Más contenido relacionado
La actualidad más candente (20)
Más de Teetut Tresirichod (20)
บทที่ 15 การศึกษาเวลาโดยตรง
- 9. แบ่งออกเป็ น 7 ขั้นตอน คือ
1. การเลือกงานและบันทึกรายละเอียดของงานที่จะทาการศึกษา
2. แบ่งขั้นตอนการทางานออกเป็นงานย่อย และเขียนรายละเอียดกากับไว้
3. คานวณหาจานวนเที่ยวที่เหมาะสมในการจับเวลา
4. สังเกต และบันทึกเวลาการทางานของคนงาน พร้อมทั้งประเมินอัตราความเร็วในการทางานของ
ของพนักงาน
5. กาหนดค่าเผื่อต่าง ๆ
6. ทาการคานวณหาเวลามาตรฐาน
6.1 หาเวลาเฉลี่ยที่ได้จากการจับเวลา
6.2 หาเวลาปกติ = เวลาเฉลี่ย x %Rating
6.3 เวลามาตรฐาน = เวลาปกติ + ค่าเผื่อ
7. สรุปผลการศึกษาลงในแบบฟอร์มใบสรุปข้อมูลเวลา
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 9
- 11. งานย่อย (Element) หมายถึง หน่วยย่อยของงาน ซึ่งเห็นได้ชัดเจน สามารถอธิบายและจับเวลา
ได้
ลักษณะของงานย่อยประเภทต่าง ๆ
1. งานย่อยประจา(Regular Element)
2. งานย่อยชั่วคราว (Occasional Element)
3. งานย่อยคงที่ (Constant Element)
4. งานย่อยแปรผัน (Variable Element)
5. งานย่อยที่ทาโดยพนักงาน (Manual Element)
6. งานย่อยที่ทาโดยเครื่องจักร (Machine Element)
7. งานย่อยภายใน (Inside Work Element/Internal Work Element )
8. งานย่อยภายนอก (Outside Work Element/ External Work Element)
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 11
- 13. เหตุผลที่ต้องแบ่งงำนออกเป็ นงำนย่อย (Elements)
1. เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของงานย่อยประจา (Regular Element) ซึ่งเกิดขึ้นทุก ๆ
ทุก ๆ รอบการทางาน กับงานย่อยครั้งคราว (Intermittent Element) ซึ่งเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ
ระยะ ๆ
2. งานย่อยบางอัน อาจถูกนามาใช้ประโยชน์ในการหาเวลามาตรฐานของงานชนิดอื่น
3. เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบการทางานบางส่วน ผู้วิเคราะห์สามารถหาเวลา
มาตรฐานได้โดยการหาข้อมูลงานย่อยเพียงบางตัวเท่านั้น
4. ชี้ให้เห็นถึงปัญหาในการปฏิบัติงาน
5. สามารถให้ค่าอัตราเร็ว ค่าเผื่อสาหรับความเครียดต่างกันกับงานย่อยต่าง ๆ ได้
6. สามารถใช้งานย่อยในการพิจารณาการสลับสับเปลี่ยนงานในสายการผลิตได้เพื่อให้เกิด
เกิดการสมดุลของสายการผลิต
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 13
- 14. หลักเกณฑ์ 7 ข้อในการแบ่งงานย่อยเพื่อจับเวลา มีดังนี้
1. งานย่อยควรสั้นพอที่จับเวลาได้อย่างแม่นยา ประมาณ 0.04 นาที ถึง 0.35นาที
2. งานย่อยทุกงานควรมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดที่แน่นอน โดยจุดสิ้นสุดของงานย่อยหนึ่ง
จะเป็นจุดเริ่มต้นของงานย่อยต่อไป
3. งานย่อยควรมีความคงเส้นคงวาให้มากที่สุด
4. ควรแยกการจับเวลาของเครื่องจักร ออกจากการจับเวลาการทางานของคนงาน
5. แยกงานย่อยของพนักงานที่ทาขณะเครื่องจักรกาลังเดินออกจากงานย่อยของคนงาน
ส่วนที่ทาขณะเครื่องจักรหยุด
6. ควรแยกงานย่อยคงที่ออกจากงานย่อยแปรผัน
7. ควรแยกงานย่อยประจาออกจากงานย่อยครั้งคราว
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 14
- 17. ให้ n = ขนำดของข้อมูลที่นำมำใช้ (จำนวนครั้งที่จับเวลำมำ)
เมื่อ n มีขนาดมากกว่า 30 ข้อมูล
ที่ระดับความเชื่อมั่น95%
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 17
- 21. ตาราง Maytag
ขั้นตอนมีดังนี้คือ
1. จับเวลาเบื้องต้นของการทางาน โดย
ก) ถ้าวัฎจักรงาน สั้นกว่า 2 นาที ให้จับเวลามา 10 ค่า
ข) ถ้าวัฏจักรงาน ยาวกว่า 2 นาที ให้จับเวลามาเพียง 5 ค่า
2. หาค่า R ( Range ) หรือพิสัย ซึ่งคือค่าสูงสุด (H) - ค่าต่าสุดของกลุ่ม (L)
3. หาค่า x ซึ่งได้จากผลรวมของตัวเลขในกลุ่มหารด้วยจานวนข้อมูล (5 หรือ 10) หรืออาจจะ
หา
ค่าประมาณการได้จากค่าสูงสุด + ค่าต่าสุดของกลุ่มแล้วหารด้วย 2
4. คานวณ ค่า R/X
5. อ่านค่า N (จานวนรอบที่เหมาะสม) จากตารางให้ตรงกับค่า R/X ที่คานวณไว้
อ.ธีทัต ตรีศิริโชติ 21