวของยุค 9 ยังเป็นดาวที่ดี มี
ความรุ่งเรือง
• แต่เป็นความรุ่งเรืองของที่มาจากความก ้าวหน้าแบบ
ทะลุทะลวง
• จนแทบจะเป็นนวัตกรรมแบบทาลายของเดิม
• แน่นอน ธุรกิจประเภทนั้น
ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
แต่หมายถึง
ความก ้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์
และเทคโนโลยีมากกว่า
ฉาบฉวย
• ธาตุไฟยังหมายถึงธุรกิจที่วูบวาบเหมือนเปลวไฟ
เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง
มีอัตราการเกิด การตาย ของธุรกิจรวดเร็วมากและไม่
ยั่งยืน
สรุปง่าย ๆ
ยุคทองของอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มจาก
ปี 2547
กาลังจะสิ้นสุดในปี 2566
แม ้นับจากปีปัจจุบัน (2563) เป็นต ้นไป ยังมีเวลาอีก 4
ปี
จึงจะหมดยุค 8
เพียงแต่สภาพเศรษฐกิจถดถอย
และ Covid-19 จะเป็นอุปสรรคให ้วงการนี้
ซบเซาไปอีกอย่างน้อย 3 – 4 ปีทีเดียว
เฟิงสุ่ยหรือฮวงจุ้ยเตือนท่านแล ้ว
ว่า 4 ปีสุดท ้ายของยุค 8 ไม่ใช่ปี
ทองอีกต่อไป
แต่ลาบากอย่างแสนสาหัส
จนเปลี่ยนผ่านเข ้าสู่ยุค 9
ซึ่งไม่ใช่ยุคของอสังหาริมทรัพย์อีกต่อไปแล ้ว…
• ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะต ้องปรับตัวอย่างไร ถึงจะอยู่
รอด
อ่านเนื้อหาต ้นฉบับได ้ที่ : TerraBKK.com - https://www.terrabkk.com/articles/197472
คุณคือคนมีพลังธาตุใดตามหลักฮ
วงจุ้ย?
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=73
ธาตุดิน
• คนธาตุดิน มีลักษณะนิสัยอ่อนโยน เดินทางสาย
กลาง สุขุมหนักแน่น มีความเป็นผู้ใหญ่สูง ซื่อสัตย์
กตัญญู มีคุณธรรม เชื่อถือได ้ใจกว ้าง มักเห็นอกเห็น
ใจและช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
งานที่เหมาะสม: งานที่อยู่
เบื้องหลัง
• เพราะสามารถดูแลงานที่ได ้รับมอบหมายจนสาเร็จ
ลุล่วงได ้
งานที่ต ้องใช ้ทักษะ
ในการคิดวิเคราะห์และควบคุม สิ่งต่างๆ ให ้เป็นไปใน
ทิศทางที่กาหนด
อาทิเช่น นักเศรษฐศาสตร์ นักบัญชี ที่ปรึกษา
นักการเมือง
ศิลปินด ้านต่างๆ นักออกแบบหรือตกแต่งภายใน
• คนธาตุดินควรทางานกับคนธาตุไฟ จะช่วยส่งเสริมกัน
ได ้ดี
และไม่ควรทางานกับคนธาตุไม ้
• เนื่องจากคนธาตุดินมักขี้ระแวง ระวัง
ชอบความคงเส ้นคงวา และพึ่งพาตนเองอยู่เสมอ
ซึ่งตรงข ้ามกับนิสัยของคนธาตุไม ้
ที่ไม่ค่อยมีระเบียบและมีไอเดียฟุ้งๆ แบบไม่มีระบบ
• แต่หากเลี่ยงไม่ได ้แนะนาให ้หาสิ่งของที่เป็นธาตุไฟ
มาไว ้รอบๆ
ตัวอย่างโคมไฟโทนแดงหรือส ้ม จะช่วยเสริมพลังงาน
ได ้
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=73
ธาตุทอง
• คนธาตุทอง มีลักษณะนิสัยแน่วแน่ กล ้าหาญ
เด็ดขาด ชัดเจน
มีหลักการและเหตุผล ทะเยอทะยาน รักศักดิ์ศรีมาก
ไม่ชอบให ้ใครมาออกคาสั่ง
ทั้งยังมีความมุ่งมั่น ต ้องการความสาเร็จ
จึงไม่แปลกเลยที่เรามักจะเห็นคนธาตุทองทางาน
หนักอยู่เสมอ
• งานที่เหมาะสม: งานที่ควบคุมดูแลและสั่งการได ้ด ้วย
ตนเองอย่างโปรแกรมเมอร์ ไอที งานอะไหล่หรือ
โลหะต่างๆ
ผู้พิพากษา ทนายความ อัยการ
นักสืบ ตารวจ ทหาร
นักสารวจ นักการเงินการลงทุน
• งานที่เกี่ยวกับการค ้นคว ้าหรือการต่างประเทศ (รวมถึง
นาเข ้า-ส่งออก)
• คนธาตุทอง ควรทางานร่วมกับคนธาตุน้า
จะช่วยสนับสนุนเกื้อกูลกันได ้ดี
รวมถึง คนธาตุไฟ ที่จะช่วยสร ้างแรงบันดาลใจให ้ได ้
แต่เนื่องจากธาตุไฟ มีความเป็นคนใจร ้อนและเอาแต่
ใจ
จนบางครั้งอาจขัดแย ้งกับเป้าหมายของคนธาตุทอง
• แนะนาว่าคนธาตุทอง
ควรมีสติ ใจเย็นและคิดทบทวนให ้รอบคอบ
• ส่วนคนธาตุที่คนธาตุทอง
ควรหลีกเลี่ยงการทางานด ้วย
คือ คนธาตุดินหรือธาตุทองด ้วยกันเอง
เนื่องจากจะรู้สึกอัดต่อกัน
จนอาจส่งผลกระทบต่องาน
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=73
ธาตุน้า
• คนธาตุน้า มีลักษณะนิสัยคล่องแคล่ว ฉลาดมีไหว
พริบ หัวไว
ชอบวางแผน รักอิสระ สุภาพ อ่อนโยน
• แต่ในบางครั้งก็มักจะอารมณ์ร ้อน
โกรธง่ายหายเร็ว คิดเล็กคิดน้อย ขี้น้อยใจ
• นอกจากนี้ยังชอบสื่อสาร มีทักษะในการเจรจา
หากไม่ได ้พูดคุยติดต่อกับผู้อื่น
มักจะอึดอัด
• งานที่เหมาะสม: งานที่ได ้เดินทางและรายล ้อมไป
ด ้วยผู้คน
อาทิ วงการบันเทิง ธุรกิจสื่อสารมวลชน ธุรกิจ
ท่องเที่ยว ธุรกิจขนส่ง
• อาชีพที่ต ้องใช ้ศิลปะในการพูดหรือสื่อสาร
เช่น นักเขียน นักการตลาด นักประชาสัมพันธ์
คนธาตุน้า
สามารถทางานร่วมกับคนได ้หลาย
ธาตุ
• กรณีกับคนธาตุไม ้จะช่วยให ้มีความคิดอิสระไหลลื่น
• กรณีกับคนธาตุไฟ ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสทาง
ธุรกิจและโชคลาภ
• หากทากับคนธาตุทอง ก็จะมีแรงบันดาลใจและความ
เชื่อมั่นใจตัวเองเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม
ควรเลี่ยงการทางานร่วมกับคนธาตุดิน
เพราะจะทาให ้รู้สึกเหนื่อยและหมดเรี่ยวแรง
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-detail.php?Lang=L1&rid=73
เนื้อหาในเล่ม 15
ฟ้า-คน-ดิน ชี่/ปราณ สถาปัตยกรรม
หยิน-หยาง อี้จิง เต๋า เต็ก เก็ง
5 ธาตุ ปา-กว ้า 64ข่วย
ฤดูกาล 4ทิศทาง 4สัตว์เทพ
ฮวงจุ้ย ทิศทางน้า สุสาน
แพทย์จีน อวัยวะหยางนิจพิเศษ
ดวงจีน ปฏิกิริยา จับซิ้ง
นักษัตร 12เชี่ยงแซ 60กะจื้อ

Más contenido relacionado

Similar a พื้นฐานชีวิต 15.pptx

การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 Phet103
 
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพการเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ110441
 
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพการเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ110441
 
11แผน
11แผน11แผน
11แผนFmz Npaz
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ssuser48f3f3
 
โครงงานคุณภาพชีวิต
โครงงานคุณภาพชีวิตโครงงานคุณภาพชีวิต
โครงงานคุณภาพชีวิตZoe A'Black
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงานZoe A'Black
 
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตsupreechafkk
 
ความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นTanadol Intachan
 
อาหารและโภชนาการ
อาหารและโภชนาการอาหารและโภชนาการ
อาหารและโภชนาการtumetr
 
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคtassanee chaicharoen
 
พื้นฐานชีวิต 33.pptx
พื้นฐานชีวิต 33.pptxพื้นฐานชีวิต 33.pptx
พื้นฐานชีวิต 33.pptxSunnyStrong
 
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่kasocute
 
คู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปี
คู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปีคู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปี
คู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปีUtai Sukviwatsirikul
 
Nutrition
NutritionNutrition
NutritionPir Jnn
 
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัขเรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัขต๊อบ แต๊บ
 

Similar a พื้นฐานชีวิต 15.pptx (20)

การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
อาหารตั้งครรภ์
อาหารตั้งครรภ์อาหารตั้งครรภ์
อาหารตั้งครรภ์
 
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพการเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
 
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพการเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
การเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพ
 
11แผน
11แผน11แผน
11แผน
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
 
โครงงานคุณภาพชีวิต
โครงงานคุณภาพชีวิตโครงงานคุณภาพชีวิต
โครงงานคุณภาพชีวิต
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
 
ความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _น
 
อาหารและโภชนาการ
อาหารและโภชนาการอาหารและโภชนาการ
อาหารและโภชนาการ
 
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
 
พื้นฐานชีวิต 33.pptx
พื้นฐานชีวิต 33.pptxพื้นฐานชีวิต 33.pptx
พื้นฐานชีวิต 33.pptx
 
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
 
Lesson 3
Lesson 3Lesson 3
Lesson 3
 
คู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปี
คู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปีคู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปี
คู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปี
 
Nutrition
NutritionNutrition
Nutrition
 
Pb
PbPb
Pb
 
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัขเรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
 

Más de SunnyStrong

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxSunnyStrong
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docxSunnyStrong
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxSunnyStrong
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxSunnyStrong
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxSunnyStrong
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docxSunnyStrong
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxSunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxSunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxSunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxSunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxSunnyStrong
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxSunnyStrong
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxSunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxSunnyStrong
 

Más de SunnyStrong (20)

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docx
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docx
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docx
 
Austria.docx
Austria.docxAustria.docx
Austria.docx
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docx
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docx
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
 

พื้นฐานชีวิต 15.pptx